RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311282
ทั่วไป:13263135
ทั้งหมด:13574417
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 98, 99, 100 ... 148, 149, 150  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 10/03/2021 5:05 pm    Post subject: Reply with quote

"คมนาคม" ทดสอบเดินรถเสมือนจริงรถไฟสายสีแดง 26 มี.ค.
10 มีนาคม 2564 เวลา 12:59 น.



ก.คมนาคม เตรียมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสมือนจริงในวันที่ 26 มี.ค.​นี้​ คาดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ พ.ย.นี้

วันนี้ (10 มี.ค.64) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงเรื่องแผนเตรียมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสมือนจริงในวันที่ 26 มี.ค.​นี้​ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากิจการการรถไฟฯ และเป็นวันปฐมฤกษ์นั้น จะเปิดทดสอบเดินทางเสมือนจริงดังกล่าว โดยจะเป็นการทดสอบภายในเฉพาะกระทรวงคมนาคมและยังไม่มีการเปิดให้ประชาชนได้ร่วมทดสอบ จากตามแผนตอนแรกจะเปิดให้ประชาชนบางส่วนได้ทดลองใช้บริการ

ขณะเดียวกัน หลังจากวันที่ 26 มี.ค.นี้ จะเปิดให้ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่ต้องการทัศนศึกษาดูงานเส้นทางรถไฟสายสีแดง สามารถทำหนังสือมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อพิจารณาจัดช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเดินรถที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการเปิดให้เข้าทัศนศึกษานี้จะไม่ใช่เพื่อเดินทางเน้นศึกษาดูงานเท่านั้น จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ​ ช่วงเดือน ก.ค.และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วงเดือน พ.ย.ต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงบริหารสถานีกลางบางซื่อ การปรับแผนเดินรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนการเดินรถ เบื้องต้นจะให้บริการจำนวน 22 ขบวนในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งอาจจะให้บริการภายใน 2 ชม. และอาจจะเดินรถ 20 นาทีต่อขบวน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด แต่ทั้งนี้ต้องรอสรุปอีกครั้งต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะต้องจัดเตรียมรถรับ-ส่ง (ชัตเติ้ลบัส) เชื่อมต่อโครงการรถไฟสายสีแดง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปรับแผนเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง โดยเส้นทางการเดินรถชัตเติ้ลบัสนั้น จะใช้เส้นทางเดินรถบนทางพิเศษ (ทางด่วน) ซึ่งเรื่องนี้มอบหมายให้ไปบูรณาการร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อยกเว้นค่าผ่านทางในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ขณะเดียวกัน จะต้องไปบูรณาการกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาให้ยกเว้นค่าแรกเข้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าว จะทำให้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง มีผู้โดยสารใช้บริการทั้ง 2 สาย อีกทั้ง จะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกัน และในอนาคตจะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และ สายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แครายต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ต้องรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อวางแผนการเดินทางในอนาคตต่อไปได้

ขณะที่ การกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เบื้องต้นค่าโดยสารอยู่ที่ 15-42 บาท แต่ทั้งนี้ตนให้ไปศึกษารายละเอียดแผนให้ชัดว่า แต่ละสถานีห่างกันต้องกำหนดค่าโดยสารเท่าไหร่ เพราะจะใช้ระยะทางในการกำหนดราคาค่าโดยสาร เพระฉะนั้นต้องอธิบายให้ได้ว่า ต้นทุนต่อ กม. เท่าใด ระยะทางระหว่างของแต่ละสถานีเท่าไหร่ ซึ่งไม่ใช่ 1-2 บาทต่อสถานี ซึ่งเรื่องนี้จะใช้เวลาประชุมอีก 1 เดือน ในแต่ละคณะอนุกรรมการก็มีเวลาที่ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกระบวนการ เมื่อได้ข้อสรุปอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนแล้ว จากนั้นต้องออกประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร แล้วเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการที่จะเปิดเชิงพาณิชย์ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44519
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/03/2021 4:32 pm    Post subject: Reply with quote

เคาะค่ารถไฟสายสีแดง 14-42 บาท
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อเพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย.นี้ว่า ภายหลังจากที่ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อกระทรวงคมนาคมจะทดลองเปิดให้บริการในวันที่ 28 ก.ค. และได้ตั้งเป้าหมายให้การบริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์รวมของระบบรถไฟ ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง และรถไฟฟ้าสายสีแดง

ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างสถานีและระบบ Feeder มอบให้กรมการขนส่งทางบก และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.จัดทำเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) เข้าสู่สถานีกลางบางซื่อเบื้องต้นจะมีให้บริการ 24 เส้นทาง ขณะเดียวกันให้ รฟม. และ รฟท.เร่งรัดการเชื่อมอุโมงค์ใต้ดินบริเวณสถานีกลางบางซื่อให้ทันกับการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ ภายใน 28 ก.ค.64 ส่วนราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงราคาต่ำสุด 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท และมีส่วนลดราคาให้กับบัตรโดยสารรายเดือน บัตรโดยสารร่วม บัตรนักเรียนบัตรผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้พิการ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44519
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/03/2021 6:00 pm    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ กระจกไร้เงา: ปฐมฤกษ์สายสีแดง
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564
กัลยา ยืนยง

หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอกันมานาน สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบาง ซื่อ-รังสิต ที่อยู่ในความรับผิดชอบของรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม สำหรับโครง การดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2550 ถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 14 ปี มาถึงวันนี้คืบหน้าไปมาก อีกอึดใจเดียวประชาชนจะได้ใช้บริการรถไฟสายดังกล่าวแล้ว

ที่ผ่านมาถือว่ามีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคของโครงการดังกล่าว เรียกได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ผู้บริหารต่างก็กุมขมับกับปัญหาที่ตามมา แน่นอนที่ผ่านมาเรียกว่ามีการเลื่อนไทม์ไลน์การเปิดให้บริการมาจากสาเหตุเบื้องต้น เช่น ส่งมอบพื้นที่ล่าช้าจากการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคจนทำให้การส่งมอบพื้นที่ทำไม่ทัน เป็นต้น

