RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262816
ทั้งหมด:13574096
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 188, 189, 190 ... 473, 474, 475  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/12/2012 6:52 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟไทย พุทธศักราช 2555 : รุจน์ โกมลบุตร
มติชนออนไลน์ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:30:43 น.

โดย รุจน์ โกมลบุตร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ กระแสทรรศน์ มติชน 25 ธ.ค.2555

ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่โดยสารรถไฟไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะชอบความรู้สึก

สนุกและตื่นเต้นเมื่อได้ขึ้นรถไฟไปเที่ยว

แต่ในเวลาต่อมา ความสนุกในการใช้รถไฟชักจะลดลงเรื่อยๆ และเปลี่ยนเป็นความวิตกกังวลแทนโดยเฉพาะเมื่อต้องใช้รถไฟเพื่อไปทำธุระตามต่างจังหวัด เพราะรถไฟไปถึงปลายทางล่าช้ากว่ากำหนดมากจนเสียงานเสียการ ในหลายๆ ครั้งจึงต้องเปลี่ยนไปใช้พาหนะอื่นแทนรถไฟ

หลังจากเก็บงำความอึดอัดมาหลายปี ตอนปลายปี 2554 ผู้เขียนก็ตั้งใจว่า ตลอดปี 2555 ผู้เขียนจะจดบันทึกว่า รถไฟที่ผู้เขียนใช้เดินทางทั้งหมด ออกเดินทางกี่โมง ถึงปลายทางกี่โมง ล่าช้าไปมากน้อยแค่ไหน

หวังให้ข้อมูลนี้เป็นหลักฐานไปถึงคนทำงานรถไฟ เพื่อให้มีการปรับปรุงขึ้นมาบ้าง

ตลอดปี 2555 ผู้เขียนใช้รถไฟเดินทางทั้งหมด 8 เที่ยว ในจำนวนนี้ รถไฟไปถึงปลายทางตรงเวลา 0 เที่ยว ไปถึงปลายทางล่าช้า 8 เที่ยว รายละเอียดการเดินทางโดยรถไฟตลอดปี 2555 มีดังนี้

เที่ยวที่ 1 วันที่ 3 มกราคม รถด่วนขบวน 52 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ กำหนดถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.30 น. ถึงจริงเวลา 07.17 น. ช้าไป 1 ชั่วโมง 47 นาที

เที่ยวที่ 2 วันที่ 10 เมษายน รถด่วนพิเศษขบวน 13 เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กำหนดถึงลำปาง เวลา 06.50 น. (ผู้เขียนลงกลางทางที่ลำปาง ไม่ได้ไปถึงเชียงใหม่) ถึงจริงเวลา 10.09 น. ช้าไป 3 ชั่วโมง 19 นาที

เที่ยวที่ 3 วันที่ 16 มิถุนายน รถด่วนขบวน 52 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ กำหนดถึงลำปาง เวลา 19.50 น. ถึงจริงเวลา 20.16 น. ช้าไป 26 นาที

เที่ยวที่ 4 วันที่ 13 สิงหาคม รถด่วนพิเศษขบวน 2 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ กำหนดถึงกรุงเทพฯ เวลา 06.50 น. ถึงจริงเวลา 09.49 น. ช้าไป 2 ชั่วโมง 59 นาที

เที่ยวที่ 5 วันที่ 19 ตุลาคม รถด่วนพิเศษขบวน 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กำหนดถึงลำปาง เวลา 05.25 น. ถึงจริงเวลา 08.07 น. ช้าไป 2 ชั่วโมง 42 นาที

เที่ยวที่ 6 วันที่ 23 ตุลาคม รถด่วนพิเศษขบวน 2 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ กำหนดถึงกรุงเทพฯ เวลา 06.50 น. ถึงจริงเวลา 08.18 น. ช้าไป 1 ชั่วโมง 28 นาที

เที่ยวที่ 7 วันที่ 9 พฤศจิกายน รถด่วนขบวน 85 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช กำหนดถึงหลังสวน เวลา 05.25 น. ถึงจริงเวลา 05.59 น. ช้าไป 34 นาที

เที่ยวที่ 8 วันที่ 11 พฤศจิกายน รถเร็วขบวน 174 เส้นทางนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ กำหนดถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.10 น. ถึงจริงเวลา 05.20 น. ช้าไป 10 นาที

สรุปว่าในปี 2555 รถไฟที่ผู้เขียนใช้เดินทางไปถึงสถานีปลายทางช้ากว่ากำหนดอย่างน้อยที่สุด 10 นาที ถึงช้ามากที่สุด 3 ชั่วโมง 19 นาที รวมเวลาที่การรถไฟฯ ทำให้ผู้เขียนเสียเวลาไปบนขบวนรถทั้งสิ้น 13 ชั่วโมง 25 นาที หรือเฉลี่ยเที่ยวละ 1 ชั่วโมง 40 นาที

