ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)

Wisarut · Posted: 09/06/2022 6:33 pm Post subject:

‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ‘กรมรางฯ’ บูรณาการรัฐ-เอกชน พัฒนาระบบรางไทย เตรียมแจ้งเกิด พ.ร.บ.รางฯ จ่อเข้าพิจารณาสภาฯ คาดภายในปี 65
วันพฤหัสบดี ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565

กรมการขนส่งทางรางจัดงานคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 3 ปี
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันพฤหัสบดี ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 14:09 น.

วันนี้ (9 มิ.ย. 63) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางราง ครบรอบ 3 ปี โดยได้รับเกียรติจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รวค.) เป็นประธานในพิธี โดยมีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัด คค. ผู้แทนหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งภายในงานมีการจัดพิธีพราหมณ์สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ขร. พิธีถวายภัตตาหารเพล (ปิ่นโต) แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล และกิจกรรมร่วมแสดงความยินดีของหน่วยงานต่าง ๆ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานในพิธีกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางรางได้ทำหน้าที่ในการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ยุทธศาสตร์ และเสนอแผนการพัฒนาด้านการขนส่งทางรางของประเทศที่ทำให้ระบบขนส่งทางรางของไทยก้าวหน้า การพัฒนาและกำกับดูแลให้ระบบขนส่งทางรางของประเทศไทยมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล รวมถึงดำเนินการศึกษาและพัฒนานวัตกรรมระดับประเทศ และภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ ขอให้กรมการขนส่งทางรางร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันบูรณาการการทำงานโดยประสานความร่วมมือในการพัฒนาการขนส่งทางรางตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ เพื่อให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง และทำให้ผู้คนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ร่วมกันทุ่มเทแรงกาย แรงใจ
อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนสืบต่อไป
ทางด้าน ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (อขร.) กล่าวว่า กรมการขนส่งทางราง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินงานเพื่อพัฒนาระบบขนส่งทางรางมาแล้วกว่า 3 ปี ทั้งนี้ แม้ในปัจจุบันจะมีบุคลากรจำนวนน้อย (ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 90 คน) แต่เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและเป็นแรงขับเคลื่อนให้ ขร. ไปสู่องค์กรกำกับดูแลระบบการขนส่งทางราง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขร. ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะพัฒนาระบบการขนส่งทางรางให้เป็นระบบหลักของประเทศไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และการพัฒนารถไฟความเร็วสูง รวมถึงมีการจัดทำโครงการศึกษาเพื่อเปิดเส้นทางโครงข่ายระบบรางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายระบบรางระหว่างจังหวัด หรือ โครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อพัฒนาให้ระบบขนส่งทางรางสามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ และสะดวกทุกการใช้งานต่อประชาชน
การพัฒนาโครงข่ายขนส่งทางรางที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จำเป็นต้องมีการจัดทำมาตรฐานระบบขนส่งทางรางไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัยหรือด้านบริการ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการใช้บริการ ซึ่งถือว่าภารกิจหลักของ ขร. โดยที่ผ่านกรมฯ ได้มีการจัดทำมาตรฐานต่างๆไปแล้วหลายมาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งภายใต้พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ที่ทาง ขร. เร่งผลักดันอยู่ขณะนี้ นอกจากการจัดทำมาตรฐานระบบขนส่งทางรางแล้วนั้น อีกหนึ่งภารกิจหลักของ ขร. คือ การกำกับติดตามการดำเนินงานด้านระบบขนส่งทางราง เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งทางรางมีประสิทธิภาพเทียบเท่าระดับสากล ทั้งนี้เพื่อให้ระบบขนส่งทางรางมีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย และเป็นการสร้างความสุขและความปลอดภัยในการเดินทางระบบรางของไทยอย่างยั่งยืน

Mongwin · Posted: 10/06/2022 10:09 am Post subject:

นิวไฮ! ผู้โดยสารรถไฟ-รถไฟฟ้าคึกคัก ทะลุวันละ 1.1 ล้านคน
เดลินิวส์ 10 มิถุนายน 2565 9:12 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารที่มาใช้บริการระบบขนส่งทางราง ทั้งรถไฟ, รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้า MRT, รถไฟฟ้า BTS, รถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ทะลุ 1 ล้านคนต่อวันแล้ว ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการเติบโตที่มั่นคง แต่ยังน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งภาพรวมผู้โดยสารขนส่งทางรางทุกระบบจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคนต่อวัน อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้ประเทศจีน และญี่ปุ่นเปิดประเทศ และนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยก่อน เมื่อถึงเวลานั้นตัวเลขผู้โดยสารจะกลับมาสู่ปกติแน่นอน

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.65 มหาวิทยาลัยต่างๆ เปิดเรียนแบบออนไซต์ ประกอบกับก่อนหน้านี้รัฐบาลเปิดประเทศ ยกเลิกมาตรการ Test & Go และโรงเรียนเปิดเรียนแบบออนไซต์ ทำให้ปริมาณผู้โดยสารโดยเฉพาะวันทำงานเพิ่มขึ้นทะลุ 1 ล้านทุกวัน ส่งผลให้ในชั่วโมงเร่งด่วน (peak) ผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่น และแออัด

ซึ่ง ขร. กำชับผู้ให้บริการเพิ่มความถี่ และให้บริการเดินรถได้เต็มความจุสูงสุดตามมาตรฐานของแต่ละขบวนรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร และลดความแออัด ทั้งนี้ปัจจุบันยังคงเน้นย้ำผู้ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการกำกับดูแลให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย และงดพูดคุยตลอดเวลาที่อยู่ภายในขบวนรถ และบริหารจัดการความหนาแน่นภายในขบวนรถไม่ให้เกินมาตรฐานที่เหมาะสม

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 ทำสถิติตัวเลขผู้โดยสารขนส่งทางรางทุกระบบสูงที่สุด (นิวไฮ) นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคน ประกอบด้วย รถไฟ 5.67 หมื่นคน, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 5.26 หมื่นคน, รถไฟระบบชานเมือง (สายสีแดง) 1.4 หมื่นคน, รถไฟฟ้า MRT 3.47 แสนคน และรถไฟฟ้า BTS 6.38 แสนคน

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน หลังผ่อนคลายมาตรการเพื่อรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 ถึงปัจจุบัน พบว่า ปริมาณผู้โดยสารในระบบขนส่งทางรางทุกระบบ อยู่ที่ประมาณ 8.1 แสนคนต่อวัน ยังน้อยกว่าช่วงปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดฯประมาณ 34%

Mongwin · Posted: 10/06/2022 10:37 am Post subject:

ระบบรางคึกคัก! ขร.เผยมีผู้ใช้บริการวันละกว่า 1 ราย หลังคลายล็อก ปท.
เผยแพร่: 10 มิ.ย. 2565 09:58 ปรับปรุง: 10 มิ.ย. 2565 09:58 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยถึงภาพรวมปริมาณผู้โดยสารที่มาใช้บริการระบบขนส่งทางราง ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้า BTS รถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลคลายล็อกเปิดประเทศ นักเรียน-นักศึกษาเปิดเรียนเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำสถิติตัวเลขผู้โดยสารขนส่งทางรางทุกระบบสูงที่สุด ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคน ซึ่งได้กำชับผู้ให้บริการเพิ่มความถี่ และให้บริการเดินรถได้เต็มความจุสูงสุดตามมาตรฐานของแต่ละขบวนรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร และลดความแออัดในชั่วโมงเร่งด่วน (peak) และยังเน้นย้ำผู้ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย

Wisarut · Posted: 14/06/2022 7:16 pm Post subject:

กรมการขนส่งทางราง ร่วมลงสำรวจความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรถไฟบ้านคำสะหวาด ณ สปป.ลาว เพื่อให้การขนส่งระบบรางระหว่างไทยกับ สปป.ลาว มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
14 มิถุนายน 2565 เวลา 17:42 น.

กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่สำรวจความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรถไฟบ้านคำสะหวาด ณ นครหลวงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้าภารกิจด้านการขนส่ง พร้อมด้วย ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนจากกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ขนส่ง จำกัด ร่วมลงสำรวจสำหรับสถานีบ้านคำสะหวาด เป็นสถานีที่ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากรัฐบาลไทย ผ่านสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (NEDA) ตั้งอยู่ในเส้นทางรถไฟสายหนองคาย - เวียงจันทน์ ที่ขยายต่อมาจากสถานีท่านาแล้ง โดยห่างจากสถานีท่านาแล้ง 7.5 กิโลเมตร มีพื้นที่ตัวสถานี ชั้น 1 มีขนาด 6,300 ตารางเมตร ชั้น 2 มีขนาด 3,600 ตารางเมตร ชานชลา มีขนาด 3,600 ตารางเมตร จำนวน 2 ชานชลา เป็นระบบราง meter gauge ขนาด 1 เมตร ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ทันสมัยและมีความพร้อมรองรับผู้โดยสาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบันไดเลื่อน ลิฟท์ รวมทั้งตัวอาคารได้มีการออกแบบให้มีอากาศสามารถถ่ายเทได้อย่างสะดวกลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นการลดการใช้พลังงานไปในตัว
การเชื่อมโยงรถไฟระหว่างไทยและลาวนั้น ฝ่ายไทยได้มีแนวทางการบูรณาการเชื่อมต่อรถไฟไทย - ลาว - จีน ในการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ให้มีความเหมาะสมได้เตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งสินค้า โดยสามารถจัดขบวนรถได้ถึง 14 ขบวนต่อวัน ขบวนละ 25 แคร่ และเมื่อหากสถานีรถไฟบ้านคำสะหวาด สปป.ลาว แล้วเสร็จจะทำให้การคมนาคมขนส่งระบบรางระหว่างไทยกับ สปป.ลาว มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เนื่องจาก ทางรถไฟจะสิ้นสุด ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งสามารถลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้า เกิดการลงทุนต่อเนื่อง สร้างโอกาสให้ภาคเอกชนไทยไปประกอบธุรกิจใน สปป.ลาวเช่น การรับสัมปทานบริหารจัดการ CY และบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารสถานีเวียงจันทน์ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการจ้างงานและใช้สินค้า วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างจากไทยมากยิ่งขึ้น

Mongwin · Posted: 15/06/2022 1:29 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 27/06/2022 2:51 pm Post subject:

ยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า-รถไฟเพิ่มต่อเนื่อง1.1 ล้านคน/วัน สีแดงนิวไฮ- MRT กลับมาเท่าปี 62
เผยแพร่: 27 มิ.ย. 2565 14:31
ปรับปรุง: 27 มิ.ย. 2565 14:31
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง 1.1 ล้านคน/วัน สายสีแดงนิวไฮทะลุ 1.65 หมื่นคนเมื่อ ศุกร์24 มิ.ย.ส่วนMRTสีน้ำเงินและม่วง ผู้โดยสาร แตะ 3.5 แสนคน ฟื้นตัวเหนือปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ส่วน บีทีเอสผู้โดยสารถึง 6.8 แสนคน

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการ Test & Go ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา และต่อมามีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ประกอบกับ โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ส่งผลทำให้จำนวนผู้โดยสารโครงข่ายระบบรางเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 2565 ระบบรางทั้งรถไฟ, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง ,รถไฟฟ้า BTS, รถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มีผู้โดยสารรวมกว่า 1.15 ล้านคน เปรียบเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด มีผู้โดยสารเฉลี่ยในระบบรางรวมทั้งหมด 1.228 คน/วัน ถือว่าการเดินทางด้วยระบบรางใกล้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

โดยตลอดสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20มิ.ย. -วันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. ผู้โดยสารในระบบรางรวม มีจำนวนเกิน 1ล้านคนทุกวัน

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีจำนวนผู้โดยสารทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) อย่างต่อเนื่อง โดยศุกร์ที่ 24 มิ.ย. มีผู้โดยสารจำนวน 16,565 คน ขณะที่วันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. 2565 มีผู้โดยสาร จำนวน 15,702 คน

สำหรับ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง นั้น ผู้โดยสารปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 24มิ.ย. 2565 มีผู้โดยสารรวม 352,983 คน/วัน ซึ่งเพิ่มมาอยู่ในระดับปี 2562 ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย 337,015 คน/วัน

ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 มีจำนวน 680,107 คน หากเทียบกับผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ที่มีจำนวน 734,411 คน/วัน ต่ำกว่าเล็กน้อย

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 มีจำนวน 53,380 คน เปรียบเทียบกับผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ที่มีจำนวน 71,953 คน/วัน ถือว่าผู้โดยสารยังกลับมาไม่เต็มที่ ซึ่งผู้โดยสารส่วนหนึ่ง คือ นักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยังไม่กลับมาเป็นปกติ

ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้โดยสาร เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 จำนวน 54,481 คน ขณะที่ ผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด มีจำนวน 85,443 คน/วัน

Wisarut · Posted: 28/06/2022 6:49 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 29/06/2022 11:26 am Post subject:

สถิติการขนส่งสินค้าทางราง ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 🚂🛢️⛽ รวมทั้งหมด 944,700 เมตริกตัน ประกอบด้วย:
1. คอนเทนเนอร์ 684,504 เมตริกตัน (72.45729%) ส่วนใหญ่เป็น ICD (535,948 เมตริกตัน ) และ สินค้าทั่วไป (116,904 เมตริกตัน)
2. น้ำมันดิบและน้ำมันกลั่น 121,573 เมตริกตัน (12.86895%) เป็นน้ำมันดิบ 90,617 เมตริกตัร เป็นน้ำมันกลั่น 30,956 เมตริกตัน
3. ปูนซีเมนต์ผง และ ถุง 113,273 เมตริกตัน (11.99037%) เป็นซีเมนต์ผล 94,045 เมตริกตัร เป็นซีเมนต์ถุง 19,192 เมตริกตัน
4. ก๊าซธรรมชาติ 19,968 เมตริกตัน (2.11369%)
5. สินค้าอื่นๆ 5,418 เมตริกตัน (0.57352%)

นับว่าเพิ่มจากเดือนเมษายน 2565 ที่ทำได้ 798,103 เมตริกตัน แต่ยังต่ำกว่าเดือนมีนาคม 2565 ที่ขนได้ 951,842 เมตริกตัน แต่การขนส่งสินค้าข้ามแดนไทยลาวลดไป 12% เหลือ 2698 เมตริกตัน ส่วนการขนส่งข้ามแดนไทยมาเลเซียอยู่ที่ 28,954 เมตริกตัน

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/334822102175592

Wisarut · Posted: 30/06/2022 3:47 pm Post subject:

กรมการขนส่งทางราง ร่วมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ารถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเหลือง - สายสีชมพู และทดลองนั่งขบวนรถไฟฟ้าเพื่อทดสอบระบบ เตรียมความพร้อมการเดินรถเสมือนจริงปลายปีนี้
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันพฤหัสบดี ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 15.20 น.

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง แผนการพัฒนาโครงการฯ ในอนาคต การเชื่อมต่อกับโครงการขนส่งมวลชนอื่น ๆ และความพร้อมของขบวนรถต่าง ๆ รวมถึงแผนการเตรียมเปิดให้บริการเดินรถ โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยผู้บริหารและหัวหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เริ่มต้นจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ที่สถานีกลันตัน (YL12) และสำรวจความคืบหน้าของสถานี พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างโครงการ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี (PK30) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างและความคืบหน้าโครงการ ก่อนร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูจากสถานีมีนบุรี (PK30) ไปยังสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ (PK28) และเดินทางกลับเข้าสู่อาคารศูนย์ซ่อมบำรุง

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี เป็นโครงการตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP) โดยกำหนดให้เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง (Straddle Monorail) ที่ก่อสร้างเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง 2 สายแรกของประเทศไทย เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทางแล้วเสร็จ จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วยให้ประชาชนเดินทางจากชานเมืองสู่ใจกลางเมืองได้แบบไร้รอยต่อ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ในด้านปัญหาและอุปสรรคที่พบในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี พบว่าบางพื้นที่มีสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางก่อสร้างอยู่ด้วย ส่งผลให้การก่อสร้างมีความล่าช้า ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้เร่งประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การก่อสร้างเดินหน้าได้อย่างราบรื่นแล้วเสร็จตามกำหนด และดำเนินการคืนพื้นที่โดยเร็วเพื่อบรรเทาปัญหาจราจร ลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนให้มากที่สุด พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) และการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่มีความหมาะสม เป็นธรรม

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง มีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่แยกรัชดา - ลาดพร้าว บริเวณหน้าอาคารจอดแล้วจร สถานีลาดพร้าว ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ไปตามแนวถนนลาดพร้าว ถึงทางแยกบางกะปิ เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ข้ามทางแยกต่างระดับพระราม 9 ผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดม แยกศรีเอี่ยม แยกศรีเทพา เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ และสิ้นสุดที่บริเวณแยกเทพารักษ์ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 30.4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สถานีทั้งหมด 23 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง มีการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอีก 4 สาย ประกอบด้วย
1) สถานีลาดพร้าว (YL01) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน)
2) สถานีแยกลำสาลี (YL09) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
3) สถานีหัวหมาก (YL11) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์และรถไฟทางไกลสายตะวันออก
4) สถานีสำโรง (YL23) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีจุดเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณถัดจากศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ผ่านแยกแครายเข้าสู่ถนนติวานนท์ ตัดเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะที่บริเวณใกล้กับ ห้าแยกปากเกร็ด ผ่านแยกหลักสี่ เข้าสู่ถนนรามอินทราจนถึงแยกมีนบุรี เลี้ยวขวาสู่ถนนรามคำแหง ซึ่งมีสถานีสุดท้ายที่บริเวณใกล้ซอยรามคำแหง 192 ระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานีทั้งหมด 30 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งและอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง มีการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอีก 4 สาย ประกอบด้วย
1) สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง)
2) สถานีหลักสี่ (PK14) เชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต
3) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต
4) สถานีมีนบุรี (PK30) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

โดยความคืบหน้า ณ ปัจจุบันของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 92.93 แบ่งเป็นงานโยธา ร้อยละ 93.42 และงานระบบรถไฟฟ้าร้อยละ 92.29 รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 88.51 แบ่งเป็นงานโยธา ร้อยละ 90.06 และงานระบบรถไฟฟ้าร้อยละ 87.02 ขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้รับมอบขบวนรถแล้ว 28 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้รับมอบขบวนรถแล้ว 26 ขบวนจากทั้งหมด 42 ขบวน และในส่วนขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะจัดส่งถึงประเทศไทยได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และในเดือนตุลาคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทาง อยู่ระหว่างทดสอบการเดินรถ และมีแผนกำหนดการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) เริ่มภายในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนจะเปิดให้บริการบางช่วงอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2566
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/335645262093276

สีชมพู&เหลืองได้ลองนั่งฟรี3เดือนม.ค.-มี.ค.ปีหน้า
*เจิมก่อน”สถานีภาวนา-สำโรง”รถไฟฟ้าสีเหลือง
*ส่วนสายสีชมพู“มีนบุรี-ศูนย์ราชการ(แจ้งวัฒนะ)
*เปิดให้บริการตลอดสายเต็มรูปแบบปลายปี 66
*ผู้โดยสาร1.9-2แสนเร่งเจรจาขยายเหลืองให้จบ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/583702489873656