Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180258
ทั้งหมด:13491492
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 318, 319, 320 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/08/2018 3:51 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช นำคณะขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ และถอดรหัส DNA เมืองนครศรีธรรมราชแบบบูรณาการ
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 14 ส.ค. 2561

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำคณะขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ และถอดรหัส DNA เมืองนครศรีธรรมราชแบบบูรณาการ

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ และถอดรหัส DNA เมืองนครศรีธรรมราชแบบบูรณาการ ที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช มีนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน ประมาณ 500 คน แต่งกายย้อนยุคเสื้อลายดอกหลากสี เข้าร่วมพิธี กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนมาร่วมกันสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช คิ๊กออฟเมืองนครศรีธรรมราชไปสู่สากล วันนี้มีรายได้และนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงสุดในบรรดาเมืองรอง รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย เช่น โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนคร โครงการพระราชดำริ งบเก้าพันห้าร้อยแปดสิบล้านบาท การปรับปรุงให้มีสนามบินนานาชาติงบกว่าหกพันล้านบาทแล้วเสร็จในปี 2565 จะทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น HUB ของการเดินทาง ทั้งทางบกและทางอากาศ เดินทางได้สะดวก และมีพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนา หากร่วมแรงร่วมใจกัน ปีหน้าจะมีมรดกโลกเกิดขึ้น ทำให้เมืองที่มีความสมบูรณ์แบบ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำนครศรีดี๊ดี ไปสู่นครศรีดีกว่าเดิม รับประโยชน์ และมีความสุขด้วยกัน

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำคณะทั้งหมด ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ 4220 สายนครศรีธรรมราช-วัดธาตุน้อย อำเภอช้างกลาง จำนวน 10 โบกี้ ในระหว่างการเดินทาง นายอำเภอ 23 อำเภอ จะนำเสนออัตลักษณ์เอกลักษณ์อำเภอของตนเอง ให้ ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการศิลปร่วมสมัย เพื่อต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม พร้อมคณะ มาช่วยถอดรหัส ออกแบบแบรนด์ดิ่งให้กับ 23 อำเภอ และตรวจแบบร่าง SME

ในระหว่างเส้นทาง ขบวนรถไฟจะหยุดจอดที่สถานีรถไฟเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ สถานีชุมทางทุ่งสง แวะเที่ยวชมวัด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชิม ชม ของดี ซื้อสินค้าโอทอป และเข้าร่วมงานการแสดง แสง สี เสียง ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ที่วัดธาตุน้อย อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำวันนี้
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : สุยุทธ พิทกัษ์มงคล
ผู้เรียบเรียง : วสันต์พรรษ จำเริญนุสิต
แหล่งที่มา : สวท.นครศรีธรรมราช
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 24/08/2018 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

ยื่น "บิ๊กตู่" สั่งสอบกราวรูด ส่องาบหมื่นล้านเงินกู้สหกรณ์ฯสโมสรรถไฟ
เซกชั่น : เศรษฐกิจมหภาค

ออนไลน์เมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 12
ฉบับ 3393 ระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม พ.ศ. 2561









นับเป็นอีกหนึ่งคดีอื้อฉาวข้ามปีต่อกรณีที่กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชันได้เข้าไปช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรถไฟ จำกัด ราว 6,000 คนจนพบความผิดปกติและเรื่องโยงใยไปถึงคณะกรรมการบริหารชุดต่างๆ ที่นายบุญส่ง หงษ์ทองกับพวกรวม 6 คน สร้างมูลค่าความเสียหายมาตั้งแต่ปี 2552-2560 เบื้องต้นกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 พร้อมกับร้องเรียนไปยังกองปราบปราม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้มีบัญชาถึงกรมส่งเสริมสหกรณ์หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องสหกรณ์ของประเทศเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาไม่ให้ลุกลาม

พบเส้นทางเงิน1.3หมื่นล.

