Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180410
ทั้งหมด:13491644
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 57, 58, 59 ... 89, 90, 91  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/10/2021 1:20 pm    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ มองรอบทิศ: ใครจะเสี่ยง? รถไฟสีส้ม!
Source - เดลินิวส์
Friday, October 15, 2021 07:59
พยัคฆ์น้อย

ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องจับเข่าคุยกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้รู้เรื่องเสียทีว่าอะไรกันเนี่ย! ตอนเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟรางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ถูกสังคมคลางแคลงใจ จนนายกฯต้องตั้งคณะกรรมการกลางมาตรวจสอบความโปร่งใสในผลของการประมูลงาน 5 สัญญา 5 ผู้รับเหมา คว้ากันไปคนละสัญญา

แต่โครงการที่ยัง "ยักแย่ยักยัน" กันมาพักใหญ่ ๆ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท ยังไม่ไปถึงไหน!

แม้นายศักดิ์สยามจะส่งสัญญาณยืนยันว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเดินหน้าจัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อไปได้ แต่ฝ่ายบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) ย้ำ! หัวตะปูว่าหาก รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหา ที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอสจะใช้สิทธิโต้แย้ง และอาจฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง

แว่ว ๆ ว่างานนี้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ พากันขวัญผวา ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม! เพราะเกรงว่าจะต้องเข้าปิ้ง! หมดอนาคต และอาจถึงขั้นติดคุกแทนฝ่ายการเมืองก็เป็น ไปได้!

เนื่องจากหากยึดหลักเกณฑ์ประมูลคัดเลือกตามกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 28 ม.ค.63 ที่กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินการคัดเลือกเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก โดยรัฐต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินดีที่สุด หรือมีการขอรับเงินสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐน้อยที่สุดนั้น รฟม.ต้องกลับไปใช้เกณฑ์คัดเลือกปกติ ซึ่งต้องชี้ขาดกันที่ข้อเสนอทางการเงินที่ให้ประโยชน์ต่อรัฐมากที่สุด ไม่ใช่ไปลากเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่มีปัญหากลับมาใช้

คงไม่มีกรรมการคัดเลือกชุดใหม่คนไหน เอาหน้าที่การงานไปเสี่ยงคุก เพราะมีตัวอย่างศาลอาญาคดีทุจริตฯรับฟ้องกรณี "บีทีเอส" ฟ้องผู้ว่าการ รฟม. และกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 รวม 7 คน คดีร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประมูล พ่วงด้วยคดีตามมาตรา 157 โดยศาลนัดพิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่าย ก่อนเดินหน้าไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 ต.ค.นี้

โดยมี "หนังตัวอย่าง" อดีตผู้ว่าการ รฟท. ต้องติดคุกเกี่ยวกับเรื่องราวคล้ายคลึงกัน ในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาในเอกสารประกวดราคาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชน ทำให้ รฟท.ได้รับความเสียหาย

แต่การประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน (พีพีพี) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งพยานหลักฐาน ต่าง ๆ ล้วนมีความหมิ่นเหม่! ทำให้กรรมการคัดเลือกส่วนใหญ่เห็นว่าควรรอให้มีความชัดเจนใน "คดีความ" เสียก่อน!

หรือถ้าจะให้สบายตัวที่สุด หากต้องการให้รถไฟฟ้าสายสีส้มเดินหน้าต่อไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ควรมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมและ รฟม. กลับไปใช้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกปกตินั่นแหละ เพราะหากศาลปกครองและศาลอาญาคดีทุจริตฯ ชี้มูลตามมา โดยรฟม.จัดประมูลไปตามเกณฑ์ปกติแล้ว ก็สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้

อย่าลืมว่ามติครม. เมื่อ 28 ม.ค.63 อนุมัติให้รฟม. ดำเนินการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระยะทาง 35.9 กม. วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวถือว่าล้มเหลว ล่าช้า!