ไทม์ไลน์ปัจจุบัน "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ได้ มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการเปิด ให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสี แดง) หลังจากก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เพื่อ มาพิจารณาในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย
1.คณะอนุกรรม การเตรียมการเปิดใช้โครงการ และการเดินรถ
2.คณะอนุกรรม การดูแลการขนส่ง (ดูแลการจราจรและระบบคมนาคมขนส่งเชื่อม ต่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ)
3.คณะอนุกรรมการจัดการเรื่องการย้ายสถานีและงานอาคารสถานที่ต่างๆ
4.คณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องค่าโดยสารและระบบจัดเก็บตั๋วโดยสาร (กรมการขนส่งทางรางรับผิดชอบ) และ
5.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น

ล่าสุด ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2564 ได้มีการหารือถึงเรื่องแผนเตรียมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อรังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสมือนจริง (Trial Run) ในวันที่ 26 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากิจการการรถไฟฯ และเป็นวันปฐมฤกษ์นั้น เวลา 10.00 น. จะเปิดทดสอบเดินทางเสมือนจริงดังกล่าว โดยจะเป็นการทดสอบภายในเฉพาะกระทรวงคมนาคม และยังไม่มีการเปิดให้ประชาชนได้ร่วมทดสอบ จากตามแผนตอนแรกจะเปิดให้ประชาชนบางส่วนได้ทดลองใช้บริการ

ขณะเดียวกัน หลังจากวันที่ 26 มี.ค.64 นั้น จะเปิดให้ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ต้องการทัศนศึกษาดูงานเส้นทางรถไฟสายสีแดง สามารถทำหนังสือมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อพิจารณาจัดช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเดินรถที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการเปิดให้เข้าทัศนศึกษานี้ จะไม่ใช่เพื่อเดินทาง เน้นศึกษาดูงานเท่านั้น จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ (Soft Opening) ช่วงเดือน ก.ค.64 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วง พ.ย.2564 ต่อไป

ขณะเดียวกัน จะต้องไปบูรณาการกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาให้ยกเว้นค่าแรกเข้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวจะทำให้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดงมีผู้โดยสารใช้บริการทั้ง 2 สาย อีกทั้งจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกัน และในอนาคตจะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แครายต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ต้องรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อวางแผนการเดินทางในอนาคตต่อไปได้

ส่วนการกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้น เบื้องต้นค่าโดยสารอยู่ที่ 15-42 บาท แต่ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมให้ไปศึกษารายละเอียดแผนให้ชัดว่า แต่ละสถานีห่างกันต้องกำหนดค่าโดยสารเท่าไหร่ เพราะจะใช้ระยะทางในการกำหนดราคาค่าโดยสาร เพราะฉะนั้นต้องอธิบายให้ได้ว่า ต้นทุนต่อ กม.เท่าไหร่ ระยะทางระหว่างของแต่ละสถานีเท่าไหร่ ซึ่งไม่ใช่ 1-2 บาทต่อสถานี

ซึ่งเรื่องนี้จะใช้เวลาประชุมอีก 1 เดือน ในแต่ละคณะอนุกรรม การก็มีเวลาที่ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกระบวนการ เมื่อได้ข้อ สรุปอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนแล้ว จากนั้นต้องออกประกาศกำหนด อัตราค่าโดยสาร แล้วเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการที่จะเปิดเชิงพาณิชย์ต่อไป

ถือเป็นเรื่องราวดีๆ เป็นอีกทางเลือกให้แก่ประชาชนที่ต้อง การเดินทางมาจากบางซื่อไปตลิ่งชัน โดยในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตอีกด้วย รวมถึงจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้อีกด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 12/03/2021 11:07 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"คมนาคม" ทดสอบเดินรถเสมือนจริงรถไฟสายสีแดง 26 มี.ค.
10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 12:59 น.


ได้นั่ง ก.ค. “ศักดิ์สยาม” สั่งยกเลิกวิ่งรอบปฐมฤกษ์ “รถไฟฟ้าสายสีแดง” วันที่ 26 มี.ค.
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21:45 น.


“ศักดิ์สยาม” นั่งหัวโต๊ะประชุมสายสีแดง ดับฝันนั่งรอบปฐมฤกษ์ 26 มี.ค. เปลี่ยนเป็นตรวจงานแทน ชี้ประชาชนได้นั่งจริง ก.ค.64นี้ เคาะค่าโดยสาร 15-42 บาท สั่งประสาน “การทาง-รฟม.” เว้นค่าแรกเข้าจัดฟีดเดอร์วิ่งเข้าหัวลำโพง ส่วนการให้บริการขบวนรถไฟเข้าหัวลำโพงเช้า-เย็นตัดเหลือ 22 ขบวน ให้บริการช่วงละ 2 ชม.

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ได้มีการหารือในหลากหลายประเด็น

จัดบริหารเดินรถเข้าหัวลำโพง
โดยการจัดการด้านการบริหารการเดินรถเข้าหัวลำโพง เบื้องต้นได้ตัดขบวนรถที่จะเข้าหัวลำโพงให้เหลือเพียง 22 ขบวน ให้บริการในช่วงเร่งด่วนเช้า – เย็นแบ่งเป็นช่วงเช้า 9 ขบวนและเย็นอีก 9 ขบวน ช่วงละ 2 ชั่วโมง โดยช่วงหัว-ท้ายของแต่ละช่วงเวลา ในตอนเช้าให้ออกเช้ากว่าเวลาเร่งด่วนเดิม และช่วงเย็นเที่ยวสุดท้ายก็ให้ออกจากหัวลำโพงช้ากว่าเดิม จะได้ลดจำนวนขบวนรถไฟลงได้อีก และทำให้ปัญหารถติดจากจุดตัดรถไฟเบาบางลง

นอกจากนี้ ให้ประสานไปยังการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการบูรณาการในการทำฟีดเดอร์

“ในความคิดของตนอยากให้ใช้ทางด่วนเดินทางเป็นหลัก ไม่อยากให้วิ่งด้านล่าง โดยอาจจะยกเว้นค่าผ่านทางได้หรือไม่ และให้รฟม.ไปดูการยกเว้นค่าแรกเข้าในสายสีน้ำเงินว่าทำได้ไหม โดยเฉพาะรถที่จะเข้าสถานีกลางบางซื่อ เพราะในอนาคตเมื่อสายสีแดงเกิดขึ้น ก็เชื่อว่าทั้งสองสายนี้อาจจะป้อนผู้โดยสารให้กันและกัน จนมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นก็ได้”


โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทำตารางเดินรถและให้คณะอนุกรรมการเตรียมการด้านการสื่อสารสาธารณะ ที่มีนางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบโดยเร็ว โดยคาดว่าการดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือน ก.ค. 2564 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่จะเปิดเดินรถเสมือนจริงพอดี


26 มี.ค. ไม่มีทดลองวิ่งปฐมฤกษ์
ขณะที่การจะเปิดทดสอบเดินรถรอบปฐมฤกษ์วันที่ 26 มี.ค. 2564 นี้ ได้เปลี่ยนแปลงแล้ว โดยจะเป็นการตรวจงานและดูความเรียบร้อยของรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต – ตลิ่งชัน ก่อน หลังจากนั้น จะเป็นการเปิดให้สถาบันการศึกษาต่างๆมาดูงานหรือทัศนศึกษาแทน

โดยให้แจ้งความประสงค์ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จากนั้นในเดือน ก.ค. 2564 จึงจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเสมือนจริง (Soft Opening)

ส่วนค่าโดยสารสรุปแล้วอยู่ที่ 15-42 บาท แต่ให้ ร.ฟ.ท.ไปลงรายละเอียดเพิ่ม เพราะสายสีแดงจะคิดค่าโดยสารจากระยะทาง (Distance-based Fare) เพราะฉะนั้น ต้องอธิบายถึงต้นทุน/กม. และระยะทางระหว่างสถานีเท่าไหร่ให้ได้ ก็ให้ไปทำรายละเอียดมา โดยที่ประชุมจะใช้เวลาประชุมอีก 1 เดือน ซึ่งถือว่ายังมีเวลา


คมนาคมถกแผนเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดง ทดสอบเสมือนจริง 26 มี.ค.นี้

10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09:19 น.



10 มี.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ว่า ตามที่ตนได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เพื่อมาพิจารณาในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการเตรียมการเปิดใช้โครงการ และการเดินรถ 2.คณะอนุกรรมการดูแลการขนส่ง (ดูแลการจราจรและระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ) 3.คณะอนุกรรมการจัดการเรื่องการย้ายสถานีและงานอาคารสถานที่ต่างๆ 4.คณะอนุกรรมการ ที่ดูแลเรื่องค่าโดยสารและระบบจัดเก็บตั๋วโดยสาร (กรมการขนส่งทางรางรับผิดชอบ) และ 5.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น

ล่าสุด ที่ประชุมในวันที่ 9 มี.ค. 2564 ได้มีการหารือถึงเรื่องแผนเตรียมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสมือนจริง (Trial Run) ในวันที่ 26 มี.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากิจการการรถไฟฯ และเป็นวันปฐมฤกษ์นั้น เวลา 10.00 น. จะเปิดทดสอบเดินทางเสมือนจริงดังกล่าว โดยจะเป็นการทดสอบภายในเฉพาะกระทรวงคมนาคม และยังไม่มีการเปิดให้ประชาชนได้ร่วมทดสอบ จากตามแผนตอนแรกจะเปิดให้ประชาชนบางส่วนได้ทดลองใช้บริการ

ขณะเดียวกัน หลังจากวันที่ 26 มี.ค. 2564 นั้น จะเปิดให้ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ต้องการทัศนศึกษาดูงานเส้นทางรถไฟสายสีแดง สามารถทำหนังสือมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อพิจารณาจัดช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเดินรถที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการเปิดให้เข้าทัศนศึกษานี้ จะไม่ใช้เพื่อเดินทาง เน้นศึกษาดูงานเท่านั้น จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ (Soft Opening) ช่วงเดือน ก.ค. 2564 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วง พ.ย. 2564 ต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงบริหารสถานีกลางบางซื่อ การปรับแผนเดินรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตามที่คณะอนุกรรมการฯ ได้ทำการบ้านส่งมาให้กระทรวงคมนาคม โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนการเดินรถ เบื้องต้นจะให้บริการจำนวน 22 ขบวนในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งอาจจะให้บริการภายใน 2 ชม. และอาจจะเดินรถ 20 นาทีต่อขบวน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด แต่ทั้งนี้ต้องรอสรุปอีกครั้งต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะต้องจัดเตรียมรถรับ-ส่ง (ชัตเติ้ลบัส) เชื่อมต่อโครงการรถไฟสายสีแดง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปรับแผนเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง โดยเส้นทางการเดินรถชัตเติ้ลบัสนั้น จะใช้เส้นทางเดินรถบนทางพิเศษ (ทางด่วน) แทนที่จะวิ่งทางราบ เพื่อความรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการเดินทาง และไม่ต้องเจอรถติด ซึ่งเรื่องนี้มอบหมายให้ไปบูรณาการร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อยกเว้นค่าผ่านทางในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ขณะเดียวกัน จะต้องไปบูรณาการกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาให้ยกเว้นค่าแรกเข้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าว จะทำให้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง มีผู้โดยสารใช้บริการทั้ง 2 สาย อีกทั้ง จะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกัน และในอนาคตจะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และ สายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แครายต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ต้องรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อวางแผนการเดินทางในอนาคตต่อไปได้

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ขณะที่ การกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เบื้องต้นค่าโดยสารอยู่ที่ 15-42 บาท แต่ทั้งนี้ตนให้ไปศึกษารายละเอียดแผนให้ชัดว่า แต่ละสถานีห่างกันต้องกำหนดค่าโดยสารเท่าไหร่ เพราะจะใช้ระยะทางในการกำหนดราคาค่าโดยสาร เพระฉะนั้นต้องอธิบายให้ได้ว่า ต้นทุนต่อ กม. เท่าไหร่ ระยะทางระหว่างของแต่ละสถานีเท่าไหร่ ซึ่งไม่ใช่ 1-2 บาทต่อสถานี ซึ่งเรื่องนี้จะใช้เวลาประชุมอีก 1 เดือน ในแต่ละคณะอนุกรรมการก็มีเวลาที่ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกระบวนการ เมื่อได้ข้อสรุปอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนแล้ว จากนั้นต้องออกประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร แล้วเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการที่จะเปิดเชิงพาณิชย์ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 16/03/2021 10:32 am    Post subject: Reply with quote

“ค่าโง่โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้าน ลุ้นจ่าย-ไม่จ่าย 17 มี.ค.นี้
หน้า Politics
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19:37 น.