ในระหว่างที่เกิดความล่าช้านั้น ซึ่งหลายๆ ครั้งก็ช้าตั้งแต่ออกจากต้นทาง ผู้เขียนไม่เคยพบเห็นว่า มีพนักงานการรถไฟฯ คนใด ทั้งที่สถานี หรือที่บนขบวนรถ มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจกับ

ความไม่ตรงเวลาเลยแม้แต่คนเดียว (อาจจะมีพนักงานที่รู้สึกเดือดร้อน แต่ผู้เขียนไม่เคยเห็นก็เป็นได้)

พนักงานบางคนเห็นความล่าช้าไม่ตรงเวลาเป็นเรื่องธรรมดา หรือเห็นเป็นเรื่องตลก โดยพูดหยอกเอินกับผู้โดยสารที่จะลงจากขบวนรถว่า "การเดินทางเที่ยวนี้ การรถไฟฯ แถมให้นะครับ" ซึ่งหมายความว่าแถมให้ผู้โดยสารได้นั่งรถไฟนานขึ้นกว่ากำหนด

ผู้เขียนเคยนั่งรถไฟในต่างประเทศมาบ้าง ครั้งหนึ่งรถไฟที่นั่งในอังกฤษขณะกำลังวิ่งอยู่ก็หยุดกึกลงเฉยๆ ยังไม่ถึงอึดใจ ก็มีประกาศขออภัยมาทางลำโพงว่า มีฝูงแกะกำลังเดินข้ามทางรถไฟ จึงต้องขอหยุดขบวนรถเพื่อให้แกะข้ามทางไปก่อน

แกะข้ามทางรถไฟไม่ถึง 1 นาที เขาก็ยังมีความรับผิดชอบแจ้งให้ผู้โดยสารทราบ

อีกครั้งหนึ่งที่สโลวีเนีย รถไฟออกจากสถานีกรุงลูบลิยานาล่าช้า เพราะสถานีตัดสินใจรอผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินทางด้วยรถบัสโดยสาร 3 คันเพื่อมาขึ้นรถไฟที่สถานีนี้

ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าระหว่างที่รอนั้น พนักงานรถไฟแต่ละคนสีหน้าไม่สู้ดี มีท่าทีกระวนกระวาย และเมื่อผู้โดยสารกลุ่มนั้นมาถึงสถานีรถไฟ พนักงานรถไฟก็กรูกันเข้าไปเพื่อช่วยเหลือให้ผู้โดยสารขึ้นรถไฟโดยเร็ว ในที่สุดแม้รถจะออกช้ากว่ากำหนดไปประมาณ 40 นาที แต่ก็ไปถึงปลายทางกรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชียตรงเวลา

จากที่ยกตัวอย่างจากต่างประเทศมาข้างต้นนี้ ผู้เขียนต้องขออภัยที่ต้องพูดเปรียบเทียบว่า ยังไม่เคยเห็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความล่าช้าจากพนักงานระดับต่างๆ ในการรถไฟฯ แม้แต่ครั้งเดียว

ในเรื่องความล่าช้าของรถไฟ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การรถไฟฯ จัดประกวดหนังสั้น "ในความผูกพันของฉันกับการรถไฟไทย" เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร แต่มีกลุ่มคนทำหนังสั้นจากจังหวัดขอนแก่นที่มีนามว่า "กลุ่มฟินวิ่ว" ส่งหนังสั้นเรื่อง "ฉันนั่งรถไฟไปเยี่ยมแม่ที่กำลังจะตาย แต่ไปไม่ทัน แม่ฉันตายก่อน ฉันรักการรถไฟจังเลย" เข้าประกวด

แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้รับรางวัลจากคณะกรรมการตัดสิน แต่กลับได้รางวัล Popular ขวัญใจมหาชนแทน

ผู้เขียนสังเกตว่า การรถไฟฯ พยายามทำประชาสัมพันธ์กับสาธารณชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเพิ่มการยอมรับ แต่ผู้เขียนเชื่อว่า การประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่การบอกกล่าวความจริงแก่ประชาชน แต่คือการพัฒนาบริการให้ดี มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปด้วย

หากการรถไฟฯ "รู้" สาเหตุว่า ทำไมรถไฟล่าช้า ก็ควรแก้ไขที่ต้นเหตุเพื่อปรับปรุงให้รถไฟตรงเวลา แต่หากความล่าช้านั้นเป็นเรื่อง "ยังแก้ไม่ได้" เช่น หัวรถจักรเก่า ฯลฯ ก็ควรที่จะปรับกำหนดเวลาเดินทางให้สอดคล้องกับสมรรถนะของหัวรถจักรเหล่านั้นตามจริง

ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้โดยสารคาดหวังว่ารถไฟจะตรงเวลา แต่ก็ไม่ตรง แล้วก็กลายเป็นความรู้สึกผิดหวัง ซึ่งการประชาสัมพันธ์ประมาณว่า "เรื่องนี้ การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ" คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก

ในท้ายที่สุด ผู้เขียนอดคิดไม่ได้ว่า เป็นไปได้ไหมที่ "วัฒนธรรมองค์กร" อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อประสิทธิภาพของงาน เห็นได้จากเมื่อการรถไฟฯ ได้ไปบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่วิ่งระหว่างพญาไท-สุวรรณภูมิ

รถไฟสายนี้เป็นรถไฟลอยฟ้า ไม่ต้องมีจุดตัดกับถนน ไม่ต้องใช้รางร่วมกับขบวนรถสินค้า เป็นรถไฟใหม่เอี่ยมถอดด้าม มีรางคู่ไม่ต้องรอหลีก

แต่ทุกวันนี้แอร์พอร์ตเรลลิงก์บางขบวนก็ไม่ตรงเวลา ไม่เป็นไปตามตารางเดินรถที่ประกาศไว้ในเว็บไซต์ แถมแต่ละสถานียังไม่มีป้ายแสดงเวลาเดินรถเข้าออกอีกต่างหาก (มีแต่บอกว่ารถขบวนถัดไปจะมาถึงในกี่นาที แต่ไม่มีป้ายที่บอกว่ารถไฟวันนี้มีกี่ขบวน เข้าออกเวลาใดบ้าง ตรงเวลาหรือล่าช้าอย่างไร ทำให้ผู้โดยสารไม่มีข้อมูลขบวนรถให้เลือก)

หากเรื่องเหล่านี้มีสาเหตุจากวัฒนธรรมองค์กรของการรถไฟฯ ที่สถาปนามาตั้งแต่ปี 2433 ผู้เขียนก็เชื่อว่ามันคงจะแก้ไขได้ และขอเป็นกำลังใจให้คนรถไฟแก้ไขให้ได้

ไม่งั้นแล้วรถไฟความเร็วสูงจากจีนซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ก็อาจเป็นบริการถัดไปที่กลายเป็นเหยื่อของ "วัฒนธรรมองค์กร"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 26/12/2012 12:37 pm    Post subject: Reply with quote

จังหวัดเพชรบูรณ์เตรียมเสนอสำรวจทางรถไฟสายเพชรบูรณ์ต่อ ครม.สัญจรที่อุตรดิตถ์
โดย ธีระชัย มังกรทอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 (พิษณุโลก)
25 ธันวาคม 2555

นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 มกราคม 2556 จะมีการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งจะรับทราบข้อมูลปัญหาและข้อเสนอแนะจากกลุ่มจังหวัด ครม.ได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดในกลุ่มเตรียมเสนอแผนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จะพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้จังหวัดละประมาณ 100 ล้านบาท โดยขณะนี้ได้เตรียมไว้แล้วทั้งที่ ส.ส.เสนอและตามความต้องการของท้องถิ่นที่เสนอเข้าแผนพัฒนาจังหวัด มีลงพื้นที่ตรวจสอบหลายแห่ง เช่น ศูนย์อาเซี่ยน เครื่องอบความชื้นและโกดังเก็บข้าวเปลือก เป็นต้น

สำหรับโครงการระยะยาวที่จะเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ และให้หน่วยงาน กระทรวงต้นสังกัดพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน ได่แก่ อ่างกักเก็บน้ำท่าพล ซึ่งใช้วงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท แต่ที่อยากได้และจะนำเสนอคือแหล่งน้ำฝั่งตะวันตกของจังหวัด ตั้งแต่เขตอำเภอวังโป่ง อำเภอชนแดน อำเภอหนองไผ่ อำเภอบึงสามพัน โดยเฉพาะเขตตำบลซับพุทรา กำลังให้ชลประทานสำรวจหากทำได้จะสามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งและลดอุทกภัยเขตพิจิตร นครสวรรค์ได้

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ได้มีแนวคิดอยากให้มีการสำรวจเส้นทางรถไฟจาก ลำนารายณ์ มาเพชรบูรณ์ หล่มสัก จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี (ฟื้นฟูโครงการที่จอมพลป. ทำไม่สำเร็จ) รองรับเส้นทางอินโดจีน จะทำให้การขนส่งสินค้าการเกษตรมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยจะเสนอเป็นงบประมาณในการสำรวจ ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/12/2012 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ยึดไวน์เถื่อนมูลค่าเกือบ 7 แสน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2555 15:07 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ยึดไวน์ยี่ห้อดังจากต่างประเทศเลี่ยงภาษีศุลกากร มูลค่า 696,000 บาท ขณะลำเลียงเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเตรียมขนด้วยรถไฟไปยังกรุงเทพฯ

Click on the image for full size

วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ จันทร์สว่าง สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจรถไฟ ตรวจยึดไวน์ยี่ห้อดังจากต่างประเทศ (BIN 389X) เลี่ยงภาษีศุลกากรจำนวน 20 ลัง รวม 120 ขวด มูลค่า 696,000 บาท ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย) และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ที่ชานชลาที่ 1 สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ โดยคาดว่าเตรียมลำเลียงขึ้นรถไฟไปส่งยังกรุงเทพมหานคร แต่ไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ

โดยไวน์ดังกล่าวมีราคาจำหน่ายในประเทศขวดละ 5,600 บาท แต่หากลับลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านซึ่งไม่ผ่านขั้นตอนการเสียภาษีจะมีราคาต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง และขณะนี้กลุ่มผู้ค้าสินค้าหนีภาษีพยายามลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งไวน์และเหล้า เพื่อส่งให้กับลูกค้าทั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และบางส่วนถูกส่งไปจำหน่ายที่กรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยตำรวจรถไฟได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นและจับกุมเพื่อป้องกันการไม่ให้มีการลักลอบนำไวน์และเหล้าหนีภาษีเข้ามาโดยเฉพาะการลำเลียงทางรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 27/12/2012 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

ยึดได้บ่อย แต่ตัวการจับไม่ได้ซะที Embarassed
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/12/2012 7:50 am    Post subject: Reply with quote

“ประภัสร์” ไล่รื้อปรับใหญ่รถไฟ อีก 2 ปีเจอโฉมใหม่ “ตรงต่อเวลา...ปลอดภัย..สะอาด”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2555 17:13 น.

จากนี้ไปอีก 2 ปี เป็นช่วงเวลาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะมีการปรับปรุงกันอย่างจริงจัง หลังจากนายประภัสร์ จงสงวน ได้รับสรรหาเป็นผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.คนใหม่ พร้อมประกาศยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรแห่งนี้ภายในเวลา 2 ปีเศษที่ทำหน้าที่ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากพนักงานอยู่ไม่น้อย แม้กระทั่งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ (สร.รฟท.) ก็ยังไม่มีเสียงต่อต้านออกมาให้ได้ยิน ว่ากันว่าหลังจากนี้ไปองค์กรที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ตกต่ำลงทุกวันแห่งนี้ ถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่เสียที

นายประภัสร์กล่าวว่า ร.ฟ.ท.มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขและโครงการที่ต้องผลักดันให้สำเร็จจำนวนมาก ในขณะที่มีเวลาในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.เพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น ดังนั้นเรื่องหลักๆ ที่ต้องผลักดันให้เสร็จภายในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดจะต้องเป็นเรื่องที่เป็นการวางรากฐานที่ดีกับองค์กร โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเร่งโครงการที่อยู่ในแผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ ร.ฟ.ท.วงเงิน 1.76 แสนล้านบาท โดยจะต้องลงนามสัญญาให้ได้ทั้งหมด ภายในเวลา 1 ปี-1.5 ปี ภายในเงื่อนไข กระทรวงการคลังจะต้องสามารถจัดหาเงินลงทุนให้ได้หมดเช่นกัน

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2553 เห็นชอบแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ร.ฟ.ท. ระยะเร่งด่วน 5 ปี ระหว่างปี 2553-2557 วงเงิน 1.76 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และระบบอาณัติสัญญาณ 1.52 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระ และการจัดหารถจักร และล้อเลื่อน 2.4 หมื่นล้านบาท ร.ฟ.ท.เป็นผู้รับภาระ

ขณะที่เป้าหมายของการลงทุน 1.76 แสนล้านบาท เพื่อให้เส้นทางรถไฟจักร รถโดยสาร รถสินค้า อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการให้บริการมีความสมบูรณ์ทันสมัยขึ้น ในขณะที่หน้าที่หลักในฐานะผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. คือ ทำอย่างไรให้รถไฟกลับมาเป็นรถไฟที่ตรงต่อเวลา ปลอดภัย สะอาด ส่วนหน้าที่รองคือการผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นหลังจากนี้ไป 3 ปีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับรถไฟแน่นอน

โดยระยะเร่งด่วนจะมีการปรับปรุงบริการ เป็นการแก้ปัญหาที่สามารถทำได้เลยไม่ต้องรองบประมาณลงทุน เช่น ปัญหาความล่าช้าของการเดินรถ ได้สั่งการให้นำข้อมูลสถิติของการเดินรถในแต่ละเส้นทางว่า ล่าช้าจากตารางเดินรถเฉลี่ยเท่าไร เพื่อแจ้งให้กับผู้โดยสารได้รับทราบตั้งแต่ตอนมาซื้อตั๋วเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารสามารถตัดสินใจได้ว่าอยากที่จะเดินทางไปกับรถไฟหรือไม่ เพราะหากมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่กลับไปถึงปลายทางช้ากว่ากำหนด อาจจะทำให้เสียหาย เช่น เดินทางมาจากเชียงใหม่อยากมาต่อเครื่องบินแต่ต้องตกเครื่อง ถ้าไม่เผื่อเวลา

“เรื่องนี้ทำไม่ยาก มีสถิติแต่ละเดือนบอกอยู่แล้วว่า ในแต่ละเส้นทางต้องรอหลีกตรงไหน เบาทางตรงไหน ใช้เวลากันเท่าไร เช่น สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่จะมีเบาทางประมาณ 20 จุด เอาเวลารวมกับที่ต้องรอหลีก ได้ประมาณ 130 นาที ก็บอกผู้โดยสารให้ทราบไปว่าถ้าจะโดยสารรถไฟขบวนนี้ เวลาที่จะไปถึงปลายทางช้ากว่ากำหนดประมาณ 130 นาที เป็นต้น จากที่ไม่เคยบอกต่อไปนี้ต้องแจ้งทุกครั้ง ทุกสถานีต้องทำเหมือนกัน ผมบอกไปแล้วให้เริ่มทำได้เลย”

นายประภัสร์กล่าวว่า การทำเช่นนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้ผู้โดยสารรถไฟลดลง เพราะเชื่อว่าคนที่จะใช้บริการรถไฟรู้อยู่แล้วว่าจะช้า แต่ที่ทำเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถจัดตารางหรือกิจกรรมอื่นๆ ของตัวเองลังจากไปถึงปลายทางได้อย่างถูกต้อง คนที่ได้ประโยชน์คือผู้โดยสารจะได้จัดกิจกรรมอื่นในเวลาที่สอดคล้องกับความจริง จะนัดใครก็ไม่ต้องคอย

สำหรับรถไฟนั้นต้องยอมรับว่าไม่มีระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถแบบอัตโนมัติ ดังนั้นจะวิ่งช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับสภาพของรถ สภาพทาง ความชำนาญของพนักงานขับรถ ถ้าชำนาญเส้นทางจะขับได้เร็วกว่า แต่ในทุกกรณีต้องมีความปลอดภัย ขบวนใดมาก่อนเวลาถือว่ามีความผิดต้องถูกสอบ เพราะ ขับมาเร็วแน่นอน ซึ่งการขับเร็วบนสภาพทางปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงมากเอาชีวิตประชาชนไปเสี่ยงไม่ได้ ฟังเข้าใจยากแต่จริงๆแล้วนี่คือความปลอดภัย เพราะถ้าระบบอัตโนมัติถ้าขับเร็วระบบจะตัดอัตโนมัติ แต่เมื่อไม่มีระบบนั้นก็ต้องควบคุมที่ความเร็วใครมาเร็วมีปัญหา เหมือนรถบรรทุก รถทัวร์ มาเร็วกว่ากำหนดไม่ได้เช่นกัน

ยอมรับหนักใจโครงการไม่เดินเหตุติดปม กก.สิ่งแวดล้อม

ส่วนการเร่งรัดโครงการลงทุน 1.76 แสนล้านบาทนั้น นายประภัสร์กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่จะทำให้โครงการล่าช้า คือการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม และเรื่องเวนคืน ซึ่งที่ผ่านมาโครงการรถไฟทางคู่ต้องล่าช้าเพราะใช้เวลาพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมยาวนาน ซึ่งได้เรียนให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยแก้ไขในระดับนโยบาย แล้วโดยเห็นว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมควรเร่งพิจารณาอย่างละเอียดในครั้งเดียวไม่ใช่ประชุมที่ก็ตั้งข้อสังเกตเรื่องหนึ่งพอประชุมอีกทีก็ต้องอีกเรื่อง วนเวียน ทำให้ไม่จบ

“อย่าเห็นว่าเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ วันนี้เห็นแค่นี้ก็ให้ความเห็นแค่นี้ คราวหน้าประชุมใหม่ก็ตั้งข้อสังเกตใหม่อีก ถ้าเป็นไปได้ควรจะออกระเบียบกรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เพราะไม่เช่นนั้นการพิจารณาบางโครงการอาจใช้เวลาเป็น 10 ปีก็ได้ คงต้องขอไม่ใช่แค่โครงการของรถไฟแต่หมายถึงทุกโครงการของรัฐที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจรวมของประเทศ เพราะยิ่งล่าช้ามากเท่าไร ภาครัฐก็จะนิ่งเสียหายมากกว่าใคร คือถ้าพิจารณาไม่จบตามกรอบเวลาก็ให้ถือว่าเห็นขอบ ไม่งั้นงานไม่เดิน” นายประภัสร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ร.ฟ.ท.จะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานรูปแบบใหม่เช่นกัน จากก่อนหน้านี้ อาจจะคุ้นเคยกับการทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่วันนี้ไม่ได้แล้ว เพราะวันนี้ถือว่า ร.ฟ.ท.ได้รับโอกาสสำคัญ ที่จะพัฒนาปรับปรุงทุกอย่างให้ดีที่สุด เพราะรัฐบาลในวันนี้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หากไม่เร่งทำแล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองรัฐบาลอื่นเข้ามาใหม่ ไม่มีหลักประกันว่าจะทำแบบนี้ และจากที่ผ่านมารัฐบาลมักมองการลงทุนขนาดใหญ่ โดยจะวางแผนระยะยาว 20-25 ปี ซึ่งไม่ทันเวลา

