ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 06/02/2018 5:21 pm Post subject:

ตำรวจรถไฟยึดไอซ์น้ำหนักกว่า 300 กก.คนร้ายไหวตัวทัน กระโดดรถไฟหนี
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 08:41:00

ตร.ยึดรถไฟทั้งขบวน! ลุยค้น18ตู้ผงะยาไอซ์900ล้าน ซุก9กระเป๋า 4 คนขนโดดหนีกลางทาง
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 - 02:49 น.

พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่จำนวน 5 ใบ และกระเป๋าเป้อีกจำนวน 4 ใบ พบยาไอซ์ชนิดบรรจุถุงซุกซ่อนจำนวน 250 ถุง น้ำหนักรวมกว่า 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ในขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก ขณะกำลังวิ่งเข้าสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่วนคนร้าย 4 คน ไหวตัวได้ทัน กระโดดรถไฟหลบหนี

แก๊งขนไอซ์ทางรถไฟล็อตมหึมาเผยรับจ้างมา 1 แสน ปลายทางหาดใหญ่
โดย: MGR Online

เผยแพร่: วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 09:43:00

ราชบุรี - เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบตัวคนร้ายที่ลักลอบนำยาไอซ์250 กิโลขึ้นรถไฟนำลงใต้ไว้ได้คาแมนชั่น รับสารภาพรับจ้างมา 1 แสนบาท ปลายทางที่หาดใหญ่

จากเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ทำการตรวจค้นกระเป๋าของผู้โดยสาร ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถเร็วที่ 171 ทางเทพ - สุไหงโกลก ระหว่างถึงสถานีรถไฟบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 5 ใบและเป้สะพาย 4 ใบ

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเปิดกระเป๋าและเป้ ออกดูภายในพบยาไอซ์ 250 ก้อน รวมน้ำหนัก 250 กิโลกรัม ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ แต่ทราบว่า กระเป๋าทั้งหมดเป็นของชายหนุ่ม 4 คน ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจสอบกระเป๋าของผู้โดยสารตามที่นั่งอยู่นั้น ชายทั้งสี่ได้รีบพากันลงจากขบวนรถไฟขณะจอดที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง

เมื่อทราบดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ จึงได้ประสานกับ พล.ต.ต.อานุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง ขอความร่วมมือในการติดตามชายทั้งสี่คน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ กล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟ และกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จับภาพชายต้องสงสัยทั้งสี่คนได้อย่างชัดเจน ขณะลงจากขบวนรถไฟ แล้วพากันเดินและวิ่งเข้าไปในตลาดบ้านโป่ง แล้วหายไป

พล.ต.ต.อนุภาพ จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสานกับ นายประยงค์ จันทเต็ง นอภ.บ้านโป่ง ขอสนับสนุนกำลังของฝ่ายปกครอง มาช่วยค้นหา จนกระทั่งเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 6 ก.พ.61 กำลังของเจ้าหน้าที่ใช้วิธีทั้งปิดล้อมและปูพรมตรวจค้นหาตาม โรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โฮมสเตย์ และเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นภายใน "บ้านโป่ง แมนชั่น" พบชายสามคน ตามภาพวงจรปิด จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน

ทราบชื่อต่อมคือ นายจักรพัชร หรือเฟิร์ส พุ่มพวง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 3 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นายวิศรุต หรือตี๋ ตราชัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 5 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และนายพลธวัช หรือแซม มะละ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 6 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายดำ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล จำนวน 1 แสนบาท ขนยาไอซ์จาก จ.นครพนม นำขึ้นรถทัวร์ แล้วต่อแท็กซี่ มาขึ้นขบวนรถไฟสถานีหัวลำโพง เพื่อนำไปส่งที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เมื่อไปถึงจะมีคนมารับของต่อ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ทำการตรวจกระเป๋าของผู้โดยสารทั้งหมดและนายสุริยันต์ บุญเทียม อายุ 32 ปี เพื่อนอีกคนที่หลบหนีไปได้ เห็นท่าไม่ดีจึงรีบลงจากขบวนรถที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง แล้วพากันเดินหลบหนี

โดยนายสุริยันต์ เพื่อนอีกคนแยกเดินไปอีกทาง เมื่อเห็นว่าค่ำมืดแล้วหากเดินไปอาจถูกจับได้ พวกตนเองจึงพากันเข้าไปเช่าห้องพัก ที่แมนชั่นดังกล่าว หลับนอนและหลบซ่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงมอบผู้ต้องหาทั้งหมดให้กับทาง บช.ปส. ทำการขยายผล พร้อมออกติดตามจับกุมตัว นายสุริยันต์ เพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีต่อไป

จะเยอะไปไหน!? ยึดยาไอซ์ส่งทางรถไฟลงใต้ 300 กก. มูลค่าร่วมพันล้าน!
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 04:23:00
ปรับปรุง: วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 2561 09:35:00
3 ผู้ต้องหา ขนไอซ์ 300 กิโล ซุกรถไฟ ส่งหาดใหญ่จ่อข้ามประเทศ จนมุม ตร.
โดย ไทยรัฐออนไลน์
วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 10:01

บุกจับคาแมนชั่น! ทีมขนยาไอซ์ 900 ล้านโดดรถไฟหนีกลางทางที่บ้านโป่ง เร่งล่าอีก 1(คลิป)
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 - 04:31 น.
ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจรถไฟ ร่วมกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยึดยาไอซ์บรรจุในกระเป๋าเดินทางรวม 9 ใบ บนรถไฟขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ส่วนขบวนการขนยาไอซ์ครั้งนี้อย่างน้อย 4 คน หลบหนีขณะที่รถไฟกำลังเข้าจอดที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง เบื้องต้น ตรวจนับแล้วพบยาไอซ์ 250 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ล่าสุด ตำรวจจับได้แล้ว 3

วานนี้ (5 ก.พ.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจรถไฟ ร่วมกับตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จังหวัดนครปฐม ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจทางหลวง ร่วมกันเปิดกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จำนวน 5 ใบ สีเขียวอ่อน สีเหลือดหมู สีดำ สีม่วง และสีฟ้า และกระเป๋าเป้สะพายอีก 4 ใบ บนขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก

โดยมี พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.มงคล พรหมเมศร์ สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จังหวัดนครปฐม ตำรวจทางหลวง มาร่วมตรวจสอบ เนื่องจากพบว่า กระเป๋าเดินทาง และเป้สะพายทั้งหมดภายในมียาไอซ์บรรจุอยู่

ทั้งนี้ ตำรวจรถไฟ และตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ได้สืบทราบว่า จะมีขบวนการลำเลียงยาไอซ์ล็อตใหญ่ทางรถไฟลงสู่ภาคใต้ ซึ่งหลังจากรถไฟขบวนดังกล่าวออกจากกรุงเทพฯ และกำลังแล่นเข้าสถานีรถไฟบ้านโป่ง นั้น คาดว่ากลุ่มขบวนการที่ขนยาไอซ์เป็นชายอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถไฟดังกล่าวพร้อมกระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าเป้สะพาย ในโบกี้ที่ 13/14 ซึ่งพบว่า เป็นรถนอนแบบพัดลม และมีที่เก็บของ

ขณะที่รถไฟกำลังชะลอความเร็วแล่นเข้าจอดที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง มีผู้พบเห็นชาย 4 ราย น่าจะเป็นผู้ที่ขนยาไอซ์มาเกิดไหวตัวทัน และลงรถไฟหลบหนีไฟที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง ขณะรถไฟแล่นออกที่สถานี ซึ่งเมื่อตำรวจรถไฟ และตำรวกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ได้เข้าตรวจค้นบนโบกี้จึงพบกระเป๋าทั้งหมดภายในโบกี้ที่ 13/1 เลขที่นอน/นั่ง 1-4 พบกระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าเป้สะพาย หลังจากนั้น จึงได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบนโบกี้ทั้ง 18 ตู้ และนำของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดมาลงที่สถานีรถไฟหัวหิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถไฟดังกล่าวได้แล่นมาถึงสถานีรถไฟหัวหิน เมื่อเวลา 18.30 น. โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ มาเสริมชุดที่ควบคุมอยู่บนรถไฟ ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟแล่นมาจอดที่สถานีรถไฟหัวหิน เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้ทุกคนที่โดยสารมากับรถไฟลง และประชาชนที่จะโดยสารไปกับขบวนรถไฟขึ้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดร่วมกันตรวจค้นบนโบกี้ทั้ง 18 โบกี้ ซึ่งไม่พบผู้ต้องสงสัย โดยใช้เวลานานประมาณครึ่งชั่วโมง

หลังจากนั้นจึงขนกระเป๋าเดินทางทั้ง 9 ใบ ไปทำการเปิด ซึ่งพบว่า ทั้ง 9 ใบมียาไอซ์บรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าเป้สะพายทุกใบ ซี่งกระเป่าเดินทางบางลูกบรรจุยาไอซ์ตั้งแต่ 36-44 ก้อน ส่วนเกระเป๋าเป้ บรรจุยาไอซ์ตั้งแต่ 10-14 ก้อน โดยได้เปิดกระเป๋า และทำการนับจำนวนไว้ทั้งหมดว่ากระเป๋าสีอะไรพบยาไอซ์จำนวนกี่ก้อน รวมทั้งกระเป๋าเป้ นอกจากนั้นแล้วตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จังหวัดนครปฐม ยังได้ทำการเก็บรอยนิ้วมือ และดีเอ็นเอต่างๆ ตามกระเป๋า และถุงที่บรรจุยาไอซ์ของแต่ละกระเป๋าอีกด้วย

เบื้องต้น พบว่าจำนวนยาไอซ์ที่ติดไว้ที่กระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าเป้แต่ละใบพบว่ามีจำนวนรวมกันทั้งหมด 250 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1.2 กิโลกรัม รวมน้ำนักทั้งหมดประมาณ 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท เบื้องต้น จะมีการขนของกลางทั้งหมดเข้ากรุงเทพฯ โดยเร็วที่สุด

ล่าสุด กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ติดตามจับตัวได้แล้ว 3 คน ที่ห้องพักแมนชันแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านโป่ง และพบตั๋วโดยสารรถไฟ และรถทัวร์ที่เดินทางมาจากภาคอีสาน พร้อมโทรศัพท์มือถือ และที่เหลืออีก 1 คน ที่หลบหนี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว

Mongwin · Posted: 08/02/2018 12:47 pm Post subject:

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 (Public Debt Outstanding Report as of December 31, 2017)

https://media.thaigov.go.th/uploads/document/142/2018/02/pdf/022th.pdf

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.76 ของ GDP
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ ได้รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.76 ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,027,438.43 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 940,263.45 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน* (รัฐบาลค้ำประกัน) 393,062.98 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 10,651.26 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,947.43 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

* หนี้รัฐบาล จำนวน 5,027,438.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 68,112.31 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้
• การกู้เงินตามแผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และเพื่อการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 66,940.50 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 48,440.50 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินคลัง 22,500 ล้านบาท และการไถ่ถอนพันธบัตร 4,000 ล้านบาท
• การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้น 2,751.79 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,562.08 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า - แก่งคอย จำนวน 620.97 ล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 620.10 ล้านบาท โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงฯ จำนวน 256.01 ล้านบาท และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต จำนวน 65 ล้านบาท และ (2) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,189.71 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจำนวน 650.17 ล้านบาท สายสีน้ำเงินจำนวน 303.19 ล้านบาท สายสีส้มจำนวน 226.96 ล้านบาท และสายสีม่วงจำนวน 9.39 ล้านบาท
• การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) จำนวน 1,220 ล้านบาท และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) จำนวน 16.31 ล้านบาท
• หนี้ต่างประเทศลดลงสุทธิ 343.67 ล้านบาท เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินกู้สกุลเงินเยน การชำระคืนหนี้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

* หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 940,263.45 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 16,385.65 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
• หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้น 561.52 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย
• หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลง 16,947.17 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

* หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 393,062.98 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 4,735.38 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

* หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 10,651.26 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,043.85 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 จำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,076,002.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.36 และหนี้ต่างประเทศ 295,413.86 ล้านบาท (ประมาณ 8,960.62 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 4.64 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,811,242.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.21 และหนี้ระยะสั้น 560,173.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.79 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 02 265 8050 ต่อ 5520

Mongwin · Posted: 08/02/2018 9:41 pm Post subject:

คลังกู้ชดเชยขาดดุลงบฯกลางปี’61 อีก 1 แสนล้าน – ลงทุนรถไฟอีก 8 พันล้าน
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 - 16:33 น.

