RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311216
ทั่วไป:13150602
ทั้งหมด:13461818
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 329, 330, 331 ... 470, 471, 472  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44251
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/02/2019 7:51 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ร.ฟ.ท.ฝันปี 66 เลิกขาดทุน-หยุดหนี้แสนล้าน เปลี่ยนใช้ไฟฟ้าแทนดีเซลแข่งรถตู้-โลว์คอสต์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 19:58
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 10:00

รถไฟเลิกเครื่องดีเซลปรับเป็นไฟฟ้า ลดควันพิษที่วิ่งมาบางซื่อ เร่งแผนใช้บนทางคู่4เส้น
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 - 20:04 น.

การรถไฟฯกลับลำแก้ปัญหาควันพิษจากรถไฟเครื่องยนต์ดีเซล ที่วิ่งมาที่สถานีกลางบางซื่อ เร่งหัวรถจักรไฟฟ้ามาทดแทน 2 เส้นทาง บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน พร้อมปรับรถไฟฟ้าวิ่งบนทางคู่ 4 เส้นทาง ลงทุนเฉียดแสนล้าน บอร์ดไฟเขียว ‘ซีวิล’ชนะประมูลไฮสปีด ไทย-จีน เฟสที่ 1

นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า บอร์ดรฟท. รับทราบแนวทางการ แก้ไขปัญหามลภาวะควัน ที่จะเกิดจากขบวนรถไฟสายสีแดงทางไกล (ระบบดีเซล) ที่จะวิ่งเข้าไปยังสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ เกิดปัญหาฝุ่นควันภายในสถานีกลาง ซึ่งเป็นห้องปรับอากาศ

เบื้องต้น รฟท.เร่งแก้ไขปัญหานี้ด้วยการจัดทำโครงการเร่งด่วน ติดตั้งระบบไฟฟ้าในพื้นที่รถไฟสายสีแดงระยะทางไกล 2 เส้นทาง คือ ช่วง บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน พร้อมจัดหาหัวรถจักรไฟฟ้าเข้ามาทำการลากขบวนรถทางไกลทั้ง 2 ขบวน เข้ามายังสถานีกลางบางซื่อ แทนการให้หัวรถจักรดีเซลวิ่งเข้ามายังสถานีกลางบางซื่อ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาควัน

เบื้องต้นจะต้องลงทุนในการติดตั้งระบบไฟฟ้าบนพื้นที่รถไฟสายสีแดง ระยะทางไกลราว 1,700 ล้านบาท ยังไม่รวมวงเงินจัดซื้อหัวรถจักร ไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมตัวเลขว่า จะใช้เงินลงทุนรในโครงการรวมทั้งสิ้นเท่าไหร่ คาดเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม พิจารณา ได้ในสัปดาห์หน้า โดยเร่งรัดเปิดให้บริการได้ ก่อนที่สถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการเป็นทางการในปี 2564

นอกจากนี้ ยังรับทราบผลการศึกษา โครงการเดินรถไฟด้วยระบบไฟฟ้าบนเส้นทางคู่ (รถไฟไฟฟ้า) ทดแทนรถไฟเครื่องยนต์ดีเซล 4 เส้น ทาง บางซื่อ-บ้านภาชี-ปากน้าโพ 252 ก.ม. 28,720 ล้านบาท บางซื่อ-บ้านภาชี-แก่งคอย-ถนนจิระ 243 ก.ม. 23,682 ล้านบาท บางซื่อ-หนองปลาดุก-หัวหิน 209 ก.ม. 33,572 ล้านบาท และ บางซื่อ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-พัทยา บางซื่อ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-พัทยา ระยะทาง 160 ก.ม. 10,127 ล้านบาท


จากผลการศึกษาพบว่า เส้นทางที่มีความคุ้มค่าสูงสุดและจะมีการเร่งดำเนินการก่อนคือ ชุมทางบางซื่อ-ชุมทางบ้านภาชี-ชุมทาง แก่งคอย-ชุมทางถนนจิระ โดย หลังจากนี้ รฟท.จะต้องกลับไปจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2563 และเปิดประมูลได้ประมาณปี64 ใช้เวลาในการติดตั้งระบบไฟฟ้า และจัดหาขบวนรถไฟฟ้าและสามารถเปิดให้บริการภายในปี 2566 ทันกับการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรฟท. กล่าวอีกว่า นอกจากที่ บอร์ดรฟท. ยังเห็นชอบให้ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง เป็นผู้ชนะการประมูล โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา งานสัญญาที่ 2-1 งานโยธา สีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 ก.ม. ด้วย วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคา 3,115 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 7%

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อไป รฟท. จะพิจารณาเอกสาร ร่างสัญญา และหารือเรื่องวงเงินค่าจ้างบริษัท ซี วิลเอ็นจิเนียริง กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง จากนั้นคาดว่า จะลงนามสัญญาได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคมและ เริ่มต้นก่อสร้างได้ในเดือนเมษายน โดยสัญญามีอายุ 18 เดือน ส่วนารประมูลงานโยธารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่เหลืออีก 12 สัญญา วง เงินกว่า 1.1 แสนล้านบาทว่า การรถไฟฯ จะแบ่งการประมูลออกเป็น 2 ล็อต ล็อตแรก 5 สัญญา และล็อตที่ 2 อีก 7 สัญญา

สำหรับ 5 สัญญาแรก คาดว่าจะนำร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) ขึ้นรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์ในสัปดาห์หน้าและออกประกาศเชิญ ชวนเอกชนเข้าร่วมประมูลได้เร็วสุดในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม ด้าน 7 สัญญาหลัง คาดว่าจะนำร่างทีโออาร์ขึ้นรับฟังความคิดเห็นบน เว็บไซต์ได้ต้นเดือนมีนาคมและออกประกาศเชิญชวนเอกชนได้เร็วที่สุดในปลายเดือนมีนาคม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 11/02/2019 6:02 pm    Post subject: Reply with quote

ไทยลุยโลจิสติกส์ ตั้งรง.ชิ้นส่วนรถไฟ/ขายซองมอเตอร์เวย์27กพ.
วันจันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ว่า กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างเตรียมเสนอแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน ทั้งตัวรถ อุปกรณ์ภายใน อะไหล่รถ และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ประกอบกับการพัฒนารถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงไปตามแนวชายแดนของประเทศจะทำให้ไทยเป็น ศูนย์กลางการขนส่งทางรางของอาเซียน และปริมาณการขนส่งสินค้าจะเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจส่งผลทำให้การขนส่งสินค้าจะเปลี่ยนไปใช้ระบบรางเพราะถูกกว่าการขนส่งทางบกหลายเท่า ผู้ประกอบการเพียงนำสินค้าจากโรงงานไปยังลานเทกองสินค้ารถไฟ(CY) แล้วขึ้นรถไฟส่งตรงไปชายแดนหรือท่าเรือได้โดยตรง

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยังได้ตั้งเป้าหมายในการจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในปี 2565 พร้อมสิทธิพิเศษส่งเสริมการลงทุนใน 3 พื้นที่ได้แก่ 1.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) 2.จังหวัดนครราชสีมา และ3.จังหวัดขอนแก่น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบรางที่ได้มีการตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมทางรางของอาเซียนและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนที่กำลังมีโครงการลงทุนระบบราง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2019 10:42 am    Post subject: Reply with quote

พลิกโฉมรถไฟสู้โลว์คอสต์ อย่าลืมเรื่องสะอาดตรงเวลา
................................
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย “เทียนหยด”
อังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08.00 น.

สัปดาห์นี้ขอแวะพาไปเจาะลึก “ระบบราง” ปี 72 ก้าวสู่ไฮสปีดเทรน พลิกโฉมรถไฟไทยสู้ “โลว์คอสต์” แต่ก็อย่าลืมเรื่องง่ายๆ...ความสะอาด-ปลอดภัย-ตรงเวลา

สัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับระบบรางของไทย เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปักหมุดโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว จัดงานใหญ่ “Change to the Future” ครั้งที่ 1/2562 ระดมผู้บริหารและพนักงานรถไฟระดับหัวหน้าทั่วประเทศเกือบพันคน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอนาคตใหม่รถไฟไทย เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และประธานเปิดงาน “Change to the Future” ประกาศบนเวทีว่า “การรถไฟฯ กำลังอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า ตามวิสัยทัศน์ของแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะ 10 ปี พ.ศ. 2561-2570”



วิชั่นหรือวิสัยทัศน์ของ รฟท. ในครั้งนี้ ก่อให้เกิดการพัฒนาในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มขีดความสามารถ การให้บริการทั้งโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟสายใหม่ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) รวมถึงแผนการจัดหารถจักรและล้อเลื่อนเพิ่มเติม มุ่งสู่การพัฒนาระบบขนส่งอย่างบูรณาการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรด้านการบริหารและพัฒนาบุคลากร การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการพัฒนาการบริการ ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการลดต้นทุน ซึ่งในทุกกระบวนการมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่คนรถไฟต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน



นั่นหมายความว่า รถไฟฉึกกะฉัก ปู้นปู้น ที่เด็กๆ เรียกขาน...ใช้ความเร็วไม่ถึง 80 กม./ชม. มักจะสร้างความหงุดหงิดให้ผู้โดยสารที่ไม่ตรงต่อเวลา (เลท) จากข้ออ้างที่ว่าเพราะวิ่งรางเดี่ยวต้องรอสับหลีกราง ใช้หัวรถจักรดีเซลในการขับเคลื่อน รถไฟเก่าใช้งานมานาน ทำให้เกิดขัดข้อง กำลังพลิกโฉมมาวิ่งรางคู่หรือทางคู่ที่กำลังเร่งก่อสร้าง ทำให้ไม่ต้องสับหลีกราง สามารถใช้ความเร็วได้มากขึ้น...ใช้หรือไม่???

นอกจากนี้บางเส้นทางยังก่อสร้างเป็นทางคู่ยกระดับหรือทางคู่ลอยฟ้า อย่างสายจิระ-ขอนแก่น ซึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เปิดทดลองให้รถไฟสายอีสานกว่า 24 ขบวน วิ่งขึ้นทางลอยฟ้าช่วงสถานีขอนแก่น เพื่อทดสอบระบบรางคู่ สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรถไฟความเร็วสูงที่ร่วมมือกับประเทศจีน ใช้รถต้นแบบจากจีนและประเทศญี่ปุ่น “โมเดลรถไฟชินคันเซ็น” สามารถทำความเร็วได้ถึง 250 กม./ชม.ด้วย...ว๊าวว!!!

“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากคนรถไฟไม่ปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงตาม จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบุคคลเข้ามาทำงานด้านระบบรางแทนคนรถไฟ เพราะผลประกอบการประมาณการปี 62 มีหนี้และขาดทุนสะสมกว่า 1.4 แสนล้านบาท หากไม่เพิ่มรายได้และค่าใช้จ่าย อาทิ ปิดเดินรถบางสายที่ขาดทุน จะส่งผลให้ปี 66 รฟท.จะมีหนี้และขาดทุนสะสมเกือบ 2 แสนล้านบาท กระทบรายได้และสวัสดิการพนักงาน ซึ่งต้องเร่งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้ด้วย” นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟฯ ตอกย้ำถึงมูลหนี้มหาศาลที่อาจจะท่วมทั้งรางและทั้งรถไฟ หากพนักงานรถไฟไม่ฟอร์เช้นจ์ เพื่ออนาคตที่สดใส



นายวรวุฒิ บอกด้วยว่า การรถไฟฯ จำเป็นต้องเร่งพัฒนาบุคลากรให้ทันกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของระบบรางที่รัฐบาลลงทุนก่อสร้างจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท ทางคู่เฟส2 อีก 11 โครงการกว่า 1,681 กม. จะแล้วเสร็จในปี 66 โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงอีก 1 แสนล้านบาทจะเปิดให้บริการต้นปี 64 โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 253 กม. มูลค่า 1.7 แสนล้านบาท ทั้งนี้ในปี 72 จะมีรถไฟความเร็วสูงเสร็จรวม 5 โครงการ 1,274 กม. วงเงินลงทุนรวม 2.3 แสนล้านบาท ได้แก่ เส้นทางอู่ตะเภา-ระยอง กรุงเทพฯ-พิษณุโลก นครราชสีมา-หนองคาย กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่

นายวรวุฒิ บอกอีกว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าไม่สามารถแข่งขันกับตลาดสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ได้ แต่แผนงานในอนาคตภายใต้แผนฟื้นฟูและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในปี 72 ที่เปิดใช้ไฮสปีดเทรนเราจะแข่งกับโลว์คอสต์ได้ เพราะเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ใช้เวลาบิน 50 นาที-1ชม. ค่าตั๋วโดยสาร 600-1,900 บาท ไฮสปีดเทรนใช้เวลา 3.20 ชม. 1,100-2,900 บาท แต่บริการเต็มรูปแบบ (ฟูลเซอร์วิส) ฟูลออฟชั่น อีกทั้งระหว่างรอไฮสปีดจะแข่งขันกับตลาดรถตู้วิ่งระหว่างจังหวัด200-300กม. ไปก่อน โดยเฉพาะที่มีตัวเลขผู้โดยสารสูง เช่น นครราชสีมา พิษณุโลก ชุมพร เป็นต้น เพื่อปรับเปลี่ยนการเดินรถไฟขับเคลื่อนดีเซลราง เป็นระบบรถไฟฟ้าการเดินรถมีประสิทธิภาพมากขึ้น



