RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312045
ทั่วไป:13633202
ทั้งหมด:13945247
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เมื่อรถไฟไทยดอทคอม ไปเยือน แขวงรถจักรอุตรดิตถ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เมื่อรถไฟไทยดอทคอม ไปเยือน แขวงรถจักรอุตรดิตถ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 29, 30, 31, 32  Next
 
This topic is locked: you cannot edit posts or make replies.    Rotfaithai.Com Forum Index -> ประชาสัมพันธ์กิจกรรม
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 01/12/2008 10:47 pm    Post subject: Reply with quote

ครับ คืนนั้น ข.107 แผ่วตอนปลาย ปล่อยให้ ข.105 แซงผ่านที่สถานีพิษณุโลก และเข้าเทียบชานชาลาสถานีอุตรดิตถ์ล่ากว่ากำหนดประมาณ 30 นาทีเศษ

Click on the image for full size

ชาวคณะส่วนใหญ่ลงที่นี่ ปล่อยให้ทีม อ.ตุ้ยไปชื่นชมไอหมอกที่สถานีเด่นชัย ก่อนย้อนกลับมาสมทบกับชาวคณะอีกครั้งหนึ่งด้วย ข.112 เด่นชัย - กรุงเทพ Laughing

Click on the image for full size

ขอเก็บภาพสักนิดกับ ข.673 ทำขบวนผ่านสถานีอุตรดิตถ์

Click on the image for full size

ถึงตอนนี้ บรรยากาศเริ่มคึกคักอีกครั้งหนึ่งกับสมาชิกต่างแจ้งรายงานตัว ก่อนรวมพลเข้าชมโรงรถจักรอุตรดิตถ์กันต่อไป

เอ...จะมีใครทราบไหมหนอว่า นับตั้งแต่ทางรถไฟได้ก่อสร้างวางรางมาจนถึงอุตรดิตถ์ และก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟและที่รับส่งสินค้ามาจนถึงปัจจุบันนี้ เกือบครบ 100 ปีแล้วนะครับ เพราะอาคารสถานีอุตรดิตถ์แห่งแรก ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2452 และเปิดใช้งานในปีถัดมา น่าจะมีงานฉลองกันบ้างนะครับ Laughing

สำหรับความเป็นมาของการก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือมาถึงอุตรดิตถ์ ท่านที่สนใจสามารถศึกษาได้จากกระทู้ซึ่งบันทึกโดยชาวอุตรดิตถ์ที่เกรงข้อมูลประวัติศาสตร์จะสูญหาย ตามข้างล่างนี้ครับ

เรื่องจากประวัติศาสตร์ : ตำนานเมืองอุตรดิษฐ์

ถึงเวลาเข้าชมภายในบริเวณโรงรถจักรอุตรดิตถ์กันแล้วครับ เจ้าของสถานที่เขามาพร้อมรอต้อนรับแล้วล่ะ Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 01/12/2008 11:20 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

ถึงแม้ผมจะทำงานและตั้งรกรากอยู่ที่อุตรดิตถ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เป็นต้นมา เพิ่งได้มีโอกาสเดินเข้าเยี่ยมชมภายในโรงรถจักรอุตรดิตถ์ และโรงงานอุตรดิตถ์โดยใกล้ชิดคราวนี้เองครับ Embarassed ดังนั้น จึงเป็นความตื่นเต้นสำหรับผมไม่แพ้ชาวคณะรายอื่นๆ เช่นกัน แต่ช่วงเช้านั้น มี GEK 4044 จอดพักภายในโรงรถจักรเพียงคันเดียวเท่านั้น

โรงรถจักรแห่งนี้แต่เดิม จะสั้นกว่าปัจจุบันครึ่งหนึ่ง เพราะมีการก่อสร้างอาคารขยายความยาวให้สามารถรับรถจักรเพื่อรับการซ่อมบำรุงได้มากขึ้นกว่าเดิมในภายหลังครับ

Click on the image for full size

สิ่งที่น่าสนใจ แต่ดวงไม่ค่อยสมพงษ์กันกับผมอีกอย่างหนึ่ง คือ บปก. หมายเลข 1 ยี่ห้อ Ishikawajima นี้แหละครับ ถ้าไม่จอดที่โรงเก็บข้างใน ที่หาโอกาสถ่ายรูปไม่ได้แล้ว จะอยู่แถวๆ ย่านศิลาอาสน์ ซึ่งผมไม่มีธุระผ่านบริเวณนั้นอีกเช่นกัน วันนี้โชคดีครับ ได้เห็นอย่างใกล้ชิดด้วยสีส้มใหม่เอี่ยม แทนสีแดงดั้งเดิม จอดในโรงเก็บรถจักรไอน้ำ (เดิม) จึงถือโอกาสเก็บภาพเอาไว้หน่อย Wink

ทราบจากทางแขวงฯ อุตรดิตถ์ว่า เป็น บปก.เครื่องยนต์ต้นกำลังเป็นเครื่องดีเซลรุ่นแรกที่การรถไฟฯ จัดซื้อมาใช้งานเมื่อปี พ.ศ.2499 (ร่วมรุ่นปีกับผมแฮะ Laughing ) และมีรุ่นนี้เพียงคันเดียวเท่านั้นใน รฟท.

สมัยผมเป็นเด็กช่วงปี พ.ศ.2508 ขณะที่นั่งรถหวานเย็นจากเชียงใหม่มายังสถานีนครลำปางนั้น ได้รอหลีกขบวนรถช่วยอันตรายที่ไปช่วยยกขบวนรถตกรางบริเวณช่วงสถานีปางม่วง กับสถานีแม่ตานน้อย โดยขบวนรถช่วยอันตรายนั้น นำขบวนโดยรถไอน้ำมาจากแขวงฯ ลำปาง และจากแขวงฯ อุตรดิตถ์ สีแดงสดทั้งขบวน ดูแล้วตื่นเต้น น่ากลัวตามประสาเด็กๆ ตอนนั้นล่ะครับ Wink

Click on the image for full size

ดูจากแผ่น nameplate ที่ติดอยู่โครงตัวรถ ระบุว่าสร้างโดยบริษัท Tokyu Car Mfg.Co., Ltd. เข้าใจว่า แต่ละบริษัทได้รับผิดชอบผลิตแต่ละชิ้นส่วน แล้วนำมาประกอบเป็นคันรถอีกทีหนึ่งกระมัง ?

Click on the image for full size

อีกสักภาพกับบั้นท้าย บปก.1 ก่อนที่จะเดินไปรวมกับชาวคณะที่ห้องประชุมของแขวงฯ ต่อไป

คืนนี้ ขอเข้านอนก่อนนะครับ sleeping
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47157
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/12/2008 11:58 pm    Post subject: Reply with quote

black_express wrote:
โรงรถจักรแห่งนี้แต่เดิม จะสั้นกว่าปัจจุบันครึ่งหนึ่ง เพราะมีการก่อสร้างอาคารขยายความยาวให้สามารถรับรถจักรเพื่อรับการซ่อมบำรุงได้มากขึ้นกว่าเดิมในภายหลังครับ

จากภาพถ่ายทางอากาศวันที่ 18 พ.ย. 2518 เห็นได้ชัดเจนว่า โรงรถจักรเดิมสั้นกว่าปัจจุบันครับ (ปัจจุบันยาวถึงแนวถนนซ้ายมือ)

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/12/2008 8:46 pm    Post subject: Reply with quote

ต้องขออภัยที่ปล่อยให้กระทู้ค้างครับ พอดีงานเข้า ต้องเตรียมการประชุมในวันที่ 9 ธันวาคม เลยรวบรวมมาเสนอกันต่อช่วงวันหยุดยาวนี่แหละครับ Embarassed

Click on the image for full size

หลังจากรวมพลพร้อมเพรียงกันแล้ว คุณหมอรักษ์พงศ์ ประธานเวปไซต์ได้กล่าวต้อนรับสมาชิกและเปิดกิจกรรม

Click on the image for full size

หลังจากนั้น ทางวิศวกรกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ได้กล่าวต้อนรับ และแนะนำหน่วยงานในสังกัด และภารกิจหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งขออนุญาตนำมาสรุปในที่นี้แก่ผู้สนใจได้ทราบนะครับ

................

กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์

กองลากเลื่อนอุตรดิตถ์ เป็นหน่วยงานตั้งอยู่ในภูมิภาคขึ้นตรงต่อศูนย์ลากเลื่อน ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยวิศวกรกำกับกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานในสังกัด มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

- ควบคุมและวางแผนการซ่อมบำรุงรักษารถจักร รถพ่วง และล้อเลื่อนที่ใช้งานในพื้นที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับแผนงานที่ศูนย์ลากเลื่อนกำหนด
- ควบคุมและวางแผนการซ่อมบำรุงเครื่องจักร เครื่องมือกลที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรถจักร รถพ่วง
- ควบคุมและวางแผนการจัดพนักงานรถจักร ทำขบวนรถให้เป็นไปตามกำหนด และให้สอดคล้องกับความต้องการด้านการเดินรถในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
- ดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านช่างกลในเขตรับผิดชอบ เช่น งานด้านเทคนิค ด้านเหตุอันตราย งานกู้ภัย สวัสดิการพนักงานตลอดจนด้านแรงงานสัมพันธ์ ฯลฯ

กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ มีเขตพื้นที่รับผิดชอบ เริ่มตั้งแต่เสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีชุมทางบ้านภาชีบนเส้นทางสายเหนือ จนถึงสถานีเชียงใหม่ รวมถึงทางแยกจากสถานีชุมทางบ้านดาราถึงสถานีสวรรคโลก รวมระยะทางทั้งสิ้น 690 กม. แบ่งความรับผิดชอบเป็น 4 แขวงงาน และหน่วย 10 รวม 2 แห่ง (ที่พิษณุโลก และเชียงใหม่) ได้แก่


แขวงโรงงานอุตรดิตถ์ มีสารวัตรแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานในสังกัด รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงรถโดยสาร รถสินค้า และอุปกรณ์ส่วนประกอบบางส่วนของรถพ่วง เพื่อใช้งานในกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ นอกจากนี้ ยังดำเนินการซ่อมระบบไฟฟ้าและสุขภัณฑ์ขบวนรถโดยสารที่สถานีศิลาอาสน์ ด้วย

แขวงสารวัตรรถพ่วงปากน้ำโพ มีสารวัตรแขวงรถพ่วงปากน้ำโพเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานในสังกัด มีเขตพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่เสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีชุมทางบ้านภาชี ถึงเสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีตะพานหิน รวมระยะทาง 229 กม. รับผิดชอบการจัดพนักงานในสังกัดหมุนเวียนทำขบวนรถตาม link ทำการตรวจซ่อมบำรุงรถจักรดีเซล รถดีเซลราง และรถพ่วงให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งควบคุมงานด้านตรวจรถตามสถานีรายทาง มีหน่วยงาน พตร.ประจำอยู่ที่สถานีลพบุรีและสถานีนครสวรรค์

แขวงสารวัตรรถจักรอุตรดิตถ์ มีสารวัตรแขวงรถจักรอุตรดิตถ์เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานในสังกัด มีเขตพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่เสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีตะพานหิน ถึงเสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีเด่นชัย และในส่วนทางแยกจากสถานีชุมทางบ้านดารา ถึงสถานีสวรรคโลก รวมระยะทาง 244 กม. รับผิดชอบการจัดพนักงานในสังกัดหมุนเวียนทำขบวนรถตาม link ทำการตรวจซ่อมบำรุงรถจักรดีเซล รถดีเซลราง และรถพ่วงให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งควบคุมงานด้านตรวจรถตามสถานีรายทาง มีหน่วยงาน พตร.ประจำอยู่ที่สถานีบึงพระ สถานีพิษณุโลก สถานีศิลาอาสน์ และสถานีเด่นชัย นอกจากนี้ยังมีงานบำรุงรักษาขบวนรถพิเศษช่วยอันตราย ซึ่งมีรถปั้นจั่นกลใช้งานเพียงแห่งเดียวในเขตพื้นที่รับผิดชอบกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์

แขวงสารวัตรรถจักรลำปาง มีสารวัตรแขวงรถจักรลำปางเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานในสังกัด มีเขตพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่เสาสัญญาณออกอันนอกด้านเหนือสถานีเด่นชัย ถึงสถานีเชียงใหม่ รวมระยะทาง 217 กม. รับผิดชอบการจัดพนักงานในสังกัดหมุนเวียนทำขบวนรถตาม link ทำการตรวจซ่อมบำรุงรถจักรดีเซล รถดีเซลราง และรถพ่วงให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งควบคุมงานด้านตรวจรถตามสถานีรายทาง มีหน่วยงาน พตร.ประจำอยู่ที่สถานีลำปาง และสถานีเชียงใหม่

ในปัจจุบัน หน่วยซ่อมในสังกัดกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ โดยเฉพาะที่แขวงสารวัตรโรงงานอุตรดิตถ์ มีการประสานงานกับกองซ่อมบำรุงรถจักร บางซื่อ ในการช่วยยกแคร่เปลี่ยนมอเตอร์ขับเคลื่อน (Tracktion Motor) ให้กับรถจักร ALS , GEA , GEK นอกเหนือจากการซ่อมประจำ และดูแลรักษารถปั้นจั่นกลที่มีประจำการในแขวงฯ อีกด้วย

ปัญหาอุปสรรคที่ประสบ ได้แก่

- สถานการณ์รถจักรตึงตัว ไม่พอต่อการใช้งาน หากมีขบวนรถพิเศษจัดเฉพาะ เช่น E&O ทำขบวนในเขตพื้นที่ ต้องดึงรถจักรจากขบวนรถสินค้าปกติเข้าทำขบวน และงดเดินรถสินค้าขบวนนั้นไปก่อน
- มาตรการจำกัดกำลังคนภาครัฐตามนโยบายรัฐบาล ทำให้อัตรากำลังที่มีอยู่ โดยเฉพาะพนักงานรถจักรต้องปฏิบัติงานเกินเวลาโดยไม่มีพนักงานสำรองสับเปลี่ยน
- งบประมาณที่ได้รับมีจำกัด

................


จากบรรยายสรุป ทำให้ทราบภารกิจที่ค่อนข้างหนักหน่วงของกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ซึ่งรับผิดชอบการเดินรถบนเส้นทางสายเหนือ ซึ่งเป็นเส้นทางภูเขา มีความลาดชันสูง แตกต่างจากกองลากเลื่อนเขตพื้นที่อื่น ต้องมีความพร้อมตลอดเวลาทั้งตัวพนักงาน รถจักร ล้อเลื่อน และการซ่อมบำรุง เพื่อให้บริการเดินรถโดยสารและรถสินค้าดำเนินได้ตลอดไป

หลังจากเสร็จสิ้นการบรรยายสรุป ทางเจ้าหน้าที่ได้นำชาวคณะของ RFT.Com เข้าชมบริเวณพื้นที่ของแขวงโรงงานอุตรดิตถ์กันล่ะครับ แต่ไม่ลืมเตือนให้ระวังความปลอดภัยในการเข้าชมด้วย เพราะมีเครื่องจักรกล และพนักงานอยู่ปฏิบัติหน้าที่ล่วงเวลาซ่อมตามวาระรถ บชส. ร่วม 8 คันทีเดียว

Click on the image for full size

Click on the image for full size

การซ่อมตามวาระ ถึงขั้นใช้ไฟลอกสีที่หนาเตอะออก เพื้อให้ถึงตัวเนื้อเหล็ก จึงสามารถตัดผุ ปะแผ่นเหล็กใหม่ ก่อนทำสีโป้ว ลงสีใหม่ ซึ่งใช้งานได้ทนนานกว่าโป้วสีทับอย่างเดียว

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ที่สร้างความสนใจแก่สมาชิกผู้เยี่ยมชมเป็นอย่างมากคือการกลึงล้อรถไฟครับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สาธิตให้เห็นกันจะๆ ตาทีเดียว เศษเหล็กที่กลึงจากล้อ ยาวเป็นเกลียวสวยครับ แต่ให้ระวังมือตอนจับ เพราะคมบาดมือเอาง่ายๆ นะครับ

ทราบว่า ล้อที่ส่งเข้ากลึง จะต้องกลึงเท่ากันทุกล้อด้วย ก่อนประกอบเข้ากับแคร่ตัวรถ มิฉะนั้นจะมีปัญหาตัวรถด้านหัว-ท้ายสูงต่ำไม่เท่ากัน มีผลต่อการต่อพ่วงไม่สนิท งานนี้ต้องขอคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้รู้ด้วยครับ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

สำหรับล้อที่กลึงเสร็จ จะนำมาเก็บตรงรางเก็บล้อกลางแจ้งด้านหลังโรงงานครับ โดยมีแคร่เลื่อนไปมาระหว่างรางเก็บ นำล้อเข้าจัดเก็บ แต่ล้อที่เก็บในภาพไม่ใช่ล้อที่กลึงนะครับ Wink


Last edited by black_express on 11/12/2008 9:15 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/12/2008 9:37 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

ภาพที่เห็นเจนตาตอนที่ผมขับรถผ่านไปมาด้านหลังโรงงาน คือตู้รถโดยสารสมัยโบราณ ทำด้วยไม้คันนี้แหละครับ พอมีโอกาสเข้าเดินชมข้างในโรงงานได้ ก็ไม่ลืมแวะเข้าไปดูใกล้ๆ กันหน่อย

แต่พอเข้าไปเห็นใกล้ๆ เอ..รู้สึกว่าตัวรถดูกว้างๆ กว่าปกติแฮะ

Click on the image for full size

คำตอบอยู่ที่ล้อคู่นี้แหละครับ ทำให้แปลกใจซ้ำสองว่าเหลือรอดหูรอดตาไปได้อย่างไร เพราะเป็นล้อใช้กับขนาดรางมาตรฐาน 1.453 เมตร ของกรมรถไฟหลวง ก่อนแก้ขนาดรางสายเหนือลงเป็นขนาดกว้าง 1 เมตร ช่วงรัชกาลที่ 7 โน้นครับ

เลยกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาตากล้องในวันนั้นไปอย่างช่วยไม่ได้ Laughing

Click on the image for full size

ออกมาด้านหน้าโรงงาน ต่างเฮโลไปดูบรรดารถจักร รถพ่วง ที่เก็บในย่านกันครับ

Click on the image for full size

เห็นจะไม่พ้นดาราประจำแขวงโรงงานอุตรดิตถ์คันนี้แหละครับ Davenport หมายเลข 571 ที่ตอนนี้จอดหมดสภาพ ไม่สามารถใช้งานได้อีก นอกจากบูรณะขึ้นมาใหม่ ซึ่งทางโรงงานอุตรดิตถ์บอกว่าสามารถทำได้ ถ้ามีเงินงบประมาณ แต่เครื่องยนต์นั้นต้องส่งไปให้โรงงานมักกะสันดำเนินการซ่อมให้

ว่าแล้วมีสมาชิกใจกล้าปีนขึ้นไปดูภายในรถจักรกันหลายคน รวมถึงท่านประธานเวปไซต์ด้วยล่ะ Laughing

Click on the image for full size

ขึ้นไปดูแบบไม่กลัวเสื้อผ้าเปื้อนคราบน้ำมันกับฝุ่นที่รถจักรแล้ว ผมเพิ่งรู้เหมือนกันว่ายังมีเครื่องยนต์อยู่ครบทั้ง 2 เครื่อง ดูแล้วเต็มห้องเครื่องครับ ไม่เหมือนรุ่น 500 แรงม้าที่คิดว่าจะโล่งกว่า

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ต่อมาอีกสักคันนะครับ เป็นรุ่น 500 แรงม้า หมายเลข 525 ส่วนเครื่องยนต์ถูกถอดออกมาอยู่ข้างนอก โดยวิธีรื้อหลังคาบ้านออกมาครับ Laughing ยังไม่ทราบว่าจะมีโอกาสกลับมาใช้งานได้เมื่อใด


Last edited by black_express on 07/12/2008 10:13 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/12/2008 9:50 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

เพิ่งเห็นห้องขับรถจักรไอน้ำเพิ่มเติมอีกหลังหนึ่งครับ ข้างโรงรถจักรดีเซลอุตรดิตถ์ คราวนี้ก็ถึงเรื่องราวของรถจักรและล้อเลื่อนที่ถึงแก่วาระบ้างครับ

Click on the image for full size

คงจำอัลสตอมคันนี้ได้นะครับ หมายเลข 4127 ประสบอุบัติเหตุตกรางที่ อ.พิชัย แถมเจอไฟไหม้ซ้ำช่วงกู้ภัยจนหมดสภาพ จากข่าว นสพ. คมชัดลึก ฉบับวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

ระทึกกู้ซากรถไฟที่อุตรดิตถ์ ระเบิดเจ็บสาหัส 3 คน

Click on the image for full size

Click on the image for full size

กับทรากโบกี้รถตามกระทู้ ภาพ - ข่าวในอดีต : ข.38 ตกราง ครับ

Click on the image for full size

โบกี้ท้ายขบวนรถด่วนราชพฤกษ์ ที่ประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายครับ 26 พ.ย.49 ข.11 ชนท้าย ข.963 ที่ห้วยเกตุ

เนื้อเรื่องช่วงนี้มีแต่เศร้าๆ ทั้งนั้นเลย Wink
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/12/2008 10:33 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

Click on the image for full size

เจอทรากหลังคาโบกี้โดยสารวางกองอยู่ เจ้าของหลังคาตอนนี้ ขอยืมภาพจากคุณ Donatt76 มาแปะให้ชมครับ

Click on the image for full size

กับโบกี้รถช่วยอันตรายรุ่นตัวถังไม้ ใช้ขอพ่วง เอบีซี.ครับ

Click on the image for full size

คันนี้ใหม่นิดหน่อย ปลดวาระใช้งานจากแขวงสารวัตรรถพ่วงปากน้ำโพ

Click on the image for full size

สภาพภายในก็ดังที่เห็น สังเกตจากช่องหน้าต่างแล้ว สมัยก่อนน่าจะเป็นรถสำหรับนอนชั้นหนึ่งในสมัยโน้นนะครับ

Click on the image for full size

โบกี้รถช่วยอันตรายที่ใช้งานในปัจจุบัน สีแสดที่พ่นเอาไว้ เจอกับแดด ซีดเร็วจริงๆ ครับ

Click on the image for full size

หวีดโรงงานดังหมดยกพอดี ต้องรีบตามไปดูการสาธิตใช้วงเวียนกลับรถจักรตามคำเรียกร้องของคณะดูงานก่อนครับ
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 07/12/2008 10:53 pm    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

งานนี้ ท่าทางจะเดินตามไม่ทันชาวคณะครับ เลยใช้วิธีมองจากมุมสูง สมทบกับหลายคนที่เลือกวิธีนี้

Click on the image for full size

ปีนขึ้น-ลงบนบันไดแคบๆ ที่เปื้อนน้ำมัน ไม่ใช่ของง่ายๆ เหมือนกันครับ กลัวไถลลงมาอายชาวบ้านเขาหนะ Cool

Click on the image for full size

ตอนนี้ขอตามไปดูในระยะใกล้ เห็นสมาชิกบนรถจักร อุ่นหนาฝาคั่งจริงๆ เลย Laughing

Click on the image for full size

อีกสักนิด กับภาพคุณหมอครับ...

Click on the image for full size

ยิงเก็บภาพ กลไกการล็อกวงเวียนให้อยู่ตรงกับราง พร้อมแท่งไม้จีมล้อรถจักรไม่ให้เคลื่อนตกจากวงเวียนขณะหมุนกลับรถครับ

Click on the image for full size

เสร็จการสาธิต พนักงานก็นำรถจักรออกจากวงเวียน กลับเข้าโรงรถจักรล่ะครับ พอดีเวลามื้อเที่ยงร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ก่อนแยกย้ายกันไปชมเมืองตามนัดหมายกันไว้ในช่วงบ่ายต่อไปครับ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 11/12/2008 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

หลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาดูงานและตัวแทนเวปไซต์ร่วมมอบของที่ระลึกแก่ตัวแทนวิศวกรกำกับกองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ สารวัตรแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ และสารวัตรแขวงรถจักรอุตรดิตถ์แล้ว ชาวคณะต่างแยกย้ายกันไปชมเมือง หรือสำรวจเส้นทางสายสวรรคโลกกันตามที่นัดหมายล่วงหน้ากันล่ะครับ

Click on the image for full size

จุดหมายแรกที่ชุดชมเมืองอุตรดิตถ์แวะ อยู่ตรงหน้าศาลากลางจังหวัดนั่นเองครับ เรียกว่าไม่แวะ ก็เหมือนมาไม่ถึงอุตรดิตถ์ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก และพิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันครับ

คงไม่กล่าวถึงประวัติของท่านอีกแล้วนะครับ เพียงบอกว่าช่วงเช้าบางวัน โดยเฉพาะวันหยุด ผู้ที่มาแวะสักการะ อาจโชคดีได้ชมมวยรุ่นเล็กชกแก้บนกันหลายคู่เป็นของแถม แสดงว่ามีผู้สมปรารถนากันหลายราย ยกเว้นขอบนบานท่านไม่ให้ถูกจับใบแดง เพราะท่านเป็นทหารเสือคู่ใจพระเจ้าตาก

อย่าได้เผลอเชียว Laughing

Click on the image for full size

อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมไปเยี่ยมชมครับ เพราะอยู่ในบริเวณเดียวกัน คือ พิพิธภัณฑ์ดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งชื่อเสียงของเหล็กน้ำพี้นั้น เป็นที่รู้จักกันดีจนปรากฎในคำขวัญของจังหวัดอุตรดิตถ์เลยทีเดียว

" เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน บ้านพระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก "

Click on the image for full size

สำหรับเรื่องราวความเป็นมาของการสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ขอคัดจากข้อความที่ติดแสดงไว้ภายในพิพิธภัณฑ์มาให้ดูกันอีกหนหนึ่งนะครับ เผื่อใครไม่ทันอ่านตอนเข้าไปเข้าชมดาบฯ

...............

Click on the image for full size

ประวัติดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก

เหล็กน้ำพี้เป็นเหล็กกล้าโบราณของไทย ที่มีความแข็งแรงและเหนียวรวมอยู่ด้วยกัน และมีอยู่เพียงแห่งเดียวในโลก ที่บ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์

เหล็กน้ำพี้มีลักษณะพิเศษที่โดดเด่นมาด้วยระยะเวลายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจวบจนปัจจุบัน เช่น ใช้ทำพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงใช้กระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ทำดาบล้างอาถรรพ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทำดาบฟ้าฟื้นของขุนแผนขุนศึกของพระพันวษา และที่สำคัญที่สุดใช้สร้างดาบ " นันทกาวุธ " ซึ่งเป็นดาบที่ถืออยู่มือซ้ายเคียงคู่กับดาบเหล็กธรรมดาด้านขวามือของพระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกคู่พระทัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ใช้รบกับพม่าแบบตะลุมบอน ณ กลางทุ่งเมืองพิชัย จนดาบข้างขวาหัก จนได้รับสมญาว่า " พระยาพิชัยดาบหัก " ตั้งแต่บัดนั้น

ในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2535 จังหวัดอุตรดิตถ์ นายชัยวัฒน์ อรุโณทัยวิวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ร่วมกับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จัดสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ

1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ
2. เพื่ออนุรักษ์เหล็กน้ำพี้ ที่มีอยู่แห่งเดียวในโลกที่บ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน
3. เพื่อเชิดชูดาบไทยที่บรรพบุรุษไทยได้ใช้เป็นอาวุธต่อสู้กับข้าศึกศัตรูจนได้รับเอกราชตราบทุกวันนี้
4. เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดอุตรดิตถ์


ขั้นตอนการสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก

วันที่ 5 ธันวาคม 2534 นายชัยวัฒน์ อรุโณทัยวิวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในสมัยนั้น ได้ร่วมกับนายสุขสันต์ วนะภูติ นายอำเภอทองแสนขัน ได้ไปเก็บรวบรวมเหล็กน้ำพี้โดยซื้อจากราษฎรบ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ ได้เหล็กทั้งหมด 557.8 กิโลกรัม รวมเป็นเงิน 278,000 บาท ใช้เวลาในการเก็บรวบรวมนานถึง 6 เดือน

วันที่ 7 พฤษภาคม 2535 ได้นำเหล็กน้ำพี้ไปทำการหลอมและหล่อ ที่โรงหล่อเหล็กห้างหุ้นส่วนจำกัด สุเทพการธรณีลำปาง อำเภอเมืองลำปาง แล้วนำดาบฯ ไปให้ศูนย์ปฏฺบัติการ รพช.ลำปาง ทำการตกแต่งให้เรียบร้อย แล้วได้ให้บริษัทเชียงใหม่สุดารักษ์ จำกัด จ.เชียงใหม่ เป็นผู้สร้างฝักดาบพร้อมด้ามไม้ประดู่ฝังลวดลายมุก รวมทั้งให้ร้านวัวลายศิลป์ จ.เชียงใหม่ ทำการหุ้มปลอกเงินสลักลาย โดยมีนางวันเพ็ญ ปานขาว ผู้อำนวยการกองสถาปัตยกรรม กรมโยธาธิการ เป็นผู้ตกแต่งและออกแบบลายฝักดาบและควบคุมอย่างใกล้ชิด

Click on the image for full size

เมื่อการสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลกเสร็จเรียบร้อย จึงได้จัดพิธีและขบวนแห่อัญเชิญมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านจังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ มาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 และจัดพิธีบวงสรวงพร้อมเฉลิมฉลองดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 ณ สนามกีฬาพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งในการสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้ ใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 3 เดือนจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์

.............

Click on the image for full size

นอกจากจะสร้างดาบน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ยังได้สร้าง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ่อเหล็กน้ำพี้ เมื่อปี 2541 อีกด้วย เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์สำหรับผู้สนใจ ต่อไป หากผู้ใดสนใจและพอมีเวลาเที่ยวอุตรดิตถ์แล้ว น่าเดินทางเป็นวงรอบจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปเที่ยวชมเขื่อนสิริกิติ์ วนอุทยานสักใหญ่ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ่อเหล็กน้ำพี้ ได้ครับ ใช้เวลาเดินทางและพักชิมปลาที่เขื่อนสิริกิติ์ช่วงมื้อเที่ยงรวม 1 วัน และเป็นเส้นทางลาดยางตลอดสาย

สำหรับท่านใดที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมของ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก และ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ่อเหล็กน้ำพี้ สามารถคลิ๊กเข้าไปดูในวิกิพีเดีย ตรงชื่อตัวหนาข้างต้นได้เลยครับ

Click on the image for full size

ชวนชาวบ้านชาวเมืองเขามาเที่ยวเมืองอุตรดิตถ์เสร็จสรรพแล้ว ชาวคณะก็ออกเดินทางไปเที่ยว อ.ลับแล กันต่อไป Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Adithepc20
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/07/2006
Posts: 3403
Location: ลาดพร้าว 71 หรือ ชานเมือง 9

PostPosted: 11/12/2008 2:46 pm    Post subject: Reply with quote

หายไปหลายวันเลยนะครับพี่ตึ๋ง กว่าจะกลับมาลงภาพ สงสัยงานเข้าเยอะช่วงนี้ Embarassed
_________________
ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
This topic is locked: you cannot edit posts or make replies.    Rotfaithai.Com Forum Index -> ประชาสัมพันธ์กิจกรรม All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 29, 30, 31, 32  Next
Page 30 of 32

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©