RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264921
ทั้งหมด:13576204
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 18, 19, 20  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 15/09/2022 1:36 pm    Post subject: Reply with quote

‘คมนาคม’ เปิดฉากขนส่ง ‘APEC’ เร่งเครื่องลงทุนแลนด์บริดจ์ 1.1 ล้านล้าน
วันพฤหัสบดี ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 9:17 น.

‘ศักดิ์สยาม’เปิดฉากประชุม ขนส่ง ‘APEC’ดันไทยฮับโลจิสติกส์อาเซียน โชว์แผนพัฒนา EEC พร้อมเดินหน้า แลนด์บริดจ์ 1.1 ล้านล้าน ยึดโมเดลท่าเรือ Tuas สิงคโปร์ เล็งชง ครม.เห็นชอบหลักการภายในปีนี้ วางเป้าสร้างเสร็จปี 73

15 ก.ย.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค (APEC Transportation Working Group: TPTWG) ว่า การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้เป้าหมายหลัก คือ การขนส่งที่ไร้รอยต่อ อัจฉริยะ และยั่งยืน เพื่ออำนวยความสะดวกการค้า การลงทุน และฟื้นฟูความเชื่อมโยงด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจเอเปคและระดับโลก

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้จัดทำข้อมูลการพัฒนาคมนาคม ขนส่ง และโลจิสติกส์ของประเทศไทย ครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี นำเสนอให้กับประเทศสมาชิก จำนวน 21 เขตเศรษฐกิจ ได้รับทราบแผนการดำเนินการของประเทศ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ จะมีการหารือในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) ทั้งเรื่องนโยบายสีเขียว (Green) และการลดคาร์บอน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเน้นการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด BCG Economy เพราะหากไม่เริ่มดำเนินการ จะโดนกีดกันทางด้านการค้า

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีนั้น กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอว่า ในขณะนี้ ได้ดำเนินการระยะที่ 1 กล่าวคือ การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3, การพัฒนาเมืองการบินอู่ตะเภา รวมถึงแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) ทั้งนี้ เพื่อเชื่อมโยงในเขตเศรษฐกิจเอเปคด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และศักยภาพที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างเขตเศรษฐกิจในการเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาค

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) ซึ่งจะเป็นเส้นทางเดินเรือใหม่ และเป็นประตูเศรษฐกิจของโลก โดยไทยจะใช้ต้นแบบท่าเรือ Tuas ของประเทศสิงคโปร์ ที่ตั้งเป้าหมายในการเป็นท่าเทียบเรือตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 65 ล้านทีอียู ในระยะ 20 ปี หรือปี 2585 ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ถือว่ามีข้อได้เปรียบในการเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาค เชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำ ตามนโยบายสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และราคาสมเหตุสมผล


สำหรับความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา และลงรายละเอียดตามต้นแบบของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการภายในปี 2565 ก่อนที่ในปี 2566 จะไป Roadshow ของโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน

ส่วนการดำเนินการโครงการนั้น คาดว่า ในปี 2566 ก็จะเห็นความชัดเจนและเป็นรูปธรรมในปี ส่วนการเริ่มดำเนินการก่อสร้างนั้น จะต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป โดยตามแผนธุรกิจนั้น จะแล้วเสร็จในปี 2573 อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งเป้าหมายให้ดำเนินการแล้วเสร็จเร็วกว่าที่กำหนด เนื่องจากท่าเรือ Tuas ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปพิจารณาศึกษาและความเป็นไปได้ในการดำเนินการ โดยแนวทางเบื้องต้น จะเป็นความร่วมมือกับพันธมิตร (Partner) ในต่างประเทศ ที่มีสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุน และมีอัตราผลประโยชน์ทางเศรษฐศาสตร์ของโครงการ (EIRR) ที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไป

ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุน ก็จะประยุกต์ใช้แนวทางของท่าเรือ Tuas มีการลงทุนมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยภาครัฐลงทุน 40% และบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก และไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นการลงทุนบริษัทในประเทศและ/หรือบริษัทต่างประเทศ (Holding Company) ลงทุน 60% สามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี เนื่องจากมีการใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยดำเนินการ พร้อมทั้งการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์นั้น จะเป็นรูปแบบการบริหาร 2 ท่าเรือให้เป็นท่าเรือหนึ่งเดียวกัน (One Port Two Sides) โดยจะดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกัน ถือเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งและเศรษฐกิจใหม่ทางทะเล เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าของภูมิภาค เชื่อมการขนส่งกับเส้นทางมอเตอร์เวย์ และทางรถไฟ คู่ขนานแนวเส้นทางร่วมกันตามแผนบูรณาการมอเตอร์เวย์เชื่อมต่อแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ (MR-MAP) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจใน APEC อย่างไร้รอยต่อ

รายงานข่าวจาก สนข. ระบุว่า สำหรับมูลค่ารวมของโครงการแลนด์บริดจ์ วงเงิน 1,194,307 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการลงทุนท่าเรือ วงเงิน 938,607 ล้านบาท และโครงการลงทุนเส้นทางเชื่อมโยง วงเงิน 255,544 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/09/2022 8:18 am    Post subject: Reply with quote

ไทยดันแลนด์บริดจ์ เส้นทางเดินเรือใหม่ เร่งระบบรางเชื่อมจีน-ลาว | BUSINESS WATCH | 23-09-65 (FULL)
TNN Online

ไทยดันแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ขนส่งทางเรือเส้นทางใหม่ของโลก เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าอีก 10 ปี เปิดให้บริการ เกาะติดเชื่อมระบบรางไทย-จีน-ลาว คืบหน้าถึงไหน


https://www.youtube.com/watch?v=zifym3O7q2A
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 11/11/2022 8:34 pm    Post subject: Reply with quote

สิ้นปีนี้ สนข. ชงครม.ไฟเขียวแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ปลุกท่าเรือชุมพร-ระนอง
หน้าเศรษฐกิจ-ธุรกิจเศรษฐกิจ
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
ศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 18:07 น.

"สนข." กางแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ชุมพร-ระนอง จ่อชงครม.เคาะอนุมัติหลักการสิ้นปีนี้ ชงเอกชนต่างประเทศร่วมทุน เล็งตั้งสำนักงาน-ดันพ.ร.บ. SEC ลุยพัฒนาเศรษฐกิจแดนใต้ เริ่มตอกเสาเข็มปี 68 คาดเปิดให้บริการปี 73

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง) วงเงินศึกษา 67 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการฯ ภายในสิ้นปี 2565 เพื่อนำข้อมูลและรูปแบบการดำเนินทั้งเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของโครงการฯ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการเสนอโครงการต่อนักลงทุนในต่างประเทศ (RoadShow)

สิ้นปีนี้ สนข. ชงครม.ไฟเขียวแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ปลุกท่าเรือชุมพร-ระนอง

ทั้งนี้ จากนั้นจะเสนอโครงการต่อนักลงทุนในต่างประเทศ อาทิ จีน,ฝรั่งเศส ,และเยอรมัน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะของผู้ที่สนใจลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2566 โดยหลังจาก RoadShow ในต่างประเทศแล้ว เบื้องต้น สนข.จะดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดและปรับรูปแบบการวิเคราะห์ของโครงการฯ ภายในไตรมาส 2 ของปี 2566 และเสนอต่อ ครม. พิจารณาเห็นชอบอนุมัติเพื่อดำเนินโครงการฯ ภายใน มิ.ย. 2566


นายปัญญา กล่าวต่อว่า สนข.ยังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งสำนักงานกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) และจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ.SEC) เพื่อเป็นหน่วยงานในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ในลักษณะเดียวกับพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (พ.ร.บ.อีอีซี) ที่ใช้ขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คาดว่าจะเสนอ ครม. เห็นชอบในหลักการภายในปี 2565 และเสนออนุมัติ พ.ร.บ.ดังกล่าว ภายใน มิ.ย. 2566 ซึ่งดำเนินการควบคู่กับการเสนอขออนุมัติโครงการฯ

สิ้นปีนี้ สนข. ชงครม.ไฟเขียวแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ปลุกท่าเรือชุมพร-ระนอง

ขณะเดียวกัน หลังจากนั้นจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและเข้าสู่กระบวนการเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.SEC มีผลบังคับใช้แล้ว จะดำเนินการจัดทำเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนภายในไตรมาส 1 ของปี 2568 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะลงนามสัญญาผู้ชนะการประมูลภายในไตรมาส 3 ของปี 2568 และดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการในระยะแรกในปี 2573



นายปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการศึกษาพัฒนาท่าเรือของโครงการฯ เพื่อเชื่อมระบบรางและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เบื้องต้น สนข.ได้ดำเนินการศึกษาท่าเรือ แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ระยะ รวมรองรับปริมาณตู้สินค้าฝั่งละจำนวน 40 ล้าน ที.อี.ยู. ประกอบด้วย 1.ท่าเรือแหลมริ่ว จังหวัดระนอง โดยระยะที่ 1 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. และระยะที่ 2 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู.

สิ้นปีนี้ สนข. ชงครม.ไฟเขียวแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ปลุกท่าเรือชุมพร-ระนอง

2.ท่าเรืออ่าวอ่าง จังหวัดชุมพร แบ่งออกเป็น 2 ระยะ รวมรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 40 ล้าน ที.อี.ยู. โดยระยะที่ 1 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. และระยะที่ 2 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. โดยเมื่อเทียบกับท่าเรือ TUAS ประเทศสิงคโปร์ ในปัจจุบันสามารถพัฒนาท่าเรือในระยะที่ 1 เพื่อรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 20 ล้าน ที.อี.ยู. เช่นเดียวกัน



ทั้งนี้ โครงการฯเป็นท่าเรือที่ทันสมัยโดยควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อขนส่งตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ ซึ่งจะเชื่อมต่อร่วมกับแนวเส้นทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และรถไฟทางคู่ (MR-Map) โดยใช้แนวเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ซึ่งทางรถไฟได้ออกแบบเพื่อรองรับ Double Deck รองรับการขนส่งตู้สินค้าของท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง

สิ้นปีนี้ สนข. ชงครม.ไฟเขียวแผนศึกษา "แลนด์บริดจ์" ปลุกท่าเรือชุมพร-ระนอง

สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง มีระยะทางรวม 109 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งมีรูปแบบการก่อสร้างในลักษณะอุโมงค์ ระยะทาง 21 กม. โดยมีจุดเริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร ฝั่งอ่าวไทย ผ่านแนวเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 89.35 กม. และมีจุดสิ้นสุดที่ท่าเรืออ่าวอ่าง จังหวัดระนอง ฝั่งอันดามัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2022 1:09 pm    Post subject: Reply with quote

สนข. เร่งชงครม.เคาะ ‘แลนด์บริดจ์’ ชุมพร-ระนอง สิ้นปีนี้
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10:41 น.
กางไทม์ไลน์ 'แลนด์บริดจ์' ชง ครม.ธ.ค.นี้ เร่งร่าง พ.ร.บ. SEC ดันเปิดประมูล ปี 68 เปิดเฟสแรกรับ 20 ล้านทีอียูปี 73
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12:07 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12:07 น.


Click on the image for full size
Click on the image for full size
Click on the image for full size
Click on the image for full size
Click on the image for full size
‘สนข.’ เร่งโปรเจกต์ ‘แลนด์บริดจ์’ ชุมพร-ระนอง เล็งเสนอ ครม. เห็นชอบหลักการสิ้นปีนี้ พร้อม RoadShow ดึงนักลงทุนต่างประเทศช่วง ม.ค.-มี.ค. 66 วางไทม์ไลน์ชง ครม. อนุมัติโครงการฯ มิ.ย. 66 คาดเริ่มตอกเข็มปี 68 เปิดให้บริการเฟสแรกปี 73

14 พ.ย.2565 – นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าแผนศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง) วงเงินศึกษา 67 ล้านบาท สนข. อยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการภายในสิ้นปี 65 เพื่อนำข้อมูลและรูปแบบการดำเนินทั้งเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของโครงการฯ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการเสนอโครงการต่อนักลงทุนในต่างประเทศ (RoadShow)

ทั้งนี้จากนั้นจะเสนอโครงการต่อนักลงทุนในต่างประเทศ อาทิ จีน, ฝรั่งเศส และเยอรมนี เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะของผู้ที่สนใจลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 66 หรือ ม.ค.-มี.ค. 66 โดยหลังจาก RoadShow ในต่างประเทศแล้ว เบื้องต้น สนข. จะดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดและปรับรูปแบบการวิเคราะห์ของโครงการฯ ภายในไตรมาส 2 ของปี 66 ช่วง เม.ย.-มิ.ย. 66 และ เสนอต่อ ครม. พิจารณาเห็นชอบอนุมัติ เพื่อดำเนินโครงการภายใน มิ.ย. 66

นายปัญญา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งสำนักงานกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) และจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ.SEC) เพื่อเป็นหน่วยงานในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ในลักษณะเดียวกับพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (พ.ร.บ.อีอีซี) ที่ใช้ขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คาดว่าจะเสนอ ครม. เห็นชอบในหลักการภายในปี 65 และเสนออนุมัติ พ.ร.บ.ดังกล่าว ภายใน มิ.ย. 66 ซึ่งดำเนินการควบคู่กับการเสนอขออนุมัติโครงการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและเข้าสู่กระบวนการเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติภายในไตรมาส 4 ของปี 67 ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.SEC มีผลบังคับใช้แล้ว จะดำเนินการจัดทำเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนภายในไตรมาส 1 ของปี 68 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะลงนามสัญญาผู้ชนะการประมูลภายในไตรมาส 3 ของปี 68 หรือ ก.ค.-ก.ย. 68 และดำเนินการก่อสร้างภายในปี 68 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการในระยะแรกในปี 73

นายปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการศึกษาพัฒนาท่าเรือของโครงการฯ เพื่อเชื่อมระบบรางและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เบื้องต้น สนข. ได้ดำเนินการศึกษาท่าเรือ แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ระยะ รวมรองรับปริมาณตู้สินค้าฝั่งละจำนวน 40 ล้าน ที.อี.ยู. ประกอบด้วย
1.ท่าเรือแหลมริ่ว จ.ระนอง โดยระยะที่ 1 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. และระยะที่ 2 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู.

2.ท่าเรืออ่าวอ่าง จ.ชุมพร แบ่งออกเป็น 2 ระยะ รวมรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 40 ล้าน ที.อี.ยู. ระยะที่ 1 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. และระยะที่ 2 สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าจำนวน 20 ล้าน ที.อี.ยู. เมื่อเทียบกับท่าเรือ TUAS ประเทศสิงคโปร์ ในปัจจุบันสามารถพัฒนาท่าเรือในระยะที่ 1 เพื่อรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 20 ล้าน ที.อี.ยู. เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ โครงการเป็นท่าเรือที่ทันสมัยโดยควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อขนส่งตู้สินค้าคอนเทเนอร์ ซึ่งจะเชื่อมต่อร่วมกับแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ (MR-Map) โดยใช้แนวเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ซึ่งทางรถไฟได้ออกแบบเพื่อรองรับ Double Deck รองรับการขนส่งตู้สินค้าของท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง

สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง มีระยะทางรวม 109 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งมีรูปแบบการก่อสร้างในลักษณะอุโมงค์ ระยะทาง 21 กม. มีจุดเริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมริ่ว จ.ชุมพร ฝั่งอ่าวไทย ผ่านแนวเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 89.35 กม. และจุดสิ้นสุดที่ท่าเรืออ่าวอ่าง จ.ระนอง ฝั่งอันดามัน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/11/2022 9:17 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างทางรถไฟช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 14 พ.ย. 2565

วันนี้ (14 พ.ย.65) เวลา 09.10 น. นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และรับฟังข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปประกอบการศึกษาและพิจารณาประกอบการปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป ซึ่งได้รับความสนใจจากหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมโรงแรมอวยชัยแกรนด์ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ดร.สุวัฒน์ กันภูมิ หัวหน้ากองพัฒนาโครงการและควบคุมสิ่งแวดล้อมการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม ได้มีโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการศึกษาแล้วในปี พ.ศ. 2564 และได้มอบหมายการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการศึกษา งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เพื่อให้มีความสอดคล้องกันในการพัฒนาโครงการ อันเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจจากด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสการพัฒนาด้านอื่นๆ รวมทั้งจะเป็นการยกระดับคุณภาพการเดินทางและการขนส่งให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดโครงการในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ตามที่ สนข. ได้ศึกษาแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2561 และศึกษาความเหมาะสมฯ เพิ่มเติม โดยให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) และแผนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-MAP) ที่อยู่ระหว่างกรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาฯ พร้อมสำรวจออกแบบรายละเอียดทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ประมาณราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคาเพื่อการก่อสร้าง และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Impact Assessment : EIA) ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างกระบวนการรับรู้และสร้างความเข้าใจต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการ ขอบเขตการศึกษา และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปประกอบการศึกษาพิจารณาปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ฝากให้พี่น้องประชาชน ส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วนที่มาร่วมเวทีในวันนี้ ได้ร่วมกันช่วยแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้โครงการมีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมทุกภาคส่วนมากที่สุด

พอพล กล้าผจญ ข่าว/ภาพ ส.ปชส. ชุมพร
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : พอพล กล้าผจญ
ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/11/2022 8:03 am    Post subject: Reply with quote

อัพเดทรถไฟทางคู่'ชุมพร-ระนอง'
Source - เดลินิวส์
Wednesday, November 16, 2022 07:57

รฟท.ศึกษาจบปีหน้าชงครม. บริการ 5 สถานีลอด 3 อุโมงค์

นายวินัย สังหิตกุล ผู้จัดการโครงการงานศึกษาสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ตามโครงการศึกษาฯ ซึ่งเป็นการทบทวนผลการศึกษาที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาไว้เมื่อปี 61 พร้อมทั้งศึกษาเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-MAP) เส้นทางชุมพร-ระนอง (MR8)

นายวินัย กล่าวต่อว่ารฟท.จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนที่ได้รับจากการประชุมครั้งนี้ไปพิจารณาประกอบการศึกษา เพื่อปรับปรุงให้มีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้ และเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด หลังจากนี้ รฟท.ยังรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสัมภาษณ์เชิงลึก การประชุมกลุ่มย่อย และสุดท้ายจะนำรายละเอียดผลการศึกษาทั้งหมดจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 เดือน มิ.ย. 66 โดยคาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 66

คาดว่าจะเสนอขอความเห็นชอบรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) โดยจะใช้เวลาในขั้นตอนนี้ประมาณ 1 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 67 ขณะเดียวกันจะเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา และขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินโครงการต่อไป ก่อนออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเวนคืนที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 69 เปิดบริการประมาณปี 73

สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง มีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วย ทางระดับดิน 42 กม. ทางยกระดับ 33 กม. และอุโมงค์ 3 แห่ง ความยาวรวมประมาณ 15 กม. แนวเส้นทาง มีจุดเริ่มต้นบริเวณแหลมริ่ว ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร มุ่งไปทางทิศตะวันตก ตัดผ่านทางรถไฟ สายใต้ ทางหลวงหมายเลข 41 (ทล.41 สายสี่แยกปฐมพร-พัทลุง) และขนาน ทล.4006 ผ่านพื้นที่ ต.นาขา ต.วังตะกอ ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ต.ปังหวาน ต.พระรักษ์ ต.พะโต๊ะ ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และสิ้นสุดบริเวณอ่าวอ่าง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง กำหนดตำแหน่งสถานีรถไฟ 5 สถานี ได้แก่ สถานีท่าเรือชุมพร, สถานีวังตะกอ, สถานีพะโต๊ะ, สถานีราชกรูด และสถานีท่าเรือระนอง

เบื้องต้นจากการ ประมาณการลงทุนโครงการช่วงระหว่างก่อสร้างวงเงินอยู่ที่ 43,790 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืน 1,068 ล้านบาท, ค่าที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 799 ล้านบาท, ค่าดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม 43 ล้านบาท, ค่างานโยธา 31,967 ล้านบาท, ค่างานวางราง 3,708 ล้านบาท, ค่างานระบบรถไฟ 2,363 ล้านบาท และค่างานล้อเลื่อน 3,839 ล้านบาท โครงการจะช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงฐานการผลิตในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กับประตูการค้าภาคใต้ เพื่อส่งต่อ สินค้าไปยังกลุ่มประเทศ BIMSTEC ได้แก่ บังกลาเทศ, อินเดีย, เมียนมา, ศรีลังกา, ไทย, ภูฏาน และเนปาล รวมทั้งกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศด้วย.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 พ.ย. 2565 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/11/2022 8:08 am    Post subject: Reply with quote

เปิดเวทีฟังความเห็นประชาชน ก่อสร้างทางรถไฟชุมพร-ระนอง
Source - สยามรัฐ
Wednesday, November 16, 2022 04:23

ชุมพร : นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และรับฟังข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปประกอบการศึกษาและพิจารณาประกอบการปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป ซึ่งได้รับความสนใจจากหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมโรงแรมอวยชัยแกรนด์ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ดร.สุวัฒน์ กันภูมิ หัวหน้ากองพัฒนาโครงการและควบคุมสิ่งแวดล้อมการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม ได้มีโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Busi ness Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน การคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการศึกษาแล้วในปี พ.ศ. 2564

"และได้มอบหมายการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการศึกษา งานสำรวจออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครง การก่อสร้างทางรถไฟช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนองเพื่อให้มีความสอดคล้องกันในการพัฒนาโครงการอันเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจจากด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเพิ่มโอกาสการพัฒนาด้านอื่นๆ รวมทั้งจะเป็นการยกระดับคุณภาพการเดินทางและการขนส่งให้มีความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น" ดร.สุวัฒน์ กล่าว

ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 16 พ.ย. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2022 7:37 am    Post subject: Reply with quote

'ระนอง' คึกคัก เปิดฟังความเห็น 'แลนด์บริดจ์-สนามบิน'
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, November 19, 2022 06:05

ระนองคึกคัก เมกะโปรเจ็กต์ โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมเดินหน้า การรถไฟฯเปิดเวทีพื้นที่ฟังความเห็นครั้งแรก งานสำรวจออกแบบทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ตามแผนแลนด์บริดจ์ ขณะที่กรมท่าอากาศยานก็จัดประชุมฟังเสียงสะท้อนแผนขยายสนามบิน เชื่อมโยงโลจิสติกส์หลากระบบ

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2565 ที่เฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่น ระนอง นายบุญชัย สมใจ ปลัดจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพรท่าเรือน้ำลึกระนอง

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และรับฟังข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปประกอบการศึกษาและพิจารณาประกอบการปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วม

ดร.สุวัฒน์ กันภูมิ หัวหน้ากองพัฒนาโครงการและควบคุมสิ่งแวดล้อม รฟท. กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม กำลังศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2564

และได้มอบหมายรฟท. ดำเนินการศึกษา งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เพื่อให้มีความสอดคล้องกันในการพัฒนาโครงการ อันจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสการพัฒนาด้านอื่นๆ รวมทั้งจะเป็นการยกระดับคุณภาพการเดินทางและการขนส่ง ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โดยจะทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ตามที่ สนข. ได้ศึกษาแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2561 และศึกษาความเหมาะสมฯ เพิ่มเติม โดยให้สอดคล้องกับโครงการแลนด์บริดจ์ และแผนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MRMAP) ที่อยู่ระหว่างการศึกษาของกรมทางหลวง (ทล.) พร้อมสำรวจออกแบบรายละเอียดทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ประมาณราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคาเพื่อการก่อสร้าง และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Impact Assessment : EIA)

การประชุมวันนี้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างกระบวนการรับรู้ และสร้างความเข้าใจต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการ ขอบเขตการศึกษา และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปประกอบ การศึกษาพิจารณาปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้เกิดความเหมาะสมต่อไป

โดยแนวเส้นทางของโครงการมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่บริเวณแหลมริว ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และมีจุดสิ้นสุดบริเวณอ่าวอ่าง ตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ผ่านพื้นที่บางส่วนใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และอำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง รวมระยะทาง 90 กิโลเมตร

แนวเส้นทางมีอุโมงค์อย่างน้อย 3 แห่ง รวมประมาณ 15 กิโลเมตร มีสถานี 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีท่าเรือชุมพร สถานีวังตะกอ สถานีพะโต๊ะ สถานีราชกรูด และสถานีท่าเรือระนอง เป็นระบบรางให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างแลนด์บริดจ์เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ร่วมกับโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-MAP) เส้นทางชุมพรระนอง (MR8) โดยมีแผนการดำเนินงานการก่อสร้าง 4 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2573

ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 ปัจฉิมนิเทศโครงการงานจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดก่อสร้างแบบขยายท่าอากาศยานระนอง พร้อมศึกษารายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ขยายท่าอากาศยาน อาคารที่พักผู้โดยสาร และส่วนประกอบอื่น ๆ ของท่าอากาศยานระนอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย

โดยที่สนามบินระนอง มีขนาดทางวิ่ง 45 x 2,000 เมตร ขนาดลานจอดเครื่องบิน 120 x 180 เมตร และอาคารผู้โดยสารขนาด 4,000 ตารางเมตร ขณะที่อัตราการใช้บริการของ ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2563 จึงมีการศึกษาและออกแบบ ขยายความยาวทางวิ่งของท่าอากาศยานระนอง ให้ยาวขึ้นอีก 500 เมตร แต่ยังมีขนาดลานจอดเครื่องบินเพียง 3 หลุมจอด รองรับอากาศยานไม่เกิน 180 ที่นั่ง ได้จำนวน 2 ลำ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณา

ในปี 2564 กระทรวงคมนาคม มีแผนการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ Land Bridge ระนอง-ชุมพร ซึ่งต้องมีการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง รูปแบบต่างๆ ให้สอดคล้องรองรับกันจึงจำเป็นที่จะต้องขยายท่าอากาศยานระนอง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้อง การในการใช้ท่าอากาศยานในอนาคต ซึ่งต้องขยายความยาวทางวิ่งของท่าอากาศยานเป็นอย่างน้อย 2,990 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่เป็น การเร่งด่วน

เวทีประชุมผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลการออก แบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และร่างมาตรการติดตามตรวจสอบผล กระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อประกอบการจัดทำรายงานให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น


บรรยายใต้ภาพ
บุญชัย สมใจ

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 20 - 23 พ.ย. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/11/2022 9:01 am    Post subject: Reply with quote

ต้องเวิร์คเท่านั้น! อัปเดตแลนด์บริดจ์เตรียมเสนอ ครม.ชูท่าเรือสิงคโปร์แบบอย่างการบริหาร
Nimda Variety
Nov 22, 2022


https://www.youtube.com/watch?v=Z4bQzNYljSE
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2022 5:40 pm    Post subject: Reply with quote

“แลนด์บริดจ์” กระทบชาวประมง ระนอง-ชุมพร จี้รัฐออกมาตรการรองรับ
เศรษฐกิจภูมิภาค
วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 16:46 น.

ชาวประมงพื้นบ้านระนอง 12 กลุ่ม หวั่นโครงการแลนด์บริดจ์ รถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ส่งผลกระทบหนัก ทำกระแสน้ำเปลี่ยนทิศ ระบบนิเวศ ร้องรัฐเร่งออกมาตรการรองรับ

นายไพบูลย์ สวาทนันท์ ประมงพื้นบ้านจังหวัดระนอง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ชาวประมงจะได้รับผลกระทบหนักมาก หากมีการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง


เพราะเมื่อมีเรือขนาดใหญ่เข้ามาต้องมีการเปิดล่องน้ำให้ลึกขึ้น ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยน ส่งผลต่อระบบนิเวศ สัตว์น้ำต้องมีการปรับสภาพ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี

และสัตว์น้ำอาจจะไม่ชุกชุมเหมือนเดิม ไม่สามารถทำประมงได้ ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระนองที่มีเรืออยู่ประมาณ 3,000-4,000 ลำขาดรายได้ ขณะที่แต่ละครอบครัวมีประชากรรวมกันประมาณ 15,000 คน

“การเปิดทำประชาพิจารณ์ไปก่อนหน้านี้ มีการอธิบายรูปแบบของโครงการ และผลประโยชน์ที่จะได้รับ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบรวมถึงการช่วยเหลือชาวบ้านไม่มี






ก่อนทำประชาพิจารณ์ควรเรียกกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มประมง ตัวแทนชาวบ้าน กลุ่มท่องเที่ยว มาพูดคุยกันก่อน ว่าภาครัฐจะมีมาตรการอย่างไรทำให้ประมงพื้นบ้านอยู่ได้ วิถีการทำประมงที่จะเปลี่ยนไป คนอาจจะไม่กล้ากินสัตว์น้ำเพราะกลัวมีมลพิษ จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบโครงการมองหลากหลายด้าน

ทั้งความเป็นจริง ผลกระทบ กฎหมาย หลายคนบอกว่าต่อไปมีโครงการแลนด์บริดจ์ที่ดินจะมีราคาขึ้น จะทำให้คนระนองมีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถนำมาพัฒนาชุมชน จะส่งผลดีเฉพาะคนบางกลุ่มและโรงงาน”


นายสันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โครงการแลนด์บริดจ์นั้น ด้านการท่องเที่ยวเป็นห่วงผลกระทบในพื้นที่แหลมริ่ว อ.หลังสวน

เพราะปัจจุบันเป็นท่าเรือเชื่อมโยงการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านและชุมชนเกาะพิทักษ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีก 1 แห่งของชุมพร หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อมีเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่วิ่งเข้า-ออกตลอด ชาวประมงพื้นบ้านต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็รอดูทิศทาง เพราะไม่ได้เอื้อประโยชน์โดยตรงกับการท่องเที่ยว เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าไม่ได้ทำไว้สำหรับเรือโดยสารนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถือว่ายังห่างไกลความเป็นจริง และยังไม่รู้จะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่


นายพรศักดิ์ แก้วถาวร ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับโครงการ 80% เพราะข้อดีจะทำให้เกิดการค้าและการลงทุนสูงขึ้น จ.ระนองจะเปลี่ยนจากเมืองการค้าชายแดนเป็นเมืองการค้าระหว่างประเทศ

ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) จะโตขึ้น หลังท่าเรือน้ำลึกเกิดจะทำให้อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลตามมา สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งสามารถส่งออกสินค้าไปโซนเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรปได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาระนองมีการแปรรูปในพื้นที่เพียง 20% สินค้าต้องส่งไปที่จ.สมุทรสาคร เพื่อแปรรูปส่งออก

แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ ผลกระทบกับประมงพื้นบ้าน เพราะว่ากระทบต่อการประกอบอาชีพ ปัจจุบันประมงในพื้นที่ระนองมีทั้งหมด 12 กลุ่ม ซึ่งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จะดูแลช่วยเหลือชาวประมง

และคิดว่าสมัยนี้มีเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมเรื่องสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ อยากให้ระนองมีสิ่งแวดล้อมที่ดีควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน หากมีแต่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจจะอยู่ยาก ความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจจะสูง

นายไพบูลย์ ลิ้มเลิศวาที ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีข้อดีทำให้เกิดการค้าและการลงทุนเติบโตขึ้น ด้านการเกษตรจะมีการตั้งโรงงานแปรรูปมาต่อยอดเป็นสินค้ามูลค่าเพิ่มได้ อีกทั้งการท่องเที่ยวใน จ.ชุมพรจะโตขึ้น เพราะการเดินทางในอนาคตสะดวกมีทั้งทางด่วน และรถไฟทางคู่ ระยะทางสั้นลง

ส่วนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมคงไม่มาก ส่วนผลกระทบภาคประมงพื้นบ้านเป็นปัญหาที่สามารถแก้ได้โครงการนี้มองว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ทั้งด้านการท่องเที่ยว สังคม เศรษฐกิจจะโตหลายเท่าตัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด(GPP) จ.ชุมพร

ปัจจุบันอยู่ 126,000 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคการเกษตร 56% ภาคบริการอื่น ๆ กว่า 20% ภาคการท่องเที่ยว 12% คาดว่า GPP จะเติบโตขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว

“อย่างไรก็ตาม เรามองโครงการดังกล่าวว่าขายฝันเกินไป จะนำงบประมาณจากไหนมาลงทุน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3-4 แสนล้านบาท ซึ่งโปรเจ็กต์เดิมที่แหลมคอกาวไปจ.ระนอง โดยใช้ท่าเรือเดิม ใช้งบประมาณ 5-6 พันล้านบาทก็ยังไม่มีงบประมาณมาทำ ถ้าโครงการเกิดขึ้นจริงก็ดี แต่เรามองว่ามันยาก”
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 18, 19, 20  Next
Page 8 of 20

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©