รวมไปถึงปรับปรุงการให้บริการตรงเวลา เพิ่มความพิถีพิถันการให้บริการทั้งอาหารและความสะดวกสบายอื่นๆ เรามีจุดขายเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางมากกว่ารถยนต์ 100% พร้อมเจาะตลาดใหม่ๆ อย่างกลุ่มผู้สูงอายุที่มีจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยเข้าสูงสังคมผู้สูงอายุแล้ว

การรถไฟฯ ประกาศย้ำให้พนักงานเปลี่ยนสู่อนาคตหรือเปลี่ยนเพื่ออนาคตก็แล้วแต่...สิ่งสำคัญระหว่างการเปลี่ยนผ่าน ฝั่งประชาชนผู้ใช้บริการยังคาดหวังจะได้รับบริการจากการรถไฟขั้นพื้นฐานนั่นก็คือคุณภาพการบริการที่ดี สะอาด ตรงเวลาและปลอดภัยโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2019 11:25 am    Post subject: Reply with quote

ทำใจไว้เลย! การรถไฟคาดปี 2562 นี้ขาดทุน 21,845 ล้านบาท
SME News
by Anirut.j,
8 กุมภาพันธ์ 2562

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คาดการณ์หลังหักรายรับ-รายจ่าย จะขาดทุน 21,845 ล้านบาท ตั้งเป้าฟื้นตัวในปีถัดไปจากรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รายได้ของ รฟท. ในปี 2562 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 9,760 ล้านบาท มีรายจ่าย 17,199 ล้านบาท เมื่อรวมรายจ่ายกับดอกเบี้ยแล้วจะมียอดขาดทุน 21,845 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่า รฟท. กำลังมีการปลับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ เพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยการสร้างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง พร้อมเปลี่ยนพื้นที่ให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น

“การวางโครงสร้างระบบรางจะช่วยลดปัญหาการขาดทุน โดยในปี 2565-2566 รฟท. ตั้งเป้าว่าจะกลับมามีผลประกอบการเป็นบวก มีกำไรอีกครั้ง”

พร้อมกันนี้ รฟท. ยังพิจารณาลงทุนในส่วนของขบวนรถไฟที่ปรับเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันดีเซล มาเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยการลงทุนระบบคิดเป็นประมาณ 30 ล้านบาท/กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2019 8:48 pm    Post subject: Reply with quote

ลดหนี้สร้างรายได้เพิ่มรฟท.ปรับโฉมสู่อนาคตใหม่
สัมภาษณ์ | หน้า 12
ออนไลน์เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2562
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3,443 ระหว่างวันที่ 10 - 13 กุมภาพันธ์ 2562


การรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) ถือเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจที่เปิดดำเนินการมานาน 122 ปีและอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูเพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้สอดคล้องกับการเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลเพื่อยกระดับและมุ่งให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการเร่งปลดภาระหนี้และการหารายได้ป้อนองค์กรให้กลับมาสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน


ต่อความชัดเจนในเรื่องนี้นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า รฟท. เร่งปรับโฉมองค์กรใหม่มุ่งบริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนปี 2570 จัดงาน “Change to the Future” ครั้งที่ 1/2562 ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอนาคตใหม่รถไฟไทย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนฟื้นฟูกิจการฯ แก่พนักงานในการก้าวไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570

เร่งเคลียร์หนี้สะสมแสนล้าน

ขณะที่การดำเนินการตามผลประกอบการจากการประมาณการปี 2562 พบว่าร.ฟ.ท.มีหนี้และขาดทุนสะสมกว่า 1.4 แสนล้านบาท และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงการเพิ่มรายได้และค่าใช้จ่ายจะส่งผลให้ในปี 2566 จะมีหนี้และขาดทุนสะสมเกือบ 2 แสนล้านบาทซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และสวัสดิการของพนักงานรถไฟ

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งเพิ่มและพัฒนาบุคลากรให้ทันเทคโนโลยีระบบรางที่จะเข้ามา โดยจะต้องมีการปรับ ตัวเพื่อรองรับการทำงานระบบรถไฟรูปแบบใหม่ที่จะถูกนำมาใช้ในประเทศ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางจำนวนมาก

เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่

สำหรับแผนการดำเนินงานของรฟท.นั้นที่ผ่านมายอมรับว่าไม่สามารถแข่งขันกับตลาดสายการบินต้นทุนตํ่า (Low cost) ได้ แต่ในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้าจึงมุ่งเป้าแข่งขันกับตลาดรถตู้ระหว่างจังหวัดในระยะทาง 200-300 กิโลเมตรมากกว่า โดยเฉพาะจังหวัดที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เช่นนครราชสีมา, พิษณุโลก, ชุมพร เป็นต้น รวมถึงในอนาคตรถไฟจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการเดินรถไฟขับเคลื่อนดีเซลรางเป็นระบบรถไฟฟ้าจึงจะทำให้มีการเดินรถได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ฝ่ายการตลาดการรถไฟฯในปีนี้จะเร่งเจาะกลุ่มตลาดใหม่คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และเน้นการเจาะตลาดกลุ่มทัวร์ต่างๆ ที่ขณะนี้ลดน้อยลง เนื่องจากมีกลุ่มตลาดรถทัวร์เป็นคู่แข่ง

ล่าสุดบอร์ด รฟท.ยังได้พิจารณาแผนการปรับกรอบอัตรากำลังและแนวทางการสรรหาพนักงานใหม่ในปีนี้อีกราว 2,000 คน และยังได้อนุมัติลงนามสัญญาให้สิทธิ์การเช่าพื้นที่แก่เอกชนอีกจำนวน 2 รายในเขตพื้นที่จ.กาญจนบุรีและขอนแก่น รับรายได้กว่า 200 ล้านบาทพร้อมกับเร่งเปิดให้บริการรถไฟทางคู่เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นและเส้นทางฉะเชิงเทรา-แก่งคอยเพื่อให้สอดคล้องกับช่วงที่รฟท.กำลังก้าวสู่อนาคตใหม่ขององค์กรสู่การเปลี่ยนผ่านไปยังกิจการใหม่ที่ยั่งยืนทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟสายสีแดง รถไฟความเร็วสูงและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แปลงต่างๆ มูลค่าหลายแสนล้านบาท อาทิ สถานีแม่นํ้าและสถานีกลางบางซื่อ

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้นจะเสนอขอความเห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ ที่จะเริ่มจากแปลง A พื้นที่ 32 ไร่วงเงินร่วมลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท คาดว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาได้ภายในเดือนนี้

“อย่างไรก็ตามคาดการณ์รายได้ปีนี้ของรฟท.จะอยู่ที่ 9.76 พันล้านบาท และมีรายจ่าย 1.71 หมื่นล้านบาท เมื่อมารวมกับรายจ่ายเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้แล้วจะมียอดขาดทุนในปีนี้รวม 2.18 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างรายได้เพิ่มทั้งบริการผู้โดยสาร ขนส่งสินค้า และบริการเชิงพาณิชย์รูปแบบต่างๆ โดยในวันนี้รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานระบบรางไว้แล้วเมื่อก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดใช้แล้วมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาขาดทุนได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถหยุดขาดทุนและตัวเลขหลังหักค่าใช้จ่าย (Ebitda) กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง หรือมีกำไรจากผลประกอบการในปี 2565-2566”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2019 12:12 pm    Post subject: Reply with quote

ตำราว่าด้วยการปรับปรุงทางรถไฟ
https://www.thairailtech.or.th/?p=17117
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2019 6:17 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟชวนเที่ยว จ.เพชรบุรี"ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง"
พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17.03 น.

จัดดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ นำเที่ยวโดยรถเล้ง(รถท้องถิ่นเพชรบุรี) "ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง" เช้าไปเย็นกลับเริ่มต้น 120 บาทต่อคน ดีเดย์ 2 มี.ค.62


เมื่อเวลา13.30น.วันที่14ก.พ.ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง(สถานีรถไฟกรุงเทพ) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และนายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าว โครงการ “ศาสตร์ศรัทธา” เส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ “ชมวิวรถราง เที่ยวทางนถเล้ง” 1วัง 2 ชุมชน 3 วัดเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และเป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่มีรายได้น้อยสามารถท่องเที่ยวชมความงามและเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในชุมชนได้ด้วย

