ขุดกรุ : เมื่อผมนั่งรถไฟไปมหาชัย + บ้านแหลม + แม่กลอง

[CivilSpice]

กับภาพของ NKF ทั้งสองคัน ที่สถานีบ้านแหลม หมายเลข 1210 และ 1213

[CivilSpice]

ก่อนจากสถานีบ้านแหลม ... กับภาพของ ซากรถดีเซลรางฮิตาชิ (R.H.) ทั้งสองคัน

ประวัติคร่าวๆ ของเจ้ารถรุ่นนี้ ก็คือ มี รุ่นเลขที่ 1011-1020 กำลัง 2 x 220 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 85 กม./ชม.
ผลิตโดย บริษัท ฮิตาชิ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ นำเข้ามาใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2510

ที่มา : หนังสืออนุสรณ์ครบรอบ 50 ปี โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ครับ





และล่าสุด เมื่อผมไปเยือนสถานีบ้านแหลมอีกครั้ง ตอนไปถ่ายทำสารคดีอึ่งอ่างนอกกะลามัง 2 ปรากฏว่า รถดีเซลรางฮิตาชิ
ที่เห็นอยู่ทั้งสองคัน ก็ถูกชำแหล่ะซาก เหลือเพียงเศษเหล็ก เพื่อขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อเป็นที่เรียบร้อย ... เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

[CivilSpice]

จากนั้น ก็เดินเลาะๆ ตามถนนคอนกรีต กลับมาที่ท่าเรือท่าฉลอม เพื่อข้ามฝากกลับไปมหาชัย
และทานข้าวกลางวัน ที่ร้านอาหารทะเล ติดกับท่าเรือจากนั้น พอได้เวลา 14.25
ก็ได้เวลาเดินทางกลับสถานีวงเวียนใหญ่ กับ ขบวน 4316 ขบวนนี้ไม่มีรถแอร์แฮะ ฮ่าๆๆๆ ร้อนก็ต้องทนหน่อยล่ะ

ในภาพคือ ขบวน 4315 ที่เพิ่งมาจากวงเวียนใหญ่ จอดได้ 10 นาที ก็จะทำเป็น 4316 กลับฝั่งธนฯ



บรรยากาศ ในตัวอาคารสถานีมหาชัย เมื่อมองจากขบวน 4316

[CivilSpice]

ซากรถดีเซลราง ที่จอดทิ้งไว้ บริเวณเลยสถานีมหาชัยออกมาเล็กน้อย ... ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นประเภทเดียวกัน กับที่บ้านแหลม
แต่อตนหลังทราบว่าเป็นรถดีเซลราง รุ่นเก่ากว่านั้น คือ นิอิกาตะ ส่วนหมายเลขใดนั้น ไม่สามารถทราบได้ ซึ่งภาพนี้ถ่ายจากขบวน 4316 ครับ

[CivilSpice]

บรรยากาศบนขบวนรถ ..... อากาศร้อนเชียว ... สังเกตมั้ยครับ ว่าขบวนรถนี้ จะไม่ปิดประตู ในขณะวิ่งให้บริการ



ภาพนี้ขณะกำลังวิ่งผ่าน ย่าน สถานีวัดสิงห์ มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่

[CivilSpice]

ส่งท้ายกันด้วยภาพนี้ครับ ..... ตั๋วโดยสารของเส้นทางสายนี้ ช่วง วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
เพียงแค่ 10 บาทเท่านั้น คุณก็สามารถมีความสุขเล็กๆ น้อย กับการนั่งรถไฟเที่ยวได้แล้ว

[CivilSpice]

และจากวันที่เดินทางไปมหาชัย ถัดไปอีกประมาณสองสัปดาห์ ผมก็มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสกับทางรถไฟสายนี้อีกครั้ง ซึ่งตั้งใจไว้ว่า
รอบนี้ จะเก็บรางละเอียดในช่วงของสายบ้านแหลม - แม่กลอง กันบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดมาเนี่ย ยังไม่เคยไปทดลองนั่งทางรถไฟสายนี้เลย
ได้แต่ชะเง้อคอมองผ่าน เวลาที่ขับรถข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย ธนบุรี-ปากท่อ หรือถนนพระราม 2 เท่านั้น

แต่ดูจากกำหนดเวลาเดินรถแล้ว การจะนั่งรถไฟ จากวงเวียนใหญ่ ไปมหาชัย แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปบ้านแหลม เพื่อต่อรถไฟไปแม่กลอง
จะต้องใช้เวลาเดินทาง ไป-กลับ กว่าค่อนวัน อีกทั้งผมยังมีเวลาที่สถานีแม่กลอง ค่อนข้างน้อย เพราะพอรถไฟมาถึงปุ๊บ จอดแป๊บเดียว ก็ต้องทำขบวน
กลับสถานีบ้านแหลมแล้ว ซึ่งในความเป็นจริง ผมต้องการจะใช้เวลาที่สถานีแม่กลอง และตลาดร่มหุบ อันลือชื่อ มากกว่านี้สักหน่อย และที่สำคัญที่สุด
ผมยังไม่อยากโดดเรียนวิชา IT Project Management ของปริญญาโท ที่จะเปิดคอร์สกันวันนั้นเป็นวันแรก ตอน 16.00 เสียด้วยสิ

สุดท้ายผมเลยตัดสินใจ เดินทางไปที่แม่กลอง ด้วยรถทัวร์ จากสายใต้ใหม่ (ขอนอกใจรถไฟสักครั้งนะครับ) สาเหตุที่ไปรถทัวร์
ก็เพราะกะว่าจะไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด จะได้มีเวลาเดินเล่นในตลาด และถ่ายรูปต่างๆ ได้ตามสบาย ส่วนขากลับ จะกลับรถไฟเที่ยว 11.30 น.
ซึ่งก็เป็นไปตามแผน โดยผมออกเดินทางในเวลา 08.20 น. ด้วยรถทัวร์ ป.1 ราคา 54 บาท (สายกรุงเทพ-แม่กลอง-ดำเนินสะดวก) ... เพียงชั่วโมงเศษๆ
จากผมก็มาเสนอหน้าอ้วนๆ ของผม ถึงแม่กลองแล้ว (ถ้ามารถไฟ ก็คงยังถึงแค่มหาชัยอยู่มั้ง) โดยรถทัวร์จะจอดส่งคน ที่บริเวณ 4 แยก หน้าธนาคารกรุงเทพ
ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ สถานีขนส่ง จ.สมุทรสงคราม นั่นเอง

จากนั้น ผมก็ออกเดินตามถนนไปเรื่อยๆ เพื่อจะไปสถานีแม่กลอง เพราะจำได้ว่า ทางรถไฟ จะอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ลงรถเท่าไหร่นัก ...
ใช้เวลาประมาณ 10 นาที กับระยะทางประมาณ 400-500 เมตร ก็เจอกับทางรถไฟแล้วล่ะครับ



และถ้าหากมองตามทิศทางของรางรถไฟในภาพ คือเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปสถานีบ้านแหลม และ จ.สมุทรสาคร

[CivilSpice]

เครื่องกั้นถนน ในบริเวณทางตัดเมื่อสักครู่นี้ .... ถึงแม้ขบวนรถวิ่งต่อวันจะไม่มากนัก
แต่ก็ระวังรถไฟกันหน่อย โดยเฉพาะบรรดาสิงห์นักบิดทั้งหลาย

[CivilSpice]

ฝั่งตรงข้าม กับทิศทางที่จะไปบ้านแหลม เมื่อสักครู่

ก็คือเส้นทางรถไฟที่จะเข้าไปตลาดและสถานีแม่กลอง ...
และก็คือจุดเริ่มต้น ของตลาดร่มบาน/ร่มหุบ ซึ่งเป็น Unseen Thailand นั่นเอง

[CivilSpice]

ไปเดินช้อปปิ้งในตลาดกันดีกว่าครับ .... ข้างหน้านี้ ดูแล้วเหมือนเป็นประตูทางเข้าเลย