RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311984
ทั่วไป:13607194
ทั้งหมด:13919178
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - การเสด็จประพาสทางรถไฟ สมัย ร. ๖
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

การเสด็จประพาสทางรถไฟ สมัย ร. ๖
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 9, 10, 11  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2006 10:46 pm    Post subject: Reply with quote

เมื่อปี 2458 ทูลกระหม่อมเล็ก ( เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ) ได้นำ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ( ท่านหนู ) และ หม่อมแคท ร่วมเดินทางไปตรวจราชการที่ เชียงใหม่ โดยขึ้นรถไฟไปลงที่เด่นไชย แล้วขึ้นกระบวนช้างไปเชียงใหม่ ....
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2006 10:57 pm    Post subject: Reply with quote

ในการเสด็จเยือนสหรัฐมลายู ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2467 ถึง 13 ตุลาคม 2467 นั้นได้มีการจัดกระบวนรถไฟดังนี้

คัน 1 และ 2: หัวรถจักรสำหรับลาก (อีคลาสแน่ๆทำให้ต้องพหุแบบนี้)
คัน 3: รถโบกี้สัมภาระ
คัน 4: รถท้องพระโรง
คัน 5: รถโบกี้นอนชั้น 1 สำหรับข้าราชการฝ่ายใน
คัน 6: รถพระที่นั่ง
คัน 7: รถโบกี้นอนชั้น 2 สำหรับข้าราชการในกรมมหาดเล็กที่เจ้าพระยารามราฆพเป็นเจ้ากรม
คัน 8: รถโบกี้ชั้น 1 และ 3
คัน 9: รถโบกี้ชั้น 1 และ 2
คัน 10: รถโบกี้ชั้น 1 และ 3
คัน 11: รถสะเบียง
คัน 12: รถโบกี้สัมภาระ
คัน 13: รถโบกี้ชั้น 1 และ 3 รถจัดเฉพาะ

จดหมายเหตุระยะทาง:
วันที่ 21 กันยายน 2467
เวลา 9 ก.ท. เศษ เสด็จฯ จากพระราชวังดุสิตโดยทางรถยนต์ไปยังท่าวาสุกรี จากนั้นประทับเรือยนต์พระที่นั่ง ไปยังสถานีบางกอกน้อย ประทับชานชลา ได้มีพระราชปฏิสันฐานกับกงสุลอังกฤษ, เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ (พระองค์เจ้าไตรทศประพัทธ์) และ บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์แบละข้าราชบริพาร

เวลา 9:45 กท. รถพระที่นั่งเคลื่อนขบวนออกจากสถานีบางกอกน้อย
เวลา 11:00 กท. รถพระที่นั่งถึงสถานีนครปฐมแล้วหยุด 5 นาที ให้สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรีกรมการ และ ข้าราชการประจำมณฑลและจังหวัด ได้เข้าเฝ้า ลูกเสือเป็นกองเกียรติยศ
พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานธูปเทียนเพื่อเปนเครื่องสักการะบูชาพระปฐมเจีย์ตามพระราชประเพณี

ระหว่างทางได้หยุดเติมน้ำเติมฟืนที่ สถานี ราชบุรี, เพชรบุรี วังก์พง ขั้นกระได และ บางตะพานใหญ่

ราว 8:00 ล.ท. รถพระที่นั่งถึงบางสน (สถานีปะทิว) เวลา อุปราชภาคใต้ ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จเมื่อเข้าเขตภาคใต้ (ต้นฉบีบเรียกมณฑลปักษ์ใต้) รถพระที่นั่งหยุดที่บางสน 10 นาทีจึงใช้จักรออกไป

เวลา 9:00 ล.ท.รถพระที่นี่ง ชุมพร สมุหเทศาภิบาลมณฑลสุราษฎร์กับข้าราชการในกองมณฑลและจังหวัดชุมพรได้รับเสด็จ มีทหารกองพันที่ 3 กรมทหารรักษาวัง (บ.ก. นครศรีธรรมราช ไว้รักษาภาคใต้) จำนวน 3 หมวด และลูกเสือเป็นกองเกียรติยศ จากนั้นจึง ทอดพระเนตร โฮเต็ลของกรมรถไฟแผ่นดินใกล้สถานีชุมพร ซึ่งทางกรมรถไฟได้จัดเพื่อเป็นที่ประทับแรมแต่ พระเจ้าอยู่หัวท่านไม่โปรด จึงเสด็จกลับกระบวนรถพระที่นั่ง เสวยในรถเสบียง และปีระทับแรมรถพระที่นั่ง


Last edited by Wisarut on 25/08/2008 10:39 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2006 11:18 pm    Post subject: Reply with quote

จดหมายเหตุระยะทาง:
วันที่ 22 กันยายน 2467
รถพระที่นั่งเคลื่อนกระบวนออกจากชุมพรเวลา 9 ก.ท. ในเมื่อเวลายังทรงบรรทมอยู่ ได้หยุดเติมน้ำเติมฟืนตามสถานีรายทางดังนี้

หลังสวน หนองหวาย สุราฎร์ธานี บ้านซ่อง ทุ่งสง เขาชุมทองและพัทลุง

สถานีที่ใกล้ที่ว่าการมณฑล, จังหวัดหรือแม้แต่ตำบล จะมีเจ้าหน้าและกรมการท้องที่พร้อมเสือป่าและลูกเสือ นักเรียนหญิงชายตลอดจนทวยราษฎร์ คอยรับเสด็จมีพระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา มีการเล่นหนังตะลุงและมายง (มะโย่ง) เพื่อสมโภชด้วย

ในตอนบ่าย กงสุลสยามประจำมลายู (พระยาปฏิพัทธ์ภูบาล - คอ ยู่ เหล ณ ระนอง) ได้รับเสด็จที่สถานีทุ่งสงแล้วสมทบกับกระบวนเสด็จ

เวลา 9: 36 ล.ท. ถึงสถานีหาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ มีแยกขึ้นไปทุ่งสง, แยกเข้าสงขลา แยกลงไปปาดังเบซาร์ [และ มณฑลปัตตานี]

ตัวเมือง [หาดใหญ่] ก่อนมีรถไฟเป็นแต่ป่าแต่ดง บัดนี้ได้คึกคักขึ้นมาก แต่จะเรียกว่าเจริญก็ไม่ถนัด เพราะมีเพียง ที่พักที่ทำการของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและกรมรถไฟ กับโรงร้านตลาดบ้านเรือนเพี่ยงหมู่เดียวแลดูหน้าตาไม่หมดจด ตลาดร้านข้าวของสร้างเป็นห้องแถว ตาม 2 ฟากที่ตัดลงจากสถานี ยาวแถวละ 5 - 6 เส้น ส่วนใหญ่เป็นเรือนแถวไม้ ส่วนโรงแรมที่มีก็เป็นโรงแรมเจ๊ก 2-3 แห่งออกจะสกปรกอยู่บ้าง โรงขายอาหารก็เป็นโรงข้าวแกง มีอาหารแขวนรุงรังเป็นบ้านนอกอยู่มาก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2006 11:28 pm    Post subject: Reply with quote

วันอังคารที่ 23 กันยายน 2467ตอนเช้า ตรู่ อุปราชปักษ์ใต้ ได้เสด็จมาเข้าเฝ้า ที่สถานีหาดใหญ่ ล่วงหน้าด้วยรถพิเศษ ของพระองค์

9:40 ก.ท. กระบวนรถพระที่นั่งได้ออกจากสถานีหาดใหญ่
ราว 11:00 ก.ท. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ กระบวนรถพระที่นั่งหยุดให้จัดกระบวนใหม่เพราะการเดินทางต่อจากนั้นต้องใช้รถจักรและพนักงานฝ่ายมลายูคอยคุม

เนื่องจากหลังจากพ้นสถานีปาดังเบซาร์เป็นกืจกรรมของกรมรถไฟสหรัฐมลายู ก็เลยงดไว้ไม่กล่าวถึง


Last edited by Wisarut on 19/02/2024 1:25 am; edited 3 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2006 12:21 am    Post subject: Reply with quote

ในช่วงที่เดินทางกลับเข้าสยามในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2467 นั้น

10:00 กท. พระองค์เดินทางด้วยรถยนต์พระที่นั่งจาก สถานีอานะบูกิต เพื่อประพาสเมืองอาลอร์สตาร์ ชมวังเจ้าเมืองไทรบุรี (เกดาห์) ผ่านมัสยิสใหญ่ประจำเมือง ก่อนเข้าสงขลา

ราว 2:00 ลท ถึงด่านสะเดา อุปราชปักษ์ใต้ได้เข้าเฝ้าเสด็จ ก้อนเสวยกระกระยาหารกลางวันร่วมกัน
เวลา 3:20 ล.ท. เสด็จจากด่านสะเดาเข้าสงขลา
เวลา 7:00 ล.ท. ถึงเมืองสงขลา ประทับ ณ พระตำหนักเขาน้อยของอุปราชปักษ์ใต้
เวลา 11:00 ล.ท. หลังเสวยพระกระยาหารค่ำแล้วจึงเสด็จออกจากพระตำหนักทอดพระเนตรการละเล่นของเสือป่า ได้เวลฃาสมควรจึงเสด็จขึ้น

// -----------------------------------------------------------------------------------

เสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2467
วันนี้ได้พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ชั้น 1 ให้เจ้าจอมสุวัจนา เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น 3 ให้พระองค์เจ้าอนุสสรณ์มงคลการ (องค์ชายใหญ่) ในสมเด็จฯกรมขุนลพบุรีราเมศวร์ (อุปราชภาคใต้) และเข็มข้าหลวงเดิมให้นางเล็ก ทิพยวิสาร

จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเก้าให้กงสุลสยามประจำมลายูเชิญเครื่องราชอิสสริยาภรณ์พระราชทานให้รายาและข้าราชการเมืองเประดังนี้

เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น 2: รายาประไหมสุหรี ชายาสุลต่านอิสคานดาร์ แห่งนครเประ
ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก: รายามูดา อับดุลอาซิสบินมูซาแห่งเประ
ทวีติยาภรณ์มงกุฏสยาม: ราบันดาหะระ, รายา ดิฮีเลีย รายา กจัลพงษ์

เวลา 5:00 ลท. เสด็จประพาสเมืองสงขลา จากนั้นจึงเสด็ผ่านศาลารัฐบาลเพื่อประทับที่แหลมสนเพือ่เสวยพระสุธารสชา
เวลา 11:00 ลท.เสด็จหน้าตำแหนักเขาน้อยทอดพระเนตรโนห์ราที่ทางราชการให้เสือป่าและลูกเสือแสดง
เวลา 1:00 กท. เสด็จขึ้น

// ----------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2467
เวลา 8:00 กท. เสด็จจากพระตำหนักเขาน้อยโดยทางรถยนต์ ไปยังสถานีรถไฟสงขลา
ที่สถานีสงขลาได้พระราชทานสัญยาบัตรให้ นายถวิล คุปตารักษ์เป็นหลวงถวิลเศรษฐพาณิชยการ และ นายกิมหลี ฮุนตระกูลเป็นหลวงรัถภาระพิทักษ์

พอได้เวลา ขบวนรถพระที่นั่งออกจากสถานี
เวลา 9:00 ล.ท. ถึงสถานีชุมพร มีกองเกียรติยศต้อนรับ สมุหเทศาภิบาลมณฑลสุราษฏร์ธานีเข้าและ กรมการมณฑล และ กรมการเมืองชุมพร เข้าเฝ้า
เวลา 9:30 ล.ท. เสด็จไปเสวยพระกระยาหารคำที่ โฮเตลกรมรถไฟแผ่นดินที่ชุมพร จากนั้นเสด็จกลับไปประทับแรมในรถพระที่นั่ง เพื่อประทับแรมในขบวนรถไฟ

// --------------------------------------
วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2467
เวลา 6.00 กท กระบวนรถออกจากสถานีชุมพร ได้หยุดเติมน้ำเติมฟืนที่ บางตะพานใหญ่, ขั้นกระได,และ วังก์พง,

เวลา 1.00 ลท ถึงสถานี เพชรบุรี มีกองเกียรติยศจากรกมทหรบกราบที่ 14 บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ได้หยุดรถที่เพชรบุรีประมาณ 20 นาที จึงเคลื่อนกระบวนออกไป

เวลา 4.15 ลท. ถึงสถานีราชบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมข้าราชการมณฑลและผบ. กองพลทหารราบที่ 4 ได้เข้าเฝ้า มีกองเกียรติยศจาก กองพล 4
เวลา 4.35 กระบงวนรถออกจากสถานีราชบุรี
เวลา 5.50 ลท. ถึงสถานีนครปฐม สมุหเดทศาภิบาลมณฑลนครชัยศรีได้เข้าเฝ้า พระเจ้าอยู่หัวถวายธูปเทียนบูชาพระปฐมเจดีย์ จากนั้นจึงเคลื่อนกระบวนออกไป
เวลา 7.00 ลท. ถึงสถานีบางกอกน้อบ มีพระบรมวงศานุวงศ์และ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยรับเสด็จ จากนัเนประทับเรือยนต์พระที่นั่งสู่ท่าวาสุกรีก่อนเสด็จขึ้นรถพระที่นั่งคืทนสู่พระราชวังดุสิต --- การเสด็จประพาสมลายูจึงมีเพียงเท่านี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 17/08/2006 1:15 am    Post subject: Reply with quote

2 พฤศจิกายน 2459 เวลาเช้า 5 โมงพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องแบบเสือป่าพรานหลวงครึ่งยศเสด็จออกจากพระที่นั่งภาณุมาศจำรูญในพระบยรมมหาราชวังโดยทางรถยนต์ไปท่าราชวรดิษฐ์ แล้สวประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปยังสถานีบางกอกน้อย รถไฟใช้จักรออกจากสถานีบางกอกน้อยเวลา เช้า 5 โมง 5 นาที ถึง สถานีนครปฐมเวลาเที่ยง 10 นาที มีพระสงฆ์เจริยไชยมงคลคาถาตลอดทางที่ปรนะทับรถไฟพระที่นั่ง

เมื่อถึงสถานีนครปฐม ให้เลือนรถไฟที่พลับพลา ณ ถนนพระยากง มีเสือป่ากองพรานหลวงตั้งกองพระเกีรติยศ ถวายความเคารพพร้อมแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
พระเจ้าอยู่หัวเสดจลงจากรถไฟพระที่นั่ง แล้วขึ้นเกยเพื่อประทับพระราชยานกง เสด็จโดยขบวนราบ มีทหารราบ ม้า ปืนใหญ่ประจำกอง กรมพระตำรวจแห่มโหระทึกพร้อมแตรฝรั่ง
มีกองทหารมหาดเล็กเป็นแซง และ กองเสือป่าพรายนหลวงรักษาพระองค์เป็นกองหลัง

จากนั้นเสด็จทางราบด้วยะพระราชยนกง ไปตามถนนพระยากง ถนนรถไฟ ถนนซ้ายพระ ถนนบ่อเริ่ม ถนนทิพากร ถนน น่าพระ ถนนประตูยักษ์ ตามข้างทางมีประชาชนเข้าแถวดูพระบรมโพธิสมภาร กันอย่างเนืองแน่น ทั้งทางบกและทางเรือในคอลงเจดีย์บูชา ทางมณฑลนครไชยศรีได้จัดงิ้ว และละคอน สมโภชด้วย

เมื่อเที่ยบพระราชยานที่ประตูยักษษืทแล้ว พรเจ้าอย่หัวได้เสด็จไปตามลาดพระบาท จนถึงวพระอุโบสถ ได้รับผ้าพระกฐินจากเจ้าหน้าที่คลังศุภรันต์แล่วนำไปวางบนพานแว่นฟ้าหน้าพระงสงฆ์ แล้วได้จุดธูปเทียนนมัสการ นายพิทักษ์ราชาหุ้มแพรไดถวายรายงาน จากนั้น พระเจ้าอยู้ไดถวายผ้าพระกฐินตามลำดับ พระสงฆ์สวดสาธุ

จากนั้นได้ถวายผ้าพระกฐินแก่พระพุทธรักขิต ผู้ปกครองพระปฐมเจดีย์ แล้วพระราชทานไตรปีแก่พระถานานุกรม จากนั้น พระสงฆ์ไปครองผ้าพระกฐินพระราชทานแล้ว หม่อมเจ้าพันธุประวัติถวายเครื่ององค์บริขารกฐิน พระสงห์ถวายอนุโมธนา พระราชาคณะถวาย อติเรก แล้วพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปตามทางเดิมเพื่อประทับรถนต์พระที่นั่ง จากลาดพระปฐมเจดีย์ ไปตามถนนขวาพระ และถนนหลังพระไปยังพระราชวังสนามจันทร์ เสด้๗ขึ้นเสวยพระกระยาหาร ณ พระที่นั่งพิมานปฐม แล้วพระราชืทานเลี้ยงแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละองธุลีพระบาท

เมื่อเสร็จจากเสวยพระกระยาหารแล้วได้ทอดพระเนตรกีฬานักรบทหารและเสือป่าพรานหลวง และตำราจภูธร แสดงถวายแล้ว เวลาบ่าย 5 โมงได้เสด็จด้วยรถยนต์พระที่นั่งไปยังสถานีสนามจันทร์เพื่อประทับรถพระที่นั่งกลไฟพิเศษใช้จักรจูงรถพระที่นั่ง ไปยังสถานีบางกอกน้อย ถึงสถานีบางกอกน้อยเวลาย่ำคตำเศษ จากนั้นประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปยังท่าราชวีรดิตถืแล้วประทับบรถยนต์พระที่นั่งเข้าพระบรมมหาราชวังแล้วเสด็จขึ้นประทับพระที่นั่ง ภานุมาศจำรูญ


Last edited by Wisarut on 20/08/2006 2:59 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 17/08/2006 1:22 am    Post subject: Reply with quote

23 ธันวาคม 2456 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว เสด็จจากวังบางปะอินมายังสถานีท่าเรือ เพมื่อพระสงห์สวดชัยมงคลแล้วจึงเสด็จประทับ รถรางพระพุทธบาท ไปลงที่สถานี พระพุทธบาท เพื่อทำพิธียกยอดมณฑป พระพุทธบาทซึ่งชำรุดทรุดโทรมลงมาก ถึงพระพุทธบาท แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

ในการยกกยอดมณฑปนั้นมีทั้งพิธีพุทธสวดชัยมงคลคาถา และพิธีพราหมณ์ที่เป่าสังข์พร้อมแกว่งกลองบัณเฑาว์ เพื่อเป็นสิริมงคล

เมื่อเสร็จพิธีและเสวยพระกระยาหารกลางวันแล้ว เวลาบ่าย 3 โฒงเดินทางด้วยรถไฟเล็กจาก สถาพระพุทธบาท ไปยังสถานีท่าเรือเพื่อเสด็จขึ้นรถไฟพระที่นั่งกลับวังบางปะอิน


Last edited by Wisarut on 20/08/2006 3:14 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2006 10:46 pm    Post subject: Reply with quote

29 พฤศจิกายน 2453 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จบางปะอินด้วยรถไฟพิเศษ โดยเสด็จขึ้นที่หัวลำโพง (ปัจจุบันคือบริเวณหลัง ตึก รฟท. สำนักงานใหญ่) รถไฟหยุดที่เชียงรากน้อยเพื่อให้ปลัดทูลฉลองมณฑลกรุงเก่า และ ผู้บัญชาการกองพลทหารบกราบที่ 3 เข้าเฝ้าในฐานะที่ผ่านแดนจากมณฑลกรุงเทพ เข้ามณฑลกรุงเก่า

งานนี้เหนื่อยพอดู แทนที่จะได้พักก็ดันไปติดพิธีรีตรองเสียนี่ ซึ่งก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นพิธเฉลิมพระราชมณเฑียรซึ่งรายละเอียดยาวแน่ๆ Sad ต้องรอแกะราชกิจจากันก่อนถึงได้การหละ

นับว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินจากพระนครเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทูลกระหม่อม (พระปิยมหาราช) เสด็จสวรรคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 20/08/2006 5:29 pm    Post subject: Reply with quote

14 กันยายน 2459 เวลาเช้า 4 โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทางรถยนต์จากพระบรมมหาราชวัง ถึงงท่าวาสุกรีเพื่อ เสด็จพระราชดำเนินมณฑลกรุงเก่าและมณฑลนครสวรรค์ทางชลมารค ด้วยเรือกลไฟลากจูงเรือพระที่นั่ง

แสดงว่าช่วงนั้นจัดรถขบวนพิเศษให้ไม่ทัน เนื่องจากเจ้ากรมไวเลอร์กำลังวุ่นวายกะคดีที่นายช่างไอเซนฮอฟเฟอร์มัวหมองในราชการเพราะไปจ้างเจ๊กต่อยทำลายพระพุทธรูปเก่าเพื่อยุบเอาทองสัมฤทธ์ไปเป็นวัตถุดิบทำกระสุนปืนใหญ่ สู้สัมพันธมิตร

28 กันยายน 2459 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินกลับจากมณฑลกรุงเก่าและมณฑลนครสวรรค์ทางชลมารค เทียบท่าวาสุกรี เมื่อ เวลา 4 โมงเย็น จากนั้นเสด็จไปวัดบวรนิเวศวิหารเพื่อทำพิธีเททองหล่อพระรูปสมเด็จกรมพระปวเรศวชิรญาณวงศ์ ก่อนเสด็จเข้าพระบรมมหาราชวัง

// ----------------------------------------------------------------------------------------

16 พฤศจิกายน 2459 เวลาบ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งภานุมาศจำรูญ ในพระบรมมหาราชวัง ทางรถยนต์เพื่อเสด็จฯ ประทับแรมที่พระราชวัง บางประอิน โดยรถกลไฟพิเศษรถกลไฟพิเศษลากจูงรถพระที่นั่ง ออกจากสถานีสามเสนเมื่อ เวลา บ่าย 4 โมง

14 ธันวาคม 2459 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน รถกลไฟพระที่นั่ง ออกจากสถานีพลับพลาบ่างปะอินเมื่อเวลา 4 โมงเย็น
ถึงสถานีพลับพลาสามเสนเวลา บ่าย 5 โมง 40 นาที เสด็จลงจากรถพระทีนั่งเพื่อมีพระราชปฏิสันฐานกับพะรบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละองธุลีพระบาท จากนั้นจึดงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อเสด็จประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ใน พระบรมมหาราชวัง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43814
Location: NECTEC

PostPosted: 21/08/2006 1:59 am    Post subject: Reply with quote

จริงๆค้นจากราชกิจจาฯ ได้อีกมาก แต่ขอปิดท้ายคืนนี้ด้วยการเสด็จโคกกระเทียม

17 มีนาคม 2466 พระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยเจ้าพระยายมราช, เจ้าพระยารามราฆพ เจ้าพระยาบดินทร์เดชานุชิต เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เจ้าพระนยาธรรมาธิกรณาธิบดี ได้ประทับรถไฟพระที่นั่งจากสถานีหลวงจิตรลดา

รถไฟพระที่นั่งใช้จักรออกจากสถานีหลวงจิตรลดา เวลา 10 นาฬิกา 30 นาทีก่อนเที่ยง ถึงโคกกระเทียมเวลาบ่าย 2 โมงหลังเที่ยง มีจอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี กรมพระยาภาณุพงษ์วรเดช แบละ จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ มาต้อนรับ

จากนั้นได้เดินทางโดยทางรถยนต์ไปยังค่ายทหารบกปืนใหญโคกกระเทียม แล้วเสวยพระกระยาหารที่นั่น

ต่อมาเวลา 3 โมง 30 นาที หลังเที่ยง โดย จึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังเต๊นท์ฟังคำสมมติสำหรับยิงปืน ก่อนประทับรถยนต์เดินทางไปยังหอคอยเพื่อทอดพระเนตรตำบลกระสุนตก ก่อนเดินทางกลับไปประทับที่เต๊นท์

การฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ ครั้งนี้ใช้ทหารบกปืนใหญ่ 2 กองร้อย และ จเรทหารปืนใหญ่ ได้รายงานผลการแข่งขัน จากนั้นจึงพระราขทานถ้วยเงินแก่ผู้ชนะคือ กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ จากนั้นจึงมีรพระราชดำรัสพอสมควรจึงเสด็จขึ้น

ต่อมาเวลา 9 นาฬิกาหลังเที่ยง จเรทหารปืนใหญ่พระราชทานเครื่องเขียนให้พระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะร่วมเสวยพระกระยาหารในเต๊นท์ มีพระราชปฏิสันฐานะพอสมควร จากนั้นจึงมีมหรศพพอควรแล้วจึงเสด็จขึ้น


ในวันนั้นมีการทดลองใช้ช้างลากปืนใหญ่จึงพบว่า ช้างนั้นไม่เหมาะสมที่จะใช้ลากปืนใหญ่เพระอุ้ยอ้ายเต็มที ใช้ม้าลากเป็นคล่องตัวกว่ามาก ๆไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ภูเขา 49 ของกรุปป์ ปืนใหญ่ภูเขา 51 ของกรุปป์ หรือแม้แต่ปืนใหญ่ภูเขา 63 ของญี่ปุ่น

18 มีนาคม 2466 เวลาบ่าย 2 โมง 30 นาทีหลังเที่ยงจึงเสด็จโดยทางรถยนต์ไปพลับพลายก เพื่อทอดพระเนตรการสวนสนามทหารปืนใหญ่ มีพระราชปฏิสันฐานพอควรแล้วจึงเสด็จไปยังวัดบ่องาม ทรงฝักแค่ตจุดดอกไม้เพลิงเป็นพุทธบูชา จากนั้นจึงเดินทางไปสถานีโคกกระเทียมถึงเวลา บ่าย 3 โมง 50 นาทีหลังเที่ยง รถไฟพระที่นั่งใช้จักรเดินทางถึงสถานีหลวงจิตลดาเวลา 7 นาฬิกา 55 นาทีหลังเที่ยง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 9, 10, 11  Next
Page 2 of 11

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©