Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312120
ทั่วไป:13728156
ทั้งหมด:14040276
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 73, 74, 75, 76  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/01/2025 4:08 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
👨‍👩‍👧 ปริมาณผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ประจำปี “พ.ศ. 2567”
ผู้ใช้บริการทั้งหมด 542,334,503 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
🚅 รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 515,485,410 คน-เที่ยว
🚋 รถไฟระหว่างเมือง 26,849,093 คน-เที่ยว
หมายเหตุ : คน-เที่ยว หมายถึง หน่วยการนับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ คือ ผู้โดยสารแตะเข้าสู่ระบบจนออกจากระบบ นับเป็น 1 คน-เที่ยว
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/905287661795697

ปริมาณผู้โดยสารระบบรางทุกระบบ ประจำปี พ.ศ. 2567:
รวมทั้งหมด: 542,334,503 คน-เที่ยว
รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล: 515,485,410 คน-เที่ยว
รถไฟระหว่างเมือง: 26,849,093 คน-เที่ยว
รายละเอียดปริมาณผู้โดยสารตามเส้นทาง:
สายสีเขียว: 263,955,804 คน-เที่ยว
สายสีน้ำเงิน: 155,329,428 คน-เที่ยว
สายสีม่วง: 24,497,924 คน-เที่ยว
แอร์พอร์ต เรล ลิงก์: 24,193,675 คน-เที่ยว
สายสีชมพู: 19,646,357 คน-เที่ยว
สายสีเหลือง: 13,704,231 คน-เที่ยว
สายสีแดง: 11,394,944 คน-เที่ยว
สายสีทอง: 2,763,047 คน-เที่ยว
หน่วยงาน: กรมการขนส่งทางราง
คำขวัญ: "เพื่อความสุขและความปลอดภัยในการเดินทางระบบรางของไทย"

Summary of Rail System Passenger Volume for the Year 2024:
Total: 542,334,503 trips
Urban Rail Systems (Bangkok and Metropolitan Area): 515,485,410 trips
Intercity Rail: 26,849,093 trips
Breakdown by Rail Lines:
Green Line: 263,955,804 trips
Blue Line: 155,329,428 trips
Purple Line: 24,497,924 trips
Airport Rail Link: 24,193,675 trips
Pink Line: 19,646,357 trips
Yellow Line: 13,704,231 trips
Red Line: 11,394,944 trips
Gold Line: 2,763,047 trips
Authority: Department of Rail Transport
Motto: "For the happiness and safety of rail travel in Thailand"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/01/2025 4:11 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
👨‍👩‍👧 ปริมาณผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ประจำเดือน “ธันวาคม 2567”
ผู้ใช้บริการทั้งหมด 47,090,935 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
🚅 รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 44,720,030 คน-เที่ยว
🚋 รถไฟระหว่างเมือง 2,370,905 คน-เที่ยว
หมายเหตุ : คน-เที่ยว หมายถึง หน่วยการนับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ คือ ผู้โดยสารแตะเข้าสู่ระบบจนออกจากระบบ นับเป็น 1 คน-เที่ยว
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/902068538784276

สรุปข้อมูลปริมาณผู้โดยสารระบบราง ประจำเดือน ธันวาคม 2567:
รวมทั้งหมด: 47,090,935 คน-เที่ยว
รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล: 44,720,030 คน-เที่ยว
รถไฟระหว่างเมือง (รฟท.): 2,370,905 คน-เที่ยว
รายละเอียดปริมาณผู้โดยสารตามเส้นทาง:
สายสีเขียว: 22,982,781 คน-เที่ยว
สายสีน้ำเงิน: 13,234,135 คน-เที่ยว
รฟท. (รถไฟระหว่างเมือง): 2,370,905 คน-เที่ยว
แอร์พอร์ต เรล ลิงก์: 2,074,341 คน-เที่ยว
สายสีม่วง: 2,017,917 คน-เที่ยว
สายสีชมพู: 1,708,643 คน-เที่ยว
สายสีเหลือง: 1,329,107 คน-เที่ยว
สายสีแดง: 1,027,279 คน-เที่ยว
สายสีทอง: 345,827 คน-เที่ยว
หน่วยงาน: กรมการขนส่งทางราง
คำขวัญ: "เพื่อความสุขและความปลอดภัยในการเดินทางระบบรางของไทย"

Summary of Rail System Passenger Volume for December 2024:
Total: 47,090,935 trips
Urban Rail Systems (Bangkok and Metropolitan Area): 44,720,030 trips
Intercity Rail (State Railway of Thailand): 2,370,905 trips
Breakdown by Rail Lines:
Green Line: 22,982,781 trips
Blue Line: 13,234,135 trips
State Railway of Thailand (SRT): 2,370,905 trips
Airport Rail Link: 2,074,341 trips
Purple Line: 2,017,917 trips
Pink Line: 1,708,643 trips
Yellow Line: 1,329,107 trips
Red Line: 1,027,279 trips
Gold Line: 345,827 trips
Authority: Department of Rail Transport
Motto: "For the happiness and safety of rail travel in Thailand"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44242
Location: NECTEC

