ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)

[Mongwin]

รถไฟฟ้าในเมือง ESG สำคัญ ภาคขนส่ง | สถานีกลางพระราม 9 (4 มิ.ย.67)
สํานักข่าวไทย TNAMCOT
Jun 4, 2024

คุยกับ "พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์" อธิบดีกรมการขนส่งทางราง


https://www.youtube.com/watch?v=Zcy1wjmotlw

Electric Trains in the City: ESG Importance in the Transport Sector | Central Rama 9 Station (June 4, 2024)
Thai News Agency TNAMCOT
June 4, 2024

Interview with "Pichet Kunathammarak," Director-General of the Department of Rail Transport.

ESG ย่อมาจาก Environmental, Social, and Governance ซึ่งเป็นกรอบการประเมินผลการดำเนินงานขององค์กรในสามด้านหลัก คือ:

1. Environmental (สิ่งแวดล้อม): การประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการของเสีย และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

2. Social (สังคม): การประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสังคมและชุมชน เช่น การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน การส่งเสริมความหลากหลายและการรวมกัน การพัฒนาชุมชน และการให้การสนับสนุนด้านการศึกษา

3. Governance (ธรรมาภิบาล): การประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการองค์กร เช่น ความโปร่งใสในการดำเนินงาน การกำกับดูแลกิจการที่ดี การจัดการความเสี่ยง และการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้น

การดำเนินงานตามกรอบ ESG ถือเป็นการทำให้ธุรกิจไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาลที่ดีด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน

[Wisarut]

ครบรอบ 5 ปี “กรมราง” เร่งสปีดรถไฟทางคู่-โครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ
ฐานเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:29 น.

ครบรอบ 5 ปี “กรมขนส่งทางราง” เดินหน้าเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ เร่งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบผู้ใช้บริการระบบรางแตะ 460 ล้านเที่ยว-คน เตรียมดับร่างพ.ร.บ.การขนส่งฯ รับระบบขนส่งทางรางขึ้นแท่นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 5 ปี ทั้งนี้ ขร. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านระบบขนส่งทางราง ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าหลักของประเทศ ซึ่งจากภาพรวมการขนส่งทางรางของไทยในปีที่ผ่านมา ปริมาณรวมตลอดทั้งปีมีมากถึง 460,826,879 เที่ยว-คน หรือเฉลี่ยมากกว่า 1.2 เที่ยว-ล้านคนต่อวัน



ขณะที่การขนส่งสินค้าทางรางเฉลี่ยต่อปีมีมากถึง 12 ล้านตัน เหตุเพราะมีการพัฒนาเรื่องของโครงข่ายระบบขนส่งทางรางที่เพิ่มขึ้น ทั้งการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ หรือโครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเมื่อโครงข่ายมากขึ้นก็ส่งผลให้มีขบวนรถที่ให้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย



ทั้งนี้ ขร. ได้ผลักดัน “นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยได้ดำเนินการข้ามสาย 2 สายแรก คือ สายสีแดง (รถไฟฟ้าชานเมือง สายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต และ สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) สายสีม่วง (รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม) จนประสบความสำเร็จ ถือเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งทางรางให้ประชาชนทุกคนได้ใช้บริการอย่างเท่าเทียม และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง




นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนของปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากระบบขนส่งทางราง ทั้งเหตุขัดข้องรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ขร. ได้ดำเนินการหาสาเหตุและเสนอแนวทางการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือลดโอกาสการเกิดเหตุขัดข้องให้กับผู้ให้บริการนำไปเป็นมาตรฐานในการดำเนินการ


ด้านปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางลักผ่านที่ผ่านมา ขร. ดำเนินการปิดจุดตัดทางลักผ่านภายใน 5 เดือนไปแล้วกว่า 92 จุดจากทั้งสิ้น 793 จุด นอกจากนี้ ขร. ยังได้ดำเนินการจัดการข้อร้องเรียนระบบขนส่งทางราง อาทิเช่น ขบวนรถไฟยกเลิกการให้บริการ ขบวนรถไฟล่าช้า การขอคืนเงินจากการยกเลิกการเดินทาง และการให้บริการของเจ้าหน้าที่ โดยดำเนินการจัดการข้อร้องเรียนไปแล้วกว่า 27 เรื่อง ตลอดปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากระบบขนส่งทางราง และเพื่อเป็นการกำกับ ติดตามให้เกิดการบริการระบบขนส่งทางรางที่มีคุณภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด

ครบรอบ 5 ปี “กรมราง” เร่งสปีดรถไฟทางคู่-โครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ

ขณะเดียวกัน ขร. ได้เร่งรัดผลักดัน พ.ร.บ. การขนส่งทางราง พ.ศ. .... เพื่อให้เกิดการกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางในทุก ๆ ด้านมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการเดินทางด้วยระบบราง พร้อมทั้งคุ้มครองให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัย และอัตราค่าโดยสารมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันได้เสนอร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว



“ขร. ได้ประสานความร่วมมือ กับนานาประเทศ โดยมีการจัดทำแผนต่างๆ เช่น การเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่าง ไทย - ลาว – จีน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าที่ปัจจุบันได้มีการส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกไปยังประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ามีทางเลือกในการใช้เส้นทางการขนส่งหลากหลายรูปแบบ สามารถกระจายผลไม้ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าไปยังต่างประเทศได้ตามความต้องการภายในระยะเวลาที่เหมาะสม”

นอกจากนี้ ขร. ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง โดยมีการจัดทำร่างมาตรฐานการขนส่งทางรางที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย จำนวน 24 ฉบับ ทั้งในด้านเครื่องกลและตัวรถขนส่งทางราง ด้านโครงสร้างพื้นฐานและงานโยธา ด้านระบบอาณัติสัญญาณ โดยมาตรฐานเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งทางรางของไทย และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการขนส่งทางรางของประเทศไทยให้เทียบเท่าสากล

[Mongwin]

เร่งคลอดพ.ร.บ.รางหวังคุมค่าโดยสาร
Source - ไทยโพสต์
Saturday, June 08, 2024 04:18

ไทยโพสต์ * นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 5 ปี โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานในพิธี ว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ขร.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านระบบขนส่งทางราง ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าหลักของประเทศ ซึ่งจากภาพรวมการขนส่งทางรางของไทยในปีที่ 66 ปริมาณรวมตลอดทั้งปีมีมากถึง 460,826,879 เที่ยว-คน หรือเฉลี่ยมากกว่า 1.2 เที่ยว-ล้านคนต่อวัน และการขนส่งสินค้าทางรางเฉลี่ยต่อปีมีมากถึง 12 ล้านตัน

นอกจากนี้ ขร.ได้ผลักดัน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยได้ดำเนินการข้ามสาย 2 สายแรก คือ สายสีแดง และสายสีม่วง ถือเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งทางรางให้ประชาชนทุกคนได้ใช้บริการอย่างเท่าเทียม และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางขณะเดียวกันได้มีการจัดทำแผนต่างๆ เช่น การเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าที่ปัจจุบันได้มีการส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกไปยังประเทศจีน พร้อมทั้งการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ หรือโครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเมื่อโครงข่ายมากขึ้นก็ส่งผลให้มีขบวนรถที่ให้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายพิเชฐกล่าวว่า ขร.ได้เร่งรัดผลักดัน พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ..เพื่อให้เกิดการกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางในทุกๆ ด้านมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการเดินทางด้วยระบบราง พร้อมทั้งคุ้มครองให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัย และอัตราค่าโดยสารมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันได้เสนอร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ..ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว.

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 8 มิ.ย. 2567


Expedite the Enactment of the Rail Transport Act to Control Fares

Source: Thai Post
Saturday, June 08, 2024 04:18

Thai Post – Mr. Pichet Kunathammarak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), revealed during the 5th anniversary of the department's establishment, with Deputy Transport Minister Mr. Surapong Piyachote presiding over the ceremony. Over the past five years, the DRT, as the regulatory body for rail transport, has continuously improved the rail transport system to meet the travel needs of the public. The aim is to support rail transport as the primary mode of passenger and freight transport in the country. In 2023, Thailand's rail transport saw a total of 460,826,879 passenger trips, averaging more than 1.2 million trips per day, and freight transport averaged 12 million tons per year.

Additionally, the DRT has promoted the 20-baht flat fare policy for electric trains in collaboration with the State Railway of Thailand (SRT) and the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA). This initiative began with the Red and Purple Lines, providing equal access to the rail transport system for everyone and reducing travel costs. Plans such as the Thai-Laos-China railway connection are also underway to support freight exports, including durians from Eastern Thailand to China. The introduction of double-track railways and expansion of the electric train network in Bangkok and its vicinity will increase the number of service trains.

Mr. Pichet stated that the DRT is expediting the push for the Rail Transport Act to ensure uniform standards nationwide. This act aims to build public confidence in rail travel, ensure safe journeys, and maintain fair fare prices. The draft bill has already been submitted to the Cabinet for consideration.

