RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181471
ทั้งหมด:13492709
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 406, 407, 408 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2021 9:16 am    Post subject: Reply with quote

ครม.สั่งคุมเข้มแผนก่อหนี้ 4 รัฐวิสาหกิจ รายได้ต่ำกว่าความสามารถชำระหนี้
กรุงเทพธุรกิจ By นครินทร์ ศรีเลิศ03 ต.ค. 2564 เวลา 8:25 น.20

ครม.สั่งคุมเข้มแผนก่อหนี้ 4 รัฐวิสาหกิจ รายได้ต่ำกว่าความสามารถชำระหนี้
การแก้ไขปัญหาการขาดทุนของ "รัฐวิสาหกิจ" เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดทำแผนเพื่อฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ เพื่อหาทางแก้ปัญหา ลดภาระขาดทุน ซึ่งมีทั้งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพ หารายได้เพิ่ม และลดต้นทุแต่ยังมีหลายแห่งที่มีหนี้สูงต้องเฝ้าระวัง

จากปัญหาเศรษฐกิจที่ถูกซ้ำเติมด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งลดลง มีภาระหนี้สินมากขึ้น บางแห่งต้องมีการกู้ยืมเงินเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่อง หรือจ่ายดอกเบี้ยเดิม โดยหนี้ที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมบางส่วนเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังต้องเข้าไปค้ำประกันและได้มีการรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบในการพิจารณาแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 2565 ที่ ครม.ได้เห็นชอบไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา

หากพิจารณาดูในรายละเอียดแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 2565 มีการรวมเอาหนี้ของรัฐวิสาหกิจเข้ามาทั้งในแผนบริหารหนี้เดิมและแผนบริหารหนี้ใหม่ 275,792.17 ล้านบาท แบ่งเป็นแผนบริหารหนี้ใหม่ 141,008.63 ล้านบาท และแผนบริหารหนี้เดิม 134,783.54 ล้านบาท

โดยในการก่อหนี้เพิ่มเติมของรัฐวิสาหกิจ ครม.ได้รับทราบความจำเป็นในการกู้เงินที่มีความจำเป็นในหลายโครงการที่ให้รัฐวิสาหกิจมีการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีหลายโครงการที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีให้กระทรวงการคลังกู้เงินแล้วให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อ เช่น การกู้เงินวงเงินรวม 5.5 หมื่นล้านบาทเพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้ต่อเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพฯ- หนองคาย (รถไฟไทย-จีน ) ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา และโครงการรถไฟทางคู่ และทางรถไฟตามแผนอีก 6 เส้นทาง เป็นต้น

ในการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2565 ครม.ได้มีการพิจารณาถึงสัดส่วนทางการเงินที่สำคัญ ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ที่ระบุว่ารัฐวิสาหกิจที่จะมีการกู้เงินต้องมีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการ (Debt Service Coverage Ration :DSCR) นับแต่มีการก่อหนี้ในอัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1 เท่า โดยหากมีความจำเป็นต้องกู้เงินแต่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ ให้รัฐวิสาหกิจนั้นๆเสนอเหตุผลและความจำเป็น แนวทางการแก้ไขปัญหา และแผนบริหารหนี้ที่ชัดเจนต่อคณะกรรมการฯ เพื่อเสนอความเห็นในการกู้เงินต่อ ครม.

ทั้งนี้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 2565 มีรัฐวิสาหกิจจำนวน 4 แห่งที่มีค่า DSCR ต่ำกว่า 1 เท่า ซึ่งต้องเสนอขออนุมัติต่อ ครม. ได้แก่

1.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มี DSCR เท่ากับ 0.74 เท่า

โดย การขอบรรจุวงเงินในแผนฯ ปีงบประมาณ 2565 ประกอบด้วยแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1.08 หมื่นล้านบาท โดยเป็นวงเงินให้กู้ต่อจากกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในโครงการระบบรถไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลที่รัฐรับภาระทั้งหมด แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน 1.87 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้เงินให้กู้ต่อจากกระทรวงการคลังที่รัฐรับภาระทั้งหมด และแผนการชำระหนี้วงเงิน 7.9 พันล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่ รฟม. ขอรับจัดสรรบประมาณประจำปีงบประมาณ 2565ที่รัฐรับภาระ ชำระหนี้เงินต้น วงเงิน 3.5 พัน ล้านบาท และชำระดอกเบี้ย วงเงิน 4.35 พันล้านบาท