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกํากับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2561 โดยสาระสำคัญจะมีการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณกลางปี 2561 เพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ จะมีการปรับแผนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มขึ้นอีก 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นผลดีต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการบริหารหนี้ใหม่ภายใน 2 สัปดาห์

สำหรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2561 เดิม มีวงเงิน 1.124 ล้านล้านบาท เป็นการกู้เงินใหม่ 6.07 แสนล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวน 4.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โครงการระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน และ โครงการรถไฟทางคู่ของรฟท.

สำหรับการบริหารนี้ส่วนที่เหลือเป็นการกู้เงินปรับโครงสร้างหนี้เดิมจำนวน 5.16 แสนล้านบาท โดย สบน. เห็นควรระดมทุนจากภายในประเทศโดยการกู้เงินในรูปแบบพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้อื่นๆ เป็นหลัก โดยมีการกู้เงินสกุลต่างประเทศจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศบางส่วนสำหรับโครงการที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ

นายประภาศ กล่าวว่า การบริหารหนี้สาธารณะ จะเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย เพื่อต้นทุนและความเสี่ยง โดยในปี 2561 สบน. จะเร่งดำเนินการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งชำระคืนหนี้ต่างประเทศที่มีต้นทุนสูงกว่าอัตราตลาดในปัจจุบัน โดยเปลี่ยนมาใช้เงินกู้ในประเทศทดแทน (Refinancing) ซึ่งได้มีการดำเนินการคืนเงินกู้ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) วงเงิน 3.65 หมื่นล้านบาท มากู้ภายในประเทศ แม้ว่ามีต้นทุนดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ คลังยังได้ทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน หรือ สวอป เงินกู้ของไจก้า ที่ให้กู้กับ รฟม. 882 ล้านบาท และร.ฟ.ท. 1.1 หมื่นล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 0.4% ต่อปี ทำให้เงินกู้ต่างประเทศส่วนนี้ไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อไป

“การบริหารจัดการเงินสดจะทำในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้ระดับเงินคงคลังอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่น้อยหรือมากเกินไป หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เห็นชอบแก้ไขกฎหมายหนี้สาธารณะ และกฎหมายเงินคงคลัง เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะทำให้คลังกู้เงินระยะสั้นเพื่อบริหารเงินคงคลังไม่เกิน 3% ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย และยังให้สามารถขยายเวลาการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลให้สอดคล้องกับการใช้เงินจริง ไม่ต้องเร่งกู้ก่อนสิ้นปีงบประมาณทั้งที่โครงการยังไม่มีความพร้อมจะใช้เงิน”นายประภาศ กล่าว

นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สบน. เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 มีจำนวน 6.37 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 41.76% ของจีดีพีแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5.02 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 9.4 แสนล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน รัฐบาลค้ำประกัน 3.93 แสนล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.06 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 4.59 หมื่นล้านบาท

Mongwin · Posted: 09/02/2018 8:55 am Post subject:

“สมคิด” แก้เผือกร้อนรถไฟ สร้างมิติใหม่ยกระดับการตลาด-บริการ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 - 08:30 น.

นับเป็นครั้งที่สองของขุนพลเศรษฐกิจ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ควงขุนคลังบุกหัวลำโพง เกาะติดงานระบบรางใต้ปีก “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย” มีศิษย์เอก “อานนท์ เหลืองบริบูรณ์” นั่งกุมบังเหียน

ถึงเวลานี้องค์กรม้าเหล็กที่มีภาระหนี้ร่วม 1 แสนล้านบาท จะยังไร้ผู้ว่าการตัวจริงมาบริหารงาน แต่ “อานนท์”ที่ข้ามห้วยจาก “กรมทางหลวง” แบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ก็ฟันฝ่าการทำงานสไตล์ที่ได้ชื่อว่า “ดินแดนสนธยา” จนสามารถผลักดันโปรเจ็กต์ด่วนจี๋และร้อนฉ่า จนเป็นที่น่าพอใจ

ไม่ว่าไฮสปีดเทรนสายแรกของประเทศไทย “กรุงเทพฯ-นครราชสีมา” โปรเจ็กต์ความร่วมมือของสองมิตรประเทศ “ไทย-จีน” ที่สามารถเข็นจนเริ่มคิกออฟงานถมคันดินเฟสแรก “กลางดง-ปางอโศก” เป็นที่เรียบร้อย

ต่อด้วยปิดดีลเซ็นสัญญาบิ๊กลอตรถไฟทางคู่ 9 สัญญา สั่งลาปี 2560 ด้วยเม็ดเงิน 7 หมื่นล้านบาท

สเต็ปต่อจากนี้ “สมคิด” วางไทม์ไลน์ให้ ร.ฟ.ท.เร่งเครื่องรถไฟทางคู่ 14 เส้นทางที่เหลือให้เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวและเพื่อนบ้าน สร้างรายได้

“วันนี้ที่มาพร้อมรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีคมนาคม จะมาบอกกล่าวกับทางผู้บริหารรถไฟว่า ในอนาคตข้างหน้าการสร้างความเชื่อมโยงของการพัฒนา ไม่ว่าภายในประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้าน เราจะให้ความสำคัญกับรถไฟเป็นอย่างยิ่ง ให้รีบดูรีบปรับปรุงโครงการทั้งหลายที่คิดกันอยู่ให้สอดรับกับนโยบาย”

ขณะนี้อยู่ในช่วงการเตรียมงบประมาณของปี 2562 ขอเน้นการสร้างเส้นทางรถไฟสายหลัก ทั้งรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง รถไฟทางคู่สายใหม่ รถไฟเพื่อการท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ไปเมืองรอง สร้างการเข้าถึงท้องถิ่น และภูมิภาค

Click on the image for full size

ส่วนแผนการฟื้นฟูองค์กร หลัก ๆ จะสร้างรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพและการเดินรถที่พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ ทั้งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้า อาจจะมีตั้งบริษัทลูก 2-3 บริษัทมาบริหาร เช่น บริษัทบริหารทรัพย์สิน จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) นัดพิเศษ หลังทำรายละเอียดแผนงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว

“ดูจากตัวเลข ได้คุยกับรัฐมนตรีคลัง โอกาสฟื้นฟูมีสูงมาก เพราะประสิทธิภาพรถไฟมี แต่ต้องดูแลใกล้ชิด ด้านกำลังคนรองรับโครงการใหม่ ๆ ก็สำคัญ ได้กำชับให้รัฐมนตรีช่วยไพรินทร์ดูแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพและกำลังคน ให้รถไฟเป็นความหวังของประชาชนให้ได้ มาวันนี้ค่อนข้างพอใจ หวังอย่างยิ่งจะเห็นมิติใหม่ของการรถไฟฯแข็งแรงขึ้นหลังชะงักมาหลายปี”

ขณะที่การปรับขึ้นค่าโดยสาร ซึ่งอยู่ในแผนฟื้นฟูองค์กร ให้นโยบายไปว่า ก่อนขึ้นค่าโดยสาร ต้องพัฒนาบริการให้คนเห็นว่าบริการดี ทั้งหมดต้องไปด้วยกัน

ด้าน “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” เจ้ากระทรวงคมนาคม ขยายความเพิ่มว่า จะเร่งเดินหน้าลงทุนในโครงการหลัก ๆ เช่น รถไฟทางคู่เฟส 2 ปีนี้เดินหน้าต่อ 9 เส้นทาง ถือว่าเป็นการปฏิรูปรถไฟครั้งใหม่ในรอบ 120 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วนปี 2561

