เรือคลองผดุงกรุงเกษม Feeder รถไฟ และ รถไฟฟ้าอย่างใหม่

[Wisarut]

ชาวต่างชาติพากัน comment ว่าตั้งแต่มีเรือไฟฟ้าบริการที่คลองผดุงกรุงเกษมนี่ กรุงเทพก็พอๆกะอัมสเตอร์ดัมอย่างไงอย่างงั้นเลยเชียว น่าขยายบริการเรือไฟฟ้าให้ได้ทั่วถึงทั่วกรุงเลย
https://www.youtube.com/watch?v=dIGTvJt3VyQ

[Wisarut]

ท่าพระนั่งเกล้าใกล้สำเร็จแล้ว
https://www.facebook.com/PanrailTH/posts/929316927872219

[Wisarut]

เรือด้วนเจ้าพระยาก็ร่วมมือกะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตทดลองเรือไฟฟ้ามาเดินเรือด่วนเจ้าพระยาเหมือนกัน
https://www.facebook.com/cpxcare/posts/4322057457827145

[Wisarut]

ผู้โดยสารจ๋า! สงกรานต์นี้เรือแสนแสบหยุดบริการ5วัน
*11-15เม.ย.อั้นมา2ปีให้พนักงานกลับบ้าน
*ผ่านความชอกช้ำขาดทุนเดือนละ 15 ล้าน
*ใช้บริการกระเตื้องขึ้นมาเกือบถึงครึ่งแล้ว
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2870964759791690

[Wisarut]

กรมเจ้าท่าเปิดท่าเรือภาณุรังสีบูมท่องเที่ยวทางน้ำ เชื่อมต่อสถานที่ประวัติศาสตร์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:49 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:49 น.

กรมเจ้าท่าเปิดท่าเรือภาณุรังสีเพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางน้ำ เชื่อมย่านชุมชนตลาดน้อย แหล่งประวัติศาสตร์ยุคเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมบริการเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือหวั่งหลี (ล้ง 1919) ปั้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (1 เม.ย.) นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือภาณุรังษี ซึ่งกรมเจ้าท่ามีภารกิจกำกับดูแล ส่งเสริม ความปลอดภัยทั้งการขนส่ง คนประจำเรือ เรือ และท่าเรือ การพัฒนาปรับปรุงท่าเรือนับเป็นหนึ่งในภารกิจของกรมเจ้าท่า เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและความปลอดภัย ซึ่งท่าน้ำภาณุรังษีตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุมชนตลาดน้อยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สะท้อนการตั้งถิ่นฐานของยุคเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ กรมเจ้าท่าได้เห็นความสำคัญ จึงพัฒนารูปลักษณ์ท่าเรือภาณุรังษีขึ้นใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งท่าน้ำภาณุรังษีติดกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเชิงประวัติศาสตร์มากมาย

อาทิ พิพิธภัณฑ์ชุมชนท่าน้ำภาณุรังษี หรือสวนศิลป์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งเป็นย่านบ้านเกิดของอาจารย์ป๋วย อาคารพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นพื้นที่สีเขียวที่ตั้งอยู่ย่านใจเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ เป็นจุดเชื่อมต่อของชุมชนตลาดน้อย ปัจจุบันชุมชนตลาดน้อยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ที่นิยมมาถ่ายรูป เรียนรู้ ศึกษาประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชุมชนที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้พัฒนาปรับรูปลักษณ์ท่าเรือภาณุรังษีขึ้นใหม่ ซึ่งท่าเรือจะต้องเป็นมากกว่าท่าเรือเพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ท่าน้ำภาณุรังษี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือหวั่งหลี (ล้ง 1919) และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำอีกด้วย

กรมเจ้าท่าปรับรูปลักษณ์ของท่าน้ำโดยเสริมโป๊ะท่าเรือจำนวน 1 โป๊ะ ซึ่งมีขนาดความกว้าง 6x12 เมตร โป๊ะรองรับจำนวนคนได้ 60 คน ซึ่งการพัฒนาท่าเรือได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภายนอกร่วมกัน ปัจจุบันชุมชนตลาดน้อยได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถ่ายรูป ศึกษาประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน และศิลปะแบบสตรีทอาร์ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้คนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสภาพภายในชุมชนริมน้ำที่ยังคงสภาพและบรรยากาศดั้งเดิม และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และชุมชนตลอดลำน้ำเจ้าพระยา

กรมเจ้าท่ามีเรือข้ามฟากพร้อมให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ การพัฒนาท่าเรือภาณุรังษีขึ้นใหม่นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งภายนอกและภายในชุมชนได้อย่างยั่งยืน

[Wisarut]

เรือไฟฟ้า เตรียมมาหานะเธอ....
อ้ายขวัญ- อีเรียม
วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 16:16 น.

มีข่าวมาบอกกันจ้า กทม.กำลังปรับปรุงท่าเทียบเรือในเส้นทางคลองแสนแสบจากวัดศรีบุญเรือง - สำนักงานเขตมีนบุรี ระยะทาง 10.50 กิโลเมตร และจัดหาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ขนาด 30 ที่นั่ง จำนวน 12 ลำ คาดว่าจะเปิดทดลองให้ประชาชนใช้บริการในช่วงทดลองเดินเรือในเดือนมิถุนายน 2564 ให้บริการฟรี 6 เดือน จากนั้นเริ่มเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15-20 บาทตลอดสาย
อีกเดี๋ยวเดียวก็ได้ลองแว้ว.... ไม่ใช่รักแค่คลอง แต่รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย

[Wisarut]

แผนพัฒนาโครงข่ายระบบการขนส่งทางเรือ W-Map คืนชีพระบบคลอง กลับมาเป็นระบบขนส่งหลักอีกครั้ง!!! จะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำเรือเป็น Feeder ให้รถไฟฟ้าในเส้นทางย่อย!!!!
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 18:46 น.

จะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำเรือเป็น Feeder ให้รถไฟฟ้าในเส้นทางย่อย!!!!
วันนี้ขอเอาโครงการ แผนการพัฒนาระบบการขนส่งทางคลอง หรือ W-Map มาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันหน่อย
ซึ่งได้ปฐมนิเทศโครงการ ไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
*** ขอเสนอเปลี่ยนเส้นทางนำร่อง
1. พัฒนาเส้นทางคลองภาษีเจริญ
- เส้นทาง พุทธสาคร-MRT ภาษีเจริญ (ซีคอน บางแค)-BTS บางหว้า-ประตูน้ำคลองภาษีเจริญ
2. พัฒนาเส้นทางคลองหกวา (ลำลูกกา)
- เส้นทาง BTS คูคต - คลอง 7 (ที่ทำการอำเภอลำลูกกา)
รายละเอียดเคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/848398848931929/?d=n
—————————
โดยรายละเอียดการศึกษาในโครงการ แบ่งเป็น 4 ประเด็นหลักๆ คือ
- สภาพและเส้นทางการให้บริการการขนส่งทางน้ำในปัจจุบัน
- ปัญหาในการใช้บริการ
- ตัวอย่างการพัฒนาในต่างประเทศ
- แผนการทำโครงการนำร่อง คลองมหาสวัสดิ์-บางกอกน้อย
เรามาไล่ดูรายละเอียดทีละประเด็น....
—————————
1. สภาพ และเส้นทาง การให้บริการการขนส่งทางน้ำในปัจจุบัน
ซึ่งอย่างที่เราทราบๆกันว่า กรุงเทพ มีระบบทางน้ำหลัก 2 สาย คือ
- แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา, Mine Smart Ferry และเรือข้ามฝากต่างๆ ยังไม่รวมเรือเหมาต่างๆ เช่นเรือหางยาว
ซึ่งในส่วนของเรือด่วนเจ้าพระยา มีปริมาณผู้โดยสาร ประมาณ 13-15 ล้านคน/ปี หรือประมาณ วันละ 35,000 คน (ก่อนช่วง Covid-19)
- คลองแสนแสบ
มีปริมาณผู้โดยสาร มากถึง 20-22 ล้านคน/ปี หรือประมาณ วันละ 55,000 คน (ก่อนช่วง Covid-19)
ซึ่งจากปริมาณนี้แทบจะเท่าๆ กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงเลย โดยมูลค่าการลงทุนต่ำกว่ามาก!!!
- คลองภาษีเจริญ และคลองผดุงกรุงเกษม
ซึ่งทั้ง 2 คลองนี้เป็นโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางน้ำนำร่องในความรับผิดชอบของ กทม. โดย จ้างกรุงเทพธนาคม เดินเรือให้บริการ
รายละเอียดตามโพสต์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1074415072996971/?d=n
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1141357512969393/?d=n
นอกจากนั้นก็ยังมีเรือขนส่งในคลองเล็กๆ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนขนคนในพื้นที่ เช่น คลองพระโขนง และ คลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งจะมีเรือหางยาวให้บริการอยู่ แต่จะให้บริการเป็นเวลา และจอดที่บันไดบ้านเลย
ซึ่งตรงนี้เป็นเสน่ห์ของการเดินทางในคลองมากๆ
—————————
2. ปัญหาจากการใช้งานในปัจจุบัน
ตอนนี้หลายๆ คนคงทราบว่าระบบเรือหลัก เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา, Mine Smart Ferry, เรือด่วนคลองแสนแสบ มีการติดตั้ง ระบบ GPS ติดตามเรือ ผ่าน Application Viabus เพื่อแจ้งตำแหน่ง และประมาณระยะเวลาการรอเรือได้
ซึ่งก็ช่วยให้ผู้โดยสารสะดวก และวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
แต่ในระบบทางน้ำก็ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างซึ่งเป็นภาพจำของระบบขนส่งทางน้ำ แบ่งเป็นส่วนๆ ได้แก่
สภาพคลอง/แม่น้ำ
- น้ำในคลองเน่าเสีย
- การปล่อยน้ำเสียลงคลอง
- การรุกล้ำลำคลอง
- ประตูระบายน้ำต่างๆในคลองซึ่งกีดขวางการเดินทางระหว่างคลอง และแม่น้ำ
สภาพการให้บริการ
- ความแออัดของผู้โดยสาร
- การขึ้น-ลงโป๊ะ สู่เรือลำบาก ออกแบบไม่เหมาะสมกับการใช้บริการ
- ขับเรือเร็วเกิน เกิดอันตรายกับผู้โดยสารที่รอเรือ และที่อยู่บนเรือ
- ระยะเวลารอเรือนาน
สภาพท่าเรือและโป๊ะเทียบเรือ
- ท่าเรือทรุดโทรม ไม่อยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้บริการ
- ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับ Universal Designed
- มีสิ่งกีดขวางการเดินทาง
- ป้ายแผนที่แสดงเส้นทางมองไม่ชัดเจน
- เป็นที่อยู่ของคนเร่ร่อน
เส้นทางทับซ้อน
ในปัจจุบันหลังจากที่เรามีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางต่างๆอีกมากมาย แต่ในแผนไม่ได้มีการมองร่วมกับการใช้ระบบทางน้ำเป็นส่วนหนึ่งของระบบ จึงทำให้เกิดการทับซ้อนระหว่างเส้นทาง แข่งขัน และไม่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เช่น
- คลองแสนแสบ กับ Airport link ช่วง ราชปรารภ-รามคำแหง
- คลองภาษีเจริญ กับ MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงบางไผ่-ภาษีเจริญ
ซึ่งจากปัญหาทั้งหมดนี้ ก็เป็นการผูกประเด็น และเป็นภาพจำของผู้โดยสารทั่วไปว่า “เรือเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพต่ำ ไม่สะดวก และมีอันตรายในการเดินทาง”
แต่สำหรับชาว นนทบุเรี่ยน อย่างผมที่โตมากับเรือด่วนเจ้าพระยา อยู่ข้างโรงเรียน ยืนยันได้เต็มปากเต็มคำ เลยว่า
“เรือด่วน เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของขนส่งมวลชน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง คาดการณ์เวลาได้ง่าย และก่อสร้างง่าย ค่าใช้จ่ายทั้งการก่อสร้างและ เดินระบบต่ำมาก เมื่อเทียบกับระบบรถไฟฟ้าต่างๆ ที่เรากำลังสร้างกันอยู่ทั่วกรุงเทพ”
ดังนั้น เรามาช่วยกัน ปรับปรุง และพัฒนา ระบบขนส่งทางน้ำ เพื่อลบภาพจำต่างๆที่มีของระบบเรือต่างๆ ให้กลับมาเป็นอีกหนึ่ง ระบบขนส่งหลักของกรุงเทพอีกครั้งนึงกันครับ!!!!
—————————
3. ตัวอย่างการพัฒนาระบบขนส่งทางน้ำของต่างประเทศ
ในต่างประเทศก็มีหลายๆเมืองที่พอจะเป็นตัวอย่างระบบขนส่งมวลชนทางน้ำที่ดีได้ เช่น
- Amsterdam ประเทศ เนเธอร์แลนด์
ซึ่งจริงๆเป็นรูปแบบการพัฒนาเส้นทางทางเรือ และระบบขนส่งมวลชนระดับโลก ซึ่งมีทุก mode การเดินทาง ทั้ง รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง รถราง รถไฟใต้ดิน รถเมล์ และเรือ โดยที่เราสามารถหาจุดเริ่มต้นของทุกระบบได้ที่สถานีรถไฟ Amsterdam Cemtral เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของเมืองไปเลย
สำหรับเรือ เราสามารถ นั่งเรือท่องเที่ยวได้บริเวณด้านหน้าสถานี ซึ่งจะพาชมคลอง ต่างๆ
อีกด้านหนึ่งของสถานีจะมีเรือข้ามฝาก ข้ามแม่น้ำ IJ ไปในหลายเส้นทาง ซึ่งให้บริการฟรี!!! ผมเคยรีวิวไว้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://fb.watch/4WnEZa_o3J/
- London ประเทศอังกฤษ
ซึ่งมีเส้นทางเดินเรือ และเรือข้ามฝาก ถึง 12 สาย (แล้วแต่ฤดู) บนแม่น้ำ Thames มีทั้ง River bus และ River tour
และอีกในหลายๆ ประเทศ ทั่วโลก
—————————
4. การพัฒนานำร่อง คลองมหาสวัสดิ์
ซึ่งในปัจจุบันในคลองมหาสวัสดิ์ ก็มีการเดินเรือหางยาว เส้นทางท่าประตูน้ำฉิมพลี-ท่าช้าง ราคา 20 บาท ตลอดสาย
แต่ในปัจจุบัน คนรู้จักน้อย และจุดเชื่อมต่อไม่สะดวกกับขาจรที่ไม่ได้อยู่ริมคลอง ซึ่งเรือจะเข้าไปจอดถึงชานบ้านเลย
อีกเรื่องที่สำคัญคือไม่สามารถขยายเส้นทาง ต่อไปได้ยินจนถึงแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากติดประตูระบายน้ำฉิมพลี ใกลักับพุทธมณฑลสาย 2
- ในโครงการจึงมีการนำเสนอเส้นทาง คลองมหาสวัสดิ์-ประตูน้ำมหาสวัสดิ์ (แม่น้ำท่าจีน)
ซึ่งจะเป็นการเชื่อม กรุงเทพ-นครปฐม ไปในตัว
แต่ถ้าจะพัฒนาในเส้นทางนี้อาจจะต้องมีการทำท่าเรือเพื่อถ่ายผู้โดยสาร ระหว่างช่วงฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา และฝั่งหลังประตูน้ำฉิมพลี ซึ่งไม่สะดวก
ที่สำคัญ เส้นทางนี้ ความหนาแน่นของคนในช่วง ประตูน้ำฉิมพลี-ประตูน้ำมหาสวัสดิ์ (แม่น้ำท่าจีน) ระยะทาง 20 กิโลเมตร ค่อนข้างเบาบาง และคู่ขนานไปกับทางรถไฟสายใต้ และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน, ส่วนต่อขยาย ตลิ่งชัน-ศาลายา และในอนาคต จะต่อขยายไปจนถึงนครปฐมอีกด้วย
ซึ่งสุดท้ายอาจจะไม่ส่งเสริมการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางเท่าที่ควร และอาจจะทำให้โครงการไม่สำเร็จในที่สุด
—————————
ดังนั้นผมขอเสนอเปลี่ยนเส้นทางนำร่อง เป็น 2 เส้นทางเพื่อให้เรือเป็นทางเลือกในการพัฒนาและเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลักจริง ดังนี้
1. พัฒนาเส้นทางคลองภาษีเจริญ
- เส้นทาง พุทธสาคร - วัดหนองแขม -MRT ภาษีเจริญ (ซีคอน บางแค)-BTS บางหว้า-ประตูน้ำคลองภาษีเจริญ
2. พัฒนาเส้นทางคลองหกวา (ลำลูกกา)
- เส้นทาง BTS คูคต - คลอง 7 (ที่ทำการอำเภอลำลูกกา)
รายละเอียดเคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/848398848931929/?d=n
—————————
ผมหวังว่าการพัฒนา W-Map จะช่วยให้เราฟื้นฟูความเป็นเมืองที่มีแม่น้ำลำคลองเป็นต้นทุนเดิม ให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เปลี่ยนคลองหลังบ้าง ให้เป็นหน้าบ้านที่ช่วยกันดูแลรักษาเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้งนะครับ
ใครอยากอ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม ตามได้จากเว็บไซด์นี้ครับ
https://www.w-map.in.th

Note: ถ้าเรือ สายคลองภาษีเจริญยังคงอยู่ในมือ กทม. ปลายทางก็คงไปถึงแค่วัดหนองแขมครับ เพราะ กทม. ไม่อยากยุ่งกะ การเดินเรือ ข้ามเขตกรุงเทพครับ เว้นแต่พ่อเมืองสมุทรสาครจะขอให้ กทม. ทำจริงๆ
Note2: จะว่าไปแล้ว คลองหกวานี่มันต่อกับคลองสอง และ คลองถนน (คลองลาดพร้าว) เสียด้วยซ้ำ เสียดายที่ คลองรังสิต คุมระดับน้ำให้คงที่ตลอดไม่ได้ ไม่งั้นให้เดินเรือไปถึงสถานีรังสิตเสียด้วยซ้ำ เอาแค่เดินเรือ จากลำลูกกาคลองเจ็ดไปถึงสะพานใหม่ท่าจะดี

[Wisarut]

คลองแสนแสบ คลองหลักที่สำคัญของการคมนาคมและขนส่งทางนํ้าของชาวกทม. การจัดระเบียบเรือโดยสารในคลองแสนแสบ มีหลายหน่วยงานที่ดูแลทั้งกรุงเทพมหานครและกรมเจ้าท่า ซึ่งมีการพูดคุยกันถึงการจัดการเรือโดยสารเพื่อประโยชน์ในการเดินทางของประชาชน โดยในปัจจุบันมีการเดินเรือโดยสาร ด้วยเรือหางยาวโดยบริษัท ครอบครัวขนส่ง จากเส้นทางระหว่าง ท่านํ้าวัดศรีบุญเรือง เขตบางกะปิ-ท่าสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
.
การเปิดเดินเรือส่วนต่อขยาย ช่วงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง-ท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างท่าเทียบเรือให้แล้วเสร็จ รวมถึงจัดหาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ ซึ่งมีการดำเนินการแล้วตัวอย่างในคลองผดุงกรุงเกษม จำนวน 12 ลำ มาให้บริการ คาดจะสามารถทดลองเดินเรือได้ในเดือนมิถุนายน 2564 และให้บริการฟรี 6 เดือน จากนั้นเริ่มเก็บค่าโดยสารในอัตรา15-20 บาทตลอดสาย ในส่วนของบริษัทครอบครัวขนส่ง ก็ได้มีการพูดคุยกันให้มีการปรับไปใช้เรือไฟฟ้าด้วย
.
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการเดินเรือในคลองแสนแสบ ว่า กรุงเทพมหานครโดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือในเส้นทางคลองแสนแสบจากวัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรี ระยะทาง 10.50 กม.
.
โดยได้รับจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างท่าเทียบเรือรวม 8 ท่า ได้แก่ ท่าเรือ รร.พร้อมมิตร, ท่าเรือเสรีไทย 26, ท่าเรือคลองระหัส, ท่าเรือหมู่บ้านร่มไทร, ท่าเรือสุเหร่าแดง,ท่าเรือชุมนุมหลอแหลใหญ่, ท่าเรือตลาดมีนบุรี และท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี
.
รวมถึงจัดหาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ขนาด 30 ที่นั่ง จำนวน 12 ลำ อยู่ระหว่างต่อเรือจะเสร็จในเดือนพฤษภาคม การก่อสร้างท่าเทียบเรือมีความคืบหน้าเร็วกว่าแผนจะเสร็จในช่วงแรกสามารถเปิดทดลองเดินเรือได้ก่อนในเดือนมิถุนายนนี้
.
ขอบคุณภาพ : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/BLTBangkok/posts/2908799042716086

[Wisarut]

เรือด่วนเจ้าพระยางดบริการวันหยุด โควิดทำผู้โดยสารหาย 90%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เผยแพร่: ศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 09:36 น.
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 09:36 น

เรือด่วนเจ้าพระยาต้องหยุดให้บริการเดินเรือในวันเสาร์-อาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่ม 8 พ.ค.นี้ เหตุผู้โดยสารลดฮวบ 90% จากสถานการณ์โควิด และมาตรการงด/ชะลอเดินทาง ธุรกิจ

นาวาตรี เจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า กรณีการประกาศงดเที่ยวเดินเรือในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 สืบเนื่องจากประกาศของกรมเจ้าท่า (75/2564) เรื่อง การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อ้างอิงจากสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็นเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว ส่งผลให้ผู้โดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยาลดต่ำสุดในรอบ 50 ปี ช่วงสุดสัปดาห์จำนวนผู้โดยสารลดลงถึง 90% ซึ่งในแง่ของธุรกิจทางบริษัทฯ ไม่สามารถแบกรับภาระดำเนินการแบบนี้ทุกวันได้ และเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศดังกล่าว ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องงดเดินเรือในช่วงวันหยุด

บริษัทฯ ต้องขออภัยผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการงดเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ เข้าใจและเห็นใจผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยามาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันทำการ จันทร์-ศุกร์ บริษัทฯ ยังให้บริการเดินเรือตามปกติทุกธง ยกเว้นเรือธงแดง และพิเศษเฉพาะในวันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 เรือด่วนเจ้าพระยาจะให้บริการเฉพาะธงสีส้ม ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. โดยมีความถี่ในการเดินเรือประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารโปรดเผื่อเวลาในการใช้บริการ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้พยายามทุกวิถีทางในการให้บริการผู้โดยสารเพื่อความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจ ตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ ทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะกลับมาให้บริการเดินเรือได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ คลี่คลาย “เรือด่วนเจ้าพระยาจะร่วมฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปกับทุกๆ คน และเราจะไม่ทิ้งกัน”

[Wisarut]

‘อธิรัฐ'สั่งเพิ่มเที่ยวเรือคลองแสนแสบลดความหนาแน่นชั่วโมงเร่งด่วน

11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:13 น.


11 พ.ค. 2564 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่าตามภาพที่ปรากฎในสื่อสารมวลชลมีประชาชนผู้ใช้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งกรมเจ้าท่าในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลเรือโดยสารมีมาตรการดูแลผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งมาตรการ Social Distancing, Cleaning และการเพิ่มจำนวนเที่ยวเรือเป็นวันละ 99 เที่ยว แต่ด้วยจำนวนผู้โดยสารโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ตั้งแต่ 07.00 – 08.30 น. มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด19 ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงสั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่าเพิ่มเติมมาตรการให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

ลงทะเบียนวันนี้ รับส่วนลดสูงสุด 50% จากอัตราค่าจัดส่งของคุณ
FedEx Express
1.ให้ควบคุมกำกับเรือโดยสารคลองแสนแสบ โดยประสานผู้ประกอบการให้เพิ่มเที่ยวเรือในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า 07.00-08.30 น. และช่วงเวลาเย็น 16.30-18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่น เพิ่มความถี่เรือเข้ารับ-ส่ง ผู้โดยสายจากปกติ 5-7 นาที/ลำ เป็น 2-3 นาที/ลำ เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารหนาแน่นและลดความแออัดทั้งในเรือและบนท่าเรือและให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่าง กำชับพนักงานขนส่งประจำท่าและชุดสายตรวจแสนแสบให้ควบคุมเข้มงวดมากขึ้น

2.กำหนดให้พนักงานขนส่งประจำท่าปลายทางต้องประสานกับพนักงานปล่อยเรือจากท่าเทียบเรือต้นทางหรือผู้ควบคุมเรือ เพื่อให้ทราบจำนวนผู้โดยสารที่จะขึ้นจากเรือ เพื่อให้สามารถจัดการจำนวนผู้โดยสารที่จะลงเรือได้

3.ให้ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิบนท่าเรือ เช่น ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ท่าเรือประตูน้ำสายใน ท่าเรือประตูน้ำสายนอก ท่าเรืออโศก และท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นจุดหลักที่ผู้โดยสารขึ้น-ลง เรือ และมีผู้โดยสารหนาแน่นในช่วงเร่งด่วนเช้าเย็น ผลการปฏิบัติ และผู้โดยสารทุกคนต้องวัดอุณหภูมิ ณ จุดคัดกรองก่อนลงเรือ

4.ให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลาขณะโดยสารเรือ และขณะรอขึ้น-ลงเรือ และมีการให้เว้นระยะห่าง Social distancing ทั้งในเรือและบนท่าเรือตลอดเวลา
5.ให้กวดขันจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การฆ่าเชื้อโรคทุกท่าเรือทั้ง 28 ท่าเรือ ต้องมีพร้อมให้บริการตลอดเวลา
6.ให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารเข้มงวดกวดขันตรวจวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน การทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ทั้งในสำนักงาน บนท่าเรือและในเรือเป็นประจำ
7.พนักงานขนส่งประจำท่าต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด19 ขณะปฏิบัติงานและการดูแลความสะอาดและความเรียบร้อยบริเวณท่าเทียบเรือและพื้นที่หลังท่าเป็นประจำทุกวัน

"เจ้าท่า" จัดระเบียบเรือคลองแสนแสบสกัดโควิด
อังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564 เวลา 16.24 น.

“กรมเจ้าท่า” ลงพื้นที่จัดระเบียบเพิ่มเที่ยวเรือโดยสารคลองแสนแสบ พร้อมคุมเข้มมาตรการการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่อง


นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า จากสถาการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากภายในประเทศและเกิดการขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมาโดยตลอด โดยเข้มงวดในด้านการอำนวยความสะดวกความปลอดภัย การตั้งจุดคัดกรองประจำท่าเทียบเรือ รวมถึงการทำความสะอาดท่าเรือ และตัวเรือเป็นประจำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อฯ ตามประกาศกรมเจ้าท่าและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

อาทิ การตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิประจำท่าเทียบเรือทุกท่า กำหนดจุดการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การรักษาความสะอาดประจำท่าเทียบเรือ และตัวเรือ (Cleaning) รวมถึงจัดให้มีจุดวางเจลแอลกอฮอล์ประจำท่าเรือ และการเพิ่มจำนวนเที่ยวการให้บริการของเรือโดยสารเพิ่มมากขึ้น จากเดิมวันละ 99 เที่ยว แต่ด้วยจำนวนผู้โดยสารโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ตั้งแต่ 07.00-08.30 น. ที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงได้สั่งการผู้ประกอบการเรือ ท่าเรือ ดังนี้



นายวิทยา กล่าวต่อว่า
1.ให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารคลองแสนแสบ เพิ่มเที่ยวเรือในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่นโดยในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00-08.30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่ 16.30-18.00 น. โดยเพิ่มความถี่เรือเข้ารับ-ส่ง ผู้โดยสารจากปกติ 5-7 นาที/ลำ เป็น 2-3 นาที/ลำ เพื่อลดความแออัดทั้งในเรือและบนท่าเรือเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่าง และกำชับพนักงานขนส่งประจำท่าและชุดสายตรวจคลองแสนแสบควบคุมเข้มงวดมากขึ้น และ
2.ให้พนักงานขนส่งประจำท่าปลายทาง ประสานกับพนักงานปล่อยเรือจากท่าเทียบเรือต้นทางหรือผู้ควบคุมเรือ เพื่อให้ทราบจำนวนผู้โดยสารที่จะขึ้นจากเรือ เพื่อจัดการบริหารจำนวนผู้โดยสารที่จะลงเรือ

ทั้งนี้สั่งการเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T ดังนี้
D : (D-Distancing) การเว้นระยะห่างหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น
M : (M-Mask wearing) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
H : (Hand Washing) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
T : (T-Testing) ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะทุกครั้ง เมื่อเข้าไปในสถานที่ต่าง ๆ

กรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะโดยสารเรือ และขณะรอขึ้น-ลงเรือ และยืนตามจุดที่กำหนดเพื่อเว้นระยะห่าง Social distancing ทั้งในเรือและบนท่าเรือตลอดเวลา เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด..