Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13261663
ทั้งหมด:13572943
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 292, 293, 294 ... 473, 474, 475  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/05/2017 9:02 pm    Post subject: Reply with quote

วัยรุ่นคึกคะนองปาหินใส่รถไฟทำคนเจ็บ
ช่อง 8 22 พฤษภาคม 2560 เวลา 13:05 น.

วัยรุ่นพิจิตรคึกคะนอง ปาก้อนหินใส่รถไฟขณะวิ่งผ่านอ.ตะพานหิน ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาบนรถได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่กู้ชีพศูนย์พระไวย์เทศบาลเมืองพิจิตร ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับ นางสาวนาจ๋า จำรัสคีรีไพร อายุ 49 ปี ชาวไทยภูเขา ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเลือดอาบ ระหว่างใช้บริการโดยสารขบวนรถไฟเส้นทางสายเหนือกรุงเทพ–เชียงใหม่

โดยขณะที่ขบวนรถไฟแล่นออกมาจากสถานีรถไฟอำเภอตะพานหิน ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบจำนวนใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ขวางปาขบวนรถไฟ ทำให้ก้อนหินถูกศีรษะนางสาวนาจ๋า ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทีมกู้ชีพไม่สามารถห้ามเลือดให้หยุดได้ เพราะแผลลึก เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงต้องนำตัวส่งไปให้แพทย์เย็บบาดแผลที่โรงพยาบาลพิจิตร

อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ ประกอบสุข นายสถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร ร่วมกับพนักงานประจำขบวนรถร่วมกันตรวจสอบตู้โดยสารที่สามของขบวนรถซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุไม่พบความเสียหายของตู้โดยสาร แต่ผู้บาดเจ็บนั่งโดยสารมาได้เปิดบานกระจกทิ้งไว้ หลังจากนี้จะประสานนำตัวผู้เสียหายแจ้งความ ที่ สภ.ตะพานหิน หาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/05/2017 8:19 pm    Post subject: Reply with quote

'การรถไฟฯ'สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย
กรุงเทพธุรกิจ 23 พฤษภาคม 2560

"การรถไฟฯ" สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่เขตสถานี ย่านรับส่งสินค้า อาคารที่ทำการ และทางรถไฟทุกแห่ง
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการแทน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แถลงมาตรการในการป้องกันเหตุอันตราย ภายหลังเกิดเหตุวางระเบิดในสถานที่ราชการ และบริเวณพื้นที่สาธารณะในช่วงที่ผ่านมา โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายฯ สำนักงาน เพิ่มมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่สงบอันจะอาจจะเกิดขึ้นได้ในเขตพื้นที่ของการรถไฟฯ ดังนี้

1. ให้ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแล เฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยในเขตสถานีต่าง ๆ ที่มีการโดยสาร ห้องสุขา ห้องรับฝากสัมภาระ ที่รับส่งสินค้า (ห่อวัตถุและสัมภาระ) ที่หยุดรถ ป้ายหยุดรถ (ที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร) ทุกแห่งทั่วประเทศ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบัง และให้เพิ่มมาตรการป้องกันเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัย สถานีต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ

2. อาคารสถานที่ทำการ โรงรถจักรทุกแห่ง ตลอดจนพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของเอกชน หรือยาม ให้หมั่นตรวจสอบ ดูแล วัตถุต้องสงสัยที่วางทิ้งไว้ผิดสังเกตโดยไม่มีเจ้าของ หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบทันที อย่างได้เข้าใกล้ หยิบฉวย หรือเปิดดูเป็นอันขาด

3. ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ ตลอดจนระบบอาณัติสัญญาณ หากพบสิ่งต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าตรวจสอบทันที

4. ให้ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) อุปกรณ์ไฟส่องสว่างในเขตสถานีและย่านรับส่งสินค้าฯ ทั่วประเทศ ให้ใช้การได้ดีและมีแสงสว่างเพียงพอ ตลอดจนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

5. ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายฯ สำนักงาน ทุกพื้นที่ มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบอันอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ระมัดระวังบุคคลภายนอก ที่อาจแปลกปลอมเข้ามาในบริเวณที่ทำการ โดยเฉพาะเมื่อเห็นหรือทราบว่ามีสิ่งใดผิดสังเกตหรือมีบุคคลใดมีพิรุธเป็นที่น่าสงสัยหรือไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมแจ้งผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางในโอกาสแรกทันที

6. ให้เตรียมช่องทางการติดต่อสื่อสารเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น รับแจ้ง และประสานงานผู้เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมแจ้งผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางในโอกาสแรกทันที

7. ผบก.รฟ. สั่งการ ตำรวจรถไฟทุกหน่วยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งในเขตสถานีและบนขบวนรถ โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจตราอย่างละเอียด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 24/05/2017 10:59 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'การรถไฟฯ'สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย
กรุงเทพธุรกิจ 23 พฤษภาคม 2560


