RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13180666
ทั้งหมด:13491901
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2009 11:05 pm    Post subject: Reply with quote

วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖
เวลา ๑๓.๒๕ น. สมุหเทศาภิบาล กับผู้ว่าราชการ เอารถยนต์มารับ พร้อมกันทั้งครัวเรือนไปหาดใหญ่ ทาง ๒๗ กิโลเมตร

เวลา ๑๔.๐๕ น. ถึงบ้านหาดใหญ่ อันเปนชุมทางรถไฟแยกไปสี่ทาง คืิอ ขึ้นไปเขาชุมทองทางหนึ่ง ไปสงขลาทางหนึ่ง ลงไปปะดังเบซา ทางหนึ่ง ไปสุไหงโกลกทางหนึ่ง

เวลา ๑๔.๔๐ น. รถไฟจากปะดังเบซา (ปาดัีงเบซาร์) ถึง พวกเราพากันขึ้นรถ มีนายตำรวจตามไปด้วย ส่วน สมุหเทศาภิบาล กับผู้ว่าราชการ ส่งเพียงหาดใหญ่

เวลา ๑๔.๕๐ น. รถออกเดิร หยุดตามตำบลและสถานีดั่งที่จะกล่าวต่อไปนี้
เวลา ๑๕.๒๕ น. รถหยุดที่ ควนเนียง (ควนนาง) ครู่หนึ่ง
เวลา ๑๕.๔๐ น. รถหยุดที่ หารเทา ๕ นาทีหลีกรถ
เวลา ๑๖.๓๐ น. ถึงสถานีพัทลุง รถหยุดครู่หนึ่ง พระยา สุรเดชรณชิต ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงและ กรมการลางคน มาคอยรับ
เวลา ๑๗.๔๐ น. ถึงสถานีเขาชุมทอง เป็นชุมทางแยกไป สามทาง คือ ขึ้นสุราษฎร์ธานีทางหนึ่ง ขึ้นนครศรีธรรมราชทางหนึ่ง ลงไปหาดใหญ่ทางหนึ่ง พวกเราลงจากรถไฟเพราะต้องต่อรถ ไปนครศรีธรรมราช ที่สถานี มี พระยาบุรีสราธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช กับกรมการคอยรับ พบตลับเล็ก ละคอนเจ้าคุณเทเวศรมาเต้นรับอยู่่ที่นี่ด้วย [เพราะตลับเล็ก]มาเป็นเมียพนักงานรถไฟอยู่ที่นี่

เวลา ๑๘.๐๐ น.รถไฟขะบวนมาแต่ชุมพร (ขบวน รถรวม ๖๓ ชุมพร - นครศรีธรรมราช) มาถึง พวกเราขึ้นรถไฟ ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมการ ตลับเล็ก มาขึ้นรถไฟด้วย

เวลา ๑๘.๑๕ น. รถไฟออก หยุดตามระยะทางั่งที่จะกล่าวต่อไปนี้
เวลา ๑๘.๓๐ น. หยุดบ้านทุ่งหล่อส่งคนเดิรสาร
เวลา ๑๘.๓๕ น. หยุดสถานีโคกคราม
เวลา ๑๘.๔๕ น. หยุดบ้านท่าช้างส่งคนเดิรสาร
เวลา ๑๘.๕๐ น. หยุดที่วังงัว (วังวัวแต่ สมเด็จกรมพระยาฯท่านอ่านเป็นวังงัว)
เวลา ๑๙.๐๐ น. หยุดสถานีมะม่วงสองต้น
เวลา ๑๙.๐๗ น. ถึงสถานี นครศรีธรรมราช ลงจากรถมีข้าราชการคอยรับอยู่มาก และ ผู้ว่าราชการได้พากันขึ้นรถยนต์ไปส่งที่พลับพลาหน้าเมืองด้านเหนือ เป็นที่พำนักสำหรับแขกบ้านแขกเมือง

//-----------------------------------------------
วันอังคารที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

เวลา ๑๐.๑๕ น. พากันนมัสการพระธาตุ ถามทางไปที่ถนนกลางเมือง อันเคยมีวัดร้างเรียงกันระนาว ได้ความว่า หายหมดกลายเป็นเมืองโซ้ด (เมืองใหม่) มีสถานราชการ และ ที่พักราชการ อย่างกำมะลอ[ที่พังเอาง่ายๆ] นึกฉุนอยู่่ในใจว่า ถ้าอยากได้เมืองงามทำไม่ไม่ไปสร้างเมืองใหม่อย่างนิวเดลีของอังกฤษอินเดีย มาทำลายของเก่าทำไม ถึงพระบรมธาตุ เห็นรูปพรรณอย่้างที่เคยอยู่ตามที่เคยเห็น ค่อยมีใจมา จากนั้นเข้าวิหารพระม้าที่น่าชื่นชมมากเพราะเขามีใจรักษาไว้ดี ชมพระพุทธรูปในทับเกษตร

เวลา ๑๖.๑๕ น. ขึ้นรถชมเมือง ทืี่สุดกลับมาที่พระบรมธาตุ ชมวิหารเขียนที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แต่ จัีดไม่เปน ทำให้ดูเปนประหนึ่งคลังเก็บของมากกว่า

เวลา ๑๘.๐๐ น. ไำปร้านเครื่องถมที่ตลาดนอกเมือง เป็นตึกแถวมีโีรงงานอยู่หลังร้าน ทำฝีมือดี ถูกกว่าของที่กรุงเทพ เลยเลือกซื้อไปฝากชาวกรุงเทพ

//-----------------------------------------------------
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44329
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/10/2009 9:21 am    Post subject: Reply with quote

ควนเนียง พิมพ์เป็น ควนนาง จริง ๆ หรือครับ Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2009 11:59 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ควนเนียง พิมพ์เป็น ควนนาง จริง ๆ หรือครับ Rolling Eyes


ก็สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ท่านเข้าใจของท่านเองว่า ควนเนียงมาจากคำว่าควนนางนี่ครับ Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2009 11:17 pm    Post subject: Reply with quote

วันพุธที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖
เวลา ๐๙.๔๕ น. ขึ้นรถพากันไปดูเหมืองดีบุก หนองเป็ด (Nong Ped Tin Mine Syncdicate) ของชาวออสเตรเลีย ที่ ร่อนพิบูลย์
เวลา ๑๐.๔๕ น. ถึงที่ว่าการอำเภอร่อนพิบูลย์ หลวงประชาภิบาล นายอำเภอร่้อนพิบูลย์ต้อนรับขึ้นเรือน
เวลา ๑๑.๐๐ น. นายอำเภอร่้อนพิบูลย์ พาชมเหมืองดีบุก หนองเป็ด ซึ่งเป็นเหมืองฉีด ที่มีการกั้นทำนบไว้บนยอดเขา ก่อนเอาน้ำจากทำนบฉีดดินพังเป็นกระบิ มีต่อท่อกาลักน้ำ เพื่อ นำน้ำผสมดิน หิน กรวด ทราย แร่ ลงถังก่อน นำขึ้นมาที่รางแยกแร่ การร่อนแยกแร่ดีเลว 3 ชนิด ก่อน นำส่งไปขายที่ปีนัง ลักษณะไม่ต่างจากเหมืองคลาอย่างเก่าเพียงแต่แรงมากขึ้นกว่าเดิม
เวลา ๑๑.๔๕ น. พาไปพบผู้จัดการ ซึ่งจัดเลี้ยงเครื่องดื่ม แซนวิืช

เวลา ๑๒.๑๐ น. ลาผู้่จัีดการเหมืองแร่หนองเป็ด เพื่อเดินทางไปดูเรือขุดแร่ที่ล่มในเหมืองแร่ของ บริษัท ร่้อนพิบูลย์ ไปได้ครึ่งทางฝนตก ต้องรอให้ฝนหาย ที่เรือนของนายอำเภอร่้อนพิบูลย์

เวลา ๑๔.๓๐ น. ฝนหายแล้ว นายอำเภอร่้อนพิบูลย์จึงพาชมเหมืองแร่ของ บริษัท ร่้อนพิบูลย์ ดูเรือขุดที่ล่ม ท้ายเรือเป็นโรงสังกะสีสูงโด่ง ใหญ่โตมาก ข้างหัวจมปริ่ม ปากเรือยังพ้นน้ำ มีถังรีทางหัวเป็นงามสอดระหัด ดูท่วงทีแล้วจะกู้ขึ้นมาไม่สำเร็จ

เวลา ๑๕.๔๕ น. กลับที่พักในเมืองนครศรีธรรมราช (มาถึงเวลา ๑๖.๐๐ น.) ทาง ๓๑ กิโลเมตร

เวลา ๑๖.๓๐ น. เขาเอางัวมาชนให้ดู ๒ คู่
เวลา ๑๘.๒๐ น. หมอและแหม่มแมคดาเนียล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มาหา เลียบเคียงเรี่ยไร ให้ไป ๔๐ บาท

วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

เวลา ๑๑.๐๐ น. ชมโบสถ์พราหมณ์ บนถนนสายกลางเมือง สถานพระอิศวรอยู่ฟากตะวันตก สถานพระนารายณ์อยู่ฟากตะวันออก พราหมณ์พาชมรูปหงส์, รูปนฏราชา รูปพระคเณศ รูปพระลักษมีที่เขาเข้าใจว่าอุมา ในหอพระอิศวร เฉพาะรูปหงส์ที่เป็นของมีมาแต่เดิม นอกนั้นเป็นการหล่อเอารูปแบบจากอินเดีย มีกลองชนะ ๒ คู่ใช้ตีแห่ไปหอพระสยม ทางด้านใต้ พอเข้าไปยังโบสถ์พราหมณ์ก็พอใจเพราะ เป็นเทวสถานเก่าก่ออิฐไม่มีหลังคา มีโยนิใหญ่อยู่กลาง แต่ศิวลึงค์ อยู่นอกมุข มี ศิวลึงค์เล็กอีก ๔ พร้อมโยนิ แต่ ๑ มีกระดาน ๔ แผ่นได้แก่

กระดานสลักรูปพระคงคา อันเก่า
กระดานสลักรูปคงคาอันใหม่ที่สลักแทนของเดิมที่ผุพัง
กระดานรูปเทวดาบนยอดไม้ และ ภูเขา และ
กระดานโล้ชิงช้า

ส่วนสถานพระนารายณ์ตรงข้่ามโบสถ์พราหมณ์ เป็นสถานก่ออิฐใหม่อล่องฉ่อง มีรูปนารายณ์ครั้งกรุงเก่า รูป ๑ ครุฑหิน รููป ๑

เมื่อออกจากสถานพระนารายณ์ ให้พราหมณ์ พาไปดูสถานพระสยม ในถนนพระเสื้อเมือง เป็นสถานก่ออิฐร้างพังเหลือเพียงกำแพงสูง ๕๐-๘๐ เซนติเมตร ในห้องมีรูปศิวลึงค์ฺ องค์หนึ่งพร้อมหินคล้ายลูกมะหวด มีแอ่งรับตะเกียง

ออกจากสถานพระสยม พราหมณ์ พาชมหลักเมือง ที่เป็นแท่งหินหยาบ หน้าประมาณ ๔๐ x ๓๐ เซนติเมตร สูงประมาณ ๑ เมตร ปักอยู่หลังร้านโกโรโกเต มุมถนนกับตรอก ไม่มีศาล จากนนั้นดูศาลพระเสื้อเมือง ที่อยู่คนละฟากกับหอพระสยม เยื้องทางเหนือ หน่อยหนึ่ง เป็นโรงกำมะลอ กลาางโรงมีกุฏเจ๊กก่ออิฐ สัณฐานดั่งกรงนกขุนทอง กั้นแบ่งสองห้อง ห้องหน้าเป็นพระพุทธรูปทรงเทริดแบบกรุงเก่าห้องหลังเป็นเทวรูปนั่งท่่าวิศวกรรม ได้ความว่า เคยมีจีนเป็นเฮียกง แต่บัดนี้ไม่มีเฮียกงแล้ว ผู้ใหญ่บ้านดูแลรักษาแทน

ออกจากศาลพระเสื้อเมืองไปนมัสการพระสิหิงส์ หอทำใหม่ วังเจ้านครก็รื้อหมด ไม่มีอะไรควรดูเลย

เวลา ๑๒.๓๐ น. กลับที่พัก
เวลา ๑๕.๒๕ น. ขึ้นรถไปท่าแพ ลงเรือยนต์
เวลา ๑๕.๕๐ น. เรือยนต์ ออกตามลำน้ำ เพื่อชมการจับจระเข้
เวลา ๑๗.๐๐ น. ถึงปากพูน (ปากภูน ตามต้นฉบับ) จระเข้ก็ไม่ขึ้น เห็นแต่ตายลอยน้ำมา ๑ ตัว นายอำเภอให้ลูกบ้านเอาเบ็ดราวเกี่ยวไว้ ยาวศอกคืบตัวหนึ่ง ยาว สามศอกตัวหนึ่ง
เวลา ๑๗.๓๐ น. ล่องเรือกลับ แต่ไปขลุกขลักตอนจวนถึงท่าแพ กว่าจะถึงท่าแพวได้ เวลา ๑๘.๔๕ น.
เวลา ๑๙.๐๐ น. ขึ้นรถกลับที่พัก ทาวง่า ฝนตกบริเวณที่พักก่อนมาถึง ส่วนจระเข้นั้นชุกชุมมากที่ปากพญา แต่ เรือไม่เดิรไปปากพญาเพราะ น้ำตื้น จึงไปทางปากพูน (ปากภูน) แทน
เวลา ๒๑.๓๐ น. นายปานปากพนัง เป็นคนตาบอด และ เป็นตั้วโผ (โต้โผ) หนังตะลุง [หนังปานบอด จาก ปากพนัง นายหนังตะลุงผู้โด่งดัง] เขาพามาเล่น ของมาร้องเพลงบอก นายปานเป็นต้นบท มีลูกคู่รับ ๔ คู่ นายปานเป็นคนฉลาด ว่าต้นยอ และ ให้พรตลอดไป


Last edited by Wisarut on 31/05/2013 12:11 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 01/11/2009 1:16 am    Post subject: Reply with quote

วันศุกร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

เวลา ๑๐.๐๐ น. ขึ้นรถไปลาพระบรมธาตุ เห็นรูปเขียนเป็นพุ่มอยู่ยบนฐานติดฝา เห็นว่าเป็นพุ่มวัดประดู่ท่าวัง เขาว่าอยู่ใกล้ตลาดเลยพากันไปดูเพราะ ยังทันขบวนรถไฟ

เวลา ๑๐.๑๕ น. ออกจากพระบรมธาตุ ชมพุถ่มวัดประดู่ท่าวัง แต่พบว่าอยู่ที่ตลาดนอกเมืองในถนนสายกลางไปท่าแพ วัดนี้ใช้หัวเม็ดประตุกำแพงแบบ ยอดบัวลายขาด ตัดทั้งสองข้่าง ด้านที่เป็นช่องประตูและด้านที่ต่อกำแพง เป็นวัดเก่าที่ได้รับการซ่อมแซมใหม่ เป็นโซดเสียแล้ว แต่ ขอบใจที่พุ่มยังอยู่ยังไม่มีใครไปแก้ไขต่อเติมให้เสียรูป พุ่มที่ว่าฐานย่อไม้สิืบสอง ชั้นยอดมีกระจังบัตรตีนยานล้อมพุ่ม เช่นพุ่มเข้าวรรษา ทรงงามๆทั้งนีั้น น่าจะเป็นพุ่มบรรจุอัฐิ คนสำคัญของเมืองคอนเป็นแน่

เวลา ๑๐.๓๐ น. กลับจากวัดประดู่ ไปสถานีรถไฟ มีผู้ว่าราชการจังหวัดกับคุณหญิืง และ ข้าราชการลา่งคน มาคอยส่ง

เวลา ๑๐.๕๐ น. รถไฟออก ขุนรัฐวุฒิ ปลัดจังหวัดขึ้นมาในกระบวนรถ รถไฟหยุดพักตามทางต่อไปนี้
เวลา ๑๑.๐๐ น. หยุดสถานีมะม่วงสองต้น
เวลา ๑๑.๐๕ น. หยุดวังงัว
เวลา ๑๑.๑๐ น. หยุดบ้านท่าช้าง
เวลา ๑๑.๒๕ น. หยุดสถานีโคกคราม
เวลา ๑๑.๓๕ น. หยุดบ้านทุ่งหล่อ
เวลา ๑๑.๕๐ น. หยุดสถานีเขาชุมทองเปลี่ยนรถ รถหยุดและขนของลง รถที่จะไปต่อมาถึง (ขบวนรถรวม สงขลา - กันตัง) ก็ขนของขึ้นรถ พวกเราก็ขึ้นรถ
เวลา ๑๒.๒๘ น. รถออกจากสถานีเขาชุมทอง
เวลา ๑๒.๓๕ น. ถึงสถานีร่อนพิบุลย รถหยุด ๑๐ นาที
เวลา ๑๒.๔๕ น. รถออกจากสถานีร่อนพิบุลยทางตอนนี้ขึ้นเขาสพัดมา พวกเรากินเข้ากลางวัน ซึ่งผู้่ว่าราชการจังหวัดจัดมาให้กินไปพลาง
เวลา ๑๒.๕๕ น. รถไฟเข้าถ้ำ มืดไม่เห็นอะไร ๓ นาที จึ่งออก
เวลา ๑๓.๐๕ น. รถหยุดสถานีช่องเขา

เวลา ๑๓.๒๕ น. ถึงสถานีชุมทางทุ่งสง รถหยุดถ่ายคนที่นี่ แต่พวกเราไม่ต้องถ่ายเพราะรถขบวนที่เรามานี้แล่นเลยไปกันตังอันเป็นทิศทางที่เราประสงค์จะไปอยู่แล้ว แต่เมื่อรถต่อยังมาไม่ถึง เราจึงออกเดิรเล่นในตลาด นายอำเภอทุ่งสงมารับพาเที่ยวชมตลาด แต่ไม่มีอะไรซื้อเพราะมีแต่ของที่กรุงเทพทั้งนั้น ชมแล้วกลับมาสถานี จวนเวลารถออก เราก็ลาปลัดจังหวัด กับนายตำรวจที่มาส่ง และ นายอำเภอที่มารับ

เวลา ๑๔.๐๖ น. รถไฟออกเดิรต่อไป หยุดตามระยะดังนี้
เวลา ๑๔.๑๔ น. หยุดสถานีที่วัง
เวลา ๑๔.๓๕ น. หยุดสถานีกะปาง
เวลา ๑๔.๕๕ น. หยุดสถานีคลองมวน
เวลา ๑๕.๑๐ น. หยุดสถานีคลองญวน (ยางยวน)
เวลา ๑๕.๔๐ น. หยุดสถานีห้วยยอด นายอำเภอมารับ ถามถึงเขาปินะ ว่าไปไม่ได้ ฝนตกทุกวันทางเป็นโคลน รถหยุด ๕ นาที แล้วออกเดิรต่อไป
เวลา ๑๕.๔๕ น. หยุดสถานีลำภูรา
เวลา ๑๕.๕๕ น. หยุดคลองเต็ง
เวลา ๑๖.๑๐ น. หยุดสถานีตรัง พระยาอาณาจักรบริบาล ผู้ว่าราชการจังหวัด และ ข้าราชการมาคอยต้อนรับ พาขึ้นรถยนต์ ไปพักที่จวนผู้ว่าราชการอันเขาสละให้อยู่ ตัวเองถอยไปเรือนเล็กรับแขก อยู่เชิงเนินใกล้กันนี้เอง จวนอยู่บนควนกว้างใหญ่จัดไว้่เรียบร้อยดีมาก เวลาเย็๋นออกเดรเล่นในเขตบ้าน จนถึงที่พักผู้ว่าราชการ ได้พบรู้จักกับคุณหญิิง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2010 12:37 am    Post subject: ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับในหลวงและแขกบ้านแขกเมืองจากบริติชปาเต๊ะ Reply with quote

ในหลวงรัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จเยือนอเมริกา ปี 2474 เพื่อรักษาพระเนตร น่าเสียดายที่จดหมายเหตุรายวันขณะเสด็จเยือนสหรัอเมริกาปี 2474 สูญหายไป Sad
http://www.britishpathe.com/record.php?id=4598

ในหลวงรัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จถึงโดเวอร์ เมื่อ 26 เมษายน 2477
http://www.britishpathe.com/record.php?id=5222

ข่าวการสละราชย์สมบัติในหลวงรัชกาลที่ 7 เมื่อ 2 มีนาคม 2477
http://www.britishpathe.com/record.php?id=5453

ในหลวงรัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ที่เซอร์เรย์ หลังสละราชย์สมบัติ ปี 2478
http://www.britishpathe.com/record.php?id=5819
Back to top
View user's profile Send private message
boatteam
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 05/04/2010
Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด

PostPosted: 06/07/2010 7:11 am    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่อุตสาห์ หาข้อมูลมาเพียบเลย
และยังขยันพิมพ์อีก Razz
ได้ทราบข้อมูลครบทุกด้านเลย ขอบคุณครับ Laughing
_________________
สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 06/07/2010 7:59 am    Post subject: Reply with quote

เฮียวิศ

อันข้อเขียนเรื่องราวที่คัดลอกมาจากบรรดาจดหมายเหตุแลข้อบันทึกต่างๆ นั้น ขอได้พึงรำลึกว่าทุกถ้อยคำนั้นหากคัดลอกมาผิดพลาดแต่ต้นทางแล้ว นานไปผู้คนที่เข้ามาดูพาลเข้าใจว่าเป็นถ้อยคำที่ถูกต้อง แต่เปนการวิปลาสคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง

ขอได้พึงระวังให้จงหนัก แลตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนนำขึ้นเผยแพร่ด้วย จะเป็นการดียิ่ง Razz
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 31/05/2013 12:10 am    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size
พระบาทสมเด็ํจพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายภาพยนตร์ขณะเสด็จเลียบมณฑลพายัพ (6 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ 2469) ภาพนี้โค้งแก่งหลวง เมื่อขบวนรถพระที่นั่งผ่านมาถึง ทรงมีรับสั่งให้หยุดขบวนรถ แล้วเสด็จลงมาถ่ายภาพแม่น้ำยม เมื่อ 10 มกราคม 2469 - ภาพนีมีในหอจดหมายเหตุแห่งชาติด้วย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=524081974317002&set=a.222336111158258.53206.222323771159492&type=1&ref=nf


Last edited by Wisarut on 31/05/2013 11:52 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44329
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/05/2013 8:22 am    Post subject: Reply with quote

^^^
แปลกใจที่ภาพนี้ไม่ได้นำลงพิมพ์ในหนังสือสมุดภาพรัชกาลที่ ๗ ที่สถาบันพระปกเกล้าจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในนิทรรศการอวดภาพและของหายากยุครัชกาลที่ ๗ (ปกสีเขียว) ทั้ง ๆ ที่หนังสือเล่มนี้ระบุว่ารวบรวมภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
Page 8 of 10

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©