นายวรวุฒิ กล่าวว่า การท่องเที่ยวฯได้เข้าหารือผู้ว่าการรถไฟฯ นำเสนอแนวทางการร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟ และนำเที่ยวโดยรถเล้ง(รถท้องถิ่นเพชรบุรี) "ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง" (City Tour ) ใช้ขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยว สวนสนประดิพัทธ์ ขบวนที่ 911 เดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพฯ จากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) - สถานีรถไฟเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี อัตราค่าบริการรรถนั่งธรรมดา ชั้น 3 ผู้ใหญ่,เด็ก คนละ 120 บาท รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 ผู้ใหญ่,เด็ก คนละ 240 บาท เมื่อขบวนรถไฟเดินทางถึงจังหวัดเพชรบุรี จะมีบริการ รถเล้งนำเที่ยวตามจุดต่างๆ ตามโปรแกรม "ฟรี" สำหรับขบวนรถนำเที่ยวนี้จะเริ่มตั้งแต่ วันที่2มี.ค.62 นี้ ทั้งนี้ในอนาคตเส้นทางดังกล่าวในปี64-65 จะมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ นครปฐม-หัวหิน และหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะทำให้เวลาเดินทาง จาก4-5ชม. เหลือเพียง 2 ชม. ซึ่งจะศึกษารายละเอียดเส้นทางท่องเที่ยวอื่นเพิ่มเติม

ด้านนายอัครวิชย์ กล่าวว่า สำโปรแกรมท่องเที่ยวแบบ 1 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น. ออกเดินทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 09.44 น. เดินทางถึงสถานีรถไฟเพชรบุรีขึ้น รถเล้ง พาเที่ยวชมพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) ที่ประทับแปร พระราชฐานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี สถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสิคที่มีอายุกว่า 100 ปี 11.00 น. ​สักการะหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุวรวิหาร 12.00 น. เที่ยวชุมชนริมแม่น้ำเพชร และชุมชนคลองกระแชง ยลเสน่ห์เมืองเพชรที่มีชีวิต กิน แชะ ช็อป อาหารอร่อยขึ้นชื่อเมืองเพชร อาทิ ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงซอสพริก, ข้าวแช่เมืองเพชร, ก๋วยจั๊บน้ำข้น , ลอดช่องน้ำตาลข้น 13.30 น. ​เที่ยวชมวัดใหญ่สุวรรณาราม ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเมืองเพชร พระพุทธรูปพระบาท 6 นิ้ว Unseen เมืองเพชร 14.30น.​เดินทางถึง วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) สักการะพระพุทธไสยาสน์ อายกว่าุ 400 ปี ก่ออิฐถือปูนยาว 43 เมตร ความสูงจากพระเศียรถึงฐานบรรทม ๑๕ เมตร จัดเป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย 15.30​ขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ ขบวนที่ 911 ออกจากสถานีต้นทางสวนสน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 16.31 น. ​ออกเดินทางจากสถานีรถไฟเพชรบุรี 19.30 น. ​เดินทางถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยสวัสดิภาพ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 11:06 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รถไฟชวนเที่ยว จ.เพชรบุรี"ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง"
พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17.03 น.



รถไฟจัดเส้นทางท่องเที่ยวสุดเก๋ “นั่งรถเล้ง ชมวิว เที่ยวเมืองเพชร”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 20:17
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 09:35


การรถไฟฯ จับมือการท่องเที่ยวฯ เปิดโครงการ “ศาสตร์ศรัทธา” ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง จังหวัดเพชรบุรี โดยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 911 เส้นทางกรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์ เพิ่มเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ จองตั๋วได้แล้ว เริ่มเที่ยวแรกเสาร์ที่ 2 มี.ค.นี้

วันนี้ (14 ก.พ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการ “ศาสตร์ศรัทธา” ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง จังหวัดเพชรบุรี โดย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางต่างๆ หลายเส้นทาง โดยจัดให้บริการเป็นประจำทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยว การรถไฟฯ จึงได้นำขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 911 เส้นทางกรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์ มาสนับสนุนโครงการ “ศาสตร์ศรัทธา” (ศาสนา ศาสตร์พระราชา และศาสตร์ทางวัฒนธรรม) โดยเพิ่มเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ “ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง” (1 วัง 2 ชุมชน 3 วัด) จังหวัดเพชรบุรี

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวกรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์ มาลงที่สถานีเพชรบุรี เดินทางท่องเที่ยวต่อด้วยการใช้รถเล้ง (รถท้องถิ่นเพชรบุรี) นำเที่ยวฟรีในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี สามารถท่องเที่ยวชมความงามและเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมทั้งสัมผัสความอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองในจังหวัดเพชรบุรีตามโครงการ "ศาสตร์ศรัทธา" (ศาสนา ศาสตร์พระราชา และศาสตร์ทางวัฒนธรรม) ได้อย่างสะดวก เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว และเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ด้อยโอกาสที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศในรูปแบบการเดินทางด้วยรถไฟในราคาประหยัด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมนักกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย

สำหรับโปรแกรม “ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง” (1 วัง 2 ชุมชน 3 วัด) จังหวัดเพชรบุรี จะเริ่มให้บริการเที่ยวแรกในวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวจะออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.30 น. ถึงสถานีเพชรบุรี เวลา 09.44 น. เดินทางต่อด้วยรถเล้ง รถสองแถวเล็กท้องถิ่น (ฟรี) เที่ยวพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) ที่ประทับในการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อครั้งเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสสิกที่มีอายุกว่า 100 ปี

สักการะหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุวรวิหาร เที่ยวชุมชนริมน้ำเมืองเพชร และชุมชนคลองกระแชง ยลเสน่ห์เมืองเพชร ที่มีชีวิต กิน แชะ ชอป อาหารอร่อยขึ้นชื่อเมืองเพชร เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงซอสพริก ข้าวแช่เมืองเพชร กวยจั๊บน้ำข้น ลอดช่องน้ำตาลโตนด เที่ยวชมวัดใหญ่สุวรรณาราม ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเมืองเพชร พระพุทธรูป พระบาท 6 นิ้ว UNSEEN เมืองเพชร เดินทางถึงวัดพระนอน สักการะพระพุทธไสยาสน์อายุกว่า 400 ปี ก่ออิฐถือปูนยาว 43 เมตร ความสูงจากพระเศียรถึงฐานบรรทม 15 เมตร จัดเป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในประเทศไทย

จากนั้นเดินทางกลับด้วยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์-กรุงเทพฯ ที่ 912 เวลา 16.31 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 19.30 น.

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวโครงการ “ศาสตร์ศรัทธา” ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง จังหวัดเพชรบุรี สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ทุกสถานีทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดจองตั๋วโดยสารก่อนเดินทางได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 9:49 pm    Post subject: Reply with quote

ฝันไกล ต้องไปให้ถึง ปฏิวัติรถไฟไทย ที่ 1 อาเซียน
โดย ประเสริฐ จารึก

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ
วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 18:28 น.




เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดสัมมนาติวเข้มพนักงานระดับ 8 ขึ้นไป กว่า 800 คนทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ Change to the Future เปิด-ปรับ-เปลี่ยน : สู่อนาคตรถไฟไทย

ดูแล้วน่าสนใจไม่น้อยกับภารกิจพลิกฟื้นกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย องค์กรเก่าแก่ 129 ปี มีภาระหนี้ติดตัวพอกพูนเฉียด 200,000 ล้านบาท ให้เป็นรถไฟยุค 4.0 หวังล้างภาพลักษณ์จากองค์กรที่ได้ชื่อว่า “แดนสนธยา” ทำงานในสไตล์ “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง” ก้าวสู่อนาคตใหม่ กับการเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียน ในปี 2570 โดยจะขับเคลื่อนผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ ที่กำลังจะขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

ปัจจุบันกำลังเดินสายปลุกพลังคนรถไฟทั่วประเทศ ให้รับรู้ รับทราบ ถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง ยังไม่รู้ท้ายที่สุดแล้วจะฉลุย หรือเป็นแค่ “วาทกรรม” ที่สวยหรู ล่องลอยไปตามกาลเวลาและการเมืองที่เปลี่ยนผ่าน

เพราะหากพลิกโฉมรถไฟไทยได้ง่าย คงไม่ถูกปล่อยปละละเลยมาอย่างยาวนาน มีหนี้สินสะสมเพิ่มจาก 50,000 กว่าล้านบาท เป็น 141,986 ล้านบาท เพียงช่วงเวลา 5 ปี นับว่าเป็นงานใหญ่ ท้าทายฝีมือ

“กุลิศ สมบัติศิริ” ประธานบอร์ด จะเร่งคลอดแผนกู้ซากรถไฟ ให้ทันก่อนวาระรัฐบาล คสช.จะสิ้นสุดอีกไม่กี่เดือน เพราะหากยังไม่ผ่านการประทับตรารัฐบาลนี้ ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา จะสานต่อหรือนับหนึ่งใหม่
สำหรับแผนฟื้นฟู ถูกนำเสนอให้ “คนร.” พิจารณาตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2561 ซึ่งปรับอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำเสียทีเดียวแผนฟื้นฟูที่ยกร่าง เป็นแผนระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2570มี 3 ยุทธศาสตร์ 1.เพิ่มขีดความสามารถจากการที่รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้นับแสนล้าน ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟความเร็วสูง และซื้อรถจักรและรถโดยสารใหม่ ที่จะทยอยเสร็จในปี 2562-2566