PostPosted: 08/01/2025 10:26 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเอาจริง! ดันระบบขนส่งทางราง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อโอกาสประเทศไทยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (8 ม.ค.68) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในงานประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ณ ห้องประชุมราชรถสโมสร อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม โดยได้มีการเสนอแผนงานโครงการของกลุ่มการขนส่งทางรางที่จะดำเนินการในปี 2568-2569 เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ซึ่งมีนโยบายเร่งด่วนในการพัฒนาระบบการขนส่งทางราง ดังนี้
1. นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย กับรถไฟฟ้าทุกสี ทุกสาย ในรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีแดง โดยภายในเดือนกันยายน 2568 จะขยายผลไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ โดยผลักดันให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสี ทุกสาย ในราคา 20 บาทตลอดสาย
2. ผลักดันการประกาศใช้กฎหมาย เพื่อกำกับดูแลการขนส่งทางราง ประกอบด้วย พ.ร.บ. การขนส่งทางราง พ.ศ. …. ซึ่งปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรกำหนดประชุมพิจารณา และ พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
3. พัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ทั่วถึง ครอบคลุม เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้า เปิดให้บริการแล้ว 13 เส้นทาง แบ่งเป็นอยู่ระหว่างก่อสร้าง 5 โครงการ และอยู่ระหว่างเสนอ ครม. 2 โครงการ รวมถึงยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมพัฒนาในระยะต่อไปอีก 17 โครงการ
4. พัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง รถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 5 โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร และ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะเปิดทดลองเดินรถไฟทางคู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 รวมถึงยังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางสายใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ทั้งนี้มีแผนดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ
5. พัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อนิคมอุตสาหกรรม/แหล่งอุตสาหกรรม โดยพัฒนาทางรถไฟ ใน 4 แห่งตามแผน R-MAP ระยะเร่งด่วน
6. พัฒนารถไฟทางสายใหม่ ตามแนวเส้นทาง MR-MAP จำนวน 3 โครงการ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนจากการเวนคืนที่ดิน และลดรายจ่ายงบประมาณซ้ำซ้อน
7. พัฒนารถไฟเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก และ 2 สนามบินฝั่งอันดามัน โดยมีแนวเส้นทางผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และภูเก็ต
8. การจัดหารถจักรและล้อเลื่อน รองรับการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่
9. เร่งพัฒนารถไฟชั้น 3 ติดเครื่องปรับอากาศ และเพิ่มความเร็วขบวนรถ เพื่อปรับปรุงการให้บริการ และเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้บริการรายใหม่
10. ขับเคลื่อนการพัฒนาเส้นทาง Feeder เพื่อเชื่อมต่อระบบราง โดยจัดทำต้นแบบการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมการเดินทาง (Intermodal Transfer Facility) ของสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 8 สถานี
11. พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมสำหรับทุกคนโดยตรวจประเมินคุณภาพสถานีรถไฟฟ้าและสถานีรถไฟให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
12. พัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระดับภูมิภาคของประเทศไทย
13. ยกระดับคุณภาพการให้บริการ การดูแลอุปกรณ์อำนวยความสะดวก โดยเพิ่มจำนวน Priority Seat จาก 18 เป็น 36 ที่นั่งต่อขบวนรถ พร้อมทั้งอัปเดตข้อมูลป้ายบอกทางให้เป็นปัจจุบัน
14. พัฒนาระบบราง เชื่อมไทย เชื่อมโลก โดยมีการเชื่อมโยงทางรถไฟ ไทย – ลาว – จีน ในช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย ซึ่งระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2571พร้อมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว
นายพิเชฐ กล่าวทิ้งท้ายว่าหน่วยงานการขนส่งทางราง มุ่งมั่น เดินหน้า ขับเคลื่อน แผนงาน โครงการด้านระบบราง
เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการตามมาตรฐานสากล เชื่อมโยงโครงข่ายกับนานาประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน นำไปสู่การคมนาคมที่สะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และราคาสมเหตุสมผล ตามเป้าหมายของกระทรวงคมนาคมต่อไป
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/905374358453694
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/01/2025 8:42 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คมนาคมเอาจริง! ดันระบบขนส่งทางราง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อโอกาสประเทศไทยอย่างยั่งยืน
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/905374358453694

กรมรางเผยไฮไลต์ขับเคลื่อนระบบรางปี 68

“9 แนวทาง 3 ระยะ 5 ด้าน”


https://www.youtube.com/watch?v=qIvGptcFB5M

กรมการขนส่งทางราง เผยแนวทางการขับเคลื่อนระบบขนส่งทางรางในปี 2568 จับตาชงประมูลส่วนต่อขยายสายสีแดง เร่งก่อสร้างและเปิดให้บริการสายสีชมพูส่วนต่อขยายเชื่อมเมืองทองในปี 68 แถมยังมีลุ้นต่อเนื่องเปิดให้บริการสายสีส้ม ส่วนตะวันออกภายในปี 71

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ www.ThaiMOTnews.com ถึงแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางปี 2568 ว่า ขร. ได้วางแนวทางการดำเนินการพัฒนาการขนส่งทางรางตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีการวางคอนเซปไว้ว่า “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” โดยเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและการพัฒนาการให้บริการตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างโอกาสและการเข้าถึงตามแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งในส่วนของระบบขนส่งทางรางจะประกอบด้วย “9 แนวทาง 3 ระยะ 5 ด้าน” โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การขยายผลนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
หลังจากการดำเนินการในรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงพบว่ามีผลตอบรับที่ดี โดยปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 นี้จะมีการขยายผลไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตและส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ขนส่งระบบรางมากขึ้น

2. ผลักดันพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง
ในปี 2568 ขร. จะดำเนินการเร่งรัดเพื่อประกาศใช้ พรบ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ... โดยเร็ว รวมถึงกฎหมายลำดับรองต่างๆ ที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง เพื่อเป็นกลไกในการกำกับดูแลระบบการขนส่งทางรางให้มีมาตรฐานสากล โดยปัจจุบัน พรบ.ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ และในส่วนของกฎหมายลำดับรอง ขร. ได้มีการดำเนินการเสร็จไปแล้วจำนวน 17 ฉบับ

3. เร่งรัดการก่อสร้างโครงข่ายทางราง

ขร. ยังคงมุ่งเน้นการกำกับ ติดตาม การพัฒนาโครงข่ายทางราง ทั้งรถไฟทางคู่ ทางสายใหม่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงเมืองหลักในภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง ลดปริมาณการจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดการเชื่อมโยงระบบรางทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ทำให้ระบบรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ โดยแบ่งเป็น ดังนี้
เร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้า จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
- สายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 79.02 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 เส้นทางนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางไป Impact เมืองทองธานีได้
- สายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี ระยะทาง 22.50 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ และสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.40 กิโลเมตร ปัจจุบัน รฟม. ได้ลงนามสัญญากับ BEM เพื่อก่อสร้างงานโยธาส่วนตะวันตก รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าและจัดหาขบวนรถให้บริการตลอดเส้นทาง ทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตก คาดว่าเปิดให้บริการส่วนตะวันออกได้ภายในปี 2571 และส่วนตะวันตก ภายในปี 2573
- สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.60 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 46.34 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572
เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ที่เหลือ ให้สามารถเปิดให้บริการได้ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
- ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างทางแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างวางแผนการใช้ระบบตราทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) ไปพลางก่อนในระหว่างการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเต็มรูปแบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่ได้ภายในต้นปี 2568
- ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟแล้วเสร็จ และ รฟท. ได้เปิดให้บริการเดินรถทางคู่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือพื้นที่บางส่วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติ ครม. พิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีก 197.77 ล้านบาท เพื่อใช้เวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ สำหรับสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระ ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างปรับรูปแบบก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบข้อร้องเรียนของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา
เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร ซึ่ง รฟท. ได้ลงนามในสัญญาแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 กำหนดเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน 2568
เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางสายใหม่ ขยายโครงข่ายระบบราง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
- ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ระยะทาง 322 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 21.43 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก
- ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 8.20 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมของกรมการขนส่งทางบก
เร่งรัดก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
- รถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 38.07 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571
- รถไฟเชื่อมสามสนามบิน ระยะทาง 220 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างงานโยธาทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง คาดว่าจะเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาภายในเดือนมกราคม 2568

4. เสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางราง
ในปี 2568 ขร.จะมีการเร่งเสนอเพื่อขออนุมัติการดำเนินการโครงการระบบขนส่งทางรางในเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้
1) เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย ตามแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-MAP2) ในกลุ่ม A1 (พร้อมดำเนินการทันที) ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ได้แก่ ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร ซึ่ง คค. ได้เสนอเรื่องไปยัง ครม. เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ครม.ได้เห็นชอบให้ดำเนินการเร่งเปิดประมูล ส่วนช่วงตลิ่งชัน - ศิริราช – ศาลายา ระยะทาง 20.50 กิโลเมตรปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เพื่อประกอบการเสนอขออนุมัติ ครม. ต่อไป
2) เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อีก 6 โครงการ ได้แก่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร ช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เพื่อประกอบการเสนอขออนุมัติ ครม.
3) เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร

5. ศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในระยะต่อไป
กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เพื่อดำเนินการศึกษาโครงข่ายระบบขนส่งทางราง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งระบบ
- ศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง เชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธินในย่านจตุจักร และ กม. 11
- ศึกษาออกแบบระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองภูมิภาค ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา และทบทวนการออกแบบในจังหวัดภูเก็ต
- ผลักดันการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟเชื่อมนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางราง
- ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมให้ระบบรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ ทั่วประเทศ และรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-MAP) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดใน 4 แห่งตามแผน R-MAP ระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2566 – 2570) ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ลำพูน นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว กฟผ. แม่เมาะ ระยะที่ 1 ช่วงสถานีแม่เมาะ - CY กฟผ. แม่เมาะ นิคมอุตสาหกรรม WHA ตะวันออก ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี
- ศึกษาเส้นทางรถไฟสายใหม่ ได้แก่ รถไฟเชื่อม 2 สนามบิน (ช่วงท่านุ่น - ภูเก็ต และช่วงทับปุด - กระบี่) รถไฟทางคู่ ช่วงกาญจนบุรี – บ้านพุน้ำร้อน รถไฟทางคู่ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี และรถไฟรองรับ Land bridge ช่วงชุมพร-ระนอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการเดินทางให้กับประชาชน และสร้างโอกาสการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น

6. พัฒนาระบบราง เชื่อมไทย เชื่อมโลก

ขร. ได้ดำเนินการศึกษา เพื่อหาแนวเส้นทางรถไฟ เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงการส่งออกสินค้าของไทย โดยในปี 2568 จะมีการเร่งรัดโครงการได้แก่เร่งรัดขับเคลื่อนการเชื่อมโยงไทย - ลาว โดยเชื่อมต่อสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและลาว รวมถึงจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าสถานีนาทา เร่งรัดขับเคลื่อนการเชื่อมโยงไทย - มาเลเซีย โดยส่งเสริมการพัฒนารถไฟทางคู่สายใต้ ขยายโครงข่ายทางรถไฟไปยังประเทศมาเลเซีย และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเชื่อมไทย - กัมพูชา โดยเน้นความเชื่อมโยงการขนส่งทางรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางรางผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา

7. เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง

นอกจากการขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางแล้ว ยังต้องมีการส่งเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสะดวกต่อการเข้าถึงไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบ Feeder เชื่อมต่อระบบรางกับระบบขนส่งอื่น อำนวยความสะดวกการเข้าถึงระบบขนส่งทางราง การทยอยนำรถไฟตู้โดยสารปรับอากาศให้บริการแทนรถร้อน การเร่งจัดหารถจักรและล้อเลื่อน รองรับรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนต่อไป การส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนเดินรถขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในรูปแบบ PPP Modified Gross Cost เพื่อลดภาระงบประมาณภาครัฐ สามารถกำหนดนโยบายค่าโดยสารที่เหมาะสมเป็นธรรมได้ ลดภาระการขาดทุนของ รฟท. ประชาชนได้รับบริการที่ดีและมีความสะดวกรวดเร็ว

นอกจากนั้นยังต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและด้านบริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการ ขร. จึงจะจัดทำมาตรฐานการขนส่งทางราง เช่น มาตรฐานการตรวจสภาพรถขนส่งทางราง มาตรฐานระบบระบายน้ำโครงการสร้างพื้นฐานระบบราง รวมถึงแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมพิจารณาการขออนุญาตและการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน อีกทั้งยังคงมีการลงพื้นที่ตรวจประเมินคุณภาพสถานีขนส่งทางรางให้เป็นไปตามมาตรฐาน จัดทำหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางมากยิ่งขึ้น

การเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรางระหว่าง ICD ลาดกระบัง และท่าเรือแหลมฉบัง การดำเนินการพัฒนาระบบรางไทยควบคู่กับวิถีประชาชน โดยจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้า OTOP และของดีวิถีริมทางรถไฟ ช่วยสนับสนุนนโยบาย Soft Power เสนอสินค้าภูมิปัญญาไทย เพิ่มรายได้ให้ชุมชน โดยการดำเนินการนี้จะทำควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการขนส่งทางราง โดยการใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลประกอบการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางปี 2568

ในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในปี 2568 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และการพัฒนาการให้บริการตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างโอกาสและการเข้าถึงตามแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย ประกอบด้วย “9 แนวทาง 3 ระยะ 5 ด้าน” โดยจะดำเนินการด้านระบบรางในปี 2568 ดังนี้

1. ขยายผลนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ซึ่งจากการดำเนินการในรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงพบว่ามีผลตอบรับที่ดี โดยปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้จะขยายผลไปยังรถไฟฟ้า�สายอื่น ๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ขนส่งระบบรางมากขึ้น

2. ผลักดันพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ให้ประกาศใช้โดยเร็ว ตลอดจนผลักดันกฎหมายลำดับรอง ภายใต้พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง เพื่อเป็นกลไกในการกำกับดูแลระบบการขนส่งทางรางให้มีมาตรฐานสากล โดยปัจจุบันได้จัดทำกฎหมายลำดับรองแล้วเสร็จ จำนวน 17 ฉบับ

3. เร่งรัดการก่อสร้างโครงข่ายทางราง
มุ่งเน้นการกำกับ ติดตาม การพัฒนาโครงข่ายทางราง ทั้งรถไฟทางคู่ ทางสายใหม่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงเมืองหลักในภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง ลดปริมาณการจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดการเชื่อมโยงระบบรางทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ทำให้ระบบรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ดังนี้

3.1 เร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้า จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
• สายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 79.02 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 เส้นทางนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางไป Impact เมืองทองธานีได้
• สายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี ระยะทาง 22.50 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ และสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.40 กิโลเมตร ปัจจุบัน รฟม. ได้ลงนามสัญญากับ BEM เพื่อก่อสร้างงานโยธาส่วนตะวันตก รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าและจัดหาขบวนรถให้บริการตลอดเส้นทาง ทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตก คาดว่าเปิดให้บริการส่วนตะวันออกได้ภายในปี 2571 และส่วนตะวันตก ภายในปี 2573
• สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.60 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 46.34 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572

3.2 เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ที่เหลือ ให้สามารถเปิดให้บริการได้ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
• ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างทางแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างวางแผนการใช้ระบบตราทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Token) ไปพลางก่อนในระหว่างการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเต็มรูปแบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่ได้ภายในต้นปี 2568
• ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟแล้วเสร็จ และ รฟท. ได้เปิดให้บริการเดินรถทางคู่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือพื้นที่บางส่วน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติ ครม. พิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีก 197.77 ล้านบาท เพื่อใช้เวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
สำหรับสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร – ชุมทางถนนจิระ ปัจจุบัน รฟท. อยู่ระหว่างปรับรูปแบบก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบข้อร้องเรียนของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา

3.3 เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร ซึ่ง รฟท. ได้ลงนามในสัญญาแล้ว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 กำหนดเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน 2568

3.4 เร่งรัดก่อสร้างรถไฟทางสายใหม่ ขยายโครงข่ายระบบราง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
• ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ระยะทาง 322 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 21.43 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก
• ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าร้อยละ 8.20 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมของกรมการขนส่งทางบก

3.5 เร่งรัดก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
• รถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคืบหน้าร้อยละ 38.07 กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571
• รถไฟเชื่อมสามสนามบิน ระยะทาง 220 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างงานโยธาทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง คาดว่าจะเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาภายในเดือนมกราคม 2568

4. เสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางราง

4.1 เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย ตามแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-MAP2) ในกลุ่ม A1 (พร้อมดำเนินการทันที) ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
• ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร ซึ่ง ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการเปิดประมูลเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568
• ช่วงตลิ่งชัน - ศิริราช – ศาลายา ระยะทาง 20.50 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เพื่อประกอบการเสนอขออนุมัติ ครม. ต่อไป

4.2 เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อีก 6 โครงการ ได้แก่
• ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร
• ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร
• ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร
• ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร
• ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร
• ช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร
ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เพื่อประกอบการเสนอขออนุมัติ ครม.

4.3 เร่งเสนอขออนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร

5. ศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในระยะต่อไป
โดยกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ดังนี้

5.1 ศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง เชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธินในย่านจตุจักร และ กม. 11 ซึ่งมีแผนจะพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทย

5.2 ศึกษาออกแบบระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองภูมิภาค ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา และทบทวนการออกแบบในจังหวัดภูเก็ต

5.3 ผลักดันการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟเชื่อมนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมให้ระบบรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ ทั่วประเทศ และรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ �(R-MAP) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและจะดำเนินการออกแบบรายละเอียด ใน 4 แห่งตามแผน R-MAP ระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2566 – 2570) ได้แก่
• นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ลำพูน
• นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว กฟผ. แม่เมาะ ระยะที่ 1 ช่วงสถานีแม่เมาะ - CY กฟผ. แม่เมาะ
• นิคมอุตสาหกรรม WHA ตะวันออก ระยอง
• นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี

5.4 ศึกษาเส้นทางรถไฟสายใหม่ เพิ่มขีดความสามารถ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ในแนวเส้นทางดังนี้
• รถไฟเชื่อม 2 สนามบิน (ช่วงท่านุ่น - ภูเก็ต และช่วงทับปุด - กระบี่)
• รถไฟทางคู่ ช่วงกาญจนบุรี - บ้านพุน้ำร้อน
• รถไฟทางคู่ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี
• รถไฟรองรับ Land bridge ช่วงชุมพร-ระนอง

6. พัฒนาระบบราง เชื่อมไทย เชื่อมโลก
• เร่งรัดขับเคลื่อนการเชื่อมโยงไทย - ลาว โดยเชื่อมต่อสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและลาว รวมถึงจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าสถานีนาทา
• เร่งรัดขับเคลื่อนการเชื่อมโยงไทย - มาเลเซีย โดยส่งเสริมการพัฒนารถไฟทางคู่สายใต้ ขยายโครงข่ายทางรถไฟไปยังประเทศมาเลเซีย
• เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเชื่อมไทย - กัมพูชา โดยเน้นความเชื่อมโยงการขนส่งทางรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางรางผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา

7. เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง
• เตรียมผลักดันการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าที่ได้รับโอนภารกิจจากกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
• สายสีเงิน ช่วงบางนา - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 19.70 กิโลเมตร
• สายสีฟ้า ช่วงดินแดง - สาทร ระยะทาง 9.50 กิโลเมตร
• สายสีเทา ช่วงวัชรพล - ทองหล่อ ระยะทาง 16.30 กิโลเมตร
• จัดระบบ Feeder เชื่อมต่อระบบรางกับระบบขนส่งอื่น อำนวยความสะดวกการเข้าถึงระบบขนส่งทางราง
• ทยอยนำรถไฟตู้โดยสารปรับอากาศให้บริการแทนรถร้อน
• เร่งจัดหารถจักรและล้อเลื่อน รองรับรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนต่อไป
• ส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนเดินรถขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในรูปแบบ PPP Modified Gross Cost เพื่อลดภาระงบประมาณภาครัฐ สามารถกำหนดนโยบายค่าโดยสารที่เหมาะสมเป็นธรรมได้ ลดภาระการขาดทุนของ รฟท. ประชาชนได้รับบริการที่ดีและมีความสะดวกรวดเร็ว
• จัดทำมาตรฐานการขนส่งทางราง เช่น มาตรฐานการตรวจสภาพรถขนส่งทางราง มาตรฐานระบบระบายน้ำโครงการสร้างพื้นฐานระบบราง
• แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมพิจารณาการขออนุญาตและการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน
• ตรวจประเมินคุณภาพสถานีขนส่งทางรางให้เป็นไปตามมาตรฐาน
• จัดทำหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางมากยิ่งขึ้น
• เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรางระหว่าง ICD ลาดกระบัง และท่าเรือแหลมฉบัง
• สนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการขนส่งทางราง โดยการใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• พัฒนาระบบรางไทยควบคู่กับวิถีประชาชน โดยจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้า OTOP และของดี วิถีริมทางรถไฟ ช่วยสนับสนุนนโยบาย Soft Power เสนอสินค้าภูมิปัญญาไทย เพิ่มรายได้ให้ชุมชน
• กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ผ่านนโยบาย IGNITE Thailand ด้วยระบบขนส่งทางราง โดยนำขบวน Royal Blossom และ KIHA มาให้บริการรถไฟท่องเที่ยว

“กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง มุ่งมั่น เดินหน้า ขับเคลื่อน แผนงาน โครงการด้านระบบรางเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เชื่อมโยงโครงข่ายกับนานาประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ�อย่างยั่งยืน นำไปสู่การคมนาคมที่สะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และราคาสมเหตุสมผล” อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวในตอนท้าย

https://www.facebook.com/thaimotnews/posts/1234138978715258

The Department of Rail Transport reveals highlights of the rail system in 2025

“9 approaches, 3 phases, 5 aspects”

The Department of Rail Transport reveals the guidelines for the rail system in 2025, keeping an eye on the bidding for the Red Line extension, accelerating construction and opening the Pink Line extension connecting Muang Thong in 2025, and also continuing to open the Orange Line, Eastern section, by 2028.

Dr. Pichet Kunathammarak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), gave a special interview to www.ThaiMOTnews.com about the guidelines for the development of the rail system in 2025, saying that the DRT has set guidelines for the development of rail transport in accordance with the government’s policy, which Mr. Suriya Juangroongruangkit, Minister of Transport, has set the concept of “Transportation for Opportunity in Thailand”, which is the development of the transportation infrastructure and the development of services in accordance with international standards to create opportunities and access in accordance with the policy guidelines. The rail transport system will consist of “9 approaches, 3 phases, 5 aspects” with details as follows:

1. Expansion of the 20-baht flat-rate electric train policy
After the implementation of the Red and Purple Lines, the response was good, with the number of passengers continuously increasing. In 2025, the policy will be expanded to other electric train lines to reduce the burden of travel expenses for the public, improve the quality of life, and encourage people to switch to rail transport more.

2. Push for the Rail Transport Act
In 2025, the SRT will expedite the announcement of the Rail Transport Act B.E. ... as soon as possible, including various secondary laws under the Rail Transport Act, to serve as a mechanism to supervise the rail transport system to meet international standards. Currently, the Act is under consideration by the Special Committee, and the SRT has completed 17 secondary laws.

3. Accelerate the construction of the rail network

The SRT continues to focus on supervising and monitoring the development of the rail network, including dual-track trains, new routes, high-speed trains, electric trains in the Bangkok metropolitan area and its vicinity, as well as major cities in the regions, to facilitate and increase travel options. It helps reduce travel time, traffic volume and accidents on the road, and connects rail systems both domestically and internationally, making the rail system the country's primary transportation system. It is divided into the following:
Accelerate the construction of 4 electric train projects:
- Pink Line Extension, Sri Rat Station - Muang Thong Thani, a distance of 3 kilometers, currently under construction, 79.02 percent complete, scheduled to open for service in 2025. This route will facilitate people traveling to Impact Muang Thong Thani.
- Orange Line, Eastern Section, Thailand Cultural Center - Min Buri, a distance of 22.50 kilometers, with civil works completed, and Orange Line, Western Section, Thailand Cultural Center - Bang Khun Non, a distance of 13.40 kilometers. Currently, MRTA has signed a contract with BEM to construct the civil works for the western section, including installing electrical systems and providing trains for service along both the eastern and western sections. It is expected that the eastern section will open for service in 2028 and the western section in 2030.
- Purple Line, Tao Poon - Rat Burana (Kanchanaphisek Ring Road), a distance of 23.60 kilometers, currently under construction. Progress 46.34 percent Scheduled to open for service within 2029
Accelerate the construction of the remaining phase 1 dual-track railway to open for service, totaling 2 projects:
- Lop Buri - Pak Nam Pho section, 148 kilometers long, construction is currently complete. Currently planning to use the electronic toll system (E-Token) while installing the full signaling system. It is expected to open for dual-track service by early 2025.
- Map Kabao - Chum Thong Jira section, 132 kilometers long, currently constructing Contract 1, Map Kabao - Khlong Khanan Chit section, and Contract 3, the railway tunnel work has been completed. SRT has opened for dual-track service already. Some areas remain. Currently, it is being proposed to the Cabinet for consideration and approval of an additional budget framework of 197.77 million baht to use for land and real estate expropriation. For Contract 2, Khlong Khanan Chit - Chum Thong Jira section, SRT is currently adjusting the construction format to reduce the impact of complaints from the people of Nakhon Ratchasima Province.
Accelerate the construction of the dual-track railway, Phase 2, Khon Kaen - Nong Khai, a distance of 167 kilometers, which the SRT signed the contract for on December 12, 2024, scheduled to start construction in April 2025.
Accelerate the construction of new railway lines, expanding the rail network, 2 projects:
- Den Chai - Chiang Rai - Chiang Khong, a distance of 322 kilometers, currently under construction, progressing 21.43 percent, scheduled to open for service within 2028, which will connect to the Chiang Khong Freight Transport Interchange Center, Chiang Rai Province, of the Department of Land Transport.
- Ban Phai - Mukdahan - Nakhon Phanom, a distance of 355 kilometers, currently under construction, progressing 8.20 percent, scheduled to open for service within 2027, which will connect to the Nakhon Phanom Border Transport Center of the Department of Land Transport.
Accelerate the construction of 2 high-speed railway projects:
- Thai - China High-Speed ​​Railway, Phase 1, Bangkok - Nakhon Ratchasima, a distance of 253 kilometers, currently under construction. Progress 38.07 percent Scheduled to open for service within 2028
- Three-airport rail link, 220 kilometers long, is currently under consideration to amend the draft joint investment contract for the project to solve the problem of overlapping civil engineering structures with the Thai-Chinese high-speed rail project, Phase 1, Bangkok-Nakhon Ratchasima section, Contract 4-1, Bang Sue-Don Mueang section. It is expected to be submitted to the Cabinet for consideration within January 2025.

4. Propose a request for approval for the railway network construction project

4.1 Accelerate the request for approval for the Red Line suburban railway project, the extension section, according to the master plan for rail mass transit in Bangkok and its vicinity (continuous area), Phase 2 (M-MAP2) in Group A1 (ready to proceed immediately) according to the resolution of the Land Traffic System Management Committee at the 1/2567 meeting on December 23, 2567, totaling 3 projects:
• Rangsit - Thammasat University, Rangsit Center, a distance of 8.84 kilometers, which the Cabinet approved to proceed with the bidding on January 7, 2568
• Taling Chan - Siriraj - Salaya, a distance of 20.50 kilometers, currently in the process of requesting opinions from relevant agencies (Ministry of Finance, Budget Bureau Office of the National Economic and Social Development Board) for submission to the Cabinet for approval.

4.2 Expedite the submission for approval of the second phase of the dual-track railway project for another 6 projects, namely:
• Chum Thong Jira-Ubon Ratchathani section, 308 kilometers long
• Pak Nam Pho-Den Chai section, 281 kilometers long
• Chum Thong Hat Yai-Padang Besar section, 45 kilometers long
• Chumphon-Surat Thani section, 168 kilometers long
• Surat Thani-Chum Thong Hat Yai-Songkhla section, 321 kilometers long
• Den Chai-Chiang Mai section, 189 kilometers long
Currently, we are seeking opinions from relevant agencies (Ministry of Finance, Budget Bureau, Office of the National Economic and Social Development Board) for submission to the Cabinet for approval.

4.3 Expedite the submission for approval of the second phase of the Thai-Chinese high-speed railway project, Nakhon Ratchasima-Nong Khai section, 357 kilometers long

5. Study the development of the rail mass transit system in the next phase
The Ministry of Transport has presented this to the Land Traffic Management Committee meeting. At the 1/2567 meeting on December 23, 2567, as follows:

5.1 Study the development of a secondary mass transit system, connecting the Phahon Yothin Transportation Center area in Chatuchak and Km. 11, which has a plan to develop the Baan Puea Thai project.

5.2 Study the design of a rail mass transit system in regional cities in Chiang Mai and Nakhon Ratchasima provinces, and review the design in Phuket province.

5.3 Promote the development of a railway network connecting industrial estates to increase the volume of rail freight transport, reduce logistics costs, and promote the rail system as the country's primary transportation system. According to the master plan for developing a railway network to cover and connect areas nationwide and support multi-modal transportation seamlessly (R-MAP), currently studying the suitability and will proceed with detailed design in 4 locations according to the urgent R-MAP plan (2023 - 2027), namely:
• World Lamphun Industrial Estate
• Green Industrial Estate EGAT Mae Moh Phase 1, Mae Moh Station - CY EGAT Mae Moh
• WHA Eastern Industrial Estate, Rayong
• Amata City Chonburi Industrial Estate

5.4 Study new railway routes to increase capacity and create economic opportunities Along the following routes:
• Train connecting 2 airports (Thanun - Phuket and Thap Put - Krabi)
• Double-track train, Kanchanaburi - Ban Phu Nam Ron
• Double-track train, Suphan Buri - Nakhon Luang - Chum Thang Ban Pachi
• Train supporting Land bridge, Chumphon - Ranong

6. Develop the rail system, connecting Thailand, connecting the world
• Accelerate the Thai - Laos connection by connecting the new Mekong River railway bridge to facilitate travel and transport of goods between Thailand and Laos, including preparing the area and facilities for the Natha Station cargo transfer center
• Accelerate the Thai - Malaysian connection by promoting the development of the southern double-track train, expanding the railway network to Malaysia
• Increase the efficiency of transport connecting Thailand - Cambodia by emphasizing the railway transport connection To facilitate rail freight transport across the Thai-Cambodian border

7. Increase rail transport efficiency
• Prepare to push forward the development of 3 electric train projects that have been transferred from Bangkok, namely:
• Silver Line, Bang Na - Suvarnabhumi Airport, 19.70 kilometers long
• Blue Line, Din Daeng - Sathorn, 9.50 kilometers long
• Gray Line, Watcharapol - Thonglor, 16.30 kilometers long
• Set up a Feeder system to connect the rail system with other transport systems, facilitating access to the rail transport system
• Gradually introduce air-conditioned passenger cars to replace hot trains
• Accelerate the procurement of locomotives and wheels to support dual-track trains to increase the country's capacity and provide further convenience to the public
• Promote private sector investment in passenger and freight transport in the PPP Modified Gross Cost format to reduce the government budget burden, enable the State Railway of Thailand to set a fair and appropriate fare policy, reduce the SRT's losses, and ensure that the public receives good and fast service
• Establish rail transport standards, such as rail transport vehicle inspection standards, drainage system standards for rail infrastructure projects
• Solve accident problems at illegal crossings Through the mechanism of the joint committee for consideration of permission requests and solutions to railway and road intersection problems
• Evaluate the quality of rail transport stations to meet standards
• Establish criteria for setting freight rates, rail utilization fees, and rail transport service fees to encourage entrepreneurs to use rail freight services more
• Increase the efficiency of rail freight transport between ICD Lat Krabang and Laem Chabang Port
• Support the reduction of greenhouse gases in the rail transport sector by using clean and environmentally friendly energy
• Develop the Thai rail system in line with the people's way of life by organizing areas for selling OTOP products and good things along the railway, helping to support the Soft Power policy by offering Thai wisdom products to increase income for the community
• Stimulate the tourism economy through the IGNITE Thailand policy with the rail transport system by bringing the Royal Blossom and KIHA trains to provide tourist train services

“The Ministry of Transport, through the Department of Rail Transport, is committed to moving forward and driving plans and projects on the rail system to develop infrastructure and services to meet international standards, connecting networks with other countries so that Thailand can become a regional transportation hub, increasing the country’s competitive potential in a sustainable way, leading to convenient, safe, punctual, and reasonably priced transportation,” the Director-General of the Department of Rail Transport concluded.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/01/2025 5:37 am    Post subject: Reply with quote

อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ให้สัมภาษณ์ในรายการ “9 ใหม่คมนาคมไทย Weekend Talk“
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
Jan 11, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=udGy5vBmB2s

วิดีโอนี้เป็นการสัมภาษณ์ ดร.พิเชษฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ในรายการ 9 ใหม่คมนาคมไทย Weekend Talk เกี่ยวกับการพัฒนาระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

* **ปัญหา PM 2.5 และความจำเป็นของระบบราง**: ดร.พิเชษฐ กล่าวถึงปัญหา PM 2.5 ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบรางในการลดมลพิษทางอากาศ
* **แผนแม่บทระบบราง**: ปัจจุบันแผนแม่บทระบบรางดำเนินมาแล้วกว่า 20 ปี โดยมีแผนสร้างรถไฟฟ้าทั้งหมด 14 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้สร้างเสร็จไปแล้วเกินครึ่ง
* **รถไฟฟ้า 3 เส้นทางใหม่**: มีการอนุมัติให้สร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทางใหม่ ได้แก่ สายสีเงิน (บางนา-สุวรรณภูมิ), สายสีฟ้า (ดินแดง-สาธร), และสายสีเทา (วัชรพล-พระราม 9) โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการแทนกรุงเทพมหานคร
* **ความคืบหน้าของโครงการ**: สายสีเทาผ่าน EIA แล้ว ส่วนสายสีฟ้าและสีเงินยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า
* **การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ**: กระทรวงคมนาคมจะทบทวนแผนการก่อสร้างให้มีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
* **โมเดลการลงทุน**: รัฐบาลมีนโยบายให้รัฐลงทุนเองและจ้างเอกชนเดินรถ เพื่อให้สามารถควบคุมราคาค่าโดยสารให้อยู่ที่ 20 บาทตลอดสายได้
* **โครงข่ายรถไฟฟ้า 500 กม.**: รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้มีโครงข่ายรถไฟฟ้า 500 กม. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบรางได้สะดวก

โดยสรุป รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยมีแผนสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เพิ่มเติม และเน้นการลงทุนโดยรัฐเพื่อให้สามารถควบคุมราคาค่าโดยสารได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/01/2025 10:49 am    Post subject: Reply with quote

กรมรางจัดเต็ม! ไฮไลต์ขับเคลื่อนระบบรางปี 68
UpFuture Channel
Jan 12, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=Rm-H8QvLVmk
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/01/2025 4:11 pm    Post subject: Reply with quote

จับตา ก.คมนาคม เดินหน้ารถไฟทางคู่อีกกว่า 1,000 กม. ปี 68 | 9 ใหม่คมนาคมไทย Weekend Talk (18 ม.ค.68)
สํานักข่าวไทย TNAMCOT (MCOT)
Jan 18, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=D9Yaje2kD-4

จับตา ก.คมนาคม เดินหน้ารถไฟทางคู่อีกกว่า 1,000 กม. ปี 68 - เปิดโมเดลทำรถไฟฟ้า 20 บาทได้ทุกสาย ก.ย.68
.
9 ใหม่คมนาคมไทย Weekend Talk วันนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร. พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ให้ข้อมูล
• อัปเดตแผนเดินหน้ารถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อีกหลายเส้นทางกว่า 1,000 กม.
• กฎหมายสำคัญ พ.ร.บ.การขนส่งทางราง
• เปิดโมเดล ก.คมนาคม - กรมราง ทำราคารถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ก.ย.68
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/01/2025 10:28 pm    Post subject: Reply with quote

ขร.เผยนั่งรถไฟฟ้าฟรีวันแรก หวังลดฝุ่น PM2.5 ดันยอดผู้ใช้บริการเพิ่ม 34%
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Saturday, January 25, 2025 18:51

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากการดำเนินมาตรการงดจัดเก็บค่าโดยสารการเดินทางในโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนทางราง ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม พบว่า วันนี้ (25 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันแรก มีปริมาณผู้โดยสารหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) เพิ่มมากขึ้นถึง 34 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปริมาณผู้โดยสารสายสีแดงในช่วงวัน และเวลาเดียวกันในสัปดาห์ ที่ผ่านมา โดยมีปริมาณผู้โดยสารสายสีแดงรวม 11,949 คน แบ่งเป็น สายเหนือ (บางซื่อ-รังสิต) 11,300 คน และสายตะวันตก (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) 959 คน


Free Rides Boost Ridership on First Day, Aiming to Reduce PM2.5

Source - MGR Online
Saturday, January 25, 2025 18:51

Mr. Pichet Kunadhamraks, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), revealed that the initiative to offer free travel on the rail mass transit network from January 25th to 31st, 2025, has resulted in a significant increase in ridership. This 7-day measure aims to promote public transport usage, reduce private car usage, and mitigate PM2.5 air pollution, aligning with the Ministry of Transport's policy.

On the first day (January 25th), a surge in passengers was observed, particularly on the Red Line commuter train service. Ridership increased by 34% compared to the same period last week. A total of 11,949 passengers used the Red Line, with 11,300 on the northern section (Bang Sue - Rangsit) and 959 on the western section (Bang Sue - Taling Chan).
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/01/2025 8:27 pm    Post subject: Reply with quote

วันแรก! ใช้รถไฟฟ้าฟรี 1.63 ล้านคน-เที่ยว ตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Sunday, January 26, 2025 19:10

"กรมการขนส่งทางราง" เผยรถไฟฟ้าฟรีวันแรกตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของรัฐบาล พบว่ามีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 1.63 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.29 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568

วันนี้ (26 มกราคม 2568) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (25 มกราคม 2568) เป็นวันแรกที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พบว่า มีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45.29 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 (ค่าเฉลี่ยฯ) ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 68,903 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 14,049 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.61)

2. รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 35,705 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 8,951 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.46)

3. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 451,251 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 124,247 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.00)

4. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 59,160 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 13,361 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.17)

5. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 857,878 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 270,591 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.07)

6. รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 18,691 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 10,966 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 141.95)

7. รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 63,796 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 30,687 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 92.68)

8. รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ มีผู้ใช้บริการจำนวน 79,062 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 36,619 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 86.28)

ซึ่งหากเรียงลำดับ จะพบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองเพิ่มมากขึ้น 1.42 เท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยสามเสาร์ที่ผ่านมา รองลงมาคือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.68 และร้อยละ 86.28 ตามลำดับ โดยทั้งสามสายทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (feeder) ที่มีเส้นทางผ่านที่อยู่อาศัยของประชาชนและเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลัก

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ให้บริการรวม 215 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 75,303 คน-เที่ยว ประกอบด้วย ผู้โดยสารขบวนรถเชิงพาณิชย์ 31,850 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 43,453 คน-เที่ยว ลดลงจำนวน 3,116 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 3.97 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภาพรวมวันที่ 25 มกราคม 2568 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 1,709,749 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 506,355 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.08 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา

นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนร่วมเข้าใช้ระบบรถไฟฟ้าที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล อันเป็นแนวทางที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ รวมทั้งจะช่วยส่งผลให้ฝุ่นละออง PM2.5 ลดลงอีกด้วย สำหรับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันจันทร์วันแรกของสัปดาห์คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น แม้ว่ารัฐบาลและกรุงเทพมหานครมีนโยบายส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (work from home :WFH) ควบคู่ด้วยเช่นกัน กรมการขนส่งทางรางจึงได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่สถานีรถไฟฟ้าต่างๆ เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการและเพิ่มช่องทางการออกบัตร/เหรียญโดยสารเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการระบบรางได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุดต่อไป


First day! 1.63 million passengers use free rail service under measures to reduce PM2.5 dust in Bangkok and surrounding areas

Source - Siam Rath website
Sunday, January 26, 2025 19:10

The Department of Rail Transport (DRT) revealed that on the first day of the government's free rail service initiative to reduce PM2.5 dust in Bangkok and its surrounding areas, a total of 1.63 million passengers used the service, a 45.29% increase compared to the average Saturday ridership over the past three weeks of January 2025.

Today (January 26, 2025), Mr. Pichet Kunadhamraks, Director-General of the DRT, revealed that yesterday (January 25, 2025) was the first day of the free public transportation initiative, which includes all rail lines and Bangkok Mass Transit Authority (BMTA) bus routes, from January 25-31, 2025, for a total of 7 days. This initiative aims to reduce PM2.5 dust caused by vehicles in Bangkok and its vicinity, following the order of Prime Minister Paetongtarn Shinawatra.

A total of 1,634,446 passengers used the rail system, a significant increase of 45.29% compared to the average Saturday ridership over the first three weeks of January 2025. The details are as follows:

1. Airport Rail Link: 68,903 passengers (an increase of 14,049 passengers or 25.61% compared to the average).
2. Suburban railway (Red Line): 35,705 passengers (an increase of 8,951 passengers or 33.46% compared to the average).
3. Chalerm Ratchamongkhon Line (Blue Line): 451,251 passengers (an increase of 124,247 passengers or 38.00% compared to the average).
4. Chalong Ratchadham Line (Purple Line): 59,160 passengers (an increase of 13,361 passengers or 29.17% compared to the average).
5. BTS Green Line (Sukhumvit and Silom Lines): 857,878 passengers (an increase of 270,591 passengers or 46.07% compared to the average).
6. Gold Line: 18,691 passengers (an increase of 10,966 passengers or 141.95% compared to the average).
7. Nakhon Ratchasima Line (Yellow Line): 63,796 passengers (an increase of 30,687 passengers or 92.68% compared to the average).
8. Pink Line: 79,062 passengers (an increase of 36,619 passengers or 86.28% compared to the average).

When ranked, the Gold Line saw the highest increase in ridership at 1.42 times the average of the past three Saturdays. This was followed by the Yellow Line and Pink Line, which saw increases of 92.68% and 86.28%, respectively. These three lines are considered feeder lines, passing through residential areas and connecting to main rail lines.

Mr. Pichet added that the State Railway of Thailand (SRT) operated a total of 215 intercity trains, serving 75,303 passengers, comprising 31,850 passengers on commercial trains and 43,453 passengers on social trains. This represents a decrease of 3,116 passengers or 3.97% compared to the average Saturday ridership over the past three weeks.

Overall, on January 25, 2025, there were a total of 1,709,749 passengers using the rail system, an increase of 506,355 passengers or 42.08% compared to the average Saturday ridership over the past three weeks.

Mr. Pichet concluded that it is a positive development that the public is increasingly using the environmentally friendly rail system, which helps reduce the use of personal vehicles and carbon monoxide emissions, contributing to lower air pollution and PM2.5 levels. As tomorrow is the first Monday of the week, a high volume of passengers is expected during peak hours in the morning and evening, despite the government and Bangkok's promotion of work from home (WFH). The DRT has coordinated with rail service providers to increase service frequency during peak hours and is monitoring passenger volume at various stations to adjust service frequency and add ticketing channels as needed to accommodate the public's travel needs. This aims to ensure that rail users experience convenient, fast, and safe travel.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44242
Location: NECTEC

PostPosted: 27/01/2025 1:38 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
วันแรก! ใช้รถไฟฟ้าฟรี 1.63 ล้านคน-เที่ยว ตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
วันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 19:10 น.

เช็คยอดวันแรก'รถฟรีหนีฝุ่น'มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 1.63 ล้านคน ยอดใช้พุ่ง 45.29%
วันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.35 น.

กรมการขนส่งทางรางเผยรถไฟฟ้าฟรีวันแรกตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของรัฐบาล พบว่ามีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 1.63 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.29 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568

26 ม.ค.68 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 มกราคม 2568) เป็นวันแรกที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พบว่า มีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45.29 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 (ค่าเฉลี่ยฯ) ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียด ดังนี้


รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 68,903 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 14,049 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.61)

รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 35,705 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 8,951 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.46)

รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 451,251 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 124,247 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.00)

รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 59,160 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 13,361 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.17)

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 857,878 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 270,591 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.07)

รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 18,691 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 10,966 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 141.95)

รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 63,796 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 30,687 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 92.68)

รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ มีผู้ใช้บริการจำนวน 79,062 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 36,619 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 86.28)

หากเรียงลำดับจะพบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองเพิ่มมากขึ้น 2.42 เท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยสามเสาร์ที่ผ่านมา รองลงมาคือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.68 และร้อยละ 86.28 ตามลำดับ โดยทั้งสามสายทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (feeder) ที่มีเส้นทางผ่านที่อยู่อาศัยของประชาชนและเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลัก



นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ให้บริการรวม 215 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 75,303 คน-เที่ยว ประกอบด้วย ผู้โดยสารขบวนรถเชิงพาณิชย์ 31,850 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 43,453 คน-เที่ยว ลดลงจำนวน 3,116 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 3.97 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภาพรวมวันที่ 25 มกราคม 2568 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 1,709,749 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 506,355 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.08 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา

"นับเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนร่วมเข้าใช้ระบบรถไฟฟ้าที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล อันเป็นแนวทางที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ รวมทั้งจะช่วยส่งผลให้ฝุ่นละออง PM2.5 ลดลงอีกด้วย สำหรับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันจันทร์วันแรกของสัปดาห์คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น แม้ว่ารัฐบาลและกรุงเทพมหานครมีนโยบายส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (work from home :WFH) ควบคู่ด้วยเช่นกัน กรมการขนส่งทางรางจึงได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่สถานีรถไฟฟ้าต่างๆ เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการและเพิ่มช่องทางการออกบัตร/เหรียญโดยสารเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการระบบรางได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุดต่อไป"นายพิเชษฐ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 73, 74, 75, 76  Next
Page 74 of 76

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©