Click on the image for full size

ทั้งนี้ภาระหนี้ของ รฟม. เกิดขึ้นจากการกู้เงินจากกระทรวงการคลังเพื่อนำมาลงทุนในโครงการระบบรถไฟฟ้าในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลรับภาระการลงทุนทั้งหมด ดังนั้น รฟม.จึงสามารถขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีจากรัฐบาล เพื่อชำระหนี้ทั้งในส่วนของดอกเบี้ยและเงินต้นได้ สำหรับภาระหนี้ที่มีวงเงินที่ครบกำหนดจำนวนมากในแต่ละปี เห็นควรให้มีการกระจายภาระหนี้ให้สอดคล้องกับการจัดหารายได้ของหน่วยงานและความสามารถในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระหนี้ในแต่ละปีเห็นชอบให้นำเสนอเหตุผลความจำเป็น แนวทางการแก้ไขปัญหา และแผนการบริหารหนี้ที่ชัดเจนของ รฟม. ต่อ ครม.

2.การรถไฟแห่งประเทศไทย DSCR เท่ากับ 0.52 เท่า

โดยมีการกู้เงินและการบริหารหนี้ที่รัฐบาลรับภาระ วงเงิน 8.68 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็น การกู้เงินใหม่ วงเงิน 5.54 หมื่นล้านบาท และการบริหารหนี้เดิม วงเงิน 3.13 หมื่นล้านบาทเป็นการกู้เงินและการบริหารหนี้ที่รัฐบาลรับภาระทั้งหมด จึงไม่ส่งผลต่อฐานะการเงินของ รฟท. เนื่องจากรัฐบาล

ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้แก่ รฟท. ตามภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจริงที่ต้องชำระคืนเงินต้นตามกรอบที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ รวมทั้ง กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารจัดการหนี้เงินกู้ดังกล่าวให้ด้วยดังนั้น หนี้ที่รัฐบาลรับภาระจึงไม่กระทบต่อฐานะการเงินของ รฟท.

โดยการกู้เงินและการบริหารหนี้ที่ รฟท. รับภาระ วงเงิน 6.78 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นการกู้ใหม่ วงเงิน 1.79 หมื่นล้านบาท และการบริหารหนี้เดิมในประเทศ วงเงิน 4.72 หมื่นล้านบาทและต่างประเทศ วงเงิน 2.36 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีดอกเบี้ยจ่ายที่ รฟท. รับภาระ จำนวน 3.62 พันล้านบาท รฟท. ยังสามารถบริหารจัดการและรับภาระได้โดยใช้รายได้ในการชำระดอกเบี้ย และมีการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องด้วย รฟท. จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อดำเนินกิจการเนื่องจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้เพื่อให้ รฟท.สามารถดำเนินกิจการขนส่งสาธารณะ (public Service) แก่ประชาชนได้ ดังนั้น จึงเห็นควรให้รัฐบาลชดเชยผลขาดทุนรายปีให้แก่ รฟท. ตามกฎหมายรวมทั้งดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้เงินที่เป็นผลมาจากการขาดทุนดังกล่าว ซึ่งเมื่อ รฟท. สามารถปิดงบการเงินประจำปี และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) รับรองได้แล้ว ควรชดเชยผลการขาดทุนให้แก่ รฟท. เพื่อชดเชยภาระการกู้เงินเนื่องจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี

นอกจากนี้กระทรวงการคลังโดย สบน. ได้ช่วยบริหารหนี้ของ รฟท. ที่มีอยู่กว่า 1.9แสนล้านบาท ให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของ รพท. โดยลดการกระจุกตัวของหนี้ ขยายอายุหนี้ให้ยาวขึ้น และจำกัด (Lock) ต้นทุน ในช่วงที่ต้นทุนการกู้เงินอยู่ในระดับต่ำตามสภาวะตลาด

ที่เอื้ออำนวยปัจจุบัน ทั้งนี้ สบน. จะใช้ผลการกู้เงินและการเบิกจ่ายเปรียบเทียบกับแผนฯ ของ รฟท. ในการพิจารณาขอบรรจุวงเงินและโครงการในแผนฯ ทุกครั้ง และจะประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องทุกระยะ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของ รฟท. ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

3.การเคหะแห่งชาติ (กคช.) อัตราส่วน DSCR เท่ากับ 0.46 เท่า โดยการขอบรรจุวงเงินในแผนฯประจำปีงบประมาณ 2565 ประกอบด้วย

แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 3.3 พันล้านบาท โดยเป็นเงินกู้เพื่อลงทุน วงเงิน 1,350 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,940 ล้านบาท แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน 1500 ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงิน 2.7 พันล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่ กคช. ขอรับจัดสรรงบประมาณประจำปี 2565 เพื่อชำระค่าดอกเบี้ย วงเงิน 63.32 ล้านบาท และชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากแหล่งเงินอื่นรวมวงเงิน 2643 ล้านบาท