“ค่าโง่โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้าน ลุ้นจ่าย-ไม่จ่าย 17 มี.ค.นี้ ศาลรธน.นัดลงมติปมผู้ตรวจฯ ชงตีความมติที่ประชุมใหญ่ศาลปค.สูงสุด นับอายุความตั้งแต่ตั้งศาลปกครองขัดรธน.หรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ชงเรื่องให้ตีความว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2545 ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือวันที่ 9 มีนาคม 2544 ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี” จึงถือว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 188 และมาตรา 197 ทำให้มติศาลปกครองสูงสุดที่ให้จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ จำนวนกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ใช้เวลาในการพิจารณานาน 4 เดือน ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้อง แต่ได้รับการปฏิเสธ ทั้งในส่วนของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน สัมภาษณ์ โดยให้เหตุผลว่า ขอรอผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อน



สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.51 อนุญาโตตุลาการ ให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท 13 มี.ค.57 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท22 เม.ย.62 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าโฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน 22 พ.ย.62 รฟท.ยื่นสี่หน่วยงาน เสนอครม.งดจ่ายค่าโง่-สู้คดีต่อ22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ตามคำร้องของคมนาคม และ รฟท.17 พ.ย.63 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความมติศาลปกครองสูงสุด ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรธน.หรือไม่และล่าสุด 17 มี.ค.64 ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรธน.หรือไม่

ในการต่อสู้คดีนี้ของ รฟท.ได้มอบหมายให้ นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดีที่ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้จ่ายค่าโง่ให้บริษัทโฮปเวลล์กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากพบว่า เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ก็ถูกตีตกไป ศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด
กระทั่งมีการไปยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ มติที่ประชุมศาลปกครองสูงสุด กรณีนับอายุความ ขัดรัฐธรรมนูญ นำไปสู่คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 มีนาคมนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2021 1:25 pm    Post subject: Reply with quote

[Realist Post] เปิดแผนเตรียมศึกษาเส้นทาง 6 ช่วงส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีแดง
วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:00 น.

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.realist.co.th/blog/รถไฟฟ้าสายสีแดง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองที่กระจายศักยภาพของโครงการขนส่งมวลชนเชื่อมต่อไปยังจังหวัดข้างเคียง พร้อมทั้งช่วยบรรเทาปัญหาความล่าช้าและการจราจรติดขัดอีกด้วย
.
ซึ่ง 6 ช่วงส่วนต่อขยายนี้ได้มีการศึกษาโครงการเพิ่มเติมจากสายสีแดงเดิมที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยทั้ง 6 ช่วงส่วนต่อขยายนี้มีระยะทางรวม 213 กม. ได้แก่
สายสีแดงเข้ม ธรรมศาสตร์รังสิต - บ้านภาชี (22 กม.)
สายสีแดงเข้ม หัวลำโพง-มหาชัย (38 กม.)
สายสีแดงเข้ม มหาชัย - ปากท่อ (78 กม.)
สายสีแดงอ่อน พญาไท - แม่น้ำ (6 กม.)
สายสีแดงอ่อน หัวหมาก - ฉะเชิงเทรา (40 กม.)
สายสีแดงอ่อน ศาลายา - นครปฐม (29 กม.)
.
ช่วงส่วนต่อขยายนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาศึกษาโครงการ ยกเว้นสายสีแดงช่วงธรรมศาสตร์รังสิต - บ้านภาชีที่ได้รับการอนุมัติโครงการเป็นที่เรียบร้อย และอยู่ในขั้นตอนการเตรียมประมูล หากโครงการทั้ง 6 ช่วงส่วนต่อขยายนี้ได้รับการอนุมัติผ่านพิจารณาโครงการจะทำให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงนี้เชื่อมต่อปลายทางถึง 6 จังหวัดเลยทีเดียว ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นครปฐม, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, ราชบุรี และฉะเชิงเทรา
.
โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงยังคงเจอหลายปัญหาในการดำเนินโครงการ ทำให้รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นโครงการที่ใช้เวลาในการดำเนินงานนานที่สุด ดังนั้นยังคงต้องลุ้นกันต่อไปว่า แต่ละช่วงส่วนต่อขยายจะได้ก่อสร้างจริงหรือไม่

Note: ถ้ากู้ญี่ปุ่น รับรองว่าทางช่วง สายสีแดงเข้ม ธรรมศาสตร์รังสิต - บ้านภาชี (22 กม.) ได้แจ้งเกิดก่อน
ส่วน พญาไท - แม่น้ำ (6 กม.) ถ้าเอามาเสริมกะการพัฒนาที่ดินสถานีแม่น้ำ ท่าเรือคลองเตย ก็อาจแจ้งเกิดได้เหมือนกัน
ส่วน สายสีแดงอ่อน หัวหมาก - ฉะเชิงเทรา (40 กม.) ตอบยาก ต้องเคียร์เรื่องกะเจ้าสัวซีพี แต่ถ้า เจ้าสัวซีพีได้สัมปทานสายสีแดงก็แจ้งเกิดได้เหมือนกัน
ส่วน สายสีแดงอ่อน ศาลายา - นครปฐม (29 กม.) ก็ตอบยาก เหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรจูงใจก็แจ้งเกิดยาก แต่ถ้ายืดถึงราชบุรี ก็โอกาสแจ้งเกิดได้อยู่เหมือนกัน
ส่วน สายสีแดงเข้ม หัวลำโพง-มหาชัย (38 กม.) กะ สายสีแดงเข้ม มหาชัย - ปากท่อ (78 กม.) ถ้าหัวลำโพง มหาชัยแจ้งเกิดไม่ได้ มหาชัย - ปากท่อ ก็แท้งก่อนคลอดครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2021 3:28 pm    Post subject: Reply with quote

ศาลรัฐธรรมนูญชี้มติศาลปกครองจ่าย‘ค่าโง่โฮปเวลล์’ขัดรัฐธรรมนูญ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
วันพุธ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564, 14.29 น.

มีเฮ! ได้ลุ้นคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท ศาลรธน.วินิจฉัยมติที่ประชุมใหญ่ศาลปค.สูงสุด ปมนับอายุความฟ้องคดีตั้งแต่วันเปิดทำการศาลที่ใช้อ้างอิงในสัญญาสัมปทานขัดรธน. เหตุไม่การปฏิบัติตามขั้นตอนกม.ทั้งไม่ผ่านประกาศราชกิจจา จึงใช้บังคับไม่ได้



เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 วันพุธที่ 27 พ.ย.45 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค.2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว ที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้หรือไม่ รวมทั้งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ” คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.2544 ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี”ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว




ซึ่งการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่ามติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ย่อมมีผลต่อการที่กระทรวงคมนาคม และรฟท.จะยื่นรื้อคดีใหม่ เพราะหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานปฏิบัติตามมติอนุญาโตตุลาการที่ให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทโอปเวลล์ กว่า 2.4 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ได้มอบหมายให้ นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดี โดยอ้างว่า พบว่าบริษัทโฮปเวลล์ เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ก็ถูกตีตกโดยศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด และนำไปสู่การที่กระทรวงคมนาคม รฟท. ยี่นคำร้องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาลงมติของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ องค์คณะตุลาการที่พิจารณาคดีนี้มีทั้งสิ้น 7 คน เนื่องจากศาลได้อนุญาตให้ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดถอนตัวจากการพิจารณาตั้งแต่ต้นตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลปกครองมาตรา 34 ประกอบมาตรา 32(1) และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุมจึงเลือกนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 18 วรรคสี่

สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.51 อนุญาโตตุลาการ ให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บ.โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท จากนั้น 13 มี.ค.57 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท วันที่ 22 เม.ย.62 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คมนาคม - รฟท.จ่ายค่าโฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน และต่อมาวันที่ 22 พ.ย.62 รฟท.ยื่นสี่หน่วยงาน เสนอ ครม.งดจ่ายค่าโง่ - สู้คดี ต่อมาวันที่ 22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ตามคำร้องของคมนาคมและ รฟท.17 พ.ย.63 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาล รธน.ตีความมติศาลปกครองสูงสุด ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัด รธน.หรือไม่ และล่าสุด 17 มี.ค.64 ศาล รธน.ลงมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เรื่องการนับอายุความนับแต่วันตั้งศาลปกครองขัด รธน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 17/03/2021 6:03 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
“ค่าโง่โฮปเวลล์” 2.4 หมื่นล้าน ลุ้นจ่าย-ไม่จ่าย 17 มี.ค.นี้
หน้า Politics
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19:37 น.


ศาล รธน.ชี้มติศาลปกครองจ่าย “ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน” ขัดรัฐธรรมนูญ
ข่าวการเมือง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:15 น.
ปรับปรุง: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:15 น.

มีเฮ ได้ลุ้นรื้อคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท ศาล รธน.วินิจฉัยมติที่ประชุมใหญ่ศาล ปค.สูงสุดปมนับอายุความฟ้องคดีตั้งแต่วันเปิดทำการศาลที่ใช้อ้างอิงในสัญญาสัมปทาน ขัด รธน. เหตุไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน กม. ทั้งไม่ผ่านประกาศราชกิจจาฯ จึงใช้บังคับไม่ได้

วันนี้ (17 มี.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 วันพุธที่ 27พ.ย. 2545 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองที่กำหนด ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค. 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าวที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้หรือไม่ รวมทั้งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ” คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2544 ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี”ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว ซึ่งการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ย่อมมีผลต่อการที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.จะยื่นรื้อคดีใหม่ เพราะหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานปฏิบัติตามมติอนุญาโตตุลาการที่ให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทโอปเวลล์ กว่า 2.4 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ได้มอบหมายให้นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลปกครองขอรื้อคดี โดยอ้างว่าพบว่า บริษัท โฮปเวลล์ เป็นบริษัทต่างด้าวจดทะเบียนไม่ถูกต้อง แต่ก็ถูกตีตกโดยศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้อง ทำให้คดีถึงที่สุด และนำไปสู่การที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ยื่นคำร้องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาลงมติของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ องค์คณะตุลาการที่พิจารณาคดีนี้มีทั้งสิ้น 7 คน เนื่องจากศาลได้อนุญาตให้นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดถอนตัวจากการพิจารณาตั้งแต่ต้นตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลปกครองมาตรา 34 ประกอบมาตรา 32 (1) และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุมจึงเลือกนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 18 วรรคสี่

สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2551 อนุญาโตตุลาการให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บ.โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท จากนั้น 13 มี.ค. 2557 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท

วันที่ 22 เม.ย. 2562 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าโฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน และต่อมาวันที่ 22 พ.ย. 2562 รฟท.ยื่นสี่หน่วยงาน เสนอ ครม.งดจ่ายค่าโง่-สู้คดีต่อ

22 ก.ค. 2563 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ตามคำร้องของคมนาคม และ รฟท. 17 พ.ย. 2563 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมติศาลปกครองสูงสุด ปมมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดนับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และล่าสุด 17 มี.ค. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญลงมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เรื่องการนับอายุความนับแต่วันตั้งศาลปกครอง ขัดรัฐธรรมนูญ

//-------------------------------------------

ผู้ตรวจฯ เชื่อศาล รธน.วินิจฉัย เป็นข้อมูลใหม่ รฟท.ลุ้นไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ ไม่กระทบลงทุน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ข่าวการเมือง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:48 น.
ปรับปรุง: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:48 น.