เนื่องจากมีการฟ้องร้องเรื่องเปลี่ยนเกณฑ์การประมูล จนต้องล้มประมูลหนี! สร้างความเสียหายแก่รัฐ ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย แต่ยังหา "ไอ้โม่ง" ที่คอยกำกับบทอยู่เบื้องหลังมารับผิดชอบไม่ได้เลย!!.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 ต.ค. 2564 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/10/2021 8:44 am    Post subject: Reply with quote

แฉเกมบีบ‘บีทีเอส’รามือรถไฟฟ้าสีส้มไร้ผล องค์กรต่อต้านทุจริตลังเลเข้าร่วมหวั่นถูกใช้ชื่อฟอกขาว
แนวหน้า วันพุธ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุน (พีพีพี) ในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.427 แสนล้านบาทว่าหลังจากฝ่ายบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกาศเดินหน้าจัดประกวดราคาใหม่โดยยืนยันว่า คดีฟ้องร้องที่มีอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการประมูล เพราะศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้องคดีต่างๆ ไปเกือบหมดแล้วนั้น ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการ รฟม. ที่ประชุมได้รับทราบรายงานของฝ่ายบริหารที่อ้างว่า ยังไม่สามารถเริ่มจัดประมูลใหม่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม และประสานไปยังองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการพิจารณคัดเลือกตามมาตรา 36 ยังคงไม่เห็นชอบต่อร่างทีโออาร์การประมูล เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนด้านคดีความต่างๆที่รฟม.ถูกฟ้องอยู่ โดยเฉพาะคดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

“ล่าสุดหลังจากบีทีเอสได้แสดงจุดยืนอาจใช้สิทธิ์โต้แย้ง หาก รฟม.ยังคงนำเอาหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่มีปัญหากลับมาใช้อีกนั้น ได้ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ที่เข้ามายังคงไม่กล้าตัดสินใจให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลตามที่ฝ่ายบริหาร รฟม.นำเสนอ และส่วนใหญ่เห็นว่า ควรรอความชัดเจนด้านคดีความจากศาล โดยเฉพาะคดีที่รฟม.ถูกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เหตุที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) ยังไม่มีหนังสือตอบไปยัง รฟม.นั้นเพราะเกรงว่าการส่งคนเข้าร่วมสังเกตการณ์จะกลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้ รฟม.นำไปฟอกขาวโครงการนี้ เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รฟม.ได้กล่าวอ้างมาโดยตลอดว่า โครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม มีการลงนามในข้อตกลงคุณธรรมมาตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ปี 2561 โดยที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ไม่ได้รับทราบรายละเอียดหรือส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผลจากการที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส (BTS) ออกมาแสดงจุดยืนว่า หากรฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอส คงจะใช้สิทธิ์โต้แย้ง และอาจถึงขั้นฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง รวมทั้งยังส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกด้วยนั้น และได้สร้างความไม่พอใจให้กับกระทรวงคมนาคม และพรรคการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอย่างหนัก โดยที่ผ่านมามีความพยายามที่จะเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มบีทีเอสลดบทบาทจากการประมูลโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มเพื่อแลกกับการที่ กทม.จะดำเนินการต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ให้กับกลุ่มบีทีเอส แต่ทางบีทีเอสยืนยันว่าทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และขอใช้สิทธิ์ในชั้นศาลเท่านั้น จึงทำให้เส้นทางการเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานระหว่าง กทม.กับ บมจ.บีทีเอส ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะได้ข้อยุติลงเมื่อใด

“ฝ่ายบริหาร บีทีเอส แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และแม้ผลพวงจากความล่าช้าในการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว รวมทั้งการจ่ายหนี้ค้างกว่า 30,000-40,000 ล้านบาทของ กทม.จะล่าช้า แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าในที่สุดหนี้จำนวนดังกล่าวจะได้รับชดใช้อยู่ดีเพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐโดยตรง ไม่สามารถจะบิดพลิ้วได้ ขณะที่ความพยายามแก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้มนั้นเป็นคนละเรื่อง ไม่สามารถจะนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองกรณีดังกล่าวได้”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/10/2021 3:12 pm    Post subject: Reply with quote

Update!การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
Oct 18, 2021
PR MRTA Official

อัพเดทความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
โดยมีความคืบหน้างานโยธา อยู่ที่ 86.26 % โดยวันนี้น้องทันใจจะพาไปชมความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศรีบูรพาและอาคารจอดแล้วจร กันนะครับ


https://www.youtube.com/watch?v=teTLM3dS4nc
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2021 6:46 pm    Post subject: Reply with quote

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดบีทีเอส-รฟม.ไต่สวนคดีสายสีส้ม 3 วัน
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:57 น.

"บีทีเอส" เผย ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดไต่สวน เคลียร์คดีรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 วัน เตรียมสอบพยาน พิจารณาเอกสารเพิ่มเติม คาดใช้เวลาไม่นานได้ข้อสรุป ซัดรฟม.เบรกให้ข่าว หวั่นคลาดเคลื่อนกระทบรูปคดี

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยว่า ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดไต่สวนเพื่อรับคำฟ้องกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น เบื้องต้นศาลฯได้พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งไม่ได้ขัดข้องในการยื่นเอกสารทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยโดยมีกำหนดเริ่มนัดไต่สวนพิจารณาคดีฯ จำนวน 3 วัน ได้แก่วันที่ 14,20,24 ธ.ค.2564 หลังจากนี้ จะเป็นการไต่สวนพยานและพิจารณาเอกสารที่ยื่นฟ้องต่อศาลฯเพื่อประกอบการพิจารณาว่ามีมูลฟ้องหรือไม่


"ที่ผ่านมาการประมูลโครงการฯ เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนส.ค.2563 ขณะเดียวกันสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการมาทั้งหมดเพื่อเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โปร่งใส เราฟ้องไม่ได้เพื่อให้เราชนะ แต่ต้องการให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อ และใช้ระยะเวลาไม่นาน คาดว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อนที่จะมีการเริ่มนัดไต่สวนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ส่วนการเปิดประมูลรอบใหม่นั้น หากรฟม.ยืนยันจะใช้เกณฑ์การประมูลโดยใช้เกณฑ์ด้านราคา 70 คะแนน และด้านเทคนิค 30 คะแนน ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูล แต่คงต้องพิจารณาหลักเกณฑ์การประมูลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร"

ทั้งนี้ในช่วงการไต่สวนวันนี้ฝ่ายจำเลยหรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)มีการขอร้องต่อศาลฯ พิจารณาไม่ให้สัมภาษณ์ข่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดีและข้อเท็จจริงมีความคลาดเคลื่อน แต่ทางบริษัทขอค้าน เพราะสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ได้กระทบต่อรูปคดีแต่อย่างใด เบื้องต้นทางศาลฯ พิจารณาเห็นด้วยกับบริษัทฯสามารถให้ข้อเท็จจริงได้ แต่ต้องระวังในการนำเสนอข่าวด้วย

ศาลอาญาคดีทุจริตรับฟ้อง!! “บีทีเอสร้องรถไฟฟ้าสีส้ม”
*นัดไต่สวนแล้ว 3 วันเดือด 14, 20, 24 ธ.ค.นี้
*ไม่ได้สู้เพื่อชัยชนะแต่เพื่อการแข่งขันยุติธรรม
*บิ๊กBTSลั่นประมูลรอบใหม่ถ้ากติกาไม่ตุกติก
*แฉ”รฟม.”ขอศาลห้ามโจทก์ให้ข่าวสื่อมวลชน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3031000807121417
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2021 5:56 am    Post subject: Reply with quote

เปิดสาเหตุประมูลสายสีส้มรอบใหม่ไม่คืบ
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
เปิดสาเหตุประมูลสายสีส้มรอบใหม่ไม่คืบ
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:25 น.

บอร์ดม.36 ค้านประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบใหม่ หลังรฟม.ชงใช้เกณฑ์ประมูลด้านราคาควบเทคนิค แนะเคลียร์คดีในศาลให้จบ ซุ่มเจรจาบีทีเอสแลกต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.427 แสนล้านบาทว่า หลังจากฝ่ายบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ประกาศเดินหน้าเปิดประมูลใหม่และยืนยันว่าคดีฟ้องร้องที่มีอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการประมูล เนื่องจากศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้องคดีต่างๆ เกือบหมดแล้ว


ขณะเดียวกันการประชุมคณะกรรมการ รฟม.ล่าสุดที่ประชุมได้รับทราบรายงานของฝ่ายบริหารที่อ้างว่า ยังไม่สามารถเริ่มจัดประมูลใหม่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม และประสานไปยังองค์การต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกตามมาตรา 36 ยังคงไม่เห็นชอบต่อร่างทีโออาร์การประมูล เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนด้านคดีความต่าง ๆ ที่รฟม.ถูกฟ้องอยู่ โดยเฉพาะคดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ



สำหรับสาเหตุที่องค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ยังไม่มีหนังสือตอบไปยัง รฟม.นั้นเพราะเกรงว่าการส่งคนเข้าร่วมสังเกตการณ์จะกลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้ รฟม.นำไปฟอกขาวโครงการนี้ เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รฟม.อ้างมาโดยตลอดว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีการลงนามในข้อตกลงคุณธรรมมาตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ปี 2561 โดยที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่ได้รับทรายรายละเอียดหรือส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมแต่อย่างใด

ทั้งนี้จากการที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส (BTS) ออกมาแสดงจุดยืนล่าสุด หาก รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอส คงจะใช้สิทธิ์โต้แย้ง และอาจถึงขั้นฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง รวมทั้งยังส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกด้วยนั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกระทรวงคมนาคม และพรรคการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอย่างหนัก

ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มบีทีเอสยกเลิกจากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพื่อแลกกับการที่ กทม.จะดำเนินการต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเชียว ให้กับกลุ่มทีบีเอส แต่ทางบีทีเอสยืนยันว่าทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และขอใช้สิทธิ์ในชั้นศาลเท่านั้น จึงทำให้เส้นทางการเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานระหว่าง กทม.กับ บมจ.บีทีเอส ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะได้ข้อยุติลงเมื่อใด

ฟากบีทีเอส แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และแม้มีผลมาจากความล่าช้าในการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมทั้งการจ่ายหนี้ค้างกว่า 30,000-40,000 ล้านบาทของ กทม.จะล่าช้า แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าในที่สุดหนี้จำนวนดังกล่าวจะได้รับชดใช้อยู่ดี เพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐโดยตรง ไม่สามารถตะบิดพลิ้วได้ ขณะที่ความพยายามแก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น ไม่สามารถจะนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองกรณีดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตามความคืบหน้าในการเปิดประมูลใหม่นั้น หลังจากบีทีเอสได้แสดงจุดยืนอาจใช้สิทธิ์โต้แย้ง หากรฟม.ยังคงนำเอาหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหากลับมาใช้อีกนั้น ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ที่เข้ามาไม่กล้าตัดสินใจให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลตามที่ฝ่ายบริหาร รฟม.นำเสนอ เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นว่าควรรอความชัดเจนด้านคดีความจากศาล โดยเฉพาะคดีที่รฟม.ถูกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/10/2021 8:17 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสีส้ม-สีเขียว ‘2ปียังวนอยู่ในอ่าง’....ทำไม????? (1)
โลกการค้า
แนวหน้า วันพุธ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

กลายเป็นข่าวร้อนอีกครั้งกับเส้นทางการพิจารณาข้อเสนอต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) ต้องถูกถอนออกจากวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงคมนาคมกระโดดออกมาขวางแนวทางดังกล่าวเต็มพิกัด ด้วยข้ออ้างเดิมไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว.

..โดยกระทรวงคมนาคมได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของครม.ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอต่อสัญญาสัมปทานบีทีเอส โดยระบุว่า ได้ทำความเห็นแย้งมาถึง 8 ครั้งแล้ว หากกระทรวงมหาดไทยและ กทม.จะเดินหน้าต่อสัญญาสัมปทานโครงการ ก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ตลอดจนหลักธรรมาภิบาล พร้อมยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้จัดประชุมเพื่อร่วมหาข้อยุติร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและ กทม.ตามที่นายกฯ มอบหมายแล้ว และได้สอบถามขอข้อมูลรายละเอียดไปยัง กทม. หลายครั้ง แต่ กทม.ไม่จัดส่งรายละเอียดให้ ทำให้ไม่สามารถจะพิจารณาได้

ฟากของผู้บริหาร ของ กทม. เองก็แปลกใจเมื่อพิจารณาข้อท้วงติงของกระทรวงคมนาคมแล้ว พบว่ามีข้อท้วงติงและข้อเสนอที่แตกต่างไปจากข้อท้วงติงเดิมที่กระทรวงคมนาคมเคยนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 จนทำให้เส้นทางการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินคงค้างที่ กทม. มีอยู่กับผู้รับสัมปทานเอกชนไม่สามารถหาข้อยุติได้

โดยแต่เดิม กระทรวงคมนาคมได้อ้าง ประเด็นในเรื่องความครบถ้วนในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2562 และการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่กำหนดไว้ 65 บาทตลอดสายโดยอ้างว่าเป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมเป็นธรรม พร้อมขอให้ กทม. และบีทีเอสแสดงต้นทุนที่มาที่ไปในการคำนวณอัตราค่าโดยสารดังกล่าว แต่ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เพิ่มเติมข้อท้วงติงใหม่ขึ้นมาอีกหลายข้อ ประกอบด้วย

1.หาก กทม. จะขยายสัญญาสัมปทานในช่วงที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย กทม. ควรชำระหนี้สินให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มกระบวนการจัดหาผู้ให้บริการในโครงข่ายสีเขียว ส่วนต่อขยาย

2.หาก กทม.ไม่มีความประสงค์จะให้บริการสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ก็ควรเสนอ ครม. เพื่อทบทวนมติ ครม. เมื่อ 26 พ.ย. 2561 และมอบหมายให้ รฟม.ดำเนินการ (โอนโครงการกลับคืน รฟม.)

3.หากจะมีการต่อขยายสัญญาสัมปทาน บริษัทต้องแจ้งความประสงค์ไปยัง กทม.ในเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่มากกว่า 5 ปี ก่อนวันสิ้นสุดสัญญา เนื่องจากต้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแลพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการร่วมทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และดัชนีผู้บริโภค และต้องได้รับการอนุมัติจาก ครม.ก่อน และ

4.กรณี กทม. มีภาระหนี้จากการว่าจ้างเอกชนติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าและว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายทั้ง 2 ส่วน ที่ได้ทำเมื่อปี 2559 ควรมีการตรวจสอบสัญญาว่า มีความชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ จะส่งผลต่อมูลหนี้ดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ต่อไป

นอกจากนี้ ในรายงานของกระทรวงคมนาคมยังระบุด้วยว่า จากการศึกษาข้อมูลยังพบว่า ผลประโยชน์ของภาครัฐที่จะได้รับตลอดระยะเวลาสัมปทานถึงปี 2602 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอต่อขยายอายุสัญญา 30 ปีนั้น กรณีที่รัฐดำเนินการเองจะมีผลประโยชน์สูงกว่ากรณีให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ โดยพบว่า กรณี กทม.ดำเนินการเองภาครัฐจะมีกระแสเงินสดสุทธิ (ปี 2602) 4.67 แสนล้านบาท แต่หาก กทม. ให้เอกชนดำเนินการ ภาครัฐจะมีกระแสเงินสดสุทธิในปี 2602 จำนวน 3.26 หมื่นล้านบาท ซึ่งหมายถึงหากรัฐดำเนินการเองจะมีกระแสเงินสดสุทธิมากกว่ากรณีให้เอกชนสูงถึง 4.35 แสนล้านบาท

“เจอแบบนี้ รมว.มหาดไทย (มท.) และ กทม.ก็ไปไม่เป็น ได้แต่ถอนเรื่องออกไปจาก ครม. เพราะสิ่งที่กระทรวงคมนาคมมีการปรับเปลี่ยนข้อโต้แย้งและระบุข้อโต้แย้งใหม่ไปเรื่อย ทำให้คิดได้ว่า เพราะต้องการนำโครงการนี้มาเป็นข้อต่อรองทางการเมือง เพื่อแลกกับการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม และสีม่วงใต้ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) กำลังดำเนินการอยู่ และไม่ว่า กทม.จะชี้แจงอย่างไรก็เชื่อว่า เมื่อโครงการดังกล่าวเข้า ครม.ก็คงถูกกระทรวงคมนาคมตั้งแท่นขวางอยู่ดี”

แหล่งข่าว ระดับสูงใน กทม.กล่าวอีกว่าหากทุกฝ่ายจะได้พิจารณาข้อโต้แย้งของกระทรวงคมนาคม ในประเด็นที่ว่าหากจะเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียวให้ครอบคลุมไปถึงโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ กทม. ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ ควรจ่ายหนี้ค้างให้ รฟม.ให้เรียบร้อยก่อนนั้น ประเด็นดังกล่าวล้วนถูกบรรจุไว้ในข้อสัญญาการต่อขยายสัมปทานใหม่ที่จะมีขึ้นอยู่แล้ว ที่บีทีเอส (BTS) จะต้องชำระหนี้ค้างทั้งหมดแทน กทม. จึงไม่ใช่ประเด็นปัญหา

ส่วนข้อ 2 ที่อ้างว่าหาก กทม.ไม่สามารถบริหารโครงข่ายรถไฟฟ้า สายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 สายได้เอง ควรโอนคืนให้กับรฟม.นั้น ปัญหาที่จะมีตามมาก็คือ จะทำให้เกิดปัญหาคอขวดและการเชื่อมต่อโครงข่ายเพราะหากสิ้นสุดสัมปทานสายหลักในปี 2572และกทม.ต้องเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาเดินรถ หากผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักคือกลุ่มบีทีเอสเดิม ในขณะที่ รฟม.นั้นไปว่าจ้างอีกกลุ่มเข้ามาเดินรถ ก็จะเกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ เพราะเป็นคนละระบบ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและอาจทำให้อัตราค่าโดยสารสูงมากและกลายเป็นความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้บริการทันที

3.หากจะมีการต่อขยายสัญญาสัมปทาน บริษัทต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกทม. ในเวลาไม่น้อยกว่า3 ปี และไม่มากกว่า 5 ปีก่อนวันสิ้นสุดสัญญา และต้องให้หน่วยงานที่กำกับพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการร่วมทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และดัชนีผู้บริโภคข้อเสนอดังกล่าวเท่ากับ กระทรวงคมนาคมกำลังจะให้กรมขนส่งทางรางเข้ามากำกับดูแลโครงการและอาศัยเป็นเครื่องมือในการพิจารณาว่าจะให้ใครเป็นเจ้าของโครงการ และหากกรมขนส่งทางรางมีอำนาจขนาดนั้นจริง เหตุใด กรณีเปิดประมูลสัมปทาน รถไฟฟ้า สายสีส้ม ที่กำลังเปิดประมูลโดยรฟม.พยายามนำหลักเกณฑ์การคัดเลือกสุดพิสดารมาใช้ ทำไมกรมขนส่งทางรางจึงไม่สอดมือเข้าไปพิจารณาดูบ้างในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลรถไฟฟ้า

ส่วนข้ออ้างที่ 4 ที่ว่าควรมีการตรวจสอบสัญญาว่าจ้างการเดินรถระหว่าง กทม.และบีทีเอสตั้งแต่ต้นว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่นั้น ประเด็นการตรวจสอบนั้นทาง กทม.ยืนยันว่าสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ได้มีการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม Integrity pack มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หากจะให้เหมาะสมควรตรวจสอบภาระหนี้ก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 2 สายที่ รฟม.โยนโครมมาให้ กทม.แบกรับแทนจะเหมาะสมมากกว่า เหตุใด จึงไม่เรียกร้องเอากับ กทม. ทั้งที่เป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าที่รัฐจะต้องลงทุนอยู่แล้ว อีกทั้งในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม.เองจนป่านนี้ก็ยังไม่มีโครงการใดดำเนินการตามข้อตกลงคุณธรรมด้วยซ้ำ

!!พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับผม(ใน...โลกการค้า)

กระบองเพชร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2021 6:17 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม. สั่งลอกท่อระบายน้ำตลอดแนวสร้างรถไฟฟ้าสีส้ม ลดปัญหาน้ำท่วม
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
28 ตุลาคม 2564 เวลา 10:42 น.

รฟม. สั่งผู้รับจ้างขุดลอกท่อระบายน้ำ-ลำราง ตลอดแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทุก 3 เดือน พร้อมให้เฝ้าระวังตลอด เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนรามคำแหง


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า รฟม. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้ติดตาม และกำชับให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาทุกสัญญา เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าตลอดแนวถนนรามคำแหง โดยให้ผู้รับจ้างฯ ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ และลำรางสาธารณะตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับ สัญญาที่ 4 ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ ได้ดำเนินการขุดลอกลำรางสาธารณะบริเวณถนนรามคำแหงทั้งฝั่งขาเข้า และฝั่งขาออกในพื้นที่เขตสะพานสูง บริเวณซอยรามคำแหง 110-112 ซอยรามคำแหง 129/4 ซอยรามคำแหง 141 ซอยรามคำแหง 144 ซอยรามคำแหง 158 และซอยรามคำแหง 161/2 เพื่อป้องกันเศษวัสดุอุดตันในแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบนถนรามคำแหง


ทั้งนี้ รฟม. ได้เน้นย้ำให้ที่ปรึกษาโครงการ กำกับดูแลให้ผู้รับจ้างฯ ลอกท่อระบายน้ำตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน และเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ตามนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในการให้ความสำคัญแก่ประชาชนและชุมชนตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ..
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 03/11/2021 9:08 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
สำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (สปอ.รฟม.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตลอดจนติดตามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ก่อสร้าง สถานี รฟม. สถานีรามคำแหง สถานีแยกลำสาลี สถานีสัมมากร สถานีมีนบุรี และอาคารจอดแล้วจร (Park&Ride) โดย สปอ.รฟม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงและพื้นที่อับอากาศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเอง คนรอบข้างรวมถึงผู้สัญจรโดยรอบเป็นสำคัญ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมและปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศ “ปฏิญญาว่าด้วยความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน Zero Fatal Accident” ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เว็บไซต์โครงการ www.mrta-orangelineeast.com และ Line Official : OrangeLine
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/2907406352809413
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/11/2021 7:45 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟม. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/2907406352809413

รฟม.ลงพื้นที่ ติดตามด้านอาชีวอนามัย -ความปลอดภัยการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เผยแพร่: 3 พ.ย. 2564 23:18 ปรับปรุง: 3 พ.ย. 2564 23:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

สำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (สปอ.รฟม.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตลอดจนติดตามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ก่อสร้าง สถานี รฟม. สถานีรามคำแหง สถานีแยกลำสาลี สถานีสัมมากร สถานีมีนบุรี และอาคารจอดแล้วจร (Park&Ride)

โดย สปอ.รฟม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงและพื้นที่อับอากาศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเอง คนรอบข้างรวมถึงผู้สัญจรโดยรอบเป็นสำคัญ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมและปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศ “ปฏิญญาว่าด้วยความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน Zero Fatal Accident” ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เว็บไซต์โครงการ www.mrta-orangelineeast.com และ Line Official : OrangeLine

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/11/2021 10:56 am    Post subject: Reply with quote

🚧🚆 #อัปเดตความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 07:34 น.

มีความคืบหน้างานโยธา รวม 87.24 % นับว่าเร็วกว่าแผน 0.36%
ช่วงที่ 1: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ไป รามคำแหง 12 โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 92.67%
ช่วงที่ 2: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก รามคำแหง 12 ไปหัวหมาก โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 88.98%
ช่วงที่ 3: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก หัวหมาก ไป คลองบ้านม้า และ ทางลาดขึ้นทางลอยฟ้าโดยอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ : 85.58%
ช่วงที่ 4: ทางลอยฟ้าและ สถานีลอยฟ้า จากคลองบ้านม้าไปสุวินทวงศ์ โดย ยูนิคเอนจิเนียร์: 79.49%
ช่วงที่ 5: งานศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 86.83%
ช่วงที่ 6: งานก่อสร้างระบบราง โดย ยูนิคเอนจิเนียร์: 76.61%
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1223725331440149
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 57, 58, 59 ... 89, 90, 91  Next
Page 58 of 91

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©