View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2017 1:45 am Post subject: |
|
|
เย้!. .. ตอนนี้ผมลงมาถึงระดับพื้นราบแล้ว มีแผ่นป้ายบอกระยะทางไปถึงถ้ำธารลอดน้อยอีก 1,500 เมตร! โอ้วว.. แบบนี้จะไปทัน 4 โมงเย็นครึ่งหรือนี่ เพราะตอนนั้น ก็ 4 โมง 18 นาทีแล้ว แง.... ยิ่งมีคำเตือนข้างล่างกำชับไว้อีกว่า ต้องกลับถึงถ้ำก่อนเวลา 4 โมงเย็นอีก.เฮ้อ..
ถ้าคนกลัวป่าคงร้องไห้ไปแล้ว เพราะในป่านี้ อีกระยะทางกิโลเมตรครึ่ง มีผมอยู่คนเดียว จริงๆ ครับ
โชคดีที่ ผมมีระบบนำทาง GPS เป็นเพื่อนคู่ทางตลอด ทำให้ไม่กลัวจะหลง และทราบตำแหน่งตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทุกนาทีก็เดินไปใกล้ถ้ำธารลอดน้อย เรื่อยๆ ฟ้าก็ยังไม่มืด มีกังวลคือ ฝนที่ทำท่าจะตกนี่แหละ แต่ผมก็เตรียมร่มมาแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไร ไปเรื่อยๆครับ
ไม่ไกลก็ถึงสะพานข้ามลำธารอีกแห่ง ที่จัดว่ายาวที่สุด(ในแนวตรงนะครับ) คนรักป่าต้องไม่กลัวป่า เทียบเมื่อวาน (21 พค.59) ที่ผมไปเดินช่องเขาขาดคนเดียว ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน แม้ว่าจะเป็นหน้าผาโล่งไม่มีป่ารก แต่สถานที่นั่นเคยมีคนเสียชีวิต และถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมในอดีตมากมาย เลยทำให้ผมรู้สึกอดทนได้ครับ
มาข้ามสะพานไม้ยาวกันครับ สุดสะพานฝั่งโน้นก็เลี้ยวซ้ายไปถ้ำธารลอดเล็ก |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2017 1:51 am Post subject: |
|
|
เดินเลยสะพานไม้ยาวข้ามห้วย มาพักนึงก็เจอ ต้นไม้ล้ม ที่ต้องลอดไปแล้วเลี้ยวขวาครับ (ถ้าตรงไปก็จะเป็นน้ำตกไตรตรึงษ์ชั้นที่ 1)
ลอดใต้ไม้ที่ล้มแล้ว หันไปทางซ้าย จะเห็นน้ำตกชั้นที่ 1 ที่ผมพบผู้หญิงที่คาดว่าเป็นแม่พาลูกๆ มาเล่นน้ำตอนขามาครับ ตอนนี้พวกเขาคงขึ้นรถกลับบ้านไปแล้วนะครับ เพราะนั่นมันเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง ในขณะที่ตอนนี้ 4 โมงเกือบจะครึ่งแล้ว
มาถึง ต้นพระเจ้าห้าพระองค์ แล้ว ต้องเดินอ้อมหลังต้นไม้ใหญ่นี้ไปทางขวาครับ แหม..จุดนี้ดูวังเวงน่ากลัวพอดูเลยนะครับ
มาถึงต้นไม้ใหญ่ที่ล้มขวางทางแล้ว มีบันไดให้ปีนข้ามทางซ้ายครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2017 1:56 am Post subject: |
|
|
ช่วงนี้ดูรกชื้นน่าดูเลยนะครับ นึกกลัวสัตว์ร้ายอะไรจะโผล่ออกมาจากข้างทางจัง ว่าแต่ที่น่ากลัวอีกอย่าง ยามต้องลอดกิ่งไม้หนาทึบ ที่อาจมีงูเหลือมขึ้นไปขดตัว แล้วทิ้งลงมารัดเหยื่อข้างล่าง ต้องระวังรอบทิศเลยนะครับ
ผมมาถึง สะพานไม้ไผ่ ที่ทอดข้ามลำธารอย่างติดผิวน้ำแล้ว
ก่อนจะเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ยาวๆ ขอถ่ายอีกสักภาพครับ เวลาตอนนั้น 4 โมงครึ่งพอดีเป๊ะเลย
เจอกอไม้ไผ่ที่ยื่นเข้ามา แล้วเขาตัดกิ่งส่วนล่างออก จนดูเหมือนช่องประตูอีกแห่งครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 12:52 am Post subject: |
|
|
เถาวัลย์ข้างหน้า ดูเหมือนงูยักษ์เลยนะครับ
ระหว่างเดิน เหลือบเห็นตอไม้เล็กๆ ที่เขียนตัวเลขไว้ 300 m อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ
ข้างหน้าเป็นเหมือนช่องหินตัดเฉียง ที่เดินเลียบได้ อีกนิดเดียวก็ถึงถ้ำธารลอดน้อยแล้วครับ
โอว.. และแล้วก็มาถึงปากถ้ำธารลอดน้อยด้านใน เห็น จนท.อุทยานฯ มายืนรออยู่พอดี อีก 10 นาที 5 โมงเย็นครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 12:57 am Post subject: |
|
|
หลังจากได้พบ น้อง จนท. อุทยานฯ ที่ได้เดินมาตาม ก่อนจะปิดไฟในถ้ำ ผมก็ขอให้เขาช่วยถ่ายภาพ หน้าถ้ำ ก่อนจะเดินลอดกลับมายังทางเข้า ทำนองกลบเกลื่อนความผิดที่กลับออกมาช้ากว่ากำหนดเกือบ ชั่วโมง อิอิ
แต่จะว่าไปแล้ว ปิดไฟในถ้ำ 4 โมงเย็นนี้ผมเองก็คิดว่าเร็วไปนะครับ เพราะบรรยากาศข้างนอกยังไม่มืดเลย หรือเขาอาจจะเผื่อกรณี เกิดปัญหานักท่องเที่ยวสูญหาย ประสบเหตุร้าย จะได้ค้นหา และช่วยเหลือได้ทันก่อนฟ้ามืดนะครับ ผมคิดเช่นนี้เพราะปกติผมจะเที่ยวจนฟ้ามืด มัวตา เกือบทุกแห่งเลยครับ
เอาละ มัวแต่ถ่ายภาพอยู่ได้ น้อง จนท.เขาจะได้กลับไปพักผ่อนสักที ก่อนเข้าไปในถ้ำก็ขอถ่ายภาพอีกภาพ เจ้าแบตกล้องนี่ก็เหลือเกินจริงๆ คอยจะเตือนหมดๆ และดับอยู่บ่อยๆ จนต้องขยับสายที่ต่อเข้ากับ Power Bank บ่อยๆ แท้จริงปัญหาคือ หัวต่อไฟเข้ากับกล้องสายมันขาดใน ผมเองก็เพิ่งทราบจากทริปนี้เอง เฮ้อ.. กลับมาเลยสั่งซื้อสายชาร์จใหม่ กับ แบต กล้องอีกลูกพร้อม แท่นชาร์จอีกตัว ครับ
ก้าวเข้าไปในถ้ำแล้ว นึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นป่าในช่องเขา ที่เหมือนสถานที่ปิด ซึ่งถ้ามีสัตว์โลกดึกดำบรรพ์ด้วย ก็คงน่ากลัวสุดๆ เลยหันหลังมาถ่ายภาพอีกภาพครับ
ระหว่างเดินเข้าไปในถ้ำด้วยความเร่งรีบ และแบตเตอรี่ก็เตือนพร้อมจะปิดกล้องเองอีกเมื่อใดก็ได้ เลยเลือกถ่ายเฉพาะจุดสำคัญเพื่อบันทึกเวลา ซึ่งตรงนี้ก็เกือบถึงทางออกปากถ้ำแล้ว ที่มีหินประกายก้อนกลมข้างทาง อันเป็นจุดที่ชาวคณะ หันหลังกลับออกไปเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้วเป๊ะ (นาทีตรงกันโดยบังเอิญด้วยนะครับ) |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 1:02 am Post subject: |
|
|
ปากทางเข้าออกถ้ำธารลอดน้อยนี้ มีเอกลักษณ์คือ ต้องลอด คือ เดินก้มๆ แต่ไม่ถึงกับคลาน โดยทางเดินจะเลี้ยวไปทางซ้ายในภาพ ซึ่งถ้าไม่มีไฟส่อง ศรีษะเราก็อาจโดนเพดานถ้ำได้ง่ายๆ ครับ
เลี้ยวซ้ายในระหว่างเพดานถ้ำต่ำๆ มานิดนึงก็เลี้ยวขวาคืน ระหว่างนั้นสังเกตุว่า มีร่องเพดานที่พอจะเดินโดยไม่ต้องก้มได้ อยู่ด้วย เลยหันหลังไปถ่ายอีกภาพ เป็นมุมมองขณะเข้านะครับ ต้องคนที่คุ้นเคยจะทราบดี แต่คนไม่เคยมา ขอให้ก้มต้ำที่สุดไว้ก่อน ไม่งั้นอาจหัวโน หรือได้แผลต้องคลานกลับออกมาเลย ฮา
ผมออกมาหน้าถ้ำ ด้านที่เข้าไปตอนแรกแล้วครับ ตรงป้อม จนท. ไม่มีหนังสือที่ให้เซนต์ชื่อขาออก คงเป็นเพราะเลยเวลามานาน และ จนท.อาจติ๊กให้เอง เพราะเดินกลับออกมาพร้อมกับผมนั่นเอง
น่าเสียดายที่แบตกล้องก็มีอันต้องหมดอีกครั้ง ทำให้กล้องปิดตัวเอง เลยไม่ได้ภาพน้องจนท.อุทยานฯ ที่พาซ้อนมอเตอร์ไซด์ออกมาเลย
ในภาพ ชาวคณะได้มานั่งรอในรถอยู่นานเป็นชั่วโมงแล้ว จนเหลือรถผมอยู่คันเดียว อาหารของกินก็ไม่มีขาย เฮ้อ..ตกเย็นร้านรวงก็พากันปิดหมด อ้อ..ห้องน้ำตรงนี้ก็ปิดอีก ผมเลยต้องกลั้นไปหาปั๊มเอาข้างหน้าด้วยครับ
Last edited by mirage_II on 12/11/2017 1:09 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 1:08 am Post subject: |
|
|
ก่อนขึ้นรถ โชคดี กล้องเกิดติดอีก เลยได้ถ่ายอีกภาพ แต่ถ่ายแล้วก็ไฟหมด กล้องดับอีก จะถ่าย น้อง จนท.อุทยานก็ไม่ได้ กล้องมือถือแฟนก็เปิดไม่ได้อีก กล้องมือถือผมก็ใช้ไม่ได้ เพราะของผมเอาไปส่งซ่อม ใช้ของแฟนลูก ที่ชำรุด ถ่ายภาพไม่ได้ แถมฝนก็เริ่มตกอีก เกรงใจที่จะรอแบตติด เพื่อถ่ายภาพเขา เลยต้องยกมือขอบคุณ และให้ทิปไปเล็กน้อยครับ
หลายอย่างมันดูฉุกละหุกไปหมด เพราะไหนจะหิว จะกระหาย ต้องเปลี่ยนรองเท้า ถ่ายภาพ จัดเตรียม GPS ติดรถ เพื่อจะได้ไปต่อ ฝนก็ตก ออกไปนอกรถไม่ได้ด้วย ฯลฯ
พักนึงจึงได้เริ่มออกรถ เดินทางกลับออกมาครับ ในภาพกำลังจะถึงป้อมยามที่เสียค่าธรรมเนียมแล้ว
มาถึงสี่แยกสำคัญ ที่ต้องเลี้ยวขวาไป อ.หนองปรือ ถ้าหากเลี้ยวซ้ายก็จะไป ถ้ำธารลอดใหญ่ทางรถยนต์ ซึ่งในปีนี้(2560) ผมได้ลองเข้าไปทางนี้แล้วนะครับ แล้ววิ่งรถยาวไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ที่บรรยากาศเหมือนอยู่แถว จ.แม่ฮ่องสอนเลย
อ้อ..ในภาพนี้ ถ้าหากขับรถตรงไป ก็จะไป อ.หนองปรือเช่นกัน เพียงแต่จะผ่านหมู่บ้าน ซึ่งอาจไม่สะดวก ผมเลยเลือกเลี้ยวขวาไปทางอ้อมหมู่บ้าน เช่นเดียวกับตอนขามาครับ
ก่อนถึงหมู่บ้านสามหลัง หันไปทางขวา เห็นแท่งอะไรสีเหลืองๆ ขาวๆ ปักอยู่ที่ดินที่เขาปรับใหม่ เชิงเขา นึกขึ้นได้ "หลุมฝังศพ" นี่นา ผมได้กลับไปดูภาพเก่าในกูเกิ้ลที่เคยถ่ายไว้ปี 2556 ตอนนั้นยังเป็นไร่มันสำปะหลังอยู่เลย ไม่รู้คิดอย่างไร ที่ขายที่ให้เป็นป่าช้า ชาวบ้านใกล้ๆ คงจะขวัญผวากันพอดูนะครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 1:15 am Post subject: |
|
|
ถึงทางแยก ที่ให้เลือกว่าเลี้ยวซ้ายไปตามถนนตัดใหม่เลาะภูเขา(เส้นสีฟ้า) หรือตรงไปตามทางสายเก่า(เส้นสีม่วง)ที่มุ่งไปยัง บริเวณสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย ด้วยความอยากรู้ว่า ถนนเก่านี้จะไปสิ้นสุดตรงไหนเลยลองวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ซึ่งก่อนจะถึงบริเวณสร้างอ่างเก็บน้ำก็จะมีทางแยกซ้ายลัดขึ้นมายังถนนตัดใหม่เชิงเขาครับ
นี่เป็นภาพบรรยากาศ ถนนสายเก่า ที่ต่อไปจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ ของอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย นะครับ ทางตรงแน่วเลย มองไปทางซ้ายบนไหล่เขา จะเห็นถนนตัดใหม่ที่ลัดเลาะภูเขาอยู่ นับเป็นโอกาสดี ที่จะได้วิ่งถนนเส้นนี้ครับ
สุดทาง เอ๊ย..จุดที่มีทางลัดขึ้นไปถนนตัดใหม่บนเขาแล้ว ยังเหลือถนนข้างหน้าอีกประมาณ 400 เมตร ถนนก็จะขาด! อยู่เกือบถึงสันเขื่อนที่กำลังก่อสร้างพอดี (ดูเตี้ยๆ นะครับ แต่หลังจากสร้างเสร็จแล้ว ในการไปครั้งที่สองของผมปีนี้ จึงได้นำรถขึ้นไปวิ่งบนสันเขื่อนได้ครับ)
สาเหตุที่เขากั้นไว้ล่วงหน้าเกือบครึงกิโลเมตร ก็คงป้องกันคนหลงเข้าไปแล้วต้องหาที่กลับรถออกมายังตรงนี้นะครับ
จากตรงจุดที่มีทางลัดขึ้นไปบนเขาที่มีถนนตัดใหม่อยู่ มองไปทางขวาที่เป็นส่วนปลายสันเขื่อน ซึ่งมีภูเขาลูกเล็กๆ อยู่ลูกนึง คงไม่ใช่เรื่่องบังเอิญ แต่อาศัยสภาพภูมิประเทศช่วยยึดสันเขื่อนและอุ้มน้ำได้เยอะด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 1:20 am Post subject: |
|
|
เพื่อความเข้าใจง่าย หลังปล่อยน้ำ เอ๊ย..ทำสันเขื่อนเสร็จ ปิดกั้นน้ำอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีน้ำเอ่อท่วม ด้านหน้าเขื่อนในภาพ (แสดงด้วยพื้นที่สีฟ้า) ทำให้ถนนที่รถผมจอดอยู่ มีระดับน้ำท่วมสูง ไปหมดครับ
นอกจากนี้ ใกล้ๆ บริเวณสันเขื่อนนี้จะมีวัดอยู่วัดนึง ที่จะเห็นได้ชัดตอนมาจาก อ.หนองปรื ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมถนน ซึ่งในปีนี้ผมก็ได้แวะไปไหว้พระด้วยครับ
ชมบริเวณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย พอแล้ว (เห็นจากระยะไกล) ก็เลี้ยวซ้ายไปถนนตัดใหม่ ตามทางลัด ซึ่งปัจจุบันน้ำได้ท่วมไปมากกว่าครึ่งเส้น แต่ความจริงแล้วน้ำตรงที่รถผมจอดอยู่นี่้ ดูแล้วไม่น่าลึกนะครับ แต่อาจอยู่ในระดับ เมตรกว่าๆ เอง
ในการเดินทางกลับบ้าน(กรุงเทพฯ) นี้ ในตอนแรกได้คิดไว้ว่า จะลองวิ่งไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ (เส้นสีเขียว) อันเป็นเส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ เผื่อได้เห็นวิวและทิวทัศน์บ้าง และยังเป็นเส้นทางที่คุณบอล บอลพาเที่ยว Backpacker Ball ได้ใช้เดินทางจาก ฝั่งโน้น ของ อ่างเก็บน้ำ ข้ามเท้ง มา อ.ศรีสวัสดิ์ แล้วเข้ามายัง อช.เฉลิมรัตนโกสินทร์ หรือ ถ้ำธารลอด แห่งนี้ จึงคิดว่า น่าจะลองวิ่งดู เห็นว่าผ่านเขามากพอสมควร แต่เวลาที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ เพราะใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว เลยคิดแผนสอง เปลี่ยนมากลับบ้านผ่านทางสายสุพรรณบุรีแทนดีกว่า(เส้นสีม่วง) เพราะเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่คุณบอล วิ่งผ่าน ออกจาก จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าสู่ จ.สุพรรณบุรี ทางด้านหลัง (ฝั่งตะวันตก) ที่ปกติคนทั่วไปจะมาเมืองสุพรรณบุรี ทางฝั่งตะวันออก จนถือว่าเป็นด้านหน้าเมือง
ส่วนเส้นสีน้ำเงิน นั้นแทนทางเลือกที่ 3 สำหรับการเดินทางกลับกรุงเทพฯ เส้นาทางปกติ ทีคนทั่วไปมักทำกัน คือ ผ่าน ตัวเมือง กาญจนบุรี แต่ พอมาลากเส้นเปรียบเทียบในแผนที่แล้ว ดูทางผ่าน ตัวเมืองสุพรรณบุรีจะใกล้กว่านะครับ เพียงแต่ถนนที่ใช้ จะเป็นถนนเลนสวน และมีทางเลี้ยวไปมาค่อนข้างซับซ้อนกว่า สายกาญจนบุรีมากครับ
มาเดินทางต่อกัน จากอัปเดตที่แล้ว ที่ผมลองวิ่งมาตามถนนเส้นเก่าที่ปัจจุบันได้จมน้ำอยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อยแล้ว หลังจากได้วิ่งเข้ามาถนนเส้นใหม่ ที่ลัดเลาะเชิงเขา ก็มองไปทางขวา ตรงหน้าเขื่อนที่กำลังสร้าง จะเห็นซากสิ่งก่อสร้างที่ยังรื้อออกไม่หมดอยู่ริมห้วยกระพร้อยเดิม (ภาพขยายจะเห็นชัด) ซึ่งผมลองค้นดูภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล ที่ยังแสดงภาพเก่าอยู่ เห็นเป็นอาคารยาว 3 หลัง ที่คาดว่าจะเป็นโรงเลี้ยงสัตว์ ดังภาพเล็กบนซ้ายครับ
เห็นแบบนี้ก็รู้สึกเสียดายว่าพื้นที่ทั้งหมดจะถูกน้ำท่วมมิดหมด ก็อย่างว่าครับ ได้อย่างเสียอย่าง รัฐบาลก็ต้องชดเชยเงินให้อย่างสมควร ด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 1:31 am Post subject: |
|
|
ไม่นานผมก็มาถึง อ.หนองปรือ ที่เหมือนเมืองหน้าด่าน ก่อนเข้า อุทยานฯ เฉลิมรัตนโกสินทร์ หรือ ถ้ำธารลอด นะครับ ถ้าหากอุทยานฯ นี้เกิดเป็นที่นิยม หรือโด่งดังขึ้นมา อำเภอนี้ก็จะเจริญขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันอุทยานฯ นี้ดูเงียบๆ ความเจริญของอำเภอนี้ก็เป็นไปตามธรรมชาติ นะครับ ข้างหน้าเป็นสามแยกวงเวียนหอนาฬิกา ที่มีทางแยกซ้ายไป อ่างกระเสียว ทำให้เราต้องเลี้ยวขวาอ้อมวงเวียนเข้าตัวอำเภอครับ
หอนาฬิกานี้ ผมเห็นครั้งแรกจากในกระทู้ของคุณบอล บอลพาเที่ยว Backpacker Ball รู้สึกประทับใจและคิดไปว่าเป็นของ อ.เลาขวัญ ที่ชื่อไพเราะ สอดคล้องกับยอดหอนาฬิกาครับ
ผมวิ่งรถผ่านชุมชนอำเภอหนองปรือมาถึงสี่แยกสำคัญทางทิศตะวันออก ที่ซ้ายมือเลี้ยวไป อ่างกระเสียว (บรรจบกับถนนที่มาจาก แยกวงเวียนหอนาฬิกา นะครับ) ขวามือไปตัวเมืองกาญจนบุรี (ผ่าน อ.ลาดหญ้า) ที่ผมวิ่งมา ตรงมา ก็มุ่งไป อ.เลาขวัญ อันเป็นอำเภอติดเขตรอยต่อกับ จ.สุพรรณบุรี ไม่ไกล แค่ 36 กิโลเมตรเองครับ
ขอกางแผนที่สักหน่อยครับ หลังจากผ่าน อ.เลาขวัญ ก็จะผ่านวัดกกม่วงที่คุณบอล backpacker เคยเข้าไปพักเมื่อปีที่แล้ว ด้วย แล้วต่อไปยัง บ้านจร้าใหม่ บ้านสระแก้ว เข้าถนนวงแหวนเมือสุพรรณฯ ครับ
ขับรถมาเรื่อยๆ สังเกตุเห็นหลักกิโลทางขวา ระบุว่า อีก 27 กิโลเมตรก็จะถึง อ.เลาขวัญ ซึ่งผมรู้สึกชอบชื่อนี้มาก คล้ายๆ กับผู้หญิงผมยาวฟูๆ ออกสองข้างนะครับ ส่วนตัวเลขด้านล่างของหลักกิโล เป็นของ ต.สระกระโจม ที่อยู่ใกล้กับ ตัวเมืองสุพรรณฯ มากกว่า คือมีระยะห่างออกไปอีก 46 กิโลเมตร ถ้าเพื่อนสงสัยว่า ตำบลนี้อยู่ตรงไหน ก็ย้อนกลับไปดูแผนที่เดินทางข้างบนนี้ได้ครับ แต่ไม่อยู่ในเส้นทางผ่านครั้งนี้นะครับ |
|
Back to top |
|
|
|