View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
dusit08
3rd Class Pass
Joined: 03/11/2009 Posts: 20
Location: กรุงเทพ - อุบลราชธานี บ้านอยู่วงเวียนใหญ่ ^^
|
Posted: 18/11/2009 10:55 am Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: | กลับลงมาข้างล่าง จะเห็นประแจตัวแรกที่อยู่ทางทิศตะวันตก ( สถานีนครราชสีมา ) ครับ ส่วนทางขวา ก็คือเนินเมื่อสักครู่ที่ผมขึ้นไปยืนถ่ายรูป
เลยประแจตัวเมื่อสักครู่ไป ก็จะเป็นจุดตัดถนนราชดำเนินครับ เลยไปอีกก็จะเป็นโค้งขวา ผ่านชุมชนที่อยู่ข้างทางรถไฟที่เคยตกเป็นข่าวเมื่อหลาย ๆๆๆ เดือนก่อน
ถ้าดูจากแผนที่เล็กที่ผมตัดออกมาจาก ” แผนที่ตัวเมืองนครราชสีมาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ บริเวณจุดตัดนี้ก็คือวงกลมสีน้ำเงินที่เห็นครับ
ครับสำหรับรูปที่ผมจะนำเสนอประกอบกระทู้นี้ก็คงมีเพียงเท่านี้ครับ ระหว่างที่ถ่ายรูปอยู่ที่สถานีชุมทางถนนจิระนี้ ก็ได้เห็นขบวนรถวิ่งเข้า - ออกบ้าง รูปของขบวนรถเหล่านั้น ( เป็น RHN. เจ้าพ่ออีสานล้วน ๆ ) ก็จะส่งไปลงใน gallery ครับ
ขอบคุณสมาชิกทุก ๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ |
เคยเกิดเหตุการอะไรหรอครับ |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 18/11/2009 11:12 am Post subject: |
|
|
เหตุการณ์ผ่านไปตั้ง 2 ปีกว่า ผมก็จำไม่ได้ล่ะครับ _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
|
|
Back to top |
|
|
Compressor
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/12/2007 Posts: 1775
Location: ตลอดปลายทางอุบลราชธานี
|
Posted: 18/11/2009 1:53 pm Post subject: |
|
|
ไหนๆก็มีคนขุดขึ้นมาแล้ว
ปัจจุบัน จิระ ทางประธานทั้งสายหนองคายและสายอุบล ใช้ประแจ 100 ปอนด์ ตามโครงการเปลี่ยนประแจ 100 ปอนด์และทางตัดสำเร็จรูป ของเทศบาลนครนครราชสีมา (ทางรถไฟเป็นของการรถไฟแท้ๆ แต่เทศบาลเป็นคนทำให้ )
มีเรื่องสงสัยอยู่หนึ่งเรื่อง กับหลักปฏิบัติครับ
จะเห็นว่ามีป้ายพิกัดความเร็วสูงสุดในทางประธาน สำหรับขบวนรถโดยสาร สามารถวิ่งได้เพียง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ทว่า คำสั่งของการรถไฟฯ ไม่ได้ระบุว่าตอนนี้วิ่งได้เพียง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 110/90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามพิกัดของรถดีเซลรางและขบวนรถโดยสาร
ทีนี้ เมื่อมามองว่าเป็นฝ่ายการช่างโยธา เป็นคนติดตั้งป้ายผิด ซึ่งป้ายนี้มันควรจะใช้ป้ายจำกัดความเร็ว (ป้ายสี่เหลี่ยม) แล้วนั้น เมื่อดูในคำสั่งเรื่องการปักป้ายจำกัดความเร็ว ซึ่งในนั้นจะมีรายชื่อพิกัดที่ต้องจำกัดความเร็วอยู่ด้วย กลับไม่มีระบุว่าทางช่วงนี้ จะต้องจำกัดความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่อย่างใด
**คำสั่งทั้งสอง สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ฝ่ายตรวจสอบภายใน การรถไฟฯ
รบกวนท่านที่เป็น ครฟ. โดยเฉพาะฝ่ายการช่างกล ไขความกระจ่างให้ผมด้วยครับ ว่าที่จริงแล้ว ความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้ในตอนนี้ วิ่งได้เท่าไหร่ สงสัยมานาน (น่าจะปีกว่าๆ) แล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 18/11/2009 2:22 pm Post subject: |
|
|
^^^
คงได้มีมหกรรม ยำใหญ่ใส่สารพัดให้ ฝ่ายการช่างโยธาก็คราวนี้เองเพราะ มีวีรกรรมมากมายที่ ทำให้ พขร และ ฝ่ายการเดินรถ อยาก จะ ยำใหญ่ ฝ่ายการช่างโยธา กันเสียเหลือเกิน |
|
Back to top |
|
|
AONZON
3rd Class Pass
Joined: 06/12/2006 Posts: 221
Location: กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
|
Posted: 18/02/2010 10:05 pm Post subject: |
|
|
ขออนุญาตเล่าเรื่องของค่ายทหารในอดีตแถวถนนจิระ ครับ
...ค่ายสุรนารี เป็นที่ตั้งของกองทัพภาคที่ ๒ ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกองทัพภาคอีสาน....ใกล้ๆกับสนามกีฬานั่นคือ..พิพิธภัณฑ์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
(ภาพ...เครื่องบินฝึกแบบทาชิกาว่า...ณ สนามบินโคราช (ใกล้สถานีจิระ)แห่งนี้..ปัจจุบันเหลือ ๒ เครื่องในโลกที่พิพิธภัณฑ์ ทอ.ไทย และที่ ทอ.จีน)
..................................................................................
...ในอดีตนั้น...ที่ตั้งแถว สนามกีฬานี้...เดิมเป็น กองบินใหญ่ที่ ๓ ของกองบินทหารบก ซึ่งปัจจุบันคือ "กองทัพอากาศ" ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา...ทอ.ใช้ สนามบินแห่งนี้เป็น รร.การบิน มีนักบิน ทอ. และ ทร.จบจาก รร.แห่งนี้ ออกรับใช้ชาติในระหว่างสงครามมากมายครับ...มีเรื่องเล่าว่า...รถไฟจากบางซื่อ และจากดอนเมือง จะขนอะไหล่เครื่องบินและขนน้ำมัน ในถัง ๒๐๐ ลิตร ใส่ ขต. มาที่นี่...โบกี้จะถูกทิ้งไว้ที่หน้าสถานี.(บ่อยครั้งที่ ทหารอากาศอยากให้ไปจอดตรงทางแยกแต่ รถไฟไม่มีเวลามาก..ต้องรีบเดินทางต่อ)..ศิษย์การบินทุกคน ทั้งชั้นประทวน ชั้นสัญญาบัตร จะต้องมาช่วยกันกลิ้งถังน้ำมันเหล่านั้นกลับ รร.การบิน ....ซึ่งก็คือตรงสนามกีฬา หน้าค่ายสุรนารี นั่นแหละครับ...จะเห็นว่า สถานีแห่งนี้พูกพันธ์กับทหารมาตั้งแต่แรกเริ่มครับ.....ส่วนสถานีโคราช อเมริกัน ได้ทำทางรถไฟเข้าเส้นทางซึ่งตอนนั้นเรียก ค่ายแฟรนชิป หรือ ทหารไทยขณะนั้นเรียก ค่ายมิตรภาพ เพื่อส่งกำลังบำรุง...ซึ่งล่าสุดมีการยืนยันว่า..เมื่อราวช่วง ๔ - ๗ ปีนี้...การฝึก คอบราโกล์ด ทหารอเมริกัน ยังเคยขนยุทโธปกรณ์ทางรถไฟจากท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ที่สัตหีบ (ฐานทัพเรือสัตหีบ จะตั้งอยู่ใน กองเรือยุทธการ ที่ อำเภอสัตหีบ ครับ...ส่วนจุกเสม็ด นี่ที่มีทางรถไฟไปนั่นหละครับ) ขนจากจุกเสม็ดมาที่โคราช...โดยส่วนหนึ่งลงที่ จิระ...เพื่อนำไปตั้งฐานฝึกที่ สโมสรร่วมเริงชัย ในค่ายสุรนารี (เข้าทางประตูข้างสนามกีฬาตรงไปไม่ถึง ๑ กม.ครับ) ..อีกส่วนก็ลงโคราชนั่นหละครับ......
...ความสำคัญ ระหว่าง รถไฟ กับ ทหารอากาศ มีมาตั้งแต่อดีต...เมื่อครั้นรถไฟมาหยุดที่โคราช...ซึ่งน่าจะเป็น "จิระ" แห่งนี้มากกว่าแค่ "นครราชสีมา" ปัจจุบัน...ทหารอากาศ จะขนเอาไปรษณีย์ภัณฑ์ขนมาขึ้นเครื่องบิน...บินจากโคราช ออกไปยัง อุดร และบินไปส่งที่หนองคาย และกลับมาลงที่อุดร ค้างคืน เช้าบินกลับโคราช....อีกเส้นทางหนึ่งบินจากโคราช ไปร้อยเอ็ด และไปค้างที่อุบล....แม้จะมีรถไฟเดินทางไปถึงในเวลาต่อมา...แต่ก็ยังคงใช้วิธีขนไปรษณีย์ ทางอากาศอยู่บ้าง.....
(ภาพ...เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบเบร์เกต ๑๔ ที่ ทอ.ซื้อมาจากฝรั่งเศส ถูกใช้เป็น บ.ถ่ายภาพทางอากาศทำแผนที่ทางอากาศ ทั้งหลายที่เราเห็นๆ กัน มาจากเครื่องนี้ ครับ...ในภาพที่สนามบินแห่งนี้ ทหารอากาศกำลังขนไปรษณีย์ภัณฑ์ที่มาส่งที่โคราช หรืออาจจะ จิระ ขึ้นเครื่องบิน เป็นกำเนิดขนส่งไปรษณีย์ทางอากาศของไทย)
....ต่อมาบรรดาศิษย์และนักบิน นั่งรถไฟจากจิระ ไป ภูเขาลาด แล้วเดินไปภูเขาน้อย...จากนั้นก็ย้ายสนามบินมาที่ภูเขาน้อยและตั้งเป็น รร.การบิน และ กองบินน้อยที่ ๓ จนถึงปี ๒๕๑๒ ทอ.สหรัฐฯ ของให้ย้าย รร.การบิน ไปอยู่กำแพงแสน...ส่วน บน.๓ ยุบตัวเมื่อปี ๒๕๒๐ จนกระทั่ง...ทอ.ย้าย บน.๑ จากดอนเมือง มาเข้าที่ตั้ง โคราช ในปัจจุบัน _________________ ภาพถ่ายในวันนี้..คือประวัติศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 19/02/2010 12:39 am Post subject: |
|
|
ถึงคุณจ่าออนซอน
สถานีโคราช คือ สถานีนครราชสีมาในปัจจุบันนี้ เคยมีทางรถไฟเล็กเข้าไปในกองพลทหารราบที่ 5 (ค่ายสุรนารี ) ซึ่งเปิดใช้งานแต่ปี 2453
ต่อมาเมื่อ แก้ราง สายโคราชเป็นราง 1 เมตรจนใช้รถจักรอีคลาส เดินมาถึงโคราชได้แล้ว และได้เปิดเส้นทางจากโคราชไปท่าช้าง (มีท่าเรือกลไฟไปอุบลริมแม่น้ำมูล) เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465 ทางรถไฟเล็กก็ได้เลิกไปเพราะ มีสถานีถนนจิระ เพื่อรับทหารไว้แล้ว
ต่อาปี 2477 ได้แก้ชื่อสถานีโคราชเป็นสถานีนครราชสีมาและ สถานีถนนจิระ เป็นสถานีชุมทางถนนจิระ หลังเปิดการเดินรถถึง วารินทร์ เมือ่ 1 เมษายน 2473 และ ถึงขอนแก่น เมื่อ 1 เมษายน 2476 (ทางช่วงโคราช - ขอนแก่น และ โคราช - วารินทร์สำเร็จปิดบัญชีการก่อสร้างได้) |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/02/2010 9:58 am Post subject: |
|
|
แสดงว่าแผนที่ปี 2478 นี้ล้าสมัยแล้วในยุคนั้น
เพราะยังเห็นทางรถไฟเล็กและชื่อสถานีโคราชอยู่เลยครับ
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 19/02/2010 10:09 am Post subject: |
|
|
แผนที่มักมีปัญหาข้อมูล Lag บ่อยมาก เพราะ พอทำแผนที่สร็จไม่ทันไร มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จน แผนที่เร็วกว่าที่ควรจะเป็น |
|
Back to top |
|
|
AONZON
3rd Class Pass
Joined: 06/12/2006 Posts: 221
Location: กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
|
Posted: 19/02/2010 10:44 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | ถึงคุณจ่าออนซอน
สถานีโคราช คือ สถานีนครราชสีมาในปัจจุบันนี้ เคยมีทางรถไฟเล็กเข้าไปในกองพลทหารราบที่ 5 (ค่ายสุรนารี ) ซึ่งเปิดใช้งานแต่ปี 2453
ต่อมาเมื่อ แก้ราง สายโคราชเป็นราง 1 เมตรจนใช้รถจักรอีคลาส เดินมาถึงโคราชได้แล้ว และได้เปิดเส้นทางจากโคราชไปท่าช้าง (มีท่าเรือกลไฟไปอุบลริมแม่น้ำมูล) เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465 ทางรถไฟเล็กก็ได้เลิกไปเพราะ มีสถานีถนนจิระ เพื่อรับทหารไว้แล้ว
ต่อาปี 2477 ได้แก้ชื่อสถานีโคราชเป็นสถานีนครราชสีมาและ สถานีถนนจิระ เป็นสถานีชุมทางถนนจิระ หลังเปิดการเดินรถถึง วารินทร์ เมือ่ 1 เมษายน 2473 และ ถึงขอนแก่น เมื่อ 1 เมษายน 2476 (ทางช่วงโคราช - ขอนแก่น และ โคราช - วารินทร์สำเร็จปิดบัญชีการก่อสร้างได้) |
ขอบคุณท่าน Wisarut มากเลยครับ....งั้นพอสรุปได้เลยครับว่า เมื่อมีสนามบินตรงนี้ และมีค่ายทหารตรงนี้...อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เลือกตั้งพื้นที่เป็นสถานีถนนจิระแห่งนี้แน่นอนเลยครับ...เพราะบันทึกในประวัติ ทอ. ในช่วงปีดังกล่าวมีเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวข้องระหว่าง ทอ.กับรถไฟโคราช ดังนี้ครับ
๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๓ การที่จะบำรุงกำลังทางอากาศนั้น นอกจากการจัดหาเครื่องบินแล้ว ยังมีการสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การจัดสร้างสนามบินไว้เป็นพื้นที่ๆ เครื่องบินจะขึ้นลงได้สะดวก ซึ่งจำจะต้องมีไว้ทุกจังหวัด จังหวัดละหนึ่งแห่งเป็นอย่างน้อย จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงแถลงให้ประชาชนทราบภายหลังจากทรงขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2463 แล้ว พลเอกเจ้าพระยาบดินเดชานุชิต เสนาบดีกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างสนามบินให้อุปราชและสมุหเทศาภิบาลทราบ และเข้าใจความมุ่งหมายเมื่อมีการประชุมอุปราชและสมุหเทศาภิบาลในปี พ.ศ. 2463 ซึ่งอุปราชและสมุหเทศาภิบาลรับทราบและรับที่จะไปดำเนินการสร้างสนามบินขึ้นอย่างน้อยจังหวัดละ 1 สนามบิน
๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๓ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาธิการทหารบก ทรงกล่าวในพิธีรับมอบหน้าที่ มีข้อความตอนหนึ่งว่า
สิ่งสำคัญของการป้องกันชาติบ้านเมืองของเราในขณะนี้ ตกเป็นหน้าที่ของ เครื่องบิน แล เรือดำน้ำ
กรกฎาคม พ.ศ. 2463 กระทรวงกลาโหมได้รับรายงานจากอุปราชและ สมุหเทศาภิบาลว่า มณฑลต่างๆได้สร้างสนามบินขึ้นสำเร็จแล้วดังนี้
มณฑลอุบลราชธานี มี ๓ จังหวัด สร้างสนามบินสำเร็จแล้วทั้ง ๓ จังหวัด รวม ๓ สนามบิน นอกจากนี้เมื่อมีเครื่องบินไปแสดงการบินยังสามารถเก็บเงินค่าชมจากประชาชนได้อีก ๙๘,๙๙๓.๓๕ บาท นับเป็นอันดับแรก
มณฑลนครราชสีมา มี ๓ จังหวัด สร้างสนามบินสำเร็จใช้การได้แล้วเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา และเมื่อเครื่องบินไปแสดงการบินก็สามมารถเก็บเงินค่าเข้าชมได้อีก ๒๐,๐๓๙.๐๑ บาท
มณฑลอุดรธานี มี ๖ จังหวัด ได้เลือกสถานที่ตั้งและกำลังสร้างสนามบินสำหรับจังหวัดอุดรธานีใกล้จะเสร็จแล้ว นับได้ว่าทั้งมณฑลนครราชสีมาและมณฑลอุดรธานีสร้างสนามบินได้เป็นอันดับสอง
มณฑลจันทบุรีและมณฑลร้อยเอ็ด สร้างสนามบินมณฑลละ ๓ สนามบิน ได้เลือกที่ตั้งสร้างสนามบินสำเร็จเฉพาะจังหวัดที่เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดเท่านั้น นับเป็นอันดับสาม
มณฑลสุราษฏร์ธานี ราชบุรี ปราจีนบุรี และภูเก็ตได้รายงานให้ทราบว่าเลือกที่ตั้งสร้างสนามบินแล้วแต่ติดอุปสรรคด้วยลักษณะภูมิประเทศและวิธีการสร้าง นับเป็นอันดับสี่
มณฑลนครไชยศรี มี ๓ จังหวัด ได้เลือกที่ตั้งสร้างสนามบินแล้ว ๒ สนามแต่จังหวัดนครปฐมยังมิได้สร้าง นับเป็นอันดับห้า
มณฑลอยุธยา นครสวรรค์ และพิษณุโลก ซึ่งเป็นมณฑลที่มี ๕-๗ จังหวัดนั้น แจ้งว่าจะสร้างเพียงมณฑลละ 1 จังหวัด นับเป็นอันดับหก
มณฑลพายัพ นครศรีธรรมราช และ ปัตตานี ยังมิได้บอกเลือกที่ตั้งสนามบิน
สาเหตุที่แต่ละมณฑลแต่ละจังหวัดต่างๆ สร้างสนามบินไม่เท่ากันเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศและความสนใจสนับสนุนมากน้อยของอุปราชและสมุหเทศาภิบาลแต่ละมณฑลและจังหวัดนั้น
27 มิถุนายน พ.ศ. 2464 กรมอากาศยานทหารบกจัดส่งเครื่องบินเบร์เกต์ ( บท.1 ) จากกองบินใหญ่ทหารบกที่ 3 นครราชสีมา พร้อมนายแพทย์ของกรมสาธารณะสุข 1 คนและเวชภัณฑ์หนัก 120 กิโลกรัม บินไปที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวอำเภอวาริชำราบ ซึ่งเกิดไข้ทรพิษและอหิวาตกโรค การบินไปส่งแพทย์และเวชภัณฑ์ดังกล่าวใช้เวลา 3 ชั่วโมง 8 นาที ซึ่งหากเดินทางตามธรรมดาในสมัยนั้นจะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน เป็นการใช้ประโยชน์จากเครื่องบินนอกเหนือจากการใช้ในงานสงครามเท่านั้น
1 มิถุนายน พ.ศ. 2465 กรมอากาศยานและกรมไปรษณีย์โทรเลข เปิดสายการบินขนส่งไปรษณีย์เป็นครั้งแรก ในเส้นทางสาย นครราชสีมา - ร้อยเอ็ด - อุบลราชธานี แบบบินไปกลับสวนทางกัน ( ไปรษณีย์ภัณฑ์ต่างๆจะถูกรวบรวมใส่รถไฟที่นครราชสีมาแล้วเข้ากรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง ) ซึ่งผลจากการเปิดเส้นทางสายแรกในครั้งนี้ กรมอากาศยานและกรมไปรษณีย์โทรเลข พร้อมที่จะเปิดเส้นทางสายอื่นในเส้นทางภาคอิสานโดยเป็นการบินขนส่งต่อจากเส้นทางรถไฟที่มีในขณะนั้นและมีแนวความคิดที่จะเปิดเส้นทางสายเหนือในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการดัดแปรเครื่องบินแบบ เบร์เกต์-14 รุ่นทิ้งระเบิดสองที่นั่งให้เป็นเครื่องบินขนส่งและเครื่องบินพยาบาลที่บรรทุกได้มากขึ้น
3 ธันวาคม พ.ศ. 2466 กรมอากาศยานและกรมไปรษณีย์โทรเลข เปิดสายการบินขนส่งไปรษณีย์เป็นสายที่สอง ในเส้นทางสาย นครราชสีมา - ร้อยเอ็ด - อุดรธานี-หนองคาย แบบบินไปกลับสวนทางกัน ( ไปรษณีย์ภัณฑ์ต่างๆจะถูกรวบรวมใส่รถไฟที่นครราชสีมาแล้วเข้ากรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง ) โดยขั้นต่อไปเตรียมเปิดเส้นทางสาย นครราชสีมา-ชัยภูมิ-เพชรบูรณ์-พิษณุโลก และ โครงการต่อไปคือเปิดเส้นทางสายมณฑลพายัพ ต่อไป _________________ ภาพถ่ายในวันนี้..คือประวัติศาสตร์ในวันพรุ่งนี้
Last edited by AONZON on 19/02/2010 10:28 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 19/02/2010 4:12 pm Post subject: |
|
|
^^^
นี่เองที่ทำให้ คนอุบลรู้จักเครื่องบินมาก่อนรถยนต์ตามรายงานการตรวจราชการภาคอีสานโดยกรมพระนครสวรรค์วรพินิต เมื่อ ธันวาคม 2469 |
|
Back to top |
|
|
|