Source: Thai Post, June 8, 2024

[Mongwin]

กรมรางดันคลอดเพดานค่ารถไฟฟ้าแรกเข้าให้เริ่มที่12.49บาทลดลงจากเดิม15-17บาท | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Monday, June 10, 2024 17:26

ครบ 5 ปี ตั้ง “กรมการขนส่งทางราง” ผลงานไม่ธรรมดา เร่งผลักดันคลอดเพดานค่ารถไฟฟ้าเริ่ม 12.4 บ. ลดจาก 15-17 บ. รถไฟระหว่างเมืองไม่มีค่าแรกเข้าคิดตามระยะทาง รถไฟความเร็วสูงแรกเข้า 95 บ.+คิดตามระยะทาง นโยบาย 20 บ. ผู้โดยสารเพิ่ม 4 ล้าน ลดชดเชย 70 ล.

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางรางครบรอบ 5 ปี ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ขร. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านระบบขนส่งทางราง ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดการข้อร้องเรียนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากระบบขนส่งทางราง และกำกับ ติดตามให้เกิดการบริการระบบขนส่งทางรางที่มีคุณภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ในปีที่ 6 ขร. ยังคงเดินหน้าผลักดันให้ระบบขนส่งทางรางของไทยพัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพ สู่การเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ และสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการว่าจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว มีความสุข และความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมกันนี้จะเร่งผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึง และได้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางอย่างเท่าเทียม รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย โดยเฉพาะนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล ที่นำร่องตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 66 ในรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ประสบความสำเร็จอย่างดี ดึงดูดประชาชนมาใช้บริการขนส่งทางรางมากขึ้น

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลถึงวันที่ 30 เม.ย. 67 หรือประมาณ 6 เดือนครึ่ง พบว่า ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยรวม 2 สาย 18.08 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 (16 ต.ค. 65-30 เม.ย. 66) ซึ่งผู้โดยสารอยู่ที่ 14.22 ล้านคน เพิ่งขึ้นถึง 4 ล้านคน โดยสายสีแดง ผู้โดยสาร 5.48 ล้านคน เพิ่มขึ้น 51.46% ส่วนสายสีม่วง 12.59 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18.17% ขณะที่รายได้ค่าโดยสารของ 2 สาย 289.30 ล้านบาท ลดลง 18.81% ก่อนดำเนินการรายได้ 356.31 ล้านบาท และหลังดำเนินการรายได้ 289.30 ล้านบาท (ลดลงประมาณ 67 ล้านบาท) ซึ่งสายสีแดง รายได้ 107.29 ล้านบาท ลดลง 1.79% และสายสีม่วง รายได้ 182.01 ล้านบาท ลดลง 26.70% ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ ส่งผลให้การสูญเสียรายได้ของทั้ง 2 สาย ลดลงจากที่คาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี เหลือประมาณ 130 ล้านบาทต่อเดือน

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขร. จะเร่งผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. …. ซึ่งได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ ขร. มีอำนาจสั่งการ และลงโทษตามกฎหมายหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตาม รวมทั้งสามารถกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางในทุกๆ ด้าน ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการเดินทางด้วยระบบราง พร้อมทั้งคุ้มครองให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัย และอัตราค่าโดยสารมีราคาที่เหมาะสมด้วย

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ขร. ได้ศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูง ค่าแรกเข้า และหลักเกณฑ์การขึ้นอัตราค่าโดยสารขนส่งมวลชนระบบรางเสร็จเรียบร้อยแล้วจะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับรถไฟฟ้าทุกสาย เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการแต่ละราย จะเก็บค่าโดยสารไม่เท่ากันแล้วแต่สัญญาสัมปทาน เริ่มที่ 12-17 บาท อีกทั้งระบบขนส่งทางรางเป็นระบบเดียวที่ยังไม่กำหนด และไม่มีการควบคุมเรื่องค่าโดยสาร ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ อาทิ รถโดยสาร เครื่องบิน และเรือโดยสาร มีการกำหนดเพดานค่าโดยสารขั้นสูงหมดแล้ว

สำหรับอัตราค่าโดยสารของระบบขนส่งมวลชนทางราง ที่จะเริ่มใช้ในปี 67 หาก พ.ร.บ.การขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้ มีความใกล้เคียงกับค่าโดยสารที่ให้บริการในปัจจุบัน แบ่งเป็น รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าแรกเข้า 12.49 บาท ค่าโดยสาร 2.25 บาทต่อกิโลเมตร (กม.) การขึ้นอัตราค่าโดยสารใช้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) กรุงเทพฯ รถไฟฟ้าในเมืองภูมิภาค ค่าแรกเข้า 11.51 บาท ค่าโดยสาร 2.07 บาทต่อ กม. การขึ้นอัตราค่าโดยสารใช้ CPI รายจังหวัด

