View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
KnGEA4539
3rd Class Pass
Joined: 07/07/2010 Posts: 125
Location: ข.35/36 ข.283 วิศวกรรมขนส่งทางราง สจล
|
Posted: 25/08/2015 9:56 pm Post subject: บทความรถไฟ โดย นพ-พะ-ไนท์ |
|
|
สวัสดีครับ ห่างหายไปจากเว็บหลายปี ช่วงนี้เรียนค่อนข้างหนักเลยไม่ค่อยมีเวลาอัพเดตอะไรเลยครับ แต่ช่วงนี้มีความรู้สึกอยากเขียนบทความบ้าง เลยอยากนำบทความที่เขียนไว้บางส่วนมาลงไว้ในเว็บครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านบทความของผมไว้ในที่นี้ด้วยครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
KnGEA4539
3rd Class Pass
Joined: 07/07/2010 Posts: 125
Location: ข.35/36 ข.283 วิศวกรรมขนส่งทางราง สจล
|
Posted: 25/08/2015 10:03 pm Post subject: |
|
|
เริ่มที่บทความแรกเลยครับ สำหรับยุคใหม่ของระบบรางหรือยุค HSR
ตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา เป็น 5 ทศวรรษที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของการขนส่งทางรางโลก
เป็นเวลากว่า 51 ปีที่ประเทศประเทศนึงได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางระยะไกลไปอย่างสิ้นเชิง
เป็นเวลากว่า 51 ปีที่ประเทศนี้ได้พิสูจน์ว่าขบวนรถข้ามคืนไม่จำเป็นอีกต่อไป
เป็นเวลากว่า 51 ปีที่พิสูจน์ได้ว่าความปลอดภัยของระบบนี้มีสูงมาก
และเป็นเวลากว่า 51 ปีที่ทำให้ทั่วโลกได้เกิดการตื่นตัวและแข่งขันอย่างดุเดือดในวงการระบบราง
เป็นเวลากว่า 51 ปี แห่งการถือกำเนิด "รถไฟความเร็วสูง"
เมื่อกว่า 60 ปีก่อน ระบบรางได้มาถึงทางตัน เมื่อรถยนต์หาซื้อได้ง่าย เครื่องบินมีการเปิดแข่งขันอย่างเสรี และระบบรางกำลังจะตายลงไป ในหลายๆประเทศแถบตะวันตกมีการขยายถนนและสนามบินมากขึ้น ระบบรางกลับมีการขยายเส้นทางอย่างช้าๆ ทำให้การเดินทางโดยรถไฟเริ่มเสื่อมความนิยมลง ระบบรางในแถบยุโรปและญี่ปุ่นเองเริ่มมีความคิดที่จะสร้างรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูงๆแข่งกับเครื่องบิน แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างจึงยังไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ใครจะไปคิดว่า "ประเทศที่แพ้สงครามอย่างญี่ปุ่นทำสำเร็จ"
ในช่วงปี 1950 หลังฝื้นตัวจากสงคราม ญี่ปุ่นได้เปิดน่านฟ้าเสรีและขยายถนนตามแบบสหรัฐอเมริกา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ระบบรางที่มีอยู่นั้นกลับเสื่อมถอยลง ผู้คนเริ่มใช้เครื่องบินและรถยนต์มากขึ้นจนเริ่มแทบไม่ใช้รถไฟ ประกอบกับการรถไฟญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดทุนและอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทำให้รถไฟเป็นทางเลือกท้ายๆในการขนส่ง
"แต่ความหวังของรถไฟก็เริ่มกลับมา"
เนื่องจากหลังสงคราม วิศวกรจากกองทัพได้ถูกปลดออกเกือบหมดและต้องกระจายไปตามศูนย์วิจัยและบริษัทต่างๆ แต่ด้วยความโชคดีที่วิศวกรระดับหัวกระทิได้มาอยู่ที่ศูนย์วิจัยระบบรางของการรถไฟญี่ปุ่น โดยเฉพาะวิศวกรอากาศยาน ทำให้ความหวังในการฟื้นฟูการรถไฟญี่ปุ่นเกิดขึ้น
"Shinkansen Project"
ใครจะไปรู้เมื่อ Tadanao Miki, Tadashi Matsudaira และ Hajime Kawanabe วิศวกรออกแบบอากาศยานแห่งกองทัพญี่ปุ่น มีความคิดตรงกันที่อยากจะสร้างรถไฟที่มีความเร็วเท่าเครื่องบิน และมีการแลกเปลี่ยนความคิดกัน โดยในขณะนั้นผู้คนในศูนย์วิจัยกลับมองว่าพวกเขาบ้าและเพ้อฝัน แต่เมื่อมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความคิดของพวกเขาถูกใจหัวหน้าศูนย์วิจัย และทำการเปิดเวทีวิชาการแก่สาธารณชน แต่เรื่องนี้กลับแดงไปถึงกลุ่มบริหารการรถไฟญี่ปุ่นและรัฐมนตรีคมนาคม ทำให้วิศวกรทั้ง 3 คนต้องไปพูดสิ่งที่พูดในงานวิชาการให้กับเหล่าผู้บริหาร แต่แล้วโชคกลับเข้าข้างพวกเขา เมื่อ Shinji Sogō ผู้ว่าการรถไฟญี่ปุ่นในตอนนั้นเห็นด้วยในการทำโปรเจครถไฟความเร็วสูงหรือ Shinkansen
"ดำเนินงานและปัญหา"
ในปี 1958 โครงการชินคันเซนได้เริ่มต้นขึ้น ทั้งการวิจัย การหาเงินทุน แต่ด้วยเงินลงทุนมหาศาลทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้น เมื่อเงินทุนไม่พอ ปัญหานี้เกิดจากการขอเงินทุนโครงการน้อยกว่าความเป็นจริง โดย Shinji Sogō นั้นได้ของบไว้น้อยเพื่อให้โครงการเกิด แม่เขาจะรู้ว่าสุดท้ายตัวเขาเองจะถูกดำเนินคดี แต่ Shinji Sogō กลับเลือกที่จะให้โครงการเกิดแม้ตัวเองจะไม่ได้อยู่จนโครงการจบ แต่ Shinji Sogō นั้นก็สามารถขอกู้เงินจากธนาคารโลกได้ โครงการจึงมีเงินทุนพอจนจบโครงการ
ส่วนปัญหาด้วนเทคนิคที่เกิดคือขบวนรถมีแรงสั้นสะเทือนมากเกิดไป เสี่ยงต่อการตกราง ทำให้ต้องมีการคิดค้นระบบซับแรงจนเกิดเทคโนโลยีแอร์สปริงขึ้นในรถไฟ
"สถิติโลกครั้งแรกของรถไฟความเร็วสูง"
หลังจากทำการทดสอบความเร็วของรถทดสอบมาเรื่อยๆ ในวันที่ 30 มีนาคม 1963 รถทดสอบได้ทำการทดสอบความเร็วที่ 250 km/hr แต่ว่าเนื่องจากเป็นการทดสอบสุดท้าย พนักงานควบคุมรถกลับเลือกที่จะให้กำลังขบวนรถต่อไปแม้ว่าความเร็วจะถึง 250 km/hr ได้ และสุดท้ายความเร็วที่บันทึกได้คือ 256 km/hr เป็นสถิติโลกครั้งแรกในระบบรถไฟความเร็วสูง
"เปิดให้บริการ"
ในวันที่ 1 ตุลาคม 1964 ระบบรถไฟความเร็วสูงระบบแรกของโลกได้เปิดให้บริการ จากโตเกียวไปโอซาก้า นับเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของระบบรางโลก และเป็นการเริ่มต้นของการแข่งขันด้วนความเร็วของระบบรางอย่างจริงจัง นับตั้งแต่ปี 1964 ถึงปัจจุบัน รถไฟความเร็วสูงเส้นแรกของโลกยังคงใช้งานและให้บริการอยู่ โดยเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่หนาแน่นที่สุดในโลกอีกด้วย
"สถิติอุบัติเหตุของรถไฟความเร็วสูง"
ระบบรถไฟความเร็วสูงทั่วโลกมีความปลอดภัยสูงมาก นับตั้งแต่ปี 1964 ถึงปัจจุบัน รถไฟความเร็วสูงเคยเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตแค่ 3 ครั้ง ได้แก่
1998 Eschede ICE1 ตกราง มีผู้เสียชีวิต 101 คน
2011 Wenzhou CRH2 ชน CRH1 และตกทางวิ่ง มีผู้เสียชีวิต 40 คน
2013 Santiago de Compostela RENFE Class 730 วิ่งความเร็วเกินกำหนดและหลุดโค้งชนข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 79 คน
ส่วนในญี่ปุ่นเคยมีแค่อุบัติเหตุตกรางจากแผ่นดินไหวและหิมะตกหนัก แต่ไม่มีประวัติผู้เสียชีวิต
ปล.การลงทุนรถไฟความเร็วสูงมีความเสี่ยง ประเทศผู้ลงทุนควรศึกษาพฤติกรรมการเดินทางของคนในประเทศอย่างรอบคอบ _________________
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/08/2015 11:08 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณน้องไนซ์ ที่สร้างสรรค์บทความเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงมาลงเป็นกระทู้ให้ได้อ่านกันใน "รถไฟไทยดอทคอม" ครับ
ปัจจุบัน น้องไนซ์ เป็นนักศึกษา วิศวฯ ระบบราง แห่ง สจล. ชั้นปีที่ ๓ ได้เรียนวิชาทางด้านการขนส่งระบบรางมามากมาย หากมีเวลาหวังว่าจะส่งบทความดีๆ มาลงอีกนะครับ
ถ้าต้องการจะใช้ภาพประกอบบทความในเวบฯนี้ พี่ยินดีให้นำภาพรถไฟของพี่ไปใช้ได้เลย มิสงวนลิขสิทธิ์
------------------------------------------------
ภาพรถด่วน ICE-1 ที่น้องไนซ์กล่าวถึงข้างต้น กำลังจะเข้าสถานีเบอร์ลิน ฮัฟบาห์นโฮฟ
พี่ชักภาพไว้เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ขบวนนี้ไม่ตกรางนะครับ _________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
|