RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181550
ทั้งหมด:13492788
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 27, 28, 29 ... 63, 64, 65  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/08/2021 6:03 pm    Post subject: Reply with quote

ปรับ 2 หมื่นคุก 1 ปีรถไฟ/รถไฟฟ้า”เสียงดัง-สั่นสะเทือน”
*”กรมการขนส่งทางราง”ออกกฎบังคับใช้ปีหน้า
*ค่ามาตรฐานสากลห้ามเกิน85เดซิเบลอันตราย
*โวยวายสายเขียว-แดง/น้ำเงิน-ม่วงไร้เสียงร้อง
*ขร.แอ่นอกรับประกันเร่งแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหา
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2982896881931810
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/08/2021 11:58 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง เผยปริมาณผู้โดยสารระบบขนส่งทางราง (แบบรายเดือน) ตั้งแต่เริ่มมีการเริ่มพบผู้ติดเชื้อ COVID – 19 ในประเทศไทย จนถึงเดือนล่าสุด (กรกฎาคม 2564)
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยจำนวนผู้โดยสารในระบบขนส่งทางราง ทั้งในระบบรถไฟฟ้า (MRT BTS ARL) และรถไฟระหว่างเมือง (SRT) ตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในประเทศไทย (เดือนมกราคม 2563) จนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 จะเห็นได้ว่าจากปริมาณผู้โดยสารที่มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนในเดือนก่อนเกิดการแพร่ระบาด ได้ลดลงตามสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจำนวนผู้โดยสารที่ต่ำที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2563 เหลือผู้โดยสารแค่ 2 แสนกว่าคน และกลับมาถึงหลัก 1 ล้านกว่าคนในเดือนพฤศจิกายน 2563 แต่เมื่อเริ่มมีการระบาดระลอกที่ 2 เป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารกลับมาลดลงอีกครั้ง จนถึงเดือนล่าสุด (กรกฎาคม 2564) ที่การแพร่ระบาดยังคงทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จำนวนผู้โดยสารกลับไปอยู่ในระดับ 2 แสนกว่าคนอีกครั้ง
ที่ผ่านมา ขร. ได้มีการออกประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลายฉบับเพื่อให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางและผู้โดยสารปฏิบัติตามร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในระบบขนส่งทางราง และ ขร. หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็ววันเพื่อให้ระบบขนส่งทางรางกลับมาเป็นระบบทางเลือกในการเดินทางของประชาชนอีกครั้ง
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4354124517967793
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 25/08/2021 4:43 am    Post subject: Reply with quote

พิษโควิดฉุดผู้โดยสารระบบรางลดลง 82.87%

24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 12:23 น.



24 ส.ค.2564 รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยถึงจำนวนผู้โดยสารในระบบขนส่งทางราง ทั้งในระบบรถไฟฟ้า ใต้ดิน(MRT),บนดิน (BTS) ,แอร์พอร์ต ลิงก์ (ARL) และรถไฟระหว่างเมือง (SRT) ตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในประเทศไทย เดือนมกราคม 2563 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 ปริมาณผู้โดยสารที่มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนต่อวันในเดือนก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ลดลงตามสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ลดน้ำหนักด้วยแผ่นรองรองเท้าทำได้อย่างไร การรักษาแบบองค์รวมที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างอึ้งไปตามๆกัน
AcuSteps
สำหรับจำนวนผู้โดยสารที่ต่ำที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2563 เหลือผู้โดยสารแค่ 245,795 คนต่อวัน และกลับมาถึงหลัก 1,009,522 คนต่อวัน ในเดือนพฤศจิกายน 2563 แต่เมื่อเริ่มมีการระบาดระลอกที่ 2 เป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารกลับมาลดลงอีกครั้ง จนถึงเดือนล่าสุดในเดือน กรกฎาคม 2564 ที่การแพร่ระบาดยังคงทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จำนวนผู้โดยสารกลับไปอยู่ในระดับ 261,503 คนต่อวันอีกครั้ง

ทั้งนี้พบว่าผู้โดยสารที่ใช้ระบบรางต่อวันลดลงจากช่วงก่อนการระบาดในช่วงปี 2562 มีผู้ใช้บริการระบบรางเฉลี่ยวันละ 1,228,822 คนต่อวัน ในปี 2563 ช่วงที่มีเคอร์ฟิวและจำกัดกิจกรรมในปี 2563เฉลี่ยวันละ 417,914 คนต่อวัน โดยในปี 2564 ตั้งแต่พรก.ฉบับที่ 27ประกาศใช้ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2564 ถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ย 211,666 คนต่อวัน พบว่าทุกระบบผู้โดยสารลดลง 82.87%

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ขร. ได้มีการออกประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลายฉบับเพื่อให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางและผู้โดยสารปฏิบัติตามร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในระบบขนส่งทางราง และ ขร. หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็ววันเพื่อให้ระบบขนส่งทางรางกลับมาเป็นระบบทางเลือกในการเดินทางของประชาชนอีกครั้ง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/08/2021 1:10 pm    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์ ข่าวสั้นเศรษฐกิจ: สถาบันราง
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ติดตามความก้าวหน้าการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ว่า การผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันรางขึ้นมาเพื่อให้ทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง พัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง โดยมีเป้าหมายเร่งด่วน คือ วิจัยชิ้นส่วนในระบบรางเพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/08/2021 1:14 pm    Post subject: Reply with quote

สถาบันวิจัยฯระบบรางวางเป้า7ศูนย์ความเป็นเลิศ 'ศักดิ์สยาม'สั่งศึกษาผลิตชิ้นส่วนในปท.
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ผู้จัดการรายวัน360 - "ศักดิ์สยาม"สั่งสถาบันวิจัยฯระบบราง เร่งทำโครงสร้าง จัดหาบุคลากรและจับมือสถาบันการศึกษาลุยงานวิจัย วาง 7 ศูนย์ความเป็นเลิศ หารือผู้ให้บริการร่วมวางแผนผลิตชิ้นส่วนในประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่า การกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ติดตาม ความก้าวหน้าการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบ ราง(องค์การมหาชน) ว่า โครงสร้างสถาบัน วิจัยฯ ระบบราง จะมี 7 ศูนย์ความเป็นเลิศ และ 1 สำนักงาน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ได้แก่
1.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟความ เร็วสูง (Excellent Center of High Speed Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับวิจัยพัฒนารับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟความเร็วสูง

2 .ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟขนส่งสินค้า (Excellent Center of Freight Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟขนส่งสินค้า

3 .ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าในเมือง (Excellent Center of Metro Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟฟ้าในเมือง

4 .ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแบตเตอรี่สำหรับรถไฟ(Excellent Center of Battery Power Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยพัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบพลังงานอนาคตสำหรับรถไฟ เช่น Battery รถไฟ EV เป็นต้น

5.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระบบรางและการออกแบบสำหรับผู้โดยสาร (Excellent Center of Innovation Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต เช่น MAGLEV TOD เป็นต้น

6 .ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากรระบบราง(Excellent Center of Training Center) ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเทคโนโลยีระบบราง เช่น รถไฟความเร็วสูง ความรู้ทางด้านรถไฟ เป็นต้น

7.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านข้อมูลระบบราง (Excellent Center of Rail Data Center) ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลระบบรางทั้งระบบ เช่น งานวิจัยด้านระบบราง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบราง องค์ความรู้ด้านระบบราง นอกจากนี้ จะ ทำวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบราง ระบบอาณัติ สัญญาณ 5G และความปลอดภัยทางดิจิทัล และสำนักบริหารงานทั่วไป ทำหน้าที่ในการบริหารงานทั่วไป ทางด้านการเงิน/การบัญชี บุคลากร สถานที่ รวมถึงการจดทะเบียนสิทธิบัตรการวิจัย

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้สั่งการเพิ่มเติม 3 ประเด็นคือ

1. ให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับสถาบันวิจัยฯ สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา โดยให้จัดทำกรอบความร่วมมือ (MOU) กับแต่ละสถานศึกษา ในเรื่องการวิจัยและบุคลากร
2. จัดทำ MOU กับต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยฯ และบุคลากร รวมถึงการจัดทำแผนกลยุทธ์ (Roadmap) การประสานความร่วมมือให้ชัดเจน
3. ให้กรมรางหารือกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบราง(Operator) เกี่ยวกับชิ้นส่วนระบบรางที่ต้องการใช้ในการซ่อมบำรุงเพื่อเป็นข้อมูลให้สถาบันวิจัยฯ วางแผนการวิจัยและผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

สำหรับสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางพัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง

โดยมีเป้าหมายเร่งด่วน คือ การวิจัย ชิ้นส่วนในระบบรางเพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ (Local Content) ได้ตามนโยบาย Thai First รวมทั้งการวิจัยเพื่อสร้างรถไฟ EV มาใช้ในประเทศไทย พร้อมกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งกรมราง อยู่ระหว่างการดำเนินการ เรื่อง บุคลากรที่จะมาช่วยดำเนินงานวิจัยในสถาบันวิจัยฯ โดยได้บูรณาการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่มีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง และพิจารณาการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้มีการทำกรอบบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อมาช่วยตั้งต้นสถาบันวิจัยฯในระยะแรก

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของ รมว.คมนาคมกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการพิจารณากำหนดในสัญญาที่จะลงนามใหม่หรือพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดในสัญญาที่ได้ลงนามแล้ว โดยให้สถาบันวิจัยฯได้รับการถ่าย ทอดเทคโนโลยีระบบรางจากเอกชนคู่สัญญา และให้ครอบคลุมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของสถาบันวิจัยฯ ด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2021 11:14 pm    Post subject: Reply with quote

การประชุมเพื่อผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ครั้งที่ 3
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันที่ 28 สิงหาคม 2564 เวลา 08:00 น.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเรื่อง การผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น. ด้วย Application “Zoom” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม พร้อมทั้ง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์
รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง และผู้บริหารจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วมการประชุม
การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อดำเนินการติดตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เร่งรัดการผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ซึ่งมีสาระสำคัญในการปรับปรุงแผน
การนำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในตัวรถไฟมาใช้ในประเทศให้เร็วขึ้นจากแผนเดิม ปี 2568 เป็น ปี 2566 โดยในปี 2564 จะดำเนินการศึกษาและออกแบบรถไฟ EV ที่เหมาะสมกับประเทศไทย จากนั้นในปี 2565 จะเป็นการเตรียมการและดำเนินการดัดแปลงรถไฟ EV จากรถจักรเก่า และในปี 2566 ดำเนินการทดสอบรถไฟ EV ในศูนย์ทดสอบและทดลองวิ่งในเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงาน นำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train มาใช้ในประเทศไทย โดยมีแผนครอบคลุมตั้งแต่ปี 2564 จนถึง ปี 2576 โดยมีโครงการระยะสั้น ที่ทาง ขร. ร่วมกับ รฟท. สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) และสถาบันการศึกษา จะร่วมมือกันปรับปรุงรถจักรเก่า GEK หรือ Alsthom เป็นระบบ Battery Locomotive จำนวน 4 คัน ให้แล้วเสร็จในปี 2566 และโครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยน (Battery Shunting Locomotive) จำนวน 20 คัน ที่จะนำมาใช้งานภายในปี 2567
โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับทราบ และมีข้อสั่งการเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้ ขร. และ รฟท. จัดทำแผนการดำเนินการและขั้นตอนในการนำรถไฟ EV on Train มาใช้ในประเทศไทยให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมทั้งจัดหาทุนในการดำเนินการ
2. ให้ รฟท. ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษาวิจัยการนำรถไฟ EV on Train มาใช้สำหรับลากจูงขบวนรถไฟที่จะเข้ามาใช้สถานีกลางบางซื่อในระยะเร่งด่วน
3. ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่ใช้พลังงานไฟฟ้าศึกษาความต้องการและการบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อให้มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาจพิจารณาการจัดสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินรถ และส่วนที่เหลือสามารถนำมาจ่ายคืนไปยังระบบไฟฟ้า


Wisarut wrote:
“ศักดิ์สยาม” ดันแผนรถไฟ EV ปรับปรุงรถจักรเก่า 4 หัว นำร่องปี 66 เร่งจัดหา 20 คันปี 67
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:16 น.
ปรับปรุง: วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:16 น.



คมนาคมกางแผน “รถไฟ EV” เล็งทดสอบรถต้นแบบปี 66
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:54 น.


“คมนาคม” ดันระบบรถไฟอีวี บูมระบบขนส่งทางราง
หน้าเศรษฐกิจมหภาค คมนาคม
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:28 น.


Mongwin wrote:
'คมนาคม'หนุนใช้รถไฟขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า
ไทยโพสต์ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:39 น.


ผลักดันเทคโนโลยี รถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train
กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล
27 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:17 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 31/08/2021 10:48 am    Post subject: Reply with quote

“กรมฯราง” คลายล็อกรถไฟ/รถไฟฟ้า บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 75%
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:01 น.
รถไฟ-รถไฟฟ้าห้ามแน่น! กรมรางออกประกาศคุมจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:17 น.
ปรับปรุง: 30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:17 น.


“กรมฯราง” คลอดประกาศคลายล็อกรถไฟ/รถไฟฟ้า บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 75% ของความจุสูงสุด กำชับยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) แจ้งว่า ขร. ได้ออกประกาศเรื่อง การควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในขบวนรถไฟ และรถไฟฟ้า ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายล็อกดาวน์ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.64 ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบ บริหารจัดการ และควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในขบวนรถไม่ให้เกิน 75% ของความจุสูงสุด

พร้อมกันนี้ให้ดำเนินการควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ที่กำหนดไว้ในประกาศ ขร. เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฉบับที่ 10 ทั้งนี้รัฐบาลได้เน้นย้ำต้องจัดให้มีการเว้นระยะห่าง การมีระบบระบายอากาศที่ดี และการแวะพักตามช่วงเวลา รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย...

กรมขนส่งทางรางออกประกาศควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในขบวนรถไฟและรถไฟฟ้า หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์

วันนี้ (30 ส.ค.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง การควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในขบวนรถไฟและรถไฟฟ้า ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังจากรัฐบาลได้มีการออกประกาศข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ผ่อนคลายล็อกดาวน์ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งมีการเปิดให้ทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งเรื่องการขนส่งสาธารณะ โดยมีการให้เพิ่มจำนวนผู้โดยสารในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น แต่ไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท และต้องจัดให้มีการเว้นระยะห่าง การมีระบบระบายอากาศที่ดี การแวะพักตามช่วงเวลา รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

เพื่อให้การกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะทางรางในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตลอดจนการขนส่งสาธารณะทางรางระหว่างจังหวัด มีความสอดคล้องและเป็นไปตามประกาศข้อกำหนดดังกล่าว กรมการขนส่งทางรางจึงออกประกาศฯ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ให้ยกเลิกความในข้อ 1 ของประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 11 ประกาศ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

2. ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบ บริหารจัดการและควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในขบวนรถไม่ให้เกินร้อยละ 75 ของความจุสูงสุด ควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 10 ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ฉบับที่ 11 ประกาศ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และฉบับที่ 12 ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564 โดยให้มีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 06/09/2021 10:28 am    Post subject: Reply with quote

ดีเดย์!ปี65คมนาคมจ่อคลอดพ.ร.บ.รางฯหวังใช้คุ้มครองสิทธิประโยชน์คนใช้รางทั่วไทย
By JNC Team - N -
5 กันยายน พ.ศ. 2564



.หมดปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง

.คุมมาตรฐานระบบรางทั่วไทย

. ปิ๊ง!นำสลอตรางรถไฟเปิดประมูลโกยรายได้

ประชาชนเตรียมเฮ!หลังคมนาคมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.รางพ.ศ….คาดมีผลบังคับใช้ในปี 65นี้มั่นใจ!จะช่วยคุมมาตรฐานราง–ค่าโดยสารของรถไฟรถไฟฟ้าทั่วประเทศให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมปิ๊ง!นำสลอตรางรถไฟมาเปิดประมูลให้เอกชนมาเดินรถขนผู้โดยสารสินค้าเชื่อสร้างรายได้ให้รถไฟเพิ่มขึ้นกว่าปีละ2-3พันล้านบาท

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. …. ที่จะเริ่มประกาศใช้ในปี 65 มาใช้ปฎิบัติในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางทั่วประเทศไทยว่า พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ดังกล่าว หากออกมามีผลบังคับใช้ตามกฎหมายจะทำให้ ขร.สามารถเข้าไปกำกับดูแล กำหนดหลักเกณฑ์ กำหนดอัตราค่าโดยสาร ควบคุมมาตรฐานราง การให้บริการของผู้ให้บริการการคมนาคมขนส่งในระบบรางทั้งหมดของประเทศไทย รวมทั้งจะเข้าไปดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ระบบรางทั้งหมดให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่ง พ.ร.บ.รางฯดังกล่าวจะครอบคลุมทั้ง รถไฟ รถไฟฟ้า และ รถไฟความเร็วสูง

ทั้งนี้ในสาระสำคัญของ พ.ร.บ.รางฯนั้น ในส่วนของ การคุ้มครองผู้โดยสารนั้น ในอนาคตหากมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ขร.จะเป็นผู้กำหนดราคาค่าโดยสารของระบบรางทั้งหมด โดยจะกำหนดอัตราราคาสูงสุดที่สามารถจัดเก็บได้ รวมถึงจะมีการกำหนดสูตรคำนวณค่าโดยสารให้เป็นมาตรฐาน และที่สำคัญสามารถที่จะเข้าไปกำหนดในแต่ละสัญญาสัมปทานที่จะเกิดขึ้น ในโครงข่ายระบบรางทั้งหมด

โดยจะมีการระบุอย่างชัดเจนในสัญญาแนบท้ายหรือข้อเสนอโครงการ Request for Proposal (RFP) ว่า การกำหนดราคาค่าโดยสาร หรือเปลี่ยนแปลงราคา จะต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าของสัญญา และกระทรวงก่อนที่จะมีการปรับราคาค่าโดยสาร และการคำนวณการจัดเก็บค่าโดยสารจะต้องขึ้นอยู่กับ ขร.ที่เป็นผู้กำกับดูแลก่อนจากเดิมในสัญญาไม่ได้ระบุไว้

นอกจากนั้นหากผู้โดยสารที่ใช้ระบบรางไม่ได้รับความเป็นธรรมของการบริการสามารถร้องเรียนมายัง กรมการขนส่งทางรางได้ ซึ่ง ขร. จะทำหน้าที่ในการออกกฎระเบียบ มาตรฐานคุ้มครองผู้ใช้บริการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งจะดูแลถึงการชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้โดยสาร เมื่อการเดินรถขนส่งทางรางมีเหตุล่าช้าหรือถูกยกเลิก การประกันภัยความเสียหายในชีวิต ร่างกาย และกำหนดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ สตรีมี ครรภ์ และเด็ก ในกรณีที่ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ หรือบุคคลอื่น ได้รับความเดือดร้อนจากการ ประกอบกิจการขนส่งทางราง

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นเมื่อ พ.ร.บ.รางฯมีผลบังคับ จะช่วยให้การดูแล ยกระดับมาตรฐานรางทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานสากลมากขึ้น โดย ขร. จะมีการกำหนดการตรวจสอบมาตรฐาน ประสิทธิภาพการใช้งานของราง ตามกำหนดระยะเวลาเพื่อให้การใช้งานมีมาตรฐานความปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนั้นในส่วนของ บุคลากรที่จะมาทำงานเกี่ยวกับราง ทั้ง คนขับรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง พ.ร.บ.รางฯจะกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาขับรถไฟทุกประเภท โดยเฉพาะการจะมาเป็นผู้ขับได้จะต้องผ่านการทดสอบใบอนุญาตขับขี่รถไฟก่อนมาปฎิบัติงาน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าคนขับรถไฟทั้งระบบในประเทศไทยขณะนี้มีประมาณ 3,000 คน แบ่งเป็นคนขับรถไฟของ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จำนวน 2,000 คน คนขับรถไฟฟ้าในส่วนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ รถไฟฟ้า บีทีเอส รวมกว่า 1,000 คน

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ขร.ยังมีนโยบายที่จะนำเที่ยววิ่งการเดินรถไฟที่ว่าง(สลอต)ที่ รถไฟไม่ใช้ราง มาเปิดประมูลให้เอกชนที่สนใจใช้รางรถไฟของ รฟท. มาบริหารจัดการขนส่ง ผู้โดยสาร สินค้า ผ่านทางรถไฟ โดยปัจจุบัน รฟท.มีความยาวรางทั่วประเทศกว่า 4,000 กม. ให้บริการใน 32 เส่้นทางหลัก และในอนาคตประเทศไทยจะมีรางรถไฟเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เนื่องจากประเทศมีการพัฒนาระบบรางเพิ่มขึ้นทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งมั่นใจว่านโยบายนี้จะช่วยให้ รฟท. มีรายได้จากการเปิดเช่ารางเพิ่มขึ้น กว่าปีละ 2,000-3,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งการเปิดให้เอกชนมาใช้รางและมีรายได้จากรางจะช่วยให้ รฟท. ลดการขาดทุนในแต่ละปีได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 06/09/2021 9:21 pm    Post subject: Reply with quote

ระบบรางยังไม่ฟื้น!คลายล็อก 1 ก.ย.ดันผู้โดยสารขยับ หวังผ่อนปรน เลิกเคอร์ฟิวกระตุ้นเดินทางเพิ่ม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 6 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 17:30 น.
ปรับปรุง: 6 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 17:30 น.



ระบบรางยังไม่ฟื้น หลังศบค.ผ่อนคลายเดินทางโดยยังจำกัดขนส่งได้ไม่เกิน 75% เผย 1 ก.ย. วันแรกคลายล็อก ผู้โดยสารรวมทุกระบบ เพิ่มจาก 2.89 แสนคน เพิ่มเป็น 3.43 แสนคนเท่านั้น ยังต่ำกว่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมีโควิด ที่มีผู้โดยสารถึง 1.2 ล้านคน/วัน

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่มี ประกาศกรมการขนส่งทางราง ผ่อนคลายการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ให้สอดคล้องตามประกาศศบค. ที่ผ่อนคลายเรื่องการเดินทางของประชาชนมากขึ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 โดให้เพิ่มจำนวนผู้โดยสารในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น แต่ไม่เกิน 75 % ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท และต้องจัดให้มีการเว้นระยะห่าง การมีระบบระบายอากาศที่ดี การแวะพักตามช่วงเวลา รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 พบว่า ปริมาณผู้โดยสารระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ทั้งรถไฟ ,รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้า BTS ในภาพรวมปรับเพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ส.ค. ที่มีปริมาณผู้โดยสารรวม 289,695 คน เป็น 343,302 คน ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารในระบบรางถึง 1.22 ล้านคน/วัน

ทั้งนี้แยกเป็น การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ผู้โดยสารเมื่อวันที่ 31 ส.ค.มีจำนวน 9,351 คน เพิ่มขึ้นเป็น 9,455 คน ในวันที่ 1 ก.ย. รถไฟฟ้าแอร์พอร์เรลลิงก์ มีผู้โดยสาร 12,570 คน เพิ่มเป็น 14,445 คน รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง มีผู้โดยสาร 90,736 คน เพิ่มเป็น 104,758 คน รถไฟฟ้า BTS มีผู้โดยสาร 173,507 คน เพิ่มเป็น 210,291 คน ส่วนรถไฟชานเมืองสายสีแดง มีผู้โดยสารในระดับ 3,500 คน เท่าเดิม



อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ศบค. ยังคงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิวช่วง 21.00-04.00 น. ต่ออีกอย่างน้อย 14 วัน หลังจากวันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จำนวนผู้โดยสารในระบบราง ยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่หากมีการผ่อนคลายหรือยกเลิก เคอร์ฟิว จะทำให้มีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ระบบรางมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ไปด้วย

Wisarut wrote:
“กรมฯราง” คลายล็อกรถไฟ/รถไฟฟ้า บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 75%
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:01 น.
รถไฟ-รถไฟฟ้าห้ามแน่น! กรมรางออกประกาศคุมจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:17 น.
ปรับปรุง: 30 สิงหาคม 2564 เวลา 14:17 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 06/09/2021 10:55 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางรางจัดการประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ครั้งที่ 2 /2564
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม

นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางรางได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ครั้งที่ 2 /2564 ในวันที่ 6 กันยายน 2564 ณ ห้องประชุมมนังคสิลา ชั้น 2 อาคาร ณ ถลาง กรมการขนส่งทางราง โดยมี อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ขร. และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทล. ทช. รฟม. รฟท. รฟฟท. T4A BTS BEM กทม. ขสมก. และผู้แทน เข้าร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Zoom
สรุปสาระสำคัญการประชุมได้ ดังนี้
1 คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการกำหนดชื่อสถานีรถไฟฟ้าบางแห่งที่เป็นประเด็นหารือสืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยได้มีมติเห็นชอบการกำหนดชื่อสถานีภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ดังนี้
1.1 สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู วัดชลประทาน กำหนดให้เป็น กรมชลประทาน (Royal Irrigation Department) เนื่องจากที่ตั้งอยู่หน้ากรมชลประทาน
1.2 สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สินแพทย์ กำหนดให้เป็น รามอินทรา กม.9 (Ram Inthra Kor Mor 9) เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียกย่านในบริเวณดังกล่าว
1.3 สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ผ่านฟ้า กำหนดชื่อเป็นสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (Democracy Monument) เช่นเดียวกับ สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (Democracy Monument) โดยมีรหัสสถานีที่แตกต่างกัน เนื่องจากให้สอดคล้องกับ Landmark ในบริเวณดังกล่าวและเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กันในระยะเดินถึง
1.4 สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเวียนใหญ่เหนือ กำหนดชื่อเป็นสถานีวงเวียนใหญ่ (Wongwian Yai) เพื่อให้สอดคล้องกับ Landmark ในบริเวณดังกล่าว
1.5 สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง พัฒนาการ กำหนดชื่อเป็น หัวหมาก (Hua Mak) เนื่องจากที่ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ อยู่ใกล้สถานีรถไฟหัวหมาก และสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์หัวหมากในระยะประมาณ 200-300 เมตร ซึ่งเป็นระยะเดินถึงและเป็นย่านที่ประชาชนคุ้นชินแล้ว ควรที่จะใช้ชื่อเดียวกันเพื่อลดความสับสนของผู้ใช้บริการ โดยมีรหัสสถานีที่แตกต่างกัน
2. พิจารณาการปรับปรุงสภาพกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง (สถานีดอนเมืองและสถานีหลักหก) ในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ที่จอดรถสำหรับคนพิการ ทางลาดสำหรับคนพิการและผู้มีสัมภาระแบบล้อลาก ห้องน้ำคนพิการ และระบบป้ายบอกทางและป้ายสัญลักษณ์ รวมทั้งการซ่อมแซมบำรุงรักษาสภาพกายภาพภายในสถานีให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน เป็นต้น โดย รฟท. และ รฟฟท. ได้รับความเห็นฝ่ายเลขานุการไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
3. พิจารณาการปรับปรุงรูปแบบการติดตั้งระบบพื้นผิวต่างสัมผัสภายในสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ที่มีการติดตั้งไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานที่กระทรวงคมนาคมและสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้กำหนดไว้ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือเป็นอุปสรรคในการสัญจรของผู้ใช้บริการ โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติมอบหมายให้ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด รับไปดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการติดตั้งระบบพื้นผิวต่างสัมผัสชนิดเตือนทาง บอกทิศทาง และนำทาง ให้ถูกต้อง เหมาะสม สอดคล้องตามมาตรฐานสากลหรือมาตฐานตามที่กระทรวงคมนาคมและสมาคมสถาปนิกสยามฯ ได้กำหนดไว้
4. พิจารณาแนวทางการกำหนดรหัสสีของเส้นทางรถไฟฟ้าให้เป็นมาตรฐานกลางเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นเอกภาพ โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติดังนี้
4.1 เห็นสมควรให้มีการกำหนดรหัสสีที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นมาตรฐานในการนำไปใช้งานจัดทำป้ายสัญลักษณ์ แผนที่ ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบสอดคล้องกัน
4.2 เห็นสมควรเสนอให้ใช้รหัสสีตามที่หน่วยงานรับผิดชอบได้กำหนดไว้เดิม เช่น สายสีเขียว ทอง เทาให้ยึดตามรหัสสีของ กทม./BTS สายสีน้ำเงิน ม่วง ส้ม เหลือง ชมพู ให้ยึดตามรหัสสีของ รฟม. สายสีแดง ให้ยึดตามรหัสสีของ รฟท.
4.3 กรณีรหัสสีของเส้นทางระบบรางในอนาคต ให้หลีกเลี่ยงการใช้สีที่ใกล้เคียงกับสีที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้พิการประเภทตาเห็นเลือนราง หากหลีกเลี่ยงการใช้สีซ้ำหรือใกล้เคียงกันไม่ได้ ควรที่จะกำหนดชื่อเส้นทางประกอบกับรหัสสี เพื่อสื่อสารให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใจได้ โดยเห็นสมควรให้หน่วยงานผู้ให้บริการขนส่งทางรางเสนอ ขร. พิจารณา เพื่อเสนอ คค. ให้ความเห็นชอบ ก่อนการดำเนินการจริง
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4395940530452858
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 27, 28, 29 ... 63, 64, 65  Next
Page 28 of 65

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©