ไปสัมผัสความสูงสุดเสียวของสะพานข้ามเหวขุนตานกัน

[CivilSpice]

แวะมาเที่ยวถึงบ้านเลยครับ ดูรูปแล้วคิดถึงลำปาง ไม่ได้กลับไปเป็นปีละ

[mirage_II]

สวัสดีครับ พึ่ตึ๋ง : การยกครัวไปกันก็มีข้อเสียเหมือนกัน คือหลากหลายความต้องการ ต้องแบ่งไปไหว้พระที่วัดบ้าง ซื้อของที่ตลาดบ้าง และเวลาที่ต้องจอดรถรอผมนานๆ ก็ต้องหาที่จอดที่มีห้องน้ำร้านค้า ถ้าเ็ป็นร้านอาหารก็จะดีมาก เพราะทริปนี้จอดยาวถึง4 ชั่วโมงน่ะ (น้อยกว่าทริปภูทอกที่แล้ว เล่นเอาถึง 5 ชั่วโมงเลย) ก็ยังดีที่ สถานีรถไฟขุนตานมีวัดดอยขุนตานให้ทำบุญด้วย แต่พวกเขาชอบที่จะนั่งคุยกันในรถมากกว่า พอขึ้นรถปุ๊บก็จ๊อกันเกือบตลอดทาง ตี2 ไปแล้วถึงเริ่มเงียบเสียง
ต้องขอบคุณพี่ที่แนะนำลิ้งค์เกี่ยวกับรถม้าลำปางเพิ่มเข้ามา อ้อ..หลักกิโลยักษ์นั้น ผมพยายามค้นว่าสร้างขึ้นปีใด ก็หาไม่ได้ ถ้าให้เดาคงจะเป็นช่วงปี พ.ศ.2553 แต่อาจผิด พี่พอทราบไหมครับ ดูจากเน็ตข้อมูลก็คล้ายๆกันว่าสร้างสมัยผู้ว่าฯคนก่อนเท่านั้น

สวัสดีครับ คุณหนุ่ม : มีอารมณ์ขันดีครับ ดูเผินๆ น่าจะเป็นคนจริงจัง เพราะกล้าลุยเดินสำรวจทางรถไฟคนเดียวมาหลายแห่ง ในระยะทางไกลๆ กว่าทุกคนที่เคยเดินมา ขอบคุณที่แวะเ้ข้ามาทักทายครับ ตอนนี้ กระทู้ยังอยู่ในช่วงอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่อุโมงค์ขุนตาน ครั้งนี้มีเซอร์ไพร์ ได้นั่งรถอัดหินเ้ข้าอุโมงค์ด้วย เลยได้ภาพและคลิ๊ปวิดีโอด้านหน้ามาอย่างไม่คาดฝัน

สวัสดีครับ คุณบอมบ์ : อ้าว..เจอคนลำปางเข้าแล้ว ผมเองก็เพิ่งเห็นกระทู้ของคุณเกี่ยวกับไปสำรวจสะพานดำมาด้วย สำหรับผมเองเพิ่งมาลำปางครั้งแรก รู้สึกติดใจอยากมาอีก คาดว่าปีใหม่จะไปอีก กะจะไปสำรวจเนินมรณะ 588 ที่เคยเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครับ

[mirage_II]

มานั่งรถม้าต่อ..เอ๊ย.ไม่ใช่ครับ มาเดินทางกันต่อ วันนี้เรามีภาระกิจสำคัญที่ยิ่งใหญ่ เล่นเอานอนไม่หลับมาหลายวัน ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรที่ทำให้ไม่ได้บ้างไหม ฝนจะตกไหม จนท.ที่เขาปรับปรุงรางในอุโมงค์เขาจะให้เราเดินผ่านอุโมงค์เข้าไปได้ไหม ลูกผมจะยอมเดินไปกับผมไหม สะพานข้ามเหวจะสูงน่ากลัวมากแค่ไหน จะมีรถไฟขนวัสดุวิ่งมาไหม และข้อกังวลสุดท้ายก็คือ สุขภาพผมไม่ค่อยดี ยังเป็นหวัด มึนหัว (ถึงขณะที่โพสกระูทู้นี้ก็ยังไม่หายขาด) แต่ด้วยใจ ก็ต้องลุยละ เพราะโอกาสที่รถไฟจะหยุดเดินรถแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ

เรากลับมายังโรงแรม ผมไปทำกิจธุระส่วนตัว เสร็จแล้วก็รีบออกเดินทางทันที เวลาตอนนั้น 5 โมงเช้าพอดี กลัวจะมืดค่ำก่อนเดินสำรวจเสร็จ

ในภาพตอนนี้ได้ขับรถมาตามเส้นทางที่นั่งรถม้า เพื่อจะไปสะพานรัษฎาภิเศก ที่มีรูปร่างคล้ายสะพานรถไฟทาชมภูมาก ตอนนี้ผ่านคิวรถม้าตรงหน้าศาลากลางเก่า


ถึงสามแยกวัดป่าดัวะ ก็เลี้ยวซ้าย พบคิวรถม้าเล็กๆ อีกจุด


วิ่งไปเล็กน้อยถนนก็เลี้ยวซ้าย พอเจอสี่แยกแรกก็เลี้ยวขวาทันที ถึงแล้วสะพานรัษฎาภิเศก

[mirage_II]

เนื่องจากผมไม่มีเวลาแวะลงไปถ่ายภาพ ภาระกิจขุนตานนั้นมีความสำคัญยิ่งยวด หยุดไม่ได้ เลยต้องขับรถข้ามไปก่อน แต่เพื่อไ่่ม่ให้เสียโอกาสที่จะได้มุมมองอีกแบบ ก็เลยยกกล้องขึ้นเก็บภาพขณะข้ามสะพาน แล้วจินตนากาลดูว่า นั่งรถไฟข้ามสะพานทาชมภู สนุกดี ว่าแต่รถเยอะจัง สะพานก็แคบมาก


เข้ามาในสะพานแล้ว... ไร้เสียงกึ่งๆ กะฉึกกะฉักของรถไฟ.. เพราะเป็นล้อยาง


ถึง Span สุดท้ายของสะพานแล้ว ความงดงามคลาสสิคของสะพาน ข้ามแล้วบอกได้ว่าคุ้มจริงๆ ไม่เสียเวลาวิ่งอ้อมเมืองมาข้ามตรงนี้เลย ขากลับก็จะตั้งใจมา้ข้ามอีก เพราะทราบมาว่าถนนคนเดินก็อยู่แถวๆนี้ ชาวคณะก็คงอยากมาลงเดินซื้อของกัน

[Air_Reservoir]

เข้ามาลงชื่อรอติดตามชมด้วยคนครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง

[mirage_II]

เกือบลืมเปิดแผนที่เดินทางในช่วงนี้ให้ดูก่อน

ผมใ้ช้เส้นทางสายในตรงไป อ.ห้างฉัตร แล้วเลี้ยวขวาไป แม่ตาลน้อย ผ่านด่านอุทยานฯ ด้านใต้ (ด่านปางทราย) เลียบทางรถไฟ เพื่อจะได้แอบมองสะพานข้ามเหวทั้ง 3 แห่งก่อนจะขึ้นไปเดินข้างบน จนถึงสถานีรถไฟขุนตาน ซึ่งครั้งนี้ได้ถ่ายภาพเส้นทางภายในอุทยานมาค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังได้ตัวช่วยจาก เว็บกูเกิ้ลที่มีภาพ Street View ให้ดูประกอบ ทำให้ทราบตำแหน่งสถานที่ต่างๆได้ (เพราะขณะถ่ายภาพไ่ม่ได้บันทึกไว้ และกล้องผมก็ไม่มีการบันทึกพิกัด GPS ด้วย)


หลังจากข้ามสะพานรัษฎาภิเศกมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายสี่แยกไฟแดงแรกเลย จากแผนที่ข้างบนใช้เส้นสีแดงแทนขาไป และเส้นสีเขียวแทนขากลับ ในรูปข้างบนนี้ ผมชอบโคมไฟถนน สวยและเข้ากับสภาพการเป็นโคมไฟเลยถ่ายมาให้ดูกันครับ


ตอนนี้ก็ถึงสะพานข้ามทางรถไฟแล้ว ถนนช่วงนี้กว้างเหมือนถนนอ้อมเมืองรอบนอกที่มีอยู่ในหลายจังหวัด

[mirage_II]

สวัสดีครับ คุณบอล : ด้วยความยินดีครับ ตอนนี้เพิ่งเริ่มๆ กระทู้ มีอะไรสอบถาม หรือแนะนำได้นะครับ

ตอนนี้มาถึงเขตเทศบาลอำเภอห้างฉัตรแล้ว คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เห็นเพราะใช้ถนนใหญ่ข้างนอกกัน ถ้าหากต้องการตุนเสบียงก็แวะได้ แต่ผมแวะซื้อที่ปั๊มตรงจุดที่ ถนนจามเทวีเริ่มขยายเป็น 4 ช่องทางแล้ว (ใกล้กับสนามกีฬาัจังหวัด) เอาชัวร์ไว้ก่อน


ผ่านอำเภอห้างฉัตรออกมาแล้ว มีซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เหมือนจะอวยพรว่า "ขอเดินทางโดยสวัสดิภาพและประสบความสำเร็จ"


ออกมาก็เป็นทุ่งนาสองฟากข้างเขียวขจี


เห็นแล้วอดหันไปมองข้างทางไม่ได้ เรียนสมาชิกโปรดอย่าทำเลียนแบบ ขับไปถ่ายภาพไป แถมยังถ่ายด้านข้างอีก.. ว่าแต่ดูจากภาพนี้แล้วคล้ายมองออกมาจากโบกี้รถไฟเลย อารมณ์เดียวกัน

[mirage_II]

มาเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ตรงแน่ว ก็มาถึงสี่แยกมีป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ทางขวาืมือ (ซ้ายมือไปออกถนนใหญ่) แต่..แผนที่ใน GPS ผมกลับบอกว่ายังมีทางตรงไปได้อีก ผมเลยลองขับตรงไป


เลยได้เจอ "กระบือไทย" เรียงรายอยู่ข้างถนน เป็นที่ตื่นเต้นของเด็กๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นพวกเขา สุดถนนกลายเป็นทางลูกรัง ท่าไม่ดีผมก็เลี้ยวกับมายังสี่แยกเดิม


โอ..ถนนเรียบตรงแน่ว มองไปข้างหน้าเห็นภูเขาแหลมๆ อยู่ไกลๆ เราต้องไปถึงนั่นเลยหรือนี่ ดูจากแผนที่แล้ว ใช่ แต่จะค่อยๆอ้อมเขาไปทางซ้ายแทน จากตรงนี้ระยะทางไกลถึง 30 กิโลเมตรเลย

[mirage_II]

สักพักทางก็เลี้ยวคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา จนมาถึงสามแยกข้างหน้า ต้องชะงักอ่านป้ายบอกทางกันหน่อย ทางซ้ายไปอุทยานฯ ดอยขุนตาล ในขณะที่ขวามือไปสถานีรถไฟห้วยเรียน ในแถบนี้มีจุดถ่ายภาพเด็ดของชาวรักรถไฟอีกแห่งคือ วัดปางม่วง ซึ่งผมเลยทางแยกเข้ามาแล้วเล็กน้อย


เส้นทางช่วงนี้เป็นป่าเนินเขาเตี้ยๆ ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ถ้ามาตอนกลางคืนคงหวิวไม่น้อย



อ้าว..เจอสัตว์ป่า เอ๊ยไม่ใช่.. สัตว์พื้นเมือง ตัวหนึ่งวิ่งสวนมา เป็นที่เข้าใจว่าแถวนี้ต้องมีบ้านคนอยู่ เพียงแต่ทิวต้นไม้ริมถนนได้บดบังตาไว้

[mirage_II]

เจอหลักกิโลแล้ว แต่ดันถ่ายมามัว.. เลยพยายามค้นหาภาพนี้จาก Google Street กลับยิ่งมัวไปใหญ่ ผมขอเดาจากภาพเบลอร์ว่า "อีก 6 กิโลเมตรจะถึง บ้านแ่ม่ตาลน้อย และอีก 18 กิโลเมตรจะถึง ดอยขุนตาล"


อีก 1 กิโลเมตรถัดไป ก็เจอเ้ข้ากับกระท่อม..ไม่ใช่ครับ ศาลาพักริมทางทรงแปดเหลี่ยม อ่านป้ายข้างหน้า "ของว่าง-น้ำดื่ม บริการฟรี" แต่ไม่เห็นมีร้านค้าอะไร ถ้ามีเวลาก็เข้าไปนั่งรับลมกินบรรยากาศฟรีแทนก็แล้วกันครับ


ข้างหน้าเป็นสามแยกลัดไปออกถนนใหญ่ได้ โดยผ่านศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่จะลัดเข้ามา แต่ผมนึกกลัวเขาปิด


ผ่านตรงสามแยกเลยจอดรถมองเข้าไป พบว่ามีไมักั้นแต่เปิดให้รถผ่านเข้าออกได้ ผมลืมถ่ายภาพเพราะไม่อยากเสียเวลาลงไป เลยขอนำภาพจาก กูเกิ้ล Street View มาให้ดูแทนครับ