สาเหตุที่ กคช. มีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำกว่าเกณฑ์ เนื่องจากมีภาระหนี้ที่ครบกำหนดในแต่ละปีที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ในวงเงินค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ได้มีการแก้ปัญหา DSCR ในปีงบประมาณ 2564 โดย กคช, ร่วมกับ สบน. ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ที่ครบกำหนด โดยการออกพันธบัตร เพื่อช่วยยืดอายุเฉลี่ยหนี้คงค้าง ลดการกระจุกตัวของหนี้ (Bunching) (หนี้ที่ครบกำหนดในช่วง 1-3 ปี ลดลงจากเดิม 49% เหลือ 28% ของหนี้งค้าง) ดังนั้น กคช.จึงควรประสานงานร่วมกับ สบน. อย่างใกล้ชิตและต่อเนื่อง

หนี้คงค้างที่เหลือส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบพันธบัตร ดังนั้น กคช. ควรบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้สมดุล เช่น การบริหารสินทรัพย์เพื่อเพิ่มรายได้ การวางแผนการก่อหนี้ใหม่และการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับกระแสเงินรับที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน และควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนดในแต่ละปี โดยควรมีการกำหนดกรอบตัวขี้วัดในการบริหารความเสี่ยงด้านการปรับโครงสร้างหนี้ด้วย

รวมทั้งควรพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ก่อนครบกำหนด เพื่อลดการกระจุกตัวของหนี้ และควรมีการวางแผนการบริหารทรัพย์สินก่อนโครงการแล้วเสร็จเพื่อไม่ให้เกิดต้นทุนจม (Sunk Cost) สำหรับแผนการบริหารทรัพย์สินตังกล่าว ขอให้ กคช. รายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการฯ เป็นระยะ

และ 4.องค์การขนส่งมวลขนกรุงเทพ อัตราส่วน DSCR เท่ากับ 0.18 เท่า มีการการขอบรรจุวงเงินในแผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2565 ประกอบด้วยแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 7.8 พันล้านบาท โดยเป็นเงินกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงิน 3.1 พันล้านบาท

โดยเป็นวงเงินที่ ขสมก. ขอรับจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อชำระค่าดอกเบี้ยวงเงิน 2.18 พันล้านบาท และชำระดอกเบี้ยจากแหล่งเงินอื่น วงเงิน 996.94 ล้านบาท การบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 2.51 หมื่นล้านบาท

เป็นหนี้เงินกู้ที่เกิดขึ้นก่อน วันที่ 25 มิ.ย.2562 ซึ่ง ครม.มีมตีให้รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยจ่าย และสำนักงบประมาณได้จัดสรรชำระดอกเบี้ยจ่ายในปี 2565 ให้แล้ว จำนวน 5.18 พันล้านบาท และหนี้เงินกู้ที่เกิดขึ้นภายหลัง จำนวน 1.03 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ขสมก. ได้ชำระดอกเบี้ยจากรายไต้ตนเอง ดังนั้นจึงสามารถเสนอให้ครม.ปรับโครงสร้างหนี้ใด้

ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ ขสมก. ก่อหนี้สะสมเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น สบน. เห็นว่า ขสมก. จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการขนส่งสาธารณะแก่ประชาชนได้

ดังนั้น จึงเห็นควรให้รัฐบาลชดเชยผลขาดทุนรายปีให้แก่ ขสมก. เมื่อ ขสมก. สามารถปิดงบการเงินประจำปีและ สตง. รับรองได้และถึงแม้ว่า สตง. รับรองแล้วควรให้หน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพองศ์กรต่อไปเพื่อลดภาระภาครัฐในอนาคต

กระทรวงการคลังโดย สบน. ได้ช่วยบริหารหนี้ของ ขสมก. ที่มีอยู่กว่า 1.23 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ให้สอดคล้องกับรายได้และวามสามารถในการชำระหนี้ของ ขสมก. โดยลดการกระจุกตัวของหนี้ ขยายอายุหนี้ให้ยาวขึ้น และจำกัด (Lock) ต้นทุน ในช่วงที่ต้นทุน

การกู้เงินอยู่ในระดับต่ำตามสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน ทั้งนี้ สบน. จะใช้ผลการกู้เงินและการเบิกจ่ายเปรียบเทียบกับแผนฯ ของ ขสมก. ในการพิจารณาการชอบรรจุวงเงินและโครงการในแผนฯ ทุกครั้ง และจะประสานงานร่วมกับ สคร. อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องทุกระยะ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของ ขสมก.ตามแผนฟื้นฟูกิจการ พร้อมทั้งนำเสนอและรายงานต่อคณะกรรมการฯ ประกอบการพิจารณาการให้กู้เงินและการบริหารหนี้ของ ขสมก.

นอกจากนี้ยังขอให้ ขสมก. ดำเนินการลดสัดส่วนพนักงานต่อคันรถ เพื่อให้การดำเนินงานและการบริหารตันทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเช่ารถจากเอกชนมาวิ่งดำเนินการให้คำนวณตั้งแต่ต้นสายจนถึงปลายสายเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 03/10/2021 11:52 pm    Post subject: Reply with quote

App : SRT D-Ticket แอพขายตั๋วรถไฟ ของการรถไฟ
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
วันอาทิตย์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.17 น.

ตั้งแต่ จอง, เลื่อน และยกเลิกตั๋ว พร้อมเก็บตั๋วในแอพ ไม่ต้องปริ้น!!! สายรถไฟต้องมีติดมือถือแล้ว!!!
วันนี้เอาอีกความคืบหน้าหนึ่งของ โครงการปรับปรุงตั๋วรถไฟ ในโครงการ D-Ticket ซึ่งเคยพูดไปก่อนหน้านี้ผมเคยโพสต์ไปแล้วคือ
- การเปลี่ยนรูปแบบตั๋ว D-Ticket
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1075278479577297/?d=n
- เครื่องขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1122189351552876/?d=n
ซึ่งในโพสต์ก่อนหน้านี้ ก็มีคนคอมเมนท์ตามว่าควรจะมีแอพพลิเคชัน ในการซื้อตั๋ว และผมก็ตอบตั้งแต่วันนั้นว่ามันมีอยู่ในโครงการ แต่จะทะยอยปล่อยออกมาให้ใช้งาน
—————————
เรามาดูรายละเอียดของ App : SRT D-Ticket กันดีกว่า
*** ช่องทางการ Download
- iOS
https://apps.apple.com/th/app/srt-d-ticket/id1560080111
- Android
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.dticket
*** การใช้งาน Application
ซึ่งพอเข้าแอพไป เราจะเข้าหน้า Login ซึ่งถ้าใครไม่มี ID ก็สามารถสมัคร หรือกดลืม Password ได้เลย (แต่ไม่สามารถ ล๊อก ID ได้ ต้อง Login ใหม่ทุกครั้ง)
พอเข้าไปแล้ว ก็เข้ามาหน้าหลัก ซึ่งสามารถกดดูตั๋วรถไฟ และไปหน้าจองตั๋วรถไฟได้เลย
*** สำหรับคนที่ต้องการจองตั๋วรถไฟ
- กดเข้าไปที่จองตั๋วรถไฟ
- เข้าหน้าจองตั๋วรถไฟ
- เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง
- เลือกวันเดินทาง (จองได้ 30 วัน ก่อนเดินทาง *** ช่วง Covid)
- เลือกจำนวนผู้โดยสาร
- กดต่อไปเพื่อเลือกขบวนรถไฟ
- เลือกขบวน
- เลือกตู้และชั้นโดยสาร
- สรุปรายละเอียดผู้จองตั๋วรถไฟ
- เลือกตำแหน่งที่นั่ง (สามารถเลื่อนตู้โดยสารได้แล้ว!!!)
- เลือกส่วนลด
- รายการสรุปการจองตั๋วรถไฟ
- เลือกวิธีการจ่ายค่าโดยสาร (สามารถจ่ายได้ทั้งบัตรเครดิต และ พร้อมเพย์)
- จ่ายค่าโดยสาร
ซึ่งพอจ่ายค่าโดยสารเสร็จ จะได้ตั๋วรถไฟมาเก็บในแอพพลิเคชัน และสามารถใช้แสดงบนรถไฟได้เลย
ปล. แอพพลิเคชันสามารถเปลี่ยนภาษาได้ ไทย-อังกฤษ ครับ
—————————
ซึ่งการปรับปรุงตั๋วรถไฟ น่าจะช่วยให้ผู้โดยสารสะดวก และเข้าถึงในการจองตั๋ว ได้ง่ายยิ่งขึ้น!!!
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/10/2021 11:26 am    Post subject: Reply with quote

สหภาพรถไฟฯ ร้อง “บิ๊กตู่” ให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน
สยามรัฐออนไลน์ 5 ตุลาคม 2564 11:06 น. การเมือง

Click on the image for full size

วันที่ 5 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เรียกร้องนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงานที่เกิดกับกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 13 คน ดังนี้

1.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณี “พี่น้องกรรมการ สร.รฟท. ถูกกล่าวหาละทิ้งงานจากการทำกิจกรรมรณรงค์ เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการเดินรถไฟเพื่อประโยชน์แก่ผู้โดยสาร”

2.รายงาน Case No. 3022: Complaint against the Government of Thailand ของคณะกรรมการว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม (Committee of Freedom of Association: CFA) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO)

3.คำสั่งเฉพาะที่ รฟ.ชก.1000/1120/2564 เรื่องให้พนักงานสังกัดศูนย์ซ่อมบำรุงด้านลากเลื่อน ฝ่ายการช่างกลออกจากงานไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา

ความเป็นมา

ตามที่อ้างถึง 1 และ 2 อุบัติเหตุรถไฟตกรางที่บริเวณเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 มีผู้เสียชีวิต 7 คนและบาดเจ็บ 84 ราย และก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร รวมทั้งความเสียหายที่เกิดกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเงินกว่า ๒๐๙ ล้านบาท สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ในขณะนั้น ได้มีมติทำกิจกรรมรณรงค์ให้พนักงาน รฟท. ตระหนักถึงการเดินรถไฟให้ปลอดภัย และเรียกร้องให้นายจ้างหรือ รฟท. ปฏิบัติตามข้อตกลงสภาพการจ้าง ที่ได้ยื่นจดทะเบียนตามกฎหมายรัฐวิสาหกิจแรงงานสัมพันธ์ตั้งแต่ปี 2550-2552 ด้วยเหตุผลว่า ในช่วงเวลานั้น รฟท. มีงบประมาณที่จำกัด ขบวนรถไฟจึงขาดการบำรุงรักษา หัวรถจักรอยู่ในสภาพที่ชำรุด แต่ยังคงนำมาใช้เดินรถเพื่อให้บริการแก่ประชาชน จึงยื่นข้อเรียกร้องต่อ รฟท. ว่า ถ้าขบวนรถไฟไม่ว่าจะเป็นรถจักรหรือรถพ่วง ก่อนทำขบวนการรถไฟต้องทำการซ่อมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนใช้งานดังนั้น ซึ่งบทบัญญัติมาตรา 58(2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 กำหนดว่า “เมื่อสหภาพแรงงานปฏิบัติการ ชี้แจงหรือโฆษณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อพิพาทแรงงาน หรือการดำเนินงานของสหภาพแรงงาน เพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงาน ให้สหภาพแรงงาน กรรมการสหภาพแรงงาน อนุกรรมการสหภาพแรงงาน และเจ้าหน้าที่ของสหภาพแรงงานได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกกล่าวหาหรือฟ้องร้องทางอาญาหรือทางแพ่ง”
ในครั้งนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดสติ

ทั้ง 2 คนนั้น คือ ซีลยางกั้นระหว่างประตู (คล้ายกรอบยางประตูรถยนต์) ที่ทำหน้าที่กันเสียงกันฝุ่นกันไอต่างๆ มันฉีกขาด เลยทำให้แก๊สไอเสียจากห้องเครื่องยนต์ซึ่งอยู่ติดกันกับห้องขับของรถจักรเข้ามา และในวันดังกล่าวปรากฏว่ามีฝนตก หัวรถจักรไม่ได้ติดแอร์เหมือนรถยนต์ พนักงานจึงเอากระจกทั้ง 2 ข้างขึ้นเพื่อปิดกันฝนสาด ทำให้อากาศน้อยลง ห้องเครื่องยนต์ที่อากาศมีมากกว่าก็จะไหลเข้ามา พาไอเสียเข้ามาด้วย ส่งผลให้พนักงานทั้ง 2 คนหมดสติ หากเหตุการณ์ปกติเป็นไปได้ยากที่จะหมดสติพร้อมกันทั้ง 2 คน และที่สำคัญหัวรถจักรของรถไฟขบวนที่เกิดอุบัติเหตุไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ ระบบห้ามล้ออัตโนมัติหรือระบบวิจิแลนด์ชำรุดไม่ทำงาน ซึ่งระบบนี้มีไว้เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับการขับรถไฟ เมื่อเกิดเงื่อนไขที่พนักงานขับรถไฟหมดสติ ไม่ตอบสนองใดๆ ไม่กดปุ่ม ไม่ชักหวีด ไม่ใส่ห้ามล้อ ไม่ไปสัมผัสอะไรเลยภายในสองนาที ระบบนี้จะทำงานส่งสัญญาณให้รับรู้ว่า หัวรถจักรนั้นไร้การควบคุม ระบบห้ามล้อฉุกเฉินก็จะจับ รถไฟก็จะหยุดในทันที แต่อุบัติที่เกิดขึ้น พบว่าระบบนี้ใช้งานไม่ได้ มันชำรุด

ผลของอุบัติเหตุดังกล่าว ไม่พบการลงโทษทางวินัยผู้บริหารที่รับผิดชอบในการเดินรถ ที่ปล่อยให้มีการนำหัวรถจักรที่ระบบห้ามล้ออัตโนมัติหรือระบบวิจิแลนด์ชำรุดไม่ทำงานออกมาให้บริการ แต่กลับมีการตอบโต้การทำกิจกรรมรณรงค์ของ สร.รฟท. ด้วยการ ออกคำสั่งลงโทษไล่ออกกรรมการ สร.รฟท. ปฏิบัติงานที่ อ.หาดใหญ่ จำนวน 6 คน และต่อมา มีการขออำนาจศาลในการเลิกจ้างกรรมการ สร.รฟท. เพิ่มอีก 7 คน ซึ่งทำหน้าที่กรรมการกิจการสัมพันธ์ฝ่ายลูกจ้าง

นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีการฟ้องเป็นคดีที่ศาลแรงงานและศาลมีคำพิพากษาว่า มีการปฏิบัติในลักษณะที่เข้าไปยุยงมีความผิดให้ชดใช้ค่าเสียหาย 15 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยจนถึงวันที่ศาลตัดสินก็ 25 ล้านบาท นอกจากการยื่นฟ้องเป็นคดีที่ศาลแรงงานแล้ว มีการกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ว่า กรรมการ สร.รฟท. ร่วมกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ร่วมกันละทิ้งงานหรือกระทำการอย่างใดๆ เพื่อให้งานหยุดชะงักหรือเสียหาย โดยร่วมกระทำเช่นนั้นด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ซึ่งคณะกรรมการ ปปช. ได้รับเรื่องสอบสวน และลงมติเห็นชอบว่า การกระทำของกรรมการ สร.รฟท. จำนวน 13 คน มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน ละทิ้งงานหรือกระทำการอย่างใดๆ เพื่อให้งานหยุดชะงักหรือเสียหาย โดยร่วมกระทำเช่นนั้นด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 166 สำนักงานอัยการสูงสุดจึงแต่งตั้งทนายเพื่อนำผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ปปช. ไปฟ้องศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ล่าสุดศาลได้มีคำพิพากษาให้กรรมการ สร.รฟท. มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาและให้ลงโทษ ขณะนี้ คดีอยู่ในระหว่างการขออุทธรณ์

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และ สร.รฟท. พร้อมด้วยองค์กรแรงงานในระดับสากลคือ สมาพันธ์สหภาพแรงงานสากล (International Trade Uni0n Confederation: ITUC) และสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (International Transport Workers’ Federation: ITF) ได้ยื่นหนังสือถึงองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ร้องเรียนการที่รัฐบาลไทยละเมิดสิทธิแรงงานด้วยการใช้ช่องทางกฎหมายต่าง ๆ มาดำเนินคดีต่อผู้นำสหภาพแรงงานที่ลุกขึ้นมารณรงค์ความปลอดภัยในการให้บริการเดินรถไฟให้มีความปลอดภัย เพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารที่มาใช้บริการของ รฟท. และ รฟท. เอง ได้รับประโยชน์เช่นกัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 08/10/2021 9:37 am    Post subject: Reply with quote

OTO คว้างานคอลเซ็นเตอร์การรถไฟฯ ยาว 36 เดือน รับเงิน 166.84 ลบ.
วันพฤหัสบดี ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2564

OTO คว้างานให้บริการระบบศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ (๑๖๙๐ Call Center) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 36 เดือน รับเงิน 166.84 ลบ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 08/10/2021 7:42 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟเคาะ พ.ย.นี้ เปิดประมูล 1 พันล้าน ติดตั้งจีพีเอส ขบวนรถขนคน-สินค้า อัพเกรดขนส่งคาดเปิดบริการปี’67
เศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:21 น.


รายงานข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท .เตรียมเปิดประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) วงเงินลงทุน 950 ล้านบาท เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบ GPS และRFID บนขบวนรถโดยสารและขบวนตู้สินค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้า รวมทั้งระบบการวางแผนพนักงานประจำขบวนรถ ระบบจัดขบวนรถ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับระบบขนส่งโหมดอื่น


ทั้งนี้ รฟท. เปิดรับฟังความเห็นร่างทีโอออาร์ผ่านเว็บไซต์ไปเรียบร้อยแล้ว ระหว่างวันที่ 27 ก.ย.-1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการเสนอแนะความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของระบบมา แต่ไม่น่าจะมีนัยต่อสาระสำคัญของร่าง คาดว่าจะนำเสนอร่างทีโอออาร์ให้ ผู้ว่าฯรฟท. พิจารณาอนุมัติได้ในช่วง 18-20 ต.ค.นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 08/10/2021 10:38 pm    Post subject: Reply with quote

