View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 11/11/2016 2:22 am Post subject: |
|
|
คลังบี้แผนยกเครื่องที่ดินรถไฟ
ไทยโพสต์
11 พฤศจิกายน 2559 - 00:00
คลังเร่งสรุปแผนยกเครื่องที่ดิน ร.ฟ.ท. คาดชัดเจนสิ้นเดือนนี้ พร้อมเสนอ คนร.พิจารณาต่อ หวังช่วยแก้ปัญหาฐานะการรถไฟ
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะต้องสรุปแผนการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทั้งระบบให้ได้ภายในเดือนนี้ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบให้ได้ภายในเดือน ธ.ค.2559
จากการสำรวจของคณะทำงานพบว่า ร.ฟ.ท.มีที่ดินทั้งหมด 1.6 แสนไร่ ใช้เพื่อการเดินรถ 1.2 แสนไร่ มีประมาณ 3.6 หมื่นไร่ ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ โดยมีการให้เช่าในเชิงพาณิชย์ และทิ้งไว้ไม่ทำประโยชน์ โดยมีค่าเช่าที่ดินปีละ 3 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำมากเกินไปทำให้ ร.ฟ.ท.เสียประโยชน์ นายชาญวิทย์กลาว
นายชาญวิทย์กล่าวอีกว่า ตอนนี้คณะทำงานได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท.กลับไปตรวจสอบว่าที่ดินจำนวน 3.6 หมื่นไร่ ได้มาด้วยวิธีการใดและจะติดปัญหาในการนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์หรือไม่ รวมถึงที่ดินแต่ละแปลงขณะนี้มีปัญหาเรื่องการไปพัฒนาต่ออย่างไรบ้าง จากที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้แบ่งที่ดินเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1.ที่ดินที่มีศักยภาพต่ำ มีสัญญาทั้งหมด 9 พันสัญญา เนื้อที่ 2.1 หมื่นไร่ ร.ฟ.ท.มีรายได้จากค่าเช่าปีละ 63 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 ที่ดินที่มีศักยภาพปานกลาง เช่น ที่ดินเช่าตลาดนัดจตุจักรมีอยู่ 5.5 พันสัญญา เนื้อที่ 7.2 พันไร่ ร.ฟ.ท.มีรายได้ปีละ 2 พันล้านบาท, กลุ่มที่ 3 ที่ดินมีศักยภาพสูง แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ที่ดิน 5 แปลงใหญ่ ได้แก่ ที่ดินบริเวณตึกแดงติดกับบริษัท เอสซีจี, ที่ดินสถานีรถไฟบางซื่อ, ที่ดินสถานีแม่น้ำ, ที่ดิน กม.11 และที่ดินสถานีมักกะสัน เนื้อที่ 1.5 พันไร่ ซึ่งที่ดินเหล่านี้อยู่ระหว่างพิจารณาแผนการลงทุน
อย่างไรก็ดี การพัฒนาที่ดินของ ร.ฟ.ท.เป็นมาตรการสำคัญในการพลิกฟื้นฐานะของ ร.ฟ.ท. ที่ตอนนี้มีหนี้สะสมกว่า 1 แสนล้านบาท. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44520
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 14/11/2016 6:45 am Post subject: |
|
|
บขส.เซ็นเช่าที่รถไฟธค.60ไม่ย้ายหมอชิต-ลดพื้นที่
ข่าวเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 9:12 น.
"ออมสิน" เผย บขส. เซ็นเช่าที่การรถไฟ ธ.ค. 2560 ไม่ย้ายหมอชิต แต่ลดพื้นที่ เหลือ 50ไร่ จากเดิม 70ไร่ ชี้ ประชาชนเดินทางสะดวก
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ถึงกรณีการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต 2 หรือ หมอชิตใหม่ ของบริษัท ขนส่ง จำกัด ไปยังรังสิต เพื่อคืนพื้นที่ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย นำไปใช้ก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ว่า ล่าสุดจากผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษานั้น บขส. ได้สรุปชัดเจนแล้วว่าจะยังคงใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเช่นเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความคล่องตัวในการมาใช้บริการ อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งในการเดินทางได้หลายช่องทาง โดยจะต้องปรับแบบพื้นที่ให้เหมาะสม และลดพื้นที่ลงเหลือ 50 ไร่ จากเดิม 70ไร่
ด้าน นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการจัดสรรที่ดินบริเวณสถานีขนส่งระหว่างการรถไฟฯและบริษัท ขนส่ง จำกัด ล่าสุดขณะนี้ที่ปรึกษาทั้งสองฝ่ายได้เร่งดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการ จัดทำแผนการบริหารที่ดินแปลงเดิมและวางผังเพื่อใช้ทำสถานีขนส่ง คาดว่าจะสามารถดำเนินการต่อสัญญาเช่าได้ในช่วงเดือนธันวาคม 2560 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 15/11/2016 10:48 am Post subject: |
|
|
รมช.คค.เผย บขส.ยังเช่าที่ รฟท.เป็นหมอชิต 2 ต่อไป
โดย MGR Online
13 พฤศจิกายน 2559 11:33 น.
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะยังคงเช่าสถานที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะที่ไปใช้สถานที่หมอชิต 2 แทนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่จะต้องมีการปรับแผนการใช้พื้นที่ให้เหมาะสม และลดลงจาก 70 ไร่ เหลือ 50 ไร่ ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถดำเนินการต่อสัญญาเช่าได้ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2560 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 15/11/2016 7:44 pm Post subject: |
|
|
รฟท.เตรียมนำที่ดิน3หมื่นไร่ให้เอกชนเช่า
ข่าวสด
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 - 16:38 น.
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรฟท. มีที่ดิน 3 หมื่นไร่ มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถ ซึ่ง รฟท.เตรียมที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่พัฒนาต่อยอดชิงพาณิชย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดประเภทและลำดับความสำคัญ โดยจะเริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่ก่อนคาดว่าระยะแรกจะทำให้รายได้ของ รฟท. เพิ่มขึ้น50% และในระยะยาวเพิ่มขึ้นถึง 100%
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้มอบหมายให้รฟท. ศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของ รฟท. ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค. นี้ ส่วนที่ดินที่ไม่ได้เอาไปใช้เรื่องการเดินรถและนำไปที่ว่างเปล่าสามารถนำออกไปพัฒนาเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนได้แน่นอน
นายวุฒิชาติ กล่าวอีกว่าสำหรับรถโดยสารรุ่นใหม่จำนวน 115 คัน ที่เริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนใน 4 เส้นทางตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น จะเพิ่มรายได้ให้ ร.ฟ.ท. ประมาณ200 ล้านบาทต่อปี แต่เมื่อโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกแล้วเสร็จประมาณปี 2563 จะทำให้รถวิ่งได้เต็มศักยภาพทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและถึงปลายทางได้เร็วขึ้น 3 ชั่วโมง ซึ่งจะสร้างรายได้ก้าวกระโดดเป็น 1,250 ล้านบาทต่อปีและมีผู้โดยสารเฉลี่ย 1.073 ล้านคน
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ยังคงเป็นอัตราเดิมเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อตอบแทนผู้โดยสารและจะพิจารณาผลการบริการในช่วง 3 เดือนแรกก่อนเพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารต่อไปแต่คงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากต้องแข่งขันกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ และถ้าได้รับการตอบรับที่ดีก็จะจัดหารถโดยสารใหม่มาให้บริการเพิ่ม
4
นายวุฒิชาติ กล่าวต่อว่ารฟท. อยู่ระหว่างปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าชายเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาทเพื่อเร่งผลักดันโครงการ เนื่องจากปัจจุบันล่าช้าในขั้นตอนประกวดราคาเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนแล้ว ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วง Missing Link ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ เนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ เมื่อการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อล่าช้าออกไปถึง 2562-2563 ก็ส่งผลให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงฯล่าช้าตามไปด้วย
ตอนนี้กำลังดูปรับแบบรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินรถ ขณะเดียวกันเร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อดูปัญหาการเจรจาส่งมอบพื้นที่ในสัญญาที่ 1-2 และจะปรับแบบสัญญาที่ 1-3 ให้การทำานสอดรับกันนายวุฒิชาติกล่าว
สำหรับการศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ช่วงสนามบินดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภาใกล้แล้วเสร็จแต่ยังติดปัญหาเส้นทางซ้อนทับกับโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตรวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท รฟท. จึงต้องปรับแบบและสร้างความชัดเจนในจุดนี้ก่อน วันนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงมีมูลค่าสูง เอกชนจึงต้องมั่นใจว่าทั้ง 2 โครงการจะไม่แย่งลูกค้ากัน เราจึงต้องดูว่าเป็นไปได้และประโยชน์ รวมถึงปรับแนวเส้นทางและตลาดของแต่ละโครงการให้ชัดเจน
//--------------
รฟท.เตรียมขนที่ดิน3หมื่นไร่ เปิดให้เอกชนเช่า
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559, 16:21
รฟท.เตรียมขนที่ดิน 3 หมื่นไร่ มูลค่า 3 แสนลบ. เปิดให้เอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ หวังสร้างรายได้โต 100% พร้อมปรับแบบรถไฟฟ้าชายเมืองสีแดงอ่อน
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรฟท. มีที่ดิน 3 หมื่นไร่ มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถ ซึ่ง รฟท.เตรียมที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่พัฒนาต่อยอดชิงพาณิชย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดประเภทและลำดับความสำคัญ โดยจะเริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่ก่อนคาดว่าระยะแรกจะทำให้รายได้ของ รฟท. เพิ่มขึ้น 50% และในระยะยาวเพิ่มขึ้นถึง 100%
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานขอให้รฟท. ไปศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดิน ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่คาดว่าจะสรุปผลได้เดือน ธ.ค. นี้ ส่วนที่ดินที่ไม่ได้เอาไปใช้เรื่องการเดินรถและนำไปที่ว่างเปล่าสามารถนำออกไปพัฒนาเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม รฟท. อยู่ระหว่างปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าชายเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งผลักดันโครงการ เนื่องจากปัจจุบันล่าช้าในขั้นตอนประกวดราคาเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนแล้ว เนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อล่าช้าออกไปถึง 2562-2563
"ขณะนี้กำลังปรับแบบรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ว่าจะก่อสร้างได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินรถ เร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อดูปัญหาการเจรจาส่งมอบพื้นที่ในสัญญาที่ 1-2 และจะปรับแบบสัญญาที่ 1-3 ให้การทำงานสอดรับกัน" นายวุฒิชาติกล่าว
สำหรับการศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ช่วงสนามบินดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภาใกล้แล้วเสร็จแต่ยังติดปัญหาเส้นทางซ้อนทับกับโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตรวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท รฟท. จึงต้องปรับแบบแนวเส้นทางให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะใช้เส้นทางไหน เพื่อไม่ให้เส้นทางทับซ้อนกัน เนื่องจาก โครงการรถไฟไฮสปีดเทรน กทม ระยอง ต้องใช้มูลค่าเงินลงทุนสูง หากจะดึงดูดให้เอกชนเข่าร่วมลงทุน จะต้องทำให้เอกชนมั่นใจว่ารถไฟฟ้า 2 เส้นทางจะไม่มีการแย่งลูกค้ากันเอง เพราะหากเอกชนมั่นใจเรื่องรายได้ ก็อาจจะไม่สนใจร่วมลงทุน
//----------
รฟท.เตรียมเคาะใช้ที่ดิน3หมื่นไร่ พัฒนาเชิงพาณิชย์
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559, 09:15
การรถไฟฯเตรียมเคาะใช้ประโยชน์ที่ดินเปล่า 3 หมื่นไร่ มูลค่า 3 แสนล้านบาทภายในเดือนหน้า หวังเร่งเดินหน้าตามแผนปฏิรูปเพิ่มรายได้
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.มีที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์รวม 3 หมื่นไร่ มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดประเภท และลำดับความสำคัญเพื่อต่อยอดหารายได้ในเชิงพาณิชย์ โดยจะนำออกพัฒนาเพื่อให้เอกชนเข้าร่วมทุนอย่างแน่นอน
จะเริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่ก่อน คาดว่าระยะแรกจะทำให้รายได้ของร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้น 50% และในระยะยาวเพิ่มขึ้นถึง 100%
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.ศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของ ร.ฟ.ท.ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ทั้งหมดภายในเดือนธ.ค.นี้
ร.ฟ.ท.ถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีที่ดินในการถือครองถึง 2.3 แสนไร่และในจำนวนนี้เป็นที่ดินซึ่งไมได้ใช้ประโยชน์เพื่อการเดินรถถึง 15% หรือราว3.6หมื่นไร่ แต่กลับไม่ใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพและมีรายได้จากการพัฒนาที่ดินน้อยมาก
เมื่อรัฐบาลจัดร.ฟ.ท.เป็นหนึ่งใน7รัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนและเข้าข่ายต้องฟื้นฟูกิจการร.ฟ.ท.จึงได้หยิบยกประเด็นการสร้างรายได้จากการพัฒนาที่ดินขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งอย่างจริงจังโดยตั้งเป้าหมายให้รายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งรายได้หลักนอกจากค่าโดยสารและการขนส่งเชิงพาณิชย์
คาดศึกษาใช้ที่ดินเสร็จอีก5เดือน
แหล่งข่าวจากการถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างจัดที่ปรึกษาเพื่อจัดประเภท และลำดับความสำคัญของที่ดินเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์คาดว่าที่ปรึกษาจะสรุปผลเบื้องต้นได้ใน 3 เดือนข้างหน้าและสรุปรายงานฉบับสมบูรณ์ภายใน 5 เดือน
การศึกษาจะแบ่งที่ดินเป็น 3 ประเภทคือที่ดินที่มีศักภาพเชิงพาณิชย์สูงกลางและต่ำเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงจะมีสัดส่วนไม่เกิน10%จากพื้นที่ทั้งหมด 3.6 หมื่นไร่เช่นพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อขนาด 302.5ไร่ โดยล่าสุดเตรียมเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในโซนเอจำนวน 32 ไร่ มูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาทและคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในปี 2561
พื้นที่สถานีน้ำแม่น้ำจำนวน 277 ไร่ที่จะเปิดให้ลงทุนประมาณกลางปี 2561 พื้นที่พหลโยธินกิโลเมตรที่ 11 ขนาด 359 ไร่ ซึ่งจะเปิดให้เอกชนลงทุนด้วยมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาทภายในปี 2562 และที่ปรึกษาอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ศักยภาพสูงในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก
แหล่งข่าวกล่าวว่า ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าหมายว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลเพิ่มรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ของ ร.ฟ.ท.จาก 3,000 ล้านบาท ในปัจจุบันอีก 50% ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี และเพิ่มขึ้น 100% หลังจากช่วง 5 ปีไปแล้ว
จ่อปรับแบบรถไฟฟ้า2สายในกทม.
นายวุฒิชาติ กล่าวว่าร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าชายเมืองสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้มบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งผลักดันโครงการ เนื่องจากปัจจุบันล่าช้าในขั้นตอนประกวดราคาเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนแล้ว
ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงMissing Link ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ เนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ เมื่อการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อล่าช้าออกไปถึงปี 2562-2563 ก็ส่งผลให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงฯล่าช้าตามไปด้วย
"ตอนนี้กำลังดูปรับแบบรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินรถ ขณะเดียวกัน เร็วๆนี้จะลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อดูปัญหาการเจรจาส่งมอบพื้นที่ในสัญญาที่ 1-2 และจะปรับแบบสัญญาที่ 1-3 ให้การทำงานสอดรับกัน"
ศึกษาแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อมอู่ตะเภาใกล้เสร็จ
นายวุฒิชาติ กล่าวถึงการศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ช่วงสนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินอู่ตะเภาใกล้แล้วเสร็จ แต่ยังติดปัญหาเส้นทางซ้อนทับกับโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยองระยะทาง 193.5 กิโลเมตร วงเงิน1.5แสนล้านบาท ร.ฟ.ท.จึงต้องปรับแบบและสร้างความชัดเจนในจุดนี้ก่อน
"วันนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงมีมูลค่าสูงเอกชนจึงต้องมั่นใจว่าทั้ง 2 โครงการ จะไม่แย่งลูกค้ากันเราจึงต้องดูว่าเป็นไปได้และประโยชน์รวมถึงปรับแนวเส้นทาง และตลาดของแต่ละโครงการให้ชัดเจน"
หวังทางคู่ดันรายได้ก้าวกระโดด
นายวุฒิชาติ กล่าวถึงรถโดยสารรุ่นใหม่จำนวน 115 คันว่าเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนใน 4 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น จะเพิ่มรายได้ให้ ร.ฟ.ท.ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี แต่เมื่อโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกแล้วเสร็จประมาณปี 2563 จะทำให้รถวิ่งได้เต็มศักยภาพทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถึงปลายทางได้เร็วขึ้น 3 ชั่วโมง ซึ่งจะสร้างรายได้ก้าวกระโดดเป็น 1,250 ล้านบาทต่อปี และมีผู้โดยสารเฉลี่ย 1.073 ล้านคน
สำหรับ อัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ยังคงเป็นอัตราเดิมเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อตอบแทนผู้โดยสารและจะพิจารณาผลการบริการในช่วง 3 เดือนแรก ก่อนเพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารต่อไป แต่คงไม่เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากต้องแข่งขันกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ และถ้าได้รับการตอบรับที่ดีก็จะจัดหารถโดยสารใหม่มาให้บริการเพิ่ม |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 15/11/2016 8:00 pm Post subject: |
|
|
รฟท.จัดที่ดิน3แสนล้านต่อยอดธุรกิจ
ข่าวเศรษฐกิจ-นวัตกรรมขนส่ง
เดลินิวส์
อังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา 01.36 น.
รฟท.เล็งจัดสรรที่ดิน 30,000 ไร่มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท พัฒนาเชิงพาณิชย์ หวังสร้างรายได้เพิ่ม 100% ในอนาคต
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.กำลังจัดความสำคัญที่ดินของรฟท.ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวน 30,000 ไร่ มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านบาทใหม่ เพื่อนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยจะเริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่ก่อน คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ของรฟท.เพิ่มขึ้น 50% ในช่วงแรก และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 100% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่มอบหมายให้รฟท. ศึกษากฎหมาย ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค. นี้
นอกจากนี้อยู่ระหว่างปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าชายเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง หรือมิสซิ่งลิ้งค์ ระยะทาง 25.9 กม. วงเงิน 44,000 ล้านบาท เพื่อเร่งผลักดันโครงการ เนื่องจากปัจจุบันล่าช้าในขั้นตอนประกวดราคาเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนแล้ว... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44520
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/11/2016 11:23 am Post subject: |
|
|
ครม.ส่วนหน้าดูพื้นที่ปี60ทุ่มงบ500ล.พลิกโฉมสุไหงโกลก
เนชัน 16 พย. 2559 เวลา 10:58 น.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 พ.ย.2559 พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรีส่วนหน้า พร้อมคณะ 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.จำลอง คุณสงค์ นายภาณุ อุทัยรัตน์ และนายจำนัล เหมือนดำ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเป็นครั้งแรก หลังได้รับการแต่งตั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลในการเดินหน้าดำเนินโครงการดังกล่าวในปี 2560 จำนวน 3 โครงการ ด้วยงบประมาณ 532.70 ล้านบาท โดยนายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานผลความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ณ ห้องทำงานผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส
สำหรับการดำเนินการโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ที่มีการดำเนินการในพื้นที่ อำเภอสุไหงโกลก เป็นเมืองต้นแบบนั้น มีการดำเนินการจัดโครงการปรับปรุงและยกระดับสถานีรถไฟสุไหงโกลก และส่งเสริมการจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้า ด้วยงบประมาณ 185.20 ล้านบาท โดยแยกเป็นการก่อสร้างอาคารคลังสินค้า รวมถึงมีการดำเนินโครงการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงคมนาคมขนส่ง งบประมาณ 327.50 ล้านบาท แยกเป็นการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ลันตาปันยัง ศึกษาและสำรวจออกแบบถนนเพื่อความปลอดภัยสูงจากอำเภอสุไหงโกลกถึงอำเภอหาดใหญ่โดยใช้แนวเขตทางรถไฟ การก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองสุไหงโกลก และการพัฒนาท่าเทียบเรือชุมชน จำนวน 3 จุด และนอกจากนี้มีการจัดโครงการจัดตั้งเมืองการค้าปลอดภาษี งบประมาณ 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 16/11/2016 3:25 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ |
อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส น่าจะเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลาง ทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโกลก มีเส้นทางที่สะดวก มีทางรถไฟที่สามารถจะเเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และใกล้สนามบินนราธิวาสครับ น่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศได้ครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 16/11/2016 3:25 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ |
อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส น่าจะเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลาง ทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโกลก มีเส้นทางที่สะดวก มีทางรถไฟที่สามารถจะเเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และใกล้สนามบินนราธิวาสครับ น่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศได้ครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 16/11/2016 3:26 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ |
อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส น่าจะเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลาง ทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโกลก มีเส้นทางที่สะดวก มีทางรถไฟที่สามารถจะเเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และใกล้สนามบินนราธิวาสครับ น่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศได้ครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 16/11/2016 3:26 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ |
อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส น่าจะเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลาง ทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโกลก มีเส้นทางที่สะดวก มีทางรถไฟที่สามารถจะเเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และใกล้สนามบินนราธิวาสครับ น่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศได้ครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
|