ส่วนเส้นทางใหม่ให้สร้างเส้นทางส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวและการเดินทางของประชาชน ไม่ใช่สร้างเฉพาะจากกรุงเทพฯไปต่างจังหวัด อีกทั้งให้รถไฟทำการตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟกำลังได้รับความนิยม

โครงการสำคัญอื่น ๆ ที่กำลังเร่งรัด มีเส้นทางเชื่อมไปยังพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการเชื่อมระหว่างประเทศ มีสร้างรถไฟไทย-จีนต่อจากนครราชสีมา-หนองคายเชื่อมกับรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนที่เวียงจันทน์ และรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

ยังมีโครงข่ายเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก ที่ศึกษาแล้วมีบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ส่วนบ้านไผ่-นครสวรรค์-ตาก ยังศึกษาร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลี

“การปรับโครงสร้างองค์กร จะแยกบริษัทลูกออกมาในเรื่องการบริหารสินทรัพย์ในเดือน ก.ย. จะเห็นเป็นรูปธรรม เรื่องการตลาดธุรกิจต่อเนื่องจากการรถไฟฯ มีพื้นที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เป็นแพ็กเกจ และเชื่อมโยงกับธุรกิจเอกชน จากแผนฟื้นฟูที่รถไฟทำ ตั้งเป้าปี”63 จะมีอีบิตด้าเป็นบวก”

ขณะที่ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่า รถไฟฯตั้งเป้าปี 2563 จะมีกำไรเป็นบวก มาจากการบริหารทรัพย์สินจะมีรายได้เข้ามาก่อน ซึ่งมีสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีที่มีขนาดใหญ่เท่าสุวรรณภูมิ ถ้าบริหารได้ดี จะเป็นรายได้หลัก ส่วนการเดินรถจะมีกำไรหลังปี 2563 แต่ในระยะยาวรายได้จากการขนส่งสินค้าจะแซง เนื่องจากมีทางคู่ทำให้การขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น 4 เท่า

Mongwin · Posted: 10/02/2018 5:15 am Post subject:

บอร์ดรถไฟ อนุมัติเปิดประมูลสนามกอล์ฟหัวหินพันล้าน – ต่อสัญญาโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 - 21:06 น.

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติให้เปิดประมูลให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนบริหารสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน (Royal Hua Hin Golf Course) ขนาด 500 ไร่ หลังหมดสัญญาระยะยาวกับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มูลค่าโครงการประมาณ 1 พันล้านบาท โดยหลังจากนี้ รฟท. จะต้องกลับไปทำตามขั้นตอนพีพีพี ให้แล้วเสร็จและนำเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการพีพีพีให้พิจารณต่อไป

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบให้ต่อสัญญาเช่าที่ดินโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ ที่กำลังจะหมดสัญญาเช่าในปี 2564 โดยให้การรถไฟฯ ไปเจรจาต่อรองรูปแบบ อัตราผลตอบแทนที่รถไฟฯ จะได้รับกับผู้เช่ารายเดิมคือ บริษัท โกลเด้นแอสเซ็ท จำกัด ซึ่งจากผลการศึกษาความคุ้มค่าโครงการเห็นควรว่าควรต่อสัญญาเช่าใหม่ในเป็นระยะเวลา 20 ปี จะทำให้การรถไฟฯ ได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด

นายอานนท์กล่าวต่อว่า บอร์ด ยังมีการพิจารณาเรื่องแผนการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยบอร์ดยังไม่อนุมัติให้มีการเซ็นสัญญาชื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจาก ปตท. เนื่องจากต้องการให้การรถไฟฯ ไปทำการเจรจาต่อรองส่วนลดราคาน้ำมันให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งต่อรองระยะเวลาการทำสัญญาด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ บอร์ด พิจารณาเรื่องการนำเข้าชิ้นส่วนราง ตัวรถ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในโครงการรถฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยการรถไฟฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดนั้น กรมสรรพากรได้ชี้แจงมาว่าจะต้องเสียภาษีแวต 7% เหมือนกับสินค้าทั่วๆ ไปด้วย แม้ว่าจะเป็นโครงการที่การรถไฟฯ ใช้เงินกู้ในการนำเข้าสินค้า โดยบอร์ดขอให้ การรถไฟฯ ทำหนังสือสอบถามความชัดเจนไปยังสำนักบริหารหนี้ กระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อขอรับทราบหลักการว่าการใช้เงินกู้ในการจ่ายเพื่อนำเข้าสินค้าจะต้องเสียภาษีแวตหรือไม่อย่างไร หากจะต้องจ่ายภาษี สบน. จะมีแนวทางจัดสรรเงินในส่วนนี้ให้การรถไฟฯ ได้บ้าง รวมไปถึงการรถไฟฯ สามารถใช้เงินในส่วนอื่น หรือโครงการอื่นมาจ่ายภาษีได้หรือไม่