รายการสารคดีรถไฟไทย ทางช่องไทยพีบีเอสออกอากาศประมาณเดือร พฤศจิกายน. 64
https://www.facebook.com/pongthep.prampratin.7/posts/3130247523860695
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/10/2021 8:46 am    Post subject: Reply with quote

OTO คว้างานคอลเซ็นเตอร์การรถไฟฯ มูลค่า 166.84 ลบ.
Source - หุ้นอินไซด์รายวัน
Monday, October 11, 2021 05:39

บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ หรือ OTO สุดปัง! คว้างาน 1690 Call Center ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่า 166.84 ล้านบาท ระยะเวลา 36 เดือน เผยสามารถสร้างบริการที่ทันสมัยให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟผ่านระบบศูนย์บริการได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งให้บริการได้หลากหลายช่องทาง เช่น ผ่านช่องทางโทรศัพท์, E-mail, Web Chat, และ Chat Bot Social Media (Facebook)

นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการว่าจ้างในการให้บริการระบบศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ (1690 Call Center) จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (การรถไฟฯ) มูลค่า 166.84 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาโครงการ 36 เดือน

สำหรับระบบศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ (1690 Call Center) ของการรถไฟฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลข่าวสารเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ทั้งข้อมูลพื้นฐานการโดยสาร เดินรถ สินค้า การแจ้งเหตุด่วน เหตุอันตราย ข้อเสนอแนะ ติชม โฆษณา สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถสร้างบริการที่ทันสมัยให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟ ผ่านระบบศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ 1690 Call Center ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยสามารถให้บริการได้หลากหลายช่องทาง เช่น ผ่านช่องทางโทรศัพท์, E-mail, Web Chat, และ Chat Bot Social Media (Facebook) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้พัฒนาการบริการให้กับการรถไฟฯ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันรวมแล้วจำนวน 4 สัญญา โดยสัญญาปัจจุบันเป็นการพัฒนาระบบงานลักษณะ Omni Channel Platform เต็มรูปแบบ Voice, Non-Voice, Social Media พร้อมบริการ Digital Services ผ่าน Chat Bot , Visual IVR เพื่อรองรับการขยายบริการของการรถไฟฯ ต่อไป

ที่มา: E-Magazine หุ้นอินไซด์รายวัน ฉบับวันที่ 11 ต.ค. 2564
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/10/2021 1:18 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม จัดกิจกรรมน้อมรำลึก วันคล้ายวันสวรรคต ร.9
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 ตุลาคม 2564 - 13:12 น.

Click on the image for full size

กระทรวงคมนาคม จัดกิจกรรมน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต ร.9 “ศักดิ์สยาม” นำทีม

วันที่ 13 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

“ศักดิ์สยาม”นำทีมคมนาคมน้อมรำลึก
เริ่มที่ กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานจัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้เข้าร่วมพิธีประกอบด้วย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม ณ อาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาที่ได้ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระปัญญาปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงพสกนิกร โครงการในพระราชดำริน้อยใหญ่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทางให้อาณาประชาราษฎร์ได้ดำเนินชีวิตโดยใช้ความรู้และสติปัญญาเป็นภูมิคุ้มกัน

อีกทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของประเทศต่าง ๆ ได้น้อมนำแนวทางพระราชทานไปปฏิบัติ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลขจรขจายไปทั่วทิศานุทิศ กระทรวงคมนาคมจึงได้จัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ


โดยจัดพิธีวางพวงมาลา ในวันที่ 13 ตุลาคม 2564 ขึ้น พร้อมทั้งจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ (เครื่องทองน้อย) บริเวณห้องโถงอาคาร 1 กระทรวงคมนาคม และเผยแพร่คำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ผ่านทางเว็บไซต์ และช่องทางสื่อออนไลน์ของกระทรวงคมนาคมตลอดเดือนตุลาคม 2564

เพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม และประชาชนที่มาติดต่อราชการได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสนี้ด้วย

3 กรมใหญ่น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้านกรมท่าอากาศยาน (ทย.) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี ทย. เป็นประธาน พร้อมนายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดี (ด้านเศรษฐกิจ) และผู้บริหารเข้าร่วมกิจกรรม ในการนี้ อธิบดีได้วางพวงมาลาถวายสักการะพระหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย

ขณะที่กรมทางหลวง (ทล.) เมื่อเวลา 8.30 น. ก็ได้จัดกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เช่นกัน โดยมี นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีทล.เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกรมทางหลวงเข้าร่วมพิธี ในการนี้ อธิบดีกรมทางหลวงได้วางพวงมาลาถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ณ ห้องโถงอาคารพหลโยธิน ทล.

ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นายไกวัลย์ โรจนานุกูล รองอธิบดี นายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ รองอธิบดี นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท วางพวงมาลาและถวายบังคมหน้าพระบรมรูปทรงงาน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และพระราชกรณียกิจอันใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชน ณ บริเวณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ สะพานภูมิพล 1 สะพานภูมิพล 2 อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

รถไฟ เปิดสถานีกลางบางซื่อ ร่วมน้อมรำลึก
ปิดท้ายที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า ร.ฟ.ท. พร้อมด้วยรองผู้ว่าการรถไฟฯ คณะผู้บริหาร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ พนักงาน และจิตอาสา 904 เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในกิจกรรมร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมกับยืนสงบนิ่ง 89 วินาที

จากนั้นได้ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย บริเวณย่านสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม

นายนิรุฒฯ เผยว่า การรถไฟฯ ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน และได้น้อมนำพระราชดำริแห่งการพัฒนาระบบคมนาคมของไทย มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน การให้บริการ การพัฒนาประเทศ และการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบคมนาคมไทย

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ติดตั้งนาฬิกา ที่หน้าปัดมีหมายเลข ๙ เพียงเลขเดียว บนผนังกระจกด้านหน้าของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยตัวเรือนนาฬิกามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร สูงจากระดับพื้นดิน 21 เมตร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของสถานีกลางบางซื่ออีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/10/2021 2:34 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. จัดระเบียบริมทางรถไฟ ปรับภูมิทัศน์ใหม่ สร้างสีสันการเดินทาง
เดลินิวส์ 13 ตุลาคม 2564 14:29 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

รฟท. ลงพื้นที่จัดระเบียบริมทางรถไฟ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกหญ้า พันธุ์ไม้ประจำถิ่น เก็บขยะ ติดไฟส่องสว่าง สร้างความสวยงาม ริมทางรถไฟสายตะวันออก สถานีมักกะสัน-คลองตัน 2 พัน ตร.ม.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมทางรถไฟว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง รฟท. ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่บริเวณริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน – คลองตัน ช่วงทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับถนนซอยศูนย์วิจัยความยาว เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และปลอดภัย เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และส่งเสริมการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ ภายใต้แนวคิด “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่บริเวณพื้นที่ริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน – คลองตัน บริเวณทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับ ถนนซอยศูนย์วิจัย มีระยะทางการปรับปรุงทั้งสิ้น 500 เมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมทัศนียภาพ และเพิ่มความสวยงาม ร่มรื่น ด้วยการปลูกหญ้า พันธุ์ไม้ประจำถิ่น พร้อมจัดระเบียบพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย มีบรรยากาศที่สดชื่น สร้างความร่มรื่นแก่ผู้ใช้บริการ

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ รฟท. ยังเตรียมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ ตลอดจนเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว และประชาชนที่ใช้เส้นทางในการเดินทางสัญจร รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/10/2021 2:35 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. จัดระเบียบริมทางรถไฟ ปรับภูมิทัศน์ใหม่ สร้างสีสันการเดินทาง
เดลินิวส์ 13 ตุลาคม 2564 14:29 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

Click on the image for full size

รฟท. ลงพื้นที่จัดระเบียบริมทางรถไฟ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกหญ้า พันธุ์ไม้ประจำถิ่น เก็บขยะ ติดไฟส่องสว่าง สร้างความสวยงาม ริมทางรถไฟสายตะวันออก สถานีมักกะสัน-คลองตัน 2 พัน ตร.ม.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมทางรถไฟว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง รฟท. ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่บริเวณริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน – คลองตัน ช่วงทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับถนนซอยศูนย์วิจัยความยาว เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และปลอดภัย เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และส่งเสริมการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ ภายใต้แนวคิด “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

Click on the image for full size

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่บริเวณพื้นที่ริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน – คลองตัน บริเวณทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับ ถนนซอยศูนย์วิจัย มีระยะทางการปรับปรุงทั้งสิ้น 500 เมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมทัศนียภาพ และเพิ่มความสวยงาม ร่มรื่น ด้วยการปลูกหญ้า พันธุ์ไม้ประจำถิ่น พร้อมจัดระเบียบพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย มีบรรยากาศที่สดชื่น สร้างความร่มรื่นแก่ผู้ใช้บริการ

Click on the image for full size

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ รฟท. ยังเตรียมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ ตลอดจนเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว และประชาชนที่ใช้เส้นทางในการเดินทางสัญจร รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 406, 407, 408 ... 471, 472, 473  Next
Page 407 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©