Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318563
ทั่วไป:28576442
ทั้งหมด:28895005
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 8, 9, 10 ... 298, 299, 300  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 14/12/2008 3:00 pm    Post subject: Reply with quote

"แก้วสรร"หาเสียงเชื่อมขนส่งฝั่งธน-"ปลื้ม"ขายตลาดน่าเดิน
คมชัดลึก 14 ธันวาคม 2551

"สุขุมพันธุ์"หาเสียงตลาดเมืองทอง "แก้วสรร"เผยนโยบายชุมชน ตั้งมูลนิธิบริหาร ลดขั้นตอนยุ่งยาก เร่งสร้างกิจกรรมวัยโจ๋ สร้างมูลนิธิชุมชน เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินงาน กทม. เน้นให้ชุมชนบริหารงานเองโดยสร้างการมีส่วนร่วมคนในชุมชน นำไปสู่การพัฒนาชุมชน เยาวชนมีกิจกรรมสร้างสรรค์ ไม่มั่วสุม


นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายขวัญสรวง อติโพธิ น้องชาย และบุตรชายบุตรสาว เดินหาเสียงย่านฝั่งธนบุรี ประกาศขออาสาดูแลพัฒนาเมืองธนบุรี เน้นนโยบายเชื่อมโยงระบบขนส่ง เพื่อเปิดทางให้คนฝั่งธนฯ สามารถเข้าเมืองสะดวกขึ้น พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการของผู้ประกอบการค้าขาย ในตลาดสดวงเวียนใหญ่

"แก้วสรร"เผยตั้งมูลนิธิบริหาร ลดขั้นตอนยุ่งยาก


เมื่อเวลา 12.00น. วันที่ 13 ธันวาคม หลังจากที่ลงพื้นทีพบปะประชาชนในเขตต่างๆ นายแก้วสรร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายด้านชุมชนว่า สิ่งที่คิดว่าคนในชุมชนจะต้องได้คือการประเมินชุมชนทั้งหมดเพื่อความสุขในชุมชน เรื่องไฟไม่สว่างหรือ เรื่องการระบายน้ำนั้นเป็นแค่เรื่องน่ารำคาญแต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องกิจกรรมที่คน กทม.ทุกคน จะต้องได้ แต่กทม.ไม่เคยดูแล แต่ตนกำลังจะคิดว่าทำอย่างไรให้กรรมการชุมชนมีส่วนร่วม เช่นถ้าต้องการสวนสาธารณะก็ต้องมองว่าตรงไหนที่ชุมชนต้องการจะสร้าง เช่นใต้ทางด่วน ใต้ทางรถไฟ กทม.ก็ไปสร้าง อาจจะมีศูนย์สุขภาพ ศูนย์กีฬา และจ้าคนมาดูแล อาจจะสร้างศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพ เก็บเงินก็แล้วนำเงินมาดูแลเรื่องความสะอาดตรงนี้

ฉะนั้นต้องสร้างมูลนิธิชุมชนโดยให้ ผู้อำนวยการเขตหรือตัวแทนโดยตำแหน่ง เป็นกรรมการด้วยเพราะฉะนั้นชุมชนจะสามารถทำนิติกรรมสัญญาจ้างคนหรืออะไรต่างๆ เมื่อมีมูลนิธิในทางกฎหมาย ทางสังคมแล้ว กระบวนการที่จะค้นหาความต้องการแล้วเกิดมาเป็นรูปธรรมและส่งมายังเขตก็จะเกิดขึ้นทำให้งบจ่ายตรงตามความต้องการ และสก. สข.ก็เป็นเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือในกระบวนการ ก็จะเกิดสวนสาธารณะใกล้ตัว และก่อให้เกิดการเล่นกีฬาตรงนี้มีความสำคัญมาก พอตกวันเสาร์ทำให้เด็กมาตั้งทีมเล่นฟุตซอในสนามนี้ชิงรางวัลผู้ว่า แก้วสรร กลุ่มชุมชนนี้ชนะมาแข่งกับกลุ่มชุมชนนี้ จนกระทั่งเกิดแชมป์ฟุตซอของเขตและไปชิงกับอีกเขตจนได้แชมป์ กทม. เพราะฉะนั้นเด็กเล็กๆไม่ต้องห่วงวินัยจะกลับมา สุขภาพจะกลับมา เกมส์จะถูกลืมมอเตอร์ไซด์ที่วิ่งกันเป็นกลุ่มก็จะหายไป พวกเราอย่าไปมองเด็กอย่างรังเกียจ เพราะยังไม่ให้โอกาสขาเลยแม้กระทั่ง เวลาและเงินทุน

