Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179865
ทั้งหมด:13491097
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 42, 43, 44 ... 89, 90, 91  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/11/2020 9:53 am    Post subject: Reply with quote

เบื้องลึก ‘รฟม.-บีทีเอส’ ร้องกันนัว เปลี่ยนตัว ‘ตุลาการ’ศาล ปค.คดีแก้ทีโออาร์สายสีส้ม
เขียนโดยisranews
เขียนวันเสาร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16:24 น.

"...มีเหตุอันไม่สมควรตามกฎหมายที่องค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีนี้จะพิจารณาคดีหรือมีคำสั่งใดๆในคดีนี้ต่อไป อีกทั้งองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดียังมีสภาพร้ายแรง ซึ่งอาจทำให้การพิจารณารคดีไม่เป็นกลาง เสียความยุติธรรม และไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณี..."

ยังคงร้องกันวุ่น

สำหรับประเด็นการแก้ไขเอกสารประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน (RFP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งเปลี่ยน ‘หลักเกณฑ์การพิจารณา’ เป็นให้นำซองเทคนิค (ซองที่ 2) และซองราคา (ซองที่ 3) มาพิจารณาให้คะแนนรวมกัน 30 :70 หลังจากปิดขายซองประมูลไปแล้ว

แต่ว่าคราวนี้ เป็นการร้องเรียนที่เกิดขึ้นที่ศาลปกครอง

เพราะหลังจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2563 บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต่อศาลปกครองกลาง

โดย BTSC ฟ้องว่าการแก้ไข RFP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับและกำหนดมาตรการชั่วคราวก่อนพิพากษานั้น (อ่านประกอบ : ศาลฯไต่สวนนัดแรก 14 ต.ค.!คดี BTSC ฟ้อง ‘รฟม.’ แก้กติกาประมูลรถไฟฟ้าสาย 'สีส้ม' มิชอบ)

แต่ทว่าเพียง 5 วัน หลัง BTSC ยื่นฟ้องศาลปกครอง รฟม. ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ทำหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2563 เรื่องขอคัดค้านตุลาการศาลปกครองกลาง และขอให้มีการเปลี่ยน 'องค์คณะ' ในการตัดสินคดีพิพาทดังกล่าว

iรฟม. ให้เหตุว่า เนื่องจากคำร้องขอทุเลาฯของ BTSC ที่มีการบรรยายว่า

“ยิ่งไปกว่านั้น ในการยื่นฟ้องคดีนี้ ผู้ฟ้องคดีได้เรียนต่อท่านอธิบดีศาลปกครองและท่านตุลาการเจ้าของสำนวนคดีแล้วว่า คดีของผู้ฟ้องคดีมีคำฟ้องสมบูรณ์ครบถ้วน และเป็นเรื่องที่มีเหตุตามกฎหมาย เหตุสมควร และความจำเป็นที่ศาลปกครองต้องพิจารณาและพิพากษาคดีโดยเร่งด่วน” นั้น

“หากข้อความตามคำร้องนี้เป็นความจริงย่อมมีผลกระทบต่อความเป็นกลางของตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและอธิบดีศาลปกครองกลาง และย่อมกระทบต่อการอำนวยความยุติธรรมในการพิจารณาคดีของศาล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงขอคัดค้านตุลาการศาลปกครองที่พิจารณาคดีดังกล่าว”

bts mrta 28 11 20 4

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาศาลปกครองได้พิจารณาเปลี่ยนตัว ‘องค์คณะ’ ในการตัดสินคดีในศาลปกครองชั้นต้นตามที่ รฟม. ยื่นคำร้อง

กระทั่งในวันที่ 20 ต.ค.2563 ศาลปกครองกลางมีคำสั่ง ‘ทุเลา’ การบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนของ รฟม. ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสาร RFP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น (อ่านประกอบ : ห้ามใช้หลักเกณฑ์ใหม่ประมูลชั่วคราว! ศาลปค.สั่งคุ้มครองคดีรฟม.แก้ทีโออาร์รถไฟฟ้า 'สีส้ม')

bts mrta 28 11 20 1(ที่มา : คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 คดีพิพาทแก้ไข RFP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี อ่านเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563)

แต่ทว่าการร้องขอเปลี่ยนตัว 'องค์คณะ' ในการพิจารณาตัดสินคดีแก้ไขทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้ม กลับมาเป็นประเด็นในชั้นการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง

เพราะหลังจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ และรฟม.ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และต่อมาเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 ศาลปกครองสูงสุดได้ไต่สวนคำขอระงับคำสั่งทุเลาของศาลปกครองชั้นต้น โดยตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะได้ไต่สวนผู้ว่าการรฟม. และพนักงานอัยการนั้น

ปรากฏว่าในวันเดียวกัน คือ วันที่ 17 พ.ย.2563 ทาง BTSC ยื่นคำร้องคัดค้าน ‘องค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีในศาลปกครองสูงสุด' ต่อศาลปกครองสูงสุด

BTSC ระบุว่า “มีเหตุอันไม่สมควรตามกฎหมายที่องค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีนี้จะพิจารณาคดีหรือมีคำสั่งใดๆในคดีนี้ต่อไป อีกทั้งองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดียังมีสภาพร้ายแรง ซึ่งอาจทำให้การพิจารณารคดีไม่เป็นกลาง เสียความยุติธรรม และไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณี...”

