View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 03/11/2015 9:46 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | ส่วนการเสด็จฯเปิดรรถไฟสายแปดริ้วและการเสด็จเมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 24 มกราคม รศ. 126 ( นับอย่างใหม่ต้องปี 2451 ) นั้น ได้เขียนไว้แล้ว ค้นดูก็จะเจอ เพราะผมดูดมาที่นี่ด้วย |
นี่ครับ จดหมายเหตุ เรื่อง เปิดรถไฟสายตะวันออกและสายเหนือ และ เสด็จพระราชดำเนินประพาสเมืองฉะเชิงเทรา - ซึ่งเป็น บันทึกเหตุการณ์การเสด็จพระราชดำเนินเปิดรถไฟสายตะวันออก(ถึง ฉะเชิงเทรา)และสายเหนือ(ถึงพิษณุโลก) ณ พลับพลาพระราชพิธีสถานีรถไฟกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ร.ศ. 126 เวลาเช้า 3 โมงเศษ แล้วเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถไฟพิเศษสายตะวันออกผ่านสถานีบางกระสัน (มักกะสัน) คลองแสนแสบ (คลองตัน) บ้านหัวหมาก บ้านทับช้าง สถานีที่ 2 (สถานีคลองสอง - ปัจจุบันคือสถานีลาดกระบัง) หัวตะเข้ คลองหลวงแพ่ง คลองพระยาเดโช (สถานีเปรง) ถึงสถานีฉะเชิงเทรา เวลาเช้า 5 โมงเศษ เสด็จลงจากรถไฟพระที่นั่งแล้วเสด็จลงเรือประทับล่องไปตามลำน้ำบางปะกงถึง ที่ว่าการมณฑล เสด็จประทับห้องประชุม พระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมือง แล้วจึงเสด็จประทับเรือพระที่นั่ง ประทับแรม ณ ตำหนักพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นมรุพงศ์ศิริพัฒน์เพื่อประพาสเมืองฉะเชิงเทรา
วันที่ 30 มกราคม ร.ศ. 126 เวลาเช้า 2 โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระนคร โดยเสด็จประทับในเรือพระที่นั่งแจวขึ้นไปตาม แม่น้ำบางปะกง เข้าลองท่าไข คลองนครเนื่องเขตร เวลาค่ำประทับแรมที่วัดปากบึงในคลองนั้น รุ่งเช้าเสด็จพระราชดำเนินเข้าคลองแสนแสบ เวลาค่ำประทับแรมที่เมืองมีนบุรี เวลาเช้าเสด็จพระราชดำเนินจากเมืองมีนบุรีมาตามคลองแสนแสบ ถึงประตูน้ำ ปทุมวัน เสด็จฯ มาตามคลองมหานาค เลี้ยวไปตามคลองผดุงกรุงเกษม เลี้ยวเข้าคลองเม่งเสง ไปเสด็จขึ้น ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เวลาบ่าย 5 โมงเศษ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 01/02/2016 8:31 pm Post subject: |
|
|
วันนี้คุณพิเชษฐ์ไปค้นเจอของดีมา ต้องพูดถึงหน่อย
Pichet Chamneam wrote: | จากบันทึก"ฟื้นความหลัง" โดย เสถียรโกเศศ
สถานีรถไฟกรุงเทพ สถานีเดิมอยู่ถัดจากสะพานนพวงศ์ไม่ไกลนัก ปัจจุบันเป็นทางรถไฟไปแล้ว
ตัวสถานีรถไฟเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาสีเหลือง ๆ มอ ๆ รูปทรงเป็นเรือนหลังคาปั้นหยา มีระเบียงดูเหมือนรอบตัว ถ้าผิดก็เป็นระเบียงสองด้านหน้าหลังเท่านั้น ส่วนระยะพื้นเรือนลงมาจนพื้นดิน ซึ่งเรียกว่า ล่องถุนมีระยะสูงมากกว่าเรือนธรรมดาเล็กน้อย เดินลอดเข้าออกได้สะดวก
ห้องขายตั๋วรถไฟ เข้าใจว่าอยู๋ในบริเวณนี้ด้วย พื้นทั้งหมดปูอิฐหรือลาดซิเมนต์ สมัยนั้นเรียก "สเตชั่นรถไฟ" คนสามัญเรียกว่า "สเตแท่นรถไฟ" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "สเตแท่น" ก็เข้าใจกันดี |
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1257482304265832&set=a.109195855761155.16402.100000122231436&type=3 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44497
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/10/2017 1:40 pm Post subject: |
|
|
ตามรอย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯประพาสเมืองโคราช ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเปิดทางรถไฟ สายนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2443
เนื้อหาโดยสรุป (เส้นทาง และสถานที่เสด็จฯ)
วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2443 (รศ.119)
เวลาเช้า 1 โมง 25 - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟ ออกจากกรุงเทพฯ มายังเมืองนครราชสีมา
เวลาเช้า 4 โมงเศษ - เสด็จฯถึงแก่งคอย ทรงเสวยกลางวัน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ที่ตามเสด็จ
- ถึงปากช่อง หยุดแวะเติมน้ำลงหม้อน้ำ(รถจักร) แล้วเดินทางต่อไป
- ถึงหลักศิลาที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนิน(มอหลักหิน) อยู่ข้างทางถัดสีคิ้วขึ้นไป รถหยุดแวะ ทรงเสด็จฯทอดพระเนตรหลักศิลา แล้วเสด็จฯเดินทางต่อ
- ถึงช่วงตำบลโคกกรวด เจ้าพนักงานกรมรถไฟจุดดินระเบิดศิลาถวาย เมื่อทอดพระเนตรแล้วจึงออกเดินทางต่อไป
เวลาบ่าย 4 โมงเศษ - เสด็จฯถึงเมืองนครราชสีมา อันเป็นที่สุดของทางรถไฟ ในที่นี้ พระเจ้าน้องยาเธอกรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยข้าหลวง และข้าราชการมณฑลนครราชสีมา และมณฑลใกล้เคียง มาคอยเฝ้ารับเสด็จเป็นอันมาก
- เสด็จมาตามทางถนนเข้าในตลาด ไปออกถนนราชดำเนินหน้ากำแพงเมือง ตรงมาพลับพลาค่ายหลวง(ค่ายสุรนารี ในปัจจุบัน) เสด็จลงจากม้าพระที่นั่ง ประพาสตามสนามหญ้าในบริเวณหน้าพลับพลาค่ายหลวง พระราชทานเสมาผูกคอเด็ก แก่บุตรข้าราชการ และราษฎรชาวเมือง
- ระหว่างหนทางที่เสด็จพระราชดำเนิน ราษฎร พ่อค้า ชาวตลาด ได้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาตลอดทาง พระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในเมือง สวดชยันโตถวายชัยมงคล มีการเล่นเต้นรำของชนชาวเมืองตลอดทาง
- ในเวลาค่ำวันนี้ เสด็จออกทอดพระเนตรเพลง แล้วเสด็จขึ้นที่ประทับพัก เวลา 4 ทุ่ม
วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2443 (รศ.119)
เวลาเช้า 2 โมงเศษ - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพลับพลาในค่ายหลวง(ค่ายสุรนารี ในปัจจุบัน) ทรงม้าพระที่นั่งเสด็จไปทางถนนราชดำเนินหน้ากำแพงเมือง เลี้ยวเข้าประตูชุมพล ประพาสตามถนนในเมือง ตรงไปเลี้ยวถนนกำแหง ไปประทับที่ศาลาว่าการมณฑล(ศาลากลางจังหวัด) แล้วทอดพระเนตรที่ต่างๆในบริเวณนั้น
- เสด็จฯไปประพาสวัดกลาง(วัดพระนารายณ์มหาราช) เสด็จขึ้นบนวิหารใหญ่... เสด็จข้ามสะพานไปทอดพระเนตรอุโบสถอันตั้งอยู่กลางสระบัวด้านตะวันออก เสด็จเข้าในอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการพระพุทธรูป
- เสด็จฯไปหอนารายณ์(เทวสถานศาลพระนารายณ์) ทรงทอดพระเนตรเทวรูปต่างๆ ทรงจุดเทียนทองเทียนเงินบูชาเทวรูป
- เสด็จฯ ประพาสตามร้านขายผ้า และสิ่งของต่างๆ ...
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2443 (รศ.119)
เวลาเช้าโมงเศษ - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงม้าจากพลับพลาในค่ายหลวง(ค่ายสุรนารี ในปัจจุบัน) ไปตามถนนราชดำเนิน เลี้ยวเข้าประตูชุมพล ออกประตูพลแสนด้านเหนือ ตามทางที่เสด็จฯ มีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ปลูกปะรำตั้งเครื่องบูชา สวดถวายชัยมงคล เมื่อถึงพลับพลาที่ประทับร้อนที่กระทาเกลือ เสด็จไปทอดพระเนตรชาวบ้านทำเกลือสินเธาว์
- เสด็จฯไปประพาสวัดพนมวัน (ปราสาทหินพนมวัน) ทอดพระเนตรวิหารโบราณ แล้วทรงจารึกพระบรมนามาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ในแผ่นศิลาฝาผนังวิหาร แลมีอักษรว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสเมื่อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๙ แสดงวันตามจันทรคติ วัน ๒ เดือน ๒ ขึ้น ๔ค่ำ พุทธศักราช ๒๔๔๓ จุลศักราช ๑๒๖๒
- เสด็จฯประทับพลับพลาที่ประทับร้อน ทรงแจกเสมาแก่บุตรราษฎร แล้วเสวยกลางวัน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ที่ตามเสด็จ แลมีการเลี้ยงข้าราชการด้วย
- เสด็จฯประทับทอดพระเนตร แห่บ้องไฟ แลตีกลองประชัน เรียกว่า ตีกลองเสง เป็นของข้างมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วมีพระราชดำรัสด้วยเจ้านาย ข้าราชการที่ตามเสด็จ
- เวลาบ่าย ทรงม้าพระที่นั่ง เสด็จฯกลับตามทางเดิม มาพลับพลาค่ายหลวง
- เวลาค่ำ เสด็จฯออกประทับหน้าพลับพลา ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการ แลพระราชทานสัญญาบัตรฝ่ายทหาร สัญญาบัตรพลเรือน แล้วประทับทอดพระเนตรการเล่นต่างๆ ของชาวโคราช อยู่จนเวลา 4 ทุ่ม แล้วเสด็จขึ้น
ขอบคุณ ภาพเอกสารจาก - สัมพันธ์ รัตนจันทร์
ที่มาเอกสารจาก - จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนินเปิดทางรถไฟ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สมัย ร.5 (พระนิพนธ์ของ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ)
เรียบเรียงสรุปข้อมูลโดย - เพจ โคราชในอดีต
https://www.facebook.com/korat.in.the.past/posts/1503861953015898 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 16/10/2019 3:16 pm Post subject: |
|
|
วันเสาร์ขึ้นสิบค่ำเดือนสิบ ปีวอกสัมฤทธิศกจุลศักราช ๑๒๗๐ ตรงกับ วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน ๑๒๗
เวลาบ่ายฝนตกไม่ได้เสด็จประพาศ เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต เวลายามเศษเสด็จขึ้น
วันนี้เวลาเช้าสมเด็จพระบรมราชินีนารถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จรถไฟพิเศษไปประพาศอรัญญิกแลพระนครหลวง เวลาบ่ายเสด็จกลับ
วันนี้เวลาบ่ายพระอรรคชายาเธอ ทรงพระศรัทธามีเทศน์ที่ท้องพระโรงเรือนต้นกัณฑ์หนึ่ง
จาก จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๗๐
วันศุกร์ขึ้นเจ็ดค่ำเดือนยี่ ปีมะแมนพศกศักราช ๑๒๖๙ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๔ มกราคม ๑๒๖ (ปีที่ ๔๐)
ด้วยทางรถไฟสายตวันออกซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อรัตนโกสินทรศก ๑๒๔ แลทางสายเหนือซึ่งได้ทำต่อขึ้นไปตอนแต่นครสวรรค์ถึงพิศณุโลกแล้วพอที่จะเปิดเดินรถได้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้แต่งการเปิดเดินรถไฟทั้งสองสายนี้ แลในการเปิดรถคราวนี้จะเสด็จประทับแรม ณ เมืองฉเชิงเทราเยี่ยมเยือนมณฑลนี้ด้วย วันนี้เป็นวันกำหนดเปิดรถไฟแลจะเสด็จประทับแรม ณ เมืองฉเชิงเทรานั้น เวลาเช้า ๓ โมงเศษได้เสด็จไปประทับ ณ พลับพลาโรงราชพิธีที่สนามสเตชั่นรถไฟกรุงเทพ ฯ มีพระราชดำรัสสั่งให้เปิดรถไฟทั้งสองสายนี้ให้เป็นอันใช้เดินได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เปนต้นไปแล้ว เสด็จขึ้นประทับรถพิเศษซึ่งจะได้เดินในสายตะวันออกที่น่าพลับพลาโรงราชพิธีนี้ เวลาเช้า ๓ โมง ๒๐ นาที รถไฟสายเหนือแลสายตวันออกซึ่งเสด็จพระราชดำเนินด้วยนี้ได้ออกเดินเปนฤกษ์พร้อมกัน เมื่อถึงทางแยกรถไฟสายเหนือได้เดินตรงไปทางเหนือตลอดถึงพิศณุโลก ส่วนรถไฟสายตวันออกซึ่งเสด็จพระราชดำเนินแยกไปทางตวันออกผ่านสเตชั่นต่างๆ คือ สเตชั่นบางกระสัน คลองแสนแสบ บ้านหัวหมาก บ้านทับช้าง คลองที่สอง หัวตะเข้ คลองหลวงแพ่ง คลองพระยาเดโช คลองบางพระ ถึงสเตชั่นแปดริ้วเวลาเช้า ๕ โมงเศษ เสด็จลงที่สเตชั่นนี้ทรงพระดำเนินมาลงเรือพระที่นั่งประทีปทัศนาการที่ท่าริมแม่น้ำบางปะกงตรงหลังสเตชั่นลงมาๆ เสด็จขึ้นที่ท่าน่ามณฑล เสด็จขึ้นประทับที่ศาลาว่าการมณฑล มีการพิธีรับเสด็จในที่นี้ ครั้นแล้วเวลาเที่ยงเศษเสด็จทรงเรือพระที่นั่งกลไฟประทีปทัศนาการออกจากท่านั้นมาเสด็จขึ้นประทับ ณ ตำหนักพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ซึ่งจัดไว้เปนที่ประทับแรม เวลาบ่าย ๕ โมง ๒๐ นาทีเสด็จทรงเรือพระที่นั่งพายแต่ตำหนักที่ประทับแรมพายขึ้นไปประพาศทางเหนือน้ำ เข้าคลองท่าไข่ไปจนถึงประตูน้ำ แล้วเสด็จกลับตามทางเดิม มาประทับ ณ สพานน้ำน่าตำหนักที่ประทับแรมนั้น เวลา ๒ ทุ่มเศษเสด็จขึ้น
จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๙
วันเสาร์แรมหกค่ำเดือนสามปีมะแมนพศกศักราช ๑๒๖๙ ตรงกับ วันเสาร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๑๒๖ (ปีที่ ๔๐)
วันนี้ โปรดให้ชักศพเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์กับท่านผู้หญิงอู่มาทำการพระราชทานเพลิงในเมรุวัดเทพศิรินทร์ต่อไป เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ชักศพทั้งสองนี้แต่เมืองเพ็ชรบุรีมาทางรถไฟ เวลาค่ำชักศพแต่สเตชั่นรถไฟบางกอกน้อย มาด้วยเรือม่านดาวกระจาย เข้าคลองผดุงกรุงเกษมเทียบท่าน่าวัดเทพศิรินทร์ ยกศพทั้งสองขึ้นตั้งเหนือเสลี่ยงแปลง ศพเจ้าพระยาสุรพันธ์ประกอบโกษไม้สิบสอง ศพท่านผู้หญิงอู่ประกอบโกษ ๘ เหลี่ยม มีเสลี่ยงโถงพระราชมุนีนำศพ แลมีเสลี่ยงโถงโปรยแลโยงเดินกระบวนแห่มารออยู่ที่ประตูสุสานด้านใต้ ในวันนี้เวลาบ่ายราว ๕ โมงครึ่งได้เสด็จไปประทับที่ที่เมรุจนเวลาทุ่มหนึ่งเสด็จกลับ ครั้นเวลายามเศษได้เสด็จไปประทับ ณ ศาลาดำรงธรรม โปรดให้เดินกระบวนเข้าเวียนเมรุ ในเวลานี้มีหนัง ๒ โรง ลงมือเล่นพร้อมกัน พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมเวียนเมรุ แล้วยกโกษศพทั้งสองขึ้นตั้งบนชั้นแว่นฟ้า ๒ ชั้น มีฐานเขียงรอง มีเครื่องตั้งศพทรงจัดมาจากข้างในเปนพิเศษที่ชั้นแว่นฟ้าตั้งเครื่องเงิน ที่ม้าหมู่ตั้งเครื่องบรอนแลเครื่องถ้วย ตั้งศพเสร็จแล้วเสด็จประทับในเมรุ ทรงทอดผ้าไตรเปนส่วนพิเศษ บังสุกุลทั้ง ๒ พระศพรวมไตรพระสงฆ์ มีพระเทพกระวีเปนประธานบังสุกุลแล้ว เสด็จประทับเสวยเครื่องว่างที่ศาลาดำรงธรรม โปรดให้มีดอกไม้เพลิง เวลา ๕ ทุ่มเศษเสด็จกลับวังสวนดุสิต
จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๙
วันจันทร์ขึ้นหกค่ำเดือนห้า ปีวอกยังเปนนพศกจุลศักราช ๑๒๖๙ ตรงกับวันจันทร์ที่ ๖ เมษายน ๑๒๗
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนนครราชสีมา ซึ่งออกไปทรงศึกษาวิชา ณ ประเทศยุโรปขอพระบรมราชานุญาตกลับเข้ามากรุงเทพฯ ชั่วคราว โปรดให้กลับเข้ามาพร้อมกับพระยาวิสูตรโกษาซึ่งโปรดเกล้า ฯ ให้เข้ามาเยี่ยมบ้านชั่วคราว นายอาจนักเรียนได้ตามเสด็จเข้ามาด้วย การเสด็จกลับนี้โปรดให้ข้าราชการหลายนายนำเรือมกุฎราชกุมารออกไปรับที่สิงคโปร์ วันนี้เวลาทุ่มเศษเรือมกุฎราชกุมารได้มาถึงเมืองสมุทปราการ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอได้เสด็จประทับรถไฟพิเศษถึงสเตชั่นหัวลำโพง เวลาทุ่ม ๔๕ นาที ได้มาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ที่พระที่นั่งอัมพรสถานแลเฝ้าสมเด็จพระบรมราชินีนารถ แล้วเสด็จไปประทับอยู่ตำหนักอัมพวาในสวนดุสิตต่อไป
จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๙ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 16/10/2019 7:16 pm Post subject: |
|
|
วันพฤหัสบดี แรมสองค่ำเดือนสาม ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๑๕ (ปีที่ ๒๙)
เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาราชเสนานำบอก พระยาเพชรพิไสยศรีสวัสดิ์ ปลัดเมืองเพชรบุรี ผู้ว่าการแทนข้าหลวงเทษาภิบาลมณฑล สำเร็จราชการมณฑลเมืองเพชรบุรี ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลฉบับ ๑ ว่าได้รับหนังสือหลวงอร่ามเรืองฤทธิ ยกรบัตรผู้รักษาเมืองสมุทสงคราม ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ร,ศ, ๑๑๕ ว่านายพริ้งลอบแทงเอานายชั้นตาย ได้ตัวนายพริ้งมาถามให้การสารภาพรับเปนสัตย์ จึ่งส่งตัวนายพริ้งมาปฤกษาโทษตามกฎหมาย
แล้วดำรัสถามพระยามหาโยธาว่า หายหน้าไปเจ้าป่วยเปนอไร พระยามหาโยธากราบบังคมทูลว่าป่วยเปนไข้
แล้วดำรัสถามพระยาสฤษพจนกรว่า กรมหมื่นดำรงมาถึงไหนจะกลับเมื่อไร
ได้ตีโทรเลขมาฤๅปล่าว พระยาสฤษพจนกรกราบบังคมทูลว่า เวลาพรุ่งนี้จะเสด็จลงรถไฟที่ปากเพรียว
วันอาทิตย์แรม ๑๒ ค่ำเดือน ๓ ปีวอกอัฐศก ๑๒๕๘ ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๑๕ (ปีที่ ๒๙)
เวลา ๔ ทุ่มเศษเสด็จออกขุนนาง พระยาราชเสนากระทรวงมหาดไทย นำบอกหลวงสรรพ์สารกิจฃ้าหลวงผู้ว่าราชการบริเวนนางรอง ขึ้นอ่านกราบบังคมทูลฉบับ ๑ ว่าวันที่ ๒๒ มกราคม ร.ศ. ๑๑๕ มีอ้ายผู้ร้าย ๔ คนขี่ช้างสีดอสูงสี่ศอกมาหนึ่งช้าง กำนันอำเภอแลผู้ใหญ่บ้านไล่จับตัวอ้ายผู้ร้ายหาได้ไม่ อ้ายผู้ร้ายทิ้งช้างให้แล้วก็หนีไป อ้ายผู้ร้ายรูปพรรณ์เปนลาวบ้างเปนตองซูบ้าง
จึ่งดำรัสถามกรมหมื่นดำรงว่า หลวงรังสรรพ์สารกิจนี้หลวงอไรกรมการหรือมิไชย กรมหมื่นดำรงกราบบังคมทูลว่า หลวงสัญญาบัตรที่กรมหลวงพิชิตคิดชื่อถวายที่เกาะสีชัง แล้วดำรัสถามกรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดาว่า จะเปิดทางรถไฟเมื่อไรแน่ กรมหมื่นพิทยลาภกราบบังคมทูลว่า กำหนดในวันที่ ๒๖ มีนาคม จึงดำรัสถามต่อไปว่ากำหนดทางรถไฟไปถึงไหน กรมหมื่นดำรงกราบบังคมทูลว่า ทำไปถึงหินลับ เปนการลำบากที่หินลับเท่านั้น - ในเวลานั้นสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ ฯ ไปนครราชสีมา ทางรถไฟช่วงแรกจากกรุงเทพถึงอยุธยาสำเร็จแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เปิดทางรถไฟตอนนี้ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงประกอบพิธีตรึงหมุดที่รางทองรางเงินให้ติดกับหมอนไม้มริดคาดเงินมีอักษรจารึกเป็นฤกษ์
จาก:จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว-จุลศักราช-๑๒๕๗-๑๒๖๐/เดือน-๓-จุลศักราช-๑๒๕๘ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 08/04/2020 2:39 pm Post subject: |
|
|
จาก จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว-ปีมะเมีย-จศ-๑๒๕๖
วันที่ ๗ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๑๔
เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จทรงรถไฟจากพระราชวังบางปอิน มาประทับที่สะเตชันรถไฟน่าวัดเทพศิรินทราวาศข้าม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดา ทรงนำพระยาสโมสรสรรพการ๑ ถวายบังคมลาออกไปตรวจสายโทรเลขทางเมืองทวาย มีพระราชดำรัสไต่ถามด้วยตามสมควร แล้วเสด็จขึ้นทรงรถพระที่นั่งพร้อมด้วยกระบวนข้างใน มาตามถนนบำรุงเมือง ลงถนนน่าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เลี้ยวลงถนนข้างศาลสถิตย์ยุติธรรม เลี้ยวลงถนนข้างคลอง ข้ามตะพานเสี้ยวถึงถนนอ้อมรอบกำแพงเลี้ยวลงถนนรอบพระนครทางลำน้ำ แล้วมาตามถนนข้างคลองหลอด ข้ามตะพานเสี้ยวเลี้ยวลงถนนน่าวัดมหาธาตุ เวลาย่ำค่ำเศษเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 18/11/2020 9:03 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | จากรายงาน ประจำปี ร.ศ 123
2) วันที่ 12 ตุลาคม 1904 เสด็จจากสถานีสามเสน บางปะอินด้วยรถไฟพิเศษ และได้เริ่มการเสด็จประพาสต้น เสด็จจากบางปะอินกลับ สถานีสามเสน ด้วยรถไฟพิเศษเมื่อ 22 ตุลาคม 1904
|
จาก จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน-ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว-จุลศักราช-๑๒๖๕/
วัน พุธขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๒ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าเสด็จทรงรถพระที่นั่งออกจากพระบรมมหาราชวัง และทอดพระเนตรวังพระองค์บุรฉัตรไปประทับที่สเตชั่นรถไฟสายนครราชสีมา เสด็จขึ้นรถกลไฟพิเศษแวะรับข้างในที่สเตชั่นสามเสน เสด็จไปลงรถที่สเตชั่นบางปอิน เสด็จประทับเรือพระที่นั่งแจวที่หลังสเตชันไปตามคลองราชดำริห์ เลี้ยวออกแม่น้ำบางปอินเสด็จขึ้นที่ท่าน่าพระราชวังบางปอินแล้วเสด็จทางพระที่นั่งวโรภาษพิมานประทับแรมที่นี้
เวลาเย็นเสด็จออกประทับที่ตะพานน้ำน่าพระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการเฝ้า
วัน เสาร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๒ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
วันนี้เปนวันเสด็จกลับกรุงเทพ ฯ เสด็จจากบางปอินเวลาบ่าย ๓ โมงเสศ มาเสด็จลงที่สเตชั่นสามเสน ประทับทอดพระเนตรรถออโตโมบิลกรมหมื่นราชบุรีแล่นถวาย แลทรงรถนั้นแสด็จประพาศสวนดุสิต แล้วเสด็จมาประทับในพระบรมมหาราชวัง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42696
Location: NECTEC
|
Posted: 18/11/2020 9:09 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | จากรายงาน ประจำปี ร.ศ 123
1) วันที่ 23 มิถุนายน 1904 เสด็จจากสถานีสามเสน บางปะอินด้วยรถไฟพิเศษ และได้เริ่มการเสด็จประพาสต้น เสด็จจากบางปะอินกลับ สถานีสามเสน ด้วยรถไฟพิเศษเมื่อ 7 สิงหาคม 1904
ระหว่างนั้นได้มีการแต่งตั้งนายหลุยส์ ไวเลอร์ เป้นเจ้ากรมรถไฟหลวงต่อจากนายเกิรตส์ เมื่อ 1 กรกฎาคม 1904 |
วัน พฤหัสบดี ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๓ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๓
วันนี้เปนวันที่จะเสด็จไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปอิน เวลา ๒ โมง ๔๕ นาที ได้เสด็จจากพระบรมมหาราชวังไปขึ้นรถพระที่นั่งพ่วง รถไฟพิเศษที่สเตชั่น รถไฟสายนครราชสีมา๒ รถไฟได้ใช้จักรออกจากสเตชั่นนี้ บ่าย ๓ โมง ๗ นาที ถึงสเตชั่นบางปอิน บ่าย ๔ โมง ๓๕ นาที ที่สเตชั่นมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช กรมหลวงดำรงกับข้าราชการที่ล่วงน่า แลข้าราชการมณฑลกรุงเก่ามาคอยเฝ้ารับเสด็จ ครั้นเสด็จลงจากรถพระที่นั่งแล้ว ได้มีพระสวดชยันโต แลมีพิณ แลแตรกองทหารรับเสด็จ แลพระยาโบราณ๓ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระแสงสำหรับเมืองตามเคย แล้วเสด็จมาลงเรือพระที่นั่งแจวที่ท่าน้ำหลังสเตชั่น ที่ท่าน้ำนี้มีเจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ แลพระองค์อาภากร๔ รับเสด็จอยู่ ณ เรือพระที่นั่ง แล้วเรือพระที่นั่งได้แจวออกคลองราชดำริห์ มาประทับที่ท่าน้ำพระที่นั่งวโรภาศ๕ เสด็จขึ้นบนพระที่นั่งวโรภาศ ประทับแรมในพระราชวังนี้
วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ หนที่ ๒ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๗ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๓
เวลาเช้าเสด็จจากผักไห่ล่องลงมาขึ้นหัวเวียง ออกบางโผงเผง กระบวนใหญ่ล่องน้ำมาบางไทรขึ้นไปบางปอิน พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกบางโผงเผงแล้วแยกเข้าทางบ้านกุมมาบางปอิน เสด็จขึ้นรถไฟที่สเตชั่นบางปอินกลับกรุงเทพ ประทับในพระบรมมหาราชวัง |
|
Back to top |
|
|
|