เมื่อรัฐบาลเปิดช่องอยากให้มีการพัฒนาก็ต้องใช้โอกาสให้เต็มที่ และรถไฟจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศดีขึ้นอีกด้วย เป็นสิ่งที่ผมบอกกับพนักงานรถไฟทุกคน การทำสัญญาโครงการ 1.76 แสนล้านบาทได้หมดภายใน 2 ปี ไม่ได้ทำเพื่อตัวผู้ว่าฯ แต่ทำเพื่อรถไฟ เมื่อทุกโครงการได้เริ่มต้นก็จะต้องเสร็จแน่นอน เมื่อถึงวันนั้นรถไฟจะกลับมามีบริการที่ดี ตรงเวลา ปลอดภัย สะอาด แต่ถ้าทำไม่ครบทั้งหมด หรือมีรถใหม่แต่รางไม่ดี สภาพทางแย่ ทำความเร็วไม่ได้ ไม่ตรงต่อเวลา ทุกอย่างก็ไม่ต่างจากเดิม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 02/01/2013 10:51 am    Post subject: Reply with quote

บรรยากาศคนขึ้นรถไฟกลับเข้ากทม.
ข่าวอาชญากรรม
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 1 มกราคม 2556 เวลา 17:58 น.

วันนี้ ( 1 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีประชาชนทยอยกันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร เนื่องจากบางบริษัท ห้างร้าน และหน่วยงานราชการจะเริ่มทำงานตามปกติในวันที่ 2 ม.ค. นี้ หลังจากช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2556 ได้กลับภูมิลำเนาไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก บางรายได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และสัมภาระต่างๆ กลับมาอีกด้วย


จากการสอบถามนาย เฉลียว ไวยกัญหา นายสถานีรถไฟกรุงเทพฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเดิลินิวส์ ว่า ในวันนี้มีประชาชนต่างทยอยกันกลับเข้ามา กทม.กันบ้างแล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นขบวนสายอีสาน เป็นส่วนใหญ่ที่จะมีการเดินทาง ส่วนสายเหนือและสายใต้ รองลงมาตามลำดับ เบื้องต้น ทางร.ฟ.ท.ได้มีการเพิ่มขบวนพิเศษเพื่อรองรับประชาชน สาย อีสานและ สายเหนือไว้อย่างละ 1 ขบวน คาดว่าน่าจะเพียงพอกับจำนวนผู้เดินทางเข้ากทม.อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องปัญหาขบวนรถไฟไม่เพียงพอและปัญหาการเกิดเหตุร้าย ยังไม่มีการรับแจ้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางร.ฟ.ท.ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตร.สน.นพวงศ์มาเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกตลอดเวลาด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/01/2013 8:55 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฯเชิญชวนผู้โดยสารร่วมโหวตสุดยอดพนักงาน
ไทยรัฐออนไลน์ 3 มกราคม 2556, 05:00 น.

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2556 นี้การรถไฟฯมีโครงการ “สุดยอดพนักงานบริการ” (Service Mind) เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ตามนโยบายของผู้ว่าการการรถไฟฯ นายประภัสร์ จงสงวน ที่ต้องการพัฒนางานด้านบริการ ซึ่งถือเป็นงานหลักของการรถไฟฯ โดยขอเชิญชวนท่านผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้บริการรถไฟ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสุดยอดพนักงานบริการ (Service Mind) โหวตพนักงานบริการของการรถไฟฯ ได้แก่ พนักงานประจำสถานี พนักงานประจำบนขบวนรถ ซึ่งทุกคนจะมีบัตรประจำตัวแสดงให้ผู้โดยสารได้เห็นอย่างชัดเจน เพียงกด 1690 กด 8 แล้วกดหมายเลขประจำตัวพนักงาน 5 หลัก เลือกกด 1 “พอใจ” กด 2 “ไม่พอใจ” ต่อการให้บริการ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2556

หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมว่า เชิญชวนท่านผู้โดยสารเป็นเสียงหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงภาพลักษณ์ที่ดีของการรถไฟฯ หากท่านพบการบริการที่ดีและพึงพอใจในการบริการของพนักงานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานของพวกเขาเหล่านั้น หากพบการบริการที่ไม่ดีจากพนักงานท่านก็สามารถเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทำให้พวกเขาต้องปรับปรุงและปรับเปลี่ยนหัวใจการให้บริการที่ดีเพื่อภาพลักษณ์องค์กร สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปรับภาพลักษณ์และยกระดับการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น พร้อมร่วมลุ้นรับรางวัลจากการรถไฟฯเป็นประจำทุกเดือน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 03/01/2013 10:11 am    Post subject: Reply with quote

หมู่นี้เห็นแต่ข่าวตำหนิรถไฟทั้งนั้นเลยครับ

ถ้าเป็นคนใน มักจะโทษโน่น โทษนี่ ทำให้ขบวนรถล่าช้า แต่ลืมไปว่า ผู้ใช้บริการต่างคาดหวังต่างจากที่ตัวเองกล่าวถึงสาเหตุดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

