ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)

Mongwin · Posted: 29/01/2020 5:11 pm Post subject:

เคาะสายสีส้มตะวันตก1.4แสนล. 'รวบสัญญาเดียว'เปิดบริการปี69
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2563

กรุงเทพธุรกิจ "สมคิด" ดันลงทุนรถไฟฟ้า 5จี หลายแสนล้าน ครม.เคาะร่วมทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1.4 แสนล้าน รวบ 1 สัญญา ประมูล ต.ค.นี้ ทั้งโยธา-เดินรถตลอด เส้นทาง สกัดซอยสัญญางานโยธา ชี้ผลตอบแทน การเงิน 19.5% สศช.ย้ำคัดเลือกเอกชนคำนึงผลประโยชน์สูงสุด

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (งานโยธา) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ รวมงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ช่วงมีนบุรีบางขุนนนท์ ในรูปแบบ PPP Net Cost ซึ่งเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ทบทวนรูปแบบ การลงทุน โดยแยกงานโยธาออกมาให้รัฐเป็นผู้ลงทุน และให้แยกสัญญาเพื่อให้โครงการเสร็จเร็วขึ้น ก่อนที่สรุปกลับไปใช้รูปแบบ PPP Net Cost

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วานนี้ (28 ม.ค.) เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก วงเงินลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบมาตรการการลงทุนของกระทรวงการคลัง เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนได้กว่าแสนล้านบาท รวมทั้งกลางเดือน ก.พ.นี้ จะประมูล 5 จี ซึ่งจะมีการลงทุนต่อเนื่องกว่าแสนล้านบาท

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ และจะเปิดประมูลเดือน ต.ค.นี้ พร้อมกันทั้งงานโยธาและงานเดินรถไฟฟ้าตลอดเส้นทาง

ครม.เคาะลงทุน1.4แสนล้าน

โครงการนี้มีมูลค่าลงทุนรวม 142,789 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ค่าจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 14,661 ล้านบาท 2.ค่างานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก 96,012 ล้านบาท 3.ค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้าบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งโครงการและค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ 32,116 ล้านบาท

โดยโครงการนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cross ซึ่งภาครัฐลงทุนค่าจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการส่วนตะวันตก และภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการไปก่อน และภาครัฐจะจัดสรรวงเงินทยอยคืนให้กับเอกชนหลังการให้บริการเดินรถเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี

รวมทั้งให้ภาคเอกชนลงทุนค่างานระบบไฟฟ้าขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา 30 ปี นับจากปีที่เปิดให้บริการและเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านรายได้จากค่าโดยสารและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยภาครัฐไม่สนับสนุนทางการเงินในงานระบบรถไฟฟ้า

สำหรับรายละเอียดของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกระยะทาง 13.4 กิโลเมตร เป็นการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินตลอดเส้นทางมี 11 สถานี คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร ณ ปี 2569 อยู่ที่ 4.39 แสนคนต่อวัน ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) 19.45% จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.2569 และเปิดบริการปี 2569

"ที่ผ่านมา ครม.เคยอนุมัติก่อสร้างงานโยธาของส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมมีนบุรี (สุวินทวงศ์) แล้ว จะสร้างเสร็จปี 2566"

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า การพิจารณษครั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีข้อสังเกตเพิ่มเติม เช่น การกำหนดรูปแบบการคัดเลือกเอกชน เข้าร่วมลงทุนต้องเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนกระทรวงการคลังเห็นว่าไม่ควรใช้เงินกู้เป็นเงินร่วมลงทุนเพราะจะทำให้เกิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยของเอกชน ในขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่า รฟม.ควรเร่งปรับปรุงรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

สกัดซอยสัญญางานโยธา

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (งานโยธา) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ รวมงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ช่วงมีนบุรี-บางขุนนนท์ เป็นโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคม (แอคชั่นแพลน) ปี 2561 ที่ รฟม.จะเสนอ ครม.ตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ชะลอเพราะมีการทบทวนมูลค่าการลงทุน

ในขณะที่คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เห็นชอบเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2562 ให้ใช้รูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง

ทั้งนี้ หลังนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้ารับตำแหน่ง ได้มีการสรุปโครงการเทียบเคียง 2 ทางเลือก คือ 1.รัฐร่วมทุนกับเอกชนในการก่อสร้างและเดินรถ 2.รัฐลงทุนงานโยธา ส่วนเอกชนลงทุนงานเดินรถ โดยนายศักดิ์สยาม มองว่า หากแยกงานโยธาออกจากระบบเดินรถจะทำให้โครงการเสี่ยงน้อยลง และโครงการจะเสร็จเร็วขึ้น เพราะไม่ได้ผูกโครงการขนาดใหญ่กับผู้รับจ้าง เช่น โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ที่แบ่งเป็น 40 สัญญา ทำให้โครงการเสร็จเร็วกว่าแผน

โดย รฟม.จึงต้องกลับไปศึกษารูปแบบการลงทุนใหม่ โดยการที่รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโยธาเองจะทำให้ รฟม.แบ่งงานโยธาออกเป็นหลายสัญญา โดยมีมูลค่าแต่ละสัญญาไม่สูงมากนัก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

ภายหลังที่ รฟม.และกระทรวงคมนาคมรวบรวมข้อมูลและเสนอเปรียบเทียบการลงทุน 2 รูปแบบเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ มีข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ควรใช้รูปแบบ PPP Net Cost จำนวน 1 สัญญาเช่นเดิม

รถไฟฟ้าสายสีส้มประมูลมิ.ย. 2ค่ายชิงดำประเดิมโปรเจ็กต์แรกปี63
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563

"ครม.ประยุทธ์" ประเดิมเมกะโปรเจ็กต์ แรกของปี'63 อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก "บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม" เปิดประมูล PPP ดึงเอกชนลงทุน 1.27 แสนล้าน ก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน จัดหาระบบ ขบวนรถ แลก รับสัมปทานเดินรถและพัฒนาเชิงพาณิชย์ 28 สถานี 30 ปี รฟม.ขายซอง มิ.ย.นี้ เซ็นสัญญา ก.พ. 64 บีทีเอสผนึก คูขาเก่า เขย่าเค้กแข่ง BEM ช.การช่าง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ม.ค. 2563 มีมติเห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม ลงทุนรูปแบบ PPP net cost รัฐลงทุน 110,673 ล้านบาท จ่ายค่าเวนคืนที่ดิน 14,661 ล้านบาท และค่าเงินลงทุนให้เอกชนไม่เกินค่างานโยธา 96,012 ล้านบาท ด้านเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบ ขบวนรถไฟฟ้า บริหารเดินรถและซ่อมบำรุง ระยะเวลา 30 ปี วงเงิน 32,116 ล้านบาท

"เอกชนรับความเสี่ยงโครงการ ซึ่งมีผลตอบแทนด้านการเงิน ร้อยละ 0.0 ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 19.45 จะคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในเดือน ต.ค. 2563 สำรวจเวนคืนที่ดิน ส่งมอบพื้นที่ให้เสร็จในปี 2565 สร้างเสร็จเปิดบริการตลอดสายปี 2569"

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า โมเดลลงทุนสายสีส้มตะวันตกศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ คล้ายคลึงกับสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost 30 ปี รัฐเวนคืนที่ดิน 14,662 ล้านบาท เอกชนลงทุนงานโยธาช่วงตะวันตก งานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาโครงการตลอดสายจากบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม. จำนวน 28 สถานี วงเงินลงทุน 127,012 ล้านบาท รัฐสนับสนุนเงินลงทุนไม่เกินค่างานโยธา 96,012 ล้านบาท ชำระคืนหลังเปิดเดินรถทั้งสายเป็นระยะ 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย

ขั้นตอนหลัง ครม.อนุมัติโครงการแล้ว คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.จะประชุมตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 พิจารณาร่างทีโออาร์ คาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้จะเปิดขายทีโออาร์ รฟม.จะเปิดประมูลแบบนานาชาติให้บริษัทรับเหมาไทยและต่างชาติยื่นข้อเสนอ ทั้งรูปแบบกิจการร่วมค้าหรือบริษัทเดียวก็ได้ จะเปิดให้ยื่นซองปลายปีนี้ ใช้เวลาคัดเลือก 1 ปี โดยเอกชนที่ขอรับการอุดหนุนจากรัฐน้อยที่สุดและให้ผลตอบแทนกับรัฐมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ตามแผนจะเซ็นสัญญาในเดือน ก.พ. 2564 ขณะที่การเวนคืนจะเร่งรัดออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินภายในปีนี้ เพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับเหมาหลังจากเซ็นสัญญา

"ทีโออาร์กำหนดระยะเวลา 37 ปี แบ่งเป็นก่อสร้าง 7 ปี เพราะสายสีส้มตะวันตกตลอดสายเป็นงานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน และต้องเผื่อเวลา 1 ปีทดสอบระบบ ส่วนการเดินรถจะให้สัมปทานเอกชน 30 ปี นับจากเปิดบริการช่วงตะวันออกในปี 2567 และเปิดเดินรถตลอดสายในปี 2569 คาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการอยู่ที่ 4 แสนเที่ยวคนต่อวัน"

แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างเปิดเผยว่า คาดว่าจะมีรับเหมารายใหญ่เข้าร่วมประมูล 3-4 กลุ่ม ขณะนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวของ 2 กลุ่มใหญ่เตรียมแท็กทีมเข้าร่วมประมูล มีกลุ่มบีทีเอสได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับพันธมิตรกลุ่มเดิมทั้ง บมจ.กัลฟ์ บมจ.ราชกรุ๊ป บมจ.ซิโน-ไทยฯ และอาจจะมีบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่ม เช่น บจ.ไชน่า ฮาร์เบอร์ จากจีน เพราะมีเทคโนโลยีหัวเจาะอุโมงค์

ยังมีกระแสว่า กลุ่ม ซี.พี.เตรียมจะร่วมกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) บมจ.ช.การช่าง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ นอกจากนี้อาจจะมี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนค์ คอนสตรัคชั่น ที่อาจจะจับกับผู้รับเหมาจากประเทศจีนเข้าร่วมประมูล

"ประมูลสายสีส้มมีอะไรมากกว่าการแข่งขันยื่นซอง เป็นการแข่งขันทาง ธุรกิจของรายใหญ่ที่เกี่ยวพันกันมาจากหลายโครงการ จะเห็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าสัว ซี.พี. ถ้าตัดสินใจร่วมกับ BEM ช.การช่าง และอิตาเลียนไทยฯ กับบีทีเอสก็ต้องการจะต่อยอดกับสายสีชมพูและสายสีเหลือง อาจจะเห็นการแข่งขันด้านราคากัน เหมือนกับประมูลงานระบบมอเตอร์เวย์ที่กลุ่มบีทีเอสชนะ BEM"

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการ ผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทยฯ กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดเงื่อนไขในทีโออาร์ก่อน มีความคุ้มค่าน่าสนใจเข้าร่วมในลักษณะไหน จากนั้นจะหารือกับพันธมิตรกลุ่มเดิม คือ กลุ่มบีทีเอส เพื่อยื่นประมูล

แหล่งข่าวจาก บมจ.อิตาเลียนไทยฯกล่าวว่า เตรียมหาพันธมิตรร่วมลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเพื่อยื่นประมูล ถามว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับ ซี.พี.ที่ลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินหรือไม่ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในทีโออาร์ที่รัฐจะออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวสายสีส้มเริ่มต้นจากบางขุนนนท์ จุดตัด ถ.จรัญสนิทวงศ์ ผ่านโรงพยาบาลศิริราช ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ผ่านใต้ ถ.ราชดำเนิน ถ.หลานหลวง ยมราช ถ.เพชรบุรี ถ.ราชปรารภ ถึงดินแดงเลี้ยวไปตาม ถ.วิภาวดีรังสิต ผ่าน กทม. 2 (ดินแดง) ไปเชื่อมสายสีน้ำเงินที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ แล้วเบี่ยงเข้า ถ.พระรามเก้า ถ.ประดิษฐ์ธรรมนูญ ถ.รามคำแหง แยกลำสาลี แยก ถ.กาญจนาภิเษก สิ้นสุดที่สถานีสุวินทวงศ์ บริเวณมีนบุรี มีเวนคืนที่ดิน 505 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 331 หลังคาเรือน

มี 28 สถานี เป็นใต้ดิน 21 สถานี ยกระดับ 7 สถานี มี 9 จุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่น ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์เชื่อมสายสีแดงอ่อนและสายสีน้ำเงิน สถานีศิริราชเชื่อมสายสีแดงอ่อน สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเชื่อมสายสีม่วงใต้ สถานียมราชเชื่อมสีแดงเข้ม สถานีราชเทวีเชื่อมสายสีเขียวบีทีเอส สถานีราชปรารภเชื่อมสายสีแดงอ่อน และแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีศูนย์วัฒนธรรมเชื่อมสายสีน้ำเงิน สถานีลำสาลีเชื่อมสายสีเหลือง และสถานีมีนบุรีเชื่อมสายชมพู

Wisarut · Posted: 30/01/2020 10:31 am Post subject:

Wisarut · Posted: 31/01/2020 11:55 am Post subject:

รฟม.คาดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.2 แสนลบ.ใน มิ.ย.63 -รู้ผลกลางปี 64

ข่าวเศรษฐกิจ 30 มกราคม พ.ศ. 2563 16:02 น. —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คาดว่า ประมาณเดือนมิ.ย.63 จะสามารถเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์- มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่าเงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาทที่เป็นการประมูลแบบนานาชาติ โดยหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการแล้ว จะมีการนำเสนอคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ของพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ต่อคณะกรรมการ รฟม.ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ และจะมีการจัด Market Sounding เอกสารการประมูล (TOR) ก่อนจะเปิดขายตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก็จะออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) ว่าด้วยเอกชนร่วมลงทุน ที่กำหนดการออก TOR เร็วๆนี้ เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 เพื่อใช้เป็นข้อกำหนดในการออก TOR

นายภคพงศ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกเอกชนคาดใช้เวลาประมาณ 1 ปี คาดว่าจะได้เอกชนร่วมลงทุนโครงการนี้ประมาณกลางปี 64 โดยการเปิดขายเอกสาร TOR ใช้เวลา 45 วัน และให้เวลาเสนอเอกสารการประมูล 90 วัน จากนั้นยังใช้เวลาประเมินข้อเสนอทั้งด้านเทคนิค และราคา โดยการเปิดประมูลโครงการสายสีส้มจะคล้ายกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เอกชนสามารถยื่นข้อเสนอพิเศษได้

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะลงทุนเฉพาะค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนภาคเอกชนจะลงทุนด้านงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง ตั้งแต่ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รวมทั้งค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการฯ โดยมีระยะเวลาเดินรถ 30 ปี มีระยะทาง 35.9 กิโลเมตร มี 28 สถานี (21 สถานีใต้ดิน +7 สถานียกระดับ) เริ่มจากสถานีบางขุนนนท์ไปจนถึงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

รฟม.แจงความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม
เศรษฐกิจ

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563, 17.10 น.

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์- มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่เป็นการประมูลแบบนานาชาติ โดยหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการแล้ว จะมีการนำเสนอคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ของพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ต่อคณะกรรมการ รฟม.ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ และจะมีการจัด Market Sounding เอกสารการประมูล (TOR) ก่อนจะเปิดขายตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

“สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ จะต้องจัดทำประชาพิจารณ์ก่อน ซึ่งตามพรบ.ร่วมทุนใหม่ปี 2562 จึงจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนได้ โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก็จะออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) ว่าด้วยเอกชนร่วมลงทุน ที่กำหนดการออก TOR ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 เพื่อใช้เป็นข้อกำหนดในการออก TOR สำหรับขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกเอกชนคาดใช้เวลาประมาณ 1 ปี คาดว่าจะได้เอกชนร่วมลงทุนโครงการนี้ประมาณกลางปี 64 โดยการเปิดขายเอกสาร TOR ใช้เวลา 45 วัน และให้เวลาเสนอเอกสารการประมูล 90 วัน จากนั้นยังใช้เวลาประเมินข้อเสนอทั้งด้านเทคนิค และราคา โดยการเปิดประมูลโครงการสายสีส้มจะคล้ายกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เอกชนสามารถยื่นข้อเสนอพิเศษได้”

ทั้งนี้ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะของกรุงเทพมหานครระหว่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ซึ่งอยู่ภายใต้แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP)

Wisarut · Posted: 31/01/2020 11:33 pm Post subject:

#ไทยคู่ฟ้า ครม. อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 13.4 กม. จะมีทั้งหมด 11 สถานี เป็นสถานีใต้ดินทั้งหมด เริ่มต้นจากบางขุนนนท์ถึงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 7 จุด ได้แก่ บางขุนนท์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยมราช ศิริราช ราชเทวี ราชปรารภ และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ รูปแบบการลงทุนจะเป็นลักษณะ PPP NET COST โดยภาครัฐจะลงทุนเฉพาะงานจัดการกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น ส่วนภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการ และพร้อมเปิดให้บริการปี 2569
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/photos/a.210271022772045/838564779942663/?type=3&theater

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง 'บางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ' จะเริ่มประมูลช่วงเดือน ต.ค. 2563 และเริ่มก่อสร้างช่วงปี 2564 ก่อนเปิดให้บริการในปี 2569
https://www.bltbangkok.com/bangkok-update/12240

Wisarut · Posted: 06/02/2020 11:36 am Post subject:

รถไฟฟ้าสี “ส้มตะวันตก” วุ่น ชาวบ้านโผล่ร้อง “ถาวร” ปรับแบบช่วงถ.ประชาสงเคราะห์ เลี่ยงเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 - 18:23 น.

