RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181377
ทั้งหมด:13492612
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 44, 45, 46 ... 63, 64, 65  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/10/2022 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

กรมรางเผยยอดผู้ใช้บริการระบบรางวันแรกหยุดยาวพุ่งกว่า 9 แสนคน ไร้อุบัติเหตุ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 14 ตุลาคม 2565 - 11:50 น.

กรมรางเผยยอดผู้ใช้บริการวันแรกหยุดยาวพุ่งกว่า 9 แสนคน การรถไฟรับผู้โดยสาร 6.8 หมื่น รถไฟฟ้าในเมืองกว่า 8.3 แสน ปลื้มไร้อุบัติเหตุและรถไฟฟ้าขัดข้อง

วันที่ 14 ตุลาคม 2565 ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า วานนี้ (13 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 13-16 ตุลาคม 2565 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 901,114 คน มากกว่าประมาณการ 130,930 คน หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 17.00 (ประมาณการ 699,790 คน)

แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 68,587 คน และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 832,527 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.รถไฟของ รฟท. ให้บริการรวม 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 68,587 คน น้อยกว่าประมาณการ 1,807 คน หรือต่ำกว่าร้อยละ 2.57 (ประมาณการ 70,394 คน) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 28,225 คน และเชิงสังคม 40,362 คน โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 35,639 คน และผู้โดยสารขาเข้า 32,948 คน

และพบว่าสายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 24,168 คน (ผู้โดยสารขาออก 12,630 คน ผู้โดยสารขาเข้า 11,538 คน) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 17,257 คน (ผู้โดยสารขาออก 8,657 คน ผู้โดยสารขาเข้า 8,600 คน) สายเหนือ 13,869 คน (ผู้โดยสารขาออก 7,202 คน ผู้โดยสารขาเข้า 6,667 คน) สายตะวันออก 8,581 คน (ผู้โดยสารขาออก 4,718 คน ผู้โดยสารขาเข้า 3,863 คน) และสายแม่กลอง 4,712 คน (ผู้โดยสารขาออก 2,432 คน ผู้โดยสารขาเข้า 2,280 คน)

2.ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 1,929 เที่ยวตามแผน มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 832,527 คน มากกว่าประมาณการ 132,737 คน หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 18.97 (ประมาณการ 699,790 คน) ประกอบด้วย

รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว จำนวน 42,909 คน
รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 230 เที่ยว จำนวน 13,644 คน
รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 216 เที่ยว จำนวน 23,584 คน
รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 322 เที่ยว จำนวน 250,514 คน
รถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) ให้บริการรวม 987 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 501,876 คน

ทั้งนี้ รฟท.ได้เพิ่มตู้โดยสารพ่วงไปกับขบวนรถปกติในเส้นทางที่มีประชาชนเดินทางมาก และส่วนระบบรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น ผู้ให้บริการได้เพิ่มความถี่ในการให้บริการขึ้น

สำหรับด้านความปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุรถไฟของ รฟท. และไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง

นอกจากนี้ ขร. ประสาน รฟท. เฝ้าระวังน้ำท่วมทางรถไฟ เนื่องจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยพบว่ามีน้ำท่วมเหนือสันราง จำนวน 1 แห่งระหว่างสถานีชะอำ-สถานีหัวทรายเหนือ โดยขบวนรถไฟยังสามารถวิ่งผ่านบริเวณดังกล่าวได้ โดยใช้ความเร็ว 5 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 15/10/2022 1:31 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
กรมรางเผยยอดผู้ใช้บริการระบบรางวันแรกหยุดยาวพุ่งกว่า 9 แสนคน ไร้อุบัติเหตุ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 14 ตุลาคม 2565 - 11:50 น.


ต้นรากดูได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/410049514652850
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2022 11:57 am    Post subject: Reply with quote

“รถไฟ-รถไฟฟ้า” พร้อมรับคนกลับกรุงฯ สะสม 3 วันใช้บริการ 2.8 ล้านคน
เดลินิวส์ 16 ตุลาคม 2565 11:39 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

“กรมราง” ประสานผู้ให้บริการรถไฟ-รถไฟฟ้า เตรียมขบวนรถให้เพียงพอ รับผู้โดยสารเดินทางกลับกรุงเทพฯ เปิดตัวเลขสะสม 3 วัน ผู้โดยสารใช้บริการระบบราง 2.8 ล้านคน สูงกว่าที่คาด 11.8% ไม่พบอุบัติเหตุ รถไฟฟ้าไม่ขัดข้อง ขณะที่ รฟท. นำรถจักรดีเซลไฟฟ้าใหม่ร่วมให้บริการ

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า คาดว่าวันที่ 16 ต.ค.65 จะมีประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพจำนวนมาก ทาง ขร. จึงได้ประสานผู้ให้บริการระบบราง จัดเตรียมขบวนรถให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เพิ่มตู้เพิ่มไปกับขบวนรถที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และรถไฟฟ้าจัดเตรียมขบวนรถเสริมในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งในวันที่ 16 ต.ค. มีรถจักรดีเซลไฟฟ้าใหม่ QSY ร่วมให้บริการด้วยรวม 12 ขบวน (ไป 6 ขบวน และกลับ 6 ขบวน) อย่างไรก็ตามคาดว่ารถจักรดีเซลไฟฟ้า QSY อีก 15 คัน จะมาถึงไทยช่วงปลายเดือน ต.ค.65ก่อนนำมาให้บริการแก่ประชาชนต่อไป

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 13 – 15 ต.ค.65 สะสม 3 วัน มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 2,832,040 คน มากกว่าประมาณการ 298,929 คน หรือสูงกว่าประมาณการ 11.80% (ประมาณการ 2,533,111 คน) ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. มีผู้ใช้บริการรวม 190,828 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 79,870 คน และเชิงสังคม 110,958 คน โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 94,951 คน และขาเข้า 95,877 คน ซึ่งพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 70,030 คน (ขาออก 34,734 คน และขาเข้า 35,296 คน)

รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 46,061 คน (ขาออก 22,200 คน และขาเข้า 23,861 คน) สายเหนือ 37,851 คน (ขาออก 19,097 คน ขาเข้า 18,772 คน) สายตะวันออก 25,053 คน (ขาออก 12,968 คน ขาเข้า 12,085 คน) และสายมหาชัย/แม่กลอง 11,833 คน(ขาออก 5,970 คน ขาเข้า 5,863 คน) และระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง)) สะสม 3 วัน มีผู้ใช้บริการ 2,641,212 คน ประกอบด้วย แอร์พอร์ตเรลลิงก์  138,182 คน สายสีแดง 40,599 คน สายฉลองรัชธรรม(สีม่วง) 76,395 คน สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 788,839 คน และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) 1,597,197 คน

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับเมื่อวันที่ 15 ต.ค.65 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของวันหยุดต่อเนื่อง มีประชาชนมาใช้บริการระบบราง 948,223 คน มากกว่าประมาณการ 201,290 คน (ประมาณการ 746,933 คน) หรือสูงกว่าประมาณการ 26.95% แบ่งเป็น รถไฟ 61,463 คน และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) 886,760 คน มีรายละเอียด ดังนี้ 1. รถไฟ ให้บริการ 223 เที่ยววิ่ง มีผู้ใช้บริการ 61,463 คน น้อยกว่าประมาณการ 6,618 คน (ประมาณการ 68,081 คน) หรือต่ำกว่าประมาณการ 9.72% แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 26,370 คน และเชิงสังคม 35,093 คน มีผู้โดยสารขาออก 29,331 คน และขาเข้า 32,132 คน

โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 23,587 คน (ขาออก 11,312 คน ขาเข้า 12,275 คน) รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 14,048 คน (ขาออก 6,397 คน ขาเข้า 7,651 คน) สายเหนือ 12,166 คน (ขาออก 5,879 คน ขาเข้า 6,287 คน) สายตะวันออก 8,125 คน (ขาออก 4,003 คน ขาเข้า 4,122 คน) และสายมหาชัย/แม่กลอง 3,537 คน (ขาออก 1,740 คน ขาเข้า 1,797 คน) ทั้งนี้ รฟท.ได้เพิ่มตู้โดยสารไปกับรถไฟทางไกลที่มีผู้โดยสารหนาแน่น โดยเมื่อวันที่ 15 ต.ค.65 เป็นวันแรกที่ รฟท. นำรถจักรดีเซลไฟฟ้า QSY มาทำขบวนรถด่วนพิเศษ รวม 6 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 กรุงเทพ-เชียงใหม่, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ-เชียงใหม่, 23 กรุงเทพ-อุบลราชธานี, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25 กรุงเทพ-หนองคาย, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ และ ขบวนรถด่วนพิเศษ 37 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก

2. ระบบรถไฟฟ้า 886,760 คน มากกว่าประมาณการ 207,908 คน (ประมาณการ 678,852 คน) หรือสูงกว่าประมาณการ 30.63% ให้บริการรวม 1,879 เที่ยววิ่ง รองรับได้เพียงพอไม่มีรถวิ่งเสริม ประกอบด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ให้บริการ 174 เที่ยววิ่ง มีผู้ใช้บริการ 46,164 คน รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) 230 เที่ยววิ่ง 13,112 คน รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 216 เที่ยววิ่ง 25,001 คน สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 322 เที่ยววิ่ง 249,875 คน และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) 937 เที่ยววิ่ง 552,608 คน ทั้งนี้ไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง และไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 16/10/2022 6:29 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
กรมรางเผยยอดผู้ใช้บริการระบบรางวันแรกหยุดยาวพุ่งกว่า 9 แสนคน ไร้อุบัติเหตุ
ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 14 ตุลาคม 2565 เวลา 11:50 น.


ระบบรางคึกคัก!กรมรางเปิดตัวเลขหยุดยาววันแรก ประชาชนใช้บริการกว่า 9.01 แสนคน สูงกว่าคาดการณ์ 17%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 14 ตุลาคม 2565 เวลา 14:12 น.
ปรับปรุง: วันที่ 14 ตุลาคม 2565 เวลา 14:12 น.

กรมรางเผยวันแรกหยุดยาว 13-16 ต.ค.65 ประชาชนใช้ระบบรางรวม 901,114 คน สูงกว่าคาดการณ์ 130,930 คน (17%) ยอดรถไฟฟ้าสูงขึ้น18.97% สายใต้มีผู้โดยสารมากที่สุด ภาพรวมไม่มีอุบัติเหตุหรือรถไฟฟ้าขัดข้อง ประสาน รฟท. เฝ้าระวังน้ำท่วม พบ 1 แห่ง ท่วมเหนือสันรางช่วง สถานีชะอำ-สถานีหัวทรายเหนือ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 17/10/2022 11:58 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“รถไฟ-รถไฟฟ้า” พร้อมรับคนกลับกรุงฯ สะสม 3 วันใช้บริการ 2.8 ล้านคน
เดลินิวส์ 16 ตุลาคม 2565 11:39 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์


ต้นรากดูได้ที่ี่ครับ
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/411579497833185
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 17/10/2022 3:11 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง เผยประชาชนเดินทางด้วยระบบรางช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 13 - 16 ตุลาคม 2565 สรุปสะสมครบ 4 วัน รวมประมาณ 3.75 ล้านคน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการร้อยละ 16.42 โดยไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ มีเพียงระบบรถไฟฟ้าขัดข้องรวม 1 ครั้ง
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
17 ตุลาคม 2565 เวลา 13:37 น.

หยุดยาว 4 วันประชาชนใช้ระบบรางทะลุ 3.75 ล้านคน กรมรางเผยสูงกว่าคาด 16.42% โดยไม่มีอุบัติเหตุ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 17 ตุลาคม 2565 เวลา 14:02 น.
ปรับปรุง: 17 ตุลาคม 2565 เวลา 14:02 น.

กรมรางเผยประชาชนใช้ระบบรางเดินทางวันหยุด 13-16 ต.ค. 65 (4 วัน) กว่า 3.75 ล้านคน สูงกว่าคาด 16.42% รถไฟฟ้าสายสีแดง MRT บีทีเอส แอร์พอร์ตเรลลิงก์ รวม 3.4 ล้านคน-เที่ยว รถไฟสายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดกว่า 9.3 หมื่นคน ไร้อุบัติเหตุ โดยมีแอร์พอร์ตเรลลิงก์ขัดข้อง 1 ครั้ง

วันนี้ (17 ตุลาคม 2565) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 13 - 16 ตุลาคม 2565 มีประชาชนมาใช้บริการระบบรางสะสมครบ 4 วันรวม 3,749,683 คน-เที่ยว มากกว่าประมาณการ 528,783 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 16.42 (ประมาณการสะสม 4 วัน 3,220,900 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย

1) รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 261,836 คน-เที่ยว น้อยกว่าประมาณการ 15,290 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.52 (ประมาณการ 4 วัน 277,126 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น
1.1 ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 110,444 คน-เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 151,392 คน-เที่ยว
1.2 โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 126,139 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 135,697 คน-เที่ยว
1.3 ซึ่งพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 93,977 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออกสะสม 45,530 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 48,447 คน-เที่ยว)
รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 64,173 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออกสะสม 29,789 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 34,384 คน-เที่ยว)
สายเหนือ 53,051 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออกสะสม 25,982 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 27,069 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 33,839 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออกสะสม 16,466 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 17,373 คน-เที่ยว) และ
สายมหาชัย/แม่กลอง 16,796 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออกสะสม 8,372 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 8,424 คน-เที่ยว)

2) ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง) สะสม 4 วัน มีผู้ใช้บริการรวม 3,487,847 คน-เที่ยว มากกว่าประมาณการ 544,073 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 18.48 (ประมาณการสะสม 4 วัน 2,943,774 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย
2.1 Airport Rail Link 187,827 คน-เที่ยว
2.2 สายสีแดง 54,044 คน-เที่ยว สายฉลองรัชธรรม(สีม่วง) 99,062 คน-เที่ยว
2.3 สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 1,012,861 คน-เที่ยว และ
2.4 รถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) 2,134,053 คน-เที่ยว

สำหรับด้านความปลอดภัยด้านระบบรางสะสม 4 วัน ไม่มีเหตุอันตรายทางราง แต่มีระบบรถไฟฟ้าขัดข้องรวม 1 ครั้ง (Airport Rail Link ระบบขับเคลื่อนขัดข้องที่สถานีบ้านทับช้าง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565)

ทั้งนี้ เมื่อวาน (16 ตุลาคม 2565) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของช่วงวันหยุดต่อเนื่อง มีประชาชนมาใช้บริการระบบราง รวมจำนวน 918,064 คน-เที่ยว มากกว่าประมาณการ 230,275 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 33.48 (ประมาณการวันที่ 16 ต.ค. 65 จำนวน 687,789 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 71,008 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) จำนวน 847,056 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟของ รฟท. จำนวน 71,008 คน-เที่ยว ซึ่งมากที่สุดของวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน (เพิ่มจากวันที่ 15 ต.ค. 65 จำนวน 9,545 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.53) แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 30,574 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 40,434 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 31,188 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจากวันที่ 15 ต.ค. 65 จำนวน 1,857 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.33) และผู้โดยสารขาเข้า 39,820 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจากวันที่ 15 ต.ค. 65 จำนวน 7,688 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.93) แต่น้อยกว่าประมาณการ 2,178 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 2.98 (ประมาณการ 15 ต.ค.65 จำนวน 73,186 คน-เที่ยว) โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 23,947 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,796 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 13,151 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18,112 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,589 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,523 คน-เที่ยว) สายเหนือ 15,200 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,903 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,297 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 8,786 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,498 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,288 คน-เที่ยว) และสายมหาชัย/แม่กลอง 4,963 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 2,402 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,561 คน-เที่ยว) โดยไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถ

2. ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง) ให้บริการรวม 1,879 เที่ยววิ่ง มีผู้ใช้บริการจำนวน 847,056 คน-เที่ยว มากกว่าประมาณการ 232,453 คน-เที่ยวหรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 37.82 (ประมาณการ 614,603 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 50,066 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 13,445 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) จำนวน 22,667 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 224,022 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) จำนวน 536,856 คน-เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ โดยไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง
#กรมการขนส่งทางราง เพื่อความสุขและความปลอดภัยในการเดินทางระบบรางของไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/10/2022 8:04 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
20 ต.ค. 65 19:53
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/414688520855616

วันนี้ (20 ตุลาคม 2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานการประชุมคณะทำงานกำหนดนโยบายด้านการคมนาคมเพื่อสนับสนุนการบูรณาการการเชื่อมโยงระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างสามประเทศ เพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าโลก โดยเฉพาะการที่ประเทศไทยมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สามารถเป็นประตูเชื่อมโยงภูมิภาคอื่นกับเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคและอาเซียนเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในอนาคตจึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการจัดทำนโยบายด้านการคมนาคมเพื่อสนับสนุนการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยกระทรวงคมนาคม ภายใต้การบริหารของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดำเนินการเชื่อมต่อโครงข่ายด้านโลจิสติกส์ระหว่างสามประเทศ เนื่องจากโครงการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟ ไทย ลาว และจีน ระบบการขนส่งทางรางเป็นรูปแบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทั้งในมิติด้านต้นทุนทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟจากไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะส่วนเสริมสร้างการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดนโยบายด้านการคมนาคมเพื่อสนับสนุนการบูรณาการการเชื่อมโยงระหว่างไทย ลาว และจีนเพื่อตอบสนองต่อนโยบายการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างสามประเทศที่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ

ซึ่งในการประชุมในวันนี้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อรองรับการขนส่งข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างไทย – ลาว – จีน ด้วยรถไฟขนาดทาง 1 เมตร ให้สามารถเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกที่จะช่วยขยายความครอบคลุมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปให้ได้ประโยชน์ในทุกมิติ และได้มอบหมายให้ดำเนินการ ดังนี้

1. มอบหมายการรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ก่อนพิจารณาหารือร่วมกับฝ่าย สปป.ลาว เพื่อพิจารณาการกำหนดจุดตรวจร่วม (Common Control Area : CCA) การปรับปรุงความตกลงเดินรถไฟร่วม เช่น
การพิจารณาเพิ่มสถานีระหว่างประเทศ (International Station) รวมถึงพิจารณาจัดการประชุมคณะทำงานร่วมไตรภาคีด้านรถไฟระหว่างไทย – ลาว – จีน ทั้งในระดับคณะทำงานด้านเทคนิค และธุรกิจ และการประชุมไตรภาคีเพื่อหารือแนวทางการเชื่อมโยงรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน (ระดับอธิบดี) โดยเร็วต่อไป

2. มอบหมายกรมทางหลวงเร่งรัดการศึกษาแนวทางการก่อสร้างสะพานแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ก่อนนำผลการศึกษาหารือร่วมกับฝ่าย สปป.ลาว โดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ให้กรมทางหลวงพิจารณานำประเด็นการเปิดใช้สะพานมิตรภาพแห่งเดิมหลังจาก เวลา 22.00 น. หารือในการประชุมคณะกรรมาธิการบริหารและบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพ (หนองคาย-เวียงจันทน์) ครั้งต่อไป

3. มอบหมายกรมการขนส่งทางบก พิจารณาปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนนระหว่างไทย – ลาวตามที่ฝ่าย สปป.ลาว เสนอ โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ

4. มอบหมายสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก สถาบันการบินพลเรือน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมข้อมูลการฝึกอบรมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งเรื่องถนน ทางราง โลจิสติกส์ และการบินพลเรือน ตามข้อร้องขอของฝ่ายลาวต่อไป

5. มอบหมายการรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดแก้ไขปัญหาการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยเร็วต่อไป

6. มอบหมายให้พิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไทย ลาว จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อหารือแนวทางการในบูรณาการการขนส่งร่วมกันในอนาคตที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ต่อไป

7. มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดการแก้ไขแบบก่อสร้างทางรถไฟทางคู่บริเวณสี่แยกบ้านจั่น อำเภอเมืองอุดรธานีโดยเร็ว เพื่อบรรเทาข้อกังวลของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมเร่งรัด และติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป

8. มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) การดำเนินการสนับสนุนการบูรณาการการเชื่อมโยงระหว่างไทย ลาว และจีน ให้มีความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ในประเด็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างศักยภาพและแสวงหาโอกาสใหม่ทางการค้า การลงทุน ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา มาตั้งแต่ปี 2560 โดยในการดำเนินโครงการดังกล่าวประเทศไทยจะเป็นผู้ลงทุนโครงการ 100% โดยฝ่ายไทยจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง งานโยธา โดยฝ่ายจีนจะดำเนินการออกแบบ ควบคุมงาน และติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล

เมื่อเปรียบเทียบโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน และโครงการรถไฟลาว – จีน จะพบว่ารถไฟลาว – จีน เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างฝ่ายลาวกับจีน โดยฝ่ายลาวลงทุนร้อยละ 30 ฝ่ายจีนลงทุนร้อยละ 70 โดยเป็นการออกแบบพร้อมก่อสร้าง (Design Build) ใช้รางขนาด 1.435 เมตร เป็นทางเดี่ยว โดยใช้รถไฟ EMU รุ่น CR 200 ด้วยความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่รถไฟไทย – จีน เป็นรถไฟความเร็วสูงที่มีการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่แตกต่างจากรถไฟลาว – จีน โดยก่อสร้างเป็นทางคู่ตลอดเส้นทาง โดยใช้รถรุ่น CR300 สามารถรองรับความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฝ่ายไทยเป็นผู้ลงทุนโครงการทั้งหมด 179,412.21 ล้านบาท ระยะทาง 253 กิโลเมตร ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถกำหนดยุทธศาสตร์ เช่น มีอิสระในการกำหนดแผนในการเดินรถ (Operation) ไม่เสียสิทธิ์การใช้พื้นที่ข้างทาง สามารถกำหนดให้พนักงานขับรถไฟและพนักงานในศูนย์ซ่อมบำรุงทั้งหมดเป็นชาวไทยได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการเดินรถ ซึ่งถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งมั่นจะดำเนินโครงการที่ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านระบบรางในระยะยาวที่ยั่งยืน และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่จะสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน การท่องเที่ยวและนำมาสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/10/2022 5:42 am    Post subject: Reply with quote

พ.ร.บ.ขนส่งทางรางใช้ปีหน้า
Source - เดลินิวส์
Tuesday, October 25, 2022 04:28

เคลียร์สหภาพจบ-ผ่านกมธ. เร่งเคาะกฎหมายลูก70ฉบับ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ.... ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง และได้นำเสนอร่างกฎหมายกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย เป็นประธาน เพื่อบรรจุเป็นวาระการพิจารณาร่างกฎหมายในวาระ 2 และวาระ 3 แล้ว คาดว่าจะได้รับการพิจารณาในการประชุมสภาสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 ซึ่งจะเปิดประชุมวันที่ 1 พ.ย. 65 หากร่างกฎหมายได้รับการโหวตผ่านทั้ง 2 วาระ จะส่งกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อนำกราบบังคมทูลต่อไป เบื้องต้นคาดว่าร่าง พ.ร.บ.การขนส่ง ทางราง จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ภายในต้นปี 66

ส่วนกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) คัดค้าน พ.ร.บ.การขนส่งทางราง เพราะให้อำนาจกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เกินกว่าการกำกับดูแลนั้น ขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ที่ผ่านมา ขร. พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกังวลต่าง ๆ และ สร.รฟท.ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนทั้งหมดแล้ว และขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับดังกล่าว ขร. จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับงานขนส่งทางรางของประเทศไทยเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจที่จะเวนคืนที่ดิน รวมถึงใช้อำนาจบริหารอสังหาริมทรัพย์ของ รฟท. ตามที่ทาง สร.รฟท. กังวลแต่อย่างใด

ระหว่างรอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง ทาง ขร. ได้จัดทำกฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ. เสร็จเรียบร้อยแล้ว รวม 70 ฉบับ อาทิ การออกใบอนุญาตขับรถไฟ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง, การจดทะเบียนตัวรถไฟ, การประกาศเขตปลอดภัย และการกำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูง เป็นต้น

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับกฎหมาย เพื่อมาพิจารณากฎหมายลูกแต่ละฉบับร่วม กันว่าต้องปรับแก้ ในส่วนใดหรือไม่อย่างไร โดย ขร. จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้แล้วเสร็จ และทยอยประกาศใช้ภายหลังจาก ร่าง พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง มีบทบัญญัติทั้งหมด 10 หมวด ประกอบด้วย หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง, หมวด 2 การจัดทำโครงการการขนส่งทางราง, หมวด 3 เขตระบบรถขนส่งทางรางและเขตปลอดภัยระบบ รถขนส่งทางราง, หมวด 4 การกำกับดูแลการประกอบกิจการ, หมวด 5 การสอบสวนอุบัติเหตุ, หมวด 6 ผู้ตรวจการขนส่งทางราง, หมวด 7 ผู้ประจำหน้าที่, หมวด 8 การจดทะเบียนรถขนส่งทางราง

หมวด 9 การคุ้มครองผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ และหมวด 10 บทกำหนดโทษ ซึ่งรวมกับบทเฉพาะกาล โดยร่าง พ.ร.บ.นี้มี 165 มาตรา มี หลักการสำคัญเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง กำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัย การจัดสรรความจุ ตารางเวลาเดินรถ และเส้นทาง การสอบสวนอุบัติเหตุ และการจดทะเบียนรถขนส่งทางราง.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 25 ต.ค. 2565


กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
25 ต.ค. 65 18:30 น.

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/418395810484887

กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ JICA ลงพื้นที่สังเกตการณ์การสำรวจการเดินทาง
เพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง (Railway Demand Forecast Model)

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ลงพื้นที่ลงพื้นที่ที่สถานีจรัญฯ 13 ของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน เพื่อสังเกตการณ์ การสำรวจเส้นทางเลือกการเดินทางด้วยรถไฟและการสำรวจการเข้าถึงสถานี (Rail Route Choice Survey and Station Access Survey) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 หรือ M-MAP2
การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการสำรวจผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สถานี สำรวจการเลือกใช้เส้นทางรถไฟฟ้า และการสำรวจการเลือกรูปแบบการเดินทางหลัก (Main Mode Choice Survey) โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ประชาชน ที่มารอใช้รถโดยสารประจำทาง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า สถานศึกษา สถานที่ราชการ เป็นต้น รวมทั้ง ได้ลงพื้นที่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ เพื่อเก็บข้อมูลการสำรวจการเข้าถึงศูนย์การเดินทาง (Transport Hub Access Survey) ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ผู้โดยสารที่มาใช้บริการของสถานีที่เป็นศูนย์การเดินทาง โดยหัวข้อการสัมภาษณ์จะเป็นเรื่องของทัศนะคติต่อการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ลักษณะการเลือกเส้นทางสายรถไฟฟ้า การเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้า ผลกระทบต่อการเดินทางในช่วงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเดิน/ปั่นจักรยานมายังสถานี

สำหรับข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง (Railway Demand Forecast Model) ซึ่งเป็นแบบจำลองแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการวางแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางโดยเฉพาะ รวมถึงไว้เพื่อทดสอบนโยบายต่าง ๆ ของกรมการขนส่งทางราง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามที่วางแผนไว้ในสิ้นเดือนตุลาคม 2565 – ต้นเดือนพฤศจิกายน 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/11/2022 10:22 am    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
1 พ.ย. 65 09:58

สถิติการขนส่งสินค้าทางราง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/423395649984903

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/11/2022 9:04 am    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
2 พ.ย. 65 17:18 น.

ภาพรวมการขนส่งทางรางประเทศไทย ปี 2565 🚂🇹🇭

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/424294156561719


Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 44, 45, 46 ... 63, 64, 65  Next
Page 45 of 65

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©