RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264713
ทั้งหมด:13575996
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 10, 11, 12 ... 64, 65, 66  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2020 9:59 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รอเฮดังๆ!!ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าต่ออีก 3 เดือน
*กรมรางชงคมนาคมเคาะถึงสิ้น ก.ย.
*ยอมสูญ100ล้านให้ประชาชนชื่นใจ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2622168458004656


ก้าวสู่ปีที่ 2 “กรมราง” สร้างผลงานลดค่ารถไฟฟ้า “สีม่วง-แอร์พอร์ตลิงค์”
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 19:43 น.

ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
หน้าเศรษฐกิจ
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 15:53

ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
กรมการขนส่งทางราง เสนอคมนาคมขยายเวลาลดค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ออกไปอีก 3 เดือน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน


วันนี้ (10 มิ.ย.63) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) แจ้งว่า ได้ทำหนังสือเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปอีกประมาณ 3 เดือน เป็นวันที่ 30 ก.ย. 63

จากเดิมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะสิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย. 63 และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 63

อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่จะช่วยลดค่าครองชีพด้านการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งรถไฟฟ้า MRT ได้ลดค่าโดยสารตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 62 ขณะที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลดค่าโดยสารตั้งแต่เดือน มี.ค. 63

ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน

สำหรับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ลดค่าโดยสารเหลือ 14-20 บาทต่อเที่ยวจากปกติ 14-42 บาทต่อเที่ยว เริ่มทดลอง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 62 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 63 แต่เนื่องจากในช่วงการทดลอง 3 เดือนยังไม่สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ของจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นได้อย่างแท้จริง

การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อเดือน มี.ค. 63 จึงได้พิจารณาและมีมติให้ขยายระยะเวลามาตรการลดค่าโดยสารออกไปอีก 3 เดือน เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 63 เบื้องต้นจากการประเมินพบว่า การลดค่าโดยสารเป็นเวลา 3 เดือนจะทำให้รายได้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ลดลงประมาณ 50 ล้านบาท

ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน

ส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ นั้น เริ่มมาตรการลดค่าโดยสารสำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาส ประเภทบุคคลทั่วไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 63 โดยปรับ ลดค่าโดยสาร อยู่ที่ 15-25 บาทต่อเที่ยวจากปกติอัตราค่าโดย สารอยู่ที่ 14-45 บาทต่อเที่ยว ซึ่งจะลดอัตราค่าโดยสารเฉพาะช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (ออฟพีค) 3 ช่วงเวลา

ประกอบด้วย เวลา 05.30-07.00 น. เวลา 10.00-17.00 น. และ 20.00 - 24.00 น. วันจันทร์-ศุกร์โดยการเดินทางสถานีแรกจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาท สถานีที่ 2 อัตรา 20 บาท และสถานีที่ 3 เป็นต้นไปอยู่ที่ 25 บาท

ทั้งนี้ การปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะสิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.63 ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น จะสูญเสียรายได้ประมาณเดือนละ 9 แสนบาท

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดงานครบรอบคล้ายวันสถาปนา ภายใต้ชื่อ “กรมการขนส่งทางราง #ก้าวสู่ปีที่ 2” โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รวค.) เป็นประธานในพิธี และมีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมงาน

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า กรมได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกอบไปด้วย 1.การดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมทางรางในประเทศไทย หรือนโยบาย THAI FIRST โดยกรมได้เร่งรัดการผลิตอุตสาหกรรมทางราง จัดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย เป็นผลให้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 รับทราบมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกเรียบร้อยแล้ว



2.การปรับลดอัตราค่าโดยสารในโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งทางราง ซึ่งกรมได้ขับเคลื่อนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถปรับลดอัตราค่าโดยสารของสายสีม่วง (สายฉลองรัชธรรม) และโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน หรือ Airport rail link ได้


3.การขับเคลื่อนสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อลดภาระการลงทุนของประเทศ ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง อันเป็นผลให้ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างทบทวนแนวทางการบริหารจัดการ

4.การจัดทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ สำหรับการเดินทางในระบบขนส่งทางราง ซึ่งเป็นผลให้กรมได้ริเริ่มเตรียมการกำหนดมาตรการ และแนวทางในการควบคุม ป้องกัน คัดกรอง เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

5.การขับเคลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน (ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา) ซึ่งได้มีการเจรจาหาข้อยุติในการเจรจาเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางว่ามีหน้าที่สำคัญยิ่งต่อการกำกับกิจการขนส่งทางราง การก่อสร้างงานด้านระบบราง และการพัฒนาโครงข่ายระบบราง การเสริมสร้างระดับคุณภาพการให้บริการที่ดี

เพื่อความสุขของประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล และ คมนาคมในการส่งเสริมให้มีการเดินทาง การขนส่งในระบบราง ในอัตราส่วนการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นหลักแก่การให้บริการขนส่งสาธารณะของประเทศ และสร้างความยั่งยืนต่อระบบการขนส่งให้มีเสถียรภาพ ลดอุบัติเหตุ และรักษาสิ่งแวดล้อม

“ขอชื่นชมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรของ กรมรางที่ได้ร่วมกันพัฒนากิจการของกรมให้มีผลงานเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ต่อสาธารณะในห้วงระยะเวลาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา”นายศักดิ์สยามกล่าว


Last edited by Wisarut on 11/06/2020 10:52 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2020 10:42 am    Post subject: Reply with quote

"คมนาคม" สั่งกรมราง อัพระบบรางในไทย ลุยแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.

หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project /
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 16:36 น.

“คมนาคม” สั่งกรมราง เดินหน้าอัพระบบรางในไทย หวังเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งราง เตรียมพิจารณาฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองให้มีการต่อเชื่อมกัน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางราง (ขร.) #ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ว่า ระบบรางจะเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญมาก และเป็นระบบหลักในการเดินทาง ดังนั้นสิ่งที่ ขร.ต้องทำให้ได้คือ กล้าคิดกล้าทำ อย่าเดินทีละขั้นบันได ให้ไปศึกษาว่าประเทศทั่วโลกทำอย่างไร เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของระบบขนส่งทางรางอย่างไรให้ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ให้สามารถใช้ระบบขนส่งทางรางของไทยได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ให้พิจารณาด้วยว่ายังมีกฎหมาย หรือกฎระเบียบใดที่ไม่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ให้รีบแก้ไข นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันให้พิจารณาเรื่องการฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ว่าจะมีวิธีการอย่างไร ต้องกล้าที่จะดู เพราะเชื่อว่ารัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคมมีความได้เปรียบเอกชนในความเป็นรัฐ แต่เหตุใดจึงบริหารแล้วขาดทุน ซึ่งมั่นใจว่าถ้าทุกหน่วยงานทำด้วยความชัดเจน โปร่งใส และใช้หลักธรรมาภิบาล ก็จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เน้นย้ำให้แก้เรื่องนี้ให้ได้ และพร้อมสนับสนุนในวิธีการแก้ไข ดังนั้น ขร. ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ อะไรที่เป็นปัญหาต้องทลายทุกข้อจำกัด



นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งพิจารณากันมาแล้วกว่า 210 ครั้ง ใกล้ที่จะได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาภายใน 3 เดือน หรือประมาณเดือน ก.ย.63 จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาภายในปลายปีนี้ และสามารถประกาศใช้กฎหมายได้ในต้นปี 64 อย่างไรก็ตามสำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของ ขร.นั้น ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมย้ำชัดว่า อย่าก้าวทีละเสต็ป เมื่อเกิดมาช้าแล้วต้องทำงานแบบก้าวกระโดด โดยให้เร่งดำเนินการออกมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมมาตรฐานในด้านต่างๆ ดูแลเรื่องความปลอดภัยของจุดตัดต่างๆ ระหว่างถนน และรถไฟ ซึ่งมีอยู่ 2,600 จุดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ให้เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรองให้มีการต่อเชื่อมกัน ซึ่งปัจจุบันไทยมีระบบเครือข่ายรถไฟอยู่เพียง 47 จังหวัด จาก 77 จังหวัด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำอยากให้ทุกจังหวัดได้เข้าถึงระบบราง และให้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาบริหารใช้ในการจัดการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ปลอดภัย และต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในอนาคตจากรถไฟดีเซลราง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าทั้งประเทศ

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.3628340730515326&type=3
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2020 3:57 pm    Post subject: Reply with quote

เราต้องได้นั่งรถไฟฟ้าเชื่อม77จังหวัด
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2563

กรมรางปี2ทำงานก้าวกระโดด

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่กรมการขนส่งทางราง นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางราง (ขร.) #ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ว่า ระบบรางจะเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญมากและเป็นระบบหลักในการเดินทาง สิ่งที่ ขร.ต้องทำให้ได้คือ กล้าคิดกล้าทำอย่าเดินทีละขั้นบันไดให้ศึกษาว่าประเทศ ทั่วโลกทำอย่างไรเพื่อพัฒนาศักยภาพของระบบขนส่งทางรางให้ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในและนอกประเทศใช้ระบบขนส่งทางรางของไทยได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนกรณี ขร. เสนอขยายมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปอีก 3 เดือน จะได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี ขร. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณากันมาแล้ว กว่า 210 ครั้งใกล้ได้ข้อสรุป คาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาภายใน 3 เดือน หรือเดือน ก.ย. 63 จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภา ผู้แทนราษฎรปลายปีนี้ และประกาศใช้กฎหมายต้น ปี 64 รมว.คมนาคมย้ำชัดว่า เมื่อ ขร. เกิดมาช้าต้องทำงานแบบก้าวกระโดด ให้เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองให้เชื่อมกัน ซึ่งปัจจุบันไทยมีระบบเครือข่ายรถไฟเพียง 47 จังหวัด จาก 77 จังหวัด รมว.คมนาคม เน้นย้ำอยากให้ทุกจังหวัดได้เข้าถึงระบบราง อีกทั้งในอนาคตจากรถไฟดีเซลราง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งต้องผลักดันให้ได้.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2020 10:54 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมลดค่าตั๋วรถไฟฟ้าสายสีม่วง 20 บาทตลอดสายถึงก.ย.นี้
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
บอร์ดรฟม.ไฟเขียว ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่ออีก 3 เดือน
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 - 17:29 น.


วันที่ 11 มิถุนายน 2563 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ จากปกติ 14-42 บาทต่อเที่ยว เหลือ 14-20 บาทต่อเที่ยว ออกไปอีก 3 เดือน


จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป็นวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชนตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะในช่วงนี้ รฟม.เข้าใจดีว่าประชาชนต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้จะมีการนำมติบอร์ดเรื่องดังกล่าวรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบต่อไป

คมนาคมลดค่าตั๋วรถไฟฟ้าสายสีม่วง 20 บาทตลอดสายถึงก.ย.นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 - 18:57 น.



ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายนโยบายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปพิจารณาเรื่องการขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ออกไปถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในการเดินทาง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นั้น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม. ได้พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลามาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ออกไปถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 จากเดิมสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในการเดินทาง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม




ซึ่งจะมีผลให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ยังคงได้รับสิทธิ์ตามโปรโมชั่นค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 บาท และจ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จากอัตราปกติคือ จ่ายสูงสุด 42 บาท ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 และสำหรับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อ 2 สาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน จะจ่ายค่าโดยสารร่วมสูงสุดเพียง 48 บาท (เดินทางได้ถึง 53 สถานี) จากอัตราค่าโดยสารร่วมปกติคือ จ่ายสูงสุด 70 บาท ตลอดการขยายระยะเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษ ได้แก่ ส่วนลดค่าโดยสาร 50% สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี ที่มีความสูงระหว่าง 91-120 ซม. และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และส่วนลดค่าโดยสาร 10% สำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษดังกล่าวเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2020 7:35 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง ออกสุ่มตรวจสภาพความหนาแน่นตามมาตรการ “ปลอดภัยไว้ก่อน ต้าน CoViD 19”
วันที่ 12 มิถุนายน 2563

หลังจากการประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 63 และระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 63 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนออกมาทำกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้า ซึ่งถือรูปแบบการเดินทางหลักที่ช่วยให้การเดินทางของประชาชนสะดวกมากยิ่งขึ้น ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจากวันแรกที่ประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 มีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 2 แสนกว่าคน จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7 แสนกว่าคน ทำให้เกิดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในบางสถานี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยกรมการขนส่งทางรางได้ประสานไปยังหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางงรางให้เข้มงวดในมาตรการสาธารณะสุข เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มอีก

โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือน หลังจากการประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 กรมฯ ได้มีการเก็บรวบรวมสถิติผู้ใช้บริการในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ รวมทั้งจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจสถานีรถไฟฟ้าทุกสายประกอบด้วย สายสุขุมวิทและสายสีลม (BTS) สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง (MRT) และ ARL ในช่วงเวลาเร่งด่วนของทุกวันจันทร์และวันศุกร์ ซึ่งจะทำการสำรวจสภาพการใช้บริการของผู้โดยสาร และการดำเนินการตามมาตรการของผู้ให้บริการ รวมกว่าจำนวนกว่า 10 ครั้ง พบว่า ผู้ให้บริการทุกรายได้มีมาตรฐานการให้บริการด้วยความถี่ในการเดินรถสูงสุด เต็มความสามารถในการให้บริการ เพื่อพยายามให้เกิดระยะความห่างระหว่างผู้โดยสาร โดยไม่รบกวนระยะเวลารอคอยการใช้บริการนานเกินไป พร้อมทั้งมีการตรวจวัดอุณหภูมิ จัดเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง และประชาสัมพันธ์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง จะมีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง กระทรวงสาธารณสุข สถาบันทางวิชาการแพทย์ ราง ในวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เพื่อออกมาตรการเดินทางในระบบขนส่งทาง ให้รองรับการผ่อนปรนระยะที่ 4 ที่จะมีการเปิดภาคเรียน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2020 7:36 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางรางดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง
วันที่ 12 มิถุนายน 2563

กรมการขนส่งทางรางได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางเพื่อกำหนดประเภทและขอบเขตคุณลักษณะของรถขนส่งทางรางที่เหมาะสมกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางของไทย ซึ่งนำไปสู่การประหยัดพลังงาน การใช้งานเหมาะสม รวมทั้งเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม และใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำ พรบ. การขนส่งทางรางที่จะใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลการขนส่งทางรางของไทย โดยวันนี้ (12 มิ.ย. 63) เวลา 09.30 น. นายทยากร จันทรางศุ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมตรวจรับพัสดุงานศึกษาการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง ณ ห้องประชุมมนังคสิลา ชั้น 2 อาคาร ณ ถลาง กรมการขนส่งทางรางทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณารายงานเบื้องต้น (Inception Report) การศึกษาดังกล่าว โดยมีมติเห็นชอบรายงานเบื้องต้นดังกล่าว พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ รับความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปปรับปรุงในรายงานฉบับถัดไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/06/2020 12:55 pm    Post subject: Reply with quote

ขร.ปลดล็อกขนส่งทางราง
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศ ขร. เรื่องระยะเวลาในการให้บริการ และประกอบกิจการขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขต ท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว)ทั่วราชอาณาจักรเฉพาะเหตุอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นมาตรการผ่อนคลาย และบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว ขร. จึงออกประกาศ เพื่อให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางสามารถประกอบกิจการขนส่งทางราง ยกเลิกมาตรการเกี่ยวกับการให้บริการเดินรถไฟและรถไฟฟ้า รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่ระบุตามประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติ การจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 2 โดยให้ถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 63.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/06/2020 7:43 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ขร.ปลดล็อกขนส่งทางราง
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563


กรมรางฯ เล็งชง ศบค.ผ่อนปรน นั่งรถไฟฟ้าติดกันได้ รับปริมาณคนช่วงเปิดเทอม
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563 15:58 น.

กรมรางฯ ขยับเล็งคลายล็อกโควิด-19 เสนอ ศบค.ผ่อนปรนให้โดยสารรถไฟฟ้าโดยที่สามารถนั่งติดกันได้ ไม่ต้องเช็กอินไทยชนะ รองรับปริมาณคนเดินทางช่วงเปิดเทอมที่คาดว่าผู้โดยสารจะหนาแน่นขึ้นอีก


นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือ เพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดเทอม ของนักเรียน นักศึกษาในต้นเดือน กรกฎาคม 63 ร่วมกับ ผู้ให้บริการทุกราย และ กรมควบคุมโรค และ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า จากการหารือวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวคิด 3 เรื่อง คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อกในมาตรการ เว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 คนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารเกินกว่า 1,000,000 คนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัด จากการมีผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานี เป็นจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้


สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกัน ในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลกหากมีการเข้มงวด ในเรื่องการคัดกรอง (กรองอุณหภูมิ) ป้องกัน (สวมหน้ากาก) และ ควบคุม (การบริการเจลแอลกอฮอล์ และการทำความสะอาด) จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังต้องเข้มงวดใน 3 ประเด็น คือ


(1) ประเด็นด้านระบบการจัดการ เช่น กำหนดให้มี Safety manager ตรวจสอบ ความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐานสากล สาธารณสุขเสมอ

(2) ประเด็นระบบการใช้บริการ คือ กำหนดให้ต้องสวมหน้ากาก 100%, กำหนดห้ามการพูดกันในตู้โดยสาร, กำหนดให้ยอมรับ การทำ Group release บ้าง หากสภาพหนาแน่นในขบวน

(3) ประเด็นการติดตามผู้โดยสาร ด้วยแอปฯ "ไทยชนะ" ควรใช้ เฉพาะในระบบรถไฟเดินทางเกินกว่า 1 ชม. เพราะผู้โดยสาร รถไฟฟ้าจะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 สถานี สถานีละ 3 นาที รวม 24 นาทีเท่านั้น จึงอาจไม่เหมาะที่จะใช้ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะร่วมกันทำ Guideline แนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดสำหรับการโดยสารในระบบรางต่อไป


นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วย ผู้ให้บริการทุกราย ประสงค์จะทำ MOU กับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้านการให้คำแนะนำ ติดตาม และตรวจสอบสภาพการแพร่ระบาดในรถไฟฟ้า รถไฟเสมอ เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบที่ประชาชนสามารถวางใจได้ รวมทั้ง กรมการขนส่งทางราง จะรายงานผลการหารือไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเสนอ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลดล็อกการเว้นที่นั่งในรถไฟฟ้า รถไฟต่อไป รวมทั้งกรมการขนส่งทางรางก็จะมีประกาศเรื่องการคลายล็อกมาตรการออกมา.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/06/2020 11:57 am    Post subject: Reply with quote

เตรียมคลายล็อกให้นั่งชิดกันในรถไฟฟ้า
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563 08:45 น.

นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดเทอมของนักเรียน นักศึกษา ร่วมกับผู้ให้บริการทุกราย และกรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า จากการหารือวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวคิด 3 เรื่อง คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อกในมาตรการเว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 เที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารเกินกว่า 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัด จากการที่มีผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานี เป็นจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้


ดังนั้นในที่ประชุมจึงเห็นสมควรให้กำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลกหากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง, ป้องกันและ ควบคุม จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/06/2020 7:34 pm    Post subject: Reply with quote

กรมราง” เล็งคลายล็อก เว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า รองรับปริมาณผู้โดยสาร ช่วงเปิดเทอม กำชับมาตรการป้องกันเข้ม "ใส่หน้ากาก-งดพูดคุย" สกัด "โควิด-19"
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563
กรมรางฯเล็งคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า
18 มิถุนายน 2563 12:35

...นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมหารือเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน นักศึกษา ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ร่วมกับผู้ให้บริการระบบรางทุกราย พร้อมด้วยกรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ที่ประชุมได้มีข้อสรุปใน 3 ประเด็น คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันกรณีการเสนอรัฐบาลในการคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างภายในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณ 800,000 เที่ยวคน/วัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารมากกว่า 1,000,000 เที่ยวคน สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกินร้อยละ 70 รวมถึงกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันภายในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมหากเป็นมาตรการเข้มงวดจะจำกัดความหนาแน่นที่ร้อยละ 25 และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นอยู่ที่ร้อยละ 50

ทั้งนี้ จากงานวิจัยทั่วโลกพบหากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง (คัดกรองอุณหภูมิ) ป้องกัน (สวมหนากาก) และควบคุม (การบริการเจลแอลกอฮอล์ และการทำความสะอาด) จะไม่ปรากฏการพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ ประกอบกับขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศเป็นเวลา 23 วันต่อเนื่องแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเข้มงวดใน 3 ประเด็น ได้แก่
(1) ประเด็นด้านระบบการจัดการ โดยกำหนดให้มี Safety manager ตรวจสอบความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐานสากล สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ
(2) ประเด็นระบบการใช้บริการ โดยกำหนดให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากาก 100% งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และกำหนดให้ยอมรับการทำ Group release กรณีเกิดสภาพความหนาแน่นภายในขบวนรถ และ
(3) ประเด็นการติดตามผู้โดยสารด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ควรใช้เฉพาะในระบบรถไฟที่ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 ชม. ขณะที่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 สถานี ๆ ละ 3 นาที รวม 24 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะร่วมกันจัดทำแนวทางการปฏิบัติ (Guideline) เพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดสำหรับการโดยสารในระบบรางต่อไป

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3133562100024047&set=a.2313261335387465&type=3&theater



รฟฟ.คลายล็อคให้นั่งติด ไม่มีอะไรกั้น - เครื่องบินขายตั๋ว 100% ไม่ต้องเว้นที่นั่ง
18 มิถุนายน 2563


นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสาร ในช่วงเปิดเทอมของนักเรียน นักศึกษา ในต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ร่วมกับผู้ให้บริการทุกราย กรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า



จากการหารือได้ข้อสรุป คือทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อคในมาตรการเว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 คนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสาร เกินกว่า 1,000,000 คนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่น ๆ เช่น ไข้หวัด จากการที่ผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานีเป็นจำนวนมาก ในชั่วโมงเร่งด่วน



สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลก หากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง ป้องกัน และควบคุม จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว



ด้าน นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศกำหนดแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสาร สำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการเพิ่มเติม ดังนี้



1. ให้ยกเลิกการจำกัดจำนวนที่นั่งที่จะให้บริการบนอากาศยาน โดยให้สายการบินสามารถจำหน่ายบัตรโดยสารได้ 100% โดยไม่ต้องที่เว้นระยะห่างที่นั่งโดยสาร ระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน



2. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบและดำเนินการบำรุงรักษาระบบหมุนเวียนอากาศภายในอากาศยาน และเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง หรือ High Efficiency Particulate Air (HEPA) Filter ตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุในคู่มือผู้ผลิต



3. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศติดตามดูแลให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่อยู่บนอากาศยาน



4. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งเตือนผู้โดยสารให้รับทราบ และปฏิบัติตามข้อปฏิบัติและมาตรการทางสาธารณสุขในระหว่างการเดินทาง



ทั้งนี้ ให้ทราบว่าการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน เกี่ยวกับข้อปฏิบัติและมาตรการดังกล่าว เป็นความผิด และอาจได้รับโทษตามกฎหมายว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ โดยให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 15 มิ.ย.63 เป็นต้นไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=t9Q0_bOq-0E&feature=youtu.be
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 10, 11, 12 ... 64, 65, 66  Next
Page 11 of 66

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©