Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179681
ทั้งหมด:13490913
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 

การรถไฟฯ เพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมัน เฉพาะรถโดยสารเชิงพาณิชย์ เริ่ม 10/5/2549
 
ข่าวจาก รฟท.

     นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่กลางปีพ.ศ.2547 อยู่อย่างต่อเนื่องและการขนส่งอื่นๆได้ทยอยขึ้นราคาไปแล้วเช่น บขส. 2 ครั้ง และ ขสมก. 2 ครั้ง ซึ่งการรถไฟฯได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม รถโดยสารเชิงพาณิชย์โดยคำนวณจากราคาน้ำมัน ราคาเดิมที่ลิตรละ 18.19 บาทเป็นฐานคำนวณค่าธรรมเนียมน้ำมัน

     แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับเพิ่มถึง ลิตรละ 25.49 บาท เพื่อให้ได้ต้นทุนที่แท้จริง การรถไฟฯได้พิจารณาแยกต้นทุนออกเป็น “ต้นทุนค่าน้ำมันของรถจักรลากจูงขบวนรถ” กับ “ค่าน้ำมันที่ใช้กับรถปรับอากาศ” โดยเมื่อราคาน้ำมันทั้งสองส่วน มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น การรถไฟฯต้องประสบกับ ปัญหาภาวะการขาดทุนสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีผลขาดทุน โดยเฉพาะค่าน้ำมันในปี พ.ศ.2549 ปีละ 900 ล้านบาท ฉะนั้น ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป การรถไฟฯ จึงจำเป็นจะเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันในอัตราใหม่ ... (ยังมีต่อ)




     อย่างไรก็ดี เพื่อให้สามารถให้บริการต่อไปได้ การขึ้นธรรมเนียมในส่วนน้ำมันรถจักรลากจูงและค่าน้ำมันรถปรับอากาศนี้ จะส่งผลกระทบเฉพาะต่อผู้โดยสารรถไฟเชิงพาณิชย์ ที่มีอยู่ประมาณ 70 ขบวนเท่านั้น(ขบวนรถไฟที่วิ่งวันละ 254 ขบวน เป็นรถเชิงพาณิชย์ 70 ขบวน รถเชิงสังคม ไม่ได้ขึ้นค่าธรรมเนียม 184 ขบวน ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวพอมีศักยภาพค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบกับราคาค่าโดยสารกับของการขนส่งประเภทอื่น เช่น รถทัวร์ปรับอากาศที่ให้บริการการเดินทางระยะไกลกับค่าโดยสารรถไฟรวมกับค่าบริการที่มีการปรับเพิ่มแล้ว ค่าโดยสารรถไฟยังคงมีอัตราโดยรวมถูกกว่าการขนส่งทางถนน (รถทัวร์ชนิด VIP 24 ที่นั่ง ) เช่น กรุงเทพ-หาดใหญ่ รถไฟ เก็บค่าบริการ 945 บาท รถทัวร์เก็บ 1,050 บาท กรุงเทพ- สุไหงโกลก รถไฟเก็บค่าบริการ 982 บาท รถทัวร์เก็บ 1,125 บาท เป็นต้น

     ในแต่ละปีการรถไฟฯ จะใช้ปริมาณน้ำมันประมาณ 1,200 ล้านลิตร ซึ่งเป็นต้นทุนค่าน้ำมันรถจักรลากจูงขบวนรถ และมีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าน้ำมันที่ใช้กับรถปรับอากาศ ที่ใช้ทำเครื่องยนต์สำหรับรถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ,รถเสบียง,รถดีเซลรางปรับอากาศ,จำนวน 300 คัน ซึ่งทั้งสองส่วน เมื่อราคา น้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องรับภาระค่าน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ผู้ที่ใช้บริการ(เฉพาะที่เป็นรถไฟเชิงพาณิชย์) จะจ่ายเพิ่มเฉพาะค่าธรรมเนียมน้ำมัน ในส่วนที่ต้องจ่ายตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นราคาที่ยุติธรรม ผู้ว่าการรถไฟฯกล่าวว่า “ยกตัวอย่างเช่น ขบวนรถจากกรุงเทพไปยัง เชียงใหม่ ระยะทาง 750 กม. รถไฟใช้น้ำมัน4 ลิตร/กม. ต้องใช้น้ำมันลากจูงรถจักรถึง 3,000 ลิตร และค่าน้ำมันสำหรับรถปรับอากาศอีกส่วนหนึ่ง เดิมการรถไฟฯคิดค่าน้ำมันในอัตราลิตรละ 18.91 บาท จึงมีต้นทุนค่าน้ำมันค่าลากจูงรถจักรสูงถึง 56,000 บาท แต่ในขณะปัจจุบันนี้ราคาได้ปรับเพิ่มสูงถึง 25.49 บาท จึงมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณเกือบ 30,000 บาท รวมเป็น 56,000 + 30,000 = 86,000 บาท แต่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วน อื่น ๆ อีกส่วนหนึ่งด้วย”

      ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ กำลังประสบกับปัญหาภาวะการขาดสภาพคล่องเงินสด โดยเฉพาะการค้างจ่ายค่าน้ำมัน ซึ่งเดิมเคยได้ส่วนลด ในกรณีที่จ่ายเงินสดและจ่ายเงินค่าน้ำมันตรงเวลา ในอัตรา 60 ส.ต./ลิตร แต่เมื่อการรถไฟฯ ไม่สามารถจ่ายเงินค่าน้ำมันได้ เนื่องจากปัญหาขาดเงินสดดังกล่าว จึงทำให้การรถไฟฯ ไม่ได้รับส่วนลดและต้องจ่ายในอัตราเต็ม ตามต้นทุนน้ำมันต้องปรับตัวสูงขึ้นด้วย

     สำหรับรถโดยสารเชิงสังคม(รถท้องถิ่น,รถชานเมือง,รถรวม) อีกกว่า 184 ขบวน ที่ให้บริการพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย การรถไฟฯมิได้ปรับค่าโดยสารแต่อย่างใด จึงไม่ส่งผลกระทบกับผู้โดยสารรถไฟชานเมือง,นักเรียน พ่อค้าแม่ค้า ที่ยังคงใช้บริการรอบชานเมืองและรถไฟรับ-ส่งระหว่างเมืองอยู่

      ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง หรือโทรศัพท์สายด่วน (Hot Line) 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าว : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย

ติดประกาศ Saturday 24 Jun 06@ 12:30:00 +07 โดย CivilSpice

 
 
 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

 
· ข้อมูลเพิ่มเติม ข่าวจาก รฟท.
· เสนอข่าวโดย CivilSpice


เรื่องที่นิยมอ่านมากสุด ข่าวจาก รฟท.:
รฟท. เปิดบริการจองตั๋วล่วงหน้าผ่าน CALL CENTER

 

ส่วนเพิ่ม

 

 หน้าเอกสารสำหรับเครื่องพิมพ์ หน้าเอกสารสำหรับเครื่องพิมพ์

 


ความคิดเห็นที่แสดงนี้เป็นของเป็นของผู้ลงประกาศ. ทางเว็บไซต์ ไม่ขอรับผิดชอบในเนื้อหาเหล่านี้.




ผู้ไม่ลงทะเบียน ไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็น , โปรด ลงทะเบียน




Re: การรถไฟฯ เพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมัน เฉพาะรถโดยสารเชิงพาณิชย์ เริ่ม 10/5/2549 (คะแนน: 1)
โดย nakarin (nakarin66@yahoo.com) เมื่อ Sunday 30 Jul 06@ 22:12:04 +07
(ข้อมูลผู้ใช้ | ส่งข้อมูลออกไป)
 แล้วโครงการรถจักรที่จะให้ใช้แก็ส NGV  ไม่ทราบเริ่มมีการทดลองวิ่งกับขบวนโดยสารบ้างหรือยังครับ เห็นตามข่าวว่าทดลองกับขบวนรถสินค้าครับ ไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้างครับ