ที่ผ่านมา กทม.ใช้เงินเป็นค่าโฆษณาผลงานของผู้ว่าปีที่ผ่านมา 1 พันล้านบาทแต่ชุมชนมีความเละเทะถ้าไม่ทำให้เด็กของเราแข็งแรง เพราะฉะนั้นต้องทุ่มทั้งความฉลาดความเอื้อเฝื้อลงไปให้เด็กได้รับ แล้วผู้ปกครองก็มีความสุข จะพากันออกจากบ้านไปเชียร์ลูกตัวเอง หิ้วข้าวหม้อแกงหม้อไปเจอพ่อแม่คนอื่น ที่พูดไม่ได้ฝอยแต่ที่อื่นเค้าทำกันแล้วเพียงแต่ กทม.ไม่เริ่มเสียที

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา กทม.มีการทำโครงการเหล่านี้บ้างแล้วแต่ก็ปล่อยให้เป็นสถานที่รกร้างนายแก้วสรรเห็นว่าควรทำอย่างไร นายแก้วสรร ระบุว่า เนื่องจากโครงการเหล่านี้ไม่มีตัวตนของคนดูแล และไม่มีคนสร้างกิจกรรม หลังจากที่มีมูลนิธิชุมชนต่างๆเกิดขึ้นเพื่อดูแลโครงสร้างต่างๆเกิดขึ้นแล้ว อีก 2 มูลนิธิที่จะต้องเกิดขึ้นมูลนิธิแรกคือมูลนิธิกีฬาเพื่อชุมชนและเยาวชนมูลนิธินี้จะมีหน้าที่โปรโมทการแข่งขัน จัดหาผู้ฝึกซ้อม หารางวัลหาผู้สนับสนุน ส่งไปยังมูลนิธิชุมชนเพื่อและมูลนิธิดนตรีเพื่อเยาวชนของกรุงเทพ

การสร้างการทำงานที่ไม่ต้องผ่านช้างผ่านครุฑให้พลเมืองทำมันขึ้นมาเรียกว่าความสุขใกล้ตัวและจะทำให้การมั่วสุมในทางที่ไม่ดีหายไป การเล่นกีฬาจะทำให้ทุกคนเป็นเพื่อนกันได้ เด็กที่อยู่แต่หน้าเกมส์ก็จะมีชีวิตเปลี่ยน และจะเกิดชุมชนใหม่จะนำไปสู่กรุงเทพฯใหม่ ถ้าเกิดความสามัคคีของคนในชุมชนขึ้นมาแล้วระหว่างคนในชุมชนก็สามารถนำกำลังเหล่านี้ไปสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ได้อีกมากมาย นายแก้วสรร ถ่ายทอดนโยบายด้วยความมุ่งมั่น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 17/12/2008 10:06 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส-บีเอ็มซีแอลจูงมือตั้งบริษัทลูก ลุยระบบตั๋วโดยสารร่วมเต็มสูบ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2384 18 ธ.ค. - 20 ธ.ค. 2551


บอร์ดบีทีเอสไฟเขียวแผนตั้งบริษัทลูกร่วมกับบีเอ็มซีแอล หวังเร่งผุดตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมควักเงินก้อนแรก 100 ล้าน ประเดิมเป็นทุนจดทะเบียน ส่วนที่เหลือรอหุ้นส่วนมาเติม ขณะที่บีเอ็มซีแอลเห็นชอบในหลักการ แต่ขอออกทุนตามสัดส่วนผู้โดยสาร คาดเปิดใช้เต็มระบบได้ต้นปี 53

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้บีทีเอสร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ กับ บริษัท รถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล


โดยเบื้องต้นคาดว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุนเพื่อเป็นทุนจดทะเบียนในการจัดตั้งบริษัท ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะต้องเจรจากับบีเอ็มซีแอลว่าจะลงทุนสัดส่วนเท่าใด ส่วนมูลค่าการลงทุนสำหรับเปลี่ยนระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงผลิตบัตรโดยสารแบบใหม่นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งระหว่างนี้กำลังตกลงรายละเอียดด้านเทคนิคของผู้จัดหา (Supplier) ซึ่งเป็นผู้ติดตั้งระบบตั๋วโดยสารของทั้งบีทีเอสและบีเอ็มซีแอล คาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาว่าจ้างได้ในเร็วๆ นี้ จากนั้นก็จะดำเนินการเปลี่ยนระบบ และจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อทำหน้าที่ในการจัดเก็บและแบ่งสัดส่วนรายได้


ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มใช้บริการระบบตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ประมาณต้นปี 2553 โดยจะใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนระบบ และเตรียมการด้านต่างๆ ประมาณ 1 ปี ซึ่งบัตรโดยสารดังกล่าวนี้จะเป็นบัตรโดยสารที่สามารถใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้า MRT พร้อมหักค่าโดยสารได้ภายในบัตรใบเดียว และในอนาคตจะพัฒนาให้เป็นบัตรที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ อาทิ ใช้จ่ายในร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ ได้อีกด้วย


ด้านแหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่ง จาก บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้า MRT กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในเรื่องของหลักการดำเนินงานนั้น ได้ข้อตกลงที่ชัดเจนร่วมกันแล้ว แต่ยังต้องสรุปรายละเอียดของเทคนิคซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ได้ก่อน ซึ่งคาดว่าต้นปี 2552 จะเห็นภาพที่ชัดเจนอย่างแน่นอน จากนั้นแล้วจึงจะเริ่มดำเนินการได้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ทันต้นปี 2553


อย่างไรก็ดี หลังจากที่เจรจาข้อตกลงทางด้านเทคนิคได้แล้ว บีทีเอส และบีเอ็มซีแอล ยังต้องหารือกันต่อถึงประเด็นการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ และเรื่องการจัดเก็บค่าแรกเข้าระบบเพื่อใช้บริการด้วยว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงต้องคุยรายละเอียดของโครงสร้างบริษัทลูกให้ชัดเจนด้วย ส่วนเรื่องเงินทุนในการจดทะเบียนนั้น คงจะต้องลงทุนตามสัดส่วนของผู้โดยสารว่าของแต่ละบริษัทมีจำนวนเท่าใด


ทั้งนี้บีเอ็มซีแอลสามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานและเป็นผู้ถือหุ้น เพียงแค่แจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าเท่านั้น เนื่องจาก รฟม. ได้รับทราบ และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อการศึกษา และทดลองใช้ระบบบัตรโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้าบีทีเอส ตั้งแต่สมัยที่นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว อีกทั้งเชื่อว่าแม้จะมีรัฐบาลใหม่ ก็จะไม่กระทบต่อแผนงาน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลใหม่ก็จะให้ความสำคัญและเดินหน้าต่อ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 18/12/2008 2:25 am    Post subject: Reply with quote

มั่นใจวงเงินกู้เมกะโปรเจ็กต์มาแน่ ประเดิม"เวิรลด์แบงก์"3.5หมื่นล้าน

ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4063


สบน.การันตีการเมืองวุ่นไม่กระทบเงินกู้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แดง และเขียว คาดไตรมาสแรกปีหน้าเซ็นเงินกู้กับเวิรลด์แบงก์ 3.5 หมื่นล้านบาท ตอกหมุดสายสีเขียว


นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการกู้เงินเพื่อมาลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 36 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ก็ไม่มี ผลกระทบเช่นกัน เพราะเปิดประมูลและ ได้มีการเซ็นสัญญาเงินกู้ลอตแรกไปแล้ว

สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาก่อสร้างรถ ไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กำลังเจรจากับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) หรือไจก้า เป็นรูปแบบ step lone หรือกู้แบบมีเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยจะต่ำเป็นพิเศษ เช่น ใช้วัสดุจากประเทศญี่ปุ่น 30%

ส่วนสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต จะกู้แบบปกติเหมือนกับสายสีม่วง อัตราดอกเบี้ย 1.4% ระยะเวลากู้ 25 ปี โดยการรื้อย้ายชุมชนริมทางรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อาจจะต้องรับผิดชอบดำเนินการเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้รับเหมา

ขณะนี้กำลังรอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ อนุมัติระบบการเดิน รถไฟฟ้า ซึ่งทางเจบิกให้การรถไฟฯ กู้เงินซื้อรถไฟฟ้าวงเงินกว่า 7,000 ล้านบาทด้วย ด้านการเดินรถไฟฟ้าจะต่างจากสายสีม่วง คือ รูปแบบการลงทุนจะไม่ใช้แบบ PPP เพราะการรถไฟฯจะตั้งบริษัทลูกมาเดินรถไฟฟ้าเอง ส่วนสายสีม่วงจะให้เอกชนมา บริหารจัดการ

"สายสีเขียว 2 ช่วง จากหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะนี้ได้เงินกู้แล้ววงเงิน 35,000 ล้านบาทจากเวิรลด์แบงก์ เป็นแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2552" นายพงษ์ภาณุกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 05/01/2009 3:56 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.ปรับแผนแม่บทรถไฟฟ้า รอนโยบายรัฐดันครบโครงข่าย

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 5 มกราคม 2552 03:19 น.
ประชาชาติธุรกิจ 5 มกราคม 2552


Click on the image for full size
ASTVผู้จัดการรายวัน-สนข.ปรับแผนแม่บทรถไฟฟ้า จัดลำดับความสำคัญการลงทุนก่อนหลังพร้อมวางระบบ ฟีดเดอร์ระบบขนส่งอื่นๆ เชื่อมโยงการเดินทาง รอนโยบายรัฐบาลใหม่เชื่อใส่เกียร์เดินหน้า ตามแผนเร่งด่วน 5 เส้นทาง หลังรัฐบาลสมัคร-สมชาย ใช้เวลา 11 เดือนคลอดำด้เพียงสายเดียว เตรียมหอบข้อมูลขอนโยบาย"โสภณ"หลังรัฐบาลแถลงนโยบาย ชี้ลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในยามวิกฤติ

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สนข.อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค. 2552 ทั้งนี้บริษัทที่ปรึกษาจะต้องศึกษาเพื่อจัดลำความสำคัญของรถไฟฟ้าแต่ละโครงการในแผนแม่บทโดยพิจารณาจากจำนวนผู้โดยสาร และสภาพพื้นที่ตลอดแนวเส้นทาง พร้อมกันนี้จะต้องศึกษาภาพรวมของระบบฟีดเดอร์ หรือระบบขนส่งอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ซึ่งทำให้การเดินทางมีความสะดวกและโครงการเกิดประโยชน์สมบูรณ์ โดยการปรับแผนแม่บทระบบขนส่งทวลชนนั้นเพื่อให้การดำเนินงานรถไฟฟ้าและการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันมากที่สุด โดยจะมีการเปิดรับฟังความเห็นหลังจากสรุปแผนแม่บทแล้วด้วย

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว จะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อรับนโยบายในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนที่ชัดเจน โดยเฉพาะโครงการที่เริ่มดำเนินการด้านงานโยธาแล้ว จะต้องเริ่มกระบวนการด้านการเดินรถ ซึ่งจะต้องมีความชัดเจน ทั้งนี้ในส่วนของการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย นั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเพดานเงินกู้ต่างประเทศเพราะขณะนี้การกู้เงินภายในประเทศก็น่าสนใจและเชื่อว่ารัฐบาลน่าจะเร่งการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์เพราะจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้

สำหรับแผนแม่บทกำหนดโครงข่ายระบบขนส่งทางรางไว้ 9 สายแต่กำหนดเป็นแผนเร่งด่วน 5 สายซึ่งเป็นโครงข่ายหลักเชื่อมการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดำเนินการใน 5 ปี ประกอบด้วย

1.รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะทาง 23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 3.6 หมื่นล้านบาทขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่วมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างการประกวดราคา คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาก่อสร้างกับผู้รับเหมาได้ในเดือนม.ค. 2552

2.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างกับกลุ่มกิจการร่วมค้า ยูนิค-ซุนวู จอยท์เวนเจอร์ (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ และ บริษัท CHUNWO CONSTRUCTION & ENGINEERING CO.,LTD) วงเงิน 8,748.4 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจาเงินกู้กับจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า)

3.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาท

4. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ระยะทางรวม 27 กิโลเมตร กรอบวงเงินทั้งสิ้น 56,895 ล้านบาท โดย ช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กิโลเมตร และ ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กิโลเมตร

5. สายสีเขียวอ่อน เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการ ค่าก่อสร้างงานโยธา 15,134 ล้านบาท สายสีเขียวเข้ม เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่ ค่าก่อสร้างงานโยธา 16,443 ล้านบาท ซึ่งมติครม.เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2551

ให้รฟม.เป็นเจ้าของโครงการในส่วนของการก่อสร้างงานโยธาโดยมีเงื่อนไขให้กทม.มีส่วนร่วมในการพิจารณาการเชื่อมโยงเส้นทางดังกล่าวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกทม.ที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว โดยคณะกรรมการเห็นชอบให้ดำเนินการลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถในลักษณะ PPP-Gross Cost จ้างเอกชน ลงทุน จัดหาและบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้าและจ้างเอกชนเดินรถ

นอกจากนี้ สนข.ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงสะพานใหม่-ลำลูกกา(คลองสี่) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วงการเคหะบางปิ้ง-นิคมอุตสาหกรรมบางปู

นอกจากนี้ สนข.ยังมีการศึกษา แผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ในอนาคตซึ่งให้นำระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (Monorail) มาพิจารณาเพื่อปรับใช้กับโครงการและเหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ เช่น ในพื้นที่มีถนนแคบ สามารถลดการเวนคืนเขตทาง ลดผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง และ สามารถลดวงเงินก่อสร้างลงประมาณ 50% ซึ่งเบื้องต้น 2 โครงการที่สามารถปรับแบบมาเป็น รถไฟฟ้าขนาดเบาได้ คือ

1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) ซึ่งจะแบ่งการก่อสร้างเป็นช่วง โดยช่วงที่เหมาะสมที่จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา คือ ช่วง 4 แยกรัชดาลาดพร้าว-หัวหมาก โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งไปบนถนนลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรสามารถไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้ง ที่สถานีหัวหมาก

2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ) ซึ่งจะตัดช่วงมาก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา จากถนนติวานนท์ – ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ - และบางซื่อ ซึ่งจะมาบรรจบกับโครงการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีเขียวได้ด้วย ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ข้อดีของรถไฟฟ้าโมโนเรลจะมีต้นทุนการก่อสร้างถูกกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินที่วิ่งอยู่ในปัจจุบันถึง 30% โดยข้อมูลปัจจุบันรถไฟฟ้าใต้ดินมีต้นทุน ค่าก่อสร้าง 3,000 ล้านบาทต่อกิโลเมตร รถไฟฟ้ายกระดับมีค่าก่อสร้าง 1,100-1,200 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ส่วนรถไฟฟ้าโมโนเรลจะมีก่อสร้างเพียง 600-800 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ที่สำคัญจะใช้เวลาก่อสร้างรวดเร็วเพียง 2 ปี ก็จะแล้วเสร็จ ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีต้นทุนในการก่อสร้างระบบเป็นโมโนเรล เพียง 20,000 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ก็จะสามารถลดต้นทุนก่อสร้างได้จากประมาณ 70,000 ล้านบาท ลงเหลือเพียง 48,000 ล้านบาทเท่านั้นโดย

อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกกะโปรเจกต์) นั้นยืนยันว่า หากโครงการไหนดี ทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ จะต้องเดินหน้าโครงการต่อ แต่การดำเนินโครงการต่อไปอย่างไร จะมีการทบทวนหรือรื้อโครงการหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาอีกครั้งก่อน

ทั้งนี้ รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ต่อเนื่องกับรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้เวลาถึง 11 เดือนกว่าจะประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ได้เพียงโครงการเดิยวเท่านั้น จากทั้งหมด 5 โครงการ ที่รัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้เตรียมความพร้อมและอนุมัติกรอบการดำเนินโครงการไว้ ซึ่งทุกโครงการมีรายละเอียดและกรอบการดำเนินโครงการที่เหลือได้รับความเห็นชอบจากครม.พร้อมนำไปดำเนินโครงการได้ทันทีแล้ว เหลือเพียงการเร่งรัดขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อนำไปสู่การก่อสร้างให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น ซึ่งนโยบายของทุกรัฐบาลยอมรับถึงความจำเป็นในการลงทุนโครงการระบบขนส่งมวลชน ดังนั้นรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงไม่น่าจะมีเหตุผลในการชะลอหรือทบทวนโครงการเพราะประเทศไทยไม่มีเวลาให้กับการคิดใหม่กับเรื่องเดิมๆ มากนักในภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2009 3:16 pm    Post subject: Reply with quote

การเงิน - การลงทุน
รมต.คลังพร้อมร่วมกทม.ลุยรถไฟฟ้าทั่วกรุง
กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 11 มกราคม 2552 13:38รม

"กรณ์"ระบุเดินหน้ารถไฟฟ้าในกรุงหลายเส้นทาง หลังได้ผู้ว่าฯกทม.ใหม่ รัฐบาลพร้อมร่วมกับกทม. แต่ไม่เห็นด้วยค่าโดยสารราคาเดียวเพราะต้นทุนต่างกัน

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากได้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนใหม่แล้ว กระทรวงการคลังพร้อมร่วมมือกับ กทม.เดินหน้าพัฒนาก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง

เขากล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมจัดหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่กทม.มีส่วนร่วมในการบริหารและก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้า เส้นทางสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่ และเส้นทางด้านตะวันออกด้านแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมถึงเส้นทางบางหว้า-เพชรเกษม ที่ฝั่งธนบุรี โดยรัฐบาลจะพยายามทำให้เกิดการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าให้ครบวงจร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบรถไฟฟ้า มีรูปแบบเดียวกันด้วยระบบตั๋วโดยสารร่วม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า รัฐบาลพร้อมร่วมกับ กทม.พัฒนาโครงการดังกล่าว เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่ง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสายสีแดงเข้มในเส้นทางบางซื่อ-รังสิต ซึ่งมีความชัดเจนมากแล้ว คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อนำเงินทุนมาก่อสร้างกับภาคเอกชนในเร็ว ๆ นี้

“อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้าจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์และให้ความสะดวกแก่ประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ค่าโดยสารราคาเดียว เพราะแต่ละเส้นทางมีต้นทุนต่างกัน จึงต้องกำหนดให้เกิดความเหมาะสม” นายกรณ์ กล่าว

//-------------------------------------------------------------------------------

รมว.คลัง พร้อมร่วมมือผู้ว่าฯ คนใหม่ เดินหน้ารถไฟฟ้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2552 13:14 น.


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากได้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนใหม่แล้ว กระทรวงการคลังพร้อมร่วมมือกับ กทม.เดินหน้าพัฒนาก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง
นายกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมจัดหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่ กทม.มีส่วนร่วมในการบริหาร และก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้า เส้นทางสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่ และเส้นทางด้านตะวันออกด้านแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมถึงเส้นทางบางหว้า-เพชรเกษม ที่ฝั่งธนบุรี โดยรัฐบาลจะพยายามทำให้เกิดการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าให้ครบวงจร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบรถไฟฟ้า มีรูปแบบเดียวกันด้วยระบบตั๋วโดยสารร่วม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า รัฐบาลพร้อมร่วมกับ กทม.พัฒนาโครงการดังกล่าว เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่ง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสายสีแดงเข้มในเส้นทางบางซื่อ-รังสิต ซึ่งมีความชัดเจนมากแล้ว คาดว่า จะสามารถลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อนำเงินทุนมาก่อสร้างกับภาคเอกชนในเร็วๆ นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 11/01/2009 8:10 pm    Post subject: Reply with quote

ลงทุนรถไฟฟ้า 319,344 ล้านบาท
มติชนออนไลน์ วันที่ 11 มกราคม 2552 - เวลา 10:23:20 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบฯก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าระยะแรก 7 สาย วงเงิน 319,344 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งเปิดประมูลเพียงสายเดียว คือ สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร วงเงิน 36,000 ล้านบาท
จากนี้ไปจะมีการเปิดประมูลก่อสร้างอีกหลายเส้นทาง ได้แก่
สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ วงเงิน 31,009 ล้านบาท และ
ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงิน 24,512 สายสีแดง
ช่วงบางซื่อ-รังสิต วงเงิน 77,053 ล้านบาท
สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ วงเงิน 80,410 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 16/01/2009 9:57 am    Post subject: Reply with quote

เร่งเดินหน้ารถไฟฟ้าอีก 3 เส้นทาง เตรียมตั้งหน่วยงานใหม่ดูแลใกล้ชิด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มกราคม 2552 18:08 น.


รมว.คลัง ย้ำเดินหน้าสานต่อรถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งเขียว-น้ำเงิน-แดง หลังเปิดประมูลสายสีม่วงไปแล้ว พร้อมระบุ กระทรวงการคลังจะมีการตั้งหน่วยงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม เพื่อมาดูแลในเรื่องโครงการรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังมีแผนที่จะเดินหน้าสานต่อโครงการรถไฟฟ้าอีก 3 สาย 5 เส้นทาง คือ

1. สายสีเขียวทั้ง 3 เส้นทางที่เป็นการสร้างต่อขยายจากสายเดิมที่มีอยู่ไปยังสมุทรปราการ เพชรเกษม และสะพานใหม่ เนื่องจากมีความคุ้มค่าในการลงทุน

2. นอกจากนี้ ในส่วนของสายสีน้ำเงิน และ
3. สายสีแดง ก็มีความพร้อมที่จะลงทุนต่อ

โดยสายสีแดงมีความพร้อมในแหล่งเงินกู้แล้ว เหลือแค่ข้อสรุปจากกระทรวงคมนาคม ซึ่งสายสีแดงจะดำเนินการต่อจากสายสีม่วงที่มีการเปิดประมูลไปแล้ว

โดยล่าสุด ในเรื่องของการเวนคืนที่ดินในเส้นทางสายสีแดง รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ อีกทั้งกระทรวงการคลังจะมีการตั้งหน่วยงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อมาดูแลในเรื่องโครงการรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ

//---------------------------------------------------------------------
รมว.คลังเล็งหั่นเงินลงทุนรถไฟฟ้าใหม่โดยให้สอดคล้องต้นทุนจริง

Bangkokbiznews 15/01/2009


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า เพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วน แก้ปัญหาจราจรและต้นทุนเดินทางของประชาชน โดยจะเร่งเดินหน้าให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

โดยวันนี้ (16 ม.ค.) จะหารือกับสถาบันการเงินที่ปล่อยเงินกู้เพื่อสรุปรายละเอียด เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีในการตั้งคณะกรรมการติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการก่อสร้างระบบโยธาส่วนใหญ่รัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบลงทุนก่อสร้าง

ส่วนการบริหารและการให้บริการผู้โดยสาร ไม่ว่าหน่วยงานรัฐหรือเอกชนจะเป็นผู้บริหารจัดการ แต่รัฐบาลต้องการกำหนดค่าโดยสารให้เป็นธรรมต่อประชาชน แม้รัฐจะขาดทุนก็ตาม เพราะปัญหาสัญญาสัมปทานเดิม แม้รัฐจะลงทุนหรือถือหุ้น 90% ก็ไม่มีโอกาสกำหนดค่าโดยสารให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากสัญญาสัมปทานกำหนดให้ปรับค่าโดยสารตามสัญญากับผู้ให้บริการรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการเงินลดลงมาก จึงต้องปรับมูลค่าลงทุนโครงการให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อรักษาวินัยการคลัง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 20/01/2009 10:47 am    Post subject: Reply with quote

คิดสร้างรถไฟฟ้าวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์
หารือนายกฯคืนรถไฟฟ้าหมอชิต-สะพานใหม่ให้ กทม.ทำเอง พร้อมโอน ขสมก.มาอยู่ กทม.เพื่อสังคายนาระบบรถเมล์ในกรุง
เดลินิวส์ 20 มกราคม 2552

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์หลังเปิดทีมรองผู้ว่าฯและที่ปรึกษาว่า ตนมีนโยบายคืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ และให้กรุงเทพฯเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ โดยผู้คนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีพื้นที่สีเขียว เด็กเยาวชนมีการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ลดปัญหาการจราจร เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เหมือนผู้คนในมหานครทั่วโลก

ดังนั้นตนจะเร่งหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานการทำงานระหว่าง กทม.กับรัฐบาล โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเฉพาะการสร้างรถไฟฟ้านั้น ตนจะขอให้รัฐบาลคืนงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากหมอชิต-สะพานใหม่ ให้กทม. กลับมาก่อสร้างเอง จากเดิมที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้มีมติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม. เป็นผู้ก่อสร้าง เพื่อให้เป็นภาพรวมในการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบัน กทม. อยู่ระหว่างก่อสร้างส่วนต่อขยายจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. ไปฝั่งธนบุรี ซึ่งตนได้เร่งรัดเปิดให้บริการในวันที่ 15 พ.ค. นี้ รวมทั้งก่อสร้างจากตากสินไปบางหว้า และ จากอ่อนนุชไปแบริ่ง

ส่วนนอกเขตกรุงเทพฯก็ให้เป็นหน้าที่ของ รฟม. เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงานและบริหารระบบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จะได้เชื่อมต่อระบบกันโดยสะดวกเพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งแม้รฟม. เตรียมประกวดราคาแต่รัฐบาลก็สามารถสั่งเบรกได้ นอกจากนี้จะขอให้รัฐบาลโอนงานภารกิจให้กับท้องถิ่น ตามพ.ร.บ.กระจายอำนาจ ซึ่งล่าช้ามานาน ทั้งขสมก. ไฟฟ้า ประปา และตำรวจจราจร อย่างไรก็ตามบางส่วนต้องใช้เวลาแต่ในชั้นนี้อยากให้โอน ขสมก. มาก่อนเพื่อที่ กทม.จะได้เข้าดูแลเรื่องการบริการรถเมล์เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น โดย กทม.จะรับโอนเฉพาะภารกิจเท่านั้น หากเจรจากันได้พร้อมรับโอนทันที

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการขนาดใหญ่ในช่วงที่รับตำแหน่ง 4 ปี นอกจากสานต่อรถไฟฟ้า เร่งแก้ไขปัญหารถเมล์ด่วนพิเศษชิดเกาะกลางหรือบีอาร์ที แล้วตนมีแนวคิดจะฟื้นรถรางในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและลดจำนวนรถส่วนตัวในพื้นที่เกาะฯ โดยจะก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะหารือกับรองผู้ว่าฯสายโยธาเพื่อพิจารณารูปแบบดำเนินการ รวมทั้งหารือคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหาเพราะการเดินรถ ไฟฟ้าจะช่วยลดจำนวน รถยนต์และลดมลพิษ ตั้งเป้าภายใน 4 ปีโครงการจะเป็นรูปเป็นร่าง.


//----------------------------------------------------------


ชงผู้ว่าฯฟื้นโครงการขุดสนามหลวงทำที่จอดรถสอดรับไอเดียทำรถรางไฟฟ้ารอบเกาะ
เดลินิวส์ วันที่ 21 มกราคม 2552 เวลา 08:59 น.

นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณี ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มีแนวคิดจะก่อสร้างรถรางไฟฟ้