ขุดกรุ : ย้อนรอยทางรถไฟสายท่าเรือ - พระพุทธบาท

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 1:51 pm Post subject:

บริเวณติดๆ กัน กับวัดพระพุทธบาท ก็จะเป็น "พระตำหนักท้ายพิกุล" พระราชวังโบราณ ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของพวกเจ้านายในสมัยก่อน
ที่มานมัสการรอยพระพุทธบาท ปัจจุบันไม่มีซากตำหนักปรากฏอยู่ คงมีแต่เกยช้าง (หมายถึง ที่เสด็จขึ้น-ลงพาหนะสำหรับเจ้านาย)
และซากกำแพงเป็นเขตโดยรอบ

ข้อมูลอ้างอิง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 2:04 pm Post subject:

ใช้เวลาอยู่ที่วัดพระพุทธบาทฯ เป็นเวลาพอสมควร จนได้เวลาเกือบเที่ยง พร้อมๆ กับเสียงพยาธิในท้องเริ่มร้องครวญคราง
เป็นสัญญาณบอกว่า ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว ออกจากวัด ก็ต้องเลี้ยวขวา เพื่อมุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าเรือ

Click on the image for full size

แต่ก่อนจะไปที่ท่าเรือ ก็ขอแวะเที่ยว สถานที่ที่น่าสนใจ ระหว่างทางกันเสียหน่อย เพราะคุณป้าคนที่คุยกับเรา ที่สถานีบ่อโศก
ได้แนะนำเอาไว้ ถ้าไม่แวะไป เดี๋ยวแกจะน้อยใจเอา ว่าแล้วก็เลี้ยวเข้าไปทางวัดปัญจาภิรมย์ ซึ่งอยู่เลยสถานีบ่อโศกหรือสร่างโศกมาเล็กน้อย

Click on the image for full size

ที่แรกที่เข้าไปชม ก็คือ "ถนนพระเจ้าทรงธรรม" หรือ "ถนนฝรั่งส่องกล้อง"

เป็นถนนที่สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าทรงธรรม เมื่อครั้งเสด็จตรวจรอยพระพุทธบาท ทางเรือพระที่นั่งตามลำน้ำป่าสัก พอเสด็จมาถึงบริเวณท่าเรือ
จึงได้เสด็จทรงช้างพระที่นั่ง โดยมีพรานบุญเป็นผู้นำทางและเมื่อเสด็จกลับ ได้ให้ฝรั่งส่องกล้อง แล้วให้ตัดทางกว้าง 10 วา ตรงตลอดถึงท่าเรือ
เพื่อใช้เป็นถนนหลวง

ในปัจจุบันถนนเส้นนี้เหลือร่องรอยให้เห็นอยู่ประมาณ 9 กิโลเมตร โดยเริ่มจากบริเวณเยื้องวัดสร่างโศก ช่วงกิโลเมตรแรกเป็นถนนดิน
ที่ไม่ได้ใช้เป็นถนนอีกต่อไป ต่อจากนี้เป็นถนนลูกรังผ่านหลังวัดปัญจาภิรมย์ วัดหนองคณฑี ไปตัดกับถนนพระพุทธบาท-บ้านหมอ
บริเวณหน้าวัดกัลยาบรรพต ผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อเขาตก และพระตำหนักสระยอหายไปเป็นถนนลูกรังและคอนกรีต ความกว้างของถนนเหลือ 6-8 เมตร

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 2:11 pm Post subject:

ที่ที่สอง ก็คือ "บ่อน้ำโบราณ" และ "ศาลเจ้าพ่อดงโอบ"

Click on the image for full size

ส่วนสถานที่ที่สาม ก็พามาแวะกินลมชมวิวเล็กน้อย กับบ่อดินขุด ซึ่งตอนหลังมีน้ำขังอยู่จำนวนมาก จนดูคล้ายทะเลสาบขนาดใหญ่
ซึ่งก็คือ "ทะเลสาบบ้านหมอ" โดยเกิดจากการขุดดินมาร์ล ไปใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งปัจจุบัน จะมีนกน้ำสารพัดชนิดอยู่ที่นี่
และในบางช่วง จะมีนกอพยพหนีหนาวมาจากไซบีเรียด้วย ..... ในที่นี้อย่าเผลอลงไปเล่นน้ำนะครับ เพราะบ่อของเขาขุดไว้ลึกมากจริงๆ
อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 2:22 pm Post subject:

จากสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณป้าแนะนำเอาไว้ ก็ถึงเวลาหาอะไรใส่ท้องแล้วล่ะครับ งานนี้ ตาเจฟ เจ้าถิ่น คุยนักคุยหนาว่า มีก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ด
แปลกไม่เหมือนใคร ก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่า" คุยไม่คุยเปล่า แถมคะยั้นคะยอให้ลองอีก ว่าแล้วก็ไม่ต้องคิดมาครับ หักหัวรถเจ้าไปจอดในร้านเลย

Click on the image for full size

ยั่วน้ำลายด้วย "เส้นเล็กต้มยำผักหวานป่า"

Click on the image for full size

ตามด้วย "เส้นใหญ่แห้งผักหวานป่า"

Click on the image for full size

ที่นี่ไม่ใช้น้ำส้มสายชูปรุงรสนะครับ ใช้น้ำมะนาวแทน เรื่องคุณภาพและความสะอาดโอเคเลย

Click on the image for full size

ว่าแล้วก็ลงมือบรรเลงกันเลยดีกว่า ...... เอื้อก ๆๆๆ

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 2:44 pm Post subject:

เรื่องราวการสำรวจเส้นทางสายนี้ของเรา ก็จบลงพร้อมๆ กับก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่า หลายรูปแบบ ที่ทานกันเข้าไปเสียคนละหลายๆ ชาม

บังเอิญว่าในเว็บเดิม ยังพอมีรูปเก่าๆ ที่สแกนมาจากหนังสือ ครบรอบ 100 ปีรถไฟไทย ของ รฟท. และ ในวารสารเมืองโบราณ
ฉบับเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2539 ฉบับ "อานิสงส์ไหว้พระบาท" มีบทความเรื่อง "รถไฟสายพระพุทธบาท" โดยคุณสุพจน์ มนปราณีต
ซึ่งเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการอำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี ลงในหน้า 35-36 และมีภาพประกอบโดยคุณวิไลรัตน์ ยังรอด ซึ่งสแกนเอาไว้ โดย
นพ.อุดมศักดิ์ ศิลาจำรูญ หรือคุณหมอ Weasel ... ผมจึงขออนุญาตนำมาลงเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกๆ ท่านได้เห็นภาพในอดีตด้วยครับ

ภาพแรก : ตัวอาคารสถานีรถไฟเก่า ในเส้นทางสายนี้ โดยคุณวิไลรัตน์ ยังรอด จากวารสารเมืองโบราณ

Click on the image for full size

ภาพสอง : ตัวอาคารสถานีรถไฟบ่อโศก (สร่างโศก) แต่ในหนังสือ 100 ปีรถไฟไทย จะเขียนเป็นสถานีรถไฟหนองคณฑี

Click on the image for full size

ภาพสาม : ตัวอาคารสถานีรถไฟพระพุทธบาท ปัจจุบันกลายเป็นโรงเจไปแล้ว

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 09/01/2007 2:47 pm Post subject:

สุดท้ายก่อนจะจบกระทู้นี้ ขอฝากด้วยภาพหลุดๆ แต่จงใจถ่ายด้วยภาพนี้ครับ ดารานำคือผมและป๋านัท ส่วนผู้กำกับคือตาเจฟ
ขอขอบคุณที่ติดตามชมกันมาตลอด และหากมีข้อผิดพลาดประการใด โดยเฉพาะด้านข้อมูลประวัติศาสตร์ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และสามารถร่วมแจม หรือแนะนำติชมได้ ตามอัธยาศัยเหมือนเช่นเคยครับ

wave

saraburi · Posted: 09/01/2007 7:31 pm Post subject:

alderwood · Posted: 09/01/2007 9:48 pm Post subject:

nathapong · Posted: 10/01/2007 10:50 am Post subject:

Wisarut · Posted: 10/01/2007 10:57 am Post subject:

อย่างน้อยผมคนหนึ่งหละที่จะไปสัมภาษณ์ พร้อมจดบันทึก ไว้ Laughing