View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 07/10/2014 7:29 pm Post subject: |
|
|
ถนนช่วงนี้เริ่มแนบชิดเข้าใกล้ทางรถไฟอีกแล้ว แต่อยู่ต่างระดับอย่างมาก และที่ดูแปลกคือเนินเขาดันมาอยู่ทางซ้ายมือ ทั้งๆ ที่ปกติก็อยู่ทางขวาซึ่งเป็นทางรถไฟอยู่ข้างบน
มาเจอทางแยกเล็กด้านขวามือ มุ่งไปยังทางรถไฟ ซึ่งอยู่สูงมาก คงต้องปีนขึ้นไปละครับ
ทางยิ่งแนบชิดเข้ากับเชิงเขาทางขวามือมากขึ้น ซึ่งคาดว่ามีทางรถไฟอยู่บนนั้น แต่มองไม่เห็นเพราะต้นไม้รกมาก (ขนาดหน้าแล้งนะนี่ ยังมีใบเขียวๆ ให้ดู แสดงว่าตรงขวามือนี้ ต้องมีแหล่งน้ำที่ชุ่มชื้นมากกว่าบริเวณอื่น)
โอ.. เจอโคนต้นอะไรใหญ่ๆ กลัวโค่นมาทางนี้จัง เพราะดูค่อยๆเอียงลงมา
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 5:35 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 07/10/2014 7:40 pm Post subject: |
|
|
แม้ว่าขณะนี้แผนที่ได้บอกว่า ใกล้จะถึงจุดขึ้นราง หรือหน้าวัดผาหิ่งแล้ว แต่เส้นทางก็ยังเข้มข้นอยู่ สังเกตุดูริมทาง มีกองดินเป็นแนวยาวเหมือนโดนเกรดด้วยแทรกเตอร์ เพื่อเปิดช่องทางให้รถวิ่งได้ ถ้าพวกเรามาตอนหน้าฝน ทางเส้นนี้คงเป็นร่อง เป็นหลุมบ่อ และแคบกว่านี้แน่นอนครับ
ทางข้างหน้าเป็นช่องเข้าไปเลยนะครับ
เอ้า..ขึ้นเนินอีกแล้ว สาเหตุที่ผมต้องละเอียดในเส้นทางช่วงนี้ก็เพราะ เป็นพื้นที่ป่าที่ต้องตะลุยมากกว่าช่วงอื่น เดี่ยวเลยจาก จุดขึ้นราง ไปทาง ผาคอเส้นทางก็สบายๆ แถมมีบ้านคนเป็นระยะๆ ไม่ืตื่นเต้นเหมือนแถวนี้หรอกครับ
ขับๆ มา เห็นอะไรดำๆ ทางขวามือ เ้ข้าไปใกล้ๆ เป็นรถมอเตอร์ไซด์ของชาวบ้านแถวนี้ที่เข้ามาหาของป่าในป่าไผ่ ติดกับทางรถไฟครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 5:50 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 07/10/2014 7:53 pm Post subject: |
|
|
ทางก็คดไปเคี้ยวมา โดยมีต้นไม้ข้างทางยื่นออกมาบังเป็นระยะๆ แต่ที่เห็นเปลี่ยนแปลงคือ ต้นไม้ทางด้านซ้ายมือเริ่มเปลี่ยนมาเป็นต้นฉำฉา หรือจามจุรีกันแล้ว ถ้าหากดูแผนที่ดาวเทียมกูเกิ้ล ก็จะเห็นมีหลังคาบ้านคนซ่อนอยู่ข้างในป่าทางซ้ายมือครับ
เริ่มเห็นต้นฉำฉาเป็นแนวทางซ้ายมือแล้ว แ่ต่ที่แปลกคือมีต้นอะไรใหญ่ๆ ทางขวาแถมมาเพียงต้นเดียว
ช่วงนี้ถือว่าถนนได้เบียดเข้าไปติดกับทางรถไฟมากที่สุดแต่อยู่ต่างระดับกันมาก จนดูเหมือนหน้าผาข้างบนเลยครับ
ถนนแคบๆ นี้ยังมีไปต่อเรื่อยๆ จนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด.....ใกล้จะถึงจุดขึ้นรางแล้วครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 5:52 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 07/10/2014 8:07 pm Post subject: |
|
|
ช่วงนี้ต้นฉำฉาขาดช่วงไปหน่อย ส่วนทางขวามองเห็นหน้าผาตัดเป็นขั้นเพื่อวางรางรถไฟข้างบนโน้นแล้วครับ (อิอิ..เดี๋ยวผมต้องขึ้นไปเดินบนโน้น ย้อนกลับไปอีกไกลครับ นึกแล้วตื่นเต้น)
ในที่สุดก็มาถึงทางขึ้นรางแล้วครับ มีร่มต้นฉำฉา หรือก้ามปู ให้ด้วย นับเป็นจุดพักรถที่ดีแห่งหนึ่งด้วย
ระหว่างนั้นก็ไ้ด้ยินเสียงรถไฟวิ่งลัดเลาะเขามา ผมรีบคว้ากล้องแทบไม่ทัน น่าเสียดายที่ไ่ม่ได้ถ่ายเป็๋นคลิ๊ป เป็นขบวน 408 เชียงใหม่-นครสวรรค์ ที่มาจากสถานีปางป๋วย เมื่อกี้นั่นเองครับ กำหนดจอดสถานีปางป๋วยบ่ายโมง ตอนนี้ บ่ายโมง 46 นาทีแล้ว คงจะจอดที่นั่นประมาณ บ่ายโมงครึ่งกว่าๆ ถือว่าเสียเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเอง ชาวบ้านที่ขึ้นจากสถานีปางป๋วยถ้าเห็นผม คงจำได้และนึกแปลกใจว่ามาเจอผมทำอะไรอยู่กลางป่านี้
หาที่เหมาะๆ ร่มๆ เพื่อจอดรถให้ชาวคณะได้พักผ่อนตามอัธยาศัยกันครับ งานนี้ลูกผมขอบายไม่เดินด้วย ผมเลยต้องเดินคนเดียวครับ ในภาพผมเดินออกมาแล้วหันหลังไปเก็บภาพ ถนนที่เห็นจึงเป็นด้านที่มาจากปางป๋วยครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 5:56 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 2:15 pm Post subject: |
|
|
หันกลับไปดูข้างหน้า ขวามือเป็นทางขึ้นราง ส่วนซ้ายมือเป็นทางเข้าวัดถ้ำผาหิ่งพอดี แต่เอ๊ะ..ใครกำลังเดินถือร่มมาทางนี้.. อ้าว..คุณพ่อตานั่นเอง นับว่ารวดเร็วมาก ที่กำลังไปหาห้องน้ำทีี่่วัดถ้ำผาหิ่ง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่เข้าไปข้างใน เพราะสมาิชิกที่มาด้วยกันไม่มีใครเดินไปเป็นเพื่อน
ผมต้องรีบปฏิบัติงาน เพื่อให้ลุล่วงโดยเร็ว เดินมาถึงปากทางเ้ข้าวัดถ้ำผาหิ่ง แต่ไม่สามารถพาคุณตาเข้าไปข้างในได้ เพราะดูแล้วไม่น่าจะใกล้เท่าใดนัก เห็นทางเข้าไป ดูเหมือนรถยนต์จะเข้าไปได้ แต่ผมก็ไม่มีเวลาอีกนั่นแหละ เลยได้แต่ถ่ายภาพป้ายบริเวณด้านหน้าเท่านั้น เทียบจากภาพเก่าของคุณ Army_PT แห่งเว็บพันทิปที่เคยถ่ายมาเช่นกัน ตอนนั้นมีเพียงป้ายชื่อวัดเท่านั้น แต่ตอนนี้มีป้ายสีเขียวเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเ็ป็นป้ายข้อมูลเดียวกับที่เห็นตรงเขตรอยต่อจังหวัด เพราะออกโดย คณะกรรมการหมู่บ้านผาคอ และ ชุด ช.ร.บ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ีมาจากอาสาสมัครชาวบ้านในพื้นที่ โดยระดับหมู่บ้านนี้ ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้บังคับหมวด โดยมีจำนวนชุดละ 7 - 15 คนจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2551) สังเกตุดีๆ ตรงป้ายชื่อวัดจะมีคำสอนที่เขียนด้วยมือ (ไม่่ค่อยชัด) เลยขยายมาให้ดูในภาพเล็กครับ
จากตรงทางเข้าวัดถ้ำผาหิ่งนี้ หันกลับไปทางรถที่จอดอีกครั้ง จะเห็นลักษณะทางขึ้นรางรถไฟที่เป็นทางเฉียงๆ ไม่ได้ตัดขึ้นตรงไป เพราะจะชันมาก และมุมนี้ก็เป็นมุมมองที่เห็น ถ้าหากเข้ามาทางผาคอเพื่อไป ปางป๋วย (สวนทางกับที่ผมเดินทาง)
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 5:58 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 2:27 pm Post subject: |
|
|
เอาละ ได้เวลาขึ้นไปบนรางซะีทีครับ ใกล้เวลาบ่ายสองโมงแล้ว ทีแรกคิดว่าจะเดินสักชั่วโมง แต่พอเอาจริง กลับเพิ่มอีกชั่วโมง แต่ก็ยังน้อยกว่าไปอุโมงค์ห้วยแม่ลาน ที่ไปกลับประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ผมได้เพิ่มเติม ทิศทางบนรางรถไฟ และตำแหน่งกิโลเมตรบน สทล.ที่เห็น ซึ่งหมายถึงว่าห่างจากสถานีกรุงเทพฯ 585 กิโลเมตรกว่าๆ ครับ
ขึ้นมาเกือบถึงราง มองไปทางซ้าย ด้านที่ไป ที่หยุดรถผาคอ ด้านทิศใต้ มีเสาควบคุมความเร็วอยู่ด้วย กับสทล.อีกต้น
ทางขวามือ ด้านไป สถานีปางป๋วย ด้านทิศเหนือ ก็สทล.ต้นเดิมที่เห็นตอนแรกนั่นแหละครับ
หันหลังกลับมามองทางที่ขึ้นมา เนื่องจากเป็นทางเฉียงไปทางขวา (ตรงข้ามกับทางเข้าวัดถ้ำผาหิ่ง) แต่มุมมองพอดีกับรถผมที่จอดอยู่ข้างล่าง ครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 6:00 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 3:31 pm Post subject: |
|
|
เริ่มจากไปทางซ้าย คือล่องใต้ไปดูป้ายทางซ้าย ว่ากำหนดค่าอะไรไว้ครับ
ไหนๆ ก็เดินเลยป้ายมาแล้ว ก็ให้ถึงเสาโทรเลขอีกต้นไปเลย เพื่ออ้างอิงตัวเลขที่ถือว่าเริ่มสำรวจกันชัดๆ คือ 584/21 ซึ่งหมาึยถึงว่า ในช่วง 1 กิโลเมตรนี้จะแบ่งเป็น 21 ส่วน หรือมีเสาปักอยู่ 21 ต้น(ซึ่งอาจเว้นระยะไม่เท่ากัน) โดยเริ่มจากต้นที่ 1 (ไม่ใช่ต้นที่ศูนย์ เหมือนการวัดระยะทางทั่วไปนะครับ) ถึงต้นที่ 21 แล้ว เสาต้นต่อไปก็คือ 585/1 เลย โดย เสา 585/1 ก็เปรียบได้กับหลักกิโลเมตรที่ 585 นั่นเองครับ
หันหลังกลับไปทางทิศเหนือ อันเป็นการเริ่มเดินกันจริงๆ แล้ว และก็จะเห็นป้ายกำหนดความเร็ว 45 กับ 45 เหมือนกับอีกด้าน และพอเป็นที่สังเกตุถึงจุดขึ้นราง(หรือลงไปยังถนนข้างล่าง)ได้ เพราะดูเผินๆ จะไม่ทราบว่าเป็นตรงไหน
เริ่มเดินกลับไปเล็กน้อย ตรงตำแหน่งป้ายกำหนดความเร็ว มองลงไปข้างล่าง พอมองเห็นป้ายบอกทางเข้าวัดถ้ำผาหิ่งจากบนรางได้ (ถ้าหากเป็นหน้าฝน ต้นหญ้าอาจขึ้นบัง คงมองเห็นไม่ถนัด)
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 6:02 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 4:38 pm Post subject: |
|
|
กำลังเดินผ่านทางที่ขึ้่นมา ซึ่งทะแยงไปทางขวา มองเห็นเจ้าแตมลูกผมนั่งอยู่บนหลังคารถคนเดียว อย่างปล่อยอารมณ์ (ใครอย่ามายุ่งกับตู)
ข้างหน้าเป็นรางตรงไปจนถึงโค้งไกลๆ โน้น เพราะมีการตัดเขาออก เหลือทางขวาอยู่เป็นเนินเล็กๆ
มองไปไกลๆ จะเห็นไหล่เขาไกลๆ ที่โค้งลดหลั่นกันลงมาอย่างงดงาม
พ้นช่วงตัดเขามาแล้ว ก็เป็นทางลงอีกทาง ซึ่งทางนี้มองจากถนนข้างล่างแล้วเห็นไ่ม่ถนัด อาจเป็นเพราะผมวิ่งรถมาจากทางด้านเหนือ แล้วทางลงเฉียงไปทางใต้ ต้นไ้ม้ก็รกเลยมองไม่เห็นชัด แต่ถึงอย่างไรก็สู้ จุดที่ผมขึ้นมาไม่ไ้ด้ เพราะมีป้ายทางเข้าวัดชัดเจนกว่า แถมยังมีลานร่มๆ ให้จอดรถด้วย อ้อ..ถัดไปเป็นที่ราบข้างรางให้เดินกันสบายๆ มีเพิงพักอยู่ด้วย ถ้าหากรถไฟจอดเหมือนรถยนต์ คงมีของมาขายนะครับ
เดินไปถึงจุดที่สามารถเดินลงไปข้างล่างได้ หันมองตามทางลงไป จะเห็นถนนอยู่ข้างล่างโน้น
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 6:27 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 5:11 pm Post subject: |
|
|
ระหว่างนั้น บังเอิญก้มมองที่ราง เห็นสิ่งผิดปกติ เลยขยายภาพให้ดู คือลวดยึดรางของไม้หมอนอันนี้ได้หายไปทั้งสองด้านๆ ละ 2 ตัว รวม 4 ตัวครับ
เดินไปเกือบพ้นโค้งถัดมา ลองหันหลังไปดู โอ..เห็นวิวที่สวยระดับน้องๆ ของแก่งหลวงเลยนะครับ โดยเฉพาะ "ภูเขาหัวมน" เล็กๆนั้นดูเป็นเอกลักษณ์ดี
เอ้า..เดินต่อมัวแต่เพลินชมธรรมชาติอยู่ได้ ข้างหน้าเจอทางลักข้ามแล้ว บนเขาที่ทางลาดชันแบบนี้ยังมีอีกหรือนี่
เดินไปให้ถึงทางลักข้าม แล้วมองเข้าไป ข้างในดูเป็นที่ราบ เหมือนมีทางเข้าไปข้างใน ซึ่งดูจากภาพถ่ายดาวเทียมแล้ว จะสังเกตุว่ามีทางอยู่ในนั้นจริงๆ แต่เล็กมาก และเป็นที่น่าประหลาดใจว่า ทางนี้มาจากด้านหลังสถานีปางป๋วยเลยนะครับ ในภาพยังได้เห็นเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งอยู่ด้วย เป็นต้นที่รับสายต่อมาจากต้นที่เราเห็นอยู่ข้างหน้าตอนขับรถมานั่นเองครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 6:31 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 08/10/2014 5:46 pm Post subject: |
|
|
มองไปทางขวา ได้ยินเสียงอะไรเคลื่อนไหวในป่า มองแหวกลงไป เจอเข้ากับ... คนครับ ไม่ใช่คนป่านะครับ เป็นชาวบ้าน คาดว่าจะเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดข้างทางที่เห็นเมื่อครู่ นะครับ เดินอยู่ในป่าคนเดียวแบบนี้ ได้ยินเสียงอะไรก๊อกแก๊ก ก็ต้องระวังกันไว้ก่อน อาจเจอเสือ เอ๊ย..งู หรือ รถไฟวิ่งมาข้างหลังก็ได้นะครับ
ข้างหน้าผมตอนนี้เป็นช่องเขาตัด ที่สูงเกือบทั้งสองด้าน แถมอยู่ในทางโค้งลับตาด้วย ได้อารมณ์คล้ายๆอุโมงค์เลยครับ
พ้นแนวเขาบัง ก็เห็นทางรถไฟเลี้ยวกลับไปทางขวาไกลๆ แต่เหลือบเ็ห็นเสาไฟฟ้าอีกต้น ซึ่งเป็นต้นเดียวกับที่เห็นตอนขับรถยนต์มา (ต้องดูแผนที่ดาวเทียมจึงจะทราบครับ)
พ้นโค้งนี้ แล้วหันกลับไปดู อะ..จุดนี้แหละที่ คุณArmy_PT แห่งเว็บพันทิป คิดว่าเป็นจุดที่หัวจักรรถไฟชนหน้าผา แล้วพาให้ขบวนตกเหว ซึ่ง.....ไม่ใช่นะครับ เพราะผมเจอจุดนั้นแล้ว จากภาพขยายให้ดู หมายเลขบน สทล. 17 เป็นการย่อเอาเฉพาะตัวเลขทับมาให้ดู เนื่องจากตัวเต็มจะพิมพ์ด้านตรงข้ามของเสา และกลับมาพิมพ์สลับด้านกันในเสาถัดไป เพื่อให้อ่านได้จากการนั่งรถไฟมาจากสองทิศทางครับ อ้อ..เลขเต็มคือ 585/17 นะครับ
Last edited by mirage_II on 05/03/2015 6:33 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|