รถไฟฟ้าสี “ส้มตะวันตก” วุ่น ชาวบ้านโผล่ร้อง “ถาวร” ปรับแบบช่วงถ.ประชาสงเคราะห์ เลี่ยงเวนคืน
นายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า จากกรณีที่ชาวบ้านชุมชนแม่เนี้ยว (ประชาสงเคราะห์) ยื่นข้อร้องเรียนต่อนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการแก้ปัญหาการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – บางขุนนท์ ช่วงสถานีประชาสงเคราะห์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวผ่านบ้านเรือนของชาวบ้าน

โดยชาวบ้านมีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2555 ในสมัยที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นรัฐมนตรี ชาวบ้านเคยเดินทางมาร้องเรียนเพื่อให้ปรับแบบแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนั้นได้มีการรับข้อร้องเรียนของชาวบ้านไปดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่ปัจจุบันกลับไปใช้แนวทางเดิม จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะการลงพื้นที่ทำประชาพิจารณ์ของที่ปรึกษาโครงการไม่ครอบคลุม เลือกสอบถามเฉพาะชาวบ้านบางกลุ่มหรือไม่

ทั้งนี้ ชาวชุมชนได้เสนอแนวทางปรับแบบไว้ 3 รูปแบบ คือ 1. ใช้แนวถ.ง.13 ที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแผนจะขยายถนนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการลดการเวนคืนซับซ้อน 2. ใช้เส้นทางถ.พระราม 9 ซึ่งเป็นเส้นทางที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ทำการศึกษาไว้ และเป็นเส้นทางที่มีการเวนคืนน้อยกว่า และ 3. ใช้เส้นทางถ.ประชาสงเคราะห์ ตามเดิม แต่ให้ใช้หัวเจาะอุโมงค์เท่านั้น ไม่ให้เปิดหน้าดิน เพื่อเลี่ยงการสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน

นายเจือ ระบุว่า นายถาวรได้รับทราบถึงข้อร้องเรียนดังกล่าวแล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปต้องให้นายถาวรเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงถึงประเด็นนี้เมื่อไหร่

ส่วนจะมีผลกระทบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบ เพราะที่ผ่านครม.เป็นการอนุมัติในหลักการ อีกทั้งรายงานวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งยังต้องไปชี้แจงอีก 2 ครั้ง จึงยังสามารถปรับเปลี่ยนได้

Wisarut · Posted: 06/02/2020 5:27 pm Post subject:

#ร่วมมือร่วมใจลดฝุ่น #ล้างถนนดูดฝุนกันจ๊า
อย่าลืม.#สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นกันด้วยนะคะ

รฟม. และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหา PM2.5 และฝุ่นละออง ด้วยการฉีดน้ำ ทำความสะอาดผิวจราจร และดูดฝุ่น หลังจากปฏิบัติงานแล้วเสร็จ ตลอดแนวสายทางของโครงการ และติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำในแนวพื้นที่ก่อสร้าง

ด้วยความห่วงใยจากน้องทันใจ นะคะ #Orangeline #รฟม. #ร่วมมือร่วมใจลดฝุ่น✌
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/782697082209645?__tn__=H-R

Wisarut · Posted: 07/02/2020 10:20 am Post subject:

Mongwin · Posted: 08/02/2020 3:41 pm Post subject:

ทุนใหญ่ตะลุมบอน "ส้มตะวันตก" ไม่หวั่น ลดราคากลาง
ฐานเศรษฐกิจ 08 Feb 2020

ยอมรับว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ต้องแบกภาระหนี้สูง ไม่ว่าจะเป็นการคิดคำนวณบวกภาวะเงินเฟ้อเข้าไปในเนื้องาน 2.5% ตามระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี การชำระคืนดอกเบี้ยให้เอกชน ผู้รับสัมปทาน หลังก่อสร้างแล้วเสร็จ 10 ปี ทำให้เกิดดอกเบี้ยที่สูง ฯลฯ ทางออกกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาตัดงบก้อนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เรียกว่ารีดไขมันส่วนเกินออก ส่งผลให้โครงการนี้มีมูลค่าและกำไรจากดอกเบี้ยลดลง จากการใช้อัตราเงินเฟ้อตรงตามสถานการณ์ คือ1%

ตัวอย่างเช่น มูลค่างานโยธา จาก 96,032 ล้านบาท เหลือเพียง 91,483 ล้านบาท หลังตัดเงินเผื่อจ่ายที่ตั้งไว้ สำหรับงานที่ได้กำหนดไว้ว่าจะจ่ายให้เอกชนเมื่อผู้ว่าจ้างสั่งให้ดำเนินการ (Provisional Sum)

อย่างไรก็ตามในมุมกลับ เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก เป็นโครงการขนาดใหญ่ นานๆครั้งจะเปิดประมูล แม้จะถูกปรับลดราคากลาง เชื่อว่ามีหลายค่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในสมรภูมิรถไฟฟ้า แต่จะมีหน้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างทุนจีน อีกทั้งการให้บริการเดินรถ จะได้ทั้ง สายสีส้มตะวันตกและสีส้มตะวันออก ระยะทาง 35.5 กิโลเมตร เป็นเส้นทางผ่ากลางใจเมือง จากตะวันออกวิ่งรับผู้โดยสารไปยังฝั่งธนบุรี ประเมินว่าผู้โดยสารมีจำนวนมากไม่แพ้สายหลักอย่างสายสีเขียว และสายสีนํ้าเงิน ส่วนการขายซองจะเริ่มเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากโครงการได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)

Click on the image for full size

สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและสีส้มตะวันออก (บางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี) เป็นระบบรถไฟฟ้าที่มีทั้งโครงสร้างใต้ดินและยกระดับมีแนวเส้นทางรองรับการเดินทางภายในเขตเมืองตามแนวตะวันออก - ตะวันตกของกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นจากบริเวณจุดตัดทางรถไฟสายธนบุรี (ทางรถไฟสายใต้เดิม) แล้วลอดใต้แม่นํ้าเจ้าพระยาเข้าสู่ย่านเมืองเก่า ย่านใจกลางเมืองก่อนออกไปยังชุมชนประชาสงเคราะห์และออก สู่ย่านชานเมืองถนนรามคำแหงมาสิ้นสุดเส้นทางที่ชานเมืองด้านทิศตะวันออกของกทม.บริเวณจุดตัดถนนรามคำแหงกับถนนสุวินทวงศ์ ทั้งนี้สายสีส้มตะวันออกอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปี 2566 ส่วนสาย สีส้มตะวันตก คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จราวปี 2567-2568

กระทรวงการคลังยอมรับว่า ถึงโครงการสายสีส้มตะวันตกจะถูกตัดงบส่วนต่างๆออกไป แต่ในระยะยาว เอกชนสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้จากคนใช้บริการ และค่าโดยสารนั่นเอง

หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,546 วันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Wisarut · Posted: 13/02/2020 1:13 pm Post subject:

รฟม.เร่งรถไฟฟ้าสีส้ม เปิดประมูล เม.ย.นี้-ตอกเข็มกลาง 64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 - 06:42
ปรับปรุง: วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 - 10:28

บอร์ด รฟม.ตั้ง กก.มาตรา 36 เร่งเปิดประมูลสายสีส้ม 1.2 แสนล้าน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเซ็นสัญญาปลายปี 63 ตอกเข็มกลางปี 64 พร้อมทบทวนปรับค่าโดยสารสีน้ำเงิน สั่งหาทางเลือกช่วยลดค่าครองชีพ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ด รฟม.วานนี้ (12 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติ เห็นชอบ แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2562 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ และเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดเส้นทาง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท โดยได้เร่งรัดให้ รฟม.ปรับแผนการดำเนินโครงการให้เร็วขึ้นประมาณ 3 เดือนเพื่อเร่งรัดการลงทุน

ทบทวนปรับค่าโดยสารสีน้ำเงิน สั่งหามาตรการลดค่าครองชีพก่อน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาตามที่ รฟม.เสนอการปรับอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อัตรา 1 บาท ในบางสถานีซึ่งเป็นการปรับค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทานที่กำหนดปรับทุก 2 ปีตาม ดัชนีผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะครบในวันที่ ‪3 ก.ค. 2563‬ นั้น โดยที่ประชุมบอร์ดเห็นว่าข้อมูลรายละเอียดยังไม่ครบถ้วน โดยให้ รฟม.ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าของ รฟม.กับประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าไทยถูกมองว่าราคาแพงกว่าที่อื่น รวมทั้งให้ รฟม.ไปเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) หามาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารด้วย

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.เอกชนร่วมลงทุน ปี 2562 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้าง รฟม.เป็นประธาน คาดว่าจะนัดประชุมครั้งแรกภายใน 2 สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ รฟม.ได้ปรับแผนงานโครงการให้เร็วขึ้น 3 เดือน เพื่อให้ได้ตัวผู้รับจ้างเร็วที่สุด เพื่อให้การลงทุนโครงการสายสีส้มช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทั้งเชื้อไวรัสโคโรนา และการท่องเที่ยวที่ถดถอย

โดยตั้งเป้าจะสามารถประกาศร่างทีโออาร์ เปิดประกวดราคาคัดเลือกเอกชนได้ภายในเดือน เม.ย. 63 ให้เวลาในการทำข้อเสนอ 60 วัน ยื่นข้อเสนอในเดือน ก.ค. คาดว่าจะเจรจากับเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน พ.ย. 63 และลงนามสัญญาจ้างภายในปี 2563 และเริ่มก่อสร้างช่วงกลางปี 2564 ในขณะเดียวกัน รฟม.อยู่ระหว่างการยกร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืน เพื่อนำเสนอ ครม.ในทางคู่ขนานด้วย

นายภคพงศ์กล่าวว่า หลังจากลงนามสัญญาจ้างจะมีเวลาให้เอกชนออกแบบก่อสร้างอีก 4 เดือน และหากสามารถ เริ่มการก่อสร้างได้ในกลางปี 64 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี ซึ่งตามแผนจะเปิดเดินรถในส่วนของตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ก่อน ในปี 2567 คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 250,000 คนต่อวัน โดยขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้า 51% หลังจากลงนามสัญญาเรียบร้อยแล้วเอกชนสามารถสั่งผลิตชิ้นส่วนและขบวนรถไฟฟ้าได้ทันที เนื่องจากใช้เวลาผลิตอีก 2 ปี

ส่วนสายสีส้มด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2570 ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มเป็น 500,000 คนต่อวัน โดยใช้รถไฟฟ้าทั้งหมด 40 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้

รฟม.เร่งประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก
เศรษฐกิจ
วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 15.27 น.

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 พิจารณาดำเนินการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงสายสีส้มตะวันตกศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ โดยมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการ (วิศวกรรม) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นประธาน คาดว่าจะสามารถลงนามก่อสร้างได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ เป็นปรับแผนให้เร็วขึ้น3 เดือน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ว่าได้วางกรอบระยะเวลาเปิดประกาศเชิญชวนโครงการภายในเดือนเมษายน 2563 โดยจะใช้ระยะเวลา 60 วัน ดำเนินการจัดทำข้อเสนอ และยื่นซองในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเจรจาได้ทั้งหมดพร้อมจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ ถือเป็นการเร่งรัดแผนดำเนินการ เพื่อเป็นการเร่งกระตุ้นเศษรฐกิจของประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมามีผลกระทบทั้งเรื่องไวรัสโคโรนา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลง รวมถึงปัญหาเศษฐกิจในประเทศ หากมีการดำเนินการโครงการที่เร็วขึ้นก็จะทำให้เงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มมากขึ้น

สำหรับขั้นตอนการเวรคืนที่ดินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างพ.ร.ฎ.เวนคืนเพื่อจะนำเสนอครม.และจะต้องมีการออกแบบอีก 4เดือน หากสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในปี 2563 คาดว่ากลางปี 2564 จะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ ทั้งนี้ กำหนดตามแผนโครงการจะแล้วเสร็จในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ในปี 2567 และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ในปี 2570 โดยระยะเวลาก่อสร้างรถไฟฟ้าส้มตะวันออกใช้เวลาดำเนินการ 5ปี ส่วนรถไฟฟ้าส้มตะวันตกใช้เวลาดำเนินการ 6ปี ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการทั้งระบบจะอยู่ที่ 500,000 คน/เที่ยว/วัน หากเปิดให้บริการในส่วนของตะวันออกก่อน คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเกินครึ่งที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสีส้มตะวันออกคืบหน้าประมาณ 53% โดยเร็วกว่าแผน 4% สำหรับขบวนรถไฟฟ้าที่จะนำมาวิ่งให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มประมาณ 40ขบวน แบ่งเป็นขบวนละ3ตู้

เร็วทันใจ! รฟม.ตั้งบอร์ดคัดเลือกลุย PPP รถไฟฟ้าสายสีส้ม เปิดขาย TOR เม.ย. ยื่นซองก.ค.นี้

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 - 15:16 น.

เร็วทันใจ! รฟม.ตั้งบอร์ดคัดเลือกลุย PPP รถไฟฟ้าสายสีส้ม เปิดขาย TOR เม.ย. ยื่นซองก.ค.นี้
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันที่ 12 ก.พ. 2563 ที่ประชุมบอร์ด รฟม.ได้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 มีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนะสุข รองผู้ว่า รฟม. ด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง เป็นประธาน

เพื่อดำเนินการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน PPP Net Cost ระยะเวลา 30 ปี ก่อสร้างสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ และเดินรถตลอดสายบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม. มูลค่าโครงการ 142,789 ล้านบาท หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้คณะกรรมการมาตรา 36 จะเริ่มประชุม

“ปรับแผนการประมูลของสายสีส้มให้เร็วขึ้นอีก 3 เดือน เนื่องจากเป็นโครงการเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการนำมากระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจะเซ็นสัญญาโครงการได้ภายในเดือน พ.ย.นี้”

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในเดือน เม.ย.จะประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วม PPP รถไฟฟ้าสายสีส้ม จะเปิดประมูลแบบนานาชาติ จำนวน 1 สัญญา จากนั้นให้เอกชนยืนข้อเสนอในเดือน ก.ค. และเจรจาเอกชนที่ชนะประมูลและเสนอให้ ครม.อนุม้ติภายในเดือน พ.ย. และเซ็นสัญญาภายในปี 2563 นี้ ส่วนการเวนคืนที่ดินอยู่ระหว่างร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินเพื่อเสนอ ครม.อนุม้ติ

“ปรับแผนประมูลให้เร็วขึ้น 3 เดือน อย่างที่ทราบว่าสภาพเศรษฐกิจในประเทศไม่ค่อยดี รวมถึงปัญหาไวรัสโคโรน่า และการท่องเที่ยวที่ซบเซา รัฐบาลจึงต้องการจะหาโครงการลงทุนขนาดใหญ่มากระตุ้นหมุนเวียนเศรษฐกิจของประเทศ”

นายภคพงศ์กล่าวว่า หลังได้เอกชนผู้ลงทุนแล้ว จะให้เวลาดำเนินการออกแบบ 4 เดือน ถ้าเซ็นสัญญาภายในปีนี้ คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2564 ทั้งนี้เนื่องจากงานก่อสร้างสายสีส้มช่วงตะวันออกมีความคืบหน้าแล้วกว่า 51% หลังเซ็นสัญญากับเอกชนแล้วจะให้เร่งงานระบบในทันที เนื่องจากขบวนรถจะต้องใช้เวลาผลิต 2 ปี

“เป้าเปิดบริการอาจจะมีขยับไปบ้าง จากความล่าช้าของการคัดเลือกเอกชนมาลงทุน โดยช่วงตะวันออกศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะเปิดบริการในปี 2569 และช่วงตะว้นตกจะเปิดบริการในปี 2570 มีผู้โดยสารตลอดทั้งสายอยู่ที่ 5 แสนเที่ยวคน/วัน”

สำหรับระยะเวลาก่อสร้างถึงจะเป็นเอกชนรายเดียวที่เป็นผู้ลงทุน ก็สามารถจะแบ่งงานก่อสร้างได้หลายสัญญา มาช่วยระดมให้สร้างเสร็จตามกรอบเวลา 5 ปี 6 เดือน เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่และเป็นโครงสร้างใต้ดิน

อนึ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะว้นตกศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost ระยะเวลา 30 ปี ในส่วนงานโยธาช่วงตะวันตก ระยะทาง 16.4 กม. และลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ และการเดินรถตลอดสายจากบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม. จำนวน 28 สถานี วงเงินลงทุน 128,128 ล้านบาท (รวมค่าจ้างที่ปรึกษา)

เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านรายได้ค่าโดยสาร รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด โดยภาครัฐไม่มีภาระสนับสนุนทางการเงิน (Subsidy) แก่เอกชนในส่วนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ งานเดินรถ และซ่อมบำรุงรักษาของโครงการฯ

และรัฐจะลงทุนค่าเวนคืน 14,661 ล้านบาท และอุดหนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา วงเงิน 96,012 ล้านบาท จะผ่อนชำระคืนเป็นรายปีเป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย นับจากเปิดเดินรถตลอดเส้นทาง

Wisarut · Posted: 13/02/2020 7:47 pm Post subject: