มาทำรถไฟไทยเพื่อชาติ

Wisarut

มาทำรถไฟไทยเพื่อชาติ
โดย กระบี่ข้างศาล
มติชน วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10447

เมื่อเร็วๆ นี้ คนไทยคงได้ฟังได้ยินข่าวครึกโครมว่าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะดำเนินการสร้างรถไฟฟ้าเพื่อการขนส่งในกรุงเทพมหานครและชานเมือง ช่างเป็นแนวคิดที่จะทำการขนส่งมวลชนที่ดีและถูกต้องเหลือเกิน สำหรับประเทศไทย ซึ่งกำลังวิกฤตเรื่องน้ำมันแพง การขนส่งทางรถยนต์ ฯลฯ ก็ขออนุโมทนาที่นี้ด้วย

เมื่อมีด้วยแนวคิดที่จะทำการขนส่งมวลชนให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้ในกรุงเทพมหานครและชานเมือง ก็ใคร่จะขอเสนอให้ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินทั้งหลายที่มีอำนาจวาสนาเข้ามาปกครองบริหารราชการบ้านเมืองทั้งหลาย ได้โปรดหันกลับไปมองการขนส่งโดยทางรถไฟระหว่างเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเริ่มก่อสร้างทางรถไฟ ใช้รถไฟขนส่งประชาชนและสินค้ามาเป็นเวลาร่วมร้อยปีแล้ว ทั้งภาคเหนือ, ใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง ฯลฯ

ตั้งแต่จำความได้ประมาณ 30-40 ปีมานี้ ไม่เคยเห็นผู้บริหารประเทศยุคใดมีความจริงใจ จริงจังจะแก้ปัญหาการขนส่งสาธารณะภายในประเทศเลย มักสนใจแต่จะแสวงหาผลประโยชน์สร้างทางรถยนต์ เพราะสร้างไปปี 2 ปีก็ต้องซ่อมสร้างใหม่ เสียงบประมาณและสูญเสียทรัพยากรของชาติไปมากมายไม่คุ้มเลย

บางครั้งตัดทางน้ำ ตัดไม้ทำลายป่าไม้ ทำให้เกิดอุทกภัยและสูญเสียชีวิตประชาชนและทรัพย์สินมากมาย ดังที่เห็นน้ำท่วมภาคเหนือบ่อย และน้ำท่วมจังหวัดอื่นๆ เกือบทั่วประเทศ

การคิดแต่จะทำถนนอย่างเดียว ไม่เรียนรู้ธรรมชาติ ภูมิประเทศ คนสมัยนี้เอาแต่ได้ ขอให้ได้ลาภ ได้วัตถุก็เอาแล้ว หาได้คำนึงถึงเกียรติ-ศักดิ์ศรี-บาปบุญคุณโทษไม่

จําได้มีรัฐบาลยุคหนึ่งเมื่อประมาณ 7-8 ปีเห็นจะได้ ได้ริเริ่มพัฒนาสร้างทางรถไฟคู่ขนานเพื่อต่อไปจะได้ไม่ต้องรอหลีกกันอีก จะเดินทางได้เร็วขึ้นจากกรุงเทพมหานครไปภาคใต้ แต่ก็สร้างมาได้เพียงถึงประมาณนครปฐมหรือราชบุรีก็หยุดสร้างต่อ

สงสัยจริงๆ ว่าใครเป็นผู้สั่งให้หยุดสร้าง ทำไมไม่เห็นประโยชน์การขนส่งโดยทางรถไฟ มัวทุ่มงบประมาณสร้างทางรถยนต์ เสียเงินเสียทองของประเทศมากมายมหาศาล รถยนต์มีมากขึ้น เสียค่าน้ำมันมากมาย ทำให้บ้านเมืองวิบัติทางเศรษฐกิจ

เชื่อว่าผู้บริหารประเทศคงรู้แจ้งกันทุกคน แต่เหตุใดจิตใจมืดกันไม่อาจทราบได้หากว่าในวันนั้นได้ทำทางรถไฟคู่ขนานไปถึงจังหวัดนราธิวาส คนมีงานทำมากมาย ป่านนี้ภาคใต้คงไม่รุกเป็นไฟแล้ว

ในโอกาสนี้ จึงขอให้ผู้มีอำนาจบริหารราชการทั้งหลายได้เริ่มพัฒนาส่งเสริมการขนส่งทางรถไฟอย่างจริงจังด้วย การทำทางรถไฟเพิ่มเป็นคู่ขนาน ให้ทั่วประเทศทั้งเหนือ ใต้ อีสาน ออก ตก จะเป็นประโยชน์แก่ประชาราษฎร์ไทยในอนาคตอย่างแน่นอน

และควรสร้างเพิ่มทางรถไฟในบางสาย เช่น สายจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงพังงาและจังหวัดภูเก็ต เคยไปดูเส้นทางซึ่งมีการสงวนเส้นทางไว้แล้วตั้งแต่โบราณ ก็ขอให้งบประมาณรีบทำด้วยเถิดจะทำให้การขนส่งไปจังหวัดพังงาและภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่วิเศษสุดของโลกด้วย

และทางรถไฟจากกรุงเทพฯไปชลบุรี-จันทบุรี-ตราดด้วย จะเป็นแหล่งเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวที่วิเศษด้วย

หากพัฒนาการขนส่งโดยทางรถไฟ อันเป็นแนวทางขนส่งตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วางรากฐานไว้แล้วนั้น เสียค่าใช้จ่ายน้อย ประหยัดใช้ได้นาน ไม่ต้องเสียค่าบำรุงซ่อมสร้างเช่นถนน (การสร้างถนนประชาชนรู้กันทั่วว่า มักมีการทุจริตก็ตามขอให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเข้าตรวจที่สร้างถนนเพื่อจับทุจริต) การพัฒนาการขนส่งมวลชนและสินค้าโดยทางรถไฟระหว่างจังหวัดแล้วจะเห็นได้ว่าประหยัดงบประมาณ ปลอดภัย ทั้งเป็นประโยชน์ต่อชาติประชาชนมากที่สุด ไม่มีสิ่งใดเปรียบได้

เท่าที่พบเห็น ไม่มีผู้นำประเทศสนใจการพัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทยกันเลย ปล่อยปละละเลยให้รถไฟเก่าสกปรก อุปกรณ์ชำรุดเสียหายไม่ค่อยซ่อมกัน เก้าอี้นั่งสกปรก ห้องน้ำสกปรก ประตูชำรุด ฯลฯ พนักงานรถไฟไม่ค่อยได้รับสวัสดิการที่ดีเท่าที่ควรจากผู้ใหญ่ ร้านอาหารที่รับสัมปทานก็แพงเกินควร

พูดง่ายๆ ผู้นำผู้บริหารประเทศไทยไม่เคยสนใจจะเสริมสร้าง พัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทยเลย

ขอเชิญชวนชาวสื่อมวลชนไปทำสารคดีหรือชมกิจการรถไฟไทยกันหน่อยเพื่อกระตุ้นผู้บริหารประเทศได้ช่วยกันพัฒนาขอร้องรัฐบาลใหม่ที่มีคุณธรรมได้เป็นผู้บริหารบ้านเมืองได้

กรุณาเจียดเงินที่ใช้ในการซ่อมสร้างถนนทั่วประเทศสัก 30-40% มาใช้พัฒนาทางรถไฟและตู้รถไฟอย่างจริงจัง เชื่อว่าเพียงไม่กี่ปีข้างหน้า การขนส่งโดยทางรถไฟทั่วประเทศจะเป็นการขนส่งที่สะดวกปลอดภัย ประหยัด สะอาด และดีที่สุด ดีกว่าการขนส่งโดยทางรถยนต์ร้อยเท่า

การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไม่คุ้มค่าเลย ต้องสูญเสียค่าน้ำมันมากมาย เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทรัพย์สินสูญเสียทรัพยากรป่าไม้มากมาย ไม่ทราบมีการทำวิจัยกันบ้างหรือไม่ ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินประเทศไทยจะได้พัฒนาไปแบบเศรษฐกิจพอเพียง ประชาชนทุกคนมีสุข ฯลฯ

อีกประการ 2 ข้างทางรถไฟมีขยะบ้านเรือนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บุกรุกทางรถไฟจนน่าเกลียด ขอให้จัดการให้มีที่เช่าอยู่ในพื้นที่ของรัฐ และทั้ง 2 ข้างทางให้สะอาดน่าชมทิวทัศน์ จะได้ไม่ขายหน้าชาวต่างประเทศ

ขอให้พระสยามเทวาธิราชปกปักรักษาการรถไฟไทย รวมทั้งที่ดินของการรถไฟฯดังกล่าวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้ริเริ่มไว้นั้นคงเป็นรัฐวิสาหกิจไทยสมบัติของประชาชนชาวไทยเช่นเดิม อย่าได้มีใครคิดเอาไปให้เอกชนหรือบุคคลคณะใดหากินเด็ดขาด หากใครคิดคงวิบัติแน่ๆ ตามคำสาปแช่งของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นสมบัติของพระเจ้าแผ่นดินชาติไทยมอบให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้ใช้ตลอดชั่วฟ้าดินสลาย

ท้ายนี้ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มสุขสงบ ประชาชนมีความสุขขึ้น นักเลือกตั้งที่โกงบ้านเมืองหมดไป ขอวิงวอนให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้พิจารณาหาทางเอารัฐวิสาหกิจที่ถูกแปรรูปโดยผู้คนที่ไม่ซื่อต่อแผ่นดินกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจสาธารณูปโภคของแผ่นดินเช่นเดิม และได้พิจารณาพัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วยเถิด

black_express · Posted: 19/10/2006 1:22 pm Post subject:

คิดเหมือนใจผม แต่ถึงขั้นตอนหาเงินทุนมาก่อสร้าง - ขยายเส้นทาง มักติดข้ออ้างที่ว่าไม่มีแหล่งเงินทุนทุกทีสิน่า... แต่พอสร้างถนนสิบเลน กลับทำได้แฮะ

ถ้าจะแปรรูป ก็กลายเป็นบริษัทสำหรับผู้จับเสือมือเปล่าเข้ามาหาผลกำไร เอ...ประเทศชาติเป็นของใครกันแน่ นายทุนพันล้านหรือไง ?

จะรอวัดใจผู้นำรัฐบาลในยุคนี้ และยุคต่อๆ ไปด้วยครับ ( นี่ก็เห็นข่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสามสายทาง อาจทำได้ไม่ครบร้อย ในยุครัฐบาลชุดนี้ )

alderwood · Posted: 19/10/2006 8:40 pm Post subject:

พวกเราก็ได้แต่รอคนที่จะมาทำจริงจังกับการขนส่งมวลชนระบบรางสักที แห่กันไปทำรถยนต์เอาใจต่างชาติกันหมด เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่พัฒนา ไม่เป็นดีทรอยแห่งเอเชีย รู้ไหมว่าประเทศที่พัฒนาแล้วนั่นแหละที่มักจะหาที่ตั้งโรงงานต่างชาติ ค่าแรงถูกๆ

pitch · Posted: 19/10/2006 11:50 pm Post subject:

เท่าที่สังเกตุและติดตามข่าวคราวก็ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยกล่าวในเชิงนโยบายจะพัฒนาการขนส่งราง จะทำอย่างนู้นอย่างนี้...แต่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป........... Crying or Very sad

เราก็ยังอยู่ที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง

RAPID140 · Posted: 20/10/2006 4:27 pm Post subject:

ผมว่าตอนนี้ต้องห่วงเกี่ยวกับการบำรุงซ่อมแซมของที่มีอยู่เดิมให้พอเพียงต่อการใช้งานก่อนละครับ เพราะปีนี้เราเสียหายจากอุบัติภัยมากเหลือเกิน น่าจะเน้นไปในด้านการปรับปรุงรางให้มีความปลอดภัยมากที่สุดก่อน เรื่องของการขยายเส้นทางผมว่าต้องเกิดขึ้นแน่ แต่อีกนานมากครับ เพราะบางเส้นทางยังใช้รางแบบ 80 ปอนด์ กับหมอนรองรางที่เป็นไม้อยู่เลยครับ

puggi · 3rd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 119

เป็นข้อเขียน ที่ตรงใจมากเลยครับ

รางมาตรฐาน ความเร็วสูง สำหรับผมยังไม่สำคัญ เท่า รางคู่ แค่มีทั่วประเทศ

การเดินทางโดยรถไฟ คงสะดวกกว่านี้เยอะ

ปล สมมติ มีรางคู่ แค่ไปเชียงใหม่ เร็วเท่ารถทัวร์ ผมก็ยิ้มแล้วครบ

Wisarut · Posted: 09/12/2006 9:47 pm Post subject:

ตอนนี้หอการค้าจังหวัดของแก่นอยากได้รถไฟรางคู่ แหลมฉบัง - ขอนแก่น เพื่อส่งเสริมมด้านลอจิสติก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
อ้างอิง: ฐานเศรษฐกิจ 7-9 ธันวาคม 2549

1) ฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง
2) ฉะเชิงเทรา - คอลง 19 - แก่งคอย
3) แก่งคอย - บัวใหญ่
4) บัวใหญ่ - เมืองพล - ขอนแก่น
5) ถนนจิระ - พลสงคราม - บัวใหญ่
6) แก่งคอย - นครราชสีมา - ถนนจิระ
7) ขอนแก่น - กาฬสินธุ์ - มุกดาหาร (หรือ บัวใหญ่ - ร้อยเอ้ด - มุกดาหาร ก็ได้ ถ้า รฟท. ยืนยันจะเอาตามแผนเดิม แต่ต้องทำทางคู่ บัวใหญ่ - ขอนแก่น และ ขอนแก่น - อุดรธานี เอาใจคนขอนแก่น ด้วย)

nathapong · Posted: 11/12/2006 12:02 pm Post subject:

Nakhonlampang · Posted: 12/12/2006 11:51 pm Post subject:

ประเด็นความเห็นของหอการค้านั้น ในความเป็นจริงก็คือความต้องการที่มองมาจากมุมของคนที่อยู่จังหวัดนั้นๆ มุมเดียวนั่นแหละครับ เพราะแต่ละจังหวัดก็พยายามจะดึงความเจริญเข้าสู่จังหวัดของตัวเองเป็นสำคัญ อยากให้จังหวัดตัวเองเป็น HUB ทีนี้เวลาจะทำอะไรจริงๆก็คงต้องมองภาพรวมทั้งประเทศครับ ขืนตามใจกันทุกจังหวัด ประเทศไทยก็คงจะสร้างความ amazing ให้กับชาวโลกเพราะดันมี LOGISTICS HUB ตั้ง 70 กว่าแห่งเกิดขึ้นมาชิงดีชิงเด่นกัน แต่ถึงตอนนั้นก็สงสัยว่าคำว่า HUB คงจะไม่ได้อ่านว่า "ฮับ" แล้ว แต่จะอ่านว่า "หุบ" แทนน่ะสิครับ

black_express · Posted: 13/12/2006 9:21 am Post subject:

หอการค้าพิษณุโลก ก็ขอทางรถไฟเชื่อมระหว่างแม่สอด - พิษณุโลก - ขอนแก่นเหมือนกัน

เพราะการเสนอขอน่ะ ง่าย... แต่ความเป็นจริงนั้น ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง 8)