RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181506
ทั้งหมด:13492744
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ส่วนต่อขยายบีทีเอสที่ กทม. จะทำ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ส่วนต่อขยายบีทีเอสที่ กทม. จะทำ
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 17, 18, 19 ... 103, 104, 105  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2007 12:43 pm    Post subject: Reply with quote

16 มี.ค.ถนนสุขุมวิทเป็นคอขวด รถติดอ่วม ปิดถนนอีก 4 จุด สร้างรถไฟฟ้าไปแบริ่ง
Dailynews - March 9, 2007

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่สำนักการจราจรและขนส่ง ( สจส.) นายจิม พันธุมโกมล ผอ.สจส. เป็นประธานประชุมประสานการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ( กทม.) ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 อ่อนนุช - สุขุมวิท 107 ( ซอยแบริ่ง ) ร่วมกับ พ.ต.ท.สุพล นาคสุข รอง ผกก.จร.สน. พระโขนง พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ กิตติรัฐกรณ์ สว.จร.สน.พระโขนง พ.ต.ท.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน สว.จร.สน.บางนา พ.ต.ท.ชินกรณ์ ใจกล้า ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นายถนอมศักดิ์ เกียรติชนะบำรุง ผู้จัดการโครงการฯ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล็อป เมนท์ จำกัด ( มหาชน ) และ ผู้แทนบริษัทที่ปรึกษาคุมการก่อสร้าง เอ็มเอเอ - พีบี ที่ประชุมได้พิจารณาแผนการปิดช่องจราจรเพิ่มอีก 4 จุดในวันที่ 16 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป โดย 3 จุดแรก จะปิดชิดเกาะกลางฝั่งละ 1 ช่องเพื่อก่อสร้างทางวิ่งและสถานี

จุดที่ 1 คือช่วงถนนสุขุมวิท 62-หน้าธนาคารกสิกรไทย
จุดที่ 2 ช่วงถนนสุขุมวิท 101/1-101/3 และ
จุดที่ 3 บริเวณหน้ากรมอุตุนิยมวิทยา

ส่วนจุดที่ 4 จะปิดช่องจราจร 1 ช่องในขาออก ช่วงสุขุมวิท 104 - 64 เพื่อวางท่อรื้อย้ายสายไฟ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้คาดการณ์ว่า จะส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวมีสภาพวิกฤติ เป็นเส้นทางคอขวดระยะทางยาว เนื่องจากการไปเชื่อมต่อจุดก่อสร้างเดิมที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จก่อนหน้านี้ 4 จุด คือ สุขุมวิท 85 - 93 สุขุมวิท 95 / 1 - 62 สุขุมวิท 64 - 101 และสุขุมวิท 101 / 3 - 103
พ.ต.ท.สุพล กล่าวว่า มีความเป็นกังวลในช่วงสุขุมวิท 101 - 64 เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นจุดกลับรถ ซึ่งอาจจะต้องถูกยกเลิก ทั้งนี้ ตนต้องการให้ดำเนินการในเวลากลางคืน โดยในเวลากลางวัน นำแผ่นเหล็กมาวางทดแทนเป็นทางวิ่ง เพื่อใช้เป็นเส้นทางกลับรถ และรองรับหากเกิดมีรถเสียเป็นต้น ซึ่งปัญหาจะต้องปรับแก้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ปัจจุบันการจราจรใน ถนนสุขุมวิทก็สาหัสอยู่แล้ว

ด้านนายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทอิตาเลียนไทยฯ จะทำการประชาสัมพันธ์เพื่อหลีกเลี่ยงบริเวณก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเดือน ก.พ. นี้ สะพานข้ามทางแยกศิครินทร์ จะแล้วเสร็จ และเดือน เม.ย. นี้ มีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกศรีเทพา ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงจะแล้วเสร็จ ส่วนความคืบหน้าโครงการฯ ขณะนี้ ภาพรวมอยู่ที่ 10.81% ล่าช้ากว่าแผนที่ได้ตั้งไว้ 12.51% โครงการดังกล่าวพร้อมจะเปิดให้ประชาชนประมาณกลางปี 2552. ( มีหวัง 12 สิงหา 2552 เป็นแน่แท้ )
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 13/03/2007 6:50 pm    Post subject: Reply with quote

BTS คาดสิ้น มี.ค.- ต้นเม.ย. ออกจากแผนฟื้นฟูฯ ถ้าไม่ทันเลื่อนไป Q3

Nation Hot News 16:24 น. 13 March 2007

บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( BTS ) คาดจะออกจากแผนฟื้นูกิจการได้ในสิ้นเดือน มี.ค. หรือต้น เม.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมภายใน มิ.ย. ตามที่ยื่นต่อศาลล้มละลายกลาง ทั้งนี้ เพื่อจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 2 ปี 2550 ระบุใกล้ได้ข้อตกลงกับผู้ร่วมทุนใหม่และการกู้เงินจากสถาบันการเงินรวม 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะต้องคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามแผนแล้ว

" เราตั้งเป้าสิ้นมีนาคมนี้ ออกจากแผนฟื้นฟูได้ กำลังเจรจาพันธมิตรใหม่ ซึ่งเราต้องการเงิน 600 ล้านเหรียญหรือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะกู้เท่าไรก็ขึ้นกับว่าคุยกับพันธมิตร เราอยากกู้ให้น้อยที่สุด ตอนนี้ก็เจรจาคู่ขนานกันไปทั้งพันธมิตรใหม่ และสถาบันการเงิน " นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ BTS กล่าว

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ BTS โดยตามแผนฟื้นฟูฯ ยังกำหนดว่า บริษัทจะต้องหาเงินทุนราว 1.2 หมื่นล้านบาท จากพันธมิตรรายใหม่ที่จะเข้ามาร่วมทุน

อย่างไรก็ตาม หากบริษัทไม่สามารถออกจากแผนฟื้นฟูตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้ การเข้าตลาดหุ้น ก็คงต้องเลื่อนออกไปในไตรมาส 3 ปี 2550 แต่ก็ยังไม่กระทบแผนการดำเนินงานของบริษัท ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นก็ยังไม่เอื้อ

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การเปิดประมูลผู้เดินรถในส่วนต่อขยายด้านถนนสะพานตากสิน 2.2 กม. คาดว่าในเดือน พ.ค.นี้ ทาง กทม.จะเปิดประมูล หรืออาจจะเรียก BTS เข้าไปเจรจา

ส่วนการดำเนินซื้อรถไฟฟ้า และระบบอาณัติสัญญาณ BTS ได้คัดเลือกใช้ระบบอาณัติสัญญาณของบริษัท บอมบาดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกเนล ( ประเทศไทย ) จากแคนาดา วงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าที่ขออนุมัติจากศาลล้มละลายกลาง

ขณะที่การซื้อตัวรถไฟฟ้า 12 ขบวน วงเงิน 90 ล้านเหรียญสหรัฐ กำลังเจรจากับผู้ผลิต 2 ราย คือ ซีเมนส์ และ กลุ่มมิตซุย ที่มีบริษัท ฉางชุน ผู้ผลิตรถไฟฟ้าในจีน ( CNR Changchun Locomotive & Rolling Stock Co., Ltd ) เข้าร่วมด้วย Shocked

นี่ครับ รถไฟฟ้าใต้ดินนครเซี่ยงไฮ้ ที่ทางโรงงาน CNR Changchun Locomotive & Rolling Stock Co., Ltd ประกอบให้

Click on the image for full size

// --------------------------------------------------------------------------------------------------

เสนอใช้วิธีพิเศษระบบสัญญาณรถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯ

Dailynews 13 March 2007

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ( กทม.) เปิดเผยว่า วันที่ 13 มี.ค. นี้ ตนจะเสนอร่างการจัดซื้อ ( ทีโออาร์ ) ด้วยวิธีพิเศษ ระบบอาณัติสัญญาณ โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลม จาก สะพานตากสิน - แยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. มูลค่า 1,290 ล้านบาท ให้ที่ประชุมผู้บริหารพิจารณาเพื่อขอความเห็นชอบ เชิญเอกชนมาวางระบบวางเป้าหมาย เริ่มงานอย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 5 เม.ย. นี้

โดยเอกชนต้องสามารถวางระบบอย่างดีที่สุด เพื่อเชื่อมโยงกับระบบที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) จะปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณในโครงการส่วนแรก ระยะทาง 23.5 กม. วงเงิน 3,000 ล้านบาท จากที่เคยติดตั้งระบบที่ตัวราง Fixed Block มาเป็นติดตั้งระบบที่ตัวรถ Moving Block โดยใช้เทคโนโลยี Communication Based Train Control หรือ ( CBTC ) ซึ่งเป็นระบบวิทยุสื่อสาร เรดิโอเบส ส่งผลให้ระบบเปิดกว้าง ไม่มีการล็อกสเปกให้รายหนึ่งรายใด

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องใช้วิธีพิเศษ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการ อีกทั้งเป็นโครงการที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญโดยเฉพาะส่วนว่า จะเลือกรายใด จะมอบให้คณะกรรมการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา ( ทีโออาร์ ) ที่มี นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม. เป็นประธานพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ คณะกรรมการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา ( ทีโออาร์ ) ที่มีนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม.เป็นประธาน จะสรุป ทีโออาร์ แล้วเสร็จในวันที่ 14 มี.ค. นี้ และมีความเป็นไปได้ว่า กทม. จะเชิญบริษัท บอมบาดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล ( ประเทศไทย ) จำกัด จากประเทศแคนาดา มาวางระบบ เนื่องจากเป็นเอกชนรายเดียวกับ บริษัท บีทีเอสซี เพราะหากเป็นเอกชนรายอื่น จะส่งผลให้ กทม. ต้องเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 200 - 300 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบเชื่อมโยงที่บริเวณรถไฟฟ้าของ บริษัท บีทีเอส ซี จากเดิมที่ กทม. ตั้งงบไว้ 1,290 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะวางระบบอาณัติสัญญาณให้แล้วเสร็จเดือน พ.ย. นี้และเปิดให้บริการประชาชนภายในต้นปี 2551.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2007 9:51 am    Post subject: Reply with quote

เลิกตั๋วแม่เหล็ก-ใช้สัมผัส ตั๋วบีทีเอสใหม่สมาร์ท พาสเริ่ม 1 เม.ย.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
วันที่ : 27 มี.ค. 2550
เวลา : 04:06 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการบริษัทบีทีเอส เปิดเผยว่า เวลา 17.00 น. วันที่ 28 เม.ย. นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร จะแถลงข่าวเปิดตัวบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสแบบใหม่ ประเภทสมาร์ทพาส ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป ที่ห้างสยามเซ็นเตอร์ โดยบริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้ผู้โดยสาร คือ

1. ตั๋วสมาร์ทพาสประเภท 30 วัน ที่ซื้อใหม่ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 31 พ.ค. 2550 จะแถมฟรีการเดินทางอีก 2 เที่ยว ซึ่งตั๋วดังกล่าวจำหน่าย 4 แบบ ได้แก่

ตั๋วนักเรียน 30 เที่ยว จำหน่ายราคา 450 บาท
ตั๋วนักเรียน 20 เที่ยว จำหน่ายราคา 340 บาท
ตั๋วผู้ใหญ่ 30 เที่ยว จำหน่ายราคา 600 บาท
ตั๋วผู้ใหญ่ 20 เที่ยว จำหน่ายราคา 440 บาท
และเมื่อใช้จนหมดมูลค่า สามารถนำกลับไปเติมเงินเพื่อนำมาใช้ซ้ำได้ แต่จะต้องเติมตามโปรโมชั่นที่ซื้อครั้งแรก

2. ตั๋วสกายสมาร์ทพาส ที่ซื้อใหม่ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 31 ต.ค. 2550 จะให้ส่วนลดการเดินทางตามระยะทาง 2 - 4 บาท เช่น

เดินทาง 2 - 3 สถานี ลด 2 บาท
เดินทาง 10 สถานีขึ้นไป ลด 4 บาท เป็นต้น
โดยตั๋วดังกล่าวจะจำหน่ายในราคา 100 - 2,000 บาท ผู้โดยสารสามารถนำตั๋วกลับไปเติมมูลค่าได้ตามวงเงินที่ต้องการ

นายสุรพงษ์กล่าวว่า การเริ่มจำหน่ายตั๋วแบบ สมาร์ทพาส ซึ่งเป็นตั๋วระบบสัมผัสจะเริ่มทำให้ตั๋วสมาร์ทพาสอยู่ในมือผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าในเดือน มิ.ย. 2550 สัดส่วนตั๋วสมาร์ทพาสจะมากกว่าตั๋วแถบแม่เหล็ก เนื่องจากบริษัทมีแผนจะยกเลิกตั๋วแถบแม่เหล็กประเภท 30 วัน ในเดือน พ.ค. 2550 แต่จะยังคงจำหน่ายตั๋วแถบแม่เหล็กเฉพาะ 2 ประเภท คือ ตั๋วเที่ยวเดียว และ ตั๋ว 1 วันเดินทางไม่จำกัดเที่ยว เท่านั้น ทั้งนี้ สัดส่วนของตั๋วสมาร์ทพาสที่เพิ่มขึ้นจะช่วยทำให้การเข้าของผู้โดยสารเร็วขึ้น สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากใน 1 นาที จะระบายคนได้มากถึง 45 คน

ทางด้านนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผอ.ขสมก. เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด ขสมก.ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ยุบคณะอนุกรรมการชุดต่างๆที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อพิจารณาปัญหาต่างๆของ ขสมก. โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดใหม่เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับรถโดยสาร มี พล.อ.อธิคม ตันเลิศ ประธานบอร์ด เป็นประธาน เพียงชุดเดียวเท่านั้น โดยกำหนดขอบเขตเรื่องพิจารณาเกี่ยวกับรถโดยสารเฉพาะเรื่องเส้นทาง การปรับปรุงเปลี่ยนใช้ NGV เป็นต้น ทั้งนี้ ความคืบหน้าการออกประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจส่งข้อมูลและเทคโนโลยีเกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนใช้ NGV นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างยกร่างประกาศฉบับดังกล่าว และคาดว่าจะเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ เมื่อเห็นชอบแล้วก็จะประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2007 1:10 pm    Post subject: Reply with quote

‘บอมบาร์ดิเอร์’กินรวบส่วนขยายรถไฟฟ้า กทม.ทุกสาย บีทีเอสทำสัญญาล็อกไว้เลือกรายเดียวกันดีที่สุด

Dailynews 28 March 2007



เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์เรื่องการวางระบบอาณัติสัญญาณโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อเนื่องจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. ว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้สรุปร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) การจัดเอกชนวางระบบอาณัติสัญญาณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลักการจะเป็นระบบ moving block ที่ติดตั้งระบบสัญญาณที่ตัวรถ เหมือนที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ได้เปลี่ยนระบบใหม่ เพื่อให้ระบบสอดคล้องกัน โดยต้องรอสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) สรุปความเห็นมานำเสนอว่าจะเปิดประมูลทั่วไป หรือจ้างวิธีพิเศษ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า กทม. มีข้อจำกัดเรื่องการจัดหาผู้รับเหมาวางระบบสัญญาณดังกล่าว เนื่องจากหาก กทม. เลือกบริษัทผู้วางระบบคนละรายกับที่บีทีเอสเลือกจะทำให้ กทม. ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านเทคนิคเรื่องการเชื่อมต่อระบบเพิ่มขึ้นนับร้อยล้านบาท ที่สำคัญประชาชนจะต้องเสียเวลาในการเดินทางเพราะต้องรอการสับเปลี่ยนระบบการเชื่อมต่อสัญญาณจากระบบของบีทีเอสมาเข้าระบบของ กทม. ราว 1-2 นาที ทั้งนี้เมื่อบีทีเอสซีเปลี่ยนระบบสัญญาณโครงการส่วนแรกจากระบบ fixed block มาเป็น moving block โดยจ้างบริษัทบอมบาร์ดิเอร์ฯ แทนบริษัทซีเมนส์ ไม่ได้หมายความว่า กทม. ต้องเลือกบอมบาร์ดิเอร์ด้วย

นายพนิช กล่าวต่อว่า ปัญหาข้อจำกัดที่เกิดขึ้นเนื่องจากสัญญาสัมปทานโครงการแรกกับบีทีเอสไม่ได้กำหนดให้บีทีเอสต้องขออนุญาต กทม. เรื่องการคัดเลือกระบบอาณัติสัญญาณจะปรับเปลี่ยนเมื่อใดก็เพียงแจ้งมาเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติส่งผลต่อ กทม. เพราะหาก กทม. ใช้ระบบอื่นก็จะมีข้อเสียในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งความไม่สะดวกกับประชาชน เดิม กทม. ถูกล็อกว่าต้องใช้ระบบของซีเมนส์ ตามบีทีเอส ตอนนี้จะถูกเปลี่ยนมาเป็นบอมบาร์ดิเอร์อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม กทม. จะต้องไปเจรจากับบอมบาร์ดิเอร์ และบีทีเอสเพราะการเปลี่ยนระบบส่งผลให้ทั้ง 2 บริษัทได้ผลประโยชน์ก็น่าจะมาร่วมกันหาแนวทางและการจัดกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ เช่น การลดราคาค่าโดยสาร หรือการลดราคาค่าวางระบบ แล้วแต่ผลการเจรจา ทั้งนี้บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่น อาทิ ซีเมนส์ อัลคาเทล (Alcatel) อัลสตอม (Alstom) หรืออย่างอัลซาโด (Alsado) อาจมีข้อเสนอที่ดีกว่าบอมบาร์ดิเอร์ก็ได้ แต่ต้องยอมรับว่าบอมบาร์ดิเอร์ได้เปรียบ เพราะ กทม. มีข้อจำกัดด้านสัญญาไว้

ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า สจส. เตรียมสรุปเสนอผู้บริหารเลือกใช้วิธีพิเศษจ้างบอมบาร์ดิเอร์ เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าว และมีแนวโน้มว่าโครงการส่วนต่อขยายทั้งหมดที่เหลือในอนาคต กทม. จะต้องเลือกบอมบาร์ดิเอร์ฯ เป็นผู้วางระบบทั้งหมดเพราะข้อจำกัดจากสัญญา ต้องเลือกรายเดียวทั้งหมด เพื่อให้เชื่อมสัญญาณกับโครงการส่วนแรกได้ดีที่สุด.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2007 9:18 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอสอัดโปรโมชั่นล่อใจผู้โดยสารที่ใช้บริการแบบเที่ยวเดียว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 มีนาคม 2550 20:47 น.


รถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดตัวบัตร BTS Smart Pass พร้อมเดินเกมอัดโปรโมชั่นใหม่ หวังจูงใจให้ผู้โดยสารใช้บริการแบบเที่ยวเดียวหันมาซื้อบัตร BTS Smart Pass เพิ่มขึ้น



รถไฟฟ้าบีทีเอส


วันนี้ (28 มี.ค.) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำพิธีเปิดตัวบัตร BTS Smart Pass อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเริ่มจำหน่าย 1 เมษายน 2550 เป็นต้นไป

นายอาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบีทีเอส กล่าวว่า บัตรบีทีเอส 30 วัน แบบบุคคลทั่วไป และแบบนักเรียน-นักศึกษา ทั้ง 30 เที่ยว และ 20 เที่ยว และบัตรโดยสารประเภทเติมเงิน ซึ่งจะถูกนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ เป็นต้นไป และเพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารที่เคยใช้บริการของบีทีเอส แบบเที่ยวเดียว หันมาซื้อบัตร BTS Smart Pass เพิ่มขึ้น บีทีเอสจึงได้ให้โปรโมชั่นพิเศษ เพื่อขอบคุณผู้ใช้บริการ

โดยเมื่อผู้โดยสารซื้อบัตร BTS Smart Pass 30 วัน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคมนี้ จะได้รับจำนวนเที่ยวการเดินทางฟรี 2 เที่ยว หรือเมื่อซื้อบัตรดังกล่าว เมื่อเติมเงินผู้โดยสารจะได้รับส่วนลดจากค่าโดยสารปกติ 2-4 บาท/เที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทางของผู้ใช้บัตร โดยจะให้โปรโมชั่นนานถึง 7 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา บีทีเอสนำบัตร BTS Smart Pass มาจำหน่ายไปแล้วจำนวน 50,000 ใบ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 และให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้โดยสารใช้แทนบัตรโดยสารชนิดแถบแม่เหล็ก ปรากฏว่าพึงพอใจและให้การตอบรับดี เนื่องจากผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 29/03/2007 5:42 pm    Post subject: Reply with quote

"อภิรักษ์"เครียดไม่ทันเห็นผลงานรถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯ

Dailynews 29 March 2007


รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประสานไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการพิจารณาตีความกรณี กทม. มีหนังสือสอบถามกฤษฎีกาถึงสถานะของบริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) ซึ่งเดิมคือบริษัทสามัคคีค้าสัตว์ ตั้งขึ้นสมัยที่ กทม. ยังเป็นเทศบาลนครกรุงเทพมี กทม. ถือหุ้นตั้งแต่ที่ยังเป็นเทศบาลอยู่ 99.98% เอกชนถือ 00.02 % ว่าถือเป็นวิสาหกิจมหาชน สามารถดำเนินกิจการตามที่ กทม. ดำเนินการได้ทั้งหมดหรือไม่ นอกจากนี้หากเคทีว่าจ้างเอกชนมาเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. จะต้องนำเข้ากระบวนการ พ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) หรือไม่ หลังจากที่กฤษฎีกาได้เชิญผู้แทนกทม.เข้าชี้แจงเมื่อราว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง กทม. ได้ชี้แจงความเป็นมาของเคทีรวมทั้งแนวทางการดำเนินโครงการส่วนต่อขยายที่ต้องการให้เคทีเป็นผู้บริหารระบบ แต่จะว่าจ้างเอกชนมาเดินรถ ซึ่งค่าเดินรถไฟฟ้าโครงการนี้ตกราว 1,200 ล้านบาท ซึ่งเกิน 1,000 ล้านบาท หากว่าจ้างเอกชนมาเดินรถจะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสอบถามข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการพบว่า กฤษฎีกาเห็นว่า สถานะของเคทีถือเป็นวิสาหกิจของ กทม. สามารถดำเนินกิจการตามภาระหน้าที่ที่ กทม. ดำเนินการได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามกรณีเคทีจะว่าจ้างเอกชนมาเดินรถไฟฟ้า ซึ่งเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนรถไฟฟ้าวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท แม้ว่าจะไม่ใช่การร่วมทุนเพราะ กทม. ว่าจ้างเอกชนมาเดินรถโดยจ่ายผลตอบแทนให้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องค่าโดยสารก็ตาม แต่การที่เคทีที่เป็นวิสาหกิจของรัฐมีสถานะคล้ายรัฐวิสาหกิจและเป็นหน่วยงานรัฐ จึงถือว่ารัฐไป ว่าจ้างเอกชนมาเดินรถ ไม่ใช่การดำเนินการระหว่างเอกชนกับเอกชนที่ไม่ต้องเข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่จะสรุปผลการตีความที่ชัดเจนอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจจะมีความเห็นไปอย่างอื่นก็ได้ เพื่อส่งผลการตีความให้ กทม. ต่อไป ทั้งนี้หลัง กทม. ทราบว่าการตีความอาจจะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วม ทุนฯ ทำให้ผู้บริหารหนักใจอย่างมาก เพราะจะทำให้โครงการที่นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. วางเป้าหมายไว้จะเปิดให้บริการต้นปี 2551 ต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องเข้ากระบวนการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯหลายขั้นตอน เช่น ต้องนำโครงการเสนอความเห็นชอบไปที่สภา พัฒน์ฯ ต้องจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ต้องเสนอ ครม. รวมทั้งต้องตั้งคณะกรรมการร่วมทุนฯ ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ปี ยังไม่นับรวมเวลาที่ กทม.ต้องใช้ในการหาเอกชนมาวางระบบอาณัติสัญญาณและการทดลองวิ่งรถอีก ซึ่งอาจจะไม่ทันก่อนที่นายอภิรักษ์จะหมด วาระก็ได้.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 30/03/2007 5:15 pm    Post subject: Reply with quote

"คีรี"ชี้บรรยากาศการลงทุนแย่

โดย ผู้จัดการรายวัน 29 มีนาคม 2550 18:29 น.


ผู้จัดการรายวัน - บีทีเอสชะลอดึงพันธมิตรเข้ามาซื้อหุ้น จนกว่าบรรยากาศการลงทุนของไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะเสถียรภาพการเมือง ยันการดึงนักลงทุนรายใหม่ไม่มีปัญหาแน่ โดยจะเปิดช่องให้ถือหุ้นบีทีเอสได้ 80% ส่วนแผนนำบริษัทฯออกจากการฟื้นฟูฯต้องเลื่อนไปเป็นก.ค.นี้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(บีทีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอการหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อเข้ามาซื้อหุ้นบีทีเอส เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนของไทยไม่ค่อยดี โดยเฉพาะการเมืองไทยยังไม่ชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้มีการชักชวนพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศมาร่วมถือหุ้นบีทีเอส
อย่างไรก็ตาม การดึงพันธมิตรร่วมทุนบีทีเอสไม่มีปัญหาแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเข้าใจ และพร้อมที่จะเข้ามาร่วมทุนในบีทีเอส เพียงแต่บรรยากาศการลงทุนไทยยังไม่ดี จึงต้องการรอจนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้เม็ดเงินลงทุนจากพันธมิตรประมาณ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย บริษัทฯจะเปิดทางให้พันธมิตรเข้ามาถือหุ้นบีทีเอสได้ 80%ของทุนจดทะเบียน โดยต่างชาติจะถือหุ้นไม่เกิน 49% ขณะที่อำนาจการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้ายังเป็นทีมบริหารงานชุดเดิมอยู่
นายคีรี กล่าวว่า บริษัทน่าจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จอย่างช้าต้นพ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะยื่นขอออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง คาดว่าจะศาลจะพิจารณาให้บริษัทออกจากแผนฯได้ช่วงก.ค. 2550 ส่วนแนวทางการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นคงต้องเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ช่วงไตรมาส 2/2550 เนื่องจากบรรยากาศการเมืองไทยยังไม่มีทิศทางที่ไม่แน่นอน
"ตามแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทจะดำเนินการลดทุน/เพิ่มทุนจดทะเบียน โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้พันธมิตรร่วมทุน และรองรับการแปลงหนี้เป็นทุน โดยเงินทุนที่ได้จะนำมาชำระคืนเจ้าหนี้ที่มีอยู่ 6 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งหลังดำเนินการแล้วบีทีเอสจะมีหนี้สินเหลืออยู่อีก 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงอย่างมาก"แหล่งข่าวบีทีเอสกล่าว
แหล่งข่าวจากบีทีเอส กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 12 ขบวนว่า ขณะนี้ได้มีการเจรจาด้านเทคนิคกับบริษัท มิตซุย ฉางชุน ซึ่งเป็นผู้ยื่นประมูลขายรถไฟฟ้าในราคาที่ต่ำกว่าซีเมนส์ ซึ่งการเจรจาด้านเทคนิคต้องใช้เวลานาน ทำให้เลื่อนกำหนดการลงนามสัญญาไป 1-2 เดือน อย่างไรก็ตาม บีทีเอสคาดว่าจะสรุปและลงนามสัญญาซื้อขายรถไฟฟ้าทั้ง 12 ขบวนได้ภายในกลางเดือนเม.ย.นี้
สำหรับราคาจัดซื้อรถไฟฟ้าทั้ง 12 ขบวนนั้นอยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ 90 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,150 ล้านบาท ซึ่งบีทีเอสจะรับมอบรถไฟฟ้าดังกล่าวประมาณ 1.6-2 ปี ทันเวลาที่ส่วนต่อขยายเส้นทางแบร์ริ่งแล้วเสร็จ หากบริษัทฯได้รับเลือกให้บริหารการเดินรถต่อ
ด้านนายอาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการ บีทีเอส กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเป็น 15-40 บาท/เที่ยว ทำให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสปรับลดลง 2%จากเดิมมีผู้โดยสารใชบริการเฉลี่ยวันละ 4.3 แสนคน/วัน เหลือเพียง 4.1 แสนคน/วัน แต่รายได้ของบริษัทฯปรับเพิ่มขึ้น 10%มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยวันละ 8 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานและพลังงานอยู่ที่วันละ 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารที่หายไปจะกลับมาใช้บริการเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.3 แสนคน/วัน เท่ากับปริมาณจำนวนผู้โดยสารก่อนเกิดเหตุการณ์วางระเบิดกรุงเทพฯเมื่อปลายปี 2549 และการปรับขึ้นค่าโดยสาร
นอกจากนี้ บีทีเอสยังได้เจรจากับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เกี่ยวกับส่วนต่อขยายเส้นแยกสะพานตากสิน 2.2 กม. โดยบริษัทฯได้เสนอการแบ่งรายได้โดยพิจารณาจากระยะทาง เนื่องจากสถานีที่เพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.2 กม.นั้น ทางกทม.เป็นผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีข้อยุติ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2007 9:39 am    Post subject: Reply with quote

ผู้โดยสารบีทีเอสหาย 4.6% ลุยใช้สมาร์ทพาส 1 เม.ย.นี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2205 01 เม.ย. - 04 เม.ย. 2550


ยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสลดลง 4.6% หรือคิดเป็น 2 หมื่นเที่ยวคน/วัน เป็นผลจากเหตุความไม่สงบ-การปรับเพิ่มค่าโดยสาร แต่ยังหวังช่วงครึ่งปีหลังยอดจะกระเตื้องขึ้น ส่วนรายได้ยังสวย คาดสิ้นปี 50 โตเพิ่ม 10% ลุยใช้บัตรสมาร์ทพาสเต็มระบบ 1 เม.ย.50 พร้อมจัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า

ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยถึงยอดผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ว่ายอดผู้โดยสารนับตั้งแต่ต้นปี 50 ถึงปัจจุบันลดลงไปประมาณ 2 หมื่นเที่ยวคน/วัน หรือประมาณ 4.6% โดยเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมถึงการปรับขึ้นค่าโดยสารด้วย ที่ทำให้ผู้ใช้บริการเดินทางระยะสั้นและผู้ที่เดินทางเที่ยวเดียวลดจำนวนลงไป รวมถึงมีผู้ที่หันไปทดลองใช้บริการระบบขนส่งอื่นๆ แทน


ทำให้ยอดผู้โดยสารในปัจจุบันสำหรับวันธรรมดาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.1 แสนเที่ยวคน/วัน จากที่ก่อนหน้านี้เฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 แสนเที่ยวคน/วัน ขณะที่วันเสาร์ผู้ใช้บริการจะอยู่ที่ประมาณ 3.3 แสนเที่ยวคน/วัน ส่วนวันอาทิตย์อยู่ที่ 2.8 แสนเที่ยวคน/วัน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดผู้ใช้บริการจะกระเตื้องขึ้น เพราะสถานการณ์น่าจะดีขึ้น และผู้ที่หันไปใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ จะกลับมาใช้บริการรถไฟฟ้าเช่นเดิม


ขณะที่ในส่วนของรายได้นั้น ขณะนี้ในวันธรรมดาจะมีรายได้ที่ประมาณ 9-10 ล้านบาท ส่วนวันเสาร์ มีรายได้ประมาณ 7-8 ล้านบาท ขณะที่วันอาทิตย์รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักต้นทุนค่าดำเนินการ 3 ล้านบาทแล้ว จะเหลือกำไรก่อนหักภาษีค่าเสื่อมดอกเบี้ย (EBITDA) ประมาณ 6 ล้านบาท/วัน สำหรับรายได้รวมของปี 50 นั้นยังประเมินได้ยากว่าจะเป็นเท่าใด แต่เชื่อว่าจะมียอดรายได้ที่โตขึ้นจากปี 49 ประมาณ 10%


ที่ปรึกษาคณะกรรมการ บมจ.บีทีเอสซี กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.50 เป็นต้นไป บริษัทจะนำบัตรบีทีเอสสมาร์ทพาส (Contactless SmartPass) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยบัตรบีทีเอสสมาร์ทพาส ประเภท 30 วัน (30 Day SmartPass) แบบบุคคลทั่วไป และแบบนักเรียน-นักศึกษาทั้ง 30 เที่ยว และ 20 เที่ยว รวมถึงบัตรโดยสารประเภทบัตรเติมเงิน (Sky SmartPass) ด้วย


พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดให้มีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อขอบคุณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย คือ เมื่อซื้อบัตรโดยสารสมาร์ทพาสประเภท 30 วันระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 พ.ค.50 จะได้รับจำนวนเที่ยวการเดินทางเพิ่มฟรี 2 เที่ยว หรือซื้อเมื่อบัตรสมาร์ทพาสประเภทเติมเงิน ผู้โดยสารจะได้รับส่วนลดจากอัตราค่าโดยสารปกติ 2-4 บาท ต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทาง รวมเวลา 7 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.50


ทั้งนี้การจัดโปรโมชั่นส่วนลด 2-4 บาทต่อเที่ยว ตามระยะการเดินทางนั้น ก็เพื่อเชิญชวนให้ผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารเที่ยวเดียวเปลี่ยนมาใช้บัตรสมาร์ทพาสแบบเติมเงินแทน ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารมีความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เสียเวลาแลกเหรียญหรือหยอดเหรียญเพื่อซื้อตั๋ว เกิดความคล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งในอนาคตบัตรโดยสารสมาร์ทพาสของรถไฟฟ้าบีทีเอสจะสามารถนำไปใช้ร่วมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ หรือร่วมกิจกรรมทางการตลาดกับหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัทต่างๆ ได้ในอนาคต โดยเร็วๆ นี้ จะมีการเปิดตัวบัตรโดยสารที่สามารถใช้ร่วมกับบัตรของธนาคารกรุงเทพได้ ดร.อาณัติกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2007 9:40 am    Post subject: Reply with quote

เปิดตัวบัตรสมาร์ทพาส รองรับระบบตั๋วร่วมในอนาคต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2205 01 เม.ย. - 04 เม.ย. 2550

การพัฒนาระบบการเดินทางขนส่งสาธารณะในประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ตามแนวคิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการพัฒนาตั๋วร่วมในการเดินทางทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร


ในแนวทางดังกล่าวบีทีเอสนำระบบตั๋วการเดินทางใหม่หรือที่เรียกว่า สมาร์ทพาส ใช้ชิพอิเล็ก ทรอนิกส์ในการเก็บข้อมูลที่สารถพัฒนาไปสู่การใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ ดูภาพยนตร์ และอื่น ๆ ตามแต่จะหาพันธมิตรในการร่วมดำเนินการได้ โดยไม่มีขีดจำกัด


ปัจจุบันเพื่อปรับรูปแบบการให้บริการให้สอดรับกับการพัฒนาในเอนาคต บริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จึงได้มีการเปิดตัวบัตรอัจฉริยะไร้สัมผัสหรือ บีทีเอส สมาร์ทพาส อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมาโดยนำบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส จำนวน 50,000 ใบ ให้ประชาชนได้ใช้เดินทางในระบบ ซึ่งเป็นบัตร 30 วัน ประเภทบุคคลทั่วไป และ บัตรนักเรียน จำหน่ายในราคาพิเศษ และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา


" บัตรบีทีเอสสมาร์ทพาสเป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส รูปแบบใหม่ที่ใช้ ชิพอิเล็ก ทรอนิกส์ในการเก็บข้อมูล ทำให้จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วและเพิ่ม ประสิทธิภาพในการใช้บริการของรถไฟฟ้า บีทีเอส ได้มากยิ่งขึ้น จะนำมาทดแทนการใช้แทนบัตรโดยสารแบบแถบแม่เหล็กที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเริ่มจากบัตรโดยสารประเภท 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป และนักเรียน นักศึกษา .ซึ่งบัตรใหม่ครั้งนี้ จะมีบัตรแบบเติมเงินหรือที่เรียกว่า Sky SmartPass รวมอยู่ด้วย"


บัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส จะนำมาใช้แทนบัตรโดยสารแบบแถบแม่เหล็กที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า บีทีเอส ให้กับผู้โดยสาร เพราะเพียงแค่นำบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ไปแตะที่เครื่องอ่านบัตรที่ติดตั้งไว้บนประตูอัตโนมัติก็สามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับบริการอื่นได้ในอนาคต


เมื่อมีบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภทเติมเงิน (Sky SmartPass) ออกมาใช้ ผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารประเภทเติมเงิน (SkyCard) ชนิดแถบแม่เหล็กยังคงสามารถเดินทางได้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง


ส่วนอายุการใช้งานบัตรบีทีเอสสมาร์ทพาส มีอายุการใช้งาน 5 ปี นับจากวันแรกที่มีการใช้บัตร ทั้งนี้ ในระยะแรกยังไม่สามารถใช้เดินทางร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดินได้ แต่บริษัทฯ ได้มีการหารือร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อที่จะพัฒนาให้สามารถใช้ร่วมกันได้ต่อไปในอนาคต


การซื้อบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภท 30 วัน จะต้องนำมาใช้ภายในระยะเวลา 45 วัน นับจากวันที่ซื้อบัตร ตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารซื้อบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภท 30 วัน ในวันที่ 1 เมษายน 2550 จะต้องนำบัตรดังกล่าวมาใช้ครั้งแรกภายใน 45 วัน หรือระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2550 หากไม่นำบัตรมาใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด มูลค่าการเดินทางในบัตรจะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก และไม่สามารถขอคืนมูลค่าคงเหลือในบัตรได้ และจะต้องนำบัตรไปเติมจำนวนเที่ยวการเดินทางใหม่จึงจะสามารถใช้เดินทางได้ สำหรับบัตรบีทีเอสสมาร์ท ประเภทเติมเงิน (Sky SmartPass) ผู้โดยสารจะต้องนำบัตรมาใช้เดินทางภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากวันที่ออกบัตร หรือวันที่เติมมูลค่าครั้งสุดท้าย หรือวันที่ใช้เดินทางครั้งสุดท้าย แล้วแต่กรณี หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวมูลค่าคงเหลือในบัตรจะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก และไม่สามารถขอคืนมูลค่าคงเหลือในบัตรได้


ส่วนบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภท 30 วัน สามารถเติมจำนวนเที่ยวการเดินทางล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องรอให้จำนวนเที่ยวการเดินทางเดิมหมดลง ทั้งนี้ การเติมจำนวนเที่ยวการเดินทางล่วงหน้าจะไม่มีผลต่อการขยายระยะเวลาการใช้งาน 30 วันของจำนวนเที่ยวการเดินทางเดิมแต่อย่างใด และผู้โดยสารจะต้องนำบัตรมาใช้ภายในระยะเวลา 45 วันนับตั้งแต่วันที่มีการเติมจำนวนเที่ยวการเดินทางใหม่ในบัตร


ทั้งนี้บัตรบีทีเอสสมาร์ทพาส เริ่มจำหน่ายทุกสถานีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 เป็นต้นไป


มี 2 ประเภท คือบัตรบีทีเอสสมาร์ทพาส ประเภท 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป และนักเรียน นักศึกษา ( 30 Day SmartPass) สำหรับนักเรียน นักศึกษา 20 เที่ยว จำหน่ายราคา 370 บาท ( รวมค่าธรรมเนียมการออกบัตรครั้งแรก 30 บาท) สำหรับนักเรียน นักศึกษา 30 เที่ยว จำหน่ายราคา 480 บาท ( รวมค่าธรรมเนียมการออกบัตรครั้งแรก 30 บาท) สำหรับบุคคลทั่วไป 20 เที่ยว จำหน่ายราคา 470 บาท ( รวมค่าธรรมเนียมการออกบัตรครั้งแรก 30 บาท) และสำหรับบุคคลทั่วไป 30 เที่ยว จำหน่ายราคา 630 บาท ( รวมค่าธรรมเนียมการออกบัตรครั้งแรก 30 บาท) โดยโปรโมชั่นใหม่เพื่อผู้ใช้ประจำสามารถรับจำนวนเที่ยวการเดินทางเพิ่มฟรีอีก 2 เที่ยว ระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2550


บัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภทเติมเงิน ( Sky SmartPass) รับส่วนลดจากอัตราค่าโดยสารปกติ 2- 4 บาท ต่อเที่ยวตามระยะทาง ระยะเวลา 7 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม 2550
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2007 9:41 am    Post subject: Reply with quote

เตรียมแผนรับมือรถไฟฟ้าฝั่งธนฯเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ
คาด 14 เดือนขั้นตอนเสร็จ ‘อภิรักษ์’ทำใจยอมรับ
เดลินิวส์ 30 มีนาคม 2550

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาอาจจะตีความว่าโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. ของกทม. อาจต้องนำเข้ากระบวนการ พ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ) ว่าคงต้องรอให้กฤษฎีกาส่งหนังสือตีความอย่างเป็นทางการมาก่อน อย่างไรก็ตามส่วนตัวมั่นใจว่าสถานะของบริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) เป็นวิสาหกิจมหาชน สามารถดำเนินกิจการ ตามที่ กทม. ดำเนินการได้ทั้งหมดแต่การให้เคทีว่าจ้างเอกชนมาเดินรถอาจจะเข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ จึงได้เตรียมพร้อมรับมือในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งหากตีความตามนี้จริงได้เตรียมให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ว่าจ้างที่ปรึกษาเรื่องการลงทุน เพื่อศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ทางสังคม ของโครงการ รวมทั้งการตั้งคณะกรรมการ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ควบคู่กับการ เสนอ ครม. เพื่อให้การสนับสนุนและความเห็นชอบในการดำเนินโครงการตาม พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ โดยเร่งด่วนจะได้ไม่ติดขัดในขั้นตอนต่าง ๆ เชื่อมั่นว่า ครม. จะเห็นชอบเพราะประชาชนกำลังรอใช้บริการโครงการนี้อยู่ คาดว่าต้องใช้กระบวนการต่าง ๆ อย่างเร็วที่สุด 14 เดือน ซึ่ง กทม. จะเร่งรัดในขั้นตอนต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ควบคู่กับการเร่งวางระบบสัญญาณ โดยจะเร่งคัดเลือกผู้วางระบบสัญญาณให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย. นี้ ส่วนว่าจะเปิดให้บริการทันก่อนหมดสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คงต้องรอการตีความอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน อย่างไรก็ตามอยากให้โครงการนี้ไม่ต้องเข้า พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ เพราะเกรงจะใช้เวลานาน แต่หากต้องเข้า พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ก็จะยอมรับผลที่เกิดขึ้น เพราะต้องการให้ดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใสไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต และได้มอบให้นายพนิชไปเร่ง หารือกับ สจส. ในการเตรียมการเพื่อเข้ากระบวนการต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ โดยเร็ว ส่วนว่าหมดสมัยแล้วจะไม่มีผลงานนั้น ตนไม่หนักใจเพราะแม้จะเปิดให้บริการไม่ทัน แต่ก็ถือว่าโครงการนี้ตนได้ผลักดันอย่างเต็มที่แล้ว.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 17, 18, 19 ... 103, 104, 105  Next
Page 18 of 105

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©