ร.ฟ.ท.สั่งเพิ่มมาตรการป้องกัน-เฝ้าระวังเหตุในพื้นที่การรถไฟฯ
โดย MGR Online

23 พฤษภาคม 2560 14:24 น.
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการแทน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงมาตรการในการป้องกันเหตุอันตรายภายหลังเกิดเหตุวางระเบิดในสถานที่ราชการ และบริเวณพื้นที่สาธารณะในช่วงที่ผ่านมา โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายฯ เพิ่มมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่สงบอันจะอาจจะเกิดขึ้นได้ในเขตพื้นที่ของการรถไฟฯ โดยให้ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแล เฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยในเขตสถานีต่าง ๆ ที่มีการโดยสาร ห้องสุขา ห้องรับฝากสัมภาระ ที่รับส่งสินค้า (ห่อวัตถุและสัมภาระ) ที่หยุดรถ ป้ายหยุดรถ (ที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร) ทุกแห่งทั่วประเทศ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบัง และให้เพิ่มมาตรการป้องกันเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัย สถานีต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ

สำหรับอาคารสถานที่ทำการ โรงรถจักรทุกแห่ง ตลอดจนพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของเอกชน หรือยาม ให้หมั่นตรวจสอบ ดูแล วัตถุต้องสงสัยที่วางทิ้งไว้ผิดสังเกตโดยไม่มีเจ้าของ หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบทันที อย่าได้เข้าใกล้ หยิบฉวย หรือเปิดดูเป็นอันขาด

ขณะเดียวกัน ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ ตลอดจนระบบอาณัติสัญญาณ หากพบสิ่งต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าตรวจสอบทันที

นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) อุปกรณ์ไฟส่องสว่างในเขตสถานีและย่านรับส่งสินค้าฯ ทั่วประเทศ ให้ใช้การได้ดีและมีแสงสว่างเพียงพอ ตลอดจนอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายฯ สำนักงาน ทุกพื้นที่ มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบอันอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ระมัดระวังบุคคลภายนอก ที่อาจแปลกปลอมเข้ามาในบริเวณที่ทำการ โดยเฉพาะเมื่อเห็นหรือทราบว่ามีสิ่งใดผิดสังเกตหรือมีบุคคลใดมีพิรุธเป็นที่น่าสงสัยหรือไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมแจ้งผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางในโอกาสแรกทันที

นอกจากนี้ ให้เตรียมช่องทางการติดต่อสื่อสารเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น รับแจ้ง และประสานงานผู้เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมแจ้งผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางในโอกาสแรกทันที

ขณะเดียวกัน ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ได้สั่งการตำรวจรถไฟทุกหน่วยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งในเขตสถานีและบนขบวนรถ โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจตราอย่างละเอียด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2017 9:14 pm    Post subject: Reply with quote

"สามารถ"จี้นายกฯ สอบประมูลโครงการ ร.ฟ.ท.ให้โปร่งใส-เป็นธรรม
โดย MGR Online
26 พฤษภาคม 2560 14:13 น.

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใส 2 ข้อ ในโครงการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมทางทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวม 292 ล้านบาท ว่า การกำหนดราคากลางสูงเกินจริงเกือบร้อยละ 300 เช่น แม่แรงดัดรางทางราบ มีราคากลางชุดละ 600,000 บาท แต่ราคาตลาดอยู่ที่ชุดละ 152,000 บาท หรือราคากลางสูงกว่าราคาตลาดถึง ร้อยละ 295 เป็นต้น

นอกจากนี้ ทาง ร.ฟ.ท. ยังกำหนดสเปกไม่เปิดกว้างคือ กำหนดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์จะต้องได้มาตรฐานยุโรป (EC) หรือเทียบเท่า ซึ่งเป็นการชี้ชัดไปที่มาตรฐานยุโรปเพียงมาตรฐานเดียวเท่านั้น ทั้งที่ผู้ผลิตในประเทศอื่นสามารถผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ได้มาตรฐานระดับโลกเช่นกัน แต่กลับถูก ร.ฟ.ท.มองข้าม

นอกจากนี้ นายสามารถ ยังเรียกร้องให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อทำให้การประมูลใน ร.ฟ.ท.มีความโปร่งใสและเป็นธรรม นำไปสู่การประหยัดงบประมาณของประเทศ


กลิ่นไม่ดี! ′สามารถ′ แฉประมูลการรถไฟราคากลางสูงเวอร์เกือบ300% จี้′บิ๊กตู่′สั่งสอบ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 26 พฤษภาคม 2560 เวลา 12:47:43 น.