ล่าสุดกลุ่มธรรมาภิบาลได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.และประธานกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ อีกครั้ง ผ่านศูนย์ดำรงธรรม

โดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ในฐานะประธานกลุ่มธรรมาภิบาล ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินกรณีมีการยักย้าย ถ่ายเท หรือผองถ่ายเงินออกจากสหกรณ์ของนายบุญส่งกับพวกจำนวนกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ผู้ใดมีส่วนรู้เห็น สนับสนุน หรือเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดนี้ด้วยหรือไม่ ให้ตรวจสอบคณะกรรมการดำเนินการชุดชั่วคราวที่มาจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่ได้มีพฤติการณ์อาจเอื้อประโยชน์ หรือประวิงเวลาการดำเนินคดีหรือไม่ แล้วให้มีข้อสั่งการถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเร่งดำเนินคดีต่อบุคคลที่ได้ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมดอีกทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษที่ไม่มีส่วนได้เสียเพื่อแก้ปัญหาเป็นกรณีเร่งด่วนไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ลุกลาม เนื่องจากล่าสุดกลุ่มธรรมาภิบาลได้ตรวจสอบเชิงลึกพบมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวมีแนวโน้มสูงที่จะกระทบไปถึงสหกรณ์พันธมิตรอีก 14 แห่งที่มีทั้งการกู้และการรับฝากเงินมาหมุนเวียนกิจการ หากความเสียหายลุกลามจะเกิดผลกระทบตามมาแน่ๆ

มูลเหตุของคดีดังกล่าวนี้เกิดจากนายบุญส่ง หงษ์ทองกับพวกได้มีการร่วมมือกันเป็นขบวนการและวางแผนกันเป็นขั้นตอนได้กระทำผิดโดยทุจริตขึ้นในสหกรณ์ ด้วยการอนุมัติเงินกู้พิเศษเพื่อเคหะสงเคราะห์โดยไม่มีหลักประกันในการปล่อยกู้ให้กับพวกรวม 6 คน ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการในชุดที่ 7-11 จำนวน 199 สัญญาคิดเป็นเงินจำนวนกว่า 2,279 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการให้กู้เงินพิเศษของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 15 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบของกลุ่มธรรมาภิบาลกลับพบว่าปัจจุบันมีเงินเข้า-ออกและเงินหมุนเวียนในสหกรณ์ตั้งแต่ปี2552-2560 เป็นจำนวนเงินสูงมาก และมีรายได้หลักมาจาก 4 ช่องทางหลัก(ดังแสดงภาพอินโฟประกอบ) รวมเงินหมุนเวียนสหกรณ์เป็นเงินจำนวนกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท

จับตากรมส่งเสริมฯมีเอี่ยว

ทั้งนี้นายกิ่งแก้ว โยมเมือง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล ให้ข้อมูลในเชิงลึกอีกว่าทางกลุ่มได้รับข้อมูลใหม่จากสมาชิกสหกรณ์ว่านายบุญส่งกับพวกรวม 6 คนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมส่งเสริมสหกรณ์โดยการนำเงินออกจากสหกรณ์ด้วยวิธีการที่ผิดระเบียบข้อบังคับและผิดกฎหมายตั้งแต่ปี2552-2559 รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินกว่า 3,129 ล้านบาท นอกจากนั้นสมาชิกที่เป็นลูกหนี้เงินกู้ คือ กู้ฉุกเฉิน กู้สามัญ และกู้พิเศษ ได้กู้เงินรวมเป็นจำนวน 1,993 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 นายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งที่ 2/2561 สั่งให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด พ้นจากตำแหน่งและได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการชั่วคราวจำนวน 15 คน โดยเป็นคณะกรรมการที่มาจากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ 9 คน และที่มาจากสมาชิกของสหกรณ์จำนวน 6 คน มีกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานจำนวน 180 วัน


ปัจจุบันปรากฏว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาและการดำเนินคดีอาญาต่อนายบุญส่งกับพวกไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งคณะกรรมการดำเนินการชุดชั่วคราวที่กรมส่งเสริมสหกรณ์แต่งตั้งมานั้นซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์จำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับนายบุญส่งกับพวก และยังได้เคยถูกนายบุญส่งแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นประธาน อีกทั้งคณะกรรมการชุดชั่วคราวยังได้เดินทางไปพบนายบุญส่งกับพวกที่โครงการอาลีบาบารีสอร์ท อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