BTSC ยังขอให้องค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีในศาลปกครองสูงสุด คืนคดีกลับไปยังประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อแต่งตั้งองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีใหม่ พร้อมระบุข้อเท็จจริงที่เป็นข้อพิรุธและข้อสงสัยที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงในองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดี สรุปได้ 2 ประเด็น

ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 (คณะกรรมการ ม.36 และรฟม.) ยื่นเอกสารประกอบการอุทธรณ์เข้ามาเกือบ 400 หน้า และศาลปกครองสูงสุดมีประเด็นให้ BTSC ชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อประกอบการไต่สวน ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณามาก แต่ให้เวลา BTSC ทำคำแก้อุทธรณ์ คำคัดค้าน และคำชี้แจงฯในเวลาไม่ถึง 2 วันทำการ

ประเด็นที่ 2 BTSC ขอให้ศาลปกครองสูงสุด เลื่อนวันนัดไต่สวนออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 17 พ.ย.2563 เนื่องจากหัวหน้าคณะทำงานของคดีพิพาทนี้ของ BTSC ซึ่งเป็นพยานผู้เบิกความและให้ถ้อยคำหลักในสำนวนคดี ติดนัดไต่สวนคดีอื่น จึงไม่สามารถเข้าร่วมกระบวนการพิจารณาและไต่สวนได้

แต่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดี (BTSC) ขยายเวลายื่นคำคู่ความและเอกสารต่างๆ โดยระบุว่า “ไม่อนุญาต เนื่องจากศาลได้ให้เวลาเพียงพอและเหมาะสมกับรูปคดีแล้ว”

ศาลฯยังมีคำสั่งว่า “หมายนัดไต่สวนส่งให้คู่กรณีตามข้อ 16 ของระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ โดยมีผู้รับไว้โดยชอบแล้ว และกำหนดเวลานัดไต่สวนดังกล่าวเพียงพอและเหมาะสมแล้ว จึงไม่อนุญาต” ทั้งๆที่ BTSC ชี้แจงถึงความจำเป็นที่มีเหตุผลและมีเอกสารหลักฐานประกอบการชี้แจงโดยชอบ แต่ศาลปกครองสูงสุดก็ไม่รับฟัง

“คำสั่งของศาลปกครองสูงสุดจึงเป็นจึงเป็นการกระทำที่ผิดปกติ ไม่เป็นธรรม และปิดกั้นสิทธิโดยชอบของผู้ฟ้องคดี โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดีมีเวลาในการเตรียมการ ต่อสู้คดี แสดงพยานหลักฐานและเอกสารโต้แย้งคัดค้านของฝ่ายผู้ฟ้องคดีอย่างเต็มที่

ซึ่งเมื่อกรณีเป็นเช่นนี้แล้ว ย่อมก่อให้เกิดผลเสียแก่ผู้ฟ้องคดีในการต่อสู้คดีนี้ จนทำให้เสมือนว่าคู่กรณีที่แท้จริงไม่มีโอกาสเข้าต่อสู้คดี และทำให้คดีมีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีและทำให้ผลแห่งคดีอาจไม่เป็นธรรมหรือเกิดความอยุติธรรมได้” คำร้องคัดค้านองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีในศาลปกครองสูงสุดของ BTSC เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 ระบุ

bts mrta 28 11 20 22(ที่มา : คำร้องคัดค้านองค์คณะและตุลาการเจ้าของสำนวนคดีในศาลปกครองสูงสุดของ BTSC เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563)

ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.2563 ทาง BTSC ยังยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง 1 ฉบับ และถึงประธานศาลปกครองสูงสุด 1 ฉบับ

โดย BTSC ร้องว่า ตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะ (ตุลาการเจ้าของสำนวนคดี 1 ราย และองค์คณะ 1 ราย) กระทำผิดวินัย โดยขอให้คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงตุลาการทั้ง 2 ราย และขอให้เปลี่ยนแปลงตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะดังกล่าว และ/หรือขอให้ตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะท่านดังกล่าวถอนตัวและคืนสำนวนคดี

ล่าสุดวันที่ 25 พ.ย.2563 BTSC ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ผิดระเบียบ จากการดำเนินการกระบวนการไต่สวนคดีเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 ของตุลาการทั้ง 2 รายทั้งหมด เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง

พร้อมทั้งขอให้ศาลพิจารณาดำเนินการให้ตุลาการเจ้าของสำนวนคดีกับองค์คณะ หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการพิจารณาคดีนี้โดยทันทีเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการพิจารณาและมีคำสั่งเกี่ยวกับการคัดค้านตุลาการ การร้องเรียน และการสอบสวนวินัยของตุลาการทั้ง 2 ราย (อ่านประกอบ : ศึกชิงสายสีส้ม 1.4 แสนล.เดือด! ‘บีทีเอส’ ร้องสอบวินัย 2 ตุลาการ-เพิกถอนกระบวนพิจารณา)

เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ศาลปกครอง ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนคดีพิพาทแก้ไขทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มูลค่า 1.42 แสนล้านบาท ระหว่าง 'บีทีเอส' และ 'รฟม.' ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 03/12/2020 10:18 am    Post subject: Reply with quote

ทูลเกล้าถวายฎีกา! ‘ประธานบีทีเอส’ กรณีรฟม.แก้กติกาประมูลสาย ‘สีส้ม’
เขียนโดย isranews
เขียน วันพุธ ที่ 02 ธันวาคม 2563 เวลา 18:35 น.

'ประธานบีทีเอส' ทูลเกล้าถวายฎีกาขอความเป็นธรรม กรณี รฟม. แก้กติกาประมูลรถไฟฟ้าสาย ‘สีส้ม’ ชี้ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม-เอื้อเอกชนบางราย ขณะที่ ศาลปกครองชั้นต้นขยายเวลา ‘รฟม.’ ส่งคำแย้งแก้ต่างคดีเป็น 15 ธ.ค.63

..................

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงความคืบหน้าคดีที่ BTSC ยื่นฟ้องศาลปกครองกรณีคณะกรรมการตาม ม.36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีแก้ไขทีโออาร์โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยมิชอบตามกฎหมาย ว่า การพิจารณาในส่วนของคดีหลัก ยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้ รฟม.ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการจัดทำคำแย้งเป็นครั้งที่ 2 และศาลฯอนุญาตให้ขยายเวลาไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.2563 จากเดิมที่ศาลฯได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาจัดทำคำแย้งในส่วนของ รฟม. ไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา

“รฟม.ได้ยื่นขอขยายเวลาในการทำคำแย้งในส่วนของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลฯอนุญาตให้ขยายเวลามารอบ 1 แล้ว แต่มาวันนี้ รฟม.ขยายเวลาอีก และศาลก็อนุญาตให้ขยายไปถึง 15 ธ.ค.นี้” นายสุรพงษ์กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในการพิจารณาคดีหลัก ซึ่งอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้นนั้น รฟม.ได้ยื่นคำร้องต่อประธานศาลปกครองสูงสุด ขอเปลี่ยนตัวตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะ ที่ทำหน้าที่พิจารณาคดีแก้ไขทีโออาร์โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เนื่องจากกล่าวอ้างว่าคำบรรยายคำร้องขอทุเลาฯของ BTSC ว่า BTSC ได้ไปคุยกับอธิบดีศาลปกครองกลาง และแม้ว่าการกระทำของ BTSC ดังกล่าวจะเป็นไปตามระเบียบ แต่ต่อมาศาลฯอนุญาตให้เปลี่ยนตัวตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะตามที่ รฟม.ร้องขอ

“เขาไปอ้างคำเขียนเรา ว่าเราไปคุยกับศาล ซึ่งตามระเบียบแล้วเราต้องเสนอให้อธิบดีศาล แต่เขาก็ไปอ้างคำนี้ ขอเปลี่ยน (ตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะพิจารณาคดีในศาลปกครองชั้นต้น) ศาลก็ให้เปลี่ยน” นายสุรพงษ์กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ BTSC ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เปลี่ยนตัวตุลาการเจ้าของสำนวนคดีและองค์คณะ ในคดีที่รฟม.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่มีคำสั่ง ‘ทุเลา’ การบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนของ รฟม. ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสาร RFP โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ไว้เป็นการชั่วคราว ต่อศาลปกครองสูงสุด ว่า BTSC อยู่ระหว่างรอว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นทูลเกล้าถวายฎีกาขอความเป็นธรรมกรณีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นายสุรพงษ์ ตอบว่า “เข้าใจว่ามีการยื่น แต่ไม่ทราบรายละเอียด”

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2563 นายคีรี กาญจนพาสน์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทูลเกล้าถวายฎีกาขอความเป็นธรรมกรณีประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่าโครงการประมาณ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือก ซึ่งก่อให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์แก่เอกชนรายใดรายหนึ่ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2020 10:54 am    Post subject: Reply with quote

ลับ ลวง พราง ประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม
รายงานพิเศษ
เขียน วันที่ 7 ธันวาคม 2563 เวลา 11:47 น.

การที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟม.) และ คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ขอเลื่อนยื่นคำชี้แจงต่อ ศาลปกครองกลาง ไปถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเลื่อนยื่นคำชี้แจงไปวันที่ 28 พฤศจิกายน และครั้งที่2 ขอเลื่อนไปเป็น วันที่15 ธันวาคม 2563 แต่กลับดอดไป ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองและทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์การคัดเลือก ใหม่ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยอ้างว่าเป็นโครงการเร่งด่วน ไม่อาจรอคำขี้ขาดของศาลปกครองกลางได้นั้น มันสะท้อนให้เห็นว่า รฟม.และคณะกก.คัดเลือกกำลังเล่นเอาเถิดกับศาลอย่างชัดเจน จากเดิม BTSC ยื่นร้องศาลปกครองกลาง จนมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์การคัดเลือกใหม่ ให้ใช้เกณฑ์การคัดเลือกเดิม และผู้เข้าประมูลยื่นซองประมูลตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน อีกด้านหนึ่ง รฟม. ก็ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองและทุเลาของศาลปกครองกลาง และอีกด้านกลับประวิงเวลายื่นคำชี้แจงต่อศาลปกครองกลางโดยขอเลื่อนยื่นคำชี้แจงไปแล้วถึง 2 ครั้ง 2 คราและยังตั้งแท่นจะขอเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เพราะก่อนหน้ารฟม.ก็สั่งเลื่อนการเปิดซองประมูลออกไปไม่มีกำหนดนำร่องไปแล้ว ก่อให้เกิดขัอกังขา เพราะหากเป็นโครงการเร่งด่วนทำไมไม่เร่งประกวดราคาไปตามเงื่อนไขเดิมตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่ออกคำสั่งตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม หรือเหตุใดไม่รีบยื่นคำชี้แจงศาลปกครองกลางเพื่อที่จะได้เร่งพิจารณาชี้ขาดลงมา

.......

หากกระทรวงคมนาคมมั่นใจว่าค่าโดยสารของ รฟม.และ BEM ที่ให้บริการอยู่ต่ำกว่าแน่ ก็แล้วทำไม รฟม.ถึงไม่เปิดกว้างปัญหาที่จะให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม จะไปปรับเปลี่ยนรื้อหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกให้ยุ่งขิงจนงานเข้าทำไมกัน เหตุใดไม่ประมูลไปตามหลักเกณฑ์เดิมซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ทุกโครงการของ รฟม. และของ รัฐใช้กันมาโดยตลอด ที่ผ่านจนไปขายซองประมูลแล้ว แม้แต่รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินเองเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้กระจ่างว่าราคาค่าโดยสารของ BEM ต่ำกว่า BTS จริงหรือไม่เมื่อต้องมายืนอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน จริงหรือไม่จริง ฯพณ ท่าน รมต.ศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายกฯ "ลุงตู่" ที่เคารพ!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2020 6:58 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.อัปเดตรถไฟฟ้าสีส้ม คืบหน้า 72.74% ส่วนชมพู-เหลืองคืบกว่า 68% ทยอยเปิดตั้งแต่ ต.ค. 64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 12:36 น.

อัปเดต! 3รถไฟฟ้าใหม่ สร้างถึงไหนแล้ว
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 11.29 น.

อัปเดต! 3รถไฟฟ้าใหม่ สร้างถึงไหนแล้ว สายสีส้ม-ชมพู-เหลือง ของรฟม.

รฟม.อัปเดตก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) งานโยธาคืบ 72.74% เร็วกว่าแผน 0.93% ส่วนสีชมพูคืบ 66.05% สีเหลือง ผลงาน 68% คาดทยอยเปิดเดินรถ ตั้งแต่ ต.ค. 64

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ถึงความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม.จำนวน 3 โครงการ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ได้แก่

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีระยะทางประมาณ 22.57 มีความก้าวหน้างานโยธา 72.74% เร็วกว่าแผน 0.93%

โดยสัญญา 1 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดินช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง 12 มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 82.52%

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 68.85%

สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดินช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า มี บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 71.91%

สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับช่วง คลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 61.83%

สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 76.05%

สัญญาที่ 6 งานก่อสร้างระบบราง มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 70.02%

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เป็นผู้รับสัญญาสัมปทาน มีความก้าวหน้างานโยธา 70.64% งานระบบรถไฟฟ้า 64.56% โดยคิดเป็นความก้าวหน้าโดยรวม 68.00%

3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทางทั้งสิ้น 34.5 กิโลเมตร บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เป็นผู้รับสัญญาสัมปทานร่วมลงทุน มีความก้าวหน้างานโยธา 68.49% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 62.76% โดยคิดเป็นความก้าวหน้าโดยรวม 66.05%

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู คาดว่าระบบจะมีความพร้อมในเดือน เม.ย. 2564 จากนั้นจะมีการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. 64 และจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ ต.ค. 64 และให้บริการตลอดสายภายในเดือน ต.ค. 65
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 14/12/2020 1:37 am    Post subject: Reply with quote

เปิด 8 ขุมทรัพย์ จุดตัด รถไฟฟ้า สายสีส้ม
ออนไลน์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 เวลา 08:45 น.
ตีพิมพ์ในหน้า 19-20
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,635
วันที่ 13 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เปิด 8 ขุมทรัพย์ใหญ่ จุดตัด รถไฟฟ้า สายสีส้ม เส้นทางฮอต เชื่อมการเดินทาง รถไฟฟ้าสายหลัก สายสีเขียว-สีน้ำเงิน สร้างชุมชนขยาย หลัง บิ๊กทุนชิงประมูลเดือด"

จากความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สร้างความมั่งคั่งให้กับทรัพย์บนดินได้อย่างมหาศาล สำหรับ รถไฟฟ้าฮอตแห่งปี สายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) จนกลายเป็นศึกประวัติศาสตร์ ชิงประมูล ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล  เพราะนอกจากมีศักยภาพรองจากสายสีเขียวและสายสีน้ำเงินแล้ว  ยังเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในตัวเองสูง มีจุดตัดเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากถึง 8 แห่ง ทำเลทองแห่งใหม่ ไม่แพ้สายสีเขียว เส้นทางผ่านใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจสำคัญ


ด้วยระยะทางยาว 35.9 กิโลเมตร จำนวน 29 สถานี รับส่งผู้โดยสารจากโซนตะวันออก บริเวณ (สุวิทวงศ์) มีนบุรี สถานีปลายทาง ซึ่งมีจุดตัดหรืออินเตอร์เชนจ์ใหญ่กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งรัศมีโดยรอบก่อตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ราคาที่ดินขยับสูง ไปยืนอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตารางวาได้อย่างเหลือเชื่อ นั่นเป็นเพราะรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทางก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่าง โดยเฉพาะสายสีส้มตะวันออก อีกทั้งรอยต่อเขตมีนบุรี-สุวิทวงศ์ยังเชื่อมโยงกับฉะเชิงเทรา จังหวัดหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ซึ่งรัฐบาลลงทุนระบบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินเมืองใหม่ทั้งที่อยู่อาศัย ดังนั้นมีนบุรีจึงถูกจัดเป็นเมืองขยายรองรับการเติบโตจากกรุงเทพชั้นกลาง-ชั้นใน และเมืองอีอีซีที่อาจทะลักเข้ามา

ที่สำคัญแนวเส้นทางจะตัดผ่านย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นแนวกากบาทกับสายสีเขียว ที่วิ่งในแนวเหนือ-ใต้ของกทม. แต่สำหรับสายสีส้ม วิ่งไปในแนวตะวันออก-ตะวันตก จึงกวาดผู้โดยสารได้ทุกสารทิศ และเกิดเมืองใหม่ตามแนวเส้นทางจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางสำคัญ อย่างลำสาลี ที่มีรถไฟฟ้าตัดกันถึง 3 สาย ปัจจุบันมีดีเวลอปเปอร์ปักหมุดสร้างอาณาจักรคอนโดมิเนียมกันมากแล้ว โดยเฉพาะเส้นทางผ่านบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชุมชนขนาดใหญ่และเมืองมหาวิทยาลัย ซึ่งล่าสุดยังมีการเจรจาซื้อขายที่ดินตึกแถวเก่า กันต่อเนื่อง ตลอดแนวสังเกตได้ว่าถูกพลิกโฉม กลายเป็นคอนโด มิเนียมสูง ทั้งนี้ ดีเวลอปเปอร์ย่านนี้มีความเจริญสูง เป็นเมืองที่รองรับการขยายตัวต่อมาจากกรุงเทพชั้นใน แม้แต่ที่ดินในซอยราคา ยังทะลุ ตารางวาละ 3-4 แสนบาท ถือว่า ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า

เมื่อเส้นทางเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางของถนนพระราม 9-รัชดาภิเษก ศูนย์วัฒนธรรม อินเตอร์เชนจ์ใหญ่ใต้ดิน แห่งแรกของประเทศไทย กับสายสีน้ำเงิน ซึ่งรัศมีโดยรอบเติบโตสูง กลายเป็นย่านธุรกิจแหล่งงาน เมืองอยู่อาศัย ศูนย์รวมแห่งการช็อปปิ้ง ชั้นนำ ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์กลุ่มเซ็นทรัล เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ดินผืนใหญ่ของตระกูลวิทยากร เป็นต้น บริเวณนี้ผังเมืองกรุงเทพมหานครใหม่กำหนดเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่

อย่างไรก็ตาม สายสีส้ม จะวิ่งต่อไปยังฝั่งตะวันตกของเมือง ลอดใต้ห้างเอสพานาด ห้างใหญ่กลางใจเมือง วิ่งเข้าสู่ชุมชนประชาสงเคราะห์ ผ่านประตูเมืองหลวง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เข้าย่านค้าปลีก-ค้าส่งระดับโลก ประตูน้ำ เชื่อมเมืองมักกะสันย่านนี้ ศูนย์การค้าจำนวนมากปรับโฉมรอการมาของรถไฟฟ้าเส้นใหม่ และตลอดแนวมุดใต้ดิน ไปยังย่านฝั่งธนบุรี ก่อนจะวิ่งไปบรรจบกับสายสีน้ำเงินที่บางขุนนนท์ บริเวณนี้ พลิกโฉมจนจำแทบไม่ได้จากชุมชนเก่ากลายเป็นคอนโดมิเนียม แบนด์ดัง

แหล่งข่าวจาก กรุงเทพ มหานคร เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า สายสีส้ม เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูงในบรรดารถไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการ
อันดับ 1. ต้องยกให้สายสีเขียวเพราะเป็นเส้นทางที่พาผู้คนเข้าสู่ใจกลางเมือง เปิดหน้าดิน กลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของประเทศและระดับโลก
อันดับ 2. สายสีน้ำเงิน เป็นเส้นทางเนรมิตย่านอยู่อาศัย และธุรกิจสำคัญ รับส่งผู้โดยสารได้ครบรอบวง ทั้งในเขตเมืองและย่านฝั่งธนบุรี และ
อันดับ 3 เป็นสายสีส้มที่สามารถป้อนผู้โดยสารให้สองเส้นทางหลักและเปิดพื้นที่พัฒนาเมืองรอบสถานีได้มากถึง 8 แห่ง บวก-ลบ

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ เจ้าระบบราง อย่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จะยอมพลีชีพชิงประมูลจนทะลุจุดเดือดในเวลานี้ !!!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/12/2020 2:56 pm    Post subject: Reply with quote

'บีทีเอส' มั่นใจปมตัดสินหลักเกณฑ์คัดเลือก ไม่ฉุดรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดล่าช้า

หน้าเศรษฐกิจ
ศุกร์ 18 ธันวาคม 2563

บีทีเอส ฉะ รฟม. หลังศาลฯนัดไต่สวนรื้อเกณฑ์ประมูล "สายสีส้ม"
ศุกร์ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 14:42:33 น.

ลุ้น 18 ธ.ค.นี้ ศาลปกครอง นัดไต่สวนปมรื้อทีโออาร์ “รถไฟฟ้าสายสีส้ม”
พฤหัสบดี 17 ธันวาคม 2563 เวลา 17:41:21 น.

18 ธ.ค.นี้ ศาลปกครองฯ นัดไต่สวน รฟม.-บีทีเอส เหตุปรับแก้ทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านผู้ถูกฟ้อง 2 คน ยื่นฟ้อง หวั่นกระทบประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้า ทำประชาชนเดือดร้อนหนัก


บีทีเอส. เผยศาลฯ นัดไต่สวน เหตุบอร์ดมาตรา 36 -รฟม.ปรับเกณฑ์ทีโออาร์ใหม่ มั่นใจเกณฑ์เดิมโปร่งใส. ด้านรฟม. ลั่นกระทบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่อล่าช้า

"บีทีเอส" มั่นใจรถไฟฟ้าสายสีส้มไม่กระทบแผนเปิดให้บริการ หลังรอคำตัดสินศาลเคาะหลักเกณฑ์คัดเลือก ชี้ยังมีเวลาช่วงรอส่งมอบพื้นที่ ขณะที่ รฟม.แย้งกระทบการประมูลล่าช้า
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC เปิดเผยภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้นัดไต่สวน ในคำร้องเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 โดยระบุว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) ศาลได้นัดไต่สวนข้อมูลในฝั่งของ BTSC ซึ่งเรายืนยันว่าการยื่นคำร้องเพราะต้องการให้กระบวนการประกวดราคามีความโปร่งใสและเป็นธรรม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ควรใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนตามที่กำหนดไว้เดิม คือ พิจารณาให้คะแนนซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน 100%

"ศาลได้นัดไต่สวนในฝั่งของเรา และให้เราฟังข้อมูลด้วย โดยยังไม่ได้มีการนัดหมายเพิ่มเติมหลังจากนี้ ซึ่งเราก็ยืนยันว่า ตามที่ได้ยื่นคำร้องไปเพราะเล็งเห็นว่าหลักเกณฑ์การพิจารณามาปรับ และอาจก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม"


ส่วนเรื่องการยื่นคำร้องของ BTSC และศางปกครองชั้นต้นได้รับคำร้องพร้อมมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินไปแล้วนั้น ส่งผลให้ รฟม.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุดว่าอาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ และการบริการสาธารณะ เพราะทำให้เกิดความล่าช้าในการคัดเลือกเอกชน ซึ่งส่งผลกระทบให้การเปิดบริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต้องล่าช้าออกไปกว่าแผนของรัฐบาลกำหนด อีกทั้งยังทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประเด็นนี้ BTSC ยืนยันว่าในคำร้องของ BTSC ได้ระบุไว้แล้วว่า การยื่นคำร้องนี้จะไม่กระทบต่อการเปิดให้บริการ หรือเกิดความเสียหายกระทบประชาชน เพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เมื่อเปิดประมูลได้ผู้ชนะแล้ว ยังต้องมีกระบวนการรอส่งมอบพื้นที่ ดังนั้นยืนยันว่ายังมีเวลาเพียงพอที่จะพิจารณาคำร้องนี้เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกให้ถูกต้อง เป็นธรรม


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.ยืนยันตามคำอุทธรณ์ว่าคำคำสั่งทุเลาของศาลปกครองชั้นต้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมโครงการ ทำให้เกิดความล่าช้า เนื่องจากขณะนี้ รฟม. เปิดรับซองข้อเสนอเอกชนมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการเปิดซองเพื่อพิจารณาข้อเสนอได้ ดังนั้นหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การเปิดพิจารณาข้อเสนอก็จะล่าช้าออกไปเรื่อยๆ และเป็นเหตุกระทบต่อโครงการ กระทบต่อการเปิดให้บริการประชาชน และสร้างความเสียหาย

ทั้งนี้ คดีคำร้องเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ฟ้องคดี ส่วนคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี โดยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อย่างไรก็ดี คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ให้ใช้การประเมินซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมกันแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอื่น

จากคำสั่งทุเลาดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดี จึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุดว่า คำสั่งดังกล่าวส่งผลกระทบและเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ และการบริการสาธารณะ เพราะทำให้เกิดความล่าช้าในการคัดเลือกเอกชน ซึ่งส่งผลกระทบให้การเปิดบริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต้องล่าช้าออกไปกว่าแผนของรัฐบาลกำหนด อีกทั้งยังทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่งผลให้รัฐเกิดภาระค่าใช้จ่ายและความเสียหายตามมาอย่างมากทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมและกระทบต่อความเชื่อมั่นของเอกชนในการลงทุนร่วมกับภาครัฐ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 22/12/2020 11:27 am    Post subject: Reply with quote

"ศรีสุวรรณ" ทวงถามผลสอบ รฟม. –คกก.คัดเลือกฯ ปมเปลี่ยนทีโออาร์สายสีส้ม
22 ธันวาคม 2563 เวลา 13:17:42 น.

“ศรีสุวรรณ” บุก ดีเอสไอ ทวงถามผลสอบเอาผิด รฟม.-คกก.คัดเลือกฯ ปมเปลี่ยน TOR สายสีส้ม จนศาลสั่งคุ้มครองฯ"
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/12/2020 3:35 pm    Post subject: Reply with quote

รายงาน: ส่อล้มประมูล "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563
อนัญญา จั่นมาลี

ที่ผ่านมาก่อนเปิดประมูลทุกโครงการ จะต้องชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบ ตามหลักเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) หลังมีการเปิดรับซองประมูล โดยเบื้องต้นจะเปิดซองประมูลทีละซองจนครบทั้ง 4 ซอง ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้แก่ คุณสมบัติ เทคนิค การลงทุน ผลตอบแทน และข้อเสนออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ แต่สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท กลับแตกต่างจากโครงการใหญ่ๆหลายโครงการ เนื่องจากภายหลังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปิดการซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุน โครงการฯภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) คัดเลือกมาตรา 36 มีมติขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของทีโออาร์ในการประมูลโครงการฯ โดยปรับเกณฑ์พิจารณาซองข้อเสนอซองที่ 2 ด้านเทคนิค 70% และซองข้อเสนอที่ 3 ด้านการเงิน30% ควบคู่กัน ขณะเดียวกันได้ยืนยันว่า ไม่ได้เอาใจเอกชนรายใดรายหนึ่ง

แต่มีกระแสวงในลือกันว่าที่ผ่านมาบริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน)หรือ ITD หนึ่งในเอกชนผู้ซื้อซองร่วมลงทุนฯ ทำหนังสือ ร้องถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอเปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ทั้งศักยภาพ วิธีการทำงานและความชำนาญการ มากกว่าการพิจารณาซองราคา โดยเสนอต่อ สคร. รฟม.และบอร์ดมาตรา 36 พิจารณา ซึ่งมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์ว่าสามารถดำเนินการได้ หากยังไม่ถึงกำหนด การยื่นซองประมูล ส่งผลให้ฟากเอกชนอีกรายมองว่าการปรับเกณฑ์ทีโออาร์ใหม่นั้นไม่โปร่งใสและเป็นการเอื้อเอกชนอีกรายมาก กว่า จนถึงขั้นฟ้องร้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมจากการรื้อทีโออาร์ใหม่ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์. เลาหะอัญญากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยภายหลังศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน ระหว่างบีทีเอสซี และคณะกรรมการมาตรา 36 กับพวกรวม 2 คน ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ว่า สำหรับการนัดไต่สวนของบีทีเอสซีในครั้งนี้ ทางบีทีเอสยืนยันว่ากรณีที่ยื่นคำร้องต่อศาลฯให้กลับไปใช้หลักเกณฑ์ทีโออาร์เดิมในการประมูลโครงการฯ โดยพิจารณาให้คะแนนซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน 100% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่โปร่งใส ทั้งนี้ยืนยันว่าศาลฯจะใช้เวลาพิจารณาหลักเกณฑ์ทีโออาร์ดังกล่าวให้ถูกต้อง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการเปิดให้บริการโครงการถไฟฟ้าสายสีส้มและไม่กระทบต่อประชาชน

"ศาลได้นัดไต่สวนในฝั่งของเรา และให้เราฟังข้อมูลด้วย โดยยังไม่ได้มีการนัดหมายเพิ่มเติม ซึ่งเรายืนยันว่า ตามที่ได้ยื่นคำร้องไป เพราะเล็งเห็นว่าการปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาในครั้งนี้ อาจก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม ส่วนกรณีที่รฟม.ชี้แจงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ ว่าบีทีเอสซี ยื่นคำร้องที่ผ่านมานั้น ทำให้กระทบต่อการบริหารงานของรัฐและเกิดความล่าช้าในการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มและทำให้ประชาชนเดือดร้อน เรามองว่ากระบวนการประมูลนั้นควรดำเนินการให้ถูกต้องและรอบคอบที่สุด ซึ่งเรายังมีเวลาดำเนินการ เพราะระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการใช้เวลาอีกหลายปี"

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.ยืนยันตามคำอุทธรณ์ว่าคำสั่งทุเลาของศาลปกครองชั้นต้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมโครงการ ทำให้เกิดความล่าช้า เนื่องจากขณะนี้ รฟม. เปิดรับซองข้อเสนอเอกชนมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการเปิดซองเพื่อพิจารณาข้อเสนอได้ ดังนั้นหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การเปิดพิจารณาข้อเสนอก็จะล่าช้าออกไปเรื่อยๆ และเป็นเหตุกระทบต่อโครงการ กระทบต่อการเปิดให้บริการประชาชน และสร้างความเสียหาย

สำหรับคดีคำร้องเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ฟ้องคดี ส่วนคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี โดยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ให้ใช้การประเมินซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมกันแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอื่น

ขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) จะสิ้นสุดเมื่อไร เพราะปัจจุบันฟากรฟม.ยังไม่ดำเนินการเปิดซองเพื่อพิจารณาข้อเสนอโครงการฯ ได้ เพราะศาลปกครองฯ สั่งชะลอโครงการดังกล่าวให้กลับไปใช้เกณฑ์เดิม ทำให้รฟม.ยื่นอุทธรณ์ ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้โครงการฯ ล่าช้า หากท้ายที่สุดแล้วยังเคลียร์ไม่จบอาจจะกระทบต่อประชาชนเดือดร้อน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การล้มประมูลโครงการฯ นี้ก็เป็นได้

หากท้ายที่สุดแล้วยังเคลียร์ไม่จบอาจจะนำไปสู่การล้มประมูลโครงการฯ นี้ก็เป็นได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/12/2020 11:36 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รายงาน: ส่อล้มประมูล "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563
อนัญญา จั่นมาลี

ลิงก์มาแล้วครับ
ส่อล้มประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม”
ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08:34:29 น.
ส่อล้มประมูล“รถไฟฟ้าสายสีส้ม” วงในคาดการณ์ ขณะศาลปกครองสูงสุดยังไม่ชี้ขาด
https://www.thansettakij.com/content/461727
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2020 8:58 am    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ รายงาน: ศึกขยายสัมปทานสายสีเขียว รื้อ TOR สีส้ม ปมร้อนปี 63
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

* อนัญญา จั่นมาลี

ปมร้อนปี 2563 นอกจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ที่จับตามองกันมากคงหนีไม่พ้น ศึกรถไฟฟา 2 สาย เรมจากการขยายสัมปทานรถไฟฟาสายสีเขียว ทั้งระบบ แลกภาระหนี้ 1.07 แสนล้านบาทของกระทรวงมหาดไทย

โดยกรุงเทพมหานคร ให้กับ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด(มหาชน) หรือบีทีเอสซี รวมถึง พิจารณาจัดเก็บอัตราค่าโดยสารตลอดสาย ไม่เกิน 65 บาทโดยไม่มีค่าแรกเข้า ท่ามกลางกระแสค้าน จนอาจลุกลามบานปลาย ว่าในที่สุดแล้วคณะรัฐมนตรี (ครม.)จะพิจารณาต่อสัมปทานหรือไม่

ย้อนผลการศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการวิสามัญพบว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากสัญญาสัมปทานยังเหลืออีกหลายปีสิ้นสุดในปี 2572 พร้อมแนะให้ดำเนินการทำสัญญาจ้างเดินรถส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ไปก่อน หากสิ้นสุดสัญญาภายในปี 2572 ค่อยดำเนินการจัดหาผู้เดินรถไฟฟ้ารายใหม่ โดยให้เอกชนทำพีพีพีแบบ Gross Cost เป็นทางทางออกเหมาะสมที่สุด

สวนทางกระทรวงการคลัง เสนอครม.อนุมัติ รายงานผลการเจรจาและขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนสายสีเขียว ตามข้อตกลงกระทรวงมหาดไทยจะขยายสัญญาสัมปทานให้กับบีทีเอสซี อีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดปี 2572 ไปเป็นปี 2602 เพื่อแลกกับเก็บค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย แต่กระทรวงคมนาคมเห็นแย้ง โดย นายศักดิ์สยามชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ความเห็นว่าค่าโดยสารควรนำสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงเป็นเกณฑ์ไม่เกิน 45 บาทตลอดสาย แต่ความต่างคือ สายสีน้ำเงินรัฐลงทุน ขณะสายสีเขียว เอกชนลงทุนงานโยธาและระบบเอง

ขณะการแบกรับหนี้และการเดินรถในส่วนต่อขยาย โดยไม่ได้รับค่าจ้างประกอบการขยายสัมปทานถูกยื้อออกไปส่งผลให้บีทีเอสซีและกทม.ถึงขั้นประกาศหยุดเดินรถ แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองฝ่ายยังมีความหวังลึกๆว่าในที่สุดแล้วครม.อาจมีมติเห็นชอบขยายสัมปทานหลังเปิดเดินรถครบทั้งระบบแล้วและแม้ว่ากทม.จะเริ่มเก็บค่าโดยสารนับตั้งแต่ในวันที่ 16 ม.ค. 2564 แต่เมื่อมาคำนวนรายได้เปรียบเทียบอัตราจัดเก็บพบว่าไม่ว่าจะจัดเก็บอัตราใด กทม.ก็ขาดทุน เนื่องจากราคาตามต้นทุนอยู่ที่ราว 158 บาท ในทางกลับกัน หากเก็บในอัตราดังกล่าว ผลกระทบที่ตามมาคือผู้โดยสาร

มาที่สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท เป็นโครงการที่ประชาชนต่างให้ความสนใจไม่แพ้กัน ว่าจะเดินหน้าเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เมื่อโครงการดังกล่าวกลับไม่ชอบมาพากล เนื่องจากภายหลังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปิดการซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนโครงการฯภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) คัดเลือกมาตรา 36 มีมติขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของทีโออาร์ในการประมูลโครงการฯ โดยปรับเกณฑ์พิจารณาซองข้อเสนอซองที่ 2 ด้านเทคนิค 70% และซองข้อเสนอที่ 3 ด้านการเงิน 30% ควบคู่กัน และยืนยันว่า ไม่ได้เอาใจเอกชนรายใดรายหนึ่ง

จุดเริ่มต้นมาจากบริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD หนึ่งในเอกชนผู้ซื้อซองร่วมลงทุนฯ ทำหนังสือ ร้องถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอเปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐโดยยึดผลประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ทั้งศักยภาพ วิธีการทำงานและความชำนาญการ มากกว่าการพิจารณาซองราคา จนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ฟาก บีทีเอสซี มองว่าการปรับเกณฑ์ทีโออาร์ใหม่นั้นไม่โปร่งใสและเป็นการเอื้อเอกชนอีกรายมากกว่า จนถึงขั้นฟ้องร้องศาลปกครอง เรียกว่า 2 รถไฟฟ้า ทั้งต่อสัมปทานสายสีเขียวและปมรื้อเกณฑ์ทีโออาร์ยังจะร้อนแรงทะลุจุดเดือดถึงปี 2564 !!

2รถไฟฟ้าทั้งต่อสัมปทานสายสีเขียวและปมรื้อเกณฑ์ทีโออาร์ยังจะร้อนแรงทะลุจุดเดือดถึงปี 2564
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 42, 43, 44 ... 89, 90, 91  Next
Page 43 of 91

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©