วันนี้ (26 พ.ค.) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม.และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เรื่อง อีกแล้ว! ประมูลที่การรถไฟฯราคากลางสูงเวอร์เกือบ 300% มีรายละเอียดระบุว่า

หลังจากมีการเปลี่ยนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และมีการแต่งตั้งนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวงเป็นรักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างขึ้นมาเพื่อกำกับ เร่งรัด ติดตาม และตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐที่มีวงเงินตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ทั้งนี้ ได้เน้นหนักไปที่การประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ของ ร.ฟ.ท.นั้น ทำให้การประมูลโครงการรถไฟทางคู่มีความเป็นธรรม กล่าวคือมีการปรับแก้ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้างหรือทีโออาร์ (Terms of Reference) ให้เปิดกว้าง ส่งผลให้ผู้รับเหมาขนาดกลางสามารถเข้าร่วมประมูลได้
ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำให้การประมูลโครงการรถไฟทางคู่เกิดความเป็นธรรม ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงผลงานหนึ่งของรัฐบาล

แต่อย่างไรก็ตาม การประมูลโครงการอื่นที่มีมูลค่าไม่สูงยังคงมีปัญหา กล่าวคือ ขณะนี้ ร.ฟ.ท.กำลังอยู่ในระหว่างการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมทางทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่า 292 ล้านบาท ประกอบด้วย (1) เครื่องดัดรางรัศมีจำนวน 8 เครื่อง วงเงิน 60 ล้านบาท (2) ชุด A-Frame หรือเครื่องยกราง จำนวน 322 ตัว วงเงิน 80.50 ล้านบาท (3) เครื่องแม่แรงดัดรางทางราบ 68 ชุด วงเงิน 40.80 ล้านบาท (4) เครื่องเจาะรูรางรถไฟ ขนาด 70-100 ปอนด์ จำนวน 161 เครื่อง วงเงิน 41.86 ล้านบาท (5) เครื่องตัดรางรถไฟขนาด 70-100 ปอนด์ จำนวน 161 เครื่อง วงเงิน 32.20 ล้านบาท และ (6) แม่แรงยกหัวต่อรางทางดิ่งอีก 34 ชุด 36.72 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6 รายการ 292 ล้านบาท

โครงการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากล 2 ประการ ดังนี้

1. กำหนดราคากลางสูงเกินจริงเกือบ 300% จากการเปรียบเทียบราคากลางกับราคาตลาดพบว่า ร.ฟ.ท.ตั้งราคากลางสูงเกินจริงมาก เช่น

1.1 แม่แรงดัดรางทางราบมีราคากลางชุดละ 600,000 บาท แต่ราคาตลาดอยู่ที่ชุดละ 152,000 บาท หรือราคากลางสูงกว่าราคาตลาดถึง 295%
1.2 อุปกรณ์ชุด A Frame ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับยกราง กำหนดราคากลางไว้ที่ตัวละ 250,000 บาท แต่ราคาที่ขายกันในตลาดอยู่ที่ตัวละ 86,000 บาท นั่นคือ ราคากลางสูงกว่าราคาตลาดถึง 190%
1.3 เครื่องเจาะรูราง 70-100 ปอนด์ มีการตั้งราคากลางเครื่องละ 260,000 บาท แต่ราคาในตลาดเครื่องละ 99,000 บาท หรือราคากลางสูงกว่าราคาตลาดถึง 163%

2. กำหนดสเปกไม่เปิดกว้าง

ร.ฟ.ท.ได้กำหนดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องได้รับมาตรฐานยุโรป (EC) หรือเทียบเท่า ซึ่งเป็นการชี้ชัดไปที่มาตรฐานยุโรปเพียงมาตรฐานเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่ ผู้ผลิตในประเทศอื่นก็สามารถผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ได้มาตรฐานระดับโลกเช่นเดียวกัน เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น แต่ถูก ร.ฟ.ท.มองข้ามไป ถึงแม้ว่าได้มีการระบุ “หรือเทียบเท่า” ไว้ก็ตาม แต่ ร.ฟ.ท.ก็ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบเอาไว้ ทำให้ผู้เสนออุปกรณ์ที่ไม่ใช่มาตรฐานยุโรปโดยตรงจะถูกตีตกได้โดยง่าย

อีกทั้ง ร.ฟ.ท. ได้กำหนดให้ผู้ผลิตจะต้องมีผลงานการส่งออกมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเทศ ทำให้ผู้ผลิตในบางประเทศที่เน้นการจำหน่ายภายในประเทศ หรือมีการส่งออกน้อยไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ แม้สามารถผลิตอุปกรณ์ได้มาตรฐานสากลก็ตาม

ความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวถูกทักท้วงจากผู้สนใจเข้าร่วมประมูลบางราย โดยผู้สนใจเหล่านี้ได้ทำหนังสือชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมไปยังนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณาหรือชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น

