Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264748
ทั้งหมด:13576031
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 162, 163, 164 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/08/2020 12:16 pm    Post subject: Reply with quote

'เกียรติธนา'ทุ่ม100ล.ดึง'วีนิไทย'ขยายสู่ขนส่งระบบราง
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563

"เกียรติธนา" ลุยธุรกิจเชิงรุกเต็บสูบหลังวิกฤตโควิด เปิดความร่วมมือกับการรถไฟฯ เข้าใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่สถานีบ้านกระโดน ทุ่มทุนกว่า 100 ล้าน รับแผนยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้าทางราง โครงการรถไฟรางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมขนส่งภาคอีสานและเส้นทางระหว่างประเทศ นำร่องดึง "วีนิไทย" เปลี่ยนโหมดสู่ระบบราง ขนส่งวัตถุดิบเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง คาดปีนี้รายได้รวมโตทะลุเป้า 15% หลังไตรมาสแรกลุยปั๊มแล้ว 247 ล้าน

นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุกหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย ล่าสุดประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคตที่สำคัญ ซึ่งสถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศ

ความร่วมมือดังกล่าวบริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และนำร่องดึงบริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราชมาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมวางแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรถไฟในเส้นทางอื่น ๆ ตามจุดขนส่งสำคัญ ๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดตัวบริษัท เคที เทรน จำกัด (บริษัทย่อย) โดยถือเป็นบริการใหม่ล่าสุด และคาดหวังว่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าการขนส่งทางรถไฟเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC-Eastern Economic Corridor) ทั้งมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของราคาที่ต่ำกว่าและปริมาณการขนส่งที่มากกว่าการขนส่งทางรถบรรทุก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทจะถือเป็นผู้ให้บริการการขนส่งอย่างครบวงจรเป็นรายแรกอีกด้วย

ทั้งนี้ เคยมีการประมาณการธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) ว่า มีมูลค่าสูงถึง 145,100-147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบ พบว่า การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่าง ๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟหรือระบบราง ซึ่งมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว คือ ร.ฟ.ท.ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก ที่เหลือเป็นการขนส่งทางท่อ 8.7% การขนส่งทางน้ำ 8.5% และการขนส่งทางอากาศ 0.01%

"การจับมือกับ ร.ฟ.ท.ถือเป็นการรุกเซ็กเมนต์บริการขนส่งใหม่อย่างจริงจังและมีโอกาสเติบโตสูงมาก เนื่องจาก ร.ฟ.ท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่หลายสาย จะสามารถสร้างเครือข่ายการขนส่งให้กว้างขวางขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า บริการการขนส่งทางรางจะกลายเป็นแหล่งรายได้มูลค่ามหาศาล โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดต่อเข้ามามากขึ้น เพื่อเปลี่ยนโหมดมาใช้บริการทางรถไฟ เป็นสัญญาณที่ดีมาก โดยงานนี้คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี ขณะที่บริการขนส่งทั่วไปด้วยรถบรรทุกของบริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าหลักและกำลังเจรจาสัญญาใหม่กับลูกค้าอีกหลายราย"

นางสาวมินตราย้ำว่า บริษัทประเมินแนวโน้มธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และ วัตถุอันตรายครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ครึ่งปีแรกประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ธุรกิจการขนส่งทั่วไปและขนส่งเคมีภัณฑ์ยังเติบโต ประกอบกับเคมีภัณฑ์บางชนิดเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การขนส่งยังดำเนินการปกติและมีคอนแทร็กต์ว่าจ้างการขนส่งระยะยาว 3-10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งขยายฐานการขนส่งเคมีภัณฑ์อันตรายไปต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ซึ่งมีโรงงานและโรงกลั่นเคมีภัณฑ์เกิดขึ้นจำนวนมาก และมั่นใจว่าหากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมา (ปี 2562) ที่มีรายได้รวม 955.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.10 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2563 มีรายได้แล้วถึง 247.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.96 ล้านบาท (ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์ฯ)

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างสถานีหนองแมวกับสถานีบ้านเกาะ จะถูกยกระดับเป็นสถานีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,968 ล้านบาท เปิดให้บริการในปี 2565 จะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว ตามแผน ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าหมายเร่งพัฒนาสร้างทางคู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า ในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (underpass) รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย

อนึ่ง บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่อเนื่องและครบวงจร (end-to-end) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เกี่ยวกับคลังสินค้า พิธีการศุลกากรและเอกสาร รวมถึงบริการการจัดการขนส่ง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่น ๆ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และกากอุตสาหกรรม เป็นเจ้าของรถกว่า 700 คันที่สร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกสินค้าในแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เน้นหัวใจหลักคือ นโยบายมุ่งพัฒนาระบบการบริหารงานขนส่งและสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

บรรยายใต้ภาพ
มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/08/2020 8:58 pm    Post subject: Reply with quote

ศิริราชทุ่ม 2 พันล.สร้างตึกผู้ป่วยนอกปีหน้า
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

บอร์ด ร.ฟ.ท.ไฟเขียว "ศิริราช" เช่าที่ดิน 30 ปี สถานีบางกอกน้อย 4.66 ไร่ วงเงิน 360 ล้าน ลงทุน 2 พันล้าน ผุด "ตึกผู้ป่วยนอก" สูง 15 ชั้น สร้างคร่อมสถานีรถไฟฟ้า 2 สาย "สีแดงสีส้ม" รออนุมัติ EIA คาดตอกเข็ม ปีหน้าเสร็จปี'65

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.อนุมัติให้โรงพยาบาลศิริราชเช่าที่ดินบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อย พื้นที่ 4.66 ไร่ หรือประมาณ 7,456 ตร.ม. เพื่อก่อสร้างเป็นอาคารสูง 15 ชั้นสำหรับรองรับ ผู้ป่วยนอก

โดยให้เช่าในระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2593 ค่าเช่าในปีแรกอยู่ที่ 5,382,338 บาท และค่าเช่าจะมีการปรับขึ้น 5% ทุกปี คาดว่า ร.ฟ.ท.จะได้รับผลตอบแทนรวม 360 ล้านบาท ซึ่งราคานี้ได้หักส่วนลด 25% ที่ให้กับโรงพยาบาลศิริราชแล้ว เนื่องจากการก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นไปตามระเบียบของ ร.ฟ.ท.

สำหรับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารสูง 15 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวม 48,191 ตร.ม. จะสร้างคร่อมสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา บริเวณชั้น 1-2 พื้นที่รวม 1,947 ตร.ม. ซึ่งจะเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม

ส่วนพื้นที่เหลืออีก 46,244 ตร.ม. หรือตั้งแต่ชั้นที่ 3-15 จะเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลศิริราชทั้งหมด สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 10,000 ราย/วัน และมีสกายวอล์กยาว 100 เมตรเชื่อมตัวอาคารกับศูนย์บูรณาการความเป็นเลิศทางการแพทย์ศิริราช และโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

"การก่อสร้างอาคารและสกายวอล์กนี้ ทางโรงพยาบาลศิริราชจะออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอน หลังจากนี้ ร.ฟ.ท.จะนัดหมายกับโรงพยาบาล ศิริราชเพื่อลงนามในสัญญาอย่างเป็น ทางการต่อไป ส่วนความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวขณะนี้โรงพยาบาลศิริราช ออกแบบตัวอาคารเสร็จแล้ว และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้อนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารแล้ว

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) คาดว่ารายงาน EIA จะผ่านภายในปี 2563 นี้ และจะเริ่มการก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2564 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2565

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟสายสีแดง จะมีโครงสร้างใต้ดินร่วมกับสายสีส้ม มีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ล่าสุดทาง รฟม.ออกแบบเสร็จแล้วอยู่ระหว่างรอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วม 5 หน่วยงานประกอบด้วย โรงพยาบาลศิริราช, กระทรวงคมนาคม, ร.ฟ.ท., รฟม. และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวเกิดจากการ MOU เมื่อ วันที่ 2 พ.ค. 2562 และการตัดสินใจ เรื่องโครงสร้างใต้ดินได้มอบให้เป็นอำนาจพิจารณาของคณะทำงานชุด ดังกล่าวตามเงื่อนไขใน MOU ด้วย

"ตอนนี้ยังไม่สรุปว่าโครงสร้างใต้ดิน ที่ รฟม.จะก่อสร้าง ร.ฟ.ท.จะให้แบ่งปัน ผลประโยชน์อย่างไร อาจจะให้จ่ายเป็นค่าเช่าแล้วคิดระยะเวลาเช่าเหมือนที่อนุมัติให้โรงพยาบาลศิริราชก็ได้ หรือให้จ่ายค่าใช้สิทธิพื้นที่ใต้ดินครั้งเดียวก็ได้ ซึ่ง ร.ฟ.ท.กำลังพิจารณาอยู่ ทั้งนี้ ขอให้โรงพยาบาลศิริราชในฐานะแม่งานช่วยย้ำเตือนไปยังคมนาคมให้เร่งตั้งคณะทำงานดังกล่าวโดยด่วนเพราะ MOU 1 ปีแล้ว เพื่อจะได้รู้ว่าหน่วยไหน รับผิดชอบอะไรบ้าง" แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า โครงการอยู่ระหว่างรออนุมัติ EIA คาดว่าจะได้รับการอนุมัติและเปิดประมูลก่อสร้าง ภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มการก่อสร้างได้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ออกแบบเสร็จแล้ว เป็นอาคารสูง 15 ชั้น บริเวณ ชั้น 1-2 เป็นสถานีรถไฟฟ้า จากนั้น ถึงจะเป็นงานในส่วนของอาคาร ซึ่งโครงการดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนค้างเดินทางมาใช้บริการ โรงพยาบาลสะดวกมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/08/2020 7:21 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เตรียมประมูลที่ดินย่าน'คลองสาน'
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กรุงเทพธุรกิจ ร.ฟ.ท.เร่งเพิ่มรายได้ พื้นที่เชิงพาณิชย์ ดึงที่ดินทำเลทอง "ตลาดคลองสาน" เตรียมประมูลปีหน้า เผยพื้นที่ 5 ไร่ ติดริมน้ำเจ้าพระยา-ไอคอนสยาม มั่นใจหนุนผลตอบแทนสูงกว่าสัญญาเดิม

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท. เร่งดำเนินนโยบายเพิ่มรายได้ในระยะยาวให้กับองค์กร ด้วยการปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนจากการให้ใช้และเช่าที่ดินของ ร.ฟ.ท.โดยขณะนี้มีแผนที่จะนำที่ดินบริเวณตลาดคลองสาน หรือตลาดคลองสานพลาซ่าและท่าเรือข้ามฟากคลองสาน รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5 ไร่ ออกประมูลให้เอกชนเข้ามาเช่าพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ระยะยาว

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นทำเลทองกลางกรุงที่มีศักยภาพในการนำไปพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม 5 ดาว และศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์อย่างไอคอนสยาม รวมทั้งยังมีระบบขนส่งสาธารณะที่รองรับการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีทอง ที่วิ่งให้บริการผ่านพื้นที่นี้ ซึ่งอยู่ติดกับสถานีเจริญนคร

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพื้นที่บริเวณตลาดคลองสาน ยังติดสัญญาเช่าจากผู้เช่า 2 ราย โดยแบ่งออกเป็น 2 แปลง แปลงที่ 1 ให้ บริษัท ที่ปรึกษา การวางแผนและพัฒนา จำกัด เช่าทำตลาดคลองสานพลาซ่า จะหมดสัญญาในเดือน เม.ย.2564 และแปลงที่ 2 ให้ผู้ประกอบการเช่าทำท่าเรือข้ามฟากคลองสาน ซึ่งจะหมดสัญญา ในเดือน ธ.ค.2564 เบื้องต้น ร.ฟ.ท.ได้เข้าเจรจากับผู้เช่าทั้ง 2 ราย โดยจะปรับขึ้นค่าเช่าให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ที่ดินแปลงแรก ร.ฟ.ท.ได้ขอปรับค่าเช่าจากเดือนละ 1.6 ล้านบาท เป็นเดือนละ 15 ล้านบาท ส่วนแปลงที่ 2 ได้ขอปรับขึ้นเช่นกัน ปรากฏว่าเอกชนทั้ง 2 ราย ไม่ประสงค์ที่จะต่อสัญญาเช่า ทำให้ ร.ฟ.ท.จึงเริ่มต้นศึกษาเตรียมนำพื้นที่ ดังกล่าวออกประมูลวิธีด้วยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป โดยเตรียมว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบแนวคิดเบื้องต้น (concept Design) ในการพัฒนาพื้นที่ รวมทั้งประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และเสนอแนะผลประโยชน์ตอบแทนในการให้เช่า และรูปแบบการลงทุน ที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบในส่วนของรูปแบบการพัฒนา วงเงินลงทุน และผลตอบแทนที่ ร.ฟ.ท.จะได้รับ เนื่องจากปัจจุบันโครงการยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปและรายละเอียด ดังกล่าวจะมีความชัดเจนในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งหากพบว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน ก็คาดว่าจะเปิดประมูลในปี 2564 เพื่อให้สอดรับพอดีกับอายุสัญญาเช่าที่ดินในปัจจุบันที่จะหมดสัญญา แต่เบื้องต้นมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้กับการ ร.ฟ.ท.ได้มากกว่าเดิม

ทั้งนี้ แนวทางพัฒนาในเบื้องต้น ร.ฟ.ท.ประเมินว่าอาจจะลงทุนในลักษณะมิกซ์ยูส ประกอบไปด้วยโครงการหลายส่วน อาทิ คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า หรืออื่นๆ โดย ร.ฟ.ท.จะใช้วิธีการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปให้เอกชนเช่าพัฒนาพื้นที่ในระยะยาว ภายใต้ระเบียบของ ร.ฟ.ท. โดยไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 เนื่องจากไม่เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เพื่อการบริการสาธารณะ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อมูลที่ดินทรัพย์สิน ของการรถไฟฯ ทั่วประเทศ มีจำนวน 234,976 ไร่ แยกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ พื้นที่เขตทาง 80.68% ของที่ดิน โดยรวม พื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ใช้เพื่อการเดินรถ มีสัดส่วน15.45% พื้นที่ย่านสถานี (วางราง) คิดเป็น 2.27%พื้นที่บ้านพัก/ที่ทำการ 1.6% เป็นพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ทั่วทั้งประเทศประมาณ 4 หมื่นกว่าไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ว่าจ้างเอกชนลงสำรวจแผนที่ภูมิศาสตร์โดยละเอียด รวมทั้งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลดิจิทัล
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 24/08/2020 11:41 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.เตรียมประมูลที่ดินย่าน'คลองสาน'
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อวสาน“คลองสานพลาซ่า-ท่าเรือข้ามฟาก”เลิกสัญญา
*สู้ค่าเช่า 1.6 ล./เดือนเป็น 15 ล.ไม่ไหว
*พื้นที่ทำเลทอง รฟท. เปิดประมูลใหม่!!
https://www.facebook.com/TransportDailynews/photos/a.2043948872493287/2688704768017691/
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2020 1:06 pm    Post subject: Reply with quote

รื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา ไม่จ่ายค่าเช่านานร่วม20ปี
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 ส.ค. 2563 เวลา 12:09 น.

กรมบังคับคดี ร่วมการรถไฟฯ นำคำสั่งศาลเข้ารื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา ไม่จ่ายค่าเช่านานร่วม 20 ปี -ผู้เช่าช่วงต่อ โอดไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
เมื่อเวลา เวลา9.35 น. วันที่ 25 ส.ค. เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย, ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลเข้าดำเนินการขับไล่รื้อถอนฯ เต็นท์รถยนต์ริมถนนวัฒนธรรม ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งมีนายเกรียง สมบูรณ์ เป็นผู้เช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กลับไม่จ่ายค่าเช่าที่นานร่วม 20 ปี

สืบเนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ฟ้องขับไล่ นายเกรียง สมบูรณ์ จำเลย ผู้เช่าที่ดินริมถนนเทอดพระเกียรติ ห้วยขวาง กทม. พื้นที่เช่า 9,600 ตรม. ต่อศาลแพ่ง และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยกับบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์ออกไปจากที่ดินของโจทก์ พร้อมกับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 6,063,317 บาท แก่ รฟท. ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ชำระเงินเป็นจำนวน 5,563,371 บาท ส่วนศาลฏีกาพิพาษายืน

ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.2558 เจ้าหน้าที่บังคับคดี รฟท. ปิดประกาศขับไล่ แต่จำเลยและบริวารไม่ออกจากพื้นที่ จึงได้ว่าจ้างบริษัท ไซเซนทัน จำกัด เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-ก่อสร้างรั้วปิดกั้นทั้งพื้นที่ประมาณ 9,600 ตรม. เพื่อบังคับคดีตามหมายศาล

โดยระหว่างดำเนินการแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่ทราบถึงขั้นตอนดำเนินการรื้อถอน มีชายอ้างตัวว่าชื่อนายนันทพล เข้ามาติดต่อสอบถามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดประกาศรื้อถอนแต่อย่างใด ขณะที่ตนเองอยู่ในพื้นที่มานาน 10 ปี และกำลังดำเนินการเช่าพื้นที่จากชายชื่อเบียร์ในราคาเดือนละ 15,000 บาท แต่นายเบียร์กลับเสียชีวิตไปก่อน

ขณะที่ นายคฤนาจ ศิรประภาสถิต ผู้เช่าอีกรายเปิดเผยว่า เช่าพื้นที่เปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์มาประมาณ 5 ปี โดยเช่าจากชายชื่อเบียร์ในราคา 20,000 บาท ทำสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบปัญหาเรื่องการเช่าที่มาบ้าง แต่ผู้ปล่อยเช่าอ้างว่าสามารถอยู่ต่อได้โดยอยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญาจึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดเข้ามาแจ้งหรือติดต่อขอให้ย้ายออก และไม่เคยเห็นประกาศรื้อถอนตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะพูดคุยกับผู้เช่ารายอื่นและผู้ให้เช่าอีกรอบเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/08/2020 4:13 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา ไม่จ่ายค่าเช่านานร่วม20ปี
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 ส.ค. 2563 เวลา 12:09 น.


ศาลสั่งรื้อเต็นท์รถย่านรัชดา เหตุไม่ยอมจ่ายค่าเช่า20ปี!
อังคารที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น.

กรมบังคับคดีร่วมการรถไฟฯ นำคำสั่งศาลเข้ารื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา เหตุไม่ยอมจ่ายค่าเช่านานร่วม 20 ปี ด้านผู้เช่าช่วงอย่างเซ็ง! อ้างไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน


เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำหมายศาลเข้าดำเนินการขับไล่รื้อถอนฯเต็นท์รถยนต์ริมถนนวัฒนธรรม ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งมี นายเกรียง สมบูรณ์ เป็นผู้เช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กลับไม่จ่ายค่าเช่าที่นานร่วม 20 ปี ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ฟ้องขับไล่ นายเกรียง สมบูรณ์ จำเลย ผู้เช่าที่ดินริมถนนเทอดพระเกียรติ ห้วยขวาง กทม. พื้นที่เช่า 9,600 ตร.ม.ต่อศาลแพ่ง และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยกับบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์ออกไปจากที่ดินของโจทก์ พร้อมกับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 6,063,317 บาท แก่ รฟท. ต่อมา ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ชำระเงินเป็นจำนวน 5,563,371 บาท ส่วนศาลฎีกาพิพาษายืน

จากนั้น วันที่ 2 ก.ย.2558 เจ้าหน้าที่บังคับคดี รฟท. ปิดประกาศขับไล่ แต่จำเลยและบริวารไม่ออกจากพื้นที่ จึงได้ว่าจ้างบริษัท ไซเซนทัน จำกัด เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-ก่อสร้างรั้วปิดกั้นทั้งพื้นที่ประมาณ 9,600 ตร.ม. เพื่อบังคับคดีตามหมายศาล โดยระหว่างดำเนินการแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่ทราบถึงขั้นตอนดำเนินการรื้อถอน มีชายอ้างตัวว่าชื่อ นายนันทพล เข้ามาติดต่อสอบถามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดประกาศรื้อถอนแต่อย่างใด ขณะที่ตนเองอยู่ในพื้นที่มานาน 10 ปี และกำลังดำเนินการเช่าพื้นที่จากชายชื่อเบียร์ในราคาเดือนละ 15,000 บาท แต่นายเบียร์กลับเสียชีวิตไปก่อน


ขณะที่ นายคฤนาจ ศิรประภาสถิต ผู้เช่าอีกรายเปิดเผยว่า เช่าพื้นที่เปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์มาประมาณ 5 ปี โดยเช่าจากชายชื่อเบียร์ในราคา 20,000 บาท ทำสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบปัญหาเรื่องการเช่าที่มาบ้าง แต่ผู้ปล่อยเช่าอ้างว่าสามารถอยู่ต่อได้ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญา จึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดเข้ามาแจ้งหรือติดต่อขอให้ย้ายออก และไม่เคยเห็นประกาศรื้อถอนตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะพูดคุยกับผู้เช่ารายอื่นและผู้ให้เช่าอีกรอบเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป


ทั้งนี้ ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย จะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง มีกำหนดตามสัญญาจ้าง กำหนดให้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ภายใน 5 วัน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 - 29 ส.ค.63 โดยจะปิดรั้วรอบพื้นที่ทั้งหมด พร้อมกับเปิดทางเข้าออกเพียงทางเดียว และให้ผู้เช่าขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ตามระยะเวลาที่กำหนด 5 วัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2020 7:50 pm    Post subject: Reply with quote

'ภาดาท์'ขอการรถไฟช่วยปชช.ชุมชนทางรถไฟ ไม่ดำเนินคดีผู้บุกรุก
หน้าการเมือง
วันพฤหัสบดี ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 18.10 น.

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ หารือประธานสภาฯ ฝากไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย สังกัดกระทรวงคมนาคม เนื่องจากปัจจุบันประชาชนในเขตราชเทวีได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นมีประมาณ 12 ชุมชนเกือบ 3,000 หลังคาเรือน จากที่การรถไฟจะต้องขอคืนพื้นที่เพื่อสร้างโครงการมักกะสันคอมเพล็กซ์ ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านกังวลและต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตอบคำถามคือระยะเวลาที่แน่นอนที่ชาวบ้านจะต้องออกจากพื้นที่ และอยากให้หน่วยงานช่วยจัดสรรที่ดินที่อยากให้พิจารณาให้จัดหาพื้นที่ที่ไม่ไกลจากเดิมมากนักเพื่อให้ยังมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินดำรงชีวิต ทำมาหากินแบบเดิมได้ รวมทั้งชาวบ้านฝากมาขอความเห็นใจเรื่องการฟ้องร้องว่าหากจะไม่ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกได้หรือไม่ เพราะทุกคนมีความเข้าใจว่าบ้านเมืองต้องพัฒนาเดินหน้าต่อไปแต่ก็อยากให้หันมาพูดคุยเพื่อหาทางออก



นอกจากนี้ ยังฝากประธานสภาฯ ไปยัง กทม.เรื่องที่กันริมตลิ่งบริเวณคลองแสนแสบชุมชนบ้านครัวตะวันตก เขตราชเทวี ปัจจุบันที่กันได้ชำรุด เหล็กผุพัง ขึ้นสนิม น็อตหลุด เป็นอันตราย และตลอดแนวดังกล่าวไม่มีบันไดให้ขึ้นหรือยึดเกาะ จึงอยากขอฝากไปยังสำนักงานระบายน้ำ กทม.ช่วยดูแลอย่างเร่งด่วน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2020 11:47 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
รื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา ไม่จ่ายค่าเช่านานร่วม20ปี
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 ส.ค. 2563 เวลา 12:09 น.


ศาลสั่งรื้อเต็นท์รถย่านรัชดา เหตุไม่ยอมจ่ายค่าเช่า20ปี!
อังคารที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น.


ศาลสั่งขับไล่-รื้อถอนเต็นท์ย่านรัชดาฯ เหตุไม่จ่ายค่าเช่าการรถไฟฯ
หน้าสังคม
ข่าว 3 มิติ

อังคารที่ 25 สิงหาคม 2563




กรณีพิพาทที่ดิน ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับกลุ่มผู้ประกอบการเต้นท์รถบริเวณริมถนนวัฒนธรรม ย่านรัชดาฯ ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ที่สุดก็มาถึงบทสรุปแล้ว เมื่อกรมบังคับคดี ได้นำคำสั่งศาลเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หลังผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายค่าเช่ามานานร่วม 20 ปี


เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี พร้อมตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และตำรวจ นำคำสั่งศาลเข้าดำเนินการแจ้งขับไล่ รื้อถอนเต็นท์รถยนต์ริมถนนวัฒนธรรม ที่มี นายเกรียง สมบูรณ์ เป็นผู้เช่า ซึ่งถูกการรถไฟฯชี้ว่า ไม่จ่ายค่าเช่านานร่วม 20 ปี รวมพื้นที่ทั้งหมด 9,600 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐ จำนวนหลายร้อยล้านบาท


กรณีนี้การรถไฟฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่า เมื่อราวปี 2551 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยกับบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์ ต่อมา ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ชำระเงินจาก 6 ล้าน เป็นเงิน 5,563,371 บาท ส่วนศาลฎีกา พิพากษายืน


กระทั่งวันที่ 2 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่บังคับคดี เข้ามาปิดประกาศแจ้งขับไล่ แต่ก็ยังพบการฝ่าฝืนคำสั่งศาลเรื่อยมา ล่าสุดวันนี้ จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าแจ้งเตือนครั้งสุดท้าย และบางส่วนก็ให้ดำเนินการรื้อถอนได้ทันที


แต่ระหว่างนั้น มีชายอ้างเป็นหนึ่งในผู้เช่า และได้รับผลกระทบจากคำสั่งรื้อถอน โดยพยายามแย้งว่า กรมบังคับคดีไม่เคยแจ้งหรือปิดประกาศให้ผู้ประกอบการทราบมาก่อน หลายคนตั้งตัวไม่ทัน และไม่มั่นใจว่าจะขนของออกทันตามกำหนดหรือไม่ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมต้องพากลุ่มชายชุดดำจำนวนมาก มารื้อถอนในช่วงที่เต้นท์รถ กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง จากผลกระทบโควิด-19 แต่ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ ก็ได้นำเอกสารหลักฐาน และรูปถ่ายเมื่อปี 2558 มายืนยัน


ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย ยืนยันจะเข้ารื้อถอนตามสัญญาจ้างเอกชน กำหนดให้ส่งมอบพื้นที่ภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม หากพบการฝ่าฝืน จะดำเนินการขั้นเฉียบขาดทันที
กรมบังคับคดีร่วมการรถไฟฯ นำคำสั่งศาลเข้ารื้อถอนเต็นท์รถ ย่านรัชดา
ภูมิภาค
สยามรัฐออนไลน์ 25 สิงหาคม 2563 15:37 น.

กรมบังคับคดีร่วมการรถไฟฯ นำคำสั่งศาลพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้ามารื้อถอนเต็นท์รถย่านรัชดา เนื่องจากผู้เช่าไม่จ่ายเงินค่าเช่านานร่วม 20 ปี ขณะที่ผู้เช่าช่วงต่อโอดไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เร่งประสานผู้เช่าที่พูดคุยเจรจาหาทางออก

เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 25 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย,ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลเข้าดำเนินการขับไล่รื้อถอนฯ เต็นท์รถยนต์ริมถนนวัฒนธรรม ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งมีนายเกรียง(ขอสงวนนามสกุล)เป็นผู้เช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กลับไม่จ่ายค่าเช่าที่นานร่วม 20 ปี




สืบเนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ฟ้องขับไล่นายเกรียง ซึ่งเป็นจำเลย ผู้เช่าที่ดินริมถนนเทอดพระเกียรติ ห้วยขวาง กทม. พื้นที่เช่า 9,600 ตรม.ต่อศาลแพ่ง และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยกับบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์ออกไปจากที่ดินของโจทก์ พร้อมกับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 6,063,317 บาท แก่ รฟท.ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ชำระเงินเป็นจำนวน 5,563,371 บาท ส่วนศาลฏีกาพิพาษายืน

ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.58 เจ้าหน้าที่บังคับคดี รฟท.ได้ปิดประกาศขับไล่ แต่จำเลยและบริวารไม่ออกจากพื้นที่ จึงได้ว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-ก่อสร้างรั้วปิดกั้นทั้งพื้นที่ประมาณ 9,600 ตรม. เพื่อบังคับคดีตามหมายศาล

โดยระหว่างดำเนินการแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่ทราบถึงขั้นตอนดำเนินการรื้อถอน มีชายอ้างตัวว่าชื่อนายนันทพล เข้ามาติดต่อสอบถามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดประกาศรื้อถอนแต่อย่างใด ขณะที่ตนเองอยู่ในพื้นที่มานาน 10 ปี และกำลังดำเนินการเช่าพื้นที่จากชายชื่อเบียร์ ในราคาเดือนละ 15,000 บาท แต่นายเบียร์ กลับเสียชีวิตไปก่อน



ทางด้านนายคฤนาจ ศิรประภาสถิต ผู้เช่าอีกรายเปิดเผยว่า ได้เช่าพื้นที่เปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์มาประมาณ 5 ปี โดยเช่าจากชายชื่อเบียร์ ในราคา 20,000 บาท ทำสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบปัญหาเรื่องการเช่าที่มาบ้าง แต่ผู้ปล่อยเช่าอ้างว่าสามารถอยู่ต่อได้ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญาจึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด เข้ามาแจ้งหรือติดต่อขอให้ย้ายออก และไม่เคยเห็นประกาศรื้อถอนตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะพูดคุยกับผู้เช่ารายอื่นและผู้ให้เช่าอีกรอบ เพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
ทั้งนี้ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย จะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง มีกำหนดตามสัญญาจ้าง กำหนดให้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ภายใน 5 วัน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 - 29 ส.ค.63 โดยจะปิดรั้วรอบพื้นที่ทั้งหมด พร้อมกับเปิดทางเข้าออกเพียงทางเดียว และให้ผู้เช่าขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ตามระยะเวลาที่กำหนด 5 วัน

รายงานพิเศษ : บุกรื้อเต็นท์รถมือสองฝืนคำสั่งศาล ไม่ชำระค่าเช่านานเกือบ 20 ปี
สนามข่าว 7 สี
วันที่ 26 สิงหาคม 2563

เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ พร้อมตำรวจ นำหมายศาลไปแสดงกับผู้ประกอบการเต็นท์ขายรถมือสอง ย่านห้วยขวาง หลังฝืนคำสั่งศาลไม่ชำระค่าเช่า นานเกือบ 20 ปี คิดมูลค่าความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท ติดตามจากรายงาน ศิรัณพร มูลอุทก

เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ตำรวจรถไฟ สนธิกำลังเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี นำหมายศาลแพ่ง คดีดำ พ.673/2551 แสดงต่อกลุ่มผู้ประกอบการเต็นท์ขายรถมือ 2 ย่านเขตห้วยขวาง ตลอดแนวถนนเทอดพระเกียรติ จำนวน 16 เต็นท์ ซึ่งมี นายเกรียง สมบูรณ์ เป็นผู้เช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กลับไม่จ่ายค่าเช่ามานานร่วมสิบปี ซึ่งการแสดงหมายศาลครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งหมดดำเนินการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ เนื่องจากการรถไฟจะทำการปิดกั้น และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 7-10 วัน

ทันทีที่เจ้าหน้าที่แสดงหมายศาล ผู้ประกอบการบางรายต่างอ้างว่า ไม่รู้ล่วงหน้า และไม่เคยเห็นหมายศาลมาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ได้งัดหลักฐาน รูปถ่ายการนำหมายศาลมาแสดง และติดประกาศแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบแล้ว ตั้งแต่ปี 2558 แต่ผู้ประกอบการยังฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล

ผู้เช่ารายนี้ อ้างว่า ประกอบกิจการขายรถมือสองได้ประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมาจ่ายค่าเช่าให้คู่สัญญาเดือนละประมาณ 100,000 บาท แม้ช่วงที่เกิดผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ยังต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายค่าให้ตรงทุกเดือน ซึ่งงวดล่าสุดได้โอนให้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จึงอยากขอขยายเวลาในการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เพราะมีรถยนต์เกือบ 40 คัน ที่จะต้องหาสถานที่แห่งใหม่ในการเปิดกิจการ

กรณีดังกล่าว การรถไฟฯ ได้ฟ้องขับไล่ นายเกรียง สมบูรณ์ จำเลยผู้เช่าที่ดินริมถนนเทอดพระเกียรติ เขตห้วยขวาง พื้นที่เช่ามากกว่า 9,000 ตารางเมตร หลังศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลย และบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยชำระเงินจำนวนกว่า 6 ล้านบาท แก่การรถไฟฯ ตั้งแต่ปี 2552 จากนั้นศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าให้ชำระเงินประมาณ 5 ล้านบาท นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และศาลฎีกาพิพากษายืน

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 การรถไฟฯ นำเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี ปิดประกาศขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกจากพื้นที่พิพาท และยังไม่มีการรื้อถอนเพื่อเวนคืนพื้นที่ รวมถึงไม่มีการชำระเงินตามคำสั่งศาล ซึ่งหากคิดมูลค่าความเสียหายต่อรัฐ ตลอดระยะเวลา 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วเกือบ 200 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44538
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/09/2020 4:54 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เล็งพับโครงการประมูลบางซื่อแปลง A
INN News 2 กันยายน 2020 - 16:19

กระทรวงคมนาคม ถกคณะกรรมการฯขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะนัดแรก รฟท. เล็งพับโครงการประมูลบางซื่อแปลง A หากรอบ 2 ไม่มีผู้สนใจ

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บางซื่อเป็นเมืองอัจฉริยะว่า เป็นการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะบริเวณพื้นที่บางซื่อ ครั้งแรกหลังจากที่มีคำสั่งแต่งตั้งจากกระทรวงคมนาคม ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าว มีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และมีหน่วยงานจากกระทรวงคมนาคม หน่วยงานภายนอกเข้าร่วม อาทิ กรุงเทพมหานคร กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย การนถไฟแห่งแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางบก ปตท. การประปานครหลวง โดยที่ประชุมได้มีการนำเสนอความก้าวหน้าของแผนการพัฒนาต่างๆเพื่อมาสนับสนุนการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อและบริเวณพื้นที่โดยรอบ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จะทำให้เป็นสมาร์ทชิตี้ ยังมีพื้นที่ที่รอเปิดประมูล เช่นพื้นที่แปลง A รวมถึงพื้นที่แปลงอื่นๆด้วย

ด้าน นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการประมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ขนาดที่ดิน 32 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ว่า ขณะนี้เตรียมเสนอคณะกรรมการบอร์ด รฟท. พิจารณาการตีความด้านกฎหมาย คู่ขนานกับการออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้ามาซื้อซอง เนื่องจากไม่สามารถปรับเปลี่ยน ร่างTOR ได้ เพราะต้องเสนอคณะกรรมการ พีพีพี อนุมัติใหม่ ทำให้เสียเวลา หากไม่มีผู้สนใจหรือมีแต่ไม่ยื่นซองจะปิดโครงการ ขณะเดียวกันจะพัฒนาพื้นที่ แปลง E ไปพร้อมกัน โดยจะให้บริษัทที่ปรึกษาเข้ามาทำการ สำรวจนำเสนอความคุ้มค่าของโครงการ การพัฒนาต่างๆตามระเบียบของการรถไฟฯปี 2562 อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในวันที่ 17กันยายน นี้จะเสนอคณะกรรมการบอร์ด รฟท.ได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 03/09/2020 12:33 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.เล็งพับโครงการประมูลบางซื่อแปลง A
INN News 2 กันยายน 2020 - 16:19


รฟท.ดันประมูล PPP แปลง A บางซื่ออีกรอบ หากเอกชนยังเมิน ปรับรวมแปลง E
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 2 กันยายน 2563 เวลา 19:07

รฟท.ชงบอร์ด 17 ก.ย.ดันประมูล PPP แปลง A บางซื่อ 1.1 หมื่น ล.อีกรอบ ตาม TOR เดิมพร้อมขอแนวทางบอร์ด รวมแพกเกจแปลง A, E คู่ขนาน เตรียมพร้อมกรณีเอกชนเมินเหมือนรอบแรกจะไม่เสียเวลา คาดรวม 2 แปลงพท.เพิ่มเป็น 100 ไร่ เพิ่มแรงจูงใจ ขณะที่ปรับผังย้าย สนญ.รถไฟไปอยู่แปลง A

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ รฟท.กล่าวถึงโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A เนื้อที่ 32 ไร่ มูลค่าลงทุน 11,721 ล้านบาท ว่า จะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ในวันที่ 17 ก.ย. ขออนุมัติเปิดประมูลอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขทีโออาร์ และ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2556 หลังจากการประมูลหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ครั้งแรกไม่มีเอกชนยื่นซอง และในขณะเดียวกัน จะเสนอบอร์ดเพื่อขอนำพื้นที่แปลง E ประมาณ 79ไร่ มาร่วมกับแปลง A โดยใช้ระเบียบการรถไฟฯ ดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งจะจ้างที่ปรึกษา ทบทวนการศึกษา การรวมแปลง A และ E และเป็นสมาร์ทซิตี้ เพื่อดูตัวเลขผลตอบแทน และการพัฒนาที่เหมาะสม

“จากการหารือฝ่ายกฎหมาย แปลง A ต้องเดินให้สุดทางก่อน ดังนั้น จะขอบอร์ดเปิดประมูลอีกครั้งโดยประกาศเชิญชวนตามทีโออาร์เดิม เนื่องจากหากต้องปรับเปลี่ยนต้องเสนอขออนุมัติคณะกรรมการ PPP ตามกฎหมายร่วมทุนฯเดิม หากไม่มีเอกชนสนใจซื้อซอง หรือมีผู้ซื้อซอง แต่ไม่มีการยื่นประมูล จะยุติการดำเนินการตามทีโออาร์เดิม ขณะที่ได้ขอบอร์ดเรื่องรวมประมูลแปลง A และ E ไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลา”

นอกจากนี้ จะเสนอขอย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ รฟท. ไปอยู่ในพื้นที่แปลง A เพราะแปลง A พื้นที่จะถูกแบ่งด้วยทางรถไฟ จะใช้เป็นที่ตั้งสำนักงาน รฟท. ส่วนการพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน ซึ่งจะอยู่ที่ตึกแดง ที่แปลง E นั้น จะสามารถพัฒนาได้หลายอาคาร เมื่อมีการปรับผัง ซึ่งการปรับปรุงทบทวนใหม่ โดยพิจารณาตามแนวโน้มของตลาดคาดว่าจะเกิดผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม และการพัฒนาแปลงA และ E เปิดบริการพร้อมกัน อาจส่งผลต่อสมาร์ทซิตี้มีความคุ้มค่าไปด้วย เพราะจะทำให้มี User เข้าในพื้นที่มากขึ้น

ครั้งสุดท้าย!! ลุยประมูลแปลงเอ บูมสถานีกลางบางซื่อ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project
2 กันยายน 2563 เวลา 17:55 น.

รฟท.ดันประมูลแปลงเอ-แปลงอี ใหม่ จ่อชงบอร์ด รฟท.17 ก.ย.นี้ เหตุเอกชนไม่ตอบรับ หลังรางรถไฟคร่อมกระทบพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บางซื่อเป็นเมืองอัจฉริยะ ว่า เนื่องจากการประชุมครั้งนี้ถือแป็นครั้งแรก วาระส่วนใหญ่จึงเป็นการหารือในประเด็นความคืบหน้าของโครงการทีเกี่ยวข้องกับพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ส่วนของ ร.ฟ.ท.ได้รายงานความคืบหน้าส่วนของการเตรียมประกวดราคาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างร่างรายละเอียดของการประกวดราคา สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ขนาดที่ดิน 32 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วแต่ไม่มีเอกชนสนใจยื่นข้อเสนอ จึงได้นำกลับมาเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกชน (มาร์เก็ตซาวดิ้ง) และเตรียมเปิดประกวดราคาครั้งสุดท้าย ซึ่งขณะนี้เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เพื่อประกาศขายซอง



“ที่ผ่านมาการประกวดราคา สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ยังไม่ได้รับการตอบรับจากเอกชน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีรางรถไฟคร่อม ทำให้ยากต่อการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เบื้องต้น ร.ฟ.ท.จึงจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาแนวทางควบคู่ โดยเสนอขออนุมัติเพื่อทำการศึกษาเปิดประกวดราคาแปลงเอ ไปพร้อมกับแปลงอี”

ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.จะดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2562 ซึ่งมีข้อกำหนดให้ ร.ฟ.ท.สามารถเปิดประกวดราคาได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือคณะกรรมการพีพีพี ดังนั้นจะทำให้กระบวนการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น

รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.ระบุว่า การเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เพื่อพิจารณาเปิดประกวดราคาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีบางกลางซื่อในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.จะเสนอไป 2 แนวทาง คือ 1. เดินหน้าเปิดประกวดราคาแปลงเอ ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 เพื่อให้การประกวดราคาโครงการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายกำหนด จัดมาร์เก็ตซาวดิ้ง 3 ครั้ง และเปิดประกวดราคาเพื่อดูการตอบรับของภาคเอกชน หากมีเอกชนยื่นข้อเสนอก็เดินหน้าโครงการได้ตามแผนเดิมกำหนด และ 2.เสนอขอศึกษาจัดทำรายละเอียดประกวดราคาพื้นที่แปลงเอ และแปลงอี ไปพร้อมกัน ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2562 เพื่อทำให้การประกวดราคาเดินหน้าอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งแนวทางนี้ ร.ฟ.ท.ประเมินว่าจะได้รับการตอบรับจากเอกชนเข้าร่วมทุนอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่แปลงอี เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ขนาดที่ดินกว่า 79 ไร่ โดยพื้นที่อยู่ติดกับสถานีกลางบางซื่อ รองรับการพัฒนาลักษณะมิกส์ยูส

“หากรวมสัญญาประมูลในส่วนของแปลงเอ และแปลงอี เชื่อว่าเอกชนจะตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแปลงอี การรถไฟฯ ประเมินว่าจะได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐเข้าไปพัฒนาสำนักงานจำนวนมาก โมเดลที่เหมาะสมจะคล้ายกับศูนย์ราชการ ที่มีคอมมูนิตี้ผสมผสานกับสำนักงานภาครัฐ ส่วนแปลงเอก็จะกลายเป็นสำนักงานของการรถไฟ”

อย่างไรก็ตามความคืบหน้าของโครงการเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ (Smart City) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมพื้นที่ ระบบสาธารณูปโภคเพื่อให้สอดรับต่อการเดินทาง ส่วนระบบและโครงข่ายการคมนาคม จะมีการพัฒนาภายหลังการลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันศึกษาแผนและประเมินความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทำการศึกษาในช่วงสิ้นปีนี้

//------------------------------
เอกชนรังเกียจการประมูลที่ดินแบบเบี้ยหัวแตกที่ไม่เป็นชิ้นไม่เป็นอันครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 162, 163, 164 ... 197, 198, 199  Next
Page 163 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©