Wisarut · Posted: 12/02/2018 10:36 am Post subject:

ชาวเน็ตถาม! สมควรไหม ปล่อยสุนัขนอนเตียงบนรถไฟ หวั่นเจอเห็บ-หมัด
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 11:59:00
ปรับปรุง: 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 12:48:00

ภาพสุนัข พูเดิล โผล่หน้ามาทักทายผู้โดยสารท่านอื่นบนขบวนรถไฟสายหนึ่ง จนโดนชาวเน็ตตั้งคำถาม ปล่อยสุนัขนอนเตียงเดียวกับคน สมควรไหม หวั่นเจอเห็บ-หมัดบนที่นอน
....

“สุนัขอยู่บนที่นอนคน แบบนี้ก็ได้เหรอ?”

ภาพนี้เกิดขึ้นเร็วๆ นี้บนรถ บนท. หรือรถนอนพัดลมชั้น 2 ขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ-กันตัง โดยคุณเทอดศักดิ์ พลจันทร์ พนักงานประจำรถเล่าว่า มีผู้โดยสารคนนึงนำสุนัขใส่กรงตามระเบียบการโดยสาร แต่พอพนักงานเริ่มปูเตียงให้ผู้โดยสารพักผ่อนตามปกติ เจ้าของกลับปล่อยสุนัขออกมานอกกรง แต่พอหลังจากที่ผู้โดยสารคนนี้ถึงปลายทาง พนักงานก็เริ่มเก็บที่นอนตามปกติ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือแพมเพอร์สใช้แล้วและขนสุนัขที่ร่วงอยู่บนที่นอน

การนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟไม่ใช่สิ่งผิดอะไร แต่ผิดที่การไม่เคารพสิทธิของผู้โดยสารคนอื่น ถ้าเราเป็นผู้โดยสารบนขบวนรถเที่ยวใดเที่ยวนึง แล้วบังเอิญเจอกับสิ่งเหล่านี้เช่น ขนสัตว์, เห็บ, หมัด อยู่บนที่นอน เราจะรู้สึกอย่างไร เอาง่ายๆ ถ้าเราจำเป็นต้องนำสัตว์เลี้ยงขึ้นขบวนรถโดยสารจริงๆ โดยเฉพาะรถ บนท.หรือรถนอนพัดลมชั้น 2 เราควรนำสัตว์เลี้ยงใส่กรงให้เรียบร้อย และไม่ควรปล่อยออกมานอนบนที่ส่วนรวมแบบนี้นะครับ"

สำหรับกฎระเบียบการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟนั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ระบุไว้ว่า “สัตว์มีชีวิตอื่นๆ เช่น สุนัข แมว เป็นต้น ต้องบรรจุที่คุมขังมีฝาปิดให้เรียบร้อย ยกเว้น สุนัขที่ไม่ดุร้ายไม่ต้องบรรจุที่คุมขังก็ได้ ค่าระวาง คิดค่าระวางขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 บาท บวกค่าธรรมเนียม จำนวนกลุ่มห้ามนำสัตว์ทุกชนิด เข้าไปในรถปรับอากาศ”

อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้อย่างมาก โดยส่วนใหญ่ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทำนองเดียวกันว่าเพิ่งรู้ว่าสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟได้ด้วย

Mongwin · Posted: 12/02/2018 5:47 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 12/02/2018 5:47 pm Post subject: