RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273953
ทั้งหมด:13585249
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 

รฟท. จ้างที่ปรึกษาศึกษาโครงการ ARL ส่วนต่อขยายถึงระยอง
 
ข่าวจาก รฟท.

     เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.30 น. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานกรรมการรถไฟฯ เป็นประธานและสักขีพยานระหว่างนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟฯ กับ ผู้แทนกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) JANPAN INTERNATIONAL CONSULTANTS FOR TRANSPORTATION CO.,LTD (JIC) ORIENTAL CONSULTANTS CO.,LTD (OC) บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (ENRICH) บริษัท วิสิทธิ์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด (NE) ในพิธีลงนามว่าจ้างงานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบรายละเอียดโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนต่อขยายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา ไปถึงระยอง ณ ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 อาคารการรถไฟแห่งประเทศไทย แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟฯ กล่าวว่า การรถไฟฯมีโครงการที่จะศึกษาและพัฒนาขยายทางรถไฟต่อจากโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังจังหวัดชลบุรี – พัทยา ไปถึงระยอง ซึ่งถือเป็นโครงการเร่งด่วน ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ใน กรอบวงเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนาโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศ และพัฒนาเชื่อมโยงฐานการผลิตในภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาการให้บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งลดต้นทุนการขนส่งที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

     งานบริการที่ปรึกษาเพื่อการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบรายละเอียด โครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนต่อขยาย จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ–ชลบุรี–พัทยา ไปถึงระยอง ถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก กรุงเทพฯ – ระยอง โดยจะใช้แนวเส้นทางเขตทางรถไฟเดิม เพื่อเป็นการลดงบประมาณในการเวนคืน จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และรูปแบบทางรถไฟส่วนใหญ่จะอยู่ระดับดิน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง โดยในเส้นทางดังกล่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการศึกษาแผนรายละเอียดการก่อสร้าง รวมระยะทางทั้งสิ้น 221 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากที่เคยใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ตามปกติประมาณ 3 ชั่วโมง วงเงิน 100,631 ล้านบาท แนวเส้นทางโครงการเริ่มต้น ที่สถานีบางซื่อและวิ่งต่อไปยังสถานีพญาไท จอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีมักกะสัน ลาดกระบัง หรือสุวรรณภูมิ ตามความเหมาะสมจากผลการศึกษา ด้วยข้อกำหนดเดียวกับโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ปัจจุบันที่มีอยู่ จากนั้นจะเป็นส่วนต่อขยายช่วงลาดกระบัง/สุวรรณภูมิ ไปยังจังหวัดระยอง ซึ่งจะก่อสร้างด้วยข้อกำหนดการออกแบบของรถไฟความเร็วสูง ในเบื้องต้นกำหนดให้มีสถานีรายทาง 4 สถานี ได้แก่ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีพัทยา และสถานีปลายทางสถานีระยอง คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารตลอดแนวเส้นทางมากกว่าสองหมื่นคนต่อวันในปีที่เปิดใช้บริการ

     หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ฯ กล่าวว่า เส้นทางรถไฟสายตะวันออกเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพมหานครกับแหล่งงานในภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยเมืองหลักที่เป็นจุดจอดรถจะมีบทบาทและความสำคัญแตกต่างกัน ได้แก่

  • ฉะเชิงเทรา เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีคนทำงานเดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร ในลักษณะไปเช้า-กลับเย็น เป็นเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเมืองบริวาร (Satellite Town) ของกรุงเทพมหานคร
  • ชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น มีนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งและโลจิสติกส์
  • พัทยา เป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรสูงที่สุดในระดับอำเภอ ได้รับการประกาศให้เป็นเขตปกครองพิเศษทั้งพื้นที่ รวมทั้งมีความสำคัญในด้านการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
  • ระยอง เป็นจังหวัดที่มีอัตราการเพิ่มของประชากรในสัดส่วนที่สูงที่สุด มีแหล่งงานภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ได้แก่ นิคมอุตสาหรรมมาบตาพุด รวมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย

     นอกจากนี้ โครงการนี้สามารถส่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กรณีคิดเฉพาะผลประโยชน์ทางตรง ได้แก่ การประหยัดค่าใช้ยานพาหนะ การประหยัดเวลาในการเดินทาง การลดลงของการสูญเสียจากอุบัติเหตุ และมูลค่าการลดมลพิษ พบว่า EIRR = 13.28% ซึ่งจะมีค่าสูงกว่านี้ หากคิดรวมผลประโยชน์จากการเติบโตของเมือง (City Growth) และการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาใช้รถไฟความเร็วสูง (Induced Passenger) เข้าไปด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการก่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาที่มี AEC เป็นบริษัทนำ โดยมี JIC, OC, ENRICH และ WE เป็นสมาชิกในกลุ่มยินดีจะศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อขยายเส้นทางไปจนถึงจังหวัดตราด ในการศึกษาโครงการนี้อีกด้วย

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่: 01/07/2556

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Thursday 04 Jul 13@ 14:00:00 +07 (1298 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
การรถไฟฯ ลงนามสั่งซื้อหัวรถจักดีเซลไฟฟ้า U-20 จำนวน 20 คัน
 
ข่าวจาก รฟท.

     เมื่อวันที่่ 25 มิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่โรงแรม สวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด ห้วยขวาง กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม           สั่งซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 20 คัน พร้อมอะไหล่ฯ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟฯ กับนายสันติ วยากรณ์วิจิตร ประธานกลุ่ม บริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด ผู้ชนะการประกวดราคาจัดหารถจักร 20 คัน ขนาดกดเพลา 20 ตัน ซี่งผลิตโดยโรงงานผลิตหัวรถจักร CSR Qishuya Co.,Ltd ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย นายกวนมู่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท CSR จากนครปักกิ่ง ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

          การรถไฟฯ มีแผนพัฒนาด้านระบบโลจิสติกส์ โดยโครงการนี้เชื่อมโยงกับแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน ปี 2553-2558 และให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า (Hub & Spokes) โดยการก่อสร้างย่านกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard : CY) ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้มีความพร้อมเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า อีกทั้งยังมีแผนงานการก่อสร้างทางคู่ และการปรับปรุงทางในเส้นทางต่าง ๆ ได้แก่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง และ ฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น

          แต่ในปัจจุบันการรถไฟฯ ประสบปัญหาการขาดแคลนรถจักรและรถสินค้าทำให้ไม่สามารถจัดเดินขบวนรถได้ตามความต้องการของผู้ใช้บริการ และไม่สามารถสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟตามแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ได้ และขาดความเชื่อมั่นในการขนส่งสินค้าจากผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ หากการรถไฟฯสามารถจัดหาหัวรถจักร จำนวน 20 คันนี้ ได้ตามแผนระยะเวลา 2 ปี การรถไฟฯจะสามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนรถจักร เพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ โดยใช้ล้อเลื่อนที่รองรับน้ำหนักบรรทุกการขนส่งได้สูงสุด สามารถบรรเทาปัญหาการขนส่งคอนเทนเนอร์ที่คับคั่งในท่าเรือแหลมฉบัง และรองรับการส่งออกของสินค้าเกษตรในรูปแบบคอนเทนเนอร์จากภูมิภาคสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ลดความแออัดของการจราจรทางถนน (Traffic Congestion) อุบัติเหตุ มลภาวะทางอากาศ และความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาระบบ Multimodal ซึ่งเป็นการลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ของประเทศอีกด้วย

          ซึ่งหลังจากนี้ ภายในอีก 2 ปี ข้างหน้า การรถไฟฯจะเร่งจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าอีก 50 คัน เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการขนส่งผู้โดยสารในอนาคต โดยจะดำเนินการขายเอกสารประกวดราคาในเร็ววันนี้ และคาดว่าในอนาคตการรถไฟฯ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่น ในการเดินทางของประชาชนได้เพิ่มมากขึ้นใน และการรถไฟฯ จะกลับมาเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา/รูปภาพ : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 25/06/2556

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Wednesday 26 Jun 13@ 08:00:00 +07 (1376 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
ร.ฟ.ท. เฟ้นหาผู้ประกอบการรถเสบียงสายอีสาน ๒๘ ขบวน
 
ข่าวจาก รฟท.

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า การรถไฟฯ ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน เข้าร่วมเสนอโครงการจัดบริการ จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนขบวนรถ ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ในกลุ่มขบวนรถด่วน จำนวน ๘ ขบวน และกลุ่มขบวนรถเร็ว จำนวน ๒๐ ขบวน มีอายุสัญญา ๓ ปี กำหนดขายซองเอกสาร ตั้งแต่วันที่ ๑๐ – ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และให้ยื่นเอกสาร เสนอโครงการ ต่อคณะกรรมการ ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖

     สำหรับแนวการคัดเลือก ของคณะกรรมการพิจารณาเสนอโครงการฯ จะตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของผู้ยื่นซองแล้ว จะเปิดซองโครงการ ของผู้ยื่นเสนอ เพื่อพิจารณาให้คะแนน โดยมีรายละเอียด อาทิ แผนการปรับปรุงภายในรถเสบียง การสาธิต สถานที่ประกอบการ คู่มือวิธีการปฏิบัติงานหรือ ข้อกำหนด และจะได้ประกาศผล ให้เป็นผู้ประกอบการในลำดับต่อไป นอกจากแนวการพิจารณาเบื้องต้นแล้ว การรถไฟฯ ยังให้คงเอกลักษณ์อาหาร ที่มีชื่อคือ "ข้าวผัดรถไฟ" กำหนดไว้ในเงื่อนไข (เฉพาะผู้ที่ยื่นเสนอ กลุ่มขบวนรถด่วน) ว่าต้องมีอาหารหลัก ที่ต้องมีจำหน่ายแก่ผู้ใช้บริการด้วย

     ผู้ที่สนใจจะประกอบการรถเสบียง ให้กับผู้โดยสารในขบวนรถไฟ เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ งานควบคุมสัญญาและการเช่าสิทธิ กองโดยสาร ฝ่ายการเดินรถ การรถไฟฯ ที่โทรศัพท์ ๐๒-๖๒๑-๘๗๐๑ ต่อ ๕๒๒๗ หรือต่อ ๕๓๕๐ ทุกวันทำการ

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 17/05/2556

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Monday 20 May 13@ 15:00:00 +07 (1031 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
รฟท. เปิดให้บริการที่หยุดรถใหม่ แกรนด์ แคแนล ในสายเหนือ
 
ข่าวจาก รฟท.

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาการจราจรทางถนนใน กทม.มีปัญหาติดขัดเพิ่มสูงขึ้น การรถไฟฯ จึงได้ให้เปิดจุดบริการขึ้น-ลงรถไฟชานเมืองในเส้นทางสายเหนือ ระหว่างสถานีดอนเมือง กับป้ายหยุดรถหลักหก เขตดอนเมือง กทม. เพิ่มขึ้นอีก ๑ แห่ง โดยใช้ชื่อว่า “ที่หยุดรถ แกรนด์ คาแนล”

     ทั้งนี้ ในแต่ละวันจะมีขบวนรถไฟชานเมือง จำนวน ๑๒ ขบวน หยุดรับส่งผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออก กทม. ในช่วงเช้าระหว่างเวลา ๐๖.๐๐ – ๐๘.๑๐ น. และช่วงเย็นระหว่างเวลา ๑๗.๐๐ – ๑๘.๑๐ น. ซึ่งนอกจากจะเป็น การช่วยแบ่งเบาการจราจรทางถนนแล้ว ผู้ที่เดินทาง ยังไม่ต้องเสียค่าโดยสารรถไฟ เพราะขบวนรถไฟชานเมือง ที่หยุดให้บริการเป็นขบวนรถไฟฟรี ที่รัฐบาลเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย สำหรับกำหนดเวลาในการเดินทาง สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. ๑๖๙๐ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง.

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพ: เมธี สุมณฑา (Nakhonlampang)
วันที่ : 16/05/2556

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Monday 20 May 13@ 14:30:00 +07 (1030 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
จองตั๋วสำรองที่นั่งรถไฟล่วงหน้า ต้องแสดงบัตรประชาชน
 
ข่าวจาก รฟท.

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่ต้องการจองตั๋วหรือสำรองที่นั่งรถโดยสารทุกประเภท ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารราชการ ระบุเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ( หากเป็นชาวต่างชาติเป็นหนังสือเดินทาง) เพื่อเจ้าหน้าที่ที่รับจองตั๋วหรือสำรองที่นั่งจะได้บันทึกข้อมูล เลขประจำตัว ชื่อ นามสกุล ผู้เดินทางในตั๋วโดยสารไว้ตรวจสอบกรณีตั๋วสูญหาย หรือ กรณีการเกิดเหตุอันตราย หรือกรณีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องขอ

      จึงแจ้งขอความร่วมมือ มายังผู้ที่จะเดินทางหากต้องการจองตั๋ว หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า โปรดให้ความร่วมมือแสดงบัตรดังกล่าว ให้กับเจ้าหน้าที่จองตั๋วหรือสำรองที่นั่งด้วย ส่วนผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วชั้น ๓ ในวันที่เดินทางก่อนขบวนรถออก จะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องแสดงบัตรประชาชนหรือเอกสารดังกล่าว โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน ๑๖๙๐ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 09/05/2556

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Friday 10 May 13@ 14:00:00 +07 (17262 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 

359 เรื่อง (72 หน้า, 5 เรื่องต่อหน้า)
[ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 ]


Languages

 
เลือกรูปแบบภาษา:

English Thai
 

Follow Us

 
Facebook Twitter
 

User Info

 
สวัสดี Guest


User ID

Password


Security Code
Enter Code

Type Security Code
 

ข้อมูลสมาชิก

 · สมาชิกวันนี้

0

 · สมาชิกเมื่อวาน

0

 · สมาชิกรออนุมัติ

0

 · สมาชิกทั้งหมด

2670


สมาชิกใหม่ล่าสุด
 01:06/09/2016wanwis
 02:05/09/2016TingHon
 03:29/08/2016Tanakrit
 04:29/08/2016yokpalm
 05:29/08/2016munco645utt

ผู้ที่กำลังใช้งานขณะนี้

 สมาชิก (0%)

1

 01:Forum profile Mongwin Mongwin

 ทั่วไป (100%)

614

 ทั้งหมด online

615


เข้าใช้งานมากที่สุด

 · ทั้งหมด

4353

 · สมาชิก

0

 · ทั่วไป

4353


สถิติการเข้าชม
 · วันนี้

50678

 · เมื่อวาน

86658

 · ทั้งหมด

311545626


สถิติการเข้าชมเฉลี่ย
 ·  ต่อชั่วโมง

1,803

 ·  ต่อวัน

40,613

 ·  ต่อเดือน

1,236,292

 ·  ต่อปี

14,835,506


เวลาของระบบ
 · เวลา

12:44:23

 · วัน

27/04/24

 · เขตเวลา

GMT + 7

 

Top Posters

 
   Mongwin 
 Posts: 
 44649 

   Wisarut 
 Posts: 
 42751 

   tuie 
 Posts: 
 12156 

   CivilSpice 
 Posts: 
 11192 

   black_express 
 Posts: 
 10060 

   ExtendeD 
 Posts: 
 9054 

   heerchai 
 Posts: 
 7730 

   alderwood 
 Posts: 
 6593 

   pattharachai 
 Posts: 
 6536 

   ksomchai 
 Posts: 
 6384 

 

Survey

 
ถ้าต้องเลือก Mega project ของรถไฟไทยในอนาคต คุณอยากได้อะไร ?

รถไฟความเร็วสูง (HST)
Rehab ทางรถไฟเดิม
สร้างทางคู่ทั้งประเทศ
จัดซื้อรถจักร/รถพ่วงใหม่
ก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่
ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน



ผลสำรวจ
แบบสำรวจอื่นๆ

จำนวนผู้ลงคะแนน: 1948
คำแนะนำ: 6