ปัญหาก็มีเพียงว่า ทำอย่างไรจะให้รถไฟตรงเวลา และไม่ตายกลางทางเท่านั้นแหละครับ ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาช้ากันคิดเป็นวินาทีด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้

วิธีการ ขั้นตอน เป็นเรื่องของคนในจะคิดหาทางกันเอง ไม่ใช่เอาผู้ใช้บริการเป็นเครื่องต่อรอง ถ้าทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นทำ หรือตั้งบริษัทลูกเข้ามารับช่วงแทน

มีอีกประการหนึ่งคือการเสนอความคิดที่ดีๆ ทีประโยชน์ต่อองค์การ โดยมีเปอร์เซ็นต์ให้ หากเป็นประโยชน์ได้จริง ไม่ทราบว่าทางการรถไฟฯ คิดถึงเรื่องนี้หรือเปล่า ?
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/01/2013 5:05 pm    Post subject: Reply with quote

“ชัชชาติ”สั่งเตรียมพื้นที่สนามบินและสถานีขนส่งวางขายโอทอป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มกราคม 2556 16:14 น.

“คมนาคม”สั่งทุกหน่วยงานจัดพื้นที่ตามสถานีขนส่งและสนามบินเพื่อตั้งร้านโอทอปตามนโยบายรัฐบาล ตั้งเป้าเปิดใน 6 เดือน เล็งนำร่องที่สนามบินเชียงใหม่และดอนเมืองส่วนสุวรรณภูมิติดสัญญาคิงเพาเวอร์ สถานีรถไฟเชียงใหม่ และสถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว ด้านการบินไทยเร่งเลือกสินค้าที่ระลึกและอาหารท้องถิ่นขายบนเครื่อง มั่นใจประโยชน์ถึงชุมชนและชาวบ้านโดยตรง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมนำสินค้า”หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล”หรือ โอทอป จัดจำหน่าย ณ สถานีที่ให้บริการผู้โดยสารของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมและขนาดของพื้นที่ รวมถึงจำนวนและกลุ่มผู้โดยสารเป้าหมายที่ผ่านเข้าออกสถานีในแต่ละวัน เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ซึ่งรับผิดชอบการออกแบบร้านค้าให้มีเอกลักษณ์เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยภายใน 1 เดือนจะเลือกโครงการต้นแบบได้และเริ่มการจัดจำหน่ายภายใน 6 เดือน

ทั้งนี้ ในส่วนของสนามบินนั้นจะเริ่มที่สนามบินเชียงใหม่ เพราะมีพื้นที่ว่างก่อนเข้าสนามบินประมาณ 200 ตารางเมตร สามารถจัดเป็นร้านโอทอปขนาดใหญ่เต็มรูปแบบ ส่วนภายในอาคารผู้โดยสารจะวางเป็นตู้โชว์เพื่อแนะนำสินค้า, สนามบินดอนเมืองใช้พื้นที่ฝั่งผู้โดยสารภายในประเทศ ที่มีประมาณ 218 ตารางเมตร ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิยังมีข้อจำกัดเพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สัมปทานของบริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งอาจจะเป็นการตั้งตู้โชว์สินค้าและให้สั่งซื้อทางออนไลน์แทน โดยหลักคือจะต้องไม่ตั้งในจุดที่กีดขวางทางเดินของผู้โดยสาร

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รถไฟฟ้าใต้ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่สถานีลาดพร้าว, การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเริ่มที่สถานีเชียงใหม่ และหัวลำโพง ,พื้นที่ใต้ทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริเวณเพลินจิต เนื่องจากมีชาวต่างชาติมาก ซึ่งจะต้องเจรจาการใช้พื้นที่ดังกล่าวกับกระทรวงสาธารณสุขที่ก่อนหน้านี้กทพ.ได้มอบให้ใช้ประโยชน์, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริเวณสวนจตุจักรเชื่อมต่อกับสถานขนส่งหมอชิตแห่งใหม่, กรมการบินพลเรือน (บพ.) ที่สนามบินกระบี่ และสนามบินภูมิภาคอีก 7 แห่งจะเป็นการปรับปรุงร้านค้าโอทอปเดิมที่มีอยู่แล้วให้เป็นรูปแบบเดียวกัน

“นโยบายรัฐบาลต้องการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าโอทอป โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ ร้านค้า สินค้าและผู้ดำเนินการร้านค้า ซึ่งกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบในการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม ขณะที่ TCDC จะออกแบบร้านค้าซึ่งจะมีหลายรูปแบบเช่น พื้นที่มากจะเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ พื้นที่เล็กๆ จะเป็นร้ายค้าย่อยๆ หรือเป็นรถเข็น ตู้โชว์สินค้า ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องไปดูพื้นที่ของตัวเองว่ามีเท่าไร อยู่จุดไหน ส่วน TCDC นอกจากออกแบบแล้วต้องคัดเลือกสินค้าที่มี มีคุณภาพ มีมาตรฐานและมีแพคเกจที่ดี และหลังเปิดโครงการจะต้องประเมินยอดขายด้วยว่าเป็นอย่างไร นายชัชชาติกล่าวว่า