ผมไม่อยากจะเชื่อเสียงร่ำลืออย่างหนาหูว่าการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์ทั้ง 6 โครงการดังกล่าวข้างต้นนั้นมีการวางตัวผู้ชนะการประมูลไว้เรียบร้อยร้อยแล้วทุกโครงการ ถึงขนาดมีการระบุรายชื่อผู้ที่จะชนะการประมูลทั้ง 6 โครงการส่งมาให้ผมดูไว้ล่วงหน้าเลย

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ประยุทธ์ฯ สั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อทำให้การประมูลใน ร.ฟ.ท.มีความโปร่งใสและเป็นธรรมทั้งหมด ซึ่งจะนำไปสู่การประหยัดงบประมาณของประเทศ เช่นเดียวกับการที่ท่านได้สั่งการให้มีตรวจสอบการประมูลโครงการรถไฟทางคู่มาเมื่อไม่นานนี้ คน ร.ฟ.ท.เขาขอมาครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 30/05/2017 10:49 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ชี้แจงประมูลจัดซื้ออุปกรณ์ซ่อมทางรถไฟเกินความจริง จี้ติดปมคิดราคากลางไม่โปร่งใส
ฐานเศรษฐกิจ
28 พฤษภาคม 2560


ร.ฟ.ท.ชี้แจงการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมทางรถไฟสูงเกินความเป็นจริง ยันคิดราคากลางอย่างโปร่งใส พร้อมชะลอประกาศรายชื่อและสั่งสอบราคาใหม่ให้ได้ความชัดเจนแล้ว

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ชี้แจงกรณีการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมทางรถไฟสูงเกินความจริง จากการดำเนินการประกวดราคาซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมทางรถไฟด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 6 โครงการ โดยแบ่งออกเป็น

โครงการที่ออกประกาศประกวดราคาแล้วและกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติผู้มีสิทธิเสนอราคา จำนวน 4 โครงการ ได้แก่

1. งานประกวดราคาซื้อแม่แรงยกหัวต่อรางทางดิ่ง จำนวน 34 ชุด

2. งานประกวดราคาซื้อแม่แรงดัดรางทางราบ จำนวน 68 ชุด

3. งานประกวดราคาซื้อเครื่องดัดรางรัศมี จำนวน 8 เครื่อง

4. งานประกวดราคาซื้อชุด A-Frame (สำหรับยกเปลี่ยนรางที่ชำรุดในทาง) จำนวน 322 ตัว

โดยทั้ง 4 โครงการ ได้มีการเผยแพร่ร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา รวมไปถึงราคากลาง เพื่อให้สาธารณะชนวิจารณ์และให้ข้อเสนอแนะบนเว็บไซต์ของการรถไฟฯ และกรมบัญชีกลาง ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2560 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่มีผู้วิจารณ์แต่อย่างใด

โครงการที่ยังไม่ออกประกาศประกวดราคาจำนวน 2 โครงการ ได้แก่

1. งานจัดซื้อเครื่องเจาะรูรางรถไฟขนาด 70-100 ปอนด์ จำนวน 161 เครื่อง

2. งานจัดซื้อเครื่องตัดรางรถไฟขนาด 70-100 ปอนด์ จำนวน 161 เครื่อง

โดยทั้ง 2 โครงการ ได้มีการเผยแพร่ร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา รวมไปถึงราคากลาง เพื่อให้สาธารณะชนวิจารณ์และให้ข้อเสนอแนะบนเว็บไซต์ของการรถไฟฯ และกรมบัญชีกลาง ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2560 แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงร่างขอบเขตของงานเนื่องจากมีผู้วิจารณ์ร่างขอบเขตของงานในส่วนของรายการจำเพาะทางเทคนิค

นายอานนท์ ชี้แจงอีกว่า ประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องการพิจารณากำหนดราคากลาง มาตรฐานของสินค้า และผลงานของบริษัทผู้ผลิตนั้น การรถไฟฯ ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ ข้อบังคับ และแนวทางปฏิบัติของทางราชการอย่างถูกต้อง ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

1. การรถไฟฯ ได้พิจารณากำหนดราคากลางสำหรับงานประกวดราคาซื้ออุปกรณ์สำหรับซ่อมทางรถไฟทั้ง 6 โครงการ โดยปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค. 0421.3/ว111 ลงวันที่ 17 กันยายน 2556 และคู่มือแนวทางการเปิดเผยรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลางและการคำนวณราคากลาง ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยพิจารณากำหนดราคากลางจากการสืบราคาจากท้องตลาด จำนวน 3 ราย และใช้ราคาที่ต่ำที่สุดเป็นราคากลาง

2. การกำหนดให้อุปกรณ์ต้องผ่านมาตรฐาน EC หรือเทียบเท่านั้น เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ในการซ่อมบำรุงทางรถไฟต้องเป็นเครื่องมือที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ซึ่งมาตรฐาน EC หรือ Conformite Europeene (CE) หรือมาตรฐานยุโรปนี้ เป็นอีกมาตรฐานหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปอีกทั้งสหภาพยุโรปได้กำหนดให้สินค้าอุตสาหกรรมทุกประเภทที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน CE ซึ่งผู้ผลิตในกลุ่มประเทศอื่น ๆ อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือออสเตรเลีย ที่ต้องการจำหน่ายอุปกรณ์ในสหภาพยุโรป ก็จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน CE และสามารถยื่นเข้าประมูลได้อยู่แล้ว ดังนั้นการกำหนดให้อุปกรณ์ต้องผ่านมาตรฐาน EC หรือเทียบเท่านั้น ก็เพื่อให้ผู้เข้ายื่นประมูลเสนออุปกรณ์ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน ไม่ได้เป็นการล็อคสเปกแต่อย่างใด

3. การกำหนดให้ผู้ผลิตต้องมีผลงานการขายอุปกรณ์ภายนอกประเทศของผู้ผลิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ประเทศนั้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่จัดซื้อดังกล่าวเป็นอุปกรณ์เฉพาะทางที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อเป็นการยืนยันว่าอุปกรณ์ที่เสนอให้กับการรถไฟฯ เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ผู้ผลิตมีประสบการณ์ในการให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ และการรถไฟฯ จะสามารถจัดหาอะไหล่มาซ่อมแซมได้อย่างสะดวกและรวดเร็วหากเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต จึงมีความจำเป็นต้องระบุผลงานการขายอุปกรณ์ภายนอกประเทศดังกล่าว

4. จากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีหนังสือชี้แจงถึงความไม่เป็นธรรมส่งถึงการรถไฟฯ แต่อย่างใด และในขั้นตอนของการเผยแพร่ร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา รวมไปถึงราคากลาง เพื่อให้สาธารณชนวิจารณ์และให้ข้อเสนอแนะบนเว็บไซต์ของการรถไฟฯ และกรมบัญชีกลาง ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2560 นั้น พบว่ามีเพียง 2 โครงการที่มีผู้วิจารณ์ ซึ่งก็เป็นการวิจารณ์ในส่วนของรายการจำเพาะทางเทคนิคเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยในขณะนี้การรถไฟฯ กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงร่างขอบเขตของงานตามข้อวิจารณ์อยู่ ส่วนอีก 4 โครงการ พบว่าไม่มีผู้วิจารณ์แต่อย่างใด การรถไฟฯ จึงได้ดำเนินการออกประกาศประกวดราคา

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส การรถไฟฯ จึงได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องชะลอการแจ้งผลผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา และการเสนอราคาของ 4โครงการที่มีการออกประกาศประกวดราคาแล้วไปก่อน และให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการสืบราคาตลาด รวมไปถึงราคาที่เคยมีการซื้อขายล่าสุดของทุกโครงการเพิ่มเติม ตามที่มีผู้ร้องเรียนมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีอาชีพขายอุปกรณ์สำหรับซ่อมทางรถไฟดังกล่าวที่สนใจ สามารถเข้าไปตรวจสอบร่างขอบเขตของงานได้ที่เว็บไซต์ของการรถไฟฯ www.railway.co.th โดยเลือกหัวข้อ “ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง” และหากประสงค์จะให้ข้อมูลราคาตลาดหรือราคาที่เคยมีการซื้อขายล่าสุดเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดราคากลางใหม่ หรือประสงค์จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกกว่าราคากลาง โดยอาจจะมีรายละเอียดจำเพาะทางเทคนิคที่แตกต่างจากที่ระบุในร่างขอบเขตของงาน แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับที่ระบุในร่างขอบเขตของงาน สามารถส่งข้อมูลได้ที่ กองจัดซื้อจัดจ้าง ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรศัพท์ 0-2220-4429 โทรสาร 0-2220-4429 หรือส่งข้อมูลโดยตรงได้ที่ สำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรศัพท์ 0-2220-4265 โทรสาร 0-2220-4265 ภายในวันที่ 9 มิถุนายน 2560
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 30/05/2017 10:50 am    Post subject: Reply with quote

คณะอนุกรรมการคนร. จี้ รฟท.-ขสมก.-บินไทย ส่งแผนเพิ่มรายได้ลดขาดทุนที่ชัดเจน
ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2017 - 20:06 น.

นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคม ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

โดยในส่วนของ รฟท.นั้น รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. อนุมัติการจัดตั้งบริษัทบริหารพัฒนาสินทรัพย์ของการรถไฟแล้ว ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาของ รฟท. อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน รฟท. มีหนี้สินประมาณ 1 แสนล้านบาท มีภาวะขาดทุนปีละ 7,800 ล้านบาท มีทรัพย์สินซึ่งไม่ได้ใช้ในการเดินรถ สามารถทำรายได้ให้ รฟท.ประมาณ 2,800 ล้านบาท แต่เมื่อคำนวณมูลค่าทรัพย์สินพบว่าผลตอบแทนที่ได้ต่ำกว่า 1% ที่ประชุมจึงอยากให้เพิ่มขึ้นเป็น 5% หากทำได้ก็จะมีรายได้ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดทุนของ รฟท.ได้

นายพิชิต กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามเรื่องการบริหารการเดินรถสายสีแดง ซึ่งอาจต้องมีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารจัดการเดินรถ โดยได้มอบให้ รฟท. ไปจัดทำแผนการบริหารจัดการให้ชัดเจน และกลับมาเสนอที่ประชุมครั้งต่อไปในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับ ขสมก. นั้น ได้รายงานแผนการแก้ปัญหาการขาดทุนปีละ 5,000 ล้านบาท และการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท


โดยยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ จะลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง เชื้อเพลิง บุคลากร และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทุกปีๆ ละ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้การจะลดค่าซ่อมบำรุง และเชื้อเพลิงลงได้คือการเปลี่ยนรถใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2,600 คัน หากสามารถดำเนินการให้มีรถเมล์ใหม่เข้ามาทดแทนได้ ก็จะช่วยลดค่าซ่อมบำรุงได้ 500 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง 1,200 ล้าน รวมเป็น 1,700 ล้านบาท และหากลกค่าใช้จ่ายเรื่องดอกเบี้ยได้อีก ก็จะลดการขาดทุนปีละ 5,000 ล้านบาทได้ นอกจากนี้จะเพิ่มรายได้ที่มาจากบริการภาครัฐ (พีเอสโอ) ด้วย ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบให้ ขสมก. ไปจัดทำแผนให้ชัดเจนว่าจะหารถใหม่มาได้เมื่อไหร่ รวมทั้งให้คำนวณต้นทุนมาตรฐานที่ชัดเจนมาว่ารัฐต้องชดเชยให้เท่าไหร่ และการลดค่าใช้จ่ายเรื่องบุคลากร โดยให้มาเสนอต่อที่ประชุมครั้งต่อไป

นายพิชิต กล่าวด้วยว่า สำหรับการบินไทยนั้น รายงานให้ทราบถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการสายการบินไทยเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบินแฟกเตอร์) อยู่ที่ 84% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 70% โดยที่ประชุมได้ให้ข้อสังเกตว่าเมื่อผู้โดยสารเพิ่มขึ้นแล้ว ต้องพยายามบริหารราคาให้มีประสิทธิภาพโดยนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การเปรียบเทียบราคา การตัดราคาคู่แข่ง เป็นต้น ซึ่งจะเป็นตัวที่ทำให้มีรายได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มอบให้การบินไทยไปจัดทำยุทธศาสตร์การบินไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนมาเสนอที่ประชุมในครั้งต่อไป

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า คาดว่าจะเสนอเรื่องการจัดตั้งบริษัทพัฒนาสินทรัพย์การรถไฟให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนเสนอให้คณะอนุกรรมการฯ คนร. พิจารณาต่อไป.

__________________
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 02/06/2017 12:30 pm    Post subject: Reply with quote

ขุดซ่อมรางรถไฟโคราช พบกระดูกมนุษย์โบราณอื้อ-ชาวบ้านแห่ขอหวย
โดย MGR Online
27 พฤษภาคม 2556 17:33 น.


ขุดซ่อมรางรถไฟโคราช พบกระดูกมนุษย์โบราณอื้อ-ชาวบ้านแห่ขอหวย
คนงานขุดซ่อมรางรถไฟ ใกล้สถานีรถไฟบ้านเกาะ บ้านตลาด ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบโครงกระดูกมนุษย์พร้อมสิ่งของเครื่องใช้สมัยโบราณฝังอยู่ใต้ดินอื้อ คาดอายุกว่า 200 ปี วันนี้ (27 พ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คนงานขุดซ่อมรางรถไฟโคราชพบโครงกระดูกมนุษย์พร้อมสิ่งของเครื่องใช้สมัยโบราณฝังอยู่ใต้ดินอื้อ คาดอายุกว่า 200 ปี ชาวบ้านทราบข่าวแห่ขอหวยตามความเชื่อและนำไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณที่ล่วงลับ

วันนี้ (27 พ.ค.) ร.ต.อ.ไพศาล อัยรา ร้อยเวร สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากคนงานที่กำลังปรับปรุงรางรถไฟว่า ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ฝังอยู่ใต้ดินจำนวนหลายโครงบริเวณที่ดินการรถไฟฯ ใกล้กับสถานีรถไฟบ้านเกาะ ภายในหมู่บ้านตลาด ม.3 ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ประจำจุดตำบลจอหอ และแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมารุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบคนงานรวมถึงชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวกำลังช่วยกันขุดดิน และแยกย้ายกันค้นหาโครงกระดูก พบโครงกระดูกมนุษย์สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ทราบเพศ รวม 3 โครง และมีเศษกระดูกมนุษย์อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางรายขุดพบข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณจำนวนมาก เช่น หม้อ ไห ลูกปัด และเศษเหรียญเงินโบราณ ซึ่งชาวบ้านที่ขุดพบต่างจุดธูปเทียนบูชาขอโชคลาภและเลขเด็ดเพื่อนำไปซื้อหวย โดยบางรายได้จุดธูปเพื่อขออนุญาตสิ่งเร้นลับนำลูกปัด รวมถึงเศษฟันที่ขุดพบในบริเวณดังกล่าวกลับไปบูชาตามความเชื่อ

เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า ที่ดินที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์และเครื่องใช้โบราณต่างๆ ดังกล่าวเป็นที่ดินของทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะที่คนงานกำลังใช้รถแบ็กโฮขุดดินเพื่อปรับปรุงสถานที่ ได้มีคนงานสังเกตเห็นโครงกระดูกมนุษย์ปะปนมาอยู่กับเศษดิน จึงช่วยกันสำรวจก็พบว่ามีโครงกระดูกมนุษย์ฝังอยู่ใต้ดินที่ความลึกประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งตอนแรกเกรงว่าจะเป็นศพที่ถูกฆาตกรรมแล้วนำมาฝังอำพรางคดี จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ด้าน ร.ต.อ.ไพศาลกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบและสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงให้การตรงกันว่า โครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบในครั้งนี้น่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เนื่องจากในที่เกิดเหตุนอกจากจะพบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวนมากแล้ว ยังมีหม้อ ไห และเศษเหรียญโบราณอีกจำนวนหนึ่งฝังรวมอยู่ด้วย ซึ่งเบื้องต้นตนได้ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบให้หารือกับชาวบ้านว่าจะดำเนินการกับโครงกระดูกมนุษย์ทั้งหมดอย่างไรต่อไป

ส่วนนายรุ่งเพชร ขึงโพธิ์ กำนันตำบลบ้านโพธิ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ต่างลงความเห็นว่าจะนำโครงกระดูกที่ขุดพบ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ โดยจะมีการตั้งสวดทำบุญให้ที่วัดโคกตลาด ต.ตลาด อ.เมืองนครราชสีมา เป็นเวลา 2 วันเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 07/06/2017 1:00 am    Post subject: Reply with quote

ไทย-ญี่ปุ่นเอ็มโอยูความร่วมมือด้านระบบราง
ฐานเศรษฐกิจ
6 มิถุนายน 2560

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับนายเคอิฉิ อิชิอิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (H.E. Mr. Keiichi ISHII, Minister of Land, Infrastructure, Transport and Tourism: MLIT) โดยมี นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้แทน สนข. รฟท. เข้าร่วมหารือ ในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านระบบรางและความปลอดภัยทางถนน ซึ่งญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังการหารือได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือด้านระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2560 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/06/2017 7:13 pm    Post subject: Reply with quote

พบหมึกพิมพ์ตั๋ว รฟท. พิมพ์ตลับละ 1.3 หมื่น เหลือ 3-4 พันฉบับ
PPTV HD 17:36น. 12 มิ.ย. 2560

มีประเด็นที่น่าสนใจจากการพิมพ์ตั๋วของการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อ PPTV พบเอกสารสำคัญจากสถานีรถไฟหลายแห่ง ที่ร้องเรียนกลับไปยังการรถไฟว่า หมึกพิมพ์ ที่ใช้สำหรับพิมพ์ตั๋วรถไฟ มีความผิดปกติ เพราะพิมพ์ได้น้อยลง

เอกสารจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ แจ้งกลับไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ระบุว่า หมึกพิมพ์ ยี่ห้อใหม่ ที่เปลี่ยนมาใช้ คือ อัลต้าวิสต้า สามารถใช้พิมพ์ตั๋วได้เพียง 3500 – 4000 ฉบับเท่านั้น ต่อหมึก 1 ตลับ จากเดิม ที่เคยพิมพ์ได้ถึง 13000 – 15000 ฉบับ ต่อหมึก 1 ตลับ

ส่วนสถานีชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่งเอกสาร ลงวันที่ 12 มกราคม 2560 ร้องเรียนในลักษณะเดียวกัน แม้ไม่ได้ระบุว่า หมึกพิมพ์ 1 ตลับ พิมพ์ตั๋วได้กี่ฉบับ แค่ก็พบความผิดปกติอย่างชัดเจน เพราะหมึกพิมพ์ 1 ตลับ ที่เคยใช้ได้ 1 เดือน เหลือใช้ได้เพียง 4-7 วันเท่านั้น