ปธ.ผู้ตรวจฯ เชื่อคำวินิจฉัยศาล รธน.เป็นข้อมูลใหม่ที่ รฟท.นำรื้อคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านได้ มั่นใจมีผลทำให้การฟ้องคดีของโฮปเวลล์ขาดอายุความ รัฐมีลุ้นไม่ต้องจ่าย ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

วันนี้ (17 มี.ค.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไปว่ามติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดที่กำหนดให้การนับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค. 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญคงส่งคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์มาที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งก็จะแจ้งกลับไปยังกระทรวงคมนาคม และ รฟท. โดยทั้งสองหน่วยงานคงนำคำวินิจฉัยซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานข้อมูลใหม่ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอรื้อฟื้นคดีจ่ายค่าเสียหายโฮปเวลล์ได้ แต่ที่สุดแล้วจะมีผลให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือเปล่า เป็นของดุลพินิจของศาลปกครอง ไม่ขอก้าวล่วง

“แต่ผมคิดว่าเป็นข้อมูลใหม่ที่อาจทำให้ผลการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดที่พิพากษาให้ รฟท.ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เพราะทุกคดีมีอายุความ การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนี้ก็อาจทำให้มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดที่เป็นประเด็นพิพาทไม่สามารถนำมาใช้บังคับได้ซึ่งก็จะมีผลให้การฟ้องคดีของบริษัท โฮปเวลล์ น่าจะเป็นฟ้องเมื่อคดีขาดอายุความแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ศาลปกครองจะพิจารณาวินิจฉัย แต่ก็ถือว่ารัฐบาลมีลุ้นที่อาจจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนให้กับบริษัทเอกชน” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว และมองว่าปัญหาดังกล่าวไม่น่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลุงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เพราะเป็นเรื่องที่ต่างคนต่างก็ใช้สิทธิตามที่กฎหมายเปิดโอกาส ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมายกำหนดไว้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44519
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/03/2021 7:35 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

ผู้ตรวจฯ เชื่อศาล รธน.วินิจฉัย เป็นข้อมูลใหม่ รฟท.ลุ้นไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ ไม่กระทบลงทุน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ข่าวการเมือง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:48 น.
ปรับปรุง: วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:48 น.

ล้มแก้รธน.หวั่นนองเลือด
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564

พท.เตือนซ้ำปี35 ปลุกใส่ดำไว้ทุกข์

รัฐสภาถกเดือดปม รธน. "เพื่อไทย" เตือน ปิดกั้นอำนาจประชาชน ระวังวิกฤตินองเลือดซ้ำรอยปี 2535 ปลุกใส่ชุดดำไว้ทุกข์ทำแท้งรัฐธรรมนูญ "รัฐบาล-คมนาคม-รฟท." เฮลุ้นรื้อคดีจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท "ศาล รธน." เสียงข้างมากชี้ชัด มติที่ประชุมศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ "บิ๊กตู่" ยันเดินหน้าสู้คดีตามช่องกฎหมาย โยนเรื่องรัฐบาลอดีต ด้าน "พปชร." เขย่าจ่อปรับโครงสร้างพรรคเร็ว ๆ นี้

รัฐสภาถกเครียดปม รธน.

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) ซึ่งเป็นการพิจารณาเพื่อลงมติในวาระ 3 โดยช่วงแรก นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้แจ้งให้ทราบถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ที่ระบุ รัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนทำประชามติก่อนว่ามีความประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

จากนั้นตลอดครึ่งวันเช้า ต่อเนื่องถึงช่วงเย็น สมาชิกรัฐสภาสลับลุกขึ้นอภิปรายถกเถียงประเด็นเดินหน้าลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากมีการตีความคำวินิจฉัยกลางศาลรัฐธรรมนูญ ออกไป หลายแนวทาง บรรยากาศตลอดทั้งวัน เป็นไปอย่างตึงเครียด

ฮึ่มห้ามโหวตวาระ 3

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลุกขึ้นอภิปรายยืนยัน รัฐสภาไม่สามารถลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งตรงกับความเห็นของฝ่ายกฎหมายสภา และไม่สามารถเก็บร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไว้ได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญหากต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญต้องเริ่มต้นโดยเสนอญัตติใหม่ ถ้ารัฐสภาเห็นชอบ ส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำประชามติ ถ้าประชาชนเห็นชอบใช้วิธีตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)

เช่นเดียวกับ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.อภิปรายเสนอญัตติให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติ ไม่สามารถลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 เนื่องจากไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทำประชามติก่อนและหลังการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวต้องตกไป

ปชป.ชงส่งศาล รธน.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอญัตติให้ รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่รัฐสภา 4 ประเด็นประกอบด้วย (1) ร่างรัฐธรรมนูญที่พิจารณากันอยู่เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมหรือจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ (2)การทำประชามติรับฟังความเห็นประชาชนก่อน ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องทำตอนไหน ระหว่างก่อนโหวตวาระที่ 1 หรือหลังโหวตวาระที่ 3

(3) การทำประชามติระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา คือ มาตรา 166 ให้ครม.จัดทำประชามติ เป็นอำนาจฝ่ายบริหารและมาตรา 256 (8) การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหลังผ่านวาระ 3 ต้องนำไปทำประชามติต้องอาศัยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีใดจะทำประชามติเมื่อไรและ (4) ศาลไม่ได้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตกทั้งฉบับหรือไม่ ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังวินิจฉัยมีชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว

"ประเด็นเหล่านี้รัฐสภาควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจนไม่ได้เตะถ่วง ประวิงเวลาแก้รัฐธรรมนูญแต่ต้องส่งตีความอีกครั้งเพื่อให้กระบวนการแก้ไขรอบคอบถูกต้อง ปราศจากข้อสงสัย ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง" หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว

ภท.หนุนส่งศาลตีความ

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า พรรค ภท.สนับสนุนญัตติหัวหน้าพรรค ปชป.เพื่อขอมติรัฐสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประเด็นร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความชัดเจนพร้อมเน้นย้ำ พรรค ภท. เห็นด้วยกับการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย

"ผมเชื่อว่าสภาแห่งนี้มีเป้าหมายตรงกันคืออยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง ๆ แต่เมื่อบรรยากาศมาติดกับดักตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดการล่มสลายเราควรหาทางเลือกไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดข้อบังคับ สามารถเดินหน้าบอกประชาชนได้ว่าสภาแห่งนี้ไม่ได้เล่นปาหี่ไม่ให้สิ่งที่เราทำมาต้องสูญเปล่าซึ่งพรรคภูมิใจไทยขอสนับสนุนญัตติของนายจุรินทร์ เพื่อขอมติรัฐสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้งวันนี้จึงไม่ควรลงมติวาระ 3" นายศุภชัย กล่าว

ฝ่ายค้านยันโหวตวาระ3

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่าที่ประชุม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติเอกฉันท์ ยืนยันเดินหน้าลงมติให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญพร้อมย้ำคำวินิจฉัยไม่มีข้อความห้าม ลงมติวาระ 3 เพียงแต่บอกหากทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องไปทำประชามติก่อนซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

"ผมขอเรียกร้องให้ประชาชนติดตามการประชุมรัฐสภา โดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยสัญญากับประชาชนจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่มาวันนี้ขัดขวางเพื่อต้องการรักษาอำนาจตนเอง"นายประเสริฐ กล่าว

เตือนวิกฤตินองเลือด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท.ลุกขึ้น เสนอญัตติให้รัฐสภาเดินหน้าลงมติวาระ 3 เพื่อนำไปสู่การทำประชามติสอบถามประชาชนต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่พร้อมเตือนการปิดกั้นอำนาจประชาชนอาจเกิดวิกฤตินองเลือด เหมือนปี 2535 อย่าให้บ้านเมืองมีอันเป็นไปเพราะการตัดสินใจของรัฐสภา

"ทางออกดีที่สุดแนวทางเดียวคือโหวตวาระ 3 และต้องลงมติให้ผ่าน อย่าให้รัฐธรรมนูญแท้งก่อนคลอดวันนี้ใส่สูทดำขอไว้ทุกข์ให้กับการทำแท้งรัฐธรรมนูญและในวันที่ 18 มี.ค. เรียกร้องให้แต่งชุดดำเต็มสภาเพราะไม่เห็นด้วยกับการล้มรัฐธรรมนูญ" นพ.ชลน่าน กล่าว

อย่าตีความแบบศรีธนญชัย

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกต เหตุใดการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก แต่การฉีกรัฐธรรมนูญ โดยการรัฐประหารไม่มีใครคัดค้าน มีผู้ได้ประโยชน์จากการรัฐประหารปี 2557 นั่งอยู่ในที่นี้หลายร้อยคน และวันนี้ขัดขวางแก้รัฐธรรมนูญส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ปราบโกงแต่ขี้โกงเอาเปรียบต้องการสืบทอดอำนาจ ควรโหวตวาระ 3 ให้เสร็จอย่าใช้เสียงข้างมากลากไปตีความแบบศรีธนญชัย

มติคดีโฮปเวลล์ขัด รธน.

อีกเรื่องหนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัย กรณีศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 วันพุธที่ 27 พ.ย. 2545 ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการคือวันที่ 9 มี.ค. 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ (ค่าโง่โฮปเวลล์) เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 188 และมาตรา 197 หรือไม่

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่ามติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครอง เป็นการออกระเบียบตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 44 แต่ไม่ได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่งจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้สืบเนื่องจากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดนำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ส่งผลให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. มีช่องยื่นรื้อฟื้นคดีค่าโง่โฮปเวลล์ขึ้นมาใหม่ภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานปฏิบัติตามมติอนุญาโตตุลาการที่ให้จ่ายค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมเป็นเงินกว่า 24,000 ล้านบาท

ศาลปค.แจงปมรื้อฟื้นคดี

นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครองสูงสุด ชี้แจงว่า หลังจากนี้ต้องรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญส่วนประเด็นคำวินิจฉัยมีผลต่อการขอพิจารณาคดี โฮปเวลล์ใหม่หรือไม่นั้น ตามหลักการหากมีเหตุใหม่ และเข้าเกณฑ์ตามมาตรา 75 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ฝ่ายเกี่ยวข้องสามารถยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้แต่ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ มาตรา 75 แม้มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแต่ศาลปกครองต้องยกไม่รับคำขอเหมือนครั้งที่ผ่านมา

"คดีโฮปเวลล์ เคยขอพิจารณาคดีใหม่ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด เห็นตรงกันไม่เข้าเกณฑ์ขอพิจารณาคดีใหม่แต่การขอพิจารณาคดีใหม่อาจขอได้อีก โดยอ้างเหตุใหม่ดังนั้นหากคู่กรณียกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญขอพิจารณาคดีใหม่ศาลจะพิจารณา เป็นเรื่องที่ใช้เหตุผลเดิมหรือไม่ถ้าเป็นข้อเท็จจริงใหม่ต้องพิจารณาต่อไปว่าเข้าเกณฑ์รับพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ หรือไม่ ซึ่งต้องดูคำวินิจฉัยเต็มของศาลรัฐธรรมนูญมีรายละเอียดเป็นอย่างไรแล้วจึงพิจารณาเข้าเกณฑ์อนุมาตราใดของมาตรา 75 ซึ่งต้องใช้ดุลยพินิจตามหลักฐาน" โฆษกศาลปกครองสูงสุด กล่าว

ลุ้นไม่ต้องจ่าย2.4หมื่นล้าน

พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นหลักฐานข้อมูลใหม่ที่กระทรวงคมนาคมและ รฟท.สามารถนำไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอรื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์และรัฐบาลมีลุ้นอาจไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนให้บริษัทเอกชนและมั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทย เพราะเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายใช้สิทธิตามกฎหมาย

"ศักดิ์สยาม"รอคำวินิจฉัย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่าขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญต้องส่งคำวินิจฉัยให้ผู้ตรวจการแผ่นดินและรัฐสภาก่อนส่งต่อคำวินิจฉัยมาที่กระทรวงคมนาคมจากนั้นกระทรวงคมนาคมต้องตัดสินใจเดินหน้าในเรื่องนี้อย่างไรเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ

เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ภายหลังมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดี โฮปเวลล์ เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ภายหลังพยายามต่อสู้ทำงานแบบเงียบ ๆ มานาน ตั้งแต่ปี 2562

"เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับแม้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่ในความเป็นจริง เราต้องเดินหน้าทำงานต่อ รายละเอียดของเรื่องนี้ผมจะค่อย ๆ เล่าให้ฟังมหากาพย์การโกงครั้งมโหฬารที่ดำเนินมากว่า 30 ปี กำลังปิดฉากลงในไม่นานนี้" นายพีระพันธุ์กล่าว

