View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 4:45 pm Post subject: |
|
|
มาอีกไม่ไกล ก็ผ่านจุดตัดทางรถไฟอีกครั้ง ที่รถไฟจะข้ามฝั่ง จากด้านซ้ายไปด้านขวา เพื่อมุ่งไปตัวเมืองกาญจนบุรีเช่นเดิียวกับเรา บางทีก็ชวนให้คิดว่า ทำไมต้องข้ามถนนไปๆ มาๆ แบบนี้ แต่ต้นเหตุกลับเป็นตัวถนนเอง ที่ตัดฝั่งซ้ายทางรถไฟในบางช่วง และอีกบางช่วงก็ไปตัดฝั่งขวา พอจะเชื่อมต่อให้วิ่งยาวไปถึง จ.กาญจนบุรีก็เลยต้องข้ามทางรถไฟกลับไปกลับมาอย่างที่เป็นอยู่นะครับ
ผ่านจุดข้ามทางรถไฟมาประมาณ 15 กิโลเมตรก็ถึงทางแยกเข้า อ.ท่าม่วง ซึ่งก็คือปลายสุดของ ถ.แสงชูโตสายเก่า ที่่เข้ามาก่อนถึง เทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่นนั่นเองครับ
จากแยกเข้า อ.ท่าม่วงมาประมาณ 7 กิโลเมตรก็ถึงถนนเลี่ยงเมืองกาญจน์แล้ว ซึ่งเลี่ยงไปทางขวามือ ขยายภาพแผ่นป้ายบอกทางข้างหน้า เป้าหมายที่เราจะไปนั้นเลย น้ำตกไทรโยคน้อยไปเล็กน้อย ก็ถึงครับ
ตอนนี้เลี้ยวขวา มายังถนนเลี่ยงเมืองกาญจน์ แล้ว เป็นถนน 2 เลนวิ่งสวนกันนะครับ
Last edited by mirage_II on 22/09/2017 1:16 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 4:49 pm Post subject: |
|
|
วิ่งมาไม่ไกล (ประมาณ 300 เมตรเอง) ก็เจอจุดตัดทางรถไฟสายเดิม ที่เข้าสู่ เมืองกาญจนบุรี และเราจะไปเจอกันอีก ก็ก่อนถึงน้ำตกไทรโยคน้อยนะครับ ก็อย่างที่ผมเคยบอกว่า ถนนเส้นสายนี้(ที่ไป อ.ไทรโยค) คลอเคลียกับทางรถไฟชนิดตัดกันไม่ขาดจริงๆ
วิ่งมาพักนึง ก็ถึงสี่แยกสำคัญ ที่มีถนนสาย 324 ที่ตัดจากเมืองกาญจน์ ออกมาตรงๆ แล้วตรงไป จ.สุพรรรบุรี ส่วนเราก็ตรงไป ครับ
ระหว่างติดไฟแดงนั้น เหลือบไปเห็นหุ่นยนต์ ในภาพยนต์เรื่อง ทรานฟอร์มเมอร์ ยืนอยู่ 2 ตัวที่ลานจอดรถ เพื่อโปรโมทบ้านจัดสรรเชิงศูนย์การค้า วังสารภีเพลส ติดสี่แยกวังสารภี นี้เองนะครับ
ถัดมาอีกนิด เจอหุ่นยนต์ที่ประกอบจากซากอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ 2 ตัว ดูเหมือนกำลังทำหน้าที่ยืน รักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้า ที่มาจอดรถนะครับ อิอิ
Last edited by mirage_II on 22/09/2017 1:28 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 4:55 pm Post subject: |
|
|
ผ่านสี่แยกไฟแดงวังสารภี มาแล้ว ถนนก็ค่อยโค้งซ้าย เพื่อกลับไปบรรจบถนนที่วิ่งผ่ากลางเมืองกาญจน์ นั่นเอง ถนนช่วงนี้มีวิวเนินเขาทางขวาให้ดูด้วย เขาเข้าใจเอาตัวอักษร "เทศบาลตำบลปากแพรก" ไปติดไว้บนนั้น ทำให้ดูคล้ายสถานที่ท่องเที่ยวเลยนะครับ
นอกจากนี้ สังเกตุ ถนนทางซ้าย กำลังเริ่มสร้าง เพื่อให้เป็นถนน 4 เลนในอนาคตครับ
เห็นกลุ่มป้ายบอกสถานที่ข้างหน้า ก็ทราบว่าอีกไม่ไกลก็จะถึงสี่แยก ตัดกับถนนที่ออกมาจากตัวเมืองกาญจน์ แล้วครับ ถ้าหากเลี้ยวขวา ก็ไป อ.ศรีสวัสดิ์ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกเอราวัณ และแน่นอน ว่าไกลออกไป ก็คือ น้ำตกถ้ำธารลอด ที่เราจะไปกันพรุ่งนี้ครับ แต่วันนี้ เราจะมุ่งหน้าไปทาง อ.ไทรโยคอีก 44 กิโลเมตรก็จะถึง แต่เป้าหมายเราจะไปไกลกว่านั้นประมาณ 35 กิโลเมตร ส่วนในตัวอำเภอไทรโยคนั้น มีสถานที่เที่ยวที่ฮ๊อต ชนิดที่เรียกว่าใครๆ ก็รู้จัก คือ สะพานรถไฟมรณะ ติดถ้ำกระแซ ที่ลัดเลาะหน้าผาเป็นระยะทางค่อนข้างยาว ซึ่งผมเคยไปมาแล้ว 2 ปีครับ
เราใกล้จะถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนที่ออกจากเมืองกาญจน์แล้ว นับเป็นสี่แยกสำคัญที่แบ่งกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวไป 2 แนวทางเลยนะครับ อ้อ..ชื่อสี่แยกนี้ ก็คือ "สี่แยกแก่งเสี้ยน" ชื่อดูสะใจ อย่างไรชอบกล
เราผ่านสี่แยกแก่งเสี้ยนมาแล้ว เจอป้ายบอกระยะทาง ก็ถ่ายไว้สักหน่อย คราวนี้มีป้ายบอกยาวไปถึง อ.สังขละบุรีเลย ซึ่งนับว่าอีกไกลมากๆ แถมเป็นเส้นทางขึ้นลงเขาด้วย แต่แปลกที่สมัยก่อนผมเคยขับรถจากกรุงเทพฯ มาคนเดียวด้วยเจ้ามิตซู มิราช คันเก่า ตอน 8 โมงเช้าครึ่ง ก็สามารถมาถึง ตัวอำเภอสังขละได้ตอนเที่ยงครึ่ง แต่เดี่ยวนี้ คงบ่ายแก่ๆ แน่นอน คงเป็นเพราะว่า ครั้งนั้นผมเดินทางในวันทำงาน และมาตามลำพัง เลยไวนะครับ
Last edited by mirage_II on 22/09/2017 1:31 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 4:59 pm Post subject: |
|
|
จากสี่แยกแก่งเสี้ยน มาอีกเกือบ 1 กิโลเมตรก็จะข้ามแม่น้ำแควใหญ่ แต่เหลือบเห็นรถปิ๊คอัพคันนึง บรรทุกถุงอะไรซะกองสูงอย่างนั้น คงเป็นของเบาๆ นะครับ แต่ก็คงโคลงเคลงเหมือนกันเวลาเลี้ยว น่ากลัวนะครับถ้าหล่นลงไปด้านข้าง ที่พอดีมีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งอยู่
วิ่งๆ มาอีกนิดนึง เหลือบเห็นวิวภูเขาข้างหน้า ดูสวยอลังการดี เลยถ่ายไว้อีกภาพครับ
มาถึงแยกสำคัญอีกแห่ง ที่ไม่เป็นสี่แยก เพราะเป็นทางโค้ง เขาเลยทำให้เป็นสามแยก 2 แห่งที่เยื้องๆ กัน แล้วให้ไปกลับรถเพื่อไป อ.บ่อพลอย หรือ น้ำตกเอราวัณ แทนการเลี้ยวขวาครับ
นอกจากนี้ ยังสังเกตุเห็นป้ายบอกระยะทาง อีก 32 กิโลเมตรถึง อ.ไทรโยคแล้ว แต่เฮไม่ลง เพราะเวลาเริ่มเข้าใกล้บ่าย 2 โมงแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์เขาเปิดให้เข้าได้แค่ บ่าย 4 โมงเอง ผมจะพลาดเป็นครั้งที่สามหรือไม่นะครับ
นั่งชมวิวไปพลางๆ เหลือบเห็นภูเขาทรงแปลกทาง ด้านซ้าย ที่ผสมผสานระหว่างเชิงลาดกับหน้าผาชัน ทำให้นึกถึง เขาล้อมหมวก จ.ประจวบฯ ที่เพิ่งไปปีนมานะครับ
Last edited by mirage_II on 22/09/2017 1:39 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:03 pm Post subject: |
|
|
วิวข้างหน้า ดูโล่งไกล คล้ายกับที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (ผมพูดราวกับว่าเคยไป แต่อันที่จริงเคยเห็นแต่ในภาพยนต์นะครับ)
มาอีกแว๊บเดียว ก็กลับเป็น ถนน 2 ช่องทางแบบเก่า ที่ีเต็มไปด้วยต้นไม้สูง สองข้างทางครับ แถมยังมีร้านค้าชาวบ้านริมทาง กางร่มแดงๆ ให้รถที่ผ่านไปมาได้แวะซื้อ ในแต่ก่อน ร้านเหล่านี้จะเป็นของเกษตรกรจริงๆ ที่ปลูกพืชแล้วอาจเหลือจากส่งพ่อค้าคนกลาง เลยเอามาวางขาย ต่อมามีคนสนใจซื้อ แถมได้ราคาดี เพราะเป็นราคาปลีก ไม่ใช่ราคาส่ง จึงเริ่มมีการทำเลียนแบบ และภายหลังก็กลายเป็น พ่อค้าคนกลางมาเปิดร้านขายเอง เพราะต้องนั่งขายกันทั้งวัน ลำพังเกษตรกรคงไม่มีเวลารอ
โอ้วว.. ตกใจ หันไปทางขวา เห็นเสืออ้าปากตัวเบ้อเริ่ม ที่สามารถเขมือบรถเข้าไปได้ทั้งคันนะครับ อันที่จริงคงกะจะให้เป็นซุ้มประตูเข้าออก แต่ถนนทางเข้าดูจะใหญ่กว่า รูปปั้นนี้เลยเบื่องไปทางขวาแทน ผมเองก็ยังไม่เคยเข้าไปนะครับ เห็นว่าเคยมีการแสดงเสือ แต่ปัจจุบันได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว น่าเสียดายที่อดดูอยู่เหมือนกันนะครับ
วิ่งต่อมา วิวต้นไม้ข้างทางช่วงนี้ดูสวยแปลกตาดี คือ มีทั้งสีเขียวของต้นหญ้าข้างล่าง สลับกับ กิ่งไม้แห้งสีออกโทนแดง ก็คงเป็นเพราะต้นฤดูฝนนั้นเอง จะหลอกว่าเป็นสถานที่ต่างประเทศก็พอจะได้เหมือนกันนะครับ (แต่แผ่นป้ายทะเบียนรถข้างหน้า มันฟ้องชัดๆ ว่าอยู่ในประเทศไทย)
Last edited by mirage_II on 23/09/2017 1:52 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:05 pm Post subject: |
|
|
เหลือบไปเห็นรถจักรยานขี่สวนมา ดูเผินก็คงคิดว่าเป็นรถของชาวบ้าน แต่ที่แปลกและแตกต่างคือ ธงสีเหลืองธรรมจักรด้านหลังที่ปักอยู่ครับ เขาคงปั่นเพื่อการกุศลอะไรสักอย่างนะครับ
ข้างหน้าตอนนี้ มีขบวนแห่นาคไปอุปสมบทอยู่ งานบวชในต่างจังหวัดก็สนุกตรงนี้แหละครับ แต่จะว่าไป ตัวผมเองตอนบวชก็มีขบวนแห่แบบนี้กับเขาเหมือนกัน ทั้งๆ ที่บวชในกรุงเทพฯ คือวัดสุ่น ติด รร.สตรีวิทย์ 2 แม้เป็นระยะทางสั้นๆ ก็รู้สึกเกรงใจรถทั่วไปอยู่เหมือนกัน แต่ก็เพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิมนะครับ
มาอีกไม่ไกลจากทางเข้าวัดหลวงตามหาบัวฯ (ประมาณ 9 กิโลเมตร) ก็ถึงทางแยกซ้ายเข้าตัวอำเภอไทรโยคครับ หลายคนที่่มาครั้งแรกๆ อาจนึกว่า ใกล้จะถึง อุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค หรือ แม้แต่น้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว แต่ความจริงยังอีกไกลนะครับ แต่สถานที่เที่ยวใกล้ตัวอำเภอไทรโยค ดันกลายเป็นถ้ำกระแซ และเส้นทางรถไฟสายมรณะที่ลัดเลาะหน้าผา นะครับ เส้นทางเข้าไปข้างในแม้จะใกล้แต่ก็ต้องสูงชันคดเคี้ยวพอสมควรเลยครับ เพราะมีเทือกเขาเตี้ยๆ กั้นอยู่ตลอดแนวขนานถนนในช่วงนี้ ถ้าหากอยากจะเลี่ยงเส้นทางลาดชัน ก็ต้องไปเลี้ยวเข้าตั้งแต่ แยกไป ต.บ้านเก่า โน้นนะครับ หรือไม่ก็ลัดเข้ามาตามถนนสาย 3455 ที่ตรงเข้ามา อุทยานฯเมืองสิงห์ก็ได้ (ผมผ่านปากทางเข้าถนนเส้นนี้มาโดยไม่ได้ทันถ่ายภาพนะครับ)
ตอนนี้ใกล้จะถึงแยกซ้ายมือเข้า ตัวอำเภอไทรโยคแล้ว ตรงนี้มีป้ายแนะนำสถานที่เที่ยวหลายแห่งด้วย แถมมีสถานที่ ที่เราจะไปด้วย คือพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดครับ ก็อีกประมาณ 36 กิโลเมตร นะครับ
Last edited by mirage_II on 23/09/2017 1:55 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:10 pm Post subject: |
|
|
เลยแยกเข้า อ.ไทรโยคมานิดนึง เจอโค้งแรกที่สวยไม่เบา เพราะต้นหางนกยูง ที่ออกดอกสีแดงสด ท่ามกลางสีเขียวสด เที่ยวหน้าฝนก็มีข้อดีไปอย่างที่ได้เห็นความสดชื่นของธรรมชาติ แต่อาจมีสายฝนลงมาบดบังวิวเป็นบางครั้งด้วยเหมือนกันนะครับ
ได้ยินเสียงบรึ้มมม..สวนทางมา ใช่ครับกลุ่มรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ นั่นเอง พวกเขานิยมนัดมากันเป็นกลุ่ม ดูครึกครื้นไปอีกแบบนะครับ
อุ้วว.. มีบิ๊กไบค์วิ่งไปในทางเดียวกับเราด้วย ภาพนี้ดูมีชีวิตชีวา เหมือนคำขวัญว่า "มุ่งสู่ป่าไปหาธรรมชาติกัน"
มาถึงทางแยกขวา ไป อ.ศรีสวัสดิ์ หรือ น้ำตกเอราวัณ หรือ เขื่อนศรีนครินทร์ อีกแห่ง ซึ่งเป็นแยกสุดท้ายแล้ว ถ้าเลยไปกว่านี้ก็จะต้องไปลุยป่าเขา กันที่ อ.ทองผาภูมิโน่น โดยไปทาง น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งเส้นทางนี้ผมก็เคยไปลุยมาตอนมืดๆ แล้วด้วย ระทึกกันสุดๆ เพราะเป็นถนนลูกรัง หญ้าสูงสองข้างทางด้วยครับ
Last edited by mirage_II on 23/09/2017 1:57 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:13 pm Post subject: |
|
|
อ้าวว.. ต้นไม้ด้านซ้าย ไหงโกร๋นเหลือแค่นี้ล่ะครับ... คงตัดเพื่อป้องกันขึ้นไปละสายไฟฟ้าข้างบนนะครับ ต้นไม้ริมทางกับสายไฟฟ้าริมทางนี้ นับเป็นของไม่ถูกกันเลย ถ้าเป็นในเมืองก็คงวางท่อใต้ดินแล้วร้อยสายไฟ ไปแล้วนะครับ
มาเจอจุดตัดทางรถไฟอีกแล้ว นับเป็นจุดสุดท้าย และอีกไม่ไกลก็จะถึงสถานีน้ำตก หรือน้ำตกไทรโยคน้อย ที่เส้นทางรถไฟในปัจจุบันสิ้นสุดไว้แค่นี้ (ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เส้นทางรถไฟได้มียาวต่อไปอีกไกล ถึงประเทศพม่าเลย โดยมีจุดตัดถนนกลับไปทางซ้าย อีกแห่ง ตรงบริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย)
เลยจุดตัดทางรถไฟมานิดนึง สังเกตุรั้วทางซ้าย ที่มีรูปปั้นเทพแบบเขมรตั้งอยู่หลายองค์ เห็นป้ายชื่อข้างหน้าระบุว่าเป็น "พุทธสถานติรูมาลาบาราจี" เป็นพุทธแบบแขก นับถือ พระนารายณ์ปางบาราจี พื้่นที่ตรงนี้ ถ้าเข้าไปดูภาพถ่ายกูเกิ้ลจะไม่พบ เพราะเขาถ่ายไว้ตอนปี พ.ศ.2556 ตอนนั้นยังเป็น "ทักษิณสมุนไพร 3"(เจ้าของคงไม่ใช่คุณทักษิณ ชินวัตรนะครับ) ร่วมกับ สนามยิงปืนอยู่เลยนะครับ
เลยพุทธสถานติรูมาลาบาราจีมาเล็กน้อย ก็หันกลับไปดู สดุตตาเจดีย์ทรงอินเดียสีทอง ของพุทธสถานฯ เอง ตั้งตะหง่านอยู่ด้วยครับ
Last edited by mirage_II on 23/09/2017 2:00 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:18 pm Post subject: |
|
|
ใกล้จะถึง น้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว ตรงนี้มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวถึง 4 แห่ง ไม่เกี่ยวกับน้ำตกโทรโยคน้อยด้วย มีน่าสนใจก็ "ถ้ำละว้า" ที่อยู่ลึกเข้าไปแค่ 19 กิโลเมตร เห็นภาพจากในเน็ต พบว่าผนังถ้ำดูสวยแปลกมากๆ ครับ ส่วนเราก็ตรงไป อุทยานฯไทรโยค อีกตั้ง 40 กิโลเมตรเลยหรือนี่ โชคดีที่ พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดนั้นจะถึงก่อน คืออีกประมาร 20 กิโลเมตรเอง แหม.พอๆ กับระยะทางเข้าไปยังถ้ำละว้าเลยนะครับ แต่เส้นทางคนละเรื่อง
ใกล้ถึงทางแยกซ้ายไปถ้ำละว้าแล้วครับ ชื่อถ้ำดูน่าล้อเลี้ยน ทำนองว่า "ถึงถ้ำละ" "ว้า...." ดูเหมือนจะผิดหวัง แต่ความจริงสวยมากนะครับ ยังมีสถานที่เที่ยวใน จ.กาญจนบุรีอีกมากที่ผมยังไม่เคยไป นับว่าเยอะจริงๆ นะครับ
อ้อ..นอกจากนี้ในภาพ จะเห็นป้ายชื่อวัดทำด้วยหินแกะสลักชื่อ "วัดน้ำตก" อยู่ข้างหน้าครับ
เลยแยกซ้ายมือไปถ้ำละว้ามาเล็กน้อย ก็เจอป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกชุด ระบุว่าไปน้ำตกไทรโยคน้อยกับเขื่อนวิชิราลงกรณ์ กับถ้ำวังบาดาล ที่น่าแปลกนิดนึงคือ ระยะทางแตกต่างกันมากระหว่าง น้ำตกไทรโยคน้อยที่เราใกล้จะถึงแล้ว กับ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ที่อีกประมาณ 85 กิโลเมตรจึงจะถึง ส่วนถ้ำวังบาดาลนั้นอยู่ด้านหลังน้ำตกไทรโยคน้อย โดยต้องเดินเท้าเข้าไปอีกไกลพอดูนะครับ
มาถึงลานจอดรถ ทางเข้าน้ำตกไทรโยคน้อย ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนแล้วครับ และจุดนี้คณะผมก็ได้แวะมารับประทานมื้อเย็น หลังจากไปเที่่ยวชมพิพิธภัณฑ์ด้วย
และเมื่อเลยจุดนี้ไป ถนนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง คล้ายแถวลำตะคอง จ.นครราชสีมา แล้วค่อยกลับมารวมกันเช่นเดิมครับ
Last edited by mirage_II on 25/09/2017 12:03 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 15/08/2016 5:28 pm Post subject: |
|
|
TONE8717 wrote: | เดินเล่นในถ้ำมายี่สิบปีผมยังไม่เคยเดินถึงเลยครับ แรงหมด |
ต้องเตรียมเสบียงไปด้วยนะครับ รับรองถึงแน่นอน เพียงแต่ต้องเผื่อเวลาไว้ให้มากหน่อย จะได้ไม่เร่งจนเกินไปครับ |
|
Back to top |
|
|
|