RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262371
ทั้งหมด:13573651
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 121, 122, 123 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 22/12/2015 5:41 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เล็งแผนพัฒนาที่ดินปู่โสม
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
22 ธันวาคม 2558 เวลา 05:15





นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ในแผนฟื้นฟูกู้วิกฤติการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้น ทางรถไฟได้มีการเสนอแผนให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ไปเมื่อเดือน พ.ย.58 ที่ผ่านมา โดยหลักๆแผนฟื้นฟูจะเน้นสนับสนุนให้

ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของประเด็นจัดสรรที่ดินของรถไฟกว่า 200,000 ไร่ทั่วประเทศ เบื้องต้นจะมีการดำเนินการในพื้นที่แปลงใหญ่ของ ร.ฟ.ท.ที่ปัจจุบันมีศักยภาพในการพัฒนาขึ้นเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์จำนวน 3 แปลงก่อน คือ พื้นที่พหลโยธิน, สถานีแม่น้ำ และพื้นที่ กม.11 โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นการเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ หรือพีพีพี

ทั้งนี้ พื้นที่ที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนนั้น ทางรถไฟได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้ศึกษามูลค่าการลงทุนในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียด ซึ่งเดือน ก.พ.59 ทางบริษัทที่ปรึกษาจะสรุปรายละเอียดส่งกลับมายังรถไฟอีกครั้ง เชื่อมั่นว่ารถไฟได้เดินมาถูกทาง เพราะนอกจากแนวทางการพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้แล้ว รถไฟยังได้ปรับปรุงทางรถไฟ ปรับปรุงขบวนรถ และมีแผนลงทุนทางคู่ทั่วประเทศด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 27/12/2015 11:25 pm    Post subject: Reply with quote

พลิกโฉม 'หัวลำโพง' สู่พิพิธภัณฑ์รถไฟ
by Wanpen Taewutom
27 ธันวาคม 2558 เวลา 11:55 น.
http://news.voicetv.co.th/thailand/304068.html
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 28/12/2015 2:43 am    Post subject: Reply with quote

บี้รฟท.เร่งโอนที่มักกะสัน ธนารักษ์ส่งซิกคนร.กดดัน
ไทยโพสต์
28ธันวาคม 2558 เวลา - 00:00
ธนารักษ์เตรียมอ้อน คนร. บี้ รฟท.โอนที่ดินมักกะสันล้างหนี้ 6 หมื่นล้านบาท พร้อมกำหนดแผนลงทุนครบวงจร

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาที่ราชพัสดุย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่จะโอนให้กระทรวงการคลังนำมาเช่าพัฒนาในเชิงพาณิชย์บนพื้นที่จำนวน 479 ไร่ มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการใช้หนี้ที่มีอยู่กว่า 1 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้าในการโอนพื้นที่ดังกล่าวจาก รฟท. ทำให้กระทรวงการคลังจะขอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด เร่ง รฟท.โอนที่โดยเร็วที่สุด เพื่อนำมาพัฒนาและให้เกิดการลงทุนกับเอกชนตามแผนดำเนินงานต่อไป

ทั้งนี้ หลังจาก รฟท.โอนที่แล้ว กระทรวงการคลังจะกำหนดแผนการลงทุน เพื่อเปิดทางให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ โดยระหว่างนี้จะพิจารณาสัดส่วนบนพื้นที่ทั้งหมดของโครงการที่จะนำมาพัฒนาว่าจะต้องมีสัดส่วนเท่าไรทั้งเชิงพาณิชย์ โรงแรม อาคารสำนักงาน และสวนสาธารณะ จากพื้นที่ทั้งหมด 479 ไร่ มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ภายใต้สัญญาเช่ากรณีรัฐกับรัฐ 99 ปี จาก 50 ปี และกรณีรัฐให้เอกชนเช่าที่ของรัฐ 50 ปี จาก 30 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เอกชนสนใจเข้าร่วมลงทุนมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ได้แจ้งกับทาง รฟท. ให้เร่งส่งมอบพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ให้เร็วขึ้น จากเดิมส่วนแรกที่จะต้องโอน 140 ไร่ ระยะเวลาโอนภายใน 2 ปี ก็ปรับให้โอนภายใน 1 ปีครึ่ง และส่วนที่สอง 170 ไร่ จากเดิมจะโอนภายใน 5 ปี ก็ให้โอนภายใน 2-3 ปี เพื่อจะได้นำที่มาให้เอกชนเช่าลงทุนได้ไวขึ้น

อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ยังมีแผนบริหารจัดการที่ราชพัสดุในปี 2559 ให้เกิดประสิทธิภาพทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ประโยชน์ในส่วนราชการ ซึ่งจะเสนอเป็นแผนใหญ่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการระดมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/01/2016 4:18 pm    Post subject: Reply with quote

ฝันสลาย!! ส่องกล้องดูห้องนิรภัยที่ทุ่งสง นครศรี เจอแค่กล่อง ไร้ขุมทรัพย์
ข่าวสด วันที่ 07 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:45 น.

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่เทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายทศพร จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมนายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเทศบางเมืองทุ่งสง เจ้าหน้าที่กดารรถไฟ และพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ประชุมพิจารณาเปิดห้องนิรภัยโบราณ ในอาคารเก่าอายุกว่า 100 ปี ของสถานีชุมทางรถไฟทุ่งสง เพื่อแผนการโครงการพัฒนามูลค่าทางวัฒนธรรมเมืองทุ่งสง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้เทศบาลเมืองทุ่งสงเช่าอาคารรับส่งสินค้าหลังเก่า ปรับปรุงเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

ในที่ประชุมมีมติให้ใช้กล้องบันทึกภาพขนาดเล็กส่องเข้าไปตรวจสอบภายในตู้นิรภัยเพื่อดูว่ามีสิ่งของอะไรอยู่บ้าง หากมีสิ่งของอยู่ภายในก็จะให้ช่างกุญแจมาทำการเปิด จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่อาคารรับส่งสินค้า ชุมทางรถไฟทุ่งสงพร้อมช่างส่องกล้อง โดยมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจติดตามดูการปฏิบัติงาน หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ช่างกล้องได้นำภาพถ่ายที่บันทึกภาพภายในตู้นิรภัยมาให้ทุกคนดู พบว่ามีกล่องไม้ตั้งอยู่ 1 ใบ และกล่องเหล็กใบเล็ก 1 ใบ คล้ายกล่องเครื่องมือช่างวางอยู่คนละมุมห้องอีก 1 ใบ

ทั้งนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่าภายในกล่องไม้และกล่องเหล็กนั้นมีอะไรอยู่ภายใน ขณะที่คณะที่มาร่วมตรวจสอบระบุว่า ภายในกล่องไม่น่าจะมีอะไรบรรจุอยู่ ก่อนจะยกเลิกการตรวจสอบโดยไม่ต้องให้ช่างกุญแจเปิดประตูนิรภัยแต่อย่างใด เนื่องจากทุกฝ่ายเห็นว่ามีความชัดเจนแล้วว่าไม่น่าจะมีอะไรไปมากกว่านี้ ส่วนกล่องปริศนาที่อยู่ภายในตู้นิรภัยโบราณนั้นปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไป ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านที่รวมทั้งผู้สนใจที่เดินทางมาดูกันจนแน่นอาคาร และผู้คนที่เดินทางมาดูอยากจะให้ตรวจสอบภาในกล่อง 2 ใบนั้นว่ามีอะไรอยู่ แต่ไม่เป็นผล

ขณะที่นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า หลังตรวจสอบแล้วมีเพียงกล่องไม้กับกล่องเหล็กซึ่งไม่น่าจะมีอะไร จากนี้ไปจะเข้าสู่แผนงานของเทศบาลทำการศึกษาออกแบบโครงสร้าง ตั้งงบประมาณปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรมตามที่ออกแบบไว้แล้ว ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ดำเนินการตกแต่งภายในอาคารให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวางแผน โดยจะไม่เปิดตู้นิรภัยและคงปล่อยไว้อย่างนั้น

สำหรับประชาชนที่ต้องการรู้ว่าภายในตู้นิรภัย มีอะไร เทศบาลเมืองทุ่งสงฯ จะจัดทำคลิปการตรวจสอบ เผยแพร่ไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ระบบไลน์ หรือที่หน้าเว็บไซต์เทศบาลเมืองทุ่งสง ส่วนภายในกล่องสองใบมีอะไรอยู่นั้น อยากทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาต่อไป หลังจากการปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จ จะมีระบบกล้องวงจรปิด ให้ผู้สนใจหรือนักท่องเที่ยวกดเพื่อเปิดดูภาพภายในตู้นิรภัย ถือเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทุ่งสงต่อไปด้วย นางทรงชัย กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 08/01/2016 11:21 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ฝันสลาย!! ส่องกล้องดูห้องนิรภัยที่ทุ่งสง นครศรี เจอแค่กล่อง ไร้ขุมทรัพย์
ข่าวสด วันที่ 07 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:45 น.


อะโห ตอนที่เขาปิดสาขาทุ่งสงนั้น เขาต้องขนทรัพย์ออกไปหมด

ปิดไว้เป็นปริศนา! ตู้เซฟแบงก์สยามกัมมาจล เทศบาลฯทุ่งสง เดินหน้าพิพิธภัณฑ์ งบ 10 ล้าน


โดย MGR Online

7 มกราคม 2559 19:02 น. (แก้ไขล่าสุด 8 มกราคม 2559 08:50 น.)

ปิดไว้เป็นปริศนา! ตู้เซฟแบงก์สยามกัมมาจล เทศบาลฯทุ่งสง เดินหน้าพิพิธภัณฑ์ งบ 10 ล้าน


นครศรีธรรมราช - ผลการตรวจสอบตู้นิรภัยในอาคารเก่าแก่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ อ.ทุ่งสง หลังจากใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปตรวจสอบพบมีกล่อง 2 ใบอยู่ข้างใน นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง ระบุจะเดินหน้าปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมือง ส่วนกล่อง 2 ใบจะปล่อยไว้ให้เป็นปริศนาให้ผู้เข้าเยี่ยมชมขบคิด

วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายทศพร จันทรประวัติ นายอำเภอทุ่งสง เป็นประธานการประชุมพิจารณาเปิดห้องนิรภัยอาคารเก่า สถานีชุมทางรถไฟทุ่งสง ที่ห้องประชุม อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มี นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง พร้อมเจ้าหน้าที่ นายชัยฤกษ์ เลิศเสรีกุล ผู้อำนวยการภาคใต้ ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมพนักงานธนาคารกว่า 20 คน เข้าร่วมประชุม รับฟังแผนการโครงการพัฒนามูลค่าทางวัฒนธรรมเมืองทุ่งสง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้เทศบาลเมืองทุ่งสงเช่าอาคารที่ทำการรับส่งสินค้าหลังเก่า ปรับปรุงเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รับฟังแผนพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย


นายอำเภอทุ่งสง กล่าวว่า ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งช่างผู้ชำนาญการมาประชุม เพื่อซักซ้อมรายละเอียด เพื่อตรวจสอบตู้นิรภัย หากเปิดได้จะทำการเปิด หากช่างกุญแจเปิดไม่ได้ จะชะลอเอาไว้ก่อน การดำเนินการจะทำอย่างโปร่งใส เชิญทุกฝ่ายร่วมเป็นพยาน ที่ประชุมมีมติใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปในตู้นิรภัยเพื่อตรวจสอบเบื้องต้นว่าในตู้นิรภัยมีสิ่งของหรือไม่ หากมีสิ่งของอยู่ภายในจะให้ช่างกุญแจมาทำการเปิด

จากนั้น นายอำเภอทุ่งสง พร้อมคณะทั้งหมด รวมทั้งช่างส่องกล้องเดินทางไปที่อาคารที่ทำการรับส่งสินค้าที่อยู่ติดกับชุมทางรถไฟทุ่งสง ในอดีตเป็นที่ตั้งของแบงก์สยามกัมมาจล โดยมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจติดตามดูการปฏิบัติงาน หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ช่างกล้องได้นำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ แสดงภาพถ่ายให้ทุกคนดู พบว่า ข้างในตู้นิรภัยมีหีบไม้ใบไม่ใหญ่มากนัก 1 ใบ และหีบเหล็กใบเล็ก 1 ใบ คล้ายกล่องเครื่องมือช่างวางอยู่คนละมุมห้อง และมีเศษกระดาษอยู่บนพื้นห้อง

นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กล่าวว่า จากนี้ไปจะเข้าสู่แผนงานของเทศบาล ศึกษาออกแบบโครงสร้าง ตั้งงบประมาณปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรมตามที่ออกแบบไว้แล้ว ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ภายในอาคารให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวางแผน และจะไม่เปิดตู้นิรภัย

สำหรับประชาชนที่ต้องการรู้ว่าภายในตู้นิรภัยมีอะไร เทศบาลเมืองทุ่งสงฯ จะจัดทำคลิปการตรวจสอบเผยแพร่ไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ระบบไลน์ หรือที่หน้าเว็บไซด์เทศบาลเมืองทุ่งสง ส่วนภายในกล่อง 2 ใบมีอะไรอยู่นั้น อยากทิ้งไว้ให้เป็นปริศนา หลังจากการปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จจะมีระบบกล้องวงจรปิดให้ผู้สนใจ หรือนักท่องเที่ยวกดเพื่อเปิดดูภาพภายในตู้นิรภัย ถือเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทุ่งสง

ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกะ กับแบงก์สยามกัมมาจล ที่ทุ่งสง นั้นดูเรื่องราว ที่ คุณ อาภรณ์ กฤษณามระ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์สมัยที่ยังทำงานเป็นผู้จัดการ แบงก์สยามกัมมาจล ที่ทุ่งสง ได้ที่นี่
http://www.tungsong.com/museum/index.htm
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2016 11:58 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฯขุดกรุเปิดเช่าทำเลทอง
เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2559 เวลา 20:30 น.

การรถไฟฯ เปิดเช่าสมบัติเก่า ที่ดินสถานีแม่น้ำ และกม.11 ยาว 34 ปี ให้เอกชนร่วมลงทุนฟาสต์แทร็ก ขนาดเร่งเร็วยังต้องรอปี 61


นายปานฑพ มาลากุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาที่ดินเพื่อการพาณิชย์ของ ร.ฟ.ท.ว่าขณะนี้เตรียมนำที่ดินที่มีศักยภาพ 2 แปลง บริเวณสถานีแม่น้ำย่านคลองเตยเนื้อที่รวมประมาณ 260 ไร่ มูลค่าที่ดินราว 1.04 หมื่นล้านบาท และบริเวณ กม.11ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอาคารศูนย์พลังงานแห่งชาติ (เอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์) ขนาด359 ไร่ มูลค่าที่ดิน 1.83หมื่นล้านบาท มาพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์เพื่อเร่งเพิ่มรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท.

ทั้งนี้เบื้องต้นอาจเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ระยะยาว30 ปี รวมกับระยะเวลาการก่อสร้างอีก 4 ปี รวมเป็น 34 ปี โดยโครงการนี้จะใช้วิธีเร่งรัดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(พีพีพี ฟาสแทร็ค) ซึ่งเตรียมเสนอให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตรผู้ว่าการรถไฟฯพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาความเหมาะสมของโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในส่วนของที่ดินทั้ง 2แปลงว่าจะสามารถแบ่งการพัฒนาออกเป็นรูปแบบใด

“ตอนนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องศึกษาให้เสร็จในเดือนมี.ค.59ซึ่งจะเร็วกว่าปกติที่ต้องใช้เวลา 6 – 9 เดือนอย่างไรก็ดีการดำเนินงานหลังจากนี้จะเสนอผลการศึกษาให้กระทรวงพิจารณาก่อนเสนอเข้าสู่กระบวนการ พ.ร.บ. ร่วมทุนระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนพิจารณาหากได้รับความเห็นชอบ จะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ในปี 61”

นายปานฑพ กล่าวว่า ในปี 54 ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.เคยทำการศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาที่ดิน 2 แปลงข้างต้นไว้แล้วแต่ระยะเวลาผ่านมาหลายปีข้อมูลเชิงธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทำให้ผลการศึกษาเดิมไม่ทันสมัย ร.ฟ.ท.จำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมใหม่เบื้องต้นจะศึกษาเกี่ยวกับจำนวนพื้นที่ที่จะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ชนิดและรูปแบบของธุรกิจที่เหมาะสมในการพัฒนาในพื้นที่แต่ละแปลง เช่น สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย พื้นที่นันทนาการ เป็นต้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2016 12:00 pm    Post subject: Reply with quote

มาร์เก็ตซาวดิ้งสถานีกลางบางซื่อ เอกชนจี้เร่งพัฒนารอทีโออาร์ลุ้นสร้างปี 61
โดย ฐานเศรษฐกิจ -

ออนไลน์เมื่อ 7 ธันวาคม 2558
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,111 วันที่ 6 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558
โฉมใหม่สถานีกลางบางซื่อ
ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว ต่อกรณีการศึกษาความเหมาะสมด้านธุรกิจ การลงทุนและเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนต่อแนวคิดโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หลังจากนี้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาก็จะรวบรวมความเห็นก่อนส่งมอบผลการรับฟังความเห็นทั้งหมด เสนอต่อนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่ารฟท. เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟท. กระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)และคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ต่อไป

บิ๊กคมนาคมจี้ทีโออาร์เสร็จใน3 เดือน

ส่วนแผนการขับเคลื่อนหลังจากปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนแล้วนั้น นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้รฟท. เร่งจัดทำเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนี้ หลังจากนั้นจะเร่งนำเสนอขั้นตอนอื่นๆควบคู่กันไป เพื่อให้ทันต่อการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อที่กำหนดเปิดบริการในปี 2562

แนวคิดของการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็น “ASEAIN Linkage and Business Hub : ศูนย์กลางธุรกิจและการเดินทางเชื่อมโยงในระดับอาเซียน” ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 แปลง รวม 218 ไร่ ซึ่งนายออมสิน ต้องการให้รฟท. เร่งดำเนินการโดยพื้นที่แปลง A พื้นที่ 35 ไร่จะมีความพร้อมมากที่สุด

รองลงมาได้แก่แปลง B พื้นที่ 78 ไร่และแปลง D พื้นที่ 87.5 ไร่ส่วนแปลง C พื้นที่ 105 ไร่ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพในปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการจัดหาที่ดิน เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพแห่งใหม่และมีกำหนดย้ายออกจากพื้นที่ปัจจุบันในปี 2560 ก็จะเลื่อนการพัฒนาออกไปเป็นระยะที่ 2 เช่นเดียวกับแปลงกม.11 ย่านพหลโยธินที่อยู่ไม่ไกลจากแปลง C มากนัก ซึ่งหากจะพัฒนาพื้นที่จะต้องย้ายพนักงานรฟท. หลายร้อยครอบครัว ซึ่งคงต้องใช้เวลานานอีกหลายปีค่อยพัฒนาในระยะต่อไป

ทั้งนี้จากผลการศึกษาพื้นที่แปลง A ที่อยู่ใกล้สถานีกลางบางซื่อประมาณ 100 เมตร เหมาะสำหรับการพัฒนาโรงแรม รองรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าและที่จอดรถ ส่วนแปลง B ที่ติดกับถนนกำแพงเพชรนั้นอยู่ในระยะเดินเท้าจากสถานีกลางบางซื่อ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีกำแพงเพชร ซึ่งด้านล่างเป็นพื้นที่พ่วงรางรองรับการจอดรถไฟนั้น พื้นที่ด้านบนจึงเหมาะสำหรับพัฒนาเป็นแหล่งค้าปลีก – ค้าส่ง Trading ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมรองรับในกลุ่มอาเซียน ส่วนแปลง C ตั้งอยู่บนพื้นที่ของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นเมืองใหม่ มีแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งทำงาน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เช่นเดียวกับแปลง D ที่แม้จะมีพื้นที่ 87.5 ไร่นอกเหนือจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิตกับสถานีกลางบางซื่อแล้วยังสามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้านบนได้อีกด้วย

ทั้งนี้การเปิดรับฟังความเห็นภาคเอกชนครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา มีความเห็นว่าการดำเนินโครงการควรต้องเร่งพัฒนาโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อในปี 2562 และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการเดินรถหรือการก่อสร้างโครงการต่างๆได้ ซึ่ง รฟท. ต้องนำความเห็นต่างๆไปปรับปรุง และนำไปกำหนดไว้ในทีโออาร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการดังกล่าวนี้ต่อไป

ปี 60 เปิดเชิญชวนร่วมลงทุน

ด้าน รฟท. นั้น นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท. ยังได้ชี้ให้เห็นถึงมูลค่าโครงการที่มีการประเมินไว้ว่าส่วนของโซน A มีประมาณ 9,363 ล้านบาท โซน B ประมาณ 2.47 หมื่นล้านบาทและโซน C ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของ รฟท. แล้ว ยังช่วยยกระดับการบริการระบบรางทั้งเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากรถยนต์มาสู่ระบบรางในอนาคต ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเป็นผู้นำของอาเซียนได้เป็นอย่างดี

ส่วนความพร้อมของ รฟท. นั้น หลังจากนี้ก็จะเร่งพิจารณารายละเอียดของโครงการจากการระดมความเห็นเพื่อนำไปประกอบการร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ต่อไป คาดว่าในปี 2559 จะสามารถนำเสนอโครงการเข้าสู่กระบวนการของ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน(PPP:Public Private Partnership) เพื่อขออนุมัติ และในปี 2560 จะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน สรรหานักลงทุนเพิ่มและเริ่มพัฒนาโครงการด้านการก่อสร้างได้ในปี 2561
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2016 2:20 pm    Post subject: Reply with quote

"บีทีเอสซี" จองที่ดินรถไฟ
โพสต์ทูเดย์
11 มกราคม 2559 เวลา 08:02 น.

รถไฟนำที่ดินมูลค่า 2.87 หมื่นล้าน เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน บีทีเอสเสือปืนไว โดย เสนอที่จะพัฒนาที่ดินรถไฟ แถวกม. 11 เป็นคอนโด 10 หลัง หมื่นยูนิต โดยเป็นสวัสดิการณ์ 5พันยูนิตและปล่อยเช่า 10-30 ปี สำหรับที่เหลือ ศูนย์การค้า แถว กม. 11 พร้อมโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากรแห่งใหม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 12/01/2016 10:06 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.พลิกพัฒนาแปลงDนำร่อง2ทุนใหญ่จ่อชิง
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 12 มกราคม 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,121 วันที่ 10 – 13 มกราคม พ.ศ. 2559


ร.ฟ.ท.ปรับแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ ดันพื้นที่แปลง D ศูนย์เชื่อมต่อการเดินทาง นำร่องแทนแปลง A วางแผนเปิดใช้บริการปี 62 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนสนองนโยบายรัฐบาล จับตา 2 กลุ่มทุนใหญ่ระหว่าง BTS ผนึกเคทีของกทม. กับกลุ่มช.การช่างใช้ BEM เป็นหัวหอกร่วมวงแข่งประมูล หวังเชื่อมโยงรถไฟ MRT และสายสีม่วง

แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เตรียมนำเสนอแนวทางการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อแปลงโซน D พื้นที่ 87.5 ไร่ (1.4 แสนตร.ม.)โซนที่อยู่ติดกับตลาดนัดสวนจตุจักร ตรงข้ามองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) โดยจะสร้างให้เป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางนำมาพัฒนาก่อน เพื่อสนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนของรัฐบาล จากเดิมที่วางแผนพัฒนาแปลง A (หัวมุมสะพานดำ) แต่เนื่องจากมีความซับซ้อนในการดำเนินโครงการตามพ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 อาจใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่น้อยกว่า 3 ปีจึงนำเสนอแปลง D ให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการร.ฟ.ท.เร่งนำเสนอต่อคณะกรรมการร.ฟ.ท.และกระทรวงคมนาคมผลักดันโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาแปลง D เหมาะสำหรับการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนหลักทั้ง รถไฟฟ้าBTS และ MRT มายังสถานีกลางบางซื่อและพื้นที่พัฒนาโซนอื่นๆในโครงการสถานีกลางบางซื่อแห่งนี้ รูปแบบเป็นทางเดินสกายวอล์กรูปแบบใหม่ ที่จะมอบความรื่นรมย์และเพลิดเพลินแก่ผู้เดินทาง รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาขนส่งมวลชนระบบรอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรภายในไม่ให้ปะปนกับการเดินเท้าด้วย

โดยโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านบาท แผนพัฒนาเบื้องต้นจะก่อสร้างสกายวอล์ก เฟสแรกสำหรับเชื่อมรถไฟฟ้าBTSและ MRT มายังสถานีกลางบางซื่อ ส่วนระยะที่ 2 จะก่อสร้างรถไฟฟ้าระบบรองซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาออกแบบโครงการ ทั้งนี้หากสกายวอล์กมีความหนาแน่นในการใช้บริการมากขึ้น จึงจะพัฒนาระบบรองให้ต่อเนื่องเกิดประโยชน์ในการเชื่อมโยงกับพื้นที่โดยรอบในวงกว้างมากขึ้น

“อยากให้จับตาว่ากลุ่มทุนรายใหญ่อย่างกลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) ที่ได้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM มาเป็นหัวหอกแข่งประมูลโครงการต่างๆ และอีก 1 กลุ่มคือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าBTSในปัจจุบัน จะร่วมมือกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที เข้าร่วมประมูลก่อสร้างโครงการในแปลง D เพื่อเชื่อมโยงสถานีกลางบางซื่อกับรถไฟฟ้าBTSได้อย่างลงตัว สามารถป้อนผู้โดยสารให้กับรถไฟฟ้า MRT และ BTS ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มBTSนั้นมีความหวังว่าจะได้เข้าไปประมูลพัฒนาพื้นที่โซนกม.11 -พหลโยธินที่ร.ฟ.ท.จะพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัยแนวสูงหลายยูนิตในเร็วๆนี้”

ทั้งนี้ได้เตรียมจัดสัมมนาเพื่อเปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 นี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เสนอความเห็น ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากที่เปิดรับฟังแปลง A B C D ไปแล้วในปีที่ผ่านมา

“รัฐบาลกำลังหาโปรเจ็กต์เพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ดังนั้นแนวคิดจึงเตรียมเชิญหลายฝ่ายมาร่วมเสนอแนะโดยจะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแกนหลักร่วมกับร.ฟ.ท. นอกจากนั้นยังมีกลุ่มทุนจีน และนักลงทุนอีกหลายชาติให้ความสนใจกรณีการพัฒนาลิงค์เกตดังกล่าว ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อที่มี มูลค่าโครงการกว่า 1.5 พันล้านบาท คิดว่าจะโดนใจนักลงทุนหลายคนแน่ๆ แม้ว่าระยะทางจะสั้นเพียง 1.5 กม.ก็ตาม แต่แผนการพัฒนาเชื่อมโยงไปยังจุดอื่นๆก็จะเกิดตามมาอย่างต่อเนื่อง”แหล่งข่าวกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/01/2016 8:19 am    Post subject: Reply with quote

งานใหญ่ "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" เร่งประมูลที่ดินปลดหนี้รถไฟแสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 15 ม.ค. 2559 เวลา 08:00:03 น.

ถึง "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเคยสัมผัสและคุ้นกับงานของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" มาร่วมปี นับจากนั่งเป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) แต่จนถึงวันนี้ "ออมสิน" ยังต้องเร่งเข็นงานโครงการต่าง ๆ จากองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสนธยาแห่งนี้จนเหนื่อย โดยเฉพาะงานใหญ่ที่รัฐบาลคาดหวังไว้มาก หลังได้รับความไว้วางใจให้กำกับดูแลการรถไฟฯอีกครั้ง

"ผมก็ตามงานกับการรถไฟฯทุกเรื่องที่เป็นเรื่องด่วน ทั้งการประมูลรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทางที่เหลือ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต งานสัญญาที่ 3 จัดซื้อระบบและขบวนรถที่ยังช้า ได้เร่งให้รีบเสนอมายังกระทรวงเพื่อจะได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพราะต้องขอขยายกรอบวงเงินที่เพิ่มขึ้นจาก 2.9 หมื่นล้านบาท เป็นกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพราะกลัวว่าดีเลย์แล้วจะไม่มีรถวิ่งเหมือนสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน"

ส่วนงานโครงการอื่นๆ "ออมสิน" แจงว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 44,157 ล้านบาท ขณะนี้การรถไฟฯยังไม่ได้เสนอโครงการมายังกระทรวงเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ

"โครงการนี้ท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก็เร่งรัด เพราะหากสร้างเสร็จจะช่วยแก้เรื่องจุดตัดและปัญหารถติดในเมืองได้"

ขณะที่การจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์7 ขบวน ยังไม่ได้รับการรายงานอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าการการรถไฟฯที่จะยกเลิกการจัดซื้อโครงการไป โดยส่วนตัวมองว่าการยกเลิกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อเสียคือเมื่อยกเลิกแล้วก็ต้องดำเนินการใหม่เสียเวลาไปจากเดิม คาดว่าปลายปี"61-62 จะได้รถใหม่มาวิ่งบริการ แต่ต้องเริ่มใหม่ใช้เวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี แต่ถ้าดำเนินการต่อก็ต้องตอบได้ทุกข้อที่ทุกคนสงสัย

"ถ้าสังคมไม่เคลียร์ ปัญหาก็ตามมา ถ้ายกเลิกก็มีโอกาสโดนฟ้องจากบริษัทที่เสนอราคามา ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี ในปีนี้คาดการณ์มีคนใช้ 7 หมื่นคน ขณะที่รถมาวิ่งบริการมีจอดเสียและต้องซ่อมอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ไม่เพียงพอ"

ส่วนโปรเจ็กต์ความร่วมมือรถไฟกับรัฐบาลจีนและญี่ปุ่น "ออมสิน" กล่าวว่า ความคืบหน้ารถไฟไทย-จีนล่าสุดจีนส่งรายงานผลการศึกษามาแล้ว ในเดือน ก.พ.นี้จะได้ข้อสรุปมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ซึ่งผมได้แนะนำเรื่องของผู้ใช้บริการ อยากให้วิเคราะห์ให้ดีเพราะเส้นทางรถไฟเดิมจากกรุงเทพฯ-หนองคายก็ยังมีการเดินรถ รถไฟฟรีก็มี ผู้มีรายได้น้อยก็คงไม่ขึ้นรถไฟความเร็วปานกลาง ยิ่งค่าโดยสารแพงกว่ารถไฟปัจจุบัน และแพงกว่าสายการบินโลว์คอสต์ สถานการณ์จะคล้ายกับรถ บขส.ที่โวยวายอยู่ทุกวัน คิดว่าผู้โดยสารที่มีอยู่ไม่เพิ่มมากกว่านี้

เช่นเดียวกับรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ให้พิจารณาเรื่องผู้โดยสารด้วยเช่นกัน เพราะมองว่าผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นกลุ่มผู้โดยสารเดิมอยู่แล้ว จะไม่มีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่ม ถึงเพิ่มก็ไม่มาก แต่เพราะโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ยังไงคงต้องทำ คาดว่าเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟไทย-จีนเดือน พ.ค. 2559 นี้จากกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา ส่วนรถไฟไทย-ญี่ปุ่นจะเริ่มทดลองเดินรถขนส่งสินค้าวันที่ 27 ม.ค.นี้ เส้นทางจากกาญจนบุรี-แหลมฉบัง

ขณะเดียวกัน อีกภารกิจที่ "ออมสิน" กำลังเร่งรัดการรถไฟฯ คือ การเปิดประมูลพัฒนาที่ดิน 3 แปลงใหญ่ใจกลางเมือง ได้แก่ สถานีแม่น้ำ สถานีกลางบางซื่อ และย่าน กม.11

"ขณะนี้รถไฟกำลังจ้างที่ปรึกษา ศึกษาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี′56 จะส่งรายงานประมาณเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะเสนอโครงการเข้าคณะกรรมการ PPP เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของ PPP Fast Track จะใช้เวลา 9 เดือน คาดว่าสิ้นปีจะประมูลให้สัมปทานเอกชนพัฒนา 30 ปี ต่อได้อีก 30 ปี เริ่มจากแปลงสถานีกลางบางซื่อก่อน เพื่อรับรถไฟสายสีแดง จากนั้นเป็นสถานีแม่น้ำ ส่วนย่าน กม.11 จะเป็นแปลงสุดท้ายเพราะรอย้ายคนออกจากพื้นที่"

"ออมสิน" ย้ำว่า หากที่ดิน 3 แปลงนี้ประมูลสำเร็จ จะสามารถปลดภาระหนี้การรถไฟฯได้ จากค่าธรรมเนียมที่ผู้ประมูลได้จะต้องจ่ายล่วงหน้าให้ ซึ่งการปลดหนี้การรถไฟฯมีอยู่ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ได้จากกระทรวงการคลังกว่า 6 หมื่นล้านบาทจากที่ดินมักกะสัน อีกทั้งยังมีการรับโอนหนี้จากแอร์พอรต์ลิงก์อีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท จะเหลือหนี้อีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากประมูลที่ดิน 3 แปลงนี้ได้ เท่ากับปลดหนี้การรถไฟฯได้หมด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 121, 122, 123 ... 197, 198, 199  Next
Page 122 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©