นอกจากนั้นยังพบว่าเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 หนังสือออกโดยสหกรณ์เลขที่ 022/2555 ได้แต่งตั้งผู้ประสานงานที่นายบุญส่งให้นายวิสิทธิ์ ศิริเลิศ และนายนิทัต สุขสุสร เป็นผู้ประสานงานกับสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นหรือสถาบันการเงินเพื่อให้สหกรณ์ได้กู้หรือรับฝากเงิน อีกทั้งตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการชุดที่ 7 (ครั้งที่ 1/2555 ลงวันที่ 5 กันยายน 2555) ได้มีผู้แทนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมประชุมด้วยคือนายวิสิทธิ์ ศิริเลิศและนางวิวาห์พร ลักษณะโภคิน ดังนั้นคณะกรรมการดำเนินการชุดชั่วคราวซึ่งทราบเรื่องดีอยู่แล้วแต่กลับยังแต่งตั้งให้บุคคลดังกล่าวเข้าทำหน้าที่ จึงน่าจะมีเจตนาพิเศษเพื่อไม่ให้มีการดำเนินคดีอาญานายบุญส่งกับพวกในครั้งนี้หรือไม่ และคณะกรรมการชุดชั่วคราวยังไม่ชี้แจงข้อมูลและเอกสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแก่พนักงานสอบสวน หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ และปปง.

โดยในครั้งนี้กลุ่มธรรมาภิบาลขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดขอให้ลงโทษในสถานหนัก อีกทั้งยังได้สอบถามถึงเรื่องการดำเนินคดีในฐานความผิดต่างๆที่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ดังนั้นคงต้องตามลุ้นกันว่าท้ายที่สุดแล้วคดีนี้จะมีผลสรุปอย่างไร ใครจะโดนร่างแหรับผิดชอบต่อกรณีความเสียหายดังกล่าวนี้และสมาชิกจะได้รับเงินคืนทั้งหมดหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์คงจะไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลอีกต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2018 10:23 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ ปรับจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า ขบวนรถทางไกลเป็น 90 วัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 00:25
ปรับปรุง: จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 09:26


การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมขยายเวลาจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าเป็น 90 วัน ตั้งแต่ 1 ก.ย. นี้ เฉพาะปลายทางเกิน 60% ของระยะทางขบวนรถ พบต้นทางจากหัวลำโพง ขบวนรถไปเชียงใหม่ ลงได้ตั้งแต่อุตรดิตถ์ ไปหนองคาย ลงได้ตั้งแต่เมืองพล ไปอุบลฯ ลงได้ตั้งแต่ลำปลายมาศ และไปสุไหงโก-ลก ลงได้ตั้งแต่สุราษฎร์ธานี ยิ่งปลายทางสั้นกว่าลงใกล้กว่า

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า ได้ขยายเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่วันรุ่งขึ้นของวันซื้อตั๋ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2561 เป็นต้นไป ผ่านช่องทางสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ คอลเซ็นเตอร์ 1690 และเว็บไซต์ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

- ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน

- ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่างร้อยละ 25-59 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน

- ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน

- กำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย



รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการขยายเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน สูตรการคำนวณก็คือ นำระยะทางที่ผู้โดยสารเดินทาง คูณด้วย 100 หารด้วยระยะทางขบวนรถ จะได้คำตอบร้อยละของระยะทางขบวนรถที่เราเดินทางจริง ซึ่งจะเป็นหลักเกณฑ์ในการซื้อตั๋วล่วงหน้า

เมื่อผู้สื่อข่าวคำนวณโดยต้นทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) พบว่า สายเหนือ ถ้าเป็นขบวนรถ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 751 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีอุตรดิตถ์ (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 485 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

หากเป็นขบวนรถไปยังปลายทางที่สั้นกว่า เช่น กรุงเทพ-เด่นชัย ระยะทาง 533 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีพิจิตร (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 346 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

สายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าเป็นขบวนรถ กรุงเทพ-หนองคาย ระยะทาง 621 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีเมืองพล จ.ขอนแก่น (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 377 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

หากเป็นขบวนรถไปยังปลายทางที่สั้นกว่า เช่น กรุงเทพ-อุดรธานี ระยะทาง 568 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 345 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

ถ้าเป็นขบวนรถ กรุงเทพ-อุบลราชธานี ระยะทาง 575 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 345 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

หากเป็นขบวนรถไปยังปลายทางที่สั้นกว่า เช่น กรุงเทพ-สุรินทร์ ระยะทาง 419 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีนครราชสีมา (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 263 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

สายใต้ ถ้าเป็นขบวนรถ กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 1,142 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีบ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 692 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

หากเป็นขบวนรถไปยังปลายทางที่สั้นกว่า เช่น กรุงเทพ-ยะลา ระยะทาง 1,038 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีสุราษฎร์ธานี (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 635 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

ขบวนรถ กรุงเทพ-กันตัง ระยะทาง 850 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีหลังสวน จ.ชุมพร (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 533 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

ขบวนรถ กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ระยะทาง 816 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีสวี จ.ชุมพร (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 500 กิโลเมตร) เป็นต้นไป

ขบวนรถ กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 635 กิโลเมตร จะซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ปลายทางตั้งแต่สถานีมาบอำมฤต จ.ชุมพร (ห่างจากสถานีกรุงเทพ 376 กิโลเมตร) เป็นต้นไป
https://www.facebook.com/trafficsrt/posts/1784058835044956
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2018 3:47 pm    Post subject: Reply with quote

เคาะตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทยก.ย.นี้
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 07:47 น.

ดันตั้งโรงงานผลิต-ซ่อมรถไฟฟ้าในไทย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 07:30


สศอ.ลุ้นตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทย สรุปผลศึกษา ก.ย.นี้ หวังพัฒนาเทคโนโลยี-บุคลากร ลดนำเข้า
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือเกี่ยวกับโครงการแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2561 โดยเบื้องต้นผลการหารือร่วมกันคือต้องการกำหนดให้รัฐมีการกำหนดขอบเขตการประมูล (ทีโออาร์) การจัดซื้อแบบมีเงื่อนไข เพื่อให้มีการลงทุน การจัดซื้อในประเทศ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรระบบรางในประเทศเพิ่มขึ้น

“จากการหารือเบื้องต้นของโครงการ คือ เป็นแนวคิดของ รมช.คมนาคม ที่ต้องการให้พัฒนาระบบรางแบบยั่งยืน ดังนั้นจึงมองว่าหากกำหนดในทีโออาร์ว่าผู้ที่จะเข้ามาพัฒนาระบบรางในประเทศควรจะมีโรงงานประกอบรถไฟ สร้างคน สร้างงาน พัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ” นายณัฐพล กล่าว

ทั้งนี้ สศอ.จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเตรียมสรุปผลการศึกษาร่วมกันอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้ โดยจากผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขั้นต่ำ 339 ตู้ ขณะที่ รฟท.มีความต้องการหัวรถจักร 314 ตู้ รถขนส่งสินค้า 3,460 ตู้ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 1 สาย 42 ตู้ และมีแผนลงทุนคมนาคมขนส่งระบบรางกว่า 1.5 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ หากมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตและซ่อมแซมรถไฟในประเทศ จะก่อให้เกิดการลงทุนขั้นต่ำกว่า 500 ล้านบาท สามารถซื้อรถไฟได้ในราคาที่ลดลง 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนรถไฟ 6,000 ตู้ คิดเป็นค่าจ้างแรงงานกว่า 2,000 ล้านบาท


Last edited by Wisarut on 27/08/2018 7:42 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2018 7:06 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
การรถไฟฯ ปรับจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า ขบวนรถทางไกลเป็น 90 วัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 00:25
ปรับปรุง: จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 09:26





รถไฟฯ ขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้าได้ถึง 90 วัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 18:25



การรถไฟฯ ขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้าเพิ่มสูงสุดได้ถึง 90 วัน เพิ่มทางเลือกสำหรับ ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการรถไฟ รวมถึงการจองตั๋วหมู่คณะ ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป โดยมีค่าธรรมเนียมจองที่นั่งละ 40 บาท เริ่มให้บริการ 1 ก.ย.นี้

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.ได้ขยายระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าจากปกติ 60 วัน เพิ่มสูงสุดได้ถึง 90 วัน เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ได้มีโอกาสในการซื้อตั๋วล่วงหน้าในระยะเลาที่ยาวนานขึ้น สามารถเลือกการเดินทางได้ทั้งในรูปแบบหมู่คณะหรือแบบคนเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนการเดินทางในระยะยาว

สำหรับการจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน นั้น ผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วเดินทางไม่น้อยกว่า 60% ของระยะทางของขบวนรถ ถ้าหากระยะทางน้อยกว่านั้น จะซื้อตั๋วได้ไม่ถึง 90 วัน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

1. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่า 25% ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่าง 25-59% ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ 60 % ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน

ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย ยกตัวอย่าง เช่น ผู้โดยสารเดินทางจาก กรุงเทพ - นครสวรรค์ ระยะทาง 246 กิโลเมตร เดินทางกับขบวนรถ กรุงเทพ - เชียงใหม่ ซึ่งมีระยะทางขบวนรถ รวมทั้งสิ้น 751 กิโลเมตร ระบบจะคำนวณระยะทางเป็นร้อยละของระยะทางขบวนรถ คือ ระยะทางที่ผู้โดยสารเดินทาง = 246×100÷751 = 32.756% เป็นต้น ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าการซื้อตั๋วล่วงหน้าหรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจาก กรุงเทพ - นครสวรรค์ กับขบวนรถ กรุงเทพ - เชียงใหม่ สามารถทำได้ภายใน 30 วัน

นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการซื้อตั๋วล่วงหน้าได้เกินกว่า 90 วัน สำหรับการจองตั๋วหมู่คณะ ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ซึ่งจะมีอัตราค่าธรรมเนียมการจองตั๋วที่นั่งละ 40 บาท ทั้งนี้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกประเภทการจองตั๋วได้ตามความเหมาะสมกับการเดินทาง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ ww.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2018 10:17 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เคาะตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทยก.ย.นี้
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 07:47 น.

ดันตั้งโรงงานผลิต-ซ่อมรถไฟฟ้าในไทย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 07:30


สศอ.ถกแนวร่วมศึกษาตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทย

27 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08:42 น.


สศอ.คุยแนวร่วม ศึกษาตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทย คาดเห็นผล ก.ย.นี้ ออกทีโออาร์หวังพัฒนาเทคโนโลยี-บุคลากร ลดการนำเข้า สร้างเม็ดเงินในประเทศเพิ่มขึ้น

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หารือเกี่ยวกับโครงการแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2561 โดยเบื้องต้นผลการหารือร่วมกันต้องการกำหนดให้รัฐมีการกำหนดขอบเขตการประมูล (ทีโออาร์) การจัดซื้อแบบมีเงื่อนไข เพื่อให้มีการลงทุน การจัดซื้อในประเทศ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรระบบรางในประเทศเพิ่มขึ้น

“จากการหารือเบื้องต้นของโครงการคือ เป็นแนวคิดของ รมช.กระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้มีการพัฒนาระบบรางแบบยั่งยืน ดังนั้นจึงมองว่า หากกำหนดในทีโออาร์ว่าผู้ที่จะเข้ามาพัฒนาระบบรางในประเทศควรจะมีโรงงานประกอบรถไฟ สร้างคน สร้างงาน พัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ” นายณัฐพล กล่าว

ทั้งนี้ ศสอ.จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาพรวมของอุตสาหกรรมระบบราง โดยทำร่วมกับ รฟท. การฝึกฝนบุคลากร ทำร่วมกับ สวทช. เป็นต้น และเตรียมสรุปผลการศึกษาร่วมกันอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้หากผลการศึกษาผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลจะต้องมีการกำหนดรูปแบบ ความเหมาะสมของการก่อสร้างโรงงาน และต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงกว่าการนำเข้าตู้รถไฟมาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามจากผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขั้นต่ำ 339 ตู้ ขณะที่ รฟท. มีความต้องการหัวรถจักร 314 ตู้ รถขนส่งสินค้า 3,460 ตู้ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 1 สาย 42 ตู้ แต่ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมระบบรางรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางแต่อย่างใด

ขณะที่รัฐบาลมีแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2561 วงเงินลงทุนระบบรางสูงกว่า 1.5 ล้านล้านบาท แต่ที่ผ่านมาไทยใช้วิธีการนำเข้าขบวนรถไฟแบบสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ไม่เคยมีการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนผลิตรถไฟฟ้าหรือหัวรถจักรในประเทศ

อย่างไรก็ตามหากมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตและซ่อมแซมรถไฟในประเทศ โดยกำหนดให้มีการประกอบขั้นสุดท้ายในประเทศจะก่อให้เกิดการลงทุนขั้นต่ำกว่า 500 ล้านบาท สามารถซื้อรถไฟได้ในราคาที่ลดลง 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนรถไฟ 6,000 ตู้ คิดเป็นค่าจ้างแรงงานกว่า 2,000 ล้านบาทที่จะกลับเข้าสู่ประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานที่ใช้ความรู้ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง


บีบตั้งโรงงานในปท.แลกซื้อรถไฟ
จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 15.28 น.
ลุ้นตั้งโรงงานผลิตรถไฟในไทย สศอ.สรุปผลศึกษา ก.ย.นี้ หวังนำร่องพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางเกิดในไทย ชี้แต่ละปีมีความต้องการใช้รถไฟเยอะ แต่ไม่มีแนวคิดพัฒนาระบบรางเอง ชี้หากทำได้ได้ทั้งพัฒนาเทคโนโลยี-บุคลากร ลดนำเข้า สร้างเม็ดเงินในประเทศเพิ่ม


นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ได้หารือเกี่ยวกับโครงการแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไแห่งประเทศไทย (รฟท.) สมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 61 เบื้องต้นผลการหารือร่วมกันต้องการกำหนดให้รัฐมีการกำหนดขอบเขตการประมูล (ทีโออาร์) การจัดซื้อแบบมีเงื่อนไข เพื่อให้มีการลงทุน การจัดซื้อในประเทศ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรระบบรางในประเทศเพิ่มขึ้น

“จากการหารือเบื้องต้นของโครงการ ทางนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.กระทรวงคมนาคม เห็นด้วยที่ต้องการให้มีการพัฒนาระบบรางแบบยั่งยืน ดังนั้นจึงมอว่า หากกำหนดในทีโออาร์ว่าผู้ที่จะเข้ามาพัฒนาระบบรางในประเทศควรจะมีโรงงานประกอบรถไฟ สร้างคน สร้างงาน พัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ”

ทั้งนี้ สศอ.จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาพรวมของอุตสาหกรรมระบบราง โดยทำร่วมกับ รฟท. การฝึกฝนบุคลากร ทำร่วมกับ สวทช. เป็นต้น และเตรียมสรุปผลการศึกษาร่วมกันอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้หากผลการศึกษาผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลจะต้องมีการกำหนดรูปแบบ ความเหมาะสมของการก่อสร้างโรงงาน และต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงกว่าการนำเข้าตู้รถไฟมาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามจากผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขั้นต่ำ 339 ตู้ ขณะที่ รฟท. มีความต้องการหัวรถจักร 314 ตู้ รถขนส่งสินค้า 3,460 ตู้ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 1 สาย 42 ตู้ แต่ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมระบบรางรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางแต่อย่างใด ขณะที่ รัฐบาลมีแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2561 วงเงินลงทุนระบบรางสูงกว่า 1.5 ล้านล้านบาท แต่ที่ผ่านมาไทยใช้วิธีการนำเข้าขบวนรถไฟแบบสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ไม่เคยมีการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนผลิตรถไฟฟ้าหรือหัวรถจักรในประเทศ
 
ทั้งนี้หากมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตและซ่อมแซมรถไฟในประเทศ โดยกำหนดให้มีการประกอบขั้นสุดท้ายในประเทศจะก่อให้เกิดการลงทุนขั้นต่ำกว่า 500 ล้านบาท สามารถซื้อรถไฟได้ในราคาที่ลดลง 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนรถไฟ 6,000 ตู้ คิดเป็นค่าจ้างแรงงานกว่า 2,000 ล้านบาทที่จะกลับเข้าสู่ประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานที่ใช้ความรู้ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/09/2018 8:20 pm    Post subject: Reply with quote

=ประภัสร์ลุ้น!ศาลปกครองพิพากษาคดี คสช.ไล่พ้นเก้าอี้
ไทยโพสต์ 02 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 10:18 น.

02 ก.ย.2561 - ในวันพุธที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ บ.107/2559 ระหว่าง นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ฟ้องคดี กับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ผู้ถูกฟ้องคดีในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง โดยขอให้ชดใช้เงินจากการเลิกจ้างโดยไม่ชอบ

ทั้งนี้นายประภัสร์ฟ้อง ร.ฟ.ท.ว่าได้จ้างให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยตามสัญญา ลว. 14 พ.ย. 2555 ต่อมานายประภัสร์ได้ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 89/2557 ลว. 10 ก.ค.2557 ให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งมีผลเป็นการยกเลิกสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาจ้างดังกล่าวก่อนครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ผู้ฟ้องคดีจึงได้มีหนังสือ ลว. 29 มิ.ย.2558 ขอให้ ร.ฟ.ท.ชำระเงินค่าเสียหายจากการถูกเลิกจ้างดังกล่าว แต่ ร.ฟ.ท.เพิกเฉย เป็นเหตุให้นายประภัสร์ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงมาฟ้องศาลปกครอง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2018 5:05 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ปัดฝุ่นซื้อหัวรถจักร2หมื่นล. หนุนแม่สอดฮับชายแดนภาคตะวันตก

ข่าวเศรษฐกิจ
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ --
อังคารที่ 4 กันยายน 2561 00:00:46 น.

หัวลำโพง * รฟท.จ่อชงบอร์ดเคาะประมูลซื้อหัวรถจักร 6 พันล้าน และเช่าอีก 1.3 หมื่นล้านบาท กดปุ่มขยายเวลาเดินรถท่องเที่ยวพัทยาเพิ่มขึ้น 1 ปี พร้อมถกเขมรเดือนหน้าก่อนลงนามเดินรถไฟไทย-กัมพูชา ด้านตากหนุนเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ดันแม่สอดฮับขนส่ง-ค้าชายแดนภาคตะวันตก

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประ เสริฐ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงิน 6,500 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.แล้ว และเตรียมนำร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ขึ้นเว็บไซต์เพื่อเปิดประชาพิจารณ์ช่วงต้นเดือน ก.ย.2561 นี้ จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นจะเปิดให้วิจารณ์มากกว่า 15 วัน

"คาดว่าจะเปิดประมูลโครงการเร็วๆ นี้ ซึ่งตามแผนช่วงปลายปี 61 หรือต้นปี 2562 ขณะที่โครงการเช่าหัวรถจักรอีก 50 หัวรวมค่าซ่อมบำรุง วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาทนั้น คาดจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาในการประชุมนัดหน้า หากได้รับความเห็นชอบ จะนำทีโออาร์ขึ้นเว็บไซต์เพื่อเปิดประมูลโครงการต่อไปในปี 2562" นายทนงศักดิ์กล่าว

นายทนงศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.เตรียมขยายระยะเวลาให้บริการรถไฟท่องเที่ยว เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-สัตหีบ (บ้านพลูตาหลวง) เพิ่มอีกอย่างน้อย 6 เดือน หรือมากสุด 1 ปี เริ่มต้นเลยในเดือน ต.ค.นี้ หลังจะหมดช่วงทดลองเดินรถในปลายเดือน ก.ย. เนื่องจากได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยว (Load Factor) อยู่ในระดับดีมาก หรือมากกว่า 90% ส่งผลให้ รฟท.สร้างรายได้เกือบเดือนละ 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ รฟท.พิจารณาเปิดเดินรถเส้นทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ-อรัญประเทศอีกด้วย รวมถึงโครงการความร่วมมือรถ ไฟเชื่อมไทย-กัมพูชา ช่วงอรัญ ประเทศ-ปอยเปต-ศรีโสภณ-พระตะบอง-พนมเปญ ดังนั้นในเดือน ก.ย.นี้จะมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง รฟท. หน่วยงานความมั่นคงและศุลกากร เป็นต้น เพื่อหาข้อสรุปร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ก่อนลงนามความร่วมมือกัน โดยขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างฝึกอบรมด้านการเดินรถและงานซ่อมบำรุงให้กับฝ่ายกัมพูชา โดยหลังจากนี้จะมีการส่งมอบรถไฟให้ 1 ขบวนอีกด้วย

นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อ สร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียน มา ข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระ หว่างการดำเนินการเรื่องด่านศุลกากรที่จะเปิดเป็นด่านศุลกา กรอย่างเต็มรูปแบบ คาดภายในปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 นี้จะเริ่มเปิดทดลองใช้ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายใน เม.ย.2562

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีโครงการสร้างศูนย์รวมรถบรรทุก (Truck terminal) ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยตามแผนงานจะเริ่มสร้างได้ในปี 2564-65 เบื้องต้นทางจังหวัดจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร่งรัดในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ก่อสร้างภายในปี 2563 เพื่อรองรับปริมาณรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น หลังจากเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อย่างเป็นทางการ และคาดมูลค่าชายแดนจะเพิ่มขึ้นเป็นแสนล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 7-8 หมื่นล้านบาท

"หากแม่สอดมีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างสมบูรณ์แล้ว อนาคตแม่ สอดจะเป็นฮับการค้าชายแดนของภาคตะวันตก และอยากให้มีการพัฒนาคล้ายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และต้องการเป็นระเบียงเศรษฐ กิจภาคตะวันตก (WEC) ซึ่งจะมีตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และลำปาง เบื้องต้น กลุ่ม 5 จังหวัดได้หารือกันแล้ว และมีการศึกษาเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะตอนนี้อินเดียต้อง การขนส่งมาที่ภาคตะวันตก" นายสมชัยกล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2018 12:16 pm    Post subject: Reply with quote

เจ๋งได้โล่! “สถานีรถไฟบุรีรัมย์” ได้มาตรฐาน “ศูนย์ราชการสะดวก” เตรียมเข้ารับโล่ ที่ทำเนียบรัฐบาล
MGROnline - 2018/09/06 11:38:00

Click on the image for full size

บุรีรัมย์ - สถานีรถไฟบุรีรัมย์ผ่านการรับรองมาตรฐานเป็น “ศูนย์ราชการสะดวก” เตรียมเข้ารับโล่และตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวกที่ทำเนียบรัฐบาล เผยสะดวกเข้าถึงง่ายใส่ใจบริการ มุ่งรองรับเมืองท่องเที่ยวและเมืองกีฬาโลก

วันนี้ ( 6 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เตรียมเข้ารับโล่และตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวกที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ หลังผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐาน จากคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวกว่า สถานีรถไฟบุรีรัมย์เป็นศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2561






ภายหลังจากได้มีการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร ในการให้บริการประชาชน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่ายมากขึ้น เช่น มีจุดประชาสัมพันธ์ไว้คอยแนะนำอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาติดต่อใช้บริการ ทำป้ายบอกทิศทางจุดต่างๆ ภายในสถานี ทางลาดสำหรับคนพิการ ติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบสถานีเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 21 ตัว ปรับปรุงห้องน้ำให้สะดวก และสะอาดมากขึ้น ที่สำคัญยังเน้นให้เจ้าหน้าที่ทำงานในเชิงรุกยิ้มแย้ม แจ่มใส สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ

นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานให้เป็นศูนย์ราชการสะดวก เพราะที่ผ่านมาทางสถานีได้มีการพัฒนาปรับปรุงทั้งสถานที่ และบุคลากรในการให้บริการประชาชน ภายใต้สะโลแกน “ยิ้มแย้ม แจ่มใส เต็มใจบริการ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจแก่ประชาชนที่มารับบริการ

หลังจากที่ทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ผ่านการรับรองมาตรฐานเป็นศูนย์ราชการสะดวกแล้ว จะรักษามาตรฐานไว้และพัฒนาด้านการให้บริการดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับเมืองท่องเที่ยว และเมืองกีฬามาตรฐานระดับโลกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2018 12:17 pm    Post subject: Reply with quote

เจ๋งได้โล่! “สถานีรถไฟบุรีรัมย์” ได้มาตรฐาน “ศูนย์ราชการสะดวก” เตรียมเข้ารับโล่ ที่ทำเนียบรัฐบาล
MGROnline - 2018/09/06 11:38:00

Click on the image for full size

บุรีรัมย์ - สถานีรถไฟบุรีรัมย์ผ่านการรับรองมาตรฐานเป็น “ศูนย์ราชการสะดวก” เตรียมเข้ารับโล่และตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวกที่ทำเนียบรัฐบาล เผยสะดวกเข้าถึงง่ายใส่ใจบริการ มุ่งรองรับเมืองท่องเที่ยวและเมืองกีฬาโลก

วันนี้ ( 6 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เตรียมเข้ารับโล่และตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวกที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ หลังผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐาน จากคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวกว่า สถานีรถไฟบุรีรัมย์เป็นศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2561

ภายหลังจากได้มีการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร ในการให้บริการประชาชน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่ายมากขึ้น เช่น มีจุดประชาสัมพันธ์ไว้คอยแนะนำอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาติดต่อใช้บริการ ทำป้ายบอกทิศทางจุดต่างๆ ภายในสถานี ทางลาดสำหรับคนพิการ ติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบสถานีเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 21 ตัว ปรับปรุงห้องน้ำให้สะดวก และสะอาดมากขึ้น ที่สำคัญยังเน้นให้เจ้าหน้าที่ทำงานในเชิงรุกยิ้มแย้ม แจ่มใส สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ

นายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานให้เป็นศูนย์ราชการสะดวก เพราะที่ผ่านมาทางสถานีได้มีการพัฒนาปรับปรุงทั้งสถานที่ และบุคลากรในการให้บริการประชาชน ภายใต้สะโลแกน “ยิ้มแย้ม แจ่มใส เต็มใจบริการ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจแก่ประชาชนที่มารับบริการ

หลังจากที่ทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ผ่านการรับรองมาตรฐานเป็นศูนย์ราชการสะดวกแล้ว จะรักษามาตรฐานไว้และพัฒนาด้านการให้บริการดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับเมืองท่องเที่ยว และเมืองกีฬามาตรฐานระดับโลกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 318, 319, 320 ... 471, 472, 473  Next
Page 319 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©