รถไฟระหว่างเมือง ไม่มีค่าแรกเข้า คิดค่าโดยสารตามระยะทาง และชั้นโดยสาร อาทิ ชั้น 1 ระยะทาง 1-100 กม. ค่าโดยสาร 1.165 บาทต่อ กม. และชั้น 3 ระยะทาง 1-100 กม. ค่าโดยสาร 0.237 บาทต่อ กม. เป็นต้น และรถไฟความเร็วสูง ค่าแรกเข้า 95 บาท ระยะทาง 0-300 กม. ค่าโดยสาร 1.97 บาทต่อ กม. และ 300 กม.ขึ้นไป ค่าโดยสาร 1.70 บาทต่อ กม. ทั้งนี้จะนำมาใช้ เมื่อ พ.ร.บ.การขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้แล้ว.


Department of Rail Transport Proposes Lower Starting Fare for Electric Trains

Source: Daily News website, Monday, June 10, 2024

The Department of Rail Transport (DRT) is celebrating its 5th anniversary with significant achievements. The DRT has been actively working to improve Thailand's rail transport system, address passenger concerns, and enhance overall service quality.

In line with government policy, the DRT is proposing a reduced starting fare for electric trains in Bangkok and surrounding areas, down to 12.49 baht from the current 15-17 baht. This initiative aims to make rail transport more affordable and accessible for the public.

A pilot program implementing a 20 baht flat fare on the Red and Purple Lines has proven successful, attracting a significant increase in passengers. From October 16, 2023, to April 30, 2024, passenger volume on these lines grew by 27.10% compared to the same period in 2023.

The DRT is also pushing for the enactment of the Rail Transport Act, which would grant the department greater regulatory authority and allow it to enforce standardized fares and service quality across all rail lines nationwide.

Once the act is in effect, standardized fares will be implemented for different types of rail services:

* Bangkok electric trains: 12.49 baht entry fee, 2.25 baht per kilometer.
* Regional city electric trains: 11.51 baht entry fee, 2.07 baht per kilometer.
* Intercity trains: No entry fee, fare calculated based on distance and class.
* High-speed trains: 95 baht entry fee, distance-based fare.

These proposed changes aim to create a more equitable and transparent fare structure for all rail passengers. The DRT's ongoing efforts will continue to focus on improving the efficiency, accessibility, and affordability of Thailand's rail transport system.

[Wisarut]

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานงานครบรอบ 5 ปี กรมการขนส่งทางราง
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/84108

[Wisarut]

บทวิเคราะห์ เรื่อง "ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์"
บทความนี้กล่าวถึงการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ในระบบราง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และลดต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มของการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในภาคส่วนระบบราง รวมถึงความท้าทายและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ อีกทั้งยังมีการนำเสนอตัวอย่างการนำปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในระบบรางของประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบรางในอนาคต
สนใจอ่านเนื้อหาเพิ่มเติม และดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่
https://anyflip.com/isges/gsmx/

[Mongwin]

ดันร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ "สุริยะ"เร่งใช้ปี 68 ตั้งกองทุนฯ หนุนค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, June 13, 2024 12:32

คณะกก.นโยบายตั๋วร่วมดันร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ พร้อมเห็นชอบแนวทาง ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย“สุริยะ” สั่ง“สนข.” เร่งบังคับใช้ในปี 68 ลุยตั้งกองทุนฯ กระตุ้นใช้รถไฟฟ้า - ลดค่าใช้จ่ายประชาชน แก้ปัญหาจราจร

เมื่อวันที่12 มิถุนายน 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมที่ผ่านมา และผลการศึกษาโครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร (สนข.) โดยผลการศึกษาด้านนโยบายและแผนได้กรอบแนวทางและข้อเสนอแนะโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วม สำหรับระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงสร้างค่าโดยสารร่วมและส่วนลดค่าโดยสารการเดินทางข้ามระบบ และอัตราค่าธรรมเนียมทางการเงินในระบบตั๋วร่วม แผนปฏิบัติการด้านการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม แผนการลงทุนและการพัฒนาระบบตั๋วร่วม แผนพัฒนาระบบฐานข้อมูลการเดินทางและค่าโดยสาร แผนและแนวทางการติดตามประเมินผล สำหรับด้านกฎหมายได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนแผนดังกล่าวให้ไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงผลักดันร่าง พ.ร.บ. ฯ ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ในระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยให้ สนข. เร่งรัดการเสนอร่าง พ.ร.บ. ฯ เพื่อกระทรวงคมนาคมพิจารณานำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในปี 2568 พร้อมทั้งให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน การพัฒนาและการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม รวมถึงการส่งเสริมและอุดหนุนประชาชนผู้ใช้บริการระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้ระบบขนส่งด้วยความสะดวก โดยมีต้นทุนการเดินทางที่สมเหตุสมผล ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนลดข้อจำกัดจากสัญญาสัมปทานเดิม

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สนข. กรมการขนส่งทางราง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการออกประกาศที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจาก พ.ร.บ. ฯ มีผลใช้บังคับแล้ว เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม

สำหรับร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ประกอบด้วย 7 หมวด และบทเฉพาะกาล (45 มาตรา) ดังนี้

การกำหนดคำนิยาม (มาตรา 1 - 4)

หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (มาตรา 5 - 13)
หมวด 2 การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (มาตรา 14 - 23)
หมวด 3 การดำเนินงานในการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (มาตรา 24)
หมวด 4 อัตราค่าโดยสารร่วม (มาตรา 25 - 28)
หมวด 5 กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม (มาตรา 29 - 34)
หมวด 6 การพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต (มาตรา 35 - 36)
หมวด 7 โทษทางปกครอง (มาตรา 37 - 40)
บทเฉพาะกาล (มาตรา 41 - 45)

“กระทรวงคมนาคมมั่นใจว่าการเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วนั้น จะสามารถสนับสนุนการดำเนินงานการพัฒนาและส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมภายในเดือนมีนาคม 2569 ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถใช้ระบบขนส่งมวลชนด้วยความสะดวก มีต้นทุนการเฟดินทางที่สมเหตุสมผล ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างยั่งยืน เพื่อความอุดมสุขของประชาชนอย่างแท้จริง”นายสุริยะ กล่าว


Draft Joint Ticket Act Pushed by "Suriya"; Aims for Implementation in 2025 with a 20 Baht Flat Fare

Source: Manager Online
Date: Thursday, June 13, 2024, 12:32 PM

The Joint Ticket Policy Committee has pushed forward the draft Joint Ticket Act, agreeing on a 20 Baht flat fare for the entire route. "Suriya" has instructed the Office of Transport and Traffic Policy and Planning (OTP) to expedite its implementation by 2025. A fund will be established to support the fare, encouraging the use of electric trains, reducing public transportation costs, and alleviating traffic problems.

On June 12, 2024, Mr. Suriya Jungrungreangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, chaired the first 2024 meeting of the Joint Ticket System Policy Committee. The meeting was attended by Mr. Chayatham Phromsorn, Permanent Secretary of the Ministry of Transport, along with other relevant agencies at the Ministry of Transport's conference room.

Mr. Suriya reported that the committee acknowledged the progress of the joint ticket system management and the study results on the framework and recommendations for fare structure within Bangkok and its metropolitan areas. This includes a joint fare structure, cross-system travel discounts, financial transaction fees, and plans for managing and developing the joint ticket system. The legal framework includes drafting the Joint Ticket System Management Act, which is currently being pushed forward for swift enforcement.

Additionally, the committee approved the policy for a 20 Baht flat fare for rail transport within Bangkok and its metropolitan areas, assigning relevant agencies to adhere to the outlined plan. The OTP is to expedite the draft Act's proposal to the Ministry of Transport for submission to the Cabinet (Cabinet), aiming for enforcement by 2025. A promotion fund will be established to support joint ticket system management, development, and promotion, ensuring convenience and reasonable travel costs for the public, thereby sustainably reducing travel expenses and overcoming existing concession limitations.

Tasks have been assigned to the OTP, the Department of Rail Transport, the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA), the State Railway of Thailand (SRT), and Bangkok Metropolitan Administration (BMA) to issue related announcements post-enforcement of the Act. This aims to make the 20 Baht flat fare policy a tangible reality as per the government's plan.

The draft Joint Ticket System Management Act includes seven chapters and transitional provisions (45 sections) as follows:

- Definitions (Sections 1-4)
- Chapter 1: Joint Ticket System Policy Committee (Sections 5-13)
- Chapter 2: Joint Ticket System Management (Sections 14-23)
- Chapter 3: Joint Ticket System Operations (Section 24)
- Chapter 4: Joint Fare Rates (Sections 25-28)
- Chapter 5: Joint Ticket System Promotion Fund (Sections 29-34)
- Chapter 6: Suspension and Revocation of Licenses (Sections 35-36)
- Chapter 7: Administrative Penalties (Sections 37-40)
- Transitional Provisions (Sections 41-45)

"The Ministry of Transport is confident that the expedited implementation of the Joint Ticket System Management Act will support the development and promotion of the joint ticket system. This will materialize the government's 20 Baht flat fare policy for electric trains by March 2026, allowing the public to use the mass transit system conveniently at reasonable travel costs, reducing travel expenses sustainably for the true well-being of the people," said Mr. Suriya.

[Mongwin]

“สายสีม่วง” นิวไฮ! ศุกร์สิ้นเดือน มิ.ย. ผู้โดยสารใช้บริการทะลุ 8.6 หมื่นคน
เดลินิวส์ 29 มิถุนายน 2567 14:21 น.

รถไฟฟ้า “สายสีม่วง” ทำนิวไฮ ศุกร์สิ้นเดือน มิ.ย. 67 ผู้โดยสาร 8.6 หมื่นคน สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ หลังให้บริการ 20 บาทตลอดสาย ขณะที่ภาพรวมใช้บริการรถไฟ-รถไฟฟ้าอยู่ที่ 1.84 ล้าคน

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 67 ซึ่งเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน มิ.ย. 67 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 86,639 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา (นิวไฮ) หลังจากมีนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 66 โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 66 ที่จำนวน 83,274 คน-เที่ยว  

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมการใช้ระบบขนส่งทางรางในวันที่ 28 มิ.ย. 67 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1,845,398 คน-เที่ยว ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้บริการเดินรถไฟ 212 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 78,414 คน-เที่ยว แบ่งเป็น ขบวนรถเชิงพาณิชย์ 28,458 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 49,956 คน-เที่ยว 

ขณะที่รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,766,984 คน-เที่ยว ประกอบด้วย รถไฟฟ้สแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ให้บริการ 223 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 8 เที่ยววิ่ง) 77,996 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง 39,474 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลใช้บริการสายสีแดงฟรี 50 คน-เที่ยว) รถไฟฟ้าสายสีม่วงให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) 86,639 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง, รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 485 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 33 เที่ยววิ่ง) 532,552 คน-เที่ยว รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง 904,244 คน-เที่ยว

รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง 7,986 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง 46,270 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง 71,823 คน-เที่ยว อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดระบบฟีดเดอร์ (feeder) เพื่ออำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางป้อนผู้โดยสารให้กับระบบรางตามจุดต่างๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง ภายหลังจากได้มีการปรับค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายแล้ว พบว่า มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการในปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง


"Purple Line" Sets New High! End of June Friday Sees Over 86,000 Passengers

Daily News, June 29, 2024, 2:21 PM

The “Purple Line” metro set a new high with 86,000 passengers using the service on the last Friday of June 2024, the highest since it began operations. This surge comes after the implementation of a flat fare of 20 baht across the entire line. Overall, the use of trains and metros reached 1.84 million passengers.

Mr. Pichet Kunathammarak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), reported that on June 28, 2024, which was the last Friday of June, the Purple Line (Chalong Ratchadham Line) saw 86,639 trips, the highest since its inauguration. This record was achieved after the introduction of a maximum fare of 20 baht starting from October 16, 2023. The previous record was on December 1, 2023, with 83,274 trips.

On June 28, 2024, the overall rail transport system saw a total of 1,845,398 trips. This included 78,414 trips on 212 intercity train services operated by the State Railway of Thailand (SRT), with 28,458 trips on commercial trains and 49,956 trips on social service trains.

For Bangkok and metropolitan area metro services, there were 1,766,984 trips, comprising:

- Airport Rail Link: 223 trips (including 8 additional trips) with 77,996 passengers
- Red Line: 294 trips with 39,474 passengers (including 50 free trips for long-distance train passengers)
- Purple Line: 321 trips (including 3 additional trips) with 86,639 passengers, the highest since the line began operations
- Blue Line (Chalerm Ratchamongkol Line): 485 trips (including 33 additional trips) with 532,552 passengers
- BTS Green Line (Sukhumvit and Silom Lines): 1,240 trips with 904,244 passengers
- BTS Gold Line: 219 trips with 7,986 passengers
- MRT Yellow Line: 276 trips with 46,270 passengers
- MRT Pink Line: 276 trips with 71,823 passengers

The Ministry of Transport has instructed relevant agencies to organize feeder systems to facilitate and reduce travel costs, especially for the Purple and Red Lines. Since the implementation of the 20 baht flat fare, the number of passengers using these lines has been steadily increasing.

[Wisarut]

[Mongwin]

ถอดบทเรียน “สายสีชมพู” ประตูเปิด 50 วินาที ย้ำคุมเข้มขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เดลินิวส์ 9 กรกฎาคม 2567 18:06 น.
นวัตกรรมขนส่ง

“กรมราง” เปิดสถิติรถไฟฟ้าขัดข้อง มิ.ย. เจ๊ง 8 ครั้ง ร่วมถอดบทเรียน “สายสีชมพู” ประตูเปิดกลางทาง ชี้รถไฟฟ้าโมโนเรลไม่ได้ขัดข้อง เกิดจากกระเป๋าติด ประตูเปิด 50 วินาที เน้นย้ำ NBM ปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติ คุมเข้มการปฏิบัติงานพนักงาน ให้ความสำคัญปลอดภัยเป็นอันดับแรก ขณะที่บทลงโทษ รฟม. เป็นผู้ดำเนินการ

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ครั้งที่ 3/67 ร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้รับทราบเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องประจำเดือน มิ.ย. 67 จำนวน 8 ครั้ง (รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท 2 ครั้ง สายสีทอง 2 ครั้ง Airport Rail Link 3 ครั้ง และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 1 ครั้ง) เกิดจากระบบเบรกขัดข้อง 3 ครั้ง ระบบขับเคลื่อน 2 ครั้ง จุดสับรางขัดข้อง 2 ครั้ง และระบบอาณัติสัญญาณขัดข้อง 1 ครั้ง พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบขนส่งทางรางในเดือน ก.ค. 67 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา โดยมีประเด็นหารือสำคัญ ดังนี้

1.กรณีเหตุการณ์ประตูรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดบริเวณสถานีลาดปลาเค้า (PK18) เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 67 เวลา 07.01 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ ขร.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู พบว่า สาเหตุเกิดจากกระเป๋าของผู้โดยสารติดอยู่กับประตูรถไฟฟ้าหมายเลข PM 10 ขณะขบวนรถเคลื่อนที่ออกจากสถานีลาดปลาเค้า มุ่งหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าได้ยินเสียงดังผิดปกติ จึงได้กดปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน และแจ้งเหตุให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถรับทราบเหตุการณ์ โดยบางส่วนของตู้สุดท้ายของขบวนรถยังอยู่ในสถานี ศูนย์ควบคุมการเดินรถจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าทำการเปิดประตูเฉพาะบานที่หนีบกระเป๋า โดยการใช้กุญแจประจำขบวนรถ แต่ไม่สามารถไขเพื่อเปิดประตูบานดังกล่าวได้

ศูนย์ควบคุมการเดินรถจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟฟ้ายกเลิกระบบควบคุมรถอัตโนมัติ และเข้าควบคุมขบวนรถด้วยตนเอง ให้เตรียมพร้อมที่จะขับรถย้อนกลับสู่สถานีลาดปลาเค้า เพื่อทำการเปิดประตูรถและนำกระเป๋าที่ติดอยู่ออก ระหว่างนั้นเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารกับห้องศูนย์ควบคุมการเดินรถ จึงได้ทำการเปิดประตูรถไฟฟ้าฝั่งชานชาลาที่กระเป๋าติดอยู่ ในระหว่างการแก้ไขศูนย์ควบคุมการเดินรถได้เห็นเหตุการณ์ประตูรถเปิดออกผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ก่อนที่เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าจะขับเคลื่อนขบวนรถย้อนเข้าสู่สถานี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าปิดประตูรถทันที พร้อมให้นำกระเป๋าที่ติดกับประตูออก โดยประตูได้เปิดประมาณ 50 วินาที และปรับระบบเดินรถเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ

หลังจากนั้นขบวนรถไฟฟ้าจึงกลับมาให้บริการได้ตามปกติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า ไม่ได้เป็นการขัดข้องของระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแต่อย่างใด เหตุเกิดจากประตูหนีบสายสะพายกระเป๋าของผู้โดยสารขณะปิดประตูรถไฟฟ้า ขั้นตอนการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาผิดพลาด เนื่องจากมีแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลยังคงปลอดภัยอยู่ ทั้งนี้ ขร. ได้กำชับผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบเหตุฉุกเฉิน ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ภายในสถานีให้ผู้โดยสารทราบตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ประตูจัดเก็บค่าโดยสาร และเน้นย้ำพนักงานประจำบนขบวนรถไฟฟ้าใช้ระบบประชาสัมพันธ์ผู้โดยสาร (PA) บนขบวนรถให้ผู้โดยสารทราบว่าจะเปิดประตูโดยให้ยืนห่างจากบริเวณประตูก่อนที่จะเปิดประตูรถไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังให้มีการประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ผู้โดยสารใช้ความระมัดระวังการนำสัมภาระเข้าสู่ขบวนรถ โดยควรสะพายยกระเป๋า/เป้ไว้ด้านหน้าของตัวเอง และงดใช้โทรศัพท์ขณะเข้า-ออกขบวนรถไฟฟ้า พร้อมทั้งต้องมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุในลักษณะดังกล่าว รวมถึงจัดฝึกอบรมและทบทวนการปฏิบัติงานของพนักงานให้เป็นไปตามขั้นตอน (SOPs) อย่างเคร่งครัด และในกรณีฉุกเฉินที่ต้องเปิดประตูรถ ให้ประกาศแจ้งผู้โดยสารให้อยู่ห่างจากบริเวณประตู และดำเนินการด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะเปิดประตูขบวนรถไฟฟ้า

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการป้องกันการเกิดเหตุประตูดังกล่าว โดยให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถเพิ่มเติมข้อมูลรายละเอียดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่พนักงานบนขบวนรถไฟฟ้า และห้ามเปิดประตูในขณะที่ขบวนรถอยู่นอกพื้นที่ชานชาลา พร้อมทั้งปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยให้มีการขับเคลื่อนรถไฟฟ้ามายังสถานีรถไฟฟ้าครบทั้งขบวนก่อน พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าขึ้นไปตรวจสอบบนชั้นชานชาลา เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าขบวนรถไฟฟ้าได้อยู่ในพื้นที่ชานชาลาสถานีทั้งหมดแล้ว จึงจะแจ้งให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถสั่งการให้พนักงานประจำขบวนรถไฟฟ้าดำเนินการเปิดประตูได้ จากนั้นพนักงานประจำขบวนรถไฟฟ้าจึงจะเปิดประตูได้ ซึ่งจะทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า และ 2. การจัดการกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link รามคำแหง เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 67 เวลา 05.07 น. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาการให้เอกชนที่เช่าใช้พื้นที่ต้องมีมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด อาทิ การเว้นระยะห่างสำหรับเป็นทางอพยพให้เพียงพอต่อผู้โดยสาร การตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะนำมาใช้ในพื้นที่บริเวณสถานีและใกล้เคียงให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ การจัดเตรียมให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงที่เพียงพอและพร้อมใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งจัดฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและระงับอัคคีภัยเป็นประจำ นอกจากนี้ให้ รฟท. ร่วมกับบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ดำเนินการตรวจสอบ และซ่อมบำรุงระบบแจ้งเตือนเพลิงไหม้และอุปกรณ์ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายพิเชฐ กล่าวว่า การลงโทษเอาผิด เป็นอำนาจของ รฟม. ในฐานะคู่สัญญาสัมปทานฯ ที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาสัมปทาน ส่วน ขร. แม้จะเป็นผู้กำกับงานทางด้านราง แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งปัจจุบันได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ ขร.มีอำนาจสั่งการ และลงโทษตามกฎหมายหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตาม รวมทั้งสามารถกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางในทุกๆ ด้านให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการเดินทางด้วยระบบราง พร้อมทั้งคุ้มครองให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัย และอัตราค่าโดยสารมีราคาที่เหมาะสมด้วย


Thailand's Department of Rail Transport (DRT) held a meeting to review railway incidents in June and July 2023, focusing on two main events:

1. Pink Line Monorail Door Opening Incident (July 4, 2023):
- A passenger's bag got caught in the train door at Lat Pla Khao station.
- Staff attempted to resolve the issue but miscommunication led to doors opening for about 50 seconds while the train was partially out of the station.
- The incident was not due to technical malfunction but human error.
- DRT emphasized improving communication with passengers during emergencies and stricter adherence to safety protocols.
- New procedures were introduced, including ensuring trains are fully in the station before opening doors.

2. Fire Near Airport Rail Link Ramkhamhaeng Station (July 1, 2023):
- The meeting discussed improving fire prevention measures for businesses renting space near railway stations.
- Recommendations included maintaining proper evacuation routes, regular electrical system checks, and staff training on fire prevention and response.

The DRT director noted that while they oversee rail operations, they currently lack legal authority to impose penalties. A draft Rail Transport Act is pending approval, which would grant DRT more regulatory power.

The article emphasizes the focus on improving safety protocols and communication in response to these incidents.