2.การพัฒนาองค์กรรองรับระบบและเทคโนโลยีที่เปลี่ยน หลังคณะรัฐมนตรีปลดล็อกให้รับคนเพิ่มได้ 19,241 คน นำร่องปีนี้ 1,904 คน

3.พัฒนาการบริการเพิ่มรายได้ จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์จากที่ดินในมือให้มีมูลค่าเพิ่ม ทั้งมักกะสัน สถานีแม่น้ำ ย่าน กม.11 บางซื่อ ย่านสถานีสายสีแดงและรถไฟทางคู่ เปลี่ยนการเดินรถเป็นระบบรถไฟฟ้า และเพิ่มการขนส่งสินค้า

“ผมถูก คนร.ต่อว่า แผนฟื้นฟูที่เสนอไปตั้งแต่ 5 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังเป็นแผนเหมือนเดิม ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงให้เห็น ถ้าเราไม่ลงมือทำวันนี้ ทุกอย่างจะยังคงเป็นแผนอยู่เหมือนเดิม”

ฟังจากน้ำเสียงประธานบอร์ดแล้ว ปฏิบัติการครั้งนี้งานคงเดินเร็วขึ้น

ขณะที่ “วรวุฒิ มาลา” รักษาการเบอร์หนึ่ง ที่ทำงานเป็นลูกหม้อมา 33 ปี และมีคิวเกษียณปีหน้าก็พยายามฉายภาพความเปลี่ยนแปลงที่คนรถไฟต้องเผชิญ จากประสบการณ์ที่ทำงานองค์กรแห่งนี้มานานกว่า 3 ทศวรรษ หวังปลุกเร้าความฮึกเหิมให้คนรถไฟเปิดใจยอมรับกับโลกและบริบทที่เปลี่ยน จากโครงสร้างพื้นฐานเปลี่ยน มีการพัฒนารถไฟทางคู่ ทางสายใหม่ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง

คู่แข่งเปลี่ยน จากรถทัวร์ โลว์คอสต์ และรถตู้ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ เศรษฐกิจเปลี่ยน จากผู้ผลิต-ส่งออกรายใหญ่ของโลกสู่เศรษฐกิจชะลอตัว เทคโนโลยีเปลี่ยน จากรถไฟดีเซลเป็นรถไฟฟ้า และไฮบริด

ผู้โดยสารเปลี่ยน เพราะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ต้องคิดกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

“คนรถไฟต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้ทั้งตนเองและองค์กรอยู่รอดและยั่งยืน ถ้าไม่เปลี่ยนจะล้าสมัยโดยอัตโนมัติ ถูกโอนให้คนอื่นเข้ามาบริหารแทน และตกงานไม่มีเงินเดือนจ่าย”

พร้อมสร้างแรงกระตุ้น… อย่าปล่อยให้รถไฟอ่อนแอ การเมืองจะเข้ามาง่าย เพราะประตูไม่ได้ล็อก วันนี้ที่อ่อนแอเพราะโดนยาซึม โดยไม่รู้ตัว เพราะไม่ได้รับคนเพิ่มมานาน เมื่อมีคน มีเครื่องมือพร้อมแล้ว ก็ต้องสร้างภัยคุกคามนี้ให้เป็นโอกาส

“ฐานะการเงินรถไฟปี 2562 มีรายได้ 9,760 ล้านบาท รายจ่าย 17,199 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 21,845 ล้านบาท มีหนี้สินสะสม 141,986 ล้านบาท ถ้าไม่ทำอะไรเลยในปี 2566 จะมีรายได้ 10,601 ล้านบาท รายจ่าย 19,481 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 25,646 ล้านบาท หนี้สินสะสมจะพุ่งขึ้นเป็น 199,279 ล้านบาท”

เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ก็ต้องเปิดใจรับ ถ้าไม่เปลี่ยนตอนนี้ ไม่รู้จะเปลี่ยนตอนไหน

ไม่ใช่แค่รถไฟ ทุกธุรกิจก็ต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง

ไม่งั้นจะถูกกลืนโดยไม่รู้ตัว !
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42553
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 11:38 am    Post subject: Reply with quote


รายการกบนอกะลาตอนรถไฟไทยนี่ดูที่ไรก็ไม่เบือครับ
https://www.youtube.com/watch?v=JSQYL7hOr1Y
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 329, 330, 331 ... 470, 471, 472  Next
Page 330 of 472

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©