View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 11/06/2020 9:59 am Post subject:
ก้าวสู่ปีที่ 2 กรมราง สร้างผลงานลดค่ารถไฟฟ้า สีม่วง-แอร์พอร์ตลิงค์
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 19:43 น.
ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
หน้าเศรษฐกิจ
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 15:53
ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
กรมการขนส่งทางราง เสนอคมนาคมขยายเวลาลดค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ออกไปอีก 3 เดือน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
วันนี้ (10 มิ.ย.63) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) แจ้งว่า ได้ทำหนังสือเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปอีกประมาณ 3 เดือน เป็นวันที่ 30 ก.ย. 63
จากเดิมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะสิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย. 63 และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 63
อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่จะช่วยลดค่าครองชีพด้านการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งรถไฟฟ้า MRT ได้ลดค่าโดยสารตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 62 ขณะที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลดค่าโดยสารตั้งแต่เดือน มี.ค. 63
ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
สำหรับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ลดค่าโดยสารเหลือ 14-20 บาทต่อเที่ยวจากปกติ 14-42 บาทต่อเที่ยว เริ่มทดลอง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 62 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 63 แต่เนื่องจากในช่วงการทดลอง 3 เดือนยังไม่สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ของจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นได้อย่างแท้จริง
การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อเดือน มี.ค. 63 จึงได้พิจารณาและมีมติให้ขยายระยะเวลามาตรการลดค่าโดยสารออกไปอีก 3 เดือน เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 63 เบื้องต้นจากการประเมินพบว่า การลดค่าโดยสารเป็นเวลา 3 เดือนจะทำให้รายได้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ลดลงประมาณ 50 ล้านบาท
ชง คมนาคม ยืดเวลาลดค่าโดยสาร "MRT - แอร์พอร์ตลิงก์" อีก 3 เดือน
ส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ นั้น เริ่มมาตรการลดค่าโดยสารสำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาส ประเภทบุคคลทั่วไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 63 โดยปรับ ลดค่าโดยสาร อยู่ที่ 15-25 บาทต่อเที่ยวจากปกติอัตราค่าโดย สารอยู่ที่ 14-45 บาทต่อเที่ยว ซึ่งจะลดอัตราค่าโดยสารเฉพาะช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (ออฟพีค) 3 ช่วงเวลา
ประกอบด้วย เวลา 05.30-07.00 น. เวลา 10.00-17.00 น. และ 20.00 - 24.00 น. วันจันทร์-ศุกร์โดยการเดินทางสถานีแรกจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาท สถานีที่ 2 อัตรา 20 บาท และสถานีที่ 3 เป็นต้นไปอยู่ที่ 25 บาท
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะสิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.63 ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น จะสูญเสียรายได้ประมาณเดือนละ 9 แสนบาท
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดงานครบรอบคล้ายวันสถาปนา ภายใต้ชื่อ กรมการขนส่งทางราง #ก้าวสู่ปีที่ 2 โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รวค.) เป็นประธานในพิธี และมีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมงาน
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า กรมได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกอบไปด้วย 1.การดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมทางรางในประเทศไทย หรือนโยบาย THAI FIRST โดยกรมได้เร่งรัดการผลิตอุตสาหกรรมทางราง จัดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย เป็นผลให้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 รับทราบมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกเรียบร้อยแล้ว
2.การปรับลดอัตราค่าโดยสารในโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งทางราง ซึ่งกรมได้ขับเคลื่อนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถปรับลดอัตราค่าโดยสารของสายสีม่วง (สายฉลองรัชธรรม) และโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน หรือ Airport rail link ได้
3.การขับเคลื่อนสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อลดภาระการลงทุนของประเทศ ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง อันเป็นผลให้ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างทบทวนแนวทางการบริหารจัดการ
4.การจัดทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ สำหรับการเดินทางในระบบขนส่งทางราง ซึ่งเป็นผลให้กรมได้ริเริ่มเตรียมการกำหนดมาตรการ และแนวทางในการควบคุม ป้องกัน คัดกรอง เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5.การขับเคลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน (ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา) ซึ่งได้มีการเจรจาหาข้อยุติในการเจรจาเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางว่ามีหน้าที่สำคัญยิ่งต่อการกำกับกิจการขนส่งทางราง การก่อสร้างงานด้านระบบราง และการพัฒนาโครงข่ายระบบราง การเสริมสร้างระดับคุณภาพการให้บริการที่ดี
เพื่อความสุขของประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล และ คมนาคมในการส่งเสริมให้มีการเดินทาง การขนส่งในระบบราง ในอัตราส่วนการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นหลักแก่การให้บริการขนส่งสาธารณะของประเทศ และสร้างความยั่งยืนต่อระบบการขนส่งให้มีเสถียรภาพ ลดอุบัติเหตุ และรักษาสิ่งแวดล้อม
ขอชื่นชมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรของ กรมรางที่ได้ร่วมกันพัฒนากิจการของกรมให้มีผลงานเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ต่อสาธารณะในห้วงระยะเวลาตลอด 1 ปีที่ผ่านมานายศักดิ์สยามกล่าว Last edited by Wisarut on 11/06/2020 10:52 am; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 11/06/2020 10:42 am Post subject:
"คมนาคม" สั่งกรมราง อัพระบบรางในไทย ลุยแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project /
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 - 16:36 น.
คมนาคม สั่งกรมราง เดินหน้าอัพระบบรางในไทย หวังเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งราง เตรียมพิจารณาฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองให้มีการต่อเชื่อมกัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางราง (ขร.) #ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ว่า ระบบรางจะเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญมาก และเป็นระบบหลักในการเดินทาง ดังนั้นสิ่งที่ ขร.ต้องทำให้ได้คือ กล้าคิดกล้าทำ อย่าเดินทีละขั้นบันได ให้ไปศึกษาว่าประเทศทั่วโลกทำอย่างไร เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของระบบขนส่งทางรางอย่างไรให้ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ให้สามารถใช้ระบบขนส่งทางรางของไทยได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ให้พิจารณาด้วยว่ายังมีกฎหมาย หรือกฎระเบียบใดที่ไม่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ให้รีบแก้ไข นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันให้พิจารณาเรื่องการฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ว่าจะมีวิธีการอย่างไร ต้องกล้าที่จะดู เพราะเชื่อว่ารัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคมมีความได้เปรียบเอกชนในความเป็นรัฐ แต่เหตุใดจึงบริหารแล้วขาดทุน ซึ่งมั่นใจว่าถ้าทุกหน่วยงานทำด้วยความชัดเจน โปร่งใส และใช้หลักธรรมาภิบาล ก็จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เน้นย้ำให้แก้เรื่องนี้ให้ได้ และพร้อมสนับสนุนในวิธีการแก้ไข ดังนั้น ขร. ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ อะไรที่เป็นปัญหาต้องทลายทุกข้อจำกัด
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งพิจารณากันมาแล้วกว่า 210 ครั้ง ใกล้ที่จะได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาภายใน 3 เดือน หรือประมาณเดือน ก.ย.63 จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาภายในปลายปีนี้ และสามารถประกาศใช้กฎหมายได้ในต้นปี 64 อย่างไรก็ตามสำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของ ขร.นั้น ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมย้ำชัดว่า อย่าก้าวทีละเสต็ป เมื่อเกิดมาช้าแล้วต้องทำงานแบบก้าวกระโดด โดยให้เร่งดำเนินการออกมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมมาตรฐานในด้านต่างๆ ดูแลเรื่องความปลอดภัยของจุดตัดต่างๆ ระหว่างถนน และรถไฟ ซึ่งมีอยู่ 2,600 จุดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ให้เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรองให้มีการต่อเชื่อมกัน ซึ่งปัจจุบันไทยมีระบบเครือข่ายรถไฟอยู่เพียง 47 จังหวัด จาก 77 จังหวัด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำอยากให้ทุกจังหวัดได้เข้าถึงระบบราง และให้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาบริหารใช้ในการจัดการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ปลอดภัย และต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในอนาคตจากรถไฟดีเซลราง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าทั้งประเทศ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.3628340730515326&type=3
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/06/2020 3:57 pm Post subject:
เราต้องได้นั่งรถไฟฟ้าเชื่อม77จังหวัด
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2563
กรมรางปี2ทำงานก้าวกระโดด
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่กรมการขนส่งทางราง นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางราง (ขร.) #ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ว่า ระบบรางจะเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญมากและเป็นระบบหลักในการเดินทาง สิ่งที่ ขร.ต้องทำให้ได้คือ กล้าคิดกล้าทำอย่าเดินทีละขั้นบันไดให้ศึกษาว่าประเทศ ทั่วโลกทำอย่างไรเพื่อพัฒนาศักยภาพของระบบขนส่งทางรางให้ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในและนอกประเทศใช้ระบบขนส่งทางรางของไทยได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนกรณี ขร. เสนอขยายมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปอีก 3 เดือน จะได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี ขร. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณากันมาแล้ว กว่า 210 ครั้งใกล้ได้ข้อสรุป คาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาภายใน 3 เดือน หรือเดือน ก.ย. 63 จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภา ผู้แทนราษฎรปลายปีนี้ และประกาศใช้กฎหมายต้น ปี 64 รมว.คมนาคมย้ำชัดว่า เมื่อ ขร. เกิดมาช้าต้องทำงานแบบก้าวกระโดด ให้เร่งขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองให้เชื่อมกัน ซึ่งปัจจุบันไทยมีระบบเครือข่ายรถไฟเพียง 47 จังหวัด จาก 77 จังหวัด รมว.คมนาคม เน้นย้ำอยากให้ทุกจังหวัดได้เข้าถึงระบบราง อีกทั้งในอนาคตจากรถไฟดีเซลราง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งต้องผลักดันให้ได้.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 11/06/2020 10:54 pm Post subject:
คมนาคมลดค่าตั๋วรถไฟฟ้าสายสีม่วง 20 บาทตลอดสายถึงก.ย.นี้
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
บอร์ดรฟม.ไฟเขียว ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่ออีก 3 เดือน
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 - 17:29 น.
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ จากปกติ 14-42 บาทต่อเที่ยว เหลือ 14-20 บาทต่อเที่ยว ออกไปอีก 3 เดือน
จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป็นวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชนตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะในช่วงนี้ รฟม.เข้าใจดีว่าประชาชนต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้จะมีการนำมติบอร์ดเรื่องดังกล่าวรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบต่อไป
คมนาคมลดค่าตั๋วรถไฟฟ้าสายสีม่วง 20 บาทตลอดสายถึงก.ย.นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 - 18:57 น.
ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายนโยบายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปพิจารณาเรื่องการขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ออกไปถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในการเดินทาง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นั้น
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม. ได้พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลามาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ออกไปถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 จากเดิมสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในการเดินทาง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ซึ่งจะมีผลให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ยังคงได้รับสิทธิ์ตามโปรโมชั่นค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 บาท และจ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จากอัตราปกติคือ จ่ายสูงสุด 42 บาท ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 และสำหรับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อ 2 สาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน จะจ่ายค่าโดยสารร่วมสูงสุดเพียง 48 บาท (เดินทางได้ถึง 53 สถานี) จากอัตราค่าโดยสารร่วมปกติคือ จ่ายสูงสุด 70 บาท ตลอดการขยายระยะเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษ ได้แก่ ส่วนลดค่าโดยสาร 50% สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี ที่มีความสูงระหว่าง 91-120 ซม. และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และส่วนลดค่าโดยสาร 10% สำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษดังกล่าวเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นได้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 12/06/2020 7:35 pm Post subject:
กรมการขนส่งทางราง ออกสุ่มตรวจสภาพความหนาแน่นตามมาตรการ ปลอดภัยไว้ก่อน ต้าน CoViD 19
วันที่ 12 มิถุนายน 2563
หลังจากการประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 63 และระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 63 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนออกมาทำกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้า ซึ่งถือรูปแบบการเดินทางหลักที่ช่วยให้การเดินทางของประชาชนสะดวกมากยิ่งขึ้น ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจากวันแรกที่ประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 มีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 2 แสนกว่าคน จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7 แสนกว่าคน ทำให้เกิดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในบางสถานี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยกรมการขนส่งทางรางได้ประสานไปยังหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางงรางให้เข้มงวดในมาตรการสาธารณะสุข เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มอีก
โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือน หลังจากการประกาศผ่อนปรนระยะที่ 2 กรมฯ ได้มีการเก็บรวบรวมสถิติผู้ใช้บริการในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ รวมทั้งจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจสถานีรถไฟฟ้าทุกสายประกอบด้วย สายสุขุมวิทและสายสีลม (BTS) สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง (MRT) และ ARL ในช่วงเวลาเร่งด่วนของทุกวันจันทร์และวันศุกร์ ซึ่งจะทำการสำรวจสภาพการใช้บริการของผู้โดยสาร และการดำเนินการตามมาตรการของผู้ให้บริการ รวมกว่าจำนวนกว่า 10 ครั้ง พบว่า ผู้ให้บริการทุกรายได้มีมาตรฐานการให้บริการด้วยความถี่ในการเดินรถสูงสุด เต็มความสามารถในการให้บริการ เพื่อพยายามให้เกิดระยะความห่างระหว่างผู้โดยสาร โดยไม่รบกวนระยะเวลารอคอยการใช้บริการนานเกินไป พร้อมทั้งมีการตรวจวัดอุณหภูมิ จัดเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง และประชาสัมพันธ์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง จะมีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง กระทรวงสาธารณสุข สถาบันทางวิชาการแพทย์ ราง ในวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เพื่อออกมาตรการเดินทางในระบบขนส่งทาง ให้รองรับการผ่อนปรนระยะที่ 4 ที่จะมีการเปิดภาคเรียน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาต่อไป
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 12/06/2020 7:36 pm Post subject:
กรมการขนส่งทางรางดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง
วันที่ 12 มิถุนายน 2563
กรมการขนส่งทางรางได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางเพื่อกำหนดประเภทและขอบเขตคุณลักษณะของรถขนส่งทางรางที่เหมาะสมกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางของไทย ซึ่งนำไปสู่การประหยัดพลังงาน การใช้งานเหมาะสม รวมทั้งเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม และใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำ พรบ. การขนส่งทางรางที่จะใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลการขนส่งทางรางของไทย โดยวันนี้ (12 มิ.ย. 63) เวลา 09.30 น. นายทยากร จันทรางศุ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมตรวจรับพัสดุงานศึกษาการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางราง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง ณ ห้องประชุมมนังคสิลา ชั้น 2 อาคาร ณ ถลาง กรมการขนส่งทางรางทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณารายงานเบื้องต้น (Inception Report) การศึกษาดังกล่าว โดยมีมติเห็นชอบรายงานเบื้องต้นดังกล่าว พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ รับความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปปรับปรุงในรายงานฉบับถัดไป
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 16/06/2020 12:55 pm Post subject:
ขร.ปลดล็อกขนส่งทางราง
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศ ขร. เรื่องระยะเวลาในการให้บริการ และประกอบกิจการขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขต ท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว)ทั่วราชอาณาจักรเฉพาะเหตุอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นมาตรการผ่อนคลาย และบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน
นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว ขร. จึงออกประกาศ เพื่อให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางสามารถประกอบกิจการขนส่งทางราง ยกเลิกมาตรการเกี่ยวกับการให้บริการเดินรถไฟและรถไฟฟ้า รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่ระบุตามประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติ การจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 2 โดยให้ถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 63.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 18/06/2020 7:43 am Post subject:
Mongwin wrote: ขร.ปลดล็อกขนส่งทางราง
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563
กรมรางฯ เล็งชง ศบค.ผ่อนปรน นั่งรถไฟฟ้าติดกันได้ รับปริมาณคนช่วงเปิดเทอม
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563 15:58 น.
กรมรางฯ ขยับเล็งคลายล็อกโควิด-19 เสนอ ศบค.ผ่อนปรนให้โดยสารรถไฟฟ้าโดยที่สามารถนั่งติดกันได้ ไม่ต้องเช็กอินไทยชนะ รองรับปริมาณคนเดินทางช่วงเปิดเทอมที่คาดว่าผู้โดยสารจะหนาแน่นขึ้นอีก
นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือ เพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดเทอม ของนักเรียน นักศึกษาในต้นเดือน กรกฎาคม 63 ร่วมกับ ผู้ให้บริการทุกราย และ กรมควบคุมโรค และ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า จากการหารือวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวคิด 3 เรื่อง คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อกในมาตรการ เว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 คนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารเกินกว่า 1,000,000 คนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัด จากการมีผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานี เป็นจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้
สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกัน ในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลกหากมีการเข้มงวด ในเรื่องการคัดกรอง (กรองอุณหภูมิ) ป้องกัน (สวมหน้ากาก) และ ควบคุม (การบริการเจลแอลกอฮอล์ และการทำความสะอาด) จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังต้องเข้มงวดใน 3 ประเด็น คือ
(1) ประเด็นด้านระบบการจัดการ เช่น กำหนดให้มี Safety manager ตรวจสอบ ความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐานสากล สาธารณสุขเสมอ
(2) ประเด็นระบบการใช้บริการ คือ กำหนดให้ต้องสวมหน้ากาก 100%, กำหนดห้ามการพูดกันในตู้โดยสาร, กำหนดให้ยอมรับ การทำ Group release บ้าง หากสภาพหนาแน่นในขบวน
(3) ประเด็นการติดตามผู้โดยสาร ด้วยแอปฯ "ไทยชนะ" ควรใช้ เฉพาะในระบบรถไฟเดินทางเกินกว่า 1 ชม. เพราะผู้โดยสาร รถไฟฟ้าจะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 สถานี สถานีละ 3 นาที รวม 24 นาทีเท่านั้น จึงอาจไม่เหมาะที่จะใช้ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะร่วมกันทำ Guideline แนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดสำหรับการโดยสารในระบบรางต่อไป
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วย ผู้ให้บริการทุกราย ประสงค์จะทำ MOU กับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้านการให้คำแนะนำ ติดตาม และตรวจสอบสภาพการแพร่ระบาดในรถไฟฟ้า รถไฟเสมอ เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบที่ประชาชนสามารถวางใจได้ รวมทั้ง กรมการขนส่งทางราง จะรายงานผลการหารือไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเสนอ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลดล็อกการเว้นที่นั่งในรถไฟฟ้า รถไฟต่อไป รวมทั้งกรมการขนส่งทางรางก็จะมีประกาศเรื่องการคลายล็อกมาตรการออกมา.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 18/06/2020 11:57 am Post subject:
เตรียมคลายล็อกให้นั่งชิดกันในรถไฟฟ้า
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563 08:45 น.
นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดเทอมของนักเรียน นักศึกษา ร่วมกับผู้ให้บริการทุกราย และกรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า จากการหารือวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวคิด 3 เรื่อง คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อกในมาตรการเว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 เที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารเกินกว่า 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัด จากการที่มีผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานี เป็นจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้
ดังนั้นในที่ประชุมจึงเห็นสมควรให้กำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลกหากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง, ป้องกันและ ควบคุม จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
Posted: 18/06/2020 7:34 pm Post subject:
กรมราง เล็งคลายล็อก เว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า รองรับปริมาณผู้โดยสาร ช่วงเปิดเทอม กำชับมาตรการป้องกันเข้ม "ใส่หน้ากาก-งดพูดคุย" สกัด "โควิด-19"
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563
กรมรางฯเล็งคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า
18 มิถุนายน 2563 12:35
...นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมหารือเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน นักศึกษา ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ร่วมกับผู้ให้บริการระบบรางทุกราย พร้อมด้วยกรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ที่ประชุมได้มีข้อสรุปใน 3 ประเด็น คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันกรณีการเสนอรัฐบาลในการคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างภายในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณ 800,000 เที่ยวคน/วัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารมากกว่า 1,000,000 เที่ยวคน สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกินร้อยละ 70 รวมถึงกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันภายในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมหากเป็นมาตรการเข้มงวดจะจำกัดความหนาแน่นที่ร้อยละ 25 และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นอยู่ที่ร้อยละ 50
ทั้งนี้ จากงานวิจัยทั่วโลกพบหากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง (คัดกรองอุณหภูมิ) ป้องกัน (สวมหนากาก) และควบคุม (การบริการเจลแอลกอฮอล์ และการทำความสะอาด) จะไม่ปรากฏการพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ ประกอบกับขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศเป็นเวลา 23 วันต่อเนื่องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเข้มงวดใน 3 ประเด็น ได้แก่
(1) ประเด็นด้านระบบการจัดการ โดยกำหนดให้มี Safety manager ตรวจสอบความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐานสากล สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ
(2) ประเด็นระบบการใช้บริการ โดยกำหนดให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากาก 100% งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และกำหนดให้ยอมรับการทำ Group release กรณีเกิดสภาพความหนาแน่นภายในขบวนรถ และ
(3) ประเด็นการติดตามผู้โดยสารด้วยแพลตฟอร์ม ไทยชนะ ควรใช้เฉพาะในระบบรถไฟที่ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 ชม. ขณะที่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 สถานี ๆ ละ 3 นาที รวม 24 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะร่วมกันจัดทำแนวทางการปฏิบัติ (Guideline) เพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดสำหรับการโดยสารในระบบรางต่อไป
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3133562100024047&set=a.2313261335387465&type=3&theater
รฟฟ.คลายล็อคให้นั่งติด ไม่มีอะไรกั้น - เครื่องบินขายตั๋ว 100% ไม่ต้องเว้นที่นั่ง
18 มิถุนายน 2563
นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเพื่อเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสาร ในช่วงเปิดเทอมของนักเรียน นักศึกษา ในต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ร่วมกับผู้ให้บริการทุกราย กรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า
จากการหารือได้ข้อสรุป คือทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลในการคลายล็อคในมาตรการเว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 คนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสาร เกินกว่า 1,000,000 คนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่น ๆ เช่น ไข้หวัด จากการที่ผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานีเป็นจำนวนมาก ในชั่วโมงเร่งด่วน
สมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และขณะนี้ด้วยสภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ 50% เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลก หากมีการเข้มงวดในเรื่องการคัดกรอง ป้องกัน และควบคุม จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งในขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว
ด้าน นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศกำหนดแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสาร สำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้ยกเลิกการจำกัดจำนวนที่นั่งที่จะให้บริการบนอากาศยาน โดยให้สายการบินสามารถจำหน่ายบัตรโดยสารได้ 100% โดยไม่ต้องที่เว้นระยะห่างที่นั่งโดยสาร ระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน
2. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบและดำเนินการบำรุงรักษาระบบหมุนเวียนอากาศภายในอากาศยาน และเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง หรือ High Efficiency Particulate Air (HEPA) Filter ตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุในคู่มือผู้ผลิต
3. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศติดตามดูแลให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่อยู่บนอากาศยาน
4. ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งเตือนผู้โดยสารให้รับทราบ และปฏิบัติตามข้อปฏิบัติและมาตรการทางสาธารณสุขในระหว่างการเดินทาง
ทั้งนี้ ให้ทราบว่าการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน เกี่ยวกับข้อปฏิบัติและมาตรการดังกล่าว เป็นความผิด และอาจได้รับโทษตามกฎหมายว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ โดยให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 15 มิ.ย.63 เป็นต้นไป
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=t9Q0_bOq-0E&feature=youtu.be
Back to top