View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 25/10/2014 9:19 pm Post subject: ควายยนต์คนโบราณ |
|
|
สวัสดีครับ...
วันนี้มีเรื่องเก่าๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกแล้ว มาจากหนังสือ "ความรู้คือประทีป" หนังสือวิทยาทานพิมพ์แจกเป็นมิตรพลี จาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่สแตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ช่วงปี 2510 - 2513 เกี่ยวกับเรื่องราวของรถแทรกเตอร์ไถนายุคโบราณ ที่กำลังเป็นของใหม่ในประเทศสยามช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่หน้าตาไม่เหมือนรถไถนาในยุคสมัยนี้สักนิด แต่กลับเหมือนรถบดถนนมากกว่า
เรื่องนี้เก็บมาเล่าโดย คุณเทพชู ทับทอง หรือ ลุงหนวด แห่งหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ" ซึ่งสำนวนการเขียนจะว่าเป็นเนื้อหาล้วนๆ ก็ไม่เชิง แต่จะเล่าแบบเบาสมองประกอบความรู้ที่ต้องการสื่อให้ผู้อ่านได้ชม ลองดูสไตล์การเล่าของแกดูสิครับ
ควายยนต์คนโบราณ
เทพชู ทัพทอง กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย
รถประหลาด...
แต่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นก็คือ เสียงเครื่องยนต์ของรถคันนั้นมันดังจนแก้วหูแทบจะแตก และก็เพราะความแปลกนี่เองที่ทำให้ผู้คนเดินตามดูเกรียวกราว
ตาสี ตาสา ยายมี ยายมา ซึ่งมาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นั้น ต่างก็สดุดีรถประหลาดคันนี้ไปตามๆ กัน เพราะนอกจากมันจะวิ่งได้เองโดยไม่ต้องใช้ม้าลากแล้ว มันยังไถนาแทนวัวควายได้อีกด้วย
เสียอย่างเดียว มันไม่กินหญ้า ตาอะไรคนหนึ่งพูดออกความเห็นตามประสาของคนที่อยู่ในประเทศที่มีหญ้าอุดมสมบูรณ์
เขาว่ามันกินน้ำมันเหมือนเครื่องยนต์โรงสีข้าวเถ้าแก่เฮง ตาอะไรอีกคนบอก
เฮ้ย อ้ายหนู... อ้ายหนู หลบ... หลบ มันวิ่งเฉมาทางนี้แล้ว ตอนนี้คนดูวิ่งหลบรถไถยนต์คันนั้นเป็นพรวน
นี่คือเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นแถวสี่แยกราชประสงค์ตรงที่เป็นศูนย์การค้าเฉลิมโลกติดต่อกับบริเวณถนนเกสรเดี๋ยวนี้ เมื่อ ๕๘ ปีก่อนโน้น
ท่านผู้อ่านลองเดาดูสิว่า รถประหลาดคันนั้นเป็นรถอะไร ?
ถ้าเดาไม่ถูก ผู้เขียนขอบอกเลยว่ามันคือรถแทร็กเตอร์ไถนายังไงล่ะท่าน ซึ่งสมัยนั้นเขาเรียกว่า รถไถยนต์
ท่านผู้อ่านส่วนมากคงจะทราบแล้วว่า ในสมัยนั้นซึ่งเป็นสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองไทยเพิ่งเริ่มจะมีรถไฟ รถยนต์ และไฟฟ้า เครื่องยนต์กลไกต่างๆ ก็เพิ่งเริ่มจะมีเข้ามา คนไทยส่วนมากจึงรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพราะเป็นของใหม่และแปลกซึ่งไม่เคยเห็นเคยใช้มาก่อนเลยในชีวิต
คนไทยเพิ่งจะรู้จักรถยนต์เมื่อก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสั่งซื้อเข้ามาจากต่างประเทศเป็นครั้งแรก และต่อมาก็มีเจ้านาย พ่อค้า ประชาชน ทรงสั่งซื้อ และสั่งซื้อกันเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มากนัก
ดังนั้น เมื่อมีรถแทร็กเตอร์เข้ามา ประชาชนจึงได้สนใจกันเป็นธรรมดา แต่ความสนใจของประชาชนดังกล่าว เป็นเพียงความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกมากกว่าประโยชน์ของมันที่จะใช้ในการทำไร่ทำนา
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นก็ได้มีคนไทยอยู่ท่านหนึ่งซึ่งได้เล็งเห็นประโยชน์ของรถไถยนต์นี้เป็นอันมาก จึงได้สั่งรถไถยนต์คันดังกลาวเข้ามาเป็นคันแรกในเมืองไทย ท่านผู้นี้คือ หม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ หรือ ดร.ใหญ่ สนิทวงศ์
นอกจากหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ จะได้สั่งรถไถยนต์เข้ามาดังกล่าวแล้ว ก็ปรากฏว่าได้มีฝรั่งที่อยู่ในเมืองไทยชื่อหมออาดัมซัน และบริษัทฝรั่งชื่อเบ็นไมยเยอร์ ทุนจำกัด ก็ได้สั่งเข้ามาเหมือนกัน
Last edited by black_express on 28/10/2014 10:57 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 25/10/2014 9:22 pm Post subject: |
|
|
สำหรับรถไถยนต์ที่หม่อมรางวงศ์สุวพรรณ์สั่งเข้ามานั้น ได้ใช้ทำนาอยู่ที่ทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นที่นาของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด ทำให้ประหยัดแรงงานและทุ่นค่าใช้จ่าย ข้อสำคัญก็คือ ทำงานได้ดีกว่าเครื่องไถพื้นเมืองที่ใช้แรงวัวควายได้อย่างมากมาย เป็นที่อัศจรรย์ของชาวไร่ชาวนาในทุ่งรังสิตเป็นอย่างมาก
เมื่อคราวมีงาน การแสดงกสิกรรมแลพานิชการครั้งที่ ๑ ในเดือนเมษายน ร.ศ.๑๒๙ (พ.ศ.๒๔๕๓) ปลายรัชกาลที่ ๕ ณ สระปทุมวัน (ใกล้สี่แยกราชประสงค์ในปัจจุบัน) ทั้งหม่อมราชวงศ์สุวรรณ์ และหมออาดัมซัน ต่างก็ได้นำรถไถยนต์มาร่วมในงานทั้งสองคน โดยเฉพาะรถไถยนต์ของหม่อมราชวงศ์สุวรพรรณ์ได้แสดงการไถให้ประชาชนที่มาเที่ยวชมงานดูด้วย โดยทำการไถที่บริเวณทุ่งนาทางทิศตะวันออกของสระปทุม ดังที่ผู้เขียนได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น
ในรายงานการแสดงกสิกรรมแลพานิชการ ครั้งที่ ๑ ณ กรุงเทพฯ กล่าวถึงรถไถยนต์ของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ว่า
เครื่องมีอ... ซึ่งหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์นำมาแสดงครั้งนี้ ก็เป็นที่ต้องตากันโดยมากเหมือนกัน ไถใหญ่เป็นเครื่องไถยนต์ใช้ได้สำเร็จดีที่ทุ่งรังสิตมาแล้ว เมื่อคราวนี้ก็ได้ทดลองให้ประชาชนดูเป็นเวลาๆ แลตามที่มีผู้คนกลุ้มรุมดูในเวลาที่ไถนี้ทำการนั้น ก็อาจจะพยากรณ์ได้ว่า ต่อไปภายหน้าประเทศสยามคงพากันใช้เครื่องมือที่ทุ่นแรงเช่นนี้กระทำการเพาะปลูกโดยมาก เพราะเป็นเครื่องที่ช่วยแรงสัตว์ได้ส่วนหนึ่ง กรรมการผู้ตัดสินมีความพอใจเครื่องไถแลงานของเครื่องไถนี้เป็นอันมาก เพราะเป็นเครื่องที่ทำได้เรียบร้อย อาจจะเห็นผลในภายหน้า จึงได้ให้รางวัลถ้วยเงิน แลในการที่หม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ได้นำเครื่องไถนี้มาแสดง แลซ้ำออกทุนค่าโสหุ้ยไถให้ประชาชนดูโดยไม่ใช่เป็นเอเยนต์ของไถชนิดนี้ เพื่อหวังให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองแลราษฎรชาวนาซึ่งจะได้จำอย่างแลคิดใช้เครื่องมือที่ทุ่นแรงแลไม่เปลืองค่าโสหุ้ยต่อไปภายหน้า อันแลเห็นได้ว่าหาใช่ประโยชน์ส่วนตัวของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ไม่ ดังนี้ ควรเจ้าหน้าที่แลผู้เห็นประโยชน์อันนี้ จะขอบใจหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์เป็นอันมาก
สำหรับรูปร่างรถไถยนต์ของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์นั้น มีรูปร่างไม่เหมือนกับรถแทร็กเตอร์ในสมัยนี้ คือ มีรูปรางคล้ายๆ กับรถบดถนนมากกว่า เพราะมีล้อเป็นเหล็ก ๓ ล้อเหมือนกัน ผิดกันก็ตรงที่ล้อของรถไถยนต์เป็นฟันเฟืองเท่านั้น
เนื่องจากรถไถยนต์ของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์มีน้ำหนักมาก ดังนั้นจึงใช้ไถนาในน้ำไม่สะดวก เพราะน้ำหนักรถกดรถให้จมลงในเลนทำให้รถเคลื่อนที่ไม่ค่อยได้ แต่จะใช้วิ่งไถนาได้ดีในขณะที่พื้นนายังเป็นดินแข็งอยู่
ส่วนรถไถของบริษัท เบนไมยเออร์ ทุนจำกัด เป็นรถไถสตีม ใช้ทำนาอยู่ที่ทุ่งรังสิตเช่นกัน รถไถชนิดนี้ใช้เครื่องจักรไอน้ำสองเครื่องติดตั้งรถให่วิ่งไปบนราง ดังนั้น ความสะดวกในการใช้ไถนาจึงสู้ไถยนต์ไม่ได้ ซึ่งเคลื่อนย้ายวิ่งไปมาได้ง่ายกว่า
รถไถสตีมดังกล่าวนี้ ห้างเอฮิวค์เป็นผู้สร้าง โดยบริษัท เบ็นไมยเออร์ ทุนจำกัด ซึ่งมีออฟฟิศตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นเอเยนต์จำหน่ายในเมืองไทยสมัยนั้น
นี่คือเรื่องรถไถยนต์ ไถสตีม ที่ปรากฏให้ประชาชนคนไทยได้รู้จักกันทั่วไปตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งบัดนี้
แต่ก่อนหน้าที่คนไทยจะได้รู้จักไถยนต์กันอย่างแพร่หลายนั้น ปรากฏว่าผู้ที่สั่งเครื่องจักรสำหรับไถเข้ามาใช้เป็นคนแรกในกรุงสยาม ก็คือกัปตันฮิก ชาวอังกฤษ ซึ่งเข้ามาตั้งโรงงานปลูกอ้อยทำน้ำตาลทรายอยู่ในแขวงเมืองนครชัยศรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๓ แต่เครื่องจักรที่กัปตันฮิกสั่งเข้ามานี้ ใช้แรงสตีมหมุนกว้านลากไถ ไม่ใช่มีรูปร่างเป็นรถอย่างของหม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์
ก่อนจบเรื่องนี้ ผู้เขียนขอแถมท้ายไว้นิดหนึ่งว่า นับตั้งแต่ที่หม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ได้นำรถไถยนต์มาแสดงให้ประชาชนได้รู้จักแล้วก็ตาม แต่ความนิยมของชาวไร่ชาวนาหรือที่สมัยนี้เรียกว่าเกษตรกรคนไทยเกี่ยวกับการใช้รถไถยนต์หรือรถแทร็กเตอร์ไถนาก็ยังมีไม่มากนัก เพิ่งจะมานิยมแพร่หลายก็เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่เอง ดังจะเห็นได้จากสองข้างถนนโดยทั่วๆ ไปในขณะนี้ จริงอยู่แม้ว่าชาวไร่ชาวนาส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังไม่สามารถจะมีรถแทร็กเตอร์เป็นของตนเองได้ก็ตาม แต่ก็มีผู้รับจ้างไถหว่านด้วยรถแทร็กเตอร์อยู่มากมาย ซึ่งพอจะหาจ้างได้ในราคาพอสมควร
อนึ่ง เนื่องจากประเทศไทยยังเป็นประเทศกสิกรรมอยู่ และปัจจุบันเกษตรกรก็ได้ใช้รถแทร็กเตอร์มากขึ้นดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ จึงมีบริษัทสร้างรถแทร็กเตอร์หลายบริษัทได้เข้ามาตั้งโรงงานประกอบรถแทร็กเตอร์ขึ้นในประเทศไทย วันหนึ่งๆ มีรถแทร็กเตอร์วิ่งออกจากโรงงานให้ประชาชนได้เห็นเป็นจำนวนหลายสิบคัน ซึ่งพวกเราคนไทยสมัยนี้ ก็มองมันวิ่งอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ตื่นเต้นเหมือนสมัยก่อนเสียแล้ว เพราะเวลานี้เราอยู่ในยุคอวกาศนั่นเอง
ถ้าจะตื่นเต้นก็เห็นจะเป็นจรวดไปสู่ดวงจันทร์มากกว่า. |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 25/10/2014 9:48 pm Post subject: |
|
|
อ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้นึกถึงรถไถนา ของหม่อมเจ้าสิทธิพรกฤษดากร ที่ฟาร์มบางเบิดนะ ครับ ผมเคยวางภาพไว้ ที่นี่
น่าเสียดายภาพลบหมดแล้ว ถ้าเจอต้นฉบับ จะนำมาลงให้ชมเปรียบเทียบกัน ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44327
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/10/2014 9:04 am Post subject: |
|
|
Quote: | นี่คือเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นแถวสี่แยกราชประสงค์ตรงที่เป็นศูนย์การค้าเฉลิมโลกติดต่อกับบริเวณถนนเกสรเดี๋ยวนี้ เมื่อ ๕๘ ปีก่อนโน้น |
ถนนเกสร ยังมีอยู่ไหมครับในปัจจุบัน
ksomchai wrote: | อ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้นึกถึงรถไถนา ของหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ที่ฟาร์มบางเบิดนะครับ |
ชมภาพนี้แทนก่อนนะครับ
http://www.sac.or.th/databases/museumdatabase/uploads/images/20120210172643traY.jpg |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44327
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/10/2014 11:22 am Post subject: |
|
|
อ้อ หาเจอแล้วครับถนนเกสร อยู่ในซอกหลืบของเกษรพลาซ่านั่นเองครับ
black_express wrote: | อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นก็ได้มีคนไทยอยู่ท่านหนึ่งซึ่งได้เล็งเห็นประโยชน์ของรถไถยนต์นี้เป็นอันมาก จึงได้สั่งรถไถยนต์คันดังกลาวเข้ามาเป็นคันแรกในเมืองไทย ท่านผู้นี้คือ หม่อมราชวงศ์สุวพรรณ์ หรือ ดร.ใหญ่ สนิทวงศ์ |
ม.ร.ว.สุวพรรณ์ สนิทวงศ์ คือ บิดาของ ม.ล.พวงร้อย อภัยวงศ์ ผู้ประพันธ์ทำนองเพลง บัวขาว ในฝัน เพลิน ลมหวน ฝากรักเอาไว้ในเพลง ฯลฯ นั่นเองครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 26/10/2014 11:46 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณ อ.หม่องมากๆ ครับ ที่ค้นหาข้อมูลมาเพิ่มเติม
ผมว่าราคาที่ปัจจุบันนี้ คงสูงกว่าราคาข้าวที่ปลูกหลายเท่าตัวนะครับ
เคยทราบจากเพื่อนสมัยเรียนชั้นมัธยมว่า เจ้าของที่ดินสองฝั่งคลองรังสิตล้วนแต่เป็นเจ้าขุนมูลนายทั้งสิ้น เพราะชาวบ้านทั่วไปยังไม่มีกำลังซื้อที่บุกเบิกจากทุ่งช้างป่าขนาดนั้น หรือไม่ก็เช่าที่ทำนาตามถนัด
ตอนนี้ลูกหลานผู้สืบตระกูลเลยสบาย ดูจากชุมชนสองข้างคลองรังสิตดูเอาเถิด
Last edited by black_express on 26/10/2014 11:53 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 26/10/2014 11:48 am Post subject: |
|
|
ฟาร์มบางเบิด คงจะเป็นฟาร์มที่มีระบบริหารจัดการอันทันสมัยนะครับ พอๆ กับไร่สุวรรณวาจกฯ |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 26/10/2014 8:46 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณมากครับ สำหรับรูปภาพของรถไถของ มจ.สิทธิพรกฤษดากร
ผมหาภาพเจอแล้ว ตอนนี้ทำหลังคาคลุมไว้ให้แล้วนะ ครับ
ตอนนี้ภาพที่ฟาร์มบางเบิดดูได้แล้วนะ ครับ ที่นี่ ผมพยายามดูเนมเพลทว่าเป็นรถไถยี่ห้ออะไร แต่หาไม่เจอ ครับ คงไม่ใช่รถไถฟอร์ดแน่นอน
อั๊ปโหลดใหม่ โดย http://s1383.photobucket.com/ _________________
Last edited by ksomchai on 26/10/2014 9:05 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 26/10/2014 9:01 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | ฟาร์มบางเบิด คงจะเป็นฟาร์มที่มีระบบริหารจัดการอันทันสมัยนะครับ พอๆ กับไร่สุวรรณวาจกฯ |
ฟาร์มบางเบิดปัจจุบันคือ สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครับ
ผมชอบ คำพูดของหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤษดากร มากครับ คำพูดของท่าน เป็นจริงเสมอ ทัยสมัย ไม่ตกยุค
"เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง"
ว่าแต่ไร่สุวรรณวาจก ฯ ปัจจุบันยังอยู่หรือเปล่า ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
|
Back to top |
|
|
|