ตรวจประวัติว่าที่ รมต.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าคดีโฮปเวลล์เป็นเรื่องที่ค้างจากอดีต ทำให้รัฐบาลปัจจุบันต้องแก้ปัญหาตามช่องทางกฎหมายซึ่งต้องระวังอย่างที่สุดเรื่องใช้งบประมาณแผ่นดินต้องเริ่มต้นทุกอย่างด้วยความถูกต้อง


นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยความคืบหน้าการปรับ ครม.ชุดใหม่ว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติ ก่อนนำรายชื่อยื่นทูลเกล้าฯ

"ตรีนุช-ชัยวุฒิ"เข้าทำเนียบฯ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ช่วงบ่ายวันที่ 17 มี.ค. บรรดาแคนดิเดตรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป., น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรค พปชร. และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ทยอยเดินทางมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค. ) เพื่อถ่ายรูปและกรอกแบบฟอร์มประวัติ สำหรับการทำรายชื่อเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ

สำหรับตำแหน่งต่าง ๆ ยังเป็นไปตามโผเดิม นายสินิตย์ ดำรงตำแหน่ง รมช. พาณิชย์ สลับกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ที่โยก จาก รมช.พาณิชย์ โควตาพรรค ภท. ไปเป็น รมช.คมนาคม ขณะที่น.ส.ตรีนุช มีชื่อไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ส่วนนายชัยวุฒิ นั่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

พปชร.ปรับโครงสร้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง พรรค พปชร. เสร็จสิ้นเรื่องของการปรับครม.ที่เป็นผลสืบ เนื่องจากนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการและนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถูกศาลพิพากษาจำคุก คดีการชุมนุมกปปส.ปี 2557 ส่งผลให้ต้องเว้นวรรคการเมืองทำให้พรรค พปชร. เตรียมจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ภายในเดือน เม.ย.เพื่อปรับโครงสร้างใหม่ซึ่งเป็นที่น่าสังเกต ก่อนหน้านี้มีกรรมการบริหารพรรคบางคนให้กรรมการบริหารบางส่วนลงชื่อในกระดาษเพื่อมอบอำนาจบริหารจัดการในพรรคให้กับพล.อ. ประวิตรทำให้ต้องจับตาตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในพรรคจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร

"พี่ศรี"ยื่นสอบ พรรค พปชร.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ไต่สวนสอบสวน กรณีพรรค พปชร. มอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้คัดเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลงซึ่งอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญมาตรา 114, ฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค และอาจเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีโทษถึงขั้นยุบพรรค ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92(2)

ส.นักข่าวขอเคารพศักดิ์ศรี

นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และนาย สุปัน รักเชื้อ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเปิดเผยความคืบหน้าภายหลังเกิดเหตุการณ์กับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ทั้งจากพล.อ.ประยุทธ์ ฉีดพ่น สเปรย์แอลกอฮอล์ใส่สื่อมวลชนและพล.อ. ประวิตรย้อนถามสื่อมวลชนถึงระดับการศึกษาว่า 2 สมาคมนักข่าวเฝ้าติดตามสถานการณ์การคุกคามสื่อมวลชนพบช่วงที่ผ่านมาสื่อมวลชนถูกกระทำใช้วาจาไม่เหมาะสม เป็นการเพิ่มประเด็นความขัดแย้งในสังคม อาจมองได้ถึงการไม่เคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำหน้าที่สื่อมวลชน ดังนั้นผู้นำรัฐบาลซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายรัฐควรเป็นแบบอย่างให้กับสังคมต้องพร้อมถูกตรวจสอบและระมัดระวังในการแสดงพฤติกรรม การใช้วาจา การให้เกียรติ และเคารพศักดิ์ศรีการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 18/03/2021 9:57 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคม-รฟท.ลุ้นฟื้นคดีค่าโง่โฮปเวลล์2.4หมื่นล้าน

17 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:27 น.


17 มี.ค. 2564 แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยถึงกรณีคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน ว่าขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการรอสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปดำเนินการขอคัดถ่ายคำวินิจฉัยกลาง ของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำมาพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับประสานงานกับกระทรวงคมนาคมในการพิจารณาแนวทางเพื่อปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

ทั้งนี้เนื่องจากกรณีนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้ยื่นคำร้องแทนกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ทุกองค์กรจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าหลังจากนี้ว่ากระทรวงคมนาคมต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญส่งมาอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการส่งคำวินิจฉัย กลับมาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้อง ก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งคำวินิจฉัย กลับมายังกระทรวงคมนาคม ซึ่งหลังจากนั้น คณะทำงานติดตามคดีฯ ที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งขึ้นจะมีการพิจารณาการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงในส่วนการหาตัวผู้กระทำผิดทางละเมิด ตาม พ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 10 (2) บัญญัติไว้ว่า สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ ให้มีกำหนดอายุความ 2 ปี นับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐ รู้ความละเมิด และรู้ตัวเจ้าหน้าที่ ต้องทำ 2 อย่าง ขณะนี้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยแล้วว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น เป็นหน้าที่กระทรวงคมนาคมออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการหาตัวเจ้าหน้าที่ที่ทำให้เกิดความละเมิด องค์ประกอบ 2 อย่างนี้ถ้าครบแล้วจึงจะนับอายุความ 2 ปี โดยนายกรัฐมนตรีกำชับกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการเรื่องนี้ตามกฎหมาย อะไรที่ถูกจะต้องถูก อะไรที่ผิดจะต้องผิด ไม่มีอะไรที่รัฐบาลนี้ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีอะไรที่จะทำถูกให้เป็นผิด ทำผิดให้เป็นถูก” นายศักดิ์สยาม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่17 มี.ค.64ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 วันพุธที่ 27พ.ย. 2545 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองที่กำหนด ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค. 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

สำหรับมหากาพย์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ยาวนานมาถึง 13 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2551 อนุญาโตตุลาการให้ คมนาคม-รฟท.จ่ายค่าเสียหายแก่ บ.โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท จากนั้น 13 มี.ค. 2557 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ คมนาคม-รฟท.ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 98, 99, 100 ... 148, 149, 150  Next
Page 99 of 150

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©