โดยผู้ดำเนินการร้านค้าเบื้องต้นจะให้เป็นภาครัฐเข้าไปดำเนินการมากกว่าเอกชน เพื่อไมให้มีปัญหา เนื่องจากหลายพื้นที่มีสัญญากับเอกชนอยู่ก่อน และไม่ควรผูกขาดผู้ขายและประเภทสินค้า เพื่อให้มีสินค้าที่มาจำหน่ายมีความหลากหลาย และหมุนเวียนจากหลายแหล่งผลิต และให้เป็นศูนย์บ่มเพาะสินค้าโอทอปที่เป็นผลผลิตจากชาวบ้านโดยตรง มั่นใจว่าผลประโยชน์จะเกิดกับชุมชนและประชาชนอย่างแน่นอน

ด้านพล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นั้นกำลังพิจารณารายละเอียดสินค้าโดยคณะกรรมการจัดสรรโอทอป เพื่อนำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนเครื่องบิน โดยจะมีทั้งที่เป็นของที่ระลึกและเป็นอาหารท้องถิ่นของแต่ละภาคของไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2013 11:11 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟถกเอกชนปรับโฉมหัวลำโพง
บ้านเมือง วันที่ 6/01/2556 เวลา 22:57 น.

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการปรับปรุงสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ใหม่ให้มีความสะอาด และเป็นระเบียบมากขึ้น โดยจะเรียกบริษัท ไทยนครพัฒนา ซึ่งเคยได้รับสัญญาบริหารพื้นที่ก่อนหน้านี้ แต่ปัจจุบันสัญญาหมดอายุแล้ว เข้ามาเจรจาเงื่อนไขการปรับปรุงและผลตอบแทนต่างๆ ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนย้ายการเดินรถทั้งหมดไปอยู่ที่สถานีกลางบางซื่อและหัวลำโพง โดยจะปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายใน 10 ปีนี้ หากบริษัทยินดีที่จะพัฒนาปรับปรุง ก็จะให้สัญญาในช่วงเวลาที่เหลือ แต่ถ้าไม่ทำ รฟท.ก็จะเข้าไปทำเอง โดยจะมีการจัดพื้นที่ภายในสถานีใหม่ให้เหมาะสมและสะอาด โดยปรับย้ายพื้นที่ขายของ และห้องน้ำใหม่

“ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ปรับปรุงอะไร ปล่อยไปตามสภาพซึ่งให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องจัดพื้นที่ใหม่ วางผังร้านค้าให้เป็นระเบียบ หากเจรจาแล้วบริษัทไม่อยากพัฒนาปรับปรุงจะไม่ต่อสัญญาให้ และ รฟท.จะทำเอง ที่ผ่านมาหลังจากที่บริษัทเข้ามาติดแอร์ให้แล้วก็อยู่มาเรื่อยๆ โดยจ่ายค่าเช่าตามที่เคยจ่าย ปีละ 30 กว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้สัญญาหมดอายุไป”

นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ รฟท. กล่าวว่า รฟท.ได้จ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศึกษาการพัฒนาพื้นที่หัวลำโพงหลังจากย้ายการเดินรถไปที่บางซื่อ ซึ่งได้สรุปผลศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาทั้งตัวสถานีและพื้นที่ย่านสถานีประมาณ 121 ไร่ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ออกเป็น 3 ส่วนคือ ตัวสถานีปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ และมีพื้นที่สำหรับแสดงนิทรรศการด้วย, ย่านสถานีจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้า โรงแรม ที่พักอพาร์ตเมนต์ เป็นต้นและก่อสร้างอาคารสำนักงาน รฟท.แห่งใหม่ โดยจะมีการพัฒนาภายหลังจากสถานีกลางบางซื่อก่อสร้างเสร็จหรืออีกประมาณ 2-3 ปี

“หัวลำโพงจะยังให้บริการเดินรถอยู่อีกอย่างน้อย 4-5 ปีนั้น ซึ่งได้สั่งให้เร่งปรับปรุงความสะอาดและย้ายห้องน้ำใหม่ โดยจะเชิญบริษัท ไทยนครพัฒนา มาเจรจาในเรื่องการลงทุนและผลประโยชน์ตอบแทนใหม่ ก่อนพิจารณาต่อสัญญาหรือไม่ เนื่องจากต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อแผนพัฒนาหัวลำโพงในอนาคตด้วย เพราะจะเป็นการใช้ประโยชน์แบบชั่วคราวในช่วงที่รอการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามในเรื่องการปรับปรุงหัวลำโพงนั้น รฟท.พร้อมที่จะเข้าดำเนินการทันทีหากบริษัทไม่ต้องการลงทุนต่อ”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 188, 189, 190 ... 473, 474, 475  Next
Page 189 of 475

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©