เมื่อได้รับข้อมูลเช่นนี้ ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ และได้ภาพที่น่าสนใจ คือ หมึกพิมพ์ที่ใช้พิมพ์ตั๋วรถไฟ สีจางลงทั้งที่เคยพิมพ์ได้จำนวนมากกว่านี้มาก แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลกลัพบว่า ปัญหาที่พิมพ์ได้น้อยลง อาจไม่ใช่เพราะการเปลี่ยนยี่ห้อมหมึก แต่ไปพบว่า มีการสั่งซื้อหมึกเก็บไว้มากผิดปกติ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/06/2017 7:17 pm    Post subject: Reply with quote

ตรวจสอบพบ จนท.การรถไฟฯ สั่งซื้อหมึกพิมพ์ตั๋ว ปี 58 ล้นสต็อก
PPTV HD 17:38น. 12 มิ.ย. 2560

นอกจากการไปที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ทีมข่าว PPTV ยังพบเอกสารการสั่งซื้อหมึกพิมพ์ตั๋วรถไฟมากผิดปกติ ในปี 2558 จากที่เคยสั่งซื้อ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง แต่ช่วงนั้นกลับสั่งซื้อหมึกในปริมาณเท่าเดิมถึงเดือนละ 3 ครั้ง ทำให้มีหมึกพิมพ์เหลืออยู่จำนวนมากมาถึงวันนี้ และบางส่วนเสื่อมคุณภาพ

ตรวจสอบพบ จนท.การรถไฟฯ สั่งซื้อหมึกพิมพ์ตั๋ว ปี 58 ล้นสต็อก
ตั๋วรถไฟที่ออกจากสถานีวงเวียนใหญ่ 2 ใบนี้ มีสีหมึกพิมพ์ต่างกันอย่างชัดเจน เมื่อนำมาวางเทียบกัน ด้านบนเป็นตั๋วใบแรกของตลับหมึก ตัวหนังสือมีสีเข้มมองเห็นชัดเจน ส่วนด้านล่างเป็นตั๋วใบสุดท้ายของหมึกตลับนี้ คือ ใบที่ 7875 สีของตัวหนังสือ จางจนแทบมองไม่เห็นแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หมึกพิมพ์ 1 ตลับ เคยพิมพ์ตั๋วได้มากกว่า 13,000 ฉบับ

อมรชัย นิศรี ผู้ช่วยนายสถานีวงเวียนใหญ่ บอกว่า หมึกตลับที่ใช้อยู่ เป็นตลับที่ดีกว่าช่วงปลายปีที่แล้ว เพราะช่วงนั้น พิมพ์ได้เพียง 3500 – 4000 ฉบับ จึงเข้าใจกันว่า มีปัญหาที่คุณภาพหมึก เพราะก่อนหน้านั้น การรถไฟ เปลี่ยนหมึกพิมพ์ จากยี่ห้อโอกิ มาเป็น อัลต้าวิสต้า เมื่อปี 2555

อีกหนึ่งสมมติฐาน คือ ข้อสงสัยที่ว่า หมึกพิมพ์อัลต้าวิสต้า ที่เปลี่ยนมาใหม่ มีปัญหาตั้งแต่ต้นทางหรือไม่ หรือเจ้าหน้าที่ ไม่แยกหมึกพิมพ์ล็อตเก่ากับล็อตใหม่ออกจากกัน เพราะช่วงปี 2558 พบการสั่งซื้อหมึกจำนวนมาก แต่ก็ยากที่จะตรวจสอบ เพราะ กล่องตลับหมึก ที่การรถไฟฯ ส่งมาให้ ไม่มีตัวเลขรอบจัดส่ง และไม่มีวันที่ผลิต

รายงานเสนอซื้อผ้าหมึกยี่ห้ออัลต้าวิสต้า 18 ฉบับ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึง ตุลาคม 2558 คือ เอกสารที่พบว่า ผิดปกติ เพราะในระยะเวลาเพียง 6 เดือนติดกัน มีเอกสารขอซื้อหมึกพิมพ์ ถึง 18 ครั้ง ครั้งละ 1 แสนบาท ตามที่กำหนดไว้ มูลค่ารวมกัน 1 ล้าน 8 แสนบาท และตัวเลขหนังสือเรียงกันต่อเนื่อง ทั้งที่โดยปกติแล้ว การรถไฟฯ จะซื้อหมึกพิมพ์ประมาณ 3 เดือน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น หมายความว่า ในเวลา 6 เดือนที่ขอซื้อ 18 ครั้ง ควรขอซื้อเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ทั้งที่การขอจัดซื้อหมึกพิมพ์มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วว่าจะไม่ซื้อมาเก็บไว้นาน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้


https://www.youtube.com/watch?v=kWSHGWQx7iQ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 292, 293, 294 ... 473, 474, 475  Next
Page 293 of 475

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©