View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 27/12/2019 10:42 am Post subject: |
|
|
รฟม.เคาะแผนส่วนต่อขยายสายสีเหลืองแล้ว
เศรษฐกิจ
วันพุธ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 22.21 น.
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ได้สรุปผลการศึกษาแผนการต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เรียบร้อยแล้วถึงการขยายเส้นทางจากเดิมสิ้นสุดตรงสถานีลาดพร้าว (รถไฟฟ้าใต้ดิน) ซึ่งมีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้รับสัมปทาน ขยายไปสิ้นสุดที่แยกรัชโยธินเพื่อไปเชื่อมต่อกับสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งมีบริษัทบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เป็นผู้รับสัมปทาน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร (กม.)นั้น จะทำให้ BEM ได้รับผลกระทบเรื่องจำนวนผู้โดยสาร
จากการศึกษาพบว่าในปีแรกที่เปิดบริการส่วนต่อขยายสายสีเหลือง จะทำให้ผู้โดยสารของ BEM ลดลง 9,000 คนต่อวัน หรือประมาณ 1% และผู้โดยสารจะลดลงเรื่อยๆจนถึงปีที่ 30 ของสัญญาสัมปทาน ที่พบว่าผู้โดยสารจะลดลงประมาณ 30,000 คนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม 2563 รฟม.จะเชิญ BTS และ BEM มาเจรจา 3 ฝ่าย เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่า รฟม.จะให้ BTS ชดเชยแก่ BEM ถ้า BTS ต้องการต่อขยายสายสีเหลืองออกไป แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะชดเชยในลักษณะใด หรือเป็นจำนวนเงินเท่าใด
ส่วนความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลัก แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งมีกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR Joint Venture โดยมี BTS เป็นแกนนำ เป็นผู้รับงานทั้ง 2 สายทางนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าภาพรวมประมาณ 45% |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 10/01/2020 7:28 pm Post subject: |
|
|
ทะลวงต่อขยาย เหลือง-ชมพูเฟส 2 ดึงคนศาลรัชดาฯ-เมืองทองเข้าระบบ
หน้าแรก / เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 8 มกราคม 2563
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,537 วันที่ 5-8 มกราคม 2563
นอกจาก กลุ่มบีทีเอส จะก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ระยะทาง 19 กิโลเมตร เปิดใช้เส้นทางเต็มทั้งระบบปลายปีนี้แล้ว ยังเร่งก่อสร้างเส้นทางสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร และ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2564 ล่าสุด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีแผนเชื่อมโยงโครงข่ายรองรับกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่จุดอับ ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน มีข้อจำกัดเรื่องรถสาธารณะ จึงขีดแนวส่วนต่อขยายออกไปอีก 2 เส้นทาง กวาดคนให้เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าเพิ่ม ได้แก่ ส่วนต่อขยายสายสีเหลือง รูปแบบโมโนเรล ช่วงถนนลาดพร้าว-รัชดาฯ บริเวณอาคารจอดแล้วจรของ รฟม. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดกับ MRT ใต้ดินสีนํ้าเงิน ปัจจุบัน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้รับสัมปทานให้บริการเดินรถ ก่อสร้างยกระดับวิ่งไปตามเส้นทางของ ถนนรัชดาฯ ผ่านหน้าศาลอาญามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กลุ่มที่ตั้งของคอนโดมิเนียมที่อยู่บริเวณด้านในซอย
ส่วนการเวนคืนมีกระทบเล็กน้อยบริเวณหน้าศาลและบาทวิถี เนื่องจากเป็นจุดที่ตั้งสถานีบริเวณหน้าศาลวิ่งไปตามเกาะกลางถนนรัชดาฯ ไปสิ้นสุดที่บริเวณใกล้แยกรัชโยธิน ถนนพหลโยธิน บริเวณนี้เวนคืนเล็กน้อยส่วนใหญ่เป็นบาทวิถีของกรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้าง ตัวสถานี บริเวณแยกรัชโยธินหน้าสน.พหลโยธินเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ที่สถานีพหลโยธิน 24 ที่บีทีเอส จะสร้างวอล์กเวย์เชื่อมระหว่าง 2 สถานีอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเปลี่ยนถ่ายเส้นทาง ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก รฟม.ยืนยันว่า การก่อสร้างเฟส 2 ของสายสีเหลืองจะเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากอยู่ในเขตเมือง มองว่าจะมีคนใช้บริการสูง ทั้งเจ้าหน้าที่ คนมาติดต่อยังศาล อีกทั้ง สถาบันการศึกษาตลอดจนผู้อยู่อาศัยในระแวกนั้นอย่างคอนโดมิเนียม เช่นเดียวกับนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) ยํ้าว่า ภายในปี 2563 น่าจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างเส้นทางส่วนต่อขยายนี้ ซึ่งระยะทางมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร วิ่งจากอาคารจอดรถรฟม. ไปยังแยกรัชโยธิน แต่ทั้งนี้ รฟม. มอบให้ทาง BEM ศึกษา เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อผู้โดยสารของสายสีนํ้าเงิน
อย่างไรก็ตามนายสุรพงษ์ ประเมินว่าน่าจะส่งผลดีมากกว่า ทั้งการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างกัน การป้อนผู้โดยสารให้กับสายสีนํ้าเงิน ตลอดจนของบีทีเอสเอง จากการรับคนจากพระราม 9 ทั้งใต้ดินสีนํ้าเงิน สายสีส้มที่จะเปิดให้บริการในอนาคต ผ่านมายังสายสีเหลืองและสายสีเขียวบีทีเอสทั้งระบบ ขณะส่วนต่อขยายสายสีชมพูเชื่อมเข้าเมืองทองธานี วิ่งไปตามทางด่วนมี 2 สถานี ให้บริการ ได้แก่ บริเวณอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์และด้านหน้าของทะเลสาบเมืองทองธานี ซึ่งการเจรจากับ รฟม. ผ่านไป 2 ครั้ง น่าจะเข้าพื้นที่ได้ภายในปีนี้เพื่อก่อสร้างไปพร้อมกับเส้นทางหลักสายสีเหลืองและสายสีชมพู โดยใช้เงินลงทุนเอง คาดว่าจะรับผู้โดยสารรายใหม่ๆ เติมเข้าระบบในปริมาณหลัก 10,000คนขึ้นไป อนาคตการเดินทางจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมีโครงข่ายรถไฟฟ้าต่อขยายเชื่อมโยงเป็นใยแมงมุม ทะลุทะลวงรับคนเข้าระบบมากขึ้นแม้จะอยู่ในมุมอับของเมือง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 11/01/2020 9:21 pm Post subject: |
|
|
ที่พุ่งวาละล้าน ต่อขยายสีเขียว แยกรัชโยธินสุดปัง
หน้าอสังหาริมทรัพย์
ออนไลน์เมื่อ 11 มกราคม 2563
ตีพิมพ์ใน หน้า 25
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,538
วันที่ 9-11 มกราคม 2563
ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าพุ่งไม่หยุด แยกรัชโยธิน ต่อขยายบีทีเอส สายสีเขียว สุดปัง จุดตัดรถไฟฟ้า ต่อขยายสายสีเหลือง-เขียว สายสีนํ้าเงิน ราคาพุ่ง 1 ล้านบาทต่อตารางวา ส่วนต่อขยายสีนํ้าเงิน ผ่านซีบีดี ทั้งเก่า-ใหม่ เยาวราชยันรัชดาฯ จุดตัดมากสุดไม่เฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูง แต่ทุกเส้นทางรถ
ไฟฟ้าพาดผ่าน ที่นั่นย่อมเกิดทำเลทองใหม่ ราคาที่ดินถูกปั่นจากหลักหมื่นขยับขึ้นหลักแสน ทะลุตารางวาละ 1 ล้านบาทในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะจุดเปลี่ยนถ่ายรถไฟฟ้า ทั้งนี้ทำเลมาแรง นับจากปี 2563 ต้องยกให้บริเวณสี่แยกรัชโยธิน ซึ่งเรียกว่า ส้มหล่นหลายเด้ง เนื่องจากกำลังจะมีส่วนต่อขยายสายสีเหลือง ช่วงรัชดาฯ-ลาดพร้าวถึงแยกรัชโยธิน จุดตัดกับใต้ดิน MRT สายสีนํ้าเงินวิ่งบรรจบ แยกรัชโยธินเกิดจุดตัดขนาดย่อมบริเวณสถานีพหลโยธิน 24ของส่วนต่อขยายบีทีเอส สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ซึ่งย่านนี้ เป็นย่านชุมชน แหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น ตึกช้าง ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ย่านช็อปปิ้งอย่างเมเจอร์รัชโยธิน ทะลุเชื่อมถนนวิภาวดีฯ ได้อีกเส้นทาง ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับแรงยกเวิ้งตารางวาละกว่า 1 ล้านบาท ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว ชนกับแยกลาดพร้าว-รัชดาฯ วิ่งวนถึงเวิ้งธนาคารไทยพาณิชย์ - เมเจอร์รัชโยธิน บริเวณนี้มีร้านค้าเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งนี้นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี ฐานะอุปนายกและเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า ทำเลที่น่าสนใจตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และส่วนต่อขยาย โดยสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) จะมีศักยภาพพัฒนาคอนโดมิเนียมได้ จะสิ้นสุดแค่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ถัดออกไป 2 ฟากฝั่ง จะเข้าสู่เขตดอนเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินทหาร และปลายทาง คือคูคต ซึ่งเป็นทำเลแนวราบราคาที่ดินในซอยอย่างลำลูกกาคลอง 4 ไร่ละ 5 ล้านบาท หากติดถนนใหญ่ไร่ละ 10 ล้านบาท สามารถพัฒนาทาวน์เฮาส์ 2 ล้านบาทและบ้านเดี่ยว 4-5 ล้านบาทได้สำหรับทำเลตลาดยิ่งเจริญ เป็นชุมชนขนาดใหญ่ เจ้าของตลาดรายนี้ ได้พัฒนาเป็นตลาดติดแอร์ เพิ่มเติมเมื่อรถไฟฟ้ามาถึง ขณะฝั่งตรงกันข้าม มีห้าง บิ๊กซี (พหลโยธินซอย 52) หากรวมแยกมหาวิทยาลัยเกษตรฯเข้าไปด้วย จะมีทั้งสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ กลุ่มมีกำลังซื้อที่ผู้ปกครองนิยมซื้อให้บุตรหลาน ราคาที่ดิน ปี 2563 อยู่ที่ 4 แสนบาทต่อตารางวา เทียบจาก 2 ปีก่อน2 แสนบาทต่อตารางวา
ขณะทำเลที่น่าจับตามากที่สุด นอกจากห้าแยกลาดพร้าวคงหนีไม่พ้น ตั้งแต่ ลาดพร้าว-รัชดาฯ ถึงแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นย่านที่มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นหนาแน่น รวมทั้งห้างเมเจอร์ ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่ามีคนเข้าใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อมีรถไฟฟ้า 2 เส้นทางมาบรรจบกันกลายเป็นจุดตัด ยิ่งดันราคาที่ดินสูงขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งๆที่ปัจจุบันราคาก็ขยับเพราะสายสีเขียวอยู่แล้ว หากใครขายต่ำกว่า ล้านบาทต่อตารางวา ถือว่าพลาดมาก อย่างไรก็ตาม แม้บริเวณนี้จะมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมาก แต่ทำเลนี้ยังมีที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งอยู่ติดกับสน.พหลโยธิน เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า ไร่ ปัจจุบันให้เช่าประกอบกิจการโรงเลื่อย โดยเจ้าของที่ดินไม่ยินยอมขายแม้ดีเวลอปเปอร์หลายเจ้าจะติดต่อขอซื้อให้ราคาสูงก็ตาม ส่วนอีกแปลงที่ดินแดนเนรมิต ตระกูลเสรีเริงฤทธิ์ เนื่อที่ 33 ไร่ เจ้าของไม่ขายเช่นกัน ขณะกลุ่มเซ็นทรัล เตรียมพัฒนาที่ดินแปลงพหลโยธิน เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ คาดว่าอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขออนุญาตทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพราะตัดถนนขนาด เลน ผ่านแปลงที่ดินเชื่อมตั้งแต่ถนนพหลโยธินถึงวิภาวดีฯ ทำให้มูลค่าที่ดินสูงขึ้นหลายเท่าตัวนายเลิศมงคลกล่าวต่อว่า นอกจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้ว เส้นทางที่พลิกกลับเป็นบวกทำให้ย่านฝั่งธนบุรีคึกคัก ถนนจรัญสนิทวงศ์ตลอดแนว บางยี่ขัน บางอ้อ ท่าพระ วิ่งไปหลักสอง ราคาขยับขึ้นยกแผง 5-6 แสนบาทต่อตารางวา จาก 1-2 ปีก่อน เพียง 3 แสนบาทต่อตารางวา ส่วนคอนโดมิเนียมเดิมทำท่าขายช้า สามารถขายได้เร็วดูดซับซัพพลายได้มากจากการเปิดให้บริการครบวงก่อนกำหนด ขณะจุดเด่นของส่วนต่อขยายสายสีนํ้าเงิน จะวิ่งเป็นรูปตัวคิว (Q) เนื่องจากวิ่งผ่านเข้าย่านซีบีดีเก่าอย่างเยาวราช สำเพ็ง อายุกว่า 100 ปี ผ่านย่านศาลาแดง สามย่าน หัวลำโพง ซีบีดีหลัก และรัชดาฯ ซีบีดีใหม่ ทำให้มีจุดตัดมากที่สุดสำหรับเส้นทางนี้ โดยเฉพาะจุดตัดศูนย์วัฒนธรรมฯ (พระราม 9-รัชดาฯ) ของสายสีนํ้าเงิน สายสีส้มตะวันออก ที่กำลังก่อสร้าง และสายสีส้มตะวันตก รัฐเตรียมนำออกประมูล ถือว่าเป็นฮับโซนตะวันออกที่น่าจับตา
อีกเส้นทางที่เป็นทำเลดาวรุ่งในอนาคต จะเป็นสายสีเหลือง ตลอดเส้นทางของถนนลาดพร้าวซึ่งมีชุมชนค่อนข้างหนาแน่นยาวไปถึงบางกะปิ-รามคำแหง รถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่ทำเลที่ไม่แนะนำอาจซํ้ารอยสายสีม่วง ได้แก่ สายสีชมพู
มีเพียงเมืองมองและศูนย์ราชการเท่านั้นนอกนั้นตลอดเส้นทาง ไปรามอินทราจดมีนบุรี เป็นโซนบ้านแนวราบ ไม่มีแหล่งงานและเชื่อว่าผู้โดยสารจะไม่มากด้านนาย สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) (บีทีเอสซี) ทำเลตั้งแต่แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวถึงแยกรัชโยธิน จะเป็นอีกทำเลที่มีผู้ประกอบการให้ความสนใจ โดยเฉพาะ รัชดาฯ ลาดพร้าว และพหลโยธินเนื่องจากมีรถไฟฟ้าเชื่อม ถึงกันเป็นวงกลมในอนาคต สร้างความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/01/2020 9:00 am Post subject: |
|
|
บอร์ด รฟม.อนุมัติผลเจรจา BTS ลุยต่อขยายรถไฟฟ้าสีชมพูเข้าเมืองทองฯ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 22 มกราคม 2563 - 15:37 น.
บอร์ด รฟม.อนุมัติผลเจรจา BTS ลุยต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าเมืองทองธานี สีเหลือง เชื่อมรัชโยธินติดปมแย่งผู้โดยสารสายสีน้ำเงิน
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 ม.ค.2563 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ได้อนุมัติผลเจรจาการลงทุนส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี ตามที่บริษัท นอร์ท เทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) ผู้รับสัมปทานนำเสนอจะลงทุน 3,379 ล้านบาท สร้างจากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม. จำนวน 2 สถานี
โดยผลเจรจาเอกชนจะแบ่งรายได้ค่าโดยสารส่วนต่อขยายให้กับ รฟม.ก็ต่อเมื่อมีผลการดำเนินการที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 30% ตาม EIRR ซึ่งจะเป็นหลังปีที่ 20 ไปแล้ว เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 2-3 แสนเที่ยวคนต่อวัน จากปีแรกเปิดบริการสายสีชมพูทั้งสายหลักและส่วนต่อขยายจะอยู่ที่ 1.9 แสนเที่ยวคนต่อวัน
หลังจากนี้จะเสนอคณะกรรมการมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 จะมีประชุมวันที่ 5 ก.พ.2563 จะพิจารณาร่างแก้ไขสัญญาเพิ่ม ตามผลเจรจา เช่น เรื่องเส้นทางที่เพิ่มเติมไปในเมืองทองธานี ผลเงื่อนไขการลงทุนทั้งหมด รวมถึงการที่ รฟม.จะต้องเป็นผู้เวนคืนที่ดินให้เพิ่มตรงหัวมุมทางเข้าประมาณ 200-300 ตารางวา นอกเหนือจากขอใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนจากการทางพิเศษฯ นายภคพงศ์กล่าวและว่า
เมื่อคณะกรรมการมาตรา 43 อนุมัติแล้ว จะส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจร่าง ส่งกลับไป รฟม. กระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก่อนจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเวลาดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อีกสักระยะหนึ่ง แต่จะเร่งให้มีการก่อสร้างภายในปี 2563 นี้ ส่วนการเปิดให้บริการจะล่าช้าจากสายหลักไปอย่างน้อย 1 ปี
นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับสายสีหลืองส่วนต่อขยายที่บริษัท อีสเทิร์น โมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานเสนอจะลงทุนก่อสร้างจากแยกรัชดา-ลาดพร้าวไปแยกรัชโยธิน เชื่อมกับสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 2.6 กม. ลงทุน 3,779 ล้านบาท ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากทาง บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้รับสัมปทานสายสีน้ำเงิน มีข้อกังวลจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารของสายสีน้ำเงิน
ภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ได้แก่ รฟม. BEM และกลุ่มบีทีเอสเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการชดเชยให้กับ BEM ยังไงได้บ้าง เนื่องจากจะมีผู้โดยสารหายไป 9,000 เที่ยวคนต่อวัน
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 23/01/2020 12:46 pm Post subject: |
|
|
อนุมัติผลเจรจาต่อสีชมพูไปเมืองทอง
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
23 มกราคม 2563 เวลา 09:14 น.
บอร์ด รฟม.เตรียมเสนอร่างแก้ไขสัญญา-ต่อสีเหลืองยังไม่จบ
บอร์ด รฟม.ไฟเขียวอนุมัติผลเจรจาส่วนต่อขยายสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานี เตรียมเสนอคณะกรรมการ มาตรา 43 ยกร่างแก้ไขสัญญาเพิ่ม 5 ก.พ.นี้ ส่วนต่อขยายเหลืองไปรัชโยธินยังเจรจาไม่จบ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายภคพงศ์ กันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม. ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมบอร์ดวันนี้เห็นชอบตามที่ รฟม.เสนอผลการเจรจาส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ร่วมกับบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน ส่วนที่เพิ่มเติมเรื่องเส้นทางช่วงสถานีศรีรัช ถึงเมืองทองธานี การลงทุน หน้าที่ความรับผิดชอบ โดย รฟม.จะต้องเวนคืนที่ดินส่วนต่อขยายมีทั้งที่ดินของเอกชน และของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประมาณ 200-3,000 ตารางวา โดยเอกชนรับผิดชอบจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน รวมถึงเรื่องส่วนแบ่งรายได้ส่วนต่อขยาย จะได้รับเมื่อผลประกอบการบริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 30% คาดว่าหลังจากปีที่ 20 ไปแล้ว โดยปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 200,000 คนต่อวัน จากที่คาดการณ์ช่วงแรกไว้ 190,000 คนต่อวัน ขั้นตอนต่อไป รฟม.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการตามมาตรา 43 พ.ร.บ.เอกชนร่วมทุน ปี 2556 พิจารณาแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมวันที่ 5 ก.พ.นี้ จากนั้นจะเสนอสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา และดำเนินการตามขั้นตอนก่อน
เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป
นายภคงพงค์กล่าวว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ส่วนต่อขยาย จากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน อยู่ระหว่างการประชุมเจรจาร่วม 3 ฝ่าย ระหว่าง รฟม. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) เรื่องผลกระทบต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องปริมาณผู้โดยสาร จะนัดการประชุมอีกครั้งสิ้นเดือน ก.พ.นี้.
บอร์ด รฟม.เคาะ โมโนเรล สีชมพู เอกชนเพิ่มผลตอบแทนส่วนต่อเข้าเมืองทองฯ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 22 มกราคม 2563 เวลา 18:19
ปรับปรุง: 23 มกราคม 2563 เวลา 08:30
บอร์ด รฟม.ไฟเขียวผลเจรจารถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี เอกชนแบ่งรายได้รัฐเพิ่ม ชง กก.มาตรา 43 เคาะร่างสัญญาเพิ่มเติม 5 ก.พ.นี้ ส่วนต่อขยายสีเหลืองนัดเจรจา 3 ฝ่ายปมกระทบสัมปทาน Bem เผยทำผู้โดยสารสีน้ำเงินลด 9 พันคน/วัน
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นประธาน วันที่ 22 ม.ค. มีมติเห็นชอบผลการเจรจาโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี กับบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ NBM แล้วในส่วนเพิ่มเติม โดยหลังจากนี้ รฟม.จะนำเสนอคณะกรรมการกำกับโครงการฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 ซึ่งจะประชุมในวันที่ 5 ก.พ. เพื่อพิจารณาผลเจรจาและร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นจะส่งให้อัยการสูงสุดตรวจและเห็นชอบร่างสัญญา จึงจะเสนอ รมว.คมนาคมเห็นชอบและส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ PPP อนุมัติ ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ผลการเจรจาส่วนต่อขยายสายสีชมพู เช่น เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ทั้งค่าก่อสร้างงานโยธา และค่าเวนคืน ส่วน รฟม.จะดำเนินการเวนคืนที่ดินตามอำนาจหน้าที่ เพราะนอกจากจะมีการใช้พื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บางส่วนแล้วจะมีส่วนที่มีการเวนคืนที่ดินเพื่อเป็นส่วนของสเปอร์ไลน์ประมาณ 200-300 ตารางวา
สำหรับการเจรจาเรื่องการแบ่งปันผลตอบแทนส่วนเพิ่ม หรือ upside sharing ได้ข้อสรุปว่า รฟม.จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าโดยสารเส้นทางส่วนต่อขยายต่อเมื่อมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30% หรือต้องมีจำนวนผู้โดยสารเกือบ 3 แสนคน/วัน ซึ่งจะอยู่ช่วงหลังจากปีที่ 20 ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการไว้ที่ประมาณ 1.9 แสนคน/วัน ซึ่งตามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีผลตอบแทนทางการลงทุน (EIRR) ที่ 10% โดย รฟม.จะมีผลตอบแทน 2 ส่วน คือ ผลตอบแทนรายปี เป็นรายได้คงที่ และรายได้จากส่วนแบ่งผลดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นที่คาดว่าจะได้ในหลังจากปีที่ 20 ไปแล้ว
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ส่วนต่อขยายจากสถานีแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธินนั้น ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า จะมีการประชุมร่วม 3 ฝ่ายระหว่าง รฟม.กับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานสายสีเหลือง และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ปลายเดือน ม.ค.นี้ กรณีที่ส่วนต่อขยายสายสีเหลืองมีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานของ BEM โดยการศึกษาพบว่าทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลดลงประมาณ 9,000 คน/วัน ซึ่งรูปแบบการชดเชยนั้นจะต้องเร่งหารือร่วมกัน
สำหรับสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม. จำนวน 2 สถานี ลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท สายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. ลงทุนกว่า 3,700 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 27/01/2020 1:22 pm Post subject: |
|
|
สวัสดีค่ะ น้องทันใจมารายงานเช่นเคยจ้า
ช่วงนี้บนถนนลาดพร้าวจะคึกคักเป็นพิเศษนะคะ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา(24 ม.ค. 63) ทางโครงการฯได้ดำเนินงานยกติดตั้งชิ้นส่วนคานทางวิ่ง (Guide way Beam) ซึ่งเป็นสายทางจากสถานีโชคชัย 4 มุ่งหน้าสถานีลาดพร้าว 71 หลายท่านอาจจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบนถนนลาดพร้าวเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ แล้วนะคะ เพราะทางทีมงานเร่งดำเนินงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อเปิดให้ใช้บริการตามระยะเวลาที่กำหนด ประมาณปลายปี 2564 นั่นเองค่ะ
ครั้งต่อไปน้องทันใจจะมาอัพเดทภาพการดำเนินงานพื้นที่ไหนอีก โปรดรอติดตามชมกันด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/CRSTECONYL/posts/997634163943695 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 03/02/2020 3:54 pm Post subject: |
|
|
BTS เฉือนรายได้ 20-40% แลกสร้างโมโนเรลเชื่อม เมืองทอง-รัชโยธิน
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 - 13:00 น.
หลัง คีรี กาญจนพาสน์ เจ้าพ่อรถไฟฟ้าบีทีเอสและพันธมิตร ซิโน-ไทยฯ และราช กรุ๊ป รวมตัวเป็นหุ้นส่วนธุรกิจในนามกิจการร่วมค้า BSR ยื่นข้อเสนอซองที่ 3 ทุ่มเม็ดเงินอีก 7,158 ล้านบาท ขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทยที่ใช้เงินลงทุนร่วมแสนล้านบาทให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ยืด สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เลี้ยวเข้าเมืองทองธานี ระยะทางประมาณ 2.8 กม. จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี วงเงินลงทุน 3,379 ล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เชื่อมจากแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวถึงแยกรัชโยธิน เชื่อมกับสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 2.6 กม. วงเงินลงทุน 3,779 ล้านบาท
เหตุผลที่มีข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมเส้นทางหลักที่ กลุ่มบีทีเอส ได้รับสัมปทานจาก รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ระยะเวลา 30 ปี
คีรี บอสใหญ่บีทีเอสเคยระบุถึงที่มาที่ไป ไว้ว่า เพื่อให้โครงการสมบูรณ์ ผู้โดยสารเดินทางสะดวก ไม่ขาดช่วงเหมือนสายสีม่วงที่ผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้า ความจริงเวลานี้รถไฟฟ้าหลายสายผู้โดยสารยังไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ไม่ใช่ว่าการบริการไม่ดี แต่การเชื่อมต่อเส้นทางยังไม่สมบูรณ์พอ
จึงเป็นที่มาของการจับมือกับพี่ชาย อนันต์ กาญจนพาสน์ เจ้าของที่ดินในเมืองทองธานี ลงขันสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพูเข้าไปในศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มี 2 สถานี ซึ่งสถานีแรกอยู่บริเวณอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสถานีที่ 2 อยู่บริเวณทะเลสาบ รองรับผู้อยู่อาศัยกว่า 1.5 แสนคน และผู้มาใช้บริการศูนย์การประชุมอิมแพ็คฯกว่า 10 ล้านคน/ปี
ขณะที่สายสีเหลือง คีรี แจกแจงว่าจะสร้างไปตามถนนรัชดาภิเษกไปสิ้นสุดที่แยกรัชโยธิน เชื่อสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) มี 3 สถานี คือ สถานีรัชดา สถานีศาลยุติธรรม และแยกรัชโยธิน รองรับแหล่งงานใกล้กับเมเจอร์รัชโยธิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ตึกช้าง
ณ เดือน ธ.ค. 2562 งานก่อสร้างเส้นทางหลักของสายสีชมพูอยู่ที่ 48.06% ยังล่าช้าจากแผน 4-5% และสายสีเหลืองอยู่ที่ 47.71% ยังล่าช้าจากแผนงาน 2.61% ทั้ง 2 สายทางจะแล้วเสร็จเปิดบริการพร้อมกันในเดือน ต.ค. 2564
สำหรับส่วนต่อขยาย 2 ช่วง ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ตอกเข็ม ต้องขยับไทม์ไลน์การเปิดบริการออกไปประมาณ 1-2 ปี จากเป้าเดิมคาดว่าจะเปิดหวูดพร้อมกันทั้งโครงข่ายในปี 2564
ความคืบหน้าล่าสุดของ 2 ส่วนต่อขยาย ในส่วนของสายสีชมพูผลการเจรจาเพิ่งจะผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงรออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มตอกเข็มอย่างเร็วภายในปลายปีนี้ และแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2566
ที่ยังต้องลุ้นหนัก ส่วนต่อขยายสายสีเหลือง เพราะนอกจากรอการอนุมัติ EIA ยังต้องรอผลการเจรจาปมแย่งผู้โดยสารของสายสีน้ำเงินที่ BEM-บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ แพนิก ผลจากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีเหลืองที่สร้างเชื่อมกับสถานีลาดพร้าวจะกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารของสายสีน้ำเงิน
ทำให้ตกอยู่ในสถานะยังลูกผีลูกคน ไม่รู้จะได้ไปต่อหรือถูกพับแผน อยู่ที่การตัดสินใจของ บิ๊ก รฟม. คู่สัญญาของทั้งสองฝ่ายจะทะลวงปมคาใจได้อย่างไร
ข้อกังวลของ BEM เป็นตัวเลขของอนาคตที่นำมาเจรจากัน ไม่มีใครรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างคือการคาดการณ์ยังหาความจริงไม่ได้ เปิดแล้วอาจจะหนุนกันก็ได้หรือจะกระทบแต่ก็อาจจะไม่มาก แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมวิเคราะห์
ตอนนี้ รฟม. ตกอยู่ในบนทาง 2 แพร่ง ถ้าให้บีทีเอสลงทุนก็ต้องยอมรับว่าอาจจะต้องถูก BEM เคลมในอนาคต ถ้าผู้โดยสารลดลงจริงก็ต้องหามาตรการชดเชย เช่น ขยายเวลาสัมปทาน หรือเจรจาบีทีเอสมารับภาระส่วนนี้แทน แลกกับได้โครงข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มโดยที่ไม่ต้องควักเงินลงทุน
ขณะที่ ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ.นี้จะมีประชุมร่วมระหว่างบีทีเอส BEM และ รฟม.เพื่อหาข้อสรุป ทั้งนี้ จากการศึกษาของ BEM พบว่าสายสีเหลืองส่วนต่อขยายจะทำให้ผู้โดยสารของสายสีน้ำเงินลดลงประมาณ 9,000 เที่ยวคนต่อวัน
สายสีเหลืองส่วนต่อขยายยังไงก็ต้องสร้าง กำลังหาข้อยุติและทางออก
นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับผลเจรจาการตอบแทนของส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงจะใช้สูตรเดียวกัน คือ บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารทั้งโครงข่ายให้ รฟม.บนพื้นฐานว่าจะไม่นำผู้โดยสารของส่วนต่อขยายมารวมกับสายทางหลัก เพื่อจะทำให้ รฟม.มีรายได้มากและเร็วขึ้น
โดยคิดตามความผันแปรของปริมาณผู้โดยสาร หากเพิ่มมากกว่า 30% ต้องแบ่งรายได้ให้ รฟม. 20% หากเพิ่มมากกว่า 50% ต้องแบ่ง 40% ยังไม่รู้ว่าจะเป็นปีที่เท่าไหร่ รฟม.ถึงจะมีรายได้ส่วนนี้ และตั้งแต่ปีที่ 11-30 รฟม.จะได้เงินรายได้อีกปีละ 250 ล้านบาท อย่างของสายสีชมพูที่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดจะเปิดบริการในปี 2564 ผู้โดยสารอยู่ที่199,054 เที่ยวคนต่อวัน หากเปิดส่วนต่อขยายในปี 2566 ผู้โดยสารเพิ่มมากกว่า 30% หรือผู้โดยสารอยู่ที่ 2.6 แสนเที่ยวคนต่อวัน รฟม.ก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ในทันที
ทั้งหมดล้วนเป็นการคาดการณ์ทางวิชาการ ยังต้องลุ้นสิ่งที่คิดกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 06/02/2020 4:57 pm Post subject: |
|
|
#ตามแผนการศึกษาสายสีชมพู จะมีการต่อขยายเส้นทางจากปลายทาง #สถานีมีนบุรี ไปถึง #สถานีลาดกระบัง ของ Airport Rail Link ด้วยนะครับ
นอกจากนี้สายสีเหลืองมีส่วนต่อขยาย รัชดา - รัชโยธิน ไปวงศสว่าง และ จากสำโรงไปพระประแดง ด้วย
https://www.renderthailand.com/yellow-pink-extension/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 06/02/2020 5:14 pm Post subject: |
|
|
ยังคงดำเนินการตามมารตการการป้องกัน และลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ได้ดำเนินการฉีดพรมน้ำ บริเวณพื้นที่การดำเนินงานก่อสร้างของสถานีศรีอุดม บนถนนศรีนครินทร์ ทางโครงการฯได้ จัดทีมงานฉีดพรมน้ำระหว่างการการปฏิบัติงานในทุกๆวัน และได้เพิ่มจำนวนรอบในการฉีดพรมน้ำ เพื่อช่วยลดปัญหาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
https://www.facebook.com/CRSTECONYL/posts/1006208716419573?__tn__=H-R |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 12/02/2020 1:55 am Post subject: |
|
|
กรมราง ลุยไซด์งานรถไฟฟ้าสีเหลือง กำชับมาตรการ ป้องกันฝุ่น PM2.5
เผยแพร่: อังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 19:38
ปรับปรุง: อังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา. 20:21
อธิบดีกรมราง ลงพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เช็คมาตรการ ป้องกันฝุ่น PM2.5 และเร่งคืนผิวจราจร เผยก่อสร้างคืบหน้า 51% มั่นใจเสร็จและเปิดให้บริการต.ค. ปี 64 กำชับเร่งหารือ ทางเชื่อม BTS กับสายสีเขียว (สถานีสำโรง) และ สถานีหัวหมากของแอร์พอร์ต เรลลิงก์
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง และมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และมาตรการความปลอดภัย ในพื้นก่อสร้างว่า ได้เน้นย้ำผู้รับผิดชอบงานก่อสร้าง ในการดูแลการปฏิบัติการในเรื่องมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และนโยบายการลดการจราจรติดขัด ตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ได้แก่ 1. ขอให้พิจารณาการติดตั้งสเปย์ฉีดน้ำแรงดันสูงใต้ทางวิ่ง การทำความสะอาดล้อรถที่วิ่งออกจากพื้นที่ก่อสร้าง และติดตั้งผ้าใบคลุมบริเวณที่มีฝุ่น รวมถึงการ ใช้ละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นในชั่วโมงเร่งด่วนใต้อาคารสถานีรถไฟฟ้าตลอดแนวถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์ และเทพารักษ์
2. ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างโดยให้ระวังการก่อสร้างที่ด้านล่างคงเป็นผิวจราจรอย่างเข้มงวด
3. พิจารณาจัดทำแผนในเรื่องการคืนพื้นที่ผิวการจราจร เพื่อลดปัญหาจราจร บริเวณถนนลาดพร้าว ศรีนคริน เทพารักษ์ในช่วงที่โครงการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ
4. การบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(สถานีสำโรง) ของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กับ กับสายสีเขียว (สถานีสำโรง) ของ BTS และทางเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีพัฒนาการ) กับ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (สถานีหัวหมาก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินให้เป็นสถานีร่วม
ทั้งนี้ ผลการคืบหน้าในการก่อสร้างเป็นที่น่าพอใจ ภายใต้การดูแลของ รฟม. อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบัน การก่อสร้างมีความคืบหน้า 51% โดย รฟม. คาดหมายว่า จะเปิดให้บริการทันกำหนดในเดือนตุลาคมปี 2564 รวมระยะเวลา 39 เดือน
อธิบดีกรมรางลงไซต์รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเร่งสร้างทางเชื่อม BTS-แอร์พอร์ตลิงก์
วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17:01 น.
วันที่ 11 ก.พ. 2563 นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว สำโรง และมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และมาตรการความปลอดภัย ในพื้นก่อสร้างรถไฟฟ้า
โดยได้เน้นย้ำผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างให้ดูแลการปฏิบัติการในเรื่องมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) และนโยบายการลดการจราจรติดขัด ดังนี้
1.ขอให้พิจารณาการติดตั้งสเปย์ฉีดน้ำแรงดันสูงใต้ทางวิ่ง การทำความสะอาดล้อรถที่วิ่งออกจากพื้นที่ก่อสร้าง และติดตั้งผ้าใบคลุมบริเวณที่มีฝุ่น รวมถึงการใช้ละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นในชั่วโมงเร่งด่วนใต้อาคารสถานีรถไฟฟ้าตลอดแนวถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์ และเทพารักษ์
2.ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้าง โดยให้ระวังการก่อสร้างที่ด้านล่างคงเป็นผิวจราจรอย่างเข้มงวด
อธิบดีกรมรางลงไซต์รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเร่งสร้างทางเชื่อม BTS-แอร์พอร์ตลิงก์
3.พิจารณาจัดทำแผนในเรื่องการคืนพื้นที่ผิวการจราจร เพื่อลดปัญหาจราจร บริเวณถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ ในช่วงที่โครงการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ
4.การบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีสำโรงของ รฟม. กับสายสีเขียว สถานีสำโรงของ BTS และทางเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีพัฒนาการกับ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีหัวหมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินให้เป็นสถานีร่วม
ทั้งนี้ ผลการคืบหน้าในการก่อสร้างเป็นที่น่าพอใจ มีความคืบหน้าถึงร้อยละ 51 โดย รฟม.คาดหมายว่าจะเปิดให้บริการทันกำหนดในเดือนตุลาคมปี 2564 |
|
Back to top |
|
|
|