Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180376
ทั้งหมด:13491610
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รถสินค้า 852 แหลมฉบัง-ICDชนรถทัวร์ที่คลองแขวงกลั่น(11/10/63)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รถสินค้า 852 แหลมฉบัง-ICDชนรถทัวร์ที่คลองแขวงกลั่น(11/10/63)
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 10:40 am    Post subject: Reply with quote

ผวจ.ฉะเชิงเทราสั่งล้อมคอกเหตุรถไฟชนรถชาวบ้าน ประสาน รฟท.ตั้งแผงกั้นทาง ปรับภูมิทัศน์?ทางข้าม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 21:31


ฉะเชิงเทรา​ -​ ผวจ.ฉะเชิงเทราสั่งล้อมคอกเหตุรถไฟชนรถยนต์จนเกิดความสูญเสียหลังเกิดโศกนาฏกรรม​ใหญ่ในพื้นที่ ประสาน รฟท.ปรับทัศนวิสัยโดยรอบ จัดทำแผงกั้นทางรถไฟหลังทราบข่าวคนพื้นที่ขอมานานไม่เคยได้ ทั้งเยียวยาผู้สูญเสีย​เต็มจำนวนสิทธิ​ที่จะได้รับ

จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกตู้สินค้าพุ่งชนรถบัสทอดกฐินสามัคคี บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 29 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเกือบ 20 ราย และ 1 ในนั้นคือ นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบัสนำพนักงานบริษัทเอกชนใน จ.สมุทรปราการ กว่า 60 ชีวิต เดินทางมาทำบุญที่วัดบางปลานัก ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่หากจากจุดเกิดเหตุเพียง 2 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยถึงแนวทางแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซากบริเวณจุดดังกล่าว ว่า ตนเองได้ประสานไปยังผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้จัดทำแผงกั้นทางรถไฟ รวมทั้งปรับปรุงทัศนวิสัยในการมองเห็นขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าวทั้งบริเวณด้านซ้ายและขวา รวมทั้งติดตั้งเครื่องกั้นทางรถไฟ

หลังทราบว่าที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ได้เคยร้องขอให้การรถไฟฯ แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ​ในจุดดังกล่าวแต่ไม่เป็นผล



"ตรงนี้ถือเป็นจุดเสี่ยงและทางตำรวจเองก็ยังระบุว่า เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และขณะนี้ต้องช่วยเหลือชีวิตชาวบ้านและชดใช้ในความเสียหายที่เกิดขึ้นจนเป็นที่พอใจ และจะต้องเร่งปรับพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุให้คืนสภาพโดยเร็ว จากนั้นจะต้องมาวิเคราะห์ในจุดเสี่ยงตรงนี้เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุอีกว่าจะทำอย่างไร ส่วนการเยียวยาต้องดูว่าแต่ละครัวเรือนนั้นเดือดร้อนอย่างไรบ้าง"

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังเผยอีกว่าขณะนี้การรถไฟฯ รับปากแล้วว่าจะจัดทำไม้กั้นทางแบบชั่วคราวมาติดตั้งบริเวณจุดเกิดเหตุก่อน ส่วนเครื่องกั้นมาตรฐานต้องใช้เวลาดำเนินการ ขณะที่การปรับภูมิทัศน์หรือทัศนวิสัย ในวันพรุ่งนี้จะมีการประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.บางเตย เพื่อเร่งหาแนวทางให้เกิดขึ้นจริง​โดยเร็ว



ด้านสาธารณสุขอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ได้รายงานตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตล่าสุดว่า ในส่วนผู้​เสียชีวิตยืนยันตัวเลขที่ 18 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล​พุทธโสธร

และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บปานกลาง 7 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 26 ราย รวมจำนวนคนเจ็บทั้งสิ้น 36 ราย

ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน​ 12 ราย จากผู้ที่เดินทางมาในรถบัสทั้งหมด 66 คน

หดหู่! ภาพชาวบ้านช่วยกันเดินเก็บเงินทำบุญกฐิน เพื่อนำไปทำบุญแทนผู้เสียชีวิตเหยื่ออุบัติเหตุรถบัสชนรถไฟ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 21:40



โซเชียลฯ แห่แชร์ภาพชาวบ้านช่วยกันเก็บเงินกฐินทั้งหมดไปทำบุญแทนผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุคณะทัวร์กฐินชนรถไฟ จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเป็นภาพที่สร้างความหดหู่ให้ผู้พบเห็น

จากกรณีอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 ชนรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อำเภอเมืองฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (11 ต.ค.) เพจ “คนข่าวบางประกง” ได้เผยภาพสุดหดหู่จากเหตุการณ์รถบัสคณะทัวร์กฐินชนรถไฟทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเป็นภาพที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บเงินกฐินทั้งหมดไปทำบุญให้ผู้เสียชีวิต

โดยระบุเนื้อหาโพสต์ว่า “คนของวัดบางปลานักได้เดินเก็บต้นกฐินของคณะทัวร์ที่ประสบเหตุ เพื่อรวบรวมนำเงินทั้งหมดไปร่วมทำบุญกฐิน เพื่อเป็นกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต่อไป ซึ่งคณะทัวร์ได้เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการตั้งใจเดินทางมาทอดกฐินที่วัดบางปลานัก ระยะทางเหลืออีกเพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น แต่โชคร้ายที่ไปไม่ถึงวัด”

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตมากมายต่างให้ความสนใจในโพสต์ดังกล่าว และเข้ามาแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต โดยโพสต์มียอดกดไลก์กว่า 25,000 ครั้ง แชะแชร์ไปกว่า 3,900 ครั้งด้วยกัน

https://www.facebook.com/groups/CommunityBowin/permalink/1900733196770130/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 10:43 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
การรถไฟฯตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือรถไฟชนรถบัสตลอด 24 ชม. "รมว.คมนาคม" สั่งตรวจสอบ-ดูแลผู้ประสบเหตุทันที
สยามรัฐออนไลน์ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 22:56 น.


รฟท.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบเหตุรถไฟชนรถบัส
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 20:02



ผู้ว่าการ รฟท.และคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่ดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ชนกับรถบัสโดยสารที่สถานีคลองบางพระ

วันนี้ (11 ต.ค.63) เวลา 08.05 น. เกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์
ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง(ไอซีดี.) ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ถึง สทล.51/1 บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางผ่านที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
(ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้าย และสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่) ได้มีรถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง

แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา

เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 44 ราย (กลับบ้านแล้ว 31 ราย) โดยรักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร 22 ราย (ออกจาก รพ.พุทธโสธรแล้ว 9 ราย) รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย รพ.คลองเขื่อน 6 ราย และ รพ.บ้านโพ 9 ราย (ออกจาก รพ.แล้วทั้งหมด)

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของ รฟท. ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังได้สั่งการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ในการประสานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ และทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย และโรงพยาบาลต่าง ๆ
พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทุกฝ่ายให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 10:45 am    Post subject: Reply with quote

ขบ.เผยรถบัสบรรทุกผู้โดยสารเกิน-ขาดต่อภาษี เร่งสอบสวนผู้ประกอบการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 16:54


กรมการขนส่งทางบกเรียกเจ้าของรถบัสสอบสวน เบื้องต้นพบบรรทุกผู้โดยสารเกิน และขาดต่อภาษีประจำปี ส่วนคนขับมีใบขับขี่ถูกต้อง เผยคนขับรถบัสพยายามเบรกแล้ว แต่รถลื่นไถลพุ่งไปชนกับด้านหัวรถไฟ

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 ชนรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรานั้น

กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดพบว่ารถบัสดังกล่าวเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง คันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บรรทุกผู้โดยสารเป็นพนักงานบริษัท เพอร์เฟคโปรดักซ์ จำกัด จำนวน 57 ราย ออกจากจังหวัดสมุทรปราการเวลา 06.30 น. มุ่งหน้าไปทอดกฐินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 08.05 น. ขณะกำลังขับผ่านจุดตัดทางข้ามรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น พนักงานขับรถบัสโดยสารสังเกตเห็นรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 กำลังแล่นมาด้วยความเร็ว และพนักงานขับรถบัสโดยสารพยายามหยุดรถแต่รถเกิดลื่นไถลพุ่งไปชนกับหัวขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์แล้ว

สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา วันสิ้นอายุภาษี 30 กันยายน 2563 ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตุลาคม 2562 โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อผู้ประกอบการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวิสรา เอ็กซ์เพรส ใบอนุญาตประกอบการเลขที่ อย. 42/2563 วันสิ้นอายุใบอนุญาต 21 กุมภาพันธ์ 2568 เบื้องต้นรถมีประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด สิ้นอายุวันที่ 30 กันยายน 2564

ส่วนพนักงานขับรถ ชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 เลขที่ใบอนุญาต 01068/39 ออกโดย สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ วันอนุญาต 28 พฤศจิกายน 2539 วันสิ้นอายุ 26 ธันวาคม 2563 (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)

จากการตรวจสอบความเร็วโดยระบบ GPS ครั้งสุดท้ายตรวจสอบเวลา 08.05.27 น. อยู่ที่ 44 กม./ชม. และไม่พบความเร็วเกินและไม่พบชั่วโมงการทำงานเกินในวันที่ 11 ตุลาคม 2563

ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้น รถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท คือ

1. มีประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ หมดอายุ 30 ก.ย. 2564

2. มีประกันภัยประเภท 3 บ.สินมั่นคง หมดอายุวันที่ 30 ก.ย. 2564

ส่วนผู้ประกอบการ เบื้องต้นพบฐานความผิดด้งนี้

1. บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32(3), 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

2. ใช้รถทำการขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71(2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

3. ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

โดยดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการมาสอบสวน พิจารณาลงโทษต่อไป

ขนส่งฯจ่อเอาผิดรถบัสขนคนไปงานกฐิน ผิด 3 กระทงปรับแสนห้าหมื่นบาท

12 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09:02 น.


11 ต.ค.63-รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมให้ความช่วยเหลือ กรณีเกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 ชนรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 นั้น

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบรายละเอียดพบว่า เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางคันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา บรรทุกผู้โดยสารเป็นพนักงานบริษัท เพอร์เฟคโปรดักซ์ จำกัด จำนวน 57 ราย ออกจาก จ.สมุทรปราการ เวลา 06.30 น. มุ่งหน้าไปทอดกฐินที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 08.05 น. ขณะกำลังขับผ่านจุดตัดทางข้ามรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น

ตามหุ้นเด่น หุ้นร้อน จะ Short หรือ Long ก็ได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
IC Markets
อย่างไรก็ตามพนักงานขับรถบัสโดยสารสังเกตเห็นรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนที่ 5102 กำลังเล่นมาด้วยความเร็วและพนักงานขับรถบัสโดยสารพยายามหยุดรถแต่รถเกิดลื่นไถลพุ่งไปชนกับหัวขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 18 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์แล้ว

สำหรับรถโดยสารคันเกิดเหตุ เป็นลักษณะรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา วันสิ้นอายุภาษี 30 ก.ย.63 ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ต.ค.62 โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนจำกัด รวิสรา เอ็กซ์เพรส ใบอนุญาตประกอบการเลขที่ อย. 42/2563 วันสิ้นอายุใบอนุญาต 21 ก.พ.68 เบื้องต้นรถมีประกันภัยประเภท 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด สิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย.64

อย่างไรก็ตามส่วนพนักงานขับรถ ชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 เลขที่ใบอนุญาต 01068/39 ออกโดย สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ วันอนุญาต 28 พ.ย.2539 วันสิ้นอายุ 26 ธ.ค.63 (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) ทั้งนี้ความเร็วตรวจสอบโดยระบบ GPS ครั้งสุดท้ายตรวจสอบเวลา 08.05.27 น. 44 กม./ชม. และไม่พบความเร็วเกินและไม่พบชั่วโมงการทำงานเกินในวันที่ 11 ต.ค.63

ด้านความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้นรถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท คือ 1.มีประกันพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ หมดอายุ 30 ก.ย.64 และ 2.มีประกันภัยประเภท 3 บ.สินมั่นคง หมดอายุวันที่ 30 ก.ย.64

ทั้งนี้เบื้องต้นพบผู้ประกอบการมีฐานความผิดดังนี้
1.บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32(3), 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
2.ใช้รถทำการขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71(2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และ
3.ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการ มาสอบสวนพิจารณาลงโทษต่อไป


Last edited by Wisarut on 12/10/2020 2:06 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 10:51 am    Post subject: Reply with quote

พขร.เปิดใจส่งสัญญาณเตือนบัสบุญกฐิน พร้อมสัญญาณแตรแต่ไม่เป็นผล ด้านลูกสาวคนขับบัสบอกเห็นรถพ่อจากไลฟ์สด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 19:27


ฉะเชิงเทรา - พขร. เปิดใจฟส่งสัญญาณเตือนพร้อมให้สัญญาณแตรบัสบุญกฐิน แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายพุ่งชนยับ เชื่อคนขับไม่เห็นสัญญาณเตือนและขบวนรถ หรือระบบเบรกอาจขัดข้อง ด้านบุตรสาวคนขับบัสรุดดูศพพ่อพบติดคาซากรถ เผยจำรถได้ตั้งแต่ดูไลฟ์สด

จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกตู้สินค้าพุ่งชนรถบัสทอดกฐินสามัคคี บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จนมีผู้ได้รับบดาเจ็บ 29 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเกือบ 20 ราย และ 1 ในนั้นคือ นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบัสนำพนักงานบริษัทเอกชนใน จ.สมุทรปราการ กว่า 60 ชีวิต เดินทางมาทำบุญที่วัดบางปลานัก ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่หากจากจุดเกิดเหตุเพียง 2 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวีรวัฒน์ วรวงษ์ พนักงานขับรถ (พขร.) ขบวนรถไฟเที่ยวบรรทุกสินค้าที่ 852 ว่า ได้ขับรถไฟขบวนบรรทุกขนส่งตู้สินค้าหมายเลขหัวจักร 5102 มาจากท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อนำตู้สินค้าไปส่งยังศูนย์ ICD ลาดกระบัง รวมความยาวที่ลากมา จำนวน 50 ตู้

และเมื่อขับมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 08.05 น. ได้เห็นรถบัสจอดหยุดอยู่บนเนินริมขอบรางรถไฟ และอยู่ด้านซ้ายของขบวนรถที่ตนเองกำลังขับมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จากนั้นได้เห็นรถบัสเริ่มไหลเข้ามาในรางที่รถไฟซึ่งตนเองกำลังขับผ่านจนได้ยินเสียงคนในรถบัสหวีดร้องเสียงดังลั่น แต่รถบัสก็ยังไหลเข้ามาหาขบวนรถไฟ

โดยตนเองได้เริ่มใส่ห้ามล้อ ก่อนจะเปิดหวูดและเปิดเฮดไลน์ แต่เข้าใจว่าคนขับรถบัสอาจมองไม่เห็นจึงพยายามที่จะขับรถไต่เข้ามาหา หรืออาจเป็นเพราะรถไหลเข้ามาและเบรกไม่อยู่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุสลดขึ้น



ขณะที่ น.ส.นิสา สวนยิ้ม อายุ 30 ปี บุตรสาวของนายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี คนขับรถบัสหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา นำคนงานโรงงานถุงพลาสติกใน จ.สมุทรปราการ เดินทางมาทอดกฐินใน จ.ฉะเชิงเทรา จนเกิดเหตุเศร้า บอกว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านบิดาไม่ได้บอกกล่าวอะไรต่อคนในครอบครัวจึงไม่รู้ว่าเดินทางมาต่างจังหวัด ทั้งนี้ บิดา ทำงานเป็นคนขับรถรับส่งพนักงานตามโรงงานอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรปราการ

“วันนี้พ่อน่าจะรับงานเหมาพิเศษในการขับรถบัสออกมายังต่างจังหวัด ซึ่งครั้งแรกหลังเกิดเหตุไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ยังพอจำรถคันที่พ่อขับได้หลังจากที่มีการไลฟ์สดภาพเหตุการณ์ผ่านโลกออนไลน์ จึงรีบชวนป้า และญาติคนอื่นๆ เดินทางมายังจุดเกิดเหตุซึ่งพบว่าเป็นรถคันที่พ่อขับมาจริงๆ”

อย่างไรก็ดี ตนเองและครอบครัวจะนำศพบิดากลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดบางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ



บุญกฐินสุดเหงา! ชาวบ้านบางปลานักเศร้าเหตุรถไฟชนบัส บอกเคยขอที่กั้น รฟท.แต่เรื่องเงียบ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 18:55

ฉะเชิงเทรา -บุญกฐินสุดเหงา! ชาวบ้านบางปลานัก เศร้าเหตุรถไฟพุ่งชนบัสพนักงาน จ.สมุทรปราการ ทำบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก บอกกลุ่มทำบุญกฐินเป็นลูกหลานคนในพื้นที่ที่ร่วมทำบุญทุกปี แฉจุดดังกล่าวมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เคยขอที่กั้น รฟท.หลายหนแต่เรื่องเงียบ
จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกตู้สินค้าพุ่งชนรถบัสทอดกฐินสามัคคี บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จนมีผู้ได้รับบดาเจ็บ 29 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเกือบ 20 ราย และ 1 ในนั้นคือ นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบัสนำพนักงานบริษัทเอกชนใน จ.สมุทรปราการ กว่า 60 ชีวิต เดินทางมาทำบุญที่วัดบางปลานัก ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่หากจากจุดเกิดเหตุเพียง 2 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดบางปลานัก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคณะทำบุญทอดกฐิน ซึ่งเกิดเหตุเศร้าขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยได้พบกับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้เดินทางมารอเพื่อร่วมทำบุญ ซึ่งทั้งหมดล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้ผู้ร่วมสายบุญเดินทางมาไม่ถึงจุดหมายปลายทาง และยังทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

นายสมศักดิ์ ขาวยั่งยืน อายุ 60 ปี บอกว่า กลุ่มชาวบ้านตั้งใจที่จะพากันมาทำบุญเพื่อทอดผ้าป่าประกอบกองกฐิน สมทบทุนในการบูรณะวัด ซึ่งหลังเกิดเหตุทางวัดต้องเดินหน้าจัดพิธีทอดกฐินต่อไปเนื่องจากยังมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมทำบุญอีกหลายสาย ซึ่งสายที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ที่ได้ชักชวนเพื่อนฝูงมาทำบุญร่วมกันในทุกๆ ปีไม่เคยขาด

“ชาวบ้านรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เงินทอดกฐินของวัดบางปลานัก ในปีนี้ มียอดเงินสมทบรวมจำนวน 746,230 บาท” นายสมศักดิ์ กล่าว



ทั้งนี้ ชาวบ้านยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บริเวณที่เกิดเหตุนั้นที่ผ่านมาชาวบ้านได้เคยขอเครื่องกั้นรถไฟจากการรถไฟแห่งประเทศไทยไปนานแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหาย และล่าสุด เมื่อ 2 เดือนก่อนก็ได้เกิดอุบัติเหตุรถชาวบ้านถูกรถไฟชนมาแล้ว

จึงขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขจุดดังกล่าว รวมทั้งจัดทำเครื่องกั้นให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากเกรงว่าหากมีการขยายเส้นทางรถไฟใหม่เป็นแบบรางคู่แล้วเส้นทางรถไฟที่มีลักษณะเป็นเนินสูงจะยิ่งเป็นมุมอับบดบังสายตาของผู้ใช้รถใช้ถนน และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ซ้ำรอยขึ้นอีก

นอกจากนั้น ยังขอให้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนเวลารถไฟวิ่งผ่านด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 11:29 am    Post subject: Reply with quote

คลิปนาทีรถไฟชนบัสสายบุญ ปภ.สรุปดับ20เจ็บกว่า30
อาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 11.17 น.




ปภ.สรุปเหตุโศกนาฏกรรมรถไฟชนบัสสายบุญทอดกฐิน เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บกว่า 30 ราย พบที่เกิดเหตุมีสัญญาณเตือน แต่ไม่มีเครื่องกั้น

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัส บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมือง ฉะเชิงเทรา จากการตรวจสอบพบเป็นรถบัสสายบุญทอดกฐิน เดินทางจาก จ.สมุทรปราการ จะไปวัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รายงานสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้ 




1. วันที่ 11 ตุลาคม 2563  เวลา 08.05 น. เกิดเหตุรถไฟชนรถบัส บริเวณสถานีรถไฟแขวงกลั่น ม. 7 ตำบลบางเตย อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

2. รถไฟบรรทุกสินค้า (บรรทุกตู้คอนเทเนอร์) ที่ 852  เดินระหว่างสถานีแหลมฉบัง-สถานีหัวตะเข้ ได้ชนกับรถบัสโดยสาร หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา นำผู้โดยสาร จำนวนประมาณ 60 คน ไปทอดกฐินวัดบางปลานัก เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุบริเวณเป็นทางผ่าน มีสัญญาณเตือน แต่ไม่มีเครื่องกั้น รถบัสขวางในทาง

3.นายไมตรี ไตรติลนันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าอำนวยการสั่งการในพื้นที่ และสั่งการให้นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ตำรวจ สนง.ปภ.จ.ฉะเชิงเทรา องค์การบริหารส่วนตำบลบางเตย หน่วยพยาบาล และหน่วยกู้ภัยเข้าดำเนิการช่วยเหลือ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 20 ราย และผู้บาดเจ็บประมาณ 30 กว่ารายนำส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร บ้านโพธิ์ คลองเขื่อน และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


4. เบื้องต้น สนง.ปภ.จ.ฉะชิงเทรา ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา การรถไฟฉะเชิงเทรา บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิประกันภัย ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และหากมีรายละเอียดเพิ่มเติม จักรายงานให้ทราบในลำดับต่อไป.

เปิดคลิปเหตุสลด รถไฟชนรถบัส เผยจุดเกิดเหตุไม่มีไม้กั้น ไร้สัญญาณเตือน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 12:28



เพจ “ที่นี้แปดริ้ว” เผนคลิปเหตุการณ์สลดใน จ.ฉะเชิงเทรา รถไฟชนรถบัส เผยจุดเกิดเหตุเป็นสถานีร้าง ไม่มีไม้กั้น ไม่มีสัญญาณเตือน

จากเหตุการณ์สุดสลดใน จ.ฉะเชิงเทรา อุบัติเหตุรถบัสชนกับรถไฟ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 ราย และเสียชีวิต 17 คน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันนี้ (11 ต.ค.)

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเพจ “ที่นี้แปดริ้ว” ได้ออกมาโพสต์คลิปความยาวกว่า 1 นาที ที่สามารถบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ เผยให้เห็นวินาทีที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น เมื่อจุดข้ามทางรถไฟไม่มีไม้กันและไม่มีสัญญาณเตือนว่ากำลังมีรถไฟผ่าน ทำให้รถบัสขับข้ามโดยไม่ทันได้สังเกต จากนั้นรถไฟได้พุ่งเข้าชนกับรถบัสอย่างเต็มแรงส่งผลให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นขบวนรถไฟวิ่งสวนกันบริเวณสถานที่ดังกล่าวซึ่งเป็นสถานีร้าง แต่ยังถูกใช้งานเป็นจุดหยุดรถชั่วคราว โดยคนขับรถบัสคันเกิดเหตุได้หยุดรถให้ขบวนรถไฟที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปฉะเชิงเทราผ่านไปก่อน แต่มองไม่เห็นขบวนรถไฟที่เดินทางมาจากสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา มุ่งหน้าลาดกระบังบนรางที่ 3 ซึ่งเป็นจุดอับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุสลดขึ้น

สำนักข่าวไทย
เผยแพร่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา 12:16
เปิดคลิปวงจรปิด นาทีระทึก! #รถไฟชนรถบัส #กฐิน บริเวณสถานีรถไฟสถานีคลองแขวงกลั่น อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่งผลมีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย รวมคนขับ บาดเจ็บ 29 ราย ส่วนอีก 14 รายบาดเจ็บเล็กน้อย
https://www.facebook.com/watch/?v=466246860945553
https://www.facebook.com/watch/?v=723005681900545
https://www.youtube.com/watch?v=k-ADzw_6vX8
https://www.youtube.com/watch?v=Hap4STo4VgE
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 2:08 pm    Post subject: Reply with quote

ทางลักผ่าน! จุดชนสนั่นรถไฟ-บัสกฐิน “ผู้ว่าฯ รฟท.” รุดตรวจสอบ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: อาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลา 15:10


ผู้ว่าฯ รฟท.-กรมรางลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุรถไฟชนรถบัสกฐินที่ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นทางลักผ่านไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีเครื่องกั้น กำชับดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่

จากกรณีเกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง (ไอซีดี) วันนี้ (11 ต.ค. 2563) เวลา 08.05 น. ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ถึง สทล.51/1 บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางผ่านที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้าย และสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ ได้มีรถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา
เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 44 ราย (กลับบ้านแล้ว 31 ราย) โดยรักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร 22 ราย (ออกจาก รพ.พุทธโสธรแล้ว 9 ราย) รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย รพ.คลองเขื่อน 6 ราย และ รพ.บ้านโพ 9 ราย (ออกจาก รพ.แล้วทั้งหมด)

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมผู้บริหาร รฟท.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึง นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และตรวจสอบการเกิดเหตุดังกล่าว

นอกจากนี้ยังได้สั่งการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟท. ด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ในการประสานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ และทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย และโรงพยาบาลต่างๆ โดยกำชับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทุกฝ่ายให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 2:59 pm    Post subject: Reply with quote

ทำใจไม่ได้! รับศพรถไฟชนรถบัส เศร้าเพิ่งได้งานใหม่แค่2เดือน
เด่นออนไลน์
12 ตุลาคม 2563 เวลา 11:16 น.

จากกรณี รถไฟชนรถบัส คณะทำบุญทอดกฐิน โดยเบื้องต้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย เหตุเกิดใกล้สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ถนนอังรีดูนังต์ แขวงและเขตปทุมวัน กทม. นายอนิรุช แสงศรี อายุ 45 ปี น้าชายพร้อมด้วยนายดนุสรณ์ คำมูลนา อายุ 24 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต และครอบครัว ร่วมกันเดินทางมายื่นเรื่องขอรับศพ น.ส.รจนา คำมูลนา อายุ 44 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ศพจากเหตุการณ์สลดที่ทางเจ้าหน้าที่ส่งตัวมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลภายในสถานที่ดังกล่าว

นายอนิรุช กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียหลานสาวอย่างกะทันหัน โดยล่าสุดได้คุยกันก่อนวันเกิดเหตุเพียงแค่ 1 วัน และไม่คิดว่าจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ ซึ่งจากการเห็นสภาพศพก็ยิ่งทำใจไม่ได้เพราะร่างขาดออกจากกัน ซึ่งหลังจากนี้ตนจะเป็นตัวแทนครอบครัวเพื่อดำเนินการเรื่องค่าชดเชยจากประกันภัย อีกทั้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเล็งเห็นว่า ทางการรถไฟควรออกมารับผิดชอบเช่นกันเพราะขนาดทางที่เป็นซอยเล็กๆ ยังมีไม้กั้นทาง และมีเจ้าหน้าที่ออกมาให้สัญญาณเตือนภัย ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่และควรได้รับการแก้ไข แต่ตนจะไม่ดำเนินการเรื่องเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง นอกจากนี้ตนคิดเห็นว่าทางโชเฟอร์รถบัสก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกันที่ไม่ระมัดระวัง และยังมีการเปิดเพลงส่งเสียงดังจนไม่ได้ยินเสียงเตือนจากรถไฟแต่คนขับก็เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน

ญาติเหยื่อ รถไฟชนรถบัส



นายอนิรุช กล่าวต่อว่า ตนเพิ่งทราบข้อมูลว่าหลานสาวทำงานที่โรงงานดังกล่าวใน จ.สมุทรปราการ ได้ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น หลังจากถูกเลิกจ้างจากเจ้านายเก่าที่ต้องย้ายถิ่นไปทำงานในต่างประเทศ ก่อนไปสมัครงานเพื่อไม่ให้ว่างงานจนมีกลุ่มเพื่อนๆชวนไปร่วมทำบุญจนเกิดเหตุสลด โดยไม่ได้สั่งเสียหรือมีลางสังหรณ์ใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งตนมาทราบข่าวร้ายในช่วงเย็นของวันเกิดเหตุดังกล่าว

ด้านนายดนุสรณ์ เปิดเผยว่า โดยปกติตนพักอาศัยและทำงานอยู่ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งแยกย้ายกันทำมาหากินกับทางมารดามานานแล้ว ซึ่งติดต่อคุยกันครั้งล่าสุดเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ จนกระทั่งมาทราบข่าวร้ายโดยไม่มีลางสังหรณ์หรือลางบอกเหตุใดๆทั้งสิ้น ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์สลดกับคนใกล้ชิดขนาดนี้ก่อนมาแน่ชัดเมื่อเหตุภาพสลด

“ทั้งนี้หากแม่รับรู้ตนอยากบอก ขอโทษที่เคยดุเคยบ่น และทำตัวเป็นลูกที่ไม่ดี หากขออะไรได้อยากให้แม่กลับมา ผมพร้อมจะเป็นลูกที่ดี” นายดนุสรณ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 3:13 pm    Post subject: Reply with quote

ตร.จ่อไม่ดำเนินคดีคนขับรถไฟ ระบุมี กม.พิเศษคุ้มครอง ชี้ใช้ความระมัดระวังแล้ว

สยามรัฐออนไลน์
12 ตุลาคม 2563 14:48 น.


ตำรวจจ่อไม่ดำเนินคดีคนขับรถไฟ ระบุ รฟท.มีกฎหมายพิเศษคุ้มครอง และได้ใช้ความระมัดระวังแล้ว ชี้ทัศนวิสัยไม่ดีร่วมกับความประมาทของคนขับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตขยับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย รวม 19 ราย เผยรถบัสขนคนมาเกินพิกัดถึง 70 คน จากเงื่อนไขอนุญาต 42 คน พร้อมเตรียมงัด พ.ร.บ.ขนส่งเล่นงานผู้เป็นเจ้าของบัสกฐินมรณะ

วันที่ 12 ต.ค.63 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุม 2 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าพุ่งชนรถบัสของคณะกองผ้าป่าที่กำลังจะเดินทางไปร่วมทำบุญในงานถวายผ้ากฐินยังที่วัดบางปลานัก ในเขตพื้นที่ ม.10 ต.บางเตย แต่ได้มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ในพื้นที่ ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะถึงยังที่หมายเพียงประมาณ 4 กม. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย และบาดเจ็บ 40 รายว่า

เหตุการณ์ดังกล่าวในวันเกิดเหตุมีทัศนวิสัยไม่ดีเนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จึงทำให้ ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำได้เพียงระยะ 300 เมตรเท่านั้น อีกทั้งคนขับรถบัสยังไม่คุ้นเคยเส้นทาง โดยเฉพาะจุดตัดข้ามทางรถไฟ และภายในรถยังมีการเปิดเพลงเสียงดัง และมีผู้โดยสารเต้นรำกันมา จึงอาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงหวูดเตือนจากรถไฟ ประกอบกับที่เกิดเหตุไม่มีเครื่องกั้นรถไฟ แต่มีป้ายเตือนและสัญญาณไฟชัดเจน


นอกจากนี้จุดเกิดเหตุยังมีลักษณะเป็นทางลาดชัน ผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วเพื่อให้ผ่านพ้นจุดดังกล่าว โดยที่ภายในรถบัสยังมีผู้โดยสารเกินกว่าจำนวนที่ได้รับอนุญาต คือ 42 คน แต่ในวันเกิดเหตุมีผู้โดยสารมาทั้งหมด 70 คน ซึ่งมากกว่าปกติ จึงเร่งเครื่องยนต์ขึ้นเนินได้ช้ากว่าปกติ โดยที่ขบวนรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วจึงส่งผลทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะกระชั้นชิดได้ทัน

สำหรับขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าเที่ยวนี้มีความยาว 439 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 2,000 ตัน ซึ่งต้องใช้ระยะเบรกหยุดรถมากถึง 600 เมตรตามปกติ จึงจะสามารถหยุดรถได้ โดยที่คนขับนั้นได้มีการเปิดหวีด หรือหวูด พร้อมเปิดไฟให้สัญญาณเตือนแล้วในระยะที่มองเห็นประมาณ 300 เมตร จึงมีการเตือนผู้ข้ามทางแล้ว จึงถือว่าได้ใช้ความระมัดระวังในจุดที่เพียงพอ

อุบัติเหตุในครั้งนี้จึงไม่ได้เกิดขึ้นจากความประมาทของ พขร.รถไฟ แต่เป็นความประมาทของคนขับรถบัสที่ใช้ความระวัดระวังไม่เพียงพอ นอกจากนี้รถไฟยังมีกฎหมายพิเศษ ที่ผู้ข้ามทางจะต้องใช้ความระมัดระวังเอง เมื่อเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้วจึงจะข้ามได้ และทางข้ามดังกล่าวยังเป็นทางลักข้ามที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยเป็นเพียงทางข้ามที่ท้องถิ่นและชาวบ้านใช้ตัดผ่านข้ามกันเองในหมู่บ้าน ซึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีทางข้ามลักษณะดังกล่าวจำนวน 16 จุด


ขณะนี้ทาง นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีคำสั่งการให้ อปท. ในพื้นที่ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล และ เทศบาล ที่มีเส้นทางตัดข้ามทางรถไฟ ดำเนินการจัดหางบประมาณในสร้างเครื่องกั้นทางรถไฟแบบอัตโนมัติ จุดละประมาณ 3.5 ล้านบาทไปก่อนทั้ง 16 จุด เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

และจะประสานขออนุญาตไปยังทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อให้เป็นทางผ่านที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป โดยจะถือโอกาสนี้ใช้เป็นตัวอย่างให้แก่จังหวัดอื่นๆ ในการหาหนทางแก้ไขและป้องกันปัญหาในลักษณะนี้ เช่นเดียวกัน

ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าของรถบัส ที่มีการปล่อยละเลยให้มีการบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนกว่าพิกัดบรรทุก หรือบรรทุกคนเกินจำนวนนั้น จะได้ให้ทางสำนักงานขนส่งมาแจ้งความร้องทุก เพื่อดำเนินคดีต่อทางเจ้าของรถต่อไป และจากการตรวจสอบการทำประกันภัยของรถบัสหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา แล้วนั้น พบว่ามีการทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย

ซึ่งมีวงเงินทุนประกันภัยในการชดเชยค่าเสียหายกรณีเสียชีวิตไม่เกิน 5 แสนบาทต่อคน และไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง นอกจากนี้ยังมีการทำประกันภัยในภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับทางบริษัทสินมั่นคงประกันภัย มีวงเงินความคุ้มครองการเสียชีวิต 5 แสนบาทต่อคน และไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้งเช่นกัน ซึ่งรวมถึงค่ารักษาพยาบาลรายบุคคลที่มีวงเงิน 5 หมื่นบาทเท่ากันทั้ง 2 ประเภท

โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุใหญ่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หากเกินกว่าวงเงินเอาประกันภัยจะต้องเฉลี่ยกันไปในแต่ละราย ส่วนจำนวนยอดของผู้เสียชีวิตล่าสุดในขณะนี้ มีจำนวน 19 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานในที่เกิดเหตุ 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุด ทางญาติได้ส่งตัวไปทำการรักษายังที่ รพ.จุฬาฯ ในกรุงเทพ เมื่อคืนที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงเมื่อเวลา 23.40 น.

ขณะที่ รพ.พุทธโสธร ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนพักรักษาตัวอีกจำนวน 2 ราย อาการปานกลาง 9 ราย จากที่ถูกส่งตัวเข้ามารักษาทั้งหมด 17 ราย ส่วนที่เหลือกลับบ้านได้แล้ว และที่ รพ.บ้านโพธิ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งไปรักษาตัว 10 ราย แพทย์ให้นอนพักรักษาตัว 2 ราย ส่งต่อมายัง รพ.พุทธโสธร 1 ราย ที่เหลือแพทย์ให้กลับบ้านได้

ขณะที่ รพ.คลองเขื่อน มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งไปจำนวน 6 ราย รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วทั้งหมด สรุปยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นในวันนี้ จึงมีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บ 39 ราย และสำหรับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้สามารถตรวจพิสูจน์ทราบได้แล้วทั้ง 18 ราย แต่ยังมีชิ้นส่วนท่อนร่างอีก 1 ชิ้นที่ยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร จึงได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช ตำรวจ แล้ว พล.ต.ต.ชาคริต กล่าว
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4538946222844732&id=100001881965533
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 6:11 pm    Post subject: Reply with quote

PPTV HD 36 was live.
12 ตุลาคม 2563 เวลา 15:09
สด!! กระทรวงคมนาคมแถลงกรณีรถไฟชนรถบัสคณะกฐิน​ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย​ หลังประชุมวางมาตรการป้องกันเกิดเหตุสลดซ้ำ
#PPTVHD36​ #PPTVNews #ช่อง36​ #รถไฟชนรถบัส​ #ไม้กั้นทางรถไฟ​ #คมนาคม
https://www.facebook.com/PPTVHD36/videos/337022970857030/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/10/2020 8:13 pm    Post subject: Reply with quote

สัญญาณไฟกระพริบเสียเหตุรถไฟชนรถทัวร์ คมนาคม สั่งติดเครื่องกั้นอัตโนมัติ
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 12 ตุลาคม 2563 - 19:30 น.

สัญญาณไฟเสียทำเกิดเหตุสลด “คมนาคม” ล้อมคอกสั่ง “รถไฟ” สำรวจพื้นที่-ความเสียหาย 7 วัน ก่อนสั่งติดเครื่องกั้นอัตโนมัติ วงเงิน 4-5 ล้านบาท อุบไทม์ไลน์ขอหารือก่อน ด้าน “กรมราง” ชงงบกองทุน กปถ. 29.5 ล้าน ศึกษาจุดตัดรถไฟทั่วประเทศ 2,684 จุด เน้น 35 จุดเกิดเหตุถี่ อีก 2 ปีได้รูปแบบชัดเจน

เมื่อเวลา 15.00 วันที่ 12 ต.ค. 2563 ที่กระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง เปิดเผยว่า กรณีอุบัติเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์จากสถานีแหลมฉบัง – สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบัง ชนกับรถบัสโดยสารเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ณ บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวนกลั่น อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา

“รถไฟ” ดูแลทั้งเจ็บ-ตาย
ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย แบ่งเป็นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 18 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย , มีผู้บาดเจ็บรวม 44 ราย กลับบ้านได้แล้ว 31 ราย ที่เหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งการรักษาพยาบาลสำหรับผู้บาดเจ็บและค่าทำศพสำหรับญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด และได้ก่อตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเฉพาะกิจในรูปแบบ One Stop Service ตลอด 24 ชม.แล้ว โดยสามารถติดต่อประสานงานได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-272-5068 ตลอด 24 ชม.

ส่วนการตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบว่าในส่วนของรถไฟ หัวรถจักรได้รับความเสียหายกระจกแตกร้าว ด้านข้างรถมีรอย และตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ได้รับความเสียหาย 5 ตู้แบ่งเป็น ฉีกขาด 1 ตู้ และบุบอีก 4 ตู้

โดยร.ฟ.ท.ยังไม่มีความประสงค์จะแจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด ตอนนี้ขอช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก่อน ส่วนรถบัสเบื้องต้นพบว่าภาษีทะเบียนสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างทำเรื่องโอนรถ


ไฟเสียเป็นเหตุ-สั่งล้อมคอก
“ช่วงเช้าได้ประชุมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแล้ว ทาง ร.ฟ.ท.จะเร่งปรับปรุงสัญญาณไฟเตือนและป้ายเตือนก่อน เนื่องจากมีรายงานว่าไฟเตือนแบบกะพริบในบริเวณดังกล่าวชำรุด อาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่ทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดตัดทางรถไฟ โดย ร.ฟ.ท.ขอเวลา 7 วันในสำรวจความเสียหายและดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน สัญญาไฟกะพริบให้ครบถ้วน “

ส่วนการติดตั้งเครื่องกั้นทางรถไฟ เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นจุดลักผ่านที่ทำขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาตจากร.ฟ.ท. เป็นการทำกันเองของหน่วยงานส่วนท้องถิ่น แต่เพื่อแก้ไขปัญหาก็จะให้ ร.ฟ.ท. จัดทำเครื่องกั้นแบบอัตโนมัติขึ้น โดยต้องเสนอผ่าน “คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอนุญาตและแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนระดับจังหวัด” มีผู้ว่าราชการหรือรองผู้ว่าราชการที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน

เทงบ 4-5 ล้านแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
จากนั้น เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจึงจะเสนอ “คณะกรรมการร่วมพิจารณาการขออนุญาตและการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน“ ที่มีตนเองเป็นประธานพิจารณา โดยคาดการณ์วงเงินที่จะดำเนินการประมาณ 4-5 ล้านบาท

ซึ่งงบประมาณจะเบิกใช้จากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นผู้ดูแล คาดว่าจะเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างวางกรอบเวลากัน

สั่งตรวจสอบจุดตัดทั่วประเทศ
ส่วนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมแล้ว ให้ ร.ฟ.ท.สำรวจตรวจสอบจุดตัดรถไฟทั่วประเทศ 2,684 จุด ทั้งแบบที่เคยอนุญาตไปแล้ว และที่ยังไม่ได้รับอนุญาต

โดยแบบที่อนุญาตแล้วให้สำรวจว่ามีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนจุดที่ยังไม่ได้ขออนุญาต ให้สำรวจว่าจุดใดจำเป็นต้องทำเครื่องกั้นหรือติดป้ายไฟ สัญญาณไฟ หรือจุดใดไม่จำเป็นต้องปิดทางก็ให้สำรวจรวบรวมมา โดยให้ร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.)

เร่งแก้ 35 จุดเกิดเหตุบ่อย
อย่างไรก็ตาม ในระยะเร่งด่วนจะต้องแก้ไขจุดตัดรถไฟที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนก่อน โดยจากการสำรวจมีทั้งสิ้น 35 จุด (รวมจุดที่เกิดอุบัติแล้ว) มีการติดตั้งเครื่องกั้นแล้ว 9 จุด เป็นทางลักผ่าน 9 จุด

ส่วนที่เหลือยังรอข้อมูลที่ชัดเจนจาก ร.ฟ.ท. ซึ่งกรมการขนส่งทางราง จะทำการศึกษาออกแบบและจัดทำฐานข้อมูล (Data Base) เพื่อแก้ปัญหานี้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษา 2 ปี วงเงิน 29.5 ล้านบาท

โดยแหล่งเงินทุนมาจากกองทุน กปถ. ความคืบหน้าอยู่ระหว่างการหาตัวผู้รับจ้าง คาดว่าจะศึกษาเสร็จภายในต้นปี 2565 ซึ่งสิ่งที่จะได้จากการศึกษาจะได้แบบก่อสร้างของทั้ง 35 จุดเลยว่า ควรก่อสร้างเป็นอะไร เช่น สะพานข้าม, อุโมงค์ หรือถนนชุมชนเลียบทางรถไฟ (Local Road)
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5  Next
Page 2 of 5

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©