ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)

Wisarut · Posted: 27/05/2021 12:10 am Post subject:

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เวลา 11:15 น.
🚧🚇เก็บภาพมาฝากจ๊า #งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน #สถานีศรีบูรพา อยู่ระหว่างดำเนินงาน ก่อสร้าง Platform Structure , งานติดตั้ง PSD Downstand , งานก่อสร้างทางขึ้นลง 1-4 , งานปูกระเบื้อง และงานติดตั้งระบบต่างๆ ภายในสถานี โดย มีความก้าวหน้ารวม ดังนี้
🚧 Structural Works งานโครงสร้างสถานี มีความคืบหน้า ร้อยละ 91.17
🚧E & M Works งานระบบฯ มีความคืบหน้า ร้อยละ 25.07
🚧Architecture Works งานสถาปัตย์ฯ มีความคืบหน้า ร้อยละ 16.34
ดำเนินการโดย สัญญาที่ 3 : ITD ช่วงหัวหมาก – คลองบ้านม้า
อย่าลืมดูแลตัวเองและครอบครัว สวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ปลอดภัยโควิด นะคะ

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 14:52 น.
เก็บภาพมาฝากจ๊า 🚇#งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน #สถานีแยกลำสาลี มีความก้าวหน้ารวม ณ สิ้นเดือน เมษายน 2564 ดังนี้
🚧Structural Works งานโครงสร้างสถานี มีความคืบหน้า ร้อยละ 91.06
🚧E & M Works งานระบบฯ มีความคืบหน้า ร้อยละ 17.30
🚧 Architecture Works งานสถาปัตย์ฯ มีความคืบหน้า ร้อยละ 12.17
ดำเนินการโดย สัญญาที่ 3 : ITD ช่วงหัวหมาก – คลองบ้านม้า
อย่าลืมดูแลตัวเองและครอบครัว สวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ปลอดภัยโควิด นะคะ

Mongwin · Posted: 29/05/2021 6:28 pm Post subject:

หนุน นายกฯหักดิบรถไฟฟ้า “สายสีส้ม”
ฐานเศรษฐกิจ 28 May 2021 15:05 น.

แวดวงขนส่งหนุนนายกฯหักดิบโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มก่อน รฟม.ลากประมูลเข้ารกเข้าพง ชี้ประเทศต้องสูญเสียโอกาสจากความล่าช้าการดำเนินโครงการและมีแต่จะเรียกแขกให้งานเข้า หากยังปล่อย รฟม.โม่แป้งต่อไป แนะรัฐปัดฝุ่นทีโออาร์เดิมจัดประมูลเชื่อสยบปัญหาทั้งหมด

หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังไม่สามารถผ่าทางตันการประมูลจัดหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.42 แสนล้านบาท ภายหลังจากที่ฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา36 ดำเนินการปรับเปลี่ยนเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกใหม่กลางอากาศ ภายหลัง จากการปิดขายซองประมูลไปแล้วนับเดือน โดยปรับเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกจากที่ต้องพิจารณาข้อเสนอทางการเงินของบริษัทเอกชนที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอทางเทคนิคเท่านั้นมาเป็นการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและการเงินประกอบกัน จนก่อให้เกิดการร้องเรียน และฟ้องร้องต่อศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุดตามมา

แม้ว่าศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้รฟม.ทุเลาการบังคับตามเกณฑ์คัดเลือกใหม่ระหว่างรอฟังคำพิพากษา แต่รฟม. ก็ยังคงยืนยันที่จะเปิดประมูลภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว โดยได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด แต่กระนั้นศาลปกครองสูงสุด ที่ใช้เวลาพิจารณาคำชี้แจงจาก รฟม.แล้วก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมา ท้ายที่สุด รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก จึงตัดสินใจยกเลิกการประกวดราคาในครั้งก่อนไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564

ด้วยข้ออ้าง ไม่อาจรอฟังคำพิพากษาจากศาลปกครองกลาง หรือศาลปกครองสูงสุดได้ และเชื่อว่าการเปิดประมูลใหม่ โดยนำเอาเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหามาประกาศเป็นเงืาอนไขประมูลตั้งแต่แรก จะร่นระยะเวลาการจัดประมูลได้ แต่สุดท้ายการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม กลับยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกยังคงไม่สามารถออกประกาศเงื่อนไขการประมูลตามเกณฑ์ใหม่ได้ ทั้งโครงการยังจ่อจะเรียกแขกให้งานเข้า เพราะไม่เพียงตัวผู้มีส่วนรับผิดชอบใจการดำเนินโครงการจะถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.แล้ว ผู้ว่าการรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) มีมติให้ส่งผลสอบสวนไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดกันกราวรูดอีกระลอกด้วย

ล่าสุดยังถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับคำฟ้องคดีที่บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTS ที่ฟ้องเอาผิดผู้ว่ารฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 กรณี แก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และยกเลิกการประมูลดังกล่าว ในความผิดทุจริตหลายกระทงด้วยกัน

แหล่งข่าวระดับสูงจาก รฟม.เปิดเผยว่า ผลพวงจากการที่ DSI ยื่นสำนวนสอบสวนให้คณะกรรมการป.ป.ช. ไต่สวนโครงการนี้ รวมทั้งกรณีที่ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำสั่งให้รับคำฟ้องของ BTS ไว้พิจารณาไต่สวนนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโครงการนี้ โดยหากศาลทุจริตฯ มีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนโครงการดังกล่าว ผู้ว่าการรฟม.และเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกฯ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่และหน่วยงานต้นสังกัดจำเป็นต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งจะทำให้เส้นทางการประมูลคัดเลือกโครงการดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงไปอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลกฎหมายต่างๆ เกือบทั้งหมดในเวลานี้ สมควรจะต้อง "ล้วงลูก"เข้ามาผ่าทางตันการดำเนินโครงการนี้โดยมีคำสั่ง หรือมติคณะมนตรี(ครม.)ให้ผู้เกี่ยวข้องคือ กระทรวงคมนาคมและรฟม.ปัดฝุ่นนำเอาเกณฑ์ประมูลคัดเลือกตามทีโออาร์(TOR)เดิมมาใช้เท่านั้น จึงจะแก้ไขปัญหาคาราคาซังที่เป็นอยู่ได้ เพราะหากยังปล่อยให้รฟม.ดำเนินการจัดประมูลภายใต้หลักเกณฑ์เจ้าปัญหา เชื่อแน่ว่าจะทำให้เส้นทางการโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม เผชิญทางตันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากศาลปกครองหรือ ศาลทุจริตฯ รวมทั้ง ป.ป.ช.มีคำพิพากษาหรือ คำชี้ขาดออกมาว่า การดำเนินการของรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกต่อการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลคัดเลือกส่อไปในทางทุจริต มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางรายแล้ว จะยิ่งทำให้เส้นทางการประมูลเผชิญทางตัน"

เหตุนี้จึงไม่มีหนทางอื่นที่จะทำให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเดินต่อไปได้ นอกจากนายกรัฐมนตรีจะหักดิบให้กระทรวงคมนาคมและรฟม.ต้องเปิดประมูลโครงการนี้ภายใต้หลักเกณฑ์คัดเลือกเดิมที่ครม.ได้อนุมัติหลักการไปแล้วเท่านั้น"

สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ล่าช้าไปจาก "ไทม์ไลน์"ที่วางเอาไว้เดิมอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะทำให้รฟม.อาจต้องสูญเสีย งบประมาณกว่า 1-2,000 ล้านบาทในการดูแลรักษาระบบในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี) ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 65 ขณะที่การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการนี้รวมทั้งดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มตะวันตก(บางขุนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ ยังไม่รวมความเสียหาย จากการที่ประชาชนคนกรุงสูญเสียโอกาสในการใช้บริการรถไฟฟ้า ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นส่วนนี้ จำเป็นจะต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติงาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเสียหาย และความล่าช้าในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มที่เกิดขึ้น ทั้งกระทรวงคมนาคมและ บอร์ดรฟม. รวมถึงผู้บริหารรรฟม.ไม่สามารถจะปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลนโยบายรัฐบาลในภาพรวมจะต้องแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือ ปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหาขึ้น ในเมื่อมีข้อมูลประจักษ์ชัดไม่เพียงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลจะเต็มไปด้วยความล่าช้าแล้ว ยังจ่อจะเรียกแขกให้งานเข้าจะลากเอารัฐบาลไปขึ้นเขียง ป.ป.ช.ตามมาอีก จึงสมควรจะต้องหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

หาไม่แล้วนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งมวล ดังที่กำลังเกิดขึ้นกับความล้มเหลวของการบริหารจัดการวัคซีนต้าน covid ในเวลานี้!

Mongwin · Posted: 31/05/2021 4:51 pm Post subject:

คอลัมน์ เมกะเทรนด์: "รถไฟสายสีส้ม" ยิ่งช้ายิ่งเสียโอกาส.!
ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

การปรับเปลี่ยนทีโออาร์ระหว่างการประมูล กลายเป็นต้นเหตุทำให้การประมูล “โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม” ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงิน 142,000 ล้านบาท ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต้องหยุดชะงักเสียเอง ด้วยความไม่ชอบมาพากลเปิดขายซองประมูลไปแล้ว แต่มีการเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกใหม่

นั่นจึงเป็นที่มาของการร้องเรียนและมีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จนศาลฯ มีคำสั่งให้รฟม.ทุเลาการบังคับตามเกณฑ์คัดเลือกใหม่ระหว่างรอฟังคำพิพากษา แต่รฟม. แก้เกี้ยวทางกฎหมายด้วยการ “ยกเลิกประมูล” (ด้วยไม่อาจรอฟังคำพิพากษาจากศาลได้) เพื่อเป็นเหตุแห่งการร้องศาลเพื่อจำหน่ายคดีดังกล่าวออกไป

อีกนัยหนึ่งคือเพื่อสร้างความชอบธรรม ที่จะมีการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภายใต้เงื่อนไขทีโออาร์ใหม่ ที่ระบุเงื่อนไข “คุณสมบัติทางเทคนิค” ที่ถูกกังขาและร่ำลือกันว่าเสมือนใส่พานถวายให้เอกชนบางรายเลยก็ว่าได้

แต่ดูเหมือนเรื่องการประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” จะเงียบหายไป หลังถูกเอกชน นั่นคือกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ยื่นฟ้องผู้ว่ารฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กรณีแก้เกณฑ์ (ระหว่างการประมูล) และยกเลิกประมูลโครงการดังกล่าว

เช่นเดียวกับ “สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย” ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อตรวจสอบว่า “การเปลี่ยนแปลงทีโออาร์หลังขายซองประมูลไปแล้ว เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการกีดกันการเสนอ ราคา (ฮั้วประมูล) หรือไม่.!?” และ DSI มีมติให้ส่งผลสอบสวนไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อไต่สวนเอาผิดกันต่อไป.!

ปมเหตุแห่งคดีความดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารระดับสูงจากรฟม.ยอมรับว่า กรณี DSI ยื่นสำนวนสอบสวนให้ปปช. ไต่สวนโครงการนี้ และกรณีศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำสั่งให้รับคำฟ้องของ BTS ไว้พิจารณาไต่สวนนั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ นั่นหมายถึงหากศาลทุจริตฯ มีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนโครงการดังกล่าว จะเป็นเหตุให้ผู้ว่ารฟม.และกรรมการคัดเลือกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที นั่นทำให้ “การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม” รอบใหม่ ต้องหยุดชะงักลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผลจากความล่าช้าดังกล่าว..อาจทำให้รฟม.ต้องสูญเสียงบประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อดูแลรักษาระบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงภายในปี 2565 ที่สำคัญประชาชน (ที่กระทรวงคมนาคม มักใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหาความชอบธรรมต่าง ๆ) ต้องสูญเสียโอกาสการใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มแบบระบบไปอย่างน่าเสียดาย

เป็นได้หรือไม่ว่า..เรื่องนี้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในฐานะนายกรัฐมนตรีอาจจำเป็นต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ หรือใช้อำนาจผ่านทางมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงคมนาคมและรฟม. เปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) ใหม่ ภายใต้เงื่อนไขทีโออาร์เดิม (ไม่มีปัญหาทางกฎหมายและผ่านการทำประชามติแล้ว) เพื่อผ่าทางตันดังกล่าว

ส่วนที่ว่า “ความเสียหาย” จากการกระทำของรฟม. เรื่อง “การเปลี่ยนเงื่อนไขระหว่างประมูล” ภายใต้การเห็นดีเห็นงามจากกระทรวงคมนาคม ที่มีรัฐมนตรีว่าการชื่อ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” จะมากหรือน้อยแค่ไหน..ก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันไป และเชื่อผลของคำสั่งศาลคดีทุจริตฯ และผลมติจากปปช. น่าจะได้เค้าลางแล้วว่า “การแก้ไขทีโออาร์” และ “การล้มประมูล” เกิดความเสียหายอย่างไร และสำคัญทำเพื่อใครหรือไม่..!?

Wisarut · Posted: 08/06/2021 10:01 pm Post subject:

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
7 มิถุนายน 2464 เวลา 09:39 น.
#งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน #สถานี รฟม. มีความก้าวหน้ารวม 80.84% แยกเป็น
🚧 Structural Works งานโครงสร้างสถานี มีความคืบหน้า 98.24% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานเทพื้นคอนกรีตชั้นชานชาลา , เทคอนกรีตงานบันได และงานติดตั้งผนังสำเร็จรูปส่วนเหนือพื้นดิน
🚧 Building Services and Station Finishes งานระบบฯ และงานสถาปัตย์ มีความคืบหน้า 51.68% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานงานติดตั้งฝ้าเพดาน , ติดตั้งราวบันได , งานติดตั้งพื้นแกรนิต และงานติดตั้งเครื่องจักร
🚧Lift &Escalators งานสถาปัตย์ฯ มีความคืบหน้า 86.82% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงาน งานติดตั้งลิฟท์ และบันไดเลื่อน
ดำเนินการโดย สัญญาที่ 1 : กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-รามคำแหง 12
อย่าลืมดูแลตัวเองและครอบครัว สวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ปลอดภัยโควิด นะคะ
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1125902647889085

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
2 มิถุนายน 2464 เวลา 10:19 น.
#งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน #สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีความก้าวหน้ารวม 76.64% แยกเป็น
🚧 Structural Works งานโครงสร้างสถานี มีความคืบหน้า 96.98 % โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานติดตั้งผนังสำเร็จรูป บริเวณส่วนเหนือพื้นดิน
🚧 Building Services and Station Finishes งานระบบฯ และงานสถาปัตย์ มีความคืบหน้า 44.73% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานงานติดตั้งถาดสายเคเบิล , งานติดตั้งเครื่องจักร , งานติดตั้งกระเบื้องผนัง และงานติดตั้งพื้นแกรนิต
🚧Lift &Escalators งานสถาปัตย์ฯ มีความคืบหน้า 90.17% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงาน งานติดตั้งลิฟท์ และบันไดเลื่อน
ดำเนินการโดย สัญญาที่ 1 : กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-รามคำแหง 12
อย่าลืมดูแลตัวเองและครอบครัว สวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ปลอดภัยโควิด นะคะ
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1122968998182450

Wisarut · Posted: 08/06/2021 10:15 pm Post subject:

ความก้าวหน้ารถไฟฟ้ามหานครสายสีส้ม จากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ไป สุวินทวงศ์ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564:

งานโดยรวม: สำเร็จแล้ว 82.56% ก้าวหน้ามากกว่าที่คาดหมายอยู่ 0.41%

สัญญาที่ 1: งานอุโมงค์ และ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรม - รามคำแหง 12 โดย CKST Joint Venture สำเร็จแล้ว 89.12%

สัญญาที่ 2: งานอุโมงค์ และ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รามคำแหง 12 - หัวหมาก โดย CKST Joint Venture สำเร็จแล้ว 84.19%

สัญญาที่ 3: งานอุโมงค์ และ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หัวหมาก - คลองบ้านม้า โดย Italian Thai Development PCL สำเร็จแล้ว 80.06%

สัญญาที่ 4: สถานีและทางลอยฟ้า คลองบ้านม้า - สุวินทวงศ์ โดย Unique Engineering and Construction PCL สำเร็จแล้ว 72.65% done

สัญญาที่ 5 : โรงซ่อมบำรุงและ ที่จอดแล้วจร โดย CKST Joint Venture สำเร็จแล้ว 83.66%

สัญญาที่ 6: งานวางรางโดย Unique Engineering and Construction PCL สำเร็จแล้ว 74.82%
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1126498517829498

Wisarut · Posted: 09/06/2021 8:43 pm Post subject:

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 10.29 น.
#งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน #สถานีวัดพระราม ๙ มีความก้าวหน้ารวม 83.63% แยกเป็น
🚧 Structural Works งานโครงสร้างสถานี มีความคืบหน้า 95.65% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานถมทรายชั้นหลังคาเหนือพื้นดิน
🚧 Building Services and Station Finishes งานระบบฯ และงานสถาปัตย์ มีความคืบหน้า 47.19% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงานงานติดตั้งถาดสายเคเบิล , งานติดตั้งเครื่องจักร , งานติดตั้งระบบเครื่องปรับอากาศ , งานติดตั้งราวบันได , งานติดตั้งกระเบื้องผนัง และงาน
🚧Lift &Escalators งานสถาปัตย์ฯ มีความคืบหน้า 84.47% โดยอยู่ระหว่างดำเนินงาน งานติดตั้งลิฟท์ และบันไดเลื่อน
ดำเนินการโดย สัญญาที่ 1 : กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-รามคำแหง 12
อย่าลืมดูแลตัวเองและครอบครัว สวมหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ปลอดภัยโควิด นะคะ

https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1127129661099

Wisarut · Posted: 10/06/2021 10:12 pm Post subject:

มหากาพย์ความขัดแย้ง “ภูมิใจไทย-เนชั่น” จากสัมปทานรถตู้ สู่ล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถึงคลัสเตอร์ทองหล่อ
เผยแพร่ : 10 มิถุนายน 2564 เวลา 15:58 น.

จากสัมปทานรถตู้ สู่ล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไปที่ดินเขากระโดง โยงคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ สงครามท่ามกลางผลประโยชน์มหาศาลที่ไม่มีใครยอมกัน

นับว่าเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองกันมายาวนานระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ สื่อย่านบางนาอย่างบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพราะอดีตเคยมีเรื่องราวขัดแย้งกันมายาวนานในหลายเรื่องหลายประเด็น ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 11 ม.ค.2562 หลัง ฉาย บุนนาค ก้าวขึ้นมาเป็นรองประธานกรรมการบริษัท และ ประธานกรรมการบริหาร กุมบังเหียนเนชั่นกรุ๊ปทั้งหมด ดูเหมือนความขัดแย้งระหว่างสื่อในความดูแลของเขากับพรรคภูมิใจไทยจะเริ่มก่อตัวเกิดขึ้น แถมยังเป็นเวลาไล่เลี่ยใกล้เคียงกับที่ “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้เป็นภรรยา ได้รับการขยับขึ้นมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐในช่วงเดือน พ.ค. 2562 ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นผู้สมัครโนเนมที่ยังไม่มีใครรู้จักมาก่อน

ในช่วงปี 2562 เครือเนชั่นกรุ๊ปเริ่มมีการนำเสนอข่าวความไม่ชอบมาพากลหลายโครงการภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะโครงการในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมออกมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ท้ายสุดจะกลายเป็นข้อพิพาทจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต

ราวต้นเดือนพ.ค. 2562 ส.ส.และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทั่วประเทศ ได้ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย กับ 3 พิธีกรของเครือเนชั่นกรุ๊ป ประกอบด้วย 1.สมชาย มีเสน 2.วีระศักดิ์ พงษ์อักษร และ 3. บากบั่น บุญเลิศ รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด ในข้อหาความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา หลังรายการข่าว “ เนชั่นสุดสัปดาห์ 3 บก.” ที่ออกอากาศในวันที่ 3 พ.ย.2562 ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ซึ่งบุคคลทั้ง 3 ได้เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้พุ่งเป้าโจมตี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยในฐานะ รมว.คมนาคม ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับสัมปทานรถตู้โดยสาร ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่ามีคนของพรรคภูมิใจไทยวิ่งเต้นต่อรองผลประโยชน์เพื่อขยายระยะเวลารถตู้โดยสารจาก 10 ปีที่หมดอายุใช้งานออกไป โดยไม่สนใจความปลอดภัยของประชาชน หนำซ้ำในรายการยังมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและข้าราชการทั่วประเทศ ที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้แทนพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายแทรกแซงหรือสั่งการเรื่องใดโดยไม่ชอบ ให้ร้องเรียนมายังรายการได้โดยตรง ประเด็นนี้ถึงกับทำให้ศักดิ์สยามควันออกหูก่อนพรรคภูมิใจไทยมีมติให้สมาชิกพรรคปูพรมฟ้องสื่อเครือเนชั่นกรุ๊ปทั้งแผ่นดิน

หลังการขึ้นโรงพักในประเด็นดังกล่าว สื่อในเครือเนชั่นกรุ๊ปก็เกาะติดการทำงานของพรรคภูมิใจไทยมาตลอด มีการรายงานความไม่ชอบมาพากลในโครงการต่างๆภายใต้ความรับผิดชอบดูแลของพรรคภูมิใจไทยอย่างถี่ยิบด้วยความเข้มข้น ทั้ง ข่าว สัมภาษณ์ รายงานพิเศษ เกาะติดโครงการในมือพรรคภูมิใจไทยทุกเรื่องอย่างต่อเนื่อง มีการกระทบกระทั่งตอบโต้กันมาตลอด ถัดจากนั้นไม่นานก็เกิดกรณีเสนอข่าวกล่าวหาและใช้รูปภาพเชื่อมโยงให้คนเข้าใจผิดว่าอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีเอี่ยวในฐานะผู้บริหาร บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถูกคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีเอื้อประโยชน์ให้เรือลำเรียงอุปกรณ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าขนอม ทั้งๆที่ความจริงนายอนุทินได้พ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัทดังกล่าวมานานกว่า 15 ปีแล้ว รวมถึงการนำเสนอประเด็นล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีการเสนอข่าวโจมตีนายศักดิ์สยามมาตลอด ควบคู่ไปกับการนำเสนอข่าวความไม่ชอบมาพากลโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของศักดิ์สยาม

จากนั้นเป็นต้นมาเครือเนชั่นกรุ๊ปก็เปิดฉากทำ “สงครามสื่อ” กับพรรคภูมิใจไทยมาตลอด ก่อนจะมาเกิดประเด็นดราม่าใหญ่โตขึ้่นอีกครั้ง หลังมาดามเดียร์และเพื่อนส.ส.ในนามกลุ่มดาวฤกษ์ 6 คน จากพรรคพลังประชารัฐขอสงวนสิทธิ์ “งดออกเสียง” ไม่ยอมยกมือให้ศักดิ์สยาม ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 16-19 ก.พ.2564 ต้นปีที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่พบคำชี้แจงที่ชัดเจนเพียงพอของศักดิ์สยาม ในการตอบคำถามอภิปรายของ พรรคฝ่ายค้านและทำให้สังคมตั้งข้อกังขา เกิดข้อสงสัยที่ยังไม่ได้รับคำตอบชัดเจน คือ เรื่องการเปลี่ยนเงื่อนไข (TOR) และการล้มการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ การไม่ปกป้องหรือเรียกคืนที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ งานนี้กลายเป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ครั้งแรกในรัฐบาลผสมของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะอนุทินออกมาส่งสัญญาณติดใจ ที่ศักดิ์สยามถูกดูหมิ่น พรรคภูมิใจไทยถูกหยามเกียรติดูแคลน ร้อนถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องออกโรงมาสงบศึกพรรคร่วมก่อนบานปลาย สุดท้ายก็ลงโทษแค่ตัดมาดามเดียร์พ้นวิปรัฐบาล ส่วนสมาชิกแก๊งค์ดาวฤกษ์คนอื่นๆ ก็ถูกแบนการทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการต่างๆเป็นเวลา 3 เดือน

ความวัวยังไม่หายความควายเข้ามาแทรกอีก คราวนี้เป็นคิวของพรรคภูมิใจไทยตกเป็นจำเลยโดนเอาคืนบ้าง หลังเกิดคลัสเตอร์สถานบันเทิงยามราตรีย่านทองหล่อ จนถูกยกให้เป็นต้นตอการแพร่โควิดระลอก 3 ช่วงปลายเดือนมี.ค.ต่อเนื่องต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยงานนี้มีการเชื่อมโยงชื่อของศักดิ์สยามเข้าไปเกี่ยวข้องแม้เจ้าตัวออกมาปฏิเสธแข่งขันไม่เกี่ยวข้องไม่ใช้คนในข่าว แต่งงานนี้ทางศักดิ์สยามและพรรคภูมิใจไทยก็ถูกสื่อในเครือเนชั่นกรุ๊ปเอาคืนแบบเต็มๆ ฟาดกลับแบบไม่เลี้ยง โดยเฉพาะการพุ่งเป้าตั้งข้อสังเกตเป็นรัฐมนตรีฉาวไปเที่ยว “คริสตัล – เอมเมอรัล คลับ” จนกลายเป็นต้นเหตุแพร่ระบาดของโควิดจนลุกลามไปทั่วเมืองหลวง งานนี้ศักดิ์สยามไม่ทนส่งทนายแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจบุรีรัมย์ เอาผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และอาญา กับ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ หลังไลฟ์สดบิดเบือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนทำให้เสียหาย รวมถึงฟ้องเอาผิดกับ 1. กลุ่มบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จํากัด 2. ผู้บริหารในเครือ รวมถึง 2 พิธีกรที่จัดรายการ “เนชั่นทันข่าวค่ำ” ทางเนชั่นทีวี และ ช่องยูทูบ เมื่อ 4 เม.ย.2564

อย่างไรก็ตามระหว่างชุลมันตอบโต้กันเรื่้องโควิดอย่างเมามันส์ระหว่างเครือเนชั่นกับพรรคภูมิใจไทย ก็ปรากฎภาพซีอีโอตัวพ่อเครือเนชั่นกรุ๊ปเข้าร่วมงานเลี้ยง Digital Tranformation for CEO # 3 ในแบบเฮฮาปาร์ตี้กับบรรดาไฮโซ นักธุรกิจ นักการเมือง แบบไม่เว้นระยะห่าง ไม่เคารพกฎกติกาศบค. สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด งานนี้เลยทำให้พรรคภูมิใจไทยได้โอกาสฟาดกลับเอาคืนสื่อเครือเนชั่นแบบเต็มๆ พร้อมกระแทกกลับมาดามเดียร์ที่เคยโพสต์เฟซบุ้คเหน็บกรณีคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่ตกเป็นข่าวเปิดเผยไทม์ไลน์ แฟร์กับประชาชน หน้าที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ และจิตสำนักต่อสังคม ย้อนกลับแกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ในทำนอง “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” เรียกร้องคนอื่นแล้วฝ่ายตัวเองได้ทำหรือไม่ เจอไป 2 ดอก ทั้งคดีทั้งตอบโต้สารพัดจากขุนพลพรรคภูมิใจไทย สุดท้ายฉายต้องออกมาเอาคืนคู่กรณีโดยโพสต์เฟซบุ๊ค 23 เม.ย. 2564 สไตล์หมูไม่กลัวน้ำร้อนไม่กังวลการฟ้องปิดปากของศักดิ์สยามและพรรคภูมิใจไทย สวนกลับแบบตรงๆ ไม่กลัวนักการเมือง อย่าคิดเอาฝ่ามือไปปิดฟ้า ไม่มีทางจะปิดได้มิด ขอเดินหน้าเสนอข่าวต่อไป ก่อนที่ 30 เม.ย. 2564 เครือเนชั่นจะออกหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี ถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. หลังถูกศักดิ์สยามร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน ชนิดแลกกันคนละหมัดแบบไม่มีใครยอมใคร

ทั้งหลายทั้งมวลคือจุดเริ่มต้นคือที่มาของมหากาพย์ขัดแย้ง “ภูมิใจไทย-เนชั่น” สงครามท่ามกลางผลประโยชน์มหาศาลที่ไม่มีใครยอมกัน

Wisarut · Posted: 29/06/2021 12:30 am Post subject:

เก็บภาพมาฝากจ๊า #เริ่มทยอยก่อสร้างคืนผิวจราจร บริเวณเกาะกลางถนนรามคำแหงฝั่งขาออก #จุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยจะดำเนินการก่อสร้างคืนทีละช่องจราจร เพื่อให้สามารถสัญจรได้ 2 ช่องทางได้ก่อน และเมื่อปรับปรุงผิวจราจรแล้วเสร็จ จะทยอยคืนพื้นที่ให้สัญจรได้ตามปกติ คาดว่าจะเริ่มคืนผิวจราจรได้ในช่วงปลายปีนี้ นะคะ #พื้นที่ไหนก่อสร้างเสร็จก่อนจะทยอยคืนผิวจราจรให้นะคะ ดำเนินการโดย สัญญาที่ 3 : ITD ช่วงหัวหมาก – คลองบ้านม้า
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1137168533429163

Wisarut · Posted: 02/07/2021 6:12 pm Post subject:

รฟม.ยัน งานเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าปลอดภัย 100% กระทบงานวางท่อ แต่ขอทำตอนหลังได้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 - 19:50 น.

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 โดยสรุปว่า ให้ปิดสถานที่ก่อสร้าง หรือพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างหรือสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งให้หยุดงานก่อสร้างและห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นต้น

และต่อมาได้ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่า งานขุดระดับลึกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นดินอ่อนและมีระดับน้ำใต้ดินที่สูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการควบคุมระดับน้ำใต้ดินในช่วงระหว่างการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้โครงสร้างใต้ดินมีเสถียรภาพและมีความปลอดภัย หากต้องหยุดงานก่อสร้างอย่างกระทันหัน อาจทำให้เกิดการวิบัติและเป็นอันตรายต่อสาธารณชนได้

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินของ รฟม. มีความปลอดภัย 100% โดยปัจจุบันงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้าใต้ดินได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว ส่วนงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกสถานีได้ดำเนินการเทคอนกรีตชั้น Base Slab เสร็จเรียบร้อย โดย รฟม. ได้กำชับให้ผู้รับจ้างงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสายของ รฟม. ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 25 และประกาศกรุงเทพมหานครฯ ฉบับที่ 34 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ อาจจะมีงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคของโครงการรถไฟฟ้าที่อาจได้รับผลกระทบจากการหยุดงานก่อสร้างบ้าง เช่น งานวางท่อสาธารณูปโภคใต้ดินโดยใช้วิธีขุดเจาะลากท่อในแนวราบ หรือ Horizontal Directional Drill (HDD) ที่อาจจะต้องดำเนินการขุดเจาะใหม่หลังจากที่มีการผ่อนปรนให้สามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างได้ ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ CallCenter รฟม. โทร. 0 2716 4044

Wisarut · Posted: 03/07/2021 2:14 am Post subject: