จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

Wisarut · Posted: 04/05/2006 9:18 am Post subject:

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2470

ประกาศให้พระยาสารศาสตร์สิริลักษณ์ เป็น ผู้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง มีผลบังคับใช้ 27 กุมภาพันธ์ 2470

ให้กระทรวงเกษตร ประกาศเขตป่าสงวนไว้สำหรับราชการกรมรถไฟหลวงแห่งกรุงสยาม ที่ตำบล บ้านนา อำเภอบ้านนา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 65,130 ไร่ โดยห้ามมิให้ตัดไม้ ตัดฟืน ชักลากไม้ออกจากป่า เผาต้นยางเอาน้ำมันไปทำขี้ไต้ และ จับจองที่ทำไร่ทำนา ประกาศวันที่ 27 มกราคม 2470

Wisarut · Posted: 04/05/2006 9:29 am Post subject:

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2470 ถึง วันที่ 12 มกราคม 2470

ผู้สำเร็จราชการสเตรตเซตเติลเมนต์ ข้าหลวงเมืองมลายู และ คณะ ได้เดินทางมาเยือนกรุงสยาม ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชม นครวัด นครธม และ อินโดจีนฝรั่งเศส ...

มีกงสุลสยามประจำเมืองสิงคโปร์ และราชองครักษ์ เป็นผู้เดินทางไปรับจากสถานีปาดังเบซาร์ ก่อนให้พักที่โฮเต็ลหลวงของกรมรถไฟ ที่ หัวหิน ...

ต่อมาในวันที่ 6 มกราคม จึงเดินทางเข้าพระนครเพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

Wisarut · Posted: 04/05/2006 11:41 pm Post subject:

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2470

แต่งตั้งพระยาสารศาสตร์สิริลักษณ์ (นายช่างทางเอกกรมรถไฟหลวง) ให้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และ นายกสภาจัดบำรุงสถานที่ชายทะเลตะวันตก แทน กรมหลวงกำแพงเพชร ที่กราบบังคมทูลลาไปเปลี่ยนอากาศต่างประเทศ ที่ มานิลา กับ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ตามคำแนะนำของแพทย์ประจำพระองค์ ประกาศเมื่อ 16 มิถุนายน 2470

นอกจากนี้ ทรงแต่งตั้งหม่อมเจ้าวิวัฒนไชย แทนพระยาสุพรรณสมบัติ กรรมการสภาจัดบำรุงสถานที่ชายทะเลตะวันตก ที่ ตามเสด็จกรมหลวงกำแพงเพชร ไปต่างประเทศ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2470

เวลา 4.00 ล.ท. เสด็จออกพระที่นั่งอัมพร โปรดให้กรมหลวงกำแพงเพชร กับพระชายา และพระองค์เจ้ามยุรฉัตร พระธิดา เฝ้ากราบถวายบังคมลาเสด็จไปต่างประเทศเพื่อเปลี่ยนอากาศ หลังจากทรงตรากตรำงานในฐานะผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม พระราชทานน้ำมหาสังข์ และทรงเจิม เสด็จขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2470

ประกาศเปลี่ยนกรรมการจัดซื้อที่ดินรถไฟราษฏร์ สำหรับผู้แทนฝ่ายรถไฟผู้รับอนุญาตสายบางบัวทอง ประกาศลงวันที่ 21 มิถุนายน 2470

โปรดให้ นายกสภากรรมการรถไฟ ประกาศตั้ง นาย อาร์ เอส เลอเมย์ เป็นกรรมการแห่งสภากรรมการรถไฟ ประกาศลงวันที่ 18 มิถุนายน 2470

Wisarut · Posted: 05/05/2006 12:01 am Post subject:

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2470

โปรดให้ออกพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงแยกสายตะวันออกเฉียงเหนือ ที่บ้านบุ่งหวาย ไปบ้านโพธิมูล ( ต้นฉบับเขียนว่าบ้านโพธิบูล ) ที่สุดเปิดใช้งานเมื่อ 1 สิงหาคม 2473

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2470

เวลา 5.00 ล.ท. ทรงรถยนตร์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพร พร้อม สมเด็จพระบรมราชินี ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลล์ ณ สนามโรงเรียนสวนกุหลาบ ระหวาง สโมสรกรมเดิรรถด้วยรถไฟหลวง กับ สโมสรจังหวัดพระนครกลาง เวลา 6.20 ล.ท. เสด็จกลับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2470

พระยาพิพิธสมบัติ ( ปลัดทูลฉลองพาณิชย์และคมนาคม ) เบิกนักเรียนหลวงของกรมรถไฟซึ่งสำเร็จการศึกษามาเฝ้า 1 นาย นำรองอำมาตย์เอก สูตร ปาละศริ กราบบังคมลาไปดูการโทรศัพท์และการเดินรถในสหรัฐมลายู

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2471

เสด็จประทับที่วังบูรพาภิรมย์ เพื่อทำการพระราชกุศลสัปตวารที่พระศพ สมเด็จพระราชปิตุลา เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดช ผู้ถึงแก่ทิวงคต ด้วยพระโรคพระอันตอักเสบและ พระโรคปัปผาสะเป็นพิษเข้าผะสม ณ ตำหนักภายในวังบูรพาภิรมย์ เวลา 6.27 ล.ท.(1827) วันที่ 13 มิถุนายน 2471 โดยที่วันนั้นในหลวงฯ ได้เสด็จไปดูพระทัยสมเด็จพระราชปิตุลาฯ เมื่อเวลา 11.00 ก.ท.

ระวางที่ประทับ ณ วังบูรพาภิรมย์ พระยาพิพิธสมบัติ ( ปลัดทูลฉลองพาณิชย์และคมนาคม ) นำข้าราชการในกรมรถไฟ และกรมไปรษณีย์โทรเลข กราบบังคมทูลลา ไปดูระเบียบการธนาคารออมสินและการทำบัญชีด้วยเครื่องกล ที่ ประเทศออสเตรเลีย รวม 7 นาย

Wisarut · Posted: 05/05/2006 11:46 am Post subject:

เออ... ตอนที่เสด็จประพาสเกาะชวา ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2472 ถึง ตุลาคม ปี 2472 นั้น
ขาไปได้ลงเรือพระที่นั่งมหาจักรีเพื่อเสด็จประทับที่สวนไกลกังวล หัวหิน ตั้งแต่วันที่ 25 ถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2472 จากนั้นได้เสด็จประทับเรือพระที่นั่งมหาจักรีเลียบฝั่งไปตามแนวกระบังเขา ถึงสงขลา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2472

ต่อมาในวันที่ 30 กรกฎาคม 2472 เรือพระที่นั่งผ่านเรือสินค้าของ EAC (East Asiatic Co.Ltd.)
ต่อมาได้ถึงเมืองสิงคโปร์ 31 กรกฎาคม 2472 จากนั้นจึงเดินทางไปต่อที่ชวา เมื่อ 2 สิงหาคม 2472

ระหว่างประทับเมืองชวา ทรงพระประชวรด้วยโรคมาลาเรีย กว่าจะรักษาให้พระอาการเป็นปกติก็แทบแย่ ....

ขากลับได้เดินทางจากบาหลี ( ต้นฉบับเรียกบาลีเพราะคนอินโดและมาเลย์ไม่ขึ้นเสียงสูงเหมือนคนเมืองคอนพูดบาฮาซา) ด้วยเรือพระที่นั่ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2472 ผ่านเกาะสุมาตรา ประทับที่เมืองสุราบายา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2472 และได้ประทับเพื่อจับจ่ายซื้อของ โดยที่พระองค์ซื้อรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ 1 คัน เพื่อใช้ในราชสำนักและ ข้าวของฝีมือชาวเกาะชวาและสุมาตรา

จากนั้นได้เดินทางต่อถึงเกาะหมาก (เกาะปีนัง) เมื่อ 9 ตุลาคม 2472 โดยผ่านช่องแคบมะละกาเลียบฝั่งเนกรีเซมบิลัน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2472 เมื่อถึงเกาะหมากได้ประทับรถไฟ ขึ้นเขา ( Funicular Railway ) สูง 2,500 ฟุต เพื่อทรงถ่ายภาพยนตร์ จากนั้นได้แวะสวนสัตว์ของเจ้าอาวาสวัดจีน Ayer Itam และสวนดอกไม้ (botanic garden) .... เพื่อถ่ายภาพยนตร์วานรเชื่องในสวน

เวลาค่ำประทับในเรือพระที่นั่งเพื่อเสวยพระกระยาหาร และทอดพระเนตรภาพยนตร์ เวลา 2200 กรมหลวงกำแพงเพชรฯ พระองค์เจ้าประภาวสิต พระองค์เจ้ามยุรฉัตร ซึ่งเสด็จกลับมาจากยุโรปโดยเรือฟิโอเนีย (Fionia) ได้เข้าเฝ้าในเรือพระที่นั่ง

ต่อมา ในวันที่ 10 ตุลาคม ได้เสด็จไปที่เมืองอลอร์สตาร์ เพื่อไปยังบ้านพักเจ้าพระยาไทรบุรี (เจ้าพระยาฤทธิสงครามภักดี หรือ HH Sir Abdul Hamid Halimsha Ibni Almorhom Sultan Ahmad Tajadin Maharamsha) ตามคำกราบบังคมทูลเชิญโดย Tunku Cha บุตรเจ้าพระยาไทรบุรีและ Tunku Mahmud น้องเจ้าพระยาไทรบุรี

ตอนเดินทางเกิดเหตุร้าย รถชนกับเสาโทรเลขแต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย จากนั้นได้เดินทางไปตามถนนดิน จากอะลอร์สตาร์ ผ่านด่านชายแดนไปยังกิ่งอำเภอสะเดา เมื่อ 1250 จากนั้นเวลา 1315 เสวยพระกระยาหารกลางวันร่วมกับ กรมหลวงกำแพงเพชรฯ กรมหมื่นอนุวัตน พระองค์เจ้าไตรทศ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ และ ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน

จากนั้นเวลา 1440 เดินทางจากกิ่งอำเภอสะเดาไปยังสถานีหาดใหญ่ เวลา 1540 รถไฟพระที่นั่งออกจากสถานีหาดใหญ่ ซึ่งช้ากว่ากำหนดไป 40 นาที ทำใต้องเร่งฝีจักรเต็มที่ ถึงสถานีพัทลุงเมื่อ 1730 ถึงชุมพร เวลา 0230 ของวันที่ 11 ตุลาคม 2472 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหลังสวน ขึ้นมาเฝ้าในรถไฟพระที่นั่ง

ทุกสถานีมีพระสงฆ์สวดชัยมงคลและมีข้าราชการท้องที่มาคอยรับเสด็จที่สถานีแม้ยามดึกดื่น

เข้าเขตมณฑลราชบุรีเวลา 0724 มีสมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าเฝ้า และเวลา 0900 เศษ อากาศยานสนามประจวบ 4 ลำ ได้บินร่อนไปมาเพื่อรับเสด็จ ถึง สถานีหัวหิน เวลา 1130 สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ หม่อมเจ้าหญิงอาภาพรรณี และพระธิดา 2 พระองค์ ได้ตามเสด็จมาในกระบวนรถไฟพระที่นั่งกลับพระนครด้วย ( สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ หม่อมเจ้าหญิงอาภาพรรณี ซึ่งเป็นพระญาติของสมเด็จรำไพพรรณี คือ ผู้ที่หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิสกุล ตั้งข้อรังเกียจว่าเป็นศัตรูกับพระราชบิดา เพราะชอบให้ร้ายกรมกลวงดำรงราชานุภาพเสมอ )

รถออกจากหัวหิน เวลา 1145 สมุหเทศาภิบาล และเจ้าหน้าที่มณฑลนครศรีธรรมราช ผู้ตามเสด็จมาแต่สถานีหาดใหญ่ ได้ถวายบังคมลา จากนั้น รถไฟหยุดที่สถานีเพชรบุรี สถานีราชบุรี และสถานีนครปฐม ข้าราชการได้เข้าเฝ้าบนกระบวนรถไฟพระที่นั่ง พอสิ้นสุดเขตความรับผิดชอบก็ถวายบังคมลา ที่นครปฐม สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี ได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนเพื่อสักการะองค์พระปฐมเจดัย์ตามธรรมเนียม

ถึงสถานีจิตรลดา เวลา 1730 มีกองเกียรติยศถวายที่ สถานีจิตรลดา

เวลา 2000 ในหลวงและพระราชินี ได้เสด็จไปวังสวนกุหลาบ เพื่อ วางพวงมาลาพระศพกรมขุนสงขลานครินทร์ จากนั้นทั้ง 2 พระองค์ ได้ทอดผ้าไตร องค์ละ 10 ผืน ให้พระสงฆ์วัดเบจมบพิตร 20 รูป นำโดยพระเทพมุนีเป็นประธานสดับปกรณ์ จากนั้นได้เสด็จพระที่นั่งอัมพร

ในการเดินทางเที่ยวนี้ คุณประสงค์ นิโครธา ได้ตามเสด็จไปชวาบนเรือพระที่นั่งด้วย ทำให้สามารถเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีการผ่านเส้นศูนย์สูตร ลงวารสารรถไฟด้วย ... งานนี้ คงต้องหามาเก็บเพิ่มอีกสักเล่มเสียแล้วสิครับ ..... Laughing

Wisarut · Posted: 05/05/2006 11:53 am Post subject:

เมื่อปี 2473 ผู้สำเร็จราชการเนเธอร์แลนด์อินดิส ( อินโดนิเซีย ) ได้มาเยือนเมืองไทย เพื่อเป็นการตอบแทนที่ในหลวงฯ เสด็จเยือนเกาะชวา โดยเดินทางข้ามแดนกัมพูชามากรุงสยาม หลังเสร็จสิ้นการเยือนอินโดจีนฝรั่งเศส นั่งรถไฟจากสถานีอรัญประเทศ เข้าพระนคร เพื่อเข้าเฝ้าในหลวงฯ ที่พระตำหนักสวนจิตรลดา

Wisarut · Posted: 05/05/2006 11:57 am Post subject:

หลังจากที่สวนไกลกังวลสร้างเสร็จ แล้วทำพิธีสมโภชเมื่อปี 2472 แล้ว พระองค์ได้เสด็จไปประทับที่สวนไกลกังวล ทุกฤดูร้อน

Wisarut · Posted: 12/05/2006 11:20 pm Post subject:

วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2473 เสด็จหัวหินด้วยเรือพระที่นั่งมหาจักรีจากท่าวาสุกรี เมื่อ 1515 โดยมีเรือปืนสุโขทัยตามเสด็จ พระยาราชบังสันเป็นผู้บังคับการเรือ ถึงเมืองสมุทรปราการ เวลา 1920 อำมาตย์เอก พระยากัลยวัฒนวิศิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และ นายพันเอกหลวงนฤบาลบุรีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจ ได้ทูลเกล้าถวายธูปเทียนเพื่อสักการะพระสมุทรเจดีย์ ก่อนนำเรือออกสันดอนเวลา 20.40 ถึงอ่าวหัวหินเวลา 0755 ของวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2473

ต่อมาในวันที่ 15 กรกฏาคม 2473 ได้ให้ราชเลขาธิการ และ ผู้ช่วยราชเลขาธิการ ถวายหนังสือราชการประจำวันให้พระองค์ทุกเช้า เพื่อไม่ให้เสียราชการขณะพักผ่อนที่สวนไกลกังวล

เกือบทุกวัน พระองค์จะทรงกอล์ฟที่สนามกอล์ฟรถไฟหัวหิน แต่มีบางวันที่พระองค์ทรงถ่ายรูปหรือถ่ายภาพยนตร์ จะมีบางเวลาที่พระองค์เสด็จทอดพระเนตรชายหาด หรือทรงดนตรี ในการนี้พระองค์ได้นำคณะอภิรัฐมนตรีตามเสด็จด้วย ทำให้สามารถประชุมอภิรัฐมนตรีที่สวนไกลกังวลได้ ขณะที่ในพระนครได้แต่งตั้งผู้รักษาพระนครไว้

วันพุธที่ 3 กันยายน 2473 ได้เสด็จกลับพระนครเป็นการชั่วคราว เวลา 1050 ทรงรถยนต์พระที่นั่ง จากสวนไกลกังวล ไปยังสถานีหัวหิน รถไฟพระที่นั่งทำขบวนออกเวลา 1100 ถึงสถานีจิตรลดาเวลา 1600 จากนั้นจึงประทับพระที่นั่งอัมพร

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2473 ได้แต่งตั้งให้พระยาประสิทธิ์ศัลการ รั้งตำแหน่ง นายกสภาจัดบำรุงสถานีชายฝั่งทะเลตะวันตก แทนกรมพระกำแพงเพชรฯ ที่ไปราชการต่างประเทศ และให้รั้งตำแหน่งผู้บัญชากรกรมรถไฟหลวงแทนพระยาสารศาสตร์ศิริลักษณ์ ผู้ขอหยุดพักรักษาตัว

นอกจากนี้ได้แต่งตั้งพระยาประกิตกลศาสตร์ให้รั้งตำแหน่งนายช่างเอก แทนพระยาสฤษดิการบรรจงผู้ไปราชการ ณ ยุโรป

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2473 เวลา 1045 อัครราชทูตฝรั่งเศสและภรรยามาเข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพร เพื่อถวายบังคมลา เนื่องจากพ้นตำแหน่งหน้าที่

เวลา 1700 กรมพระกำแพงเพชรฯ ถวายบังคมลาไปราชการที่ประเทศจีน และญี่ปุ่น พระราชทานน้ำมหาสังข์และทรงเจิม

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2473 เสด็จกลับพระนครด้วยเรือพระที่นั่งมหาจักรี เวลา 1800 ประทับแรมในเรือ วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2473 เรือพระที่นั่งจักรออกจากอ่าวหัวหิน เวลา 0730 ถึงสันดอนเวลา 1530 ถึงศาลาว่าการจังหวัดสมุทรปราการ เวลา 1645 ถึงท่าวาสุกรีเวลา 1915

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2473 เวลา 0700 พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จออกจากพระที่นั่งอัมพร ถึงสถานีจิตรลดาเวลา 0730 เพื่อประทับรถไฟพิเศษ ไปหัวหิน รถออกเวลา 1100 ถึงหัวหินเวลา 1600

Wisarut · Posted: 12/05/2006 11:51 pm Post subject:

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2473 ท่านยองเดียร์เดอกราฟฟ์ ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ ได้เข่าเยี่ยมตอบจากการเสด็จเยือนชวาและบาหลี เมื่อปี 2470 โดยเดินทางจากเมืองพระตะบอง แคว้นเขมร อินโดจีนฝรั่งเศส เวลา 0800 เวลา 1100 เศษ ถึงสถานีอรัญประเทศ เร็วกว่ากำหนด 1 ชั่วโมงทำให้ต้องร่นกำหนดเวลารถออกจากอรัญประเทศ จาก 1230 เป็น 1215 โดยให้ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูตประทับรถไฟพิเศษมีห้องนั่งเล่นพร้อมเสบียง เวลา 1200
รถไฟพิเศษหยุดแวะรับน้ำและฟืน 2 สถานี ๆ ละ 10 นาทีคือที่ กระบินทร์บุรี และ โยธกา
เวลา 1853 ถึงสถานีจิตรลดา มีกองเกียรติยศ จากนั้นให้ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูตประทับที่วังปารุสกวัน

ต่อมา วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2473 ให้ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ เข้าเฝ้าฯ ในหลวง เวลา 1100 เสด็จขึ้นเวลา 1200 แล้วผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะเดินทางกลับวังปารุสกวัน

ต่อมาเวลา 1600 ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูต ได้เดินทางไปลงนามสมุดเยี่ยมวังเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เช่น วังวรดิศของกรมพระยาดำรงฯ วังบางขุนพรหมของเจ้าฟ้าบริพัตร วังบ้านดอกไม้ของกรมพระกำแพงเพชรฯ และ วังเทวเวศม์ของกรมหมื่นเทววงศ์
Click on the image for full size

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไตรทศประพันธ์ กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย หรือ หม่อมเจ้าไตรทศประพันธ์ เทวกุล

เวลา 2015 โปรดให้มีการเลี้ยงพระราชทานแก่ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูต ณ พระที่นั่งอัมพร

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2473 ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูต ประทับรถยนต์หลวงขึ้นรถไฟพิเศษที่สถานีจิตรลดา เพื่อเยี่ยมชมการทดน้ำที่ท่าหลวงโดยมีเจ้าพระยาพลเทพ คอยรับอยู่ เวลา 1500 ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูตประทับที่พระราชวังบางปะอิน

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2473 เวลา 0700 ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูต เดินทางจากบางปะอินไปอยุธยา เพื่อชมโบราณวัตถุและกลับไปรับประทานอาหารกลางวันที่พระราชวังบางปะอิน เวลา 1400 ลงเรือยนต์เข้าพระนคร ถึงท่าวาสุกรีเวลา 1900 จากนั้นได้เข้าเฝ้าแล้วรับประทานอาหารที่สถานทูตฮอลแลนด์ เวลา 2315 ผู้สำเร็จราชการเนเดอแลนด์ และคณะทูตเดินทางกลับชวา ด้วยเรือสลุป ฟลอเร็ส และ เรือยอร์ชซุยเดอครุย ที่ทอดสมอหน้ากระทรวงทหารเรือมาแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2473 เวลา 1600

Wisarut · Posted: 13/05/2006 1:08 am Post subject:

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2474 เจ้าฟ้าเลโอโปลด์ มกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยี่ยม ( Crown prince Leopold - ต่อมาได้ครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งเบลเยี่ยม พระราชบิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีพระเจ้าโบดวง ผู้เป็นพระสหายของพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ) และพระชายาแอสตริด ( princess Astrid Bernadotte ) พร้อมบริวาร เสด็จเข้ากรุงสยาม โดยขบวนรถด่วนสายใต้จากสถานีไปร โดยที่กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินได้เข้าเฝ้า มกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยี่ยม และพระชายาที่สถานีปาดังเบซาร์ และได้ตามเสด็จมกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยี่ยม และคณะไปด้วย

เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจทรงต้อนรับที่สถานีจิตรลดา แล้วเชิญเข้าเฝ้าที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ทรงพระราชปฏิสันฐานฉันพระราชวงศ์ จากนั้น จึงเสด็จพามงกุฎราชกุมารเลโอโปลด์และคณะ ไปส่งวังปารุสกวัน เวลาค่ำ มีพระราชทางเลี้ยงอาหารค่ำ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชทานตราจักรีให้มงกุฎราชกุมารเลโอโปลด์ มีพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ได้รับเชิญมาในงานพระราชทานเลี้ยง

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2474 เวลาค่ำ เสด็จพระทับรถยนต์พระที่นั่งพร้อมสมเด็จพระราชินี ไปยังโรงโขนหลวงสวนมิสกวัน เพื่อทอดพระเนตรโขนและ พระราชทานเลี้ยงอาหารว่าง ซึ่งจัดต้อนรับมกุฎราชกุมารเลโอโปลด์และพระชายา เสร็จแล้ว มกุฎราชกุมารเลโอโปลด์และพระชายา ถวายบังคมลาเพื่อออกจากกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น

Click on the image for full size

เจ้าฟ้าเลโอโปลด์และพระชายาแอสตริด ในพิธีอภิเษกสมรส ปี 1926

Click on the image for full size

เจ้าฟ้าเลโอโปลด์

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2474 เจ้าฟ้าชายเลโอโปลด์และคณะได้เสด็จขึ้นไปที่เมืองแพร่ และ เชียงแสนด้วยขบวนรถด่วนสายเหนือ และเสด็จลงที่สถานเด่นชัย เพื่อดูการทำไม้เมืองแพร่ จากนั้นจึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเพื่อประทับรถไฟพระที่นั่งที่สถานีเด่นไชย เพื่อไปยังสถานีนครลำปางเพื่อเสด็จ ยังเมืองเชียงแสนเพื่อทอดพระเนตรสามเหลี่ยมทองคำ โดยทางรถยนต์ตามท่างหลววงแผ่นดินหมายเลข 3 (ลำปาง - เชียงราย - เชียงแสน ปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของถนนพหลโยธิน) ในการนี้ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินได้ตามเสด็จไปด้วย เมื่อเยือนเชียงแสนแล้ว สมเด็จพระบรมราชกุมารเบลเยี่ยมและคณะได้เดินทางต่อยังเมืองเวียงจันทน์โดยทางเรือ ตามลำแม่น้ำโขง

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2474