View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 22/12/2015 5:41 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.เล็งแผนพัฒนาที่ดินปู่โสม
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
22 ธันวาคม 2558 เวลา 05:15
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ในแผนฟื้นฟูกู้วิกฤติการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้น ทางรถไฟได้มีการเสนอแผนให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ไปเมื่อเดือน พ.ย.58 ที่ผ่านมา โดยหลักๆแผนฟื้นฟูจะเน้นสนับสนุนให้
ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของประเด็นจัดสรรที่ดินของรถไฟกว่า 200,000 ไร่ทั่วประเทศ เบื้องต้นจะมีการดำเนินการในพื้นที่แปลงใหญ่ของ ร.ฟ.ท.ที่ปัจจุบันมีศักยภาพในการพัฒนาขึ้นเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์จำนวน 3 แปลงก่อน คือ พื้นที่พหลโยธิน, สถานีแม่น้ำ และพื้นที่ กม.11 โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นการเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ หรือพีพีพี
ทั้งนี้ พื้นที่ที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนนั้น ทางรถไฟได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้ศึกษามูลค่าการลงทุนในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียด ซึ่งเดือน ก.พ.59 ทางบริษัทที่ปรึกษาจะสรุปรายละเอียดส่งกลับมายังรถไฟอีกครั้ง เชื่อมั่นว่ารถไฟได้เดินมาถูกทาง เพราะนอกจากแนวทางการพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้แล้ว รถไฟยังได้ปรับปรุงทางรถไฟ ปรับปรุงขบวนรถ และมีแผนลงทุนทางคู่ทั่วประเทศด้วย. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 28/12/2015 2:43 am Post subject: |
|
|
บี้รฟท.เร่งโอนที่มักกะสัน ธนารักษ์ส่งซิกคนร.กดดัน
ไทยโพสต์
28ธันวาคม 2558 เวลา - 00:00
ธนารักษ์เตรียมอ้อน คนร. บี้ รฟท.โอนที่ดินมักกะสันล้างหนี้ 6 หมื่นล้านบาท พร้อมกำหนดแผนลงทุนครบวงจร
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาที่ราชพัสดุย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่จะโอนให้กระทรวงการคลังนำมาเช่าพัฒนาในเชิงพาณิชย์บนพื้นที่จำนวน 479 ไร่ มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการใช้หนี้ที่มีอยู่กว่า 1 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้าในการโอนพื้นที่ดังกล่าวจาก รฟท. ทำให้กระทรวงการคลังจะขอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด เร่ง รฟท.โอนที่โดยเร็วที่สุด เพื่อนำมาพัฒนาและให้เกิดการลงทุนกับเอกชนตามแผนดำเนินงานต่อไป
ทั้งนี้ หลังจาก รฟท.โอนที่แล้ว กระทรวงการคลังจะกำหนดแผนการลงทุน เพื่อเปิดทางให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ โดยระหว่างนี้จะพิจารณาสัดส่วนบนพื้นที่ทั้งหมดของโครงการที่จะนำมาพัฒนาว่าจะต้องมีสัดส่วนเท่าไรทั้งเชิงพาณิชย์ โรงแรม อาคารสำนักงาน และสวนสาธารณะ จากพื้นที่ทั้งหมด 479 ไร่ มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ภายใต้สัญญาเช่ากรณีรัฐกับรัฐ 99 ปี จาก 50 ปี และกรณีรัฐให้เอกชนเช่าที่ของรัฐ 50 ปี จาก 30 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เอกชนสนใจเข้าร่วมลงทุนมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ได้แจ้งกับทาง รฟท. ให้เร่งส่งมอบพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ให้เร็วขึ้น จากเดิมส่วนแรกที่จะต้องโอน 140 ไร่ ระยะเวลาโอนภายใน 2 ปี ก็ปรับให้โอนภายใน 1 ปีครึ่ง และส่วนที่สอง 170 ไร่ จากเดิมจะโอนภายใน 5 ปี ก็ให้โอนภายใน 2-3 ปี เพื่อจะได้นำที่มาให้เอกชนเช่าลงทุนได้ไวขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ยังมีแผนบริหารจัดการที่ราชพัสดุในปี 2559 ให้เกิดประสิทธิภาพทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ประโยชน์ในส่วนราชการ ซึ่งจะเสนอเป็นแผนใหญ่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการระดมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 07/01/2016 4:18 pm Post subject: |
|
|
ฝันสลาย!! ส่องกล้องดูห้องนิรภัยที่ทุ่งสง นครศรี เจอแค่กล่อง ไร้ขุมทรัพย์
ข่าวสด วันที่ 07 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:45 น.
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่เทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายทศพร จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมนายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเทศบางเมืองทุ่งสง เจ้าหน้าที่กดารรถไฟ และพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ประชุมพิจารณาเปิดห้องนิรภัยโบราณ ในอาคารเก่าอายุกว่า 100 ปี ของสถานีชุมทางรถไฟทุ่งสง เพื่อแผนการโครงการพัฒนามูลค่าทางวัฒนธรรมเมืองทุ่งสง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้เทศบาลเมืองทุ่งสงเช่าอาคารรับส่งสินค้าหลังเก่า ปรับปรุงเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
ในที่ประชุมมีมติให้ใช้กล้องบันทึกภาพขนาดเล็กส่องเข้าไปตรวจสอบภายในตู้นิรภัยเพื่อดูว่ามีสิ่งของอะไรอยู่บ้าง หากมีสิ่งของอยู่ภายในก็จะให้ช่างกุญแจมาทำการเปิด จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่อาคารรับส่งสินค้า ชุมทางรถไฟทุ่งสงพร้อมช่างส่องกล้อง โดยมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจติดตามดูการปฏิบัติงาน หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ช่างกล้องได้นำภาพถ่ายที่บันทึกภาพภายในตู้นิรภัยมาให้ทุกคนดู พบว่ามีกล่องไม้ตั้งอยู่ 1 ใบ และกล่องเหล็กใบเล็ก 1 ใบ คล้ายกล่องเครื่องมือช่างวางอยู่คนละมุมห้องอีก 1 ใบ
ทั้งนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่าภายในกล่องไม้และกล่องเหล็กนั้นมีอะไรอยู่ภายใน ขณะที่คณะที่มาร่วมตรวจสอบระบุว่า ภายในกล่องไม่น่าจะมีอะไรบรรจุอยู่ ก่อนจะยกเลิกการตรวจสอบโดยไม่ต้องให้ช่างกุญแจเปิดประตูนิรภัยแต่อย่างใด เนื่องจากทุกฝ่ายเห็นว่ามีความชัดเจนแล้วว่าไม่น่าจะมีอะไรไปมากกว่านี้ ส่วนกล่องปริศนาที่อยู่ภายในตู้นิรภัยโบราณนั้นปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไป ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านที่รวมทั้งผู้สนใจที่เดินทางมาดูกันจนแน่นอาคาร และผู้คนที่เดินทางมาดูอยากจะให้ตรวจสอบภาในกล่อง 2 ใบนั้นว่ามีอะไรอยู่ แต่ไม่เป็นผล
ขณะที่นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า หลังตรวจสอบแล้วมีเพียงกล่องไม้กับกล่องเหล็กซึ่งไม่น่าจะมีอะไร จากนี้ไปจะเข้าสู่แผนงานของเทศบาลทำการศึกษาออกแบบโครงสร้าง ตั้งงบประมาณปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรมตามที่ออกแบบไว้แล้ว ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ดำเนินการตกแต่งภายในอาคารให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวางแผน โดยจะไม่เปิดตู้นิรภัยและคงปล่อยไว้อย่างนั้น
สำหรับประชาชนที่ต้องการรู้ว่าภายในตู้นิรภัย มีอะไร เทศบาลเมืองทุ่งสงฯ จะจัดทำคลิปการตรวจสอบ เผยแพร่ไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ระบบไลน์ หรือที่หน้าเว็บไซต์เทศบาลเมืองทุ่งสง ส่วนภายในกล่องสองใบมีอะไรอยู่นั้น อยากทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาต่อไป หลังจากการปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จ จะมีระบบกล้องวงจรปิด ให้ผู้สนใจหรือนักท่องเที่ยวกดเพื่อเปิดดูภาพภายในตู้นิรภัย ถือเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทุ่งสงต่อไปด้วย นางทรงชัย กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2016 11:21 am Post subject: |
|
|
อะโห ตอนที่เขาปิดสาขาทุ่งสงนั้น เขาต้องขนทรัพย์ออกไปหมด
ปิดไว้เป็นปริศนา! ตู้เซฟแบงก์สยามกัมมาจล เทศบาลฯทุ่งสง เดินหน้าพิพิธภัณฑ์ งบ 10 ล้าน
โดย MGR Online
7 มกราคม 2559 19:02 น. (แก้ไขล่าสุด 8 มกราคม 2559 08:50 น.)
ปิดไว้เป็นปริศนา! ตู้เซฟแบงก์สยามกัมมาจล เทศบาลฯทุ่งสง เดินหน้าพิพิธภัณฑ์ งบ 10 ล้าน
นครศรีธรรมราช - ผลการตรวจสอบตู้นิรภัยในอาคารเก่าแก่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ อ.ทุ่งสง หลังจากใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปตรวจสอบพบมีกล่อง 2 ใบอยู่ข้างใน นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง ระบุจะเดินหน้าปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมือง ส่วนกล่อง 2 ใบจะปล่อยไว้ให้เป็นปริศนาให้ผู้เข้าเยี่ยมชมขบคิด
วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายทศพร จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสง เป็นประธานการประชุมพิจารณาเปิดห้องนิรภัยอาคารเก่า สถานีชุมทางรถไฟทุ่งสง ที่ห้องประชุม อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มี นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นายชัยฤกษ์ เลิศเสรีกุล ผู้อำนวยการภาคใต้ ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมพนักงานธนาคารกว่า 20 คน เข้าร่วมประชุม รับฟังแผนการโครงการพัฒนามูลค่าทางวัฒนธรรมเมืองทุ่งสง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้เทศบาลเมืองทุ่งสงเช่าอาคารที่ทำการรับส่งสินค้าหลังเก่า ปรับปรุงเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รับฟังแผนพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายอำเภอทุ่งสง กล่าวว่า ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งช่างผู้ชำนาญการมาประชุม เพื่อซักซ้อมรายละเอียด เพื่อตรวจสอบตู้นิรภัย หากเปิดได้จะทำการเปิด หากช่างกุญแจเปิดไม่ได้ จะชะลอเอาไว้ก่อน การดำเนินการจะทำอย่างโปร่งใส เชิญทุกฝ่ายร่วมเป็นพยาน ที่ประชุมมีมติใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปในตู้นิรภัยเพื่อตรวจสอบเบื้องต้นว่าในตู้นิรภัยมีสิ่งของหรือไม่ หากมีสิ่งของอยู่ภายในจะให้ช่างกุญแจมาทำการเปิด
จากนั้น นายอำเภอทุ่งสง พร้อมคณะทั้งหมด รวมทั้งช่างส่องกล้องเดินทางไปที่อาคารที่ทำการรับส่งสินค้าที่อยู่ติดกับชุมทางรถไฟทุ่งสง ในอดีตเป็นที่ตั้งของแบงก์สยามกัมมาจล โดยมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจติดตามดูการปฏิบัติงาน หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ช่างกล้องได้นำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ แสดงภาพถ่ายให้ทุกคนดู พบว่า ข้างในตู้นิรภัยมีหีบไม้ใบไม่ใหญ่มากนัก 1 ใบ และหีบเหล็กใบเล็ก 1 ใบ คล้ายกล่องเครื่องมือช่างวางอยู่คนละมุมห้อง และมีเศษกระดาษอยู่บนพื้นห้อง
นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า จากนี้ไปจะเข้าสู่แผนงานของเทศบาล ศึกษาออกแบบโครงสร้าง ตั้งงบประมาณปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรมตามที่ออกแบบไว้แล้ว ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ภายในอาคารให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวางแผน และจะไม่เปิดตู้นิรภัย
สำหรับประชาชนที่ต้องการรู้ว่าภายในตู้นิรภัยมีอะไร เทศบาลเมืองทุ่งสงฯ จะจัดทำคลิปการตรวจสอบเผยแพร่ไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ระบบไลน์ หรือที่หน้าเว็บไซด์เทศบาลเมืองทุ่งสง ส่วนภายในกล่อง 2 ใบมีอะไรอยู่นั้น อยากทิ้งไว้ให้เป็นปริศนา หลังจากการปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จจะมีระบบกล้องวงจรปิดให้ผู้สนใจ หรือนักท่องเที่ยวกดเพื่อเปิดดูภาพภายในตู้นิรภัย ถือเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทุ่งสง
ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกะ กับแบงก์สยามกัมมาจล ที่ทุ่งสง นั้นดูเรื่องราว ที่ คุณ อาภรณ์ กฤษณามระ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์สมัยที่ยังทำงานเป็นผู้จัดการ แบงก์สยามกัมมาจล ที่ทุ่งสง ได้ที่นี่
http://www.tungsong.com/museum/index.htm |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 11/01/2016 11:58 am Post subject: |
|
|
รถไฟฯขุดกรุเปิดเช่าทำเลทอง
เดลินิวส์
วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2559 เวลา 20:30 น.
การรถไฟฯ เปิดเช่าสมบัติเก่า ที่ดินสถานีแม่น้ำ และกม.11 ยาว 34 ปี ให้เอกชนร่วมลงทุนฟาสต์แทร็ก ขนาดเร่งเร็วยังต้องรอปี 61
นายปานฑพ มาลากุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาที่ดินเพื่อการพาณิชย์ของ ร.ฟ.ท.ว่าขณะนี้เตรียมนำที่ดินที่มีศักยภาพ 2 แปลง บริเวณสถานีแม่น้ำย่านคลองเตยเนื้อที่รวมประมาณ 260 ไร่ มูลค่าที่ดินราว 1.04 หมื่นล้านบาท และบริเวณ กม.11ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอาคารศูนย์พลังงานแห่งชาติ (เอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์) ขนาด359 ไร่ มูลค่าที่ดิน 1.83หมื่นล้านบาท มาพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์เพื่อเร่งเพิ่มรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท.
ทั้งนี้เบื้องต้นอาจเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ระยะยาว30 ปี รวมกับระยะเวลาการก่อสร้างอีก 4 ปี รวมเป็น 34 ปี โดยโครงการนี้จะใช้วิธีเร่งรัดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(พีพีพี ฟาสแทร็ค) ซึ่งเตรียมเสนอให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตรผู้ว่าการรถไฟฯพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาความเหมาะสมของโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในส่วนของที่ดินทั้ง 2แปลงว่าจะสามารถแบ่งการพัฒนาออกเป็นรูปแบบใด
ตอนนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องศึกษาให้เสร็จในเดือนมี.ค.59ซึ่งจะเร็วกว่าปกติที่ต้องใช้เวลา 6 9 เดือนอย่างไรก็ดีการดำเนินงานหลังจากนี้จะเสนอผลการศึกษาให้กระทรวงพิจารณาก่อนเสนอเข้าสู่กระบวนการ พ.ร.บ. ร่วมทุนระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนพิจารณาหากได้รับความเห็นชอบ จะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ในปี 61
นายปานฑพ กล่าวว่า ในปี 54 ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.เคยทำการศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาที่ดิน 2 แปลงข้างต้นไว้แล้วแต่ระยะเวลาผ่านมาหลายปีข้อมูลเชิงธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทำให้ผลการศึกษาเดิมไม่ทันสมัย ร.ฟ.ท.จำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมใหม่เบื้องต้นจะศึกษาเกี่ยวกับจำนวนพื้นที่ที่จะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ชนิดและรูปแบบของธุรกิจที่เหมาะสมในการพัฒนาในพื้นที่แต่ละแปลง เช่น สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย พื้นที่นันทนาการ เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 11/01/2016 12:00 pm Post subject: |
|
|
มาร์เก็ตซาวดิ้งสถานีกลางบางซื่อ เอกชนจี้เร่งพัฒนารอทีโออาร์ลุ้นสร้างปี 61
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 7 ธันวาคม 2558
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,111 วันที่ 6 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558
โฉมใหม่สถานีกลางบางซื่อ
ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว ต่อกรณีการศึกษาความเหมาะสมด้านธุรกิจ การลงทุนและเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนต่อแนวคิดโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หลังจากนี้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาก็จะรวบรวมความเห็นก่อนส่งมอบผลการรับฟังความเห็นทั้งหมด เสนอต่อนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่ารฟท. เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟท. กระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)และคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ต่อไป
บิ๊กคมนาคมจี้ทีโออาร์เสร็จใน3 เดือน
ส่วนแผนการขับเคลื่อนหลังจากปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนแล้วนั้น นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้รฟท. เร่งจัดทำเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนี้ หลังจากนั้นจะเร่งนำเสนอขั้นตอนอื่นๆควบคู่กันไป เพื่อให้ทันต่อการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อที่กำหนดเปิดบริการในปี 2562
แนวคิดของการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็น ASEAIN Linkage and Business Hub : ศูนย์กลางธุรกิจและการเดินทางเชื่อมโยงในระดับอาเซียน ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 แปลง รวม 218 ไร่ ซึ่งนายออมสิน ต้องการให้รฟท. เร่งดำเนินการโดยพื้นที่แปลง A พื้นที่ 35 ไร่จะมีความพร้อมมากที่สุด
รองลงมาได้แก่แปลง B พื้นที่ 78 ไร่และแปลง D พื้นที่ 87.5 ไร่ส่วนแปลง C พื้นที่ 105 ไร่ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพในปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการจัดหาที่ดิน เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพแห่งใหม่และมีกำหนดย้ายออกจากพื้นที่ปัจจุบันในปี 2560 ก็จะเลื่อนการพัฒนาออกไปเป็นระยะที่ 2 เช่นเดียวกับแปลงกม.11 ย่านพหลโยธินที่อยู่ไม่ไกลจากแปลง C มากนัก ซึ่งหากจะพัฒนาพื้นที่จะต้องย้ายพนักงานรฟท. หลายร้อยครอบครัว ซึ่งคงต้องใช้เวลานานอีกหลายปีค่อยพัฒนาในระยะต่อไป
ทั้งนี้จากผลการศึกษาพื้นที่แปลง A ที่อยู่ใกล้สถานีกลางบางซื่อประมาณ 100 เมตร เหมาะสำหรับการพัฒนาโรงแรม รองรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าและที่จอดรถ ส่วนแปลง B ที่ติดกับถนนกำแพงเพชรนั้นอยู่ในระยะเดินเท้าจากสถานีกลางบางซื่อ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีกำแพงเพชร ซึ่งด้านล่างเป็นพื้นที่พ่วงรางรองรับการจอดรถไฟนั้น พื้นที่ด้านบนจึงเหมาะสำหรับพัฒนาเป็นแหล่งค้าปลีก ค้าส่ง Trading ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมรองรับในกลุ่มอาเซียน ส่วนแปลง C ตั้งอยู่บนพื้นที่ของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นเมืองใหม่ มีแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งทำงาน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เช่นเดียวกับแปลง D ที่แม้จะมีพื้นที่ 87.5 ไร่นอกเหนือจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิตกับสถานีกลางบางซื่อแล้วยังสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้านบนได้อีกด้วย
ทั้งนี้การเปิดรับฟังความเห็นภาคเอกชนครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา มีความเห็นว่าการดำเนินโครงการควรต้องเร่งพัฒนาโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อในปี 2562 และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการเดินรถหรือการก่อสร้างโครงการต่างๆได้ ซึ่ง รฟท. ต้องนำความเห็นต่างๆไปปรับปรุง และนำไปกำหนดไว้ในทีโออาร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการดังกล่าวนี้ต่อไป
ปี 60 เปิดเชิญชวนร่วมลงทุน
ด้าน รฟท. นั้น นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท. ยังได้ชี้ให้เห็นถึงมูลค่าโครงการที่มีการประเมินไว้ว่าส่วนของโซน A มีประมาณ 9,363 ล้านบาท โซน B ประมาณ 2.47 หมื่นล้านบาทและโซน C ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของ รฟท. แล้ว ยังช่วยยกระดับการบริการระบบรางทั้งเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากรถยนต์มาสู่ระบบรางในอนาคต ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเป็นผู้นำของอาเซียนได้เป็นอย่างดี
ส่วนความพร้อมของ รฟท. นั้น หลังจากนี้ก็จะเร่งพิจารณารายละเอียดของโครงการจากการระดมความเห็นเพื่อนำไปประกอบการร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ต่อไป คาดว่าในปี 2559 จะสามารถนำเสนอโครงการเข้าสู่กระบวนการของ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน(PPP:Public Private Partnership) เพื่อขออนุมัติ และในปี 2560 จะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน สรรหานักลงทุนเพิ่มและเริ่มพัฒนาโครงการด้านการก่อสร้างได้ในปี 2561 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 11/01/2016 2:20 pm Post subject: |
|
|
"บีทีเอสซี" จองที่ดินรถไฟ
โพสต์ทูเดย์
11 มกราคม 2559 เวลา 08:02 น.
รถไฟนำที่ดินมูลค่า 2.87 หมื่นล้าน เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน บีทีเอสเสือปืนไว โดย เสนอที่จะพัฒนาที่ดินรถไฟ แถวกม. 11 เป็นคอนโด 10 หลัง หมื่นยูนิต โดยเป็นสวัสดิการณ์ 5พันยูนิตและปล่อยเช่า 10-30 ปี สำหรับที่เหลือ ศูนย์การค้า แถว กม. 11 พร้อมโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากรแห่งใหม่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42702
Location: NECTEC
|
Posted: 12/01/2016 10:06 am Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.พลิกพัฒนาแปลงDนำร่อง2ทุนใหญ่จ่อชิง
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 12 มกราคม 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,121 วันที่ 10 13 มกราคม พ.ศ. 2559
ร.ฟ.ท.ปรับแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ ดันพื้นที่แปลง D ศูนย์เชื่อมต่อการเดินทาง นำร่องแทนแปลง A วางแผนเปิดใช้บริการปี 62 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนสนองนโยบายรัฐบาล จับตา 2 กลุ่มทุนใหญ่ระหว่าง BTS ผนึกเคทีของกทม. กับกลุ่มช.การช่างใช้ BEM เป็นหัวหอกร่วมวงแข่งประมูล หวังเชื่อมโยงรถไฟ MRT และสายสีม่วง
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า เตรียมนำเสนอแนวทางการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อแปลงโซน D พื้นที่ 87.5 ไร่ (1.4 แสนตร.ม.)โซนที่อยู่ติดกับตลาดนัดสวนจตุจักร ตรงข้ามองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) โดยจะสร้างให้เป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางนำมาพัฒนาก่อน เพื่อสนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนของรัฐบาล จากเดิมที่วางแผนพัฒนาแปลง A (หัวมุมสะพานดำ) แต่เนื่องจากมีความซับซ้อนในการดำเนินโครงการตามพ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 อาจใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่น้อยกว่า 3 ปีจึงนำเสนอแปลง D ให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการร.ฟ.ท.เร่งนำเสนอต่อคณะกรรมการร.ฟ.ท.และกระทรวงคมนาคมผลักดันโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาแปลง D เหมาะสำหรับการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนหลักทั้ง รถไฟฟ้าBTS และ MRT มายังสถานีกลางบางซื่อและพื้นที่พัฒนาโซนอื่นๆในโครงการสถานีกลางบางซื่อแห่งนี้ รูปแบบเป็นทางเดินสกายวอล์กรูปแบบใหม่ ที่จะมอบความรื่นรมย์และเพลิดเพลินแก่ผู้เดินทาง รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาขนส่งมวลชนระบบรอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรภายในไม่ให้ปะปนกับการเดินเท้าด้วย
โดยโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านบาท แผนพัฒนาเบื้องต้นจะก่อสร้างสกายวอล์ก เฟสแรกสำหรับเชื่อมรถไฟฟ้าBTSและ MRT มายังสถานีกลางบางซื่อ ส่วนระยะที่ 2 จะก่อสร้างรถไฟฟ้าระบบรองซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาออกแบบโครงการ ทั้งนี้หากสกายวอล์กมีความหนาแน่นในการใช้บริการมากขึ้น จึงจะพัฒนาระบบรองให้ต่อเนื่องเกิดประโยชน์ในการเชื่อมโยงกับพื้นที่โดยรอบในวงกว้างมากขึ้น
อยากให้จับตาว่ากลุ่มทุนรายใหญ่อย่างกลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) ที่ได้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM มาเป็นหัวหอกแข่งประมูลโครงการต่างๆ และอีก 1 กลุ่มคือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าBTSในปัจจุบัน จะร่วมมือกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที เข้าร่วมประมูลก่อสร้างโครงการในแปลง D เพื่อเชื่อมโยงสถานีกลางบางซื่อกับรถไฟฟ้าBTSได้อย่างลงตัว สามารถป้อนผู้โดยสารให้กับรถไฟฟ้า MRT และ BTS ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มBTSนั้นมีความหวังว่าจะได้เข้าไปประมูลพัฒนาพื้นที่โซนกม.11 -พหลโยธินที่ร.ฟ.ท.จะพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัยแนวสูงหลายยูนิตในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ได้เตรียมจัดสัมมนาเพื่อเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 นี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เสนอความเห็น ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากที่เปิดรับฟังแปลง A B C D ไปแล้วในปีที่ผ่านมา
รัฐบาลกำลังหาโปรเจ็กต์เพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ดังนั้นแนวคิดจึงเตรียมเชิญหลายฝ่ายมาร่วมเสนอแนะโดยจะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแกนหลักร่วมกับร.ฟ.ท. นอกจากนั้นยังมีกลุ่มทุนจีน และนักลงทุนอีกหลายชาติให้ความสนใจกรณีการพัฒนาลิงค์เกตดังกล่าว ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อที่มี มูลค่าโครงการกว่า 1.5 พันล้านบาท คิดว่าจะโดนใจนักลงทุนหลายคนแน่ๆ แม้ว่าระยะทางจะสั้นเพียง 1.5 กม.ก็ตาม แต่แผนการพัฒนาเชื่อมโยงไปยังจุดอื่นๆก็จะเกิดตามมาอย่างต่อเนื่องแหล่งข่าวกล่าว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/01/2016 8:19 am Post subject: |
|
|
งานใหญ่ "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" เร่งประมูลที่ดินปลดหนี้รถไฟแสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 15 ม.ค. 2559 เวลา 08:00:03 น.
ถึง "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเคยสัมผัสและคุ้นกับงานของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" มาร่วมปี นับจากนั่งเป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) แต่จนถึงวันนี้ "ออมสิน" ยังต้องเร่งเข็นงานโครงการต่าง ๆ จากองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสนธยาแห่งนี้จนเหนื่อย โดยเฉพาะงานใหญ่ที่รัฐบาลคาดหวังไว้มาก หลังได้รับความไว้วางใจให้กำกับดูแลการรถไฟฯอีกครั้ง
"ผมก็ตามงานกับการรถไฟฯทุกเรื่องที่เป็นเรื่องด่วน ทั้งการประมูลรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทางที่เหลือ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต งานสัญญาที่ 3 จัดซื้อระบบและขบวนรถที่ยังช้า ได้เร่งให้รีบเสนอมายังกระทรวงเพื่อจะได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพราะต้องขอขยายกรอบวงเงินที่เพิ่มขึ้นจาก 2.9 หมื่นล้านบาท เป็นกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพราะกลัวว่าดีเลย์แล้วจะไม่มีรถวิ่งเหมือนสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน"
ส่วนงานโครงการอื่นๆ "ออมสิน" แจงว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 44,157 ล้านบาท ขณะนี้การรถไฟฯยังไม่ได้เสนอโครงการมายังกระทรวงเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ
"โครงการนี้ท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก็เร่งรัด เพราะหากสร้างเสร็จจะช่วยแก้เรื่องจุดตัดและปัญหารถติดในเมืองได้"
ขณะที่การจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์7 ขบวน ยังไม่ได้รับการรายงานอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าการการรถไฟฯที่จะยกเลิกการจัดซื้อโครงการไป โดยส่วนตัวมองว่าการยกเลิกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อเสียคือเมื่อยกเลิกแล้วก็ต้องดำเนินการใหม่เสียเวลาไปจากเดิม คาดว่าปลายปี"61-62 จะได้รถใหม่มาวิ่งบริการ แต่ต้องเริ่มใหม่ใช้เวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี แต่ถ้าดำเนินการต่อก็ต้องตอบได้ทุกข้อที่ทุกคนสงสัย
"ถ้าสังคมไม่เคลียร์ ปัญหาก็ตามมา ถ้ายกเลิกก็มีโอกาสโดนฟ้องจากบริษัทที่เสนอราคามา ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี ในปีนี้คาดการณ์มีคนใช้ 7 หมื่นคน ขณะที่รถมาวิ่งบริการมีจอดเสียและต้องซ่อมอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ไม่เพียงพอ"
ส่วนโปรเจ็กต์ความร่วมมือรถไฟกับรัฐบาลจีนและญี่ปุ่น "ออมสิน" กล่าวว่า ความคืบหน้ารถไฟไทย-จีนล่าสุดจีนส่งรายงานผลการศึกษามาแล้ว ในเดือน ก.พ.นี้จะได้ข้อสรุปมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ซึ่งผมได้แนะนำเรื่องของผู้ใช้บริการ อยากให้วิเคราะห์ให้ดีเพราะเส้นทางรถไฟเดิมจากกรุงเทพฯ-หนองคายก็ยังมีการเดินรถ รถไฟฟรีก็มี ผู้มีรายได้น้อยก็คงไม่ขึ้นรถไฟความเร็วปานกลาง ยิ่งค่าโดยสารแพงกว่ารถไฟปัจจุบัน และแพงกว่าสายการบินโลว์คอสต์ สถานการณ์จะคล้ายกับรถ บขส.ที่โวยวายอยู่ทุกวัน คิดว่าผู้โดยสารที่มีอยู่ไม่เพิ่มมากกว่านี้
เช่นเดียวกับรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ให้พิจารณาเรื่องผู้โดยสารด้วยเช่นกัน เพราะมองว่าผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นกลุ่มผู้โดยสารเดิมอยู่แล้ว จะไม่มีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่ม ถึงเพิ่มก็ไม่มาก แต่เพราะโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ยังไงคงต้องทำ คาดว่าเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟไทย-จีนเดือน พ.ค. 2559 นี้จากกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา ส่วนรถไฟไทย-ญี่ปุ่นจะเริ่มทดลองเดินรถขนส่งสินค้าวันที่ 27 ม.ค.นี้ เส้นทางจากกาญจนบุรี-แหลมฉบัง
ขณะเดียวกัน อีกภารกิจที่ "ออมสิน" กำลังเร่งรัดการรถไฟฯ คือ การเปิดประมูลพัฒนาที่ดิน 3 แปลงใหญ่ใจกลางเมือง ได้แก่ สถานีแม่น้ำ สถานีกลางบางซื่อ และย่าน กม.11
"ขณะนี้รถไฟกำลังจ้างที่ปรึกษา ศึกษาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี′56 จะส่งรายงานประมาณเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะเสนอโครงการเข้าคณะกรรมการ PPP เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของ PPP Fast Track จะใช้เวลา 9 เดือน คาดว่าสิ้นปีจะประมูลให้สัมปทานเอกชนพัฒนา 30 ปี ต่อได้อีก 30 ปี เริ่มจากแปลงสถานีกลางบางซื่อก่อน เพื่อรับรถไฟสายสีแดง จากนั้นเป็นสถานีแม่น้ำ ส่วนย่าน กม.11 จะเป็นแปลงสุดท้ายเพราะรอย้ายคนออกจากพื้นที่"
"ออมสิน" ย้ำว่า หากที่ดิน 3 แปลงนี้ประมูลสำเร็จ จะสามารถปลดภาระหนี้การรถไฟฯได้ จากค่าธรรมเนียมที่ผู้ประมูลได้จะต้องจ่ายล่วงหน้าให้ ซึ่งการปลดหนี้การรถไฟฯมีอยู่ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ได้จากกระทรวงการคลังกว่า 6 หมื่นล้านบาทจากที่ดินมักกะสัน อีกทั้งยังมีการรับโอนหนี้จากแอร์พอรต์ลิงก์อีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท จะเหลือหนี้อีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากประมูลที่ดิน 3 แปลงนี้ได้ เท่ากับปลดหนี้การรถไฟฯได้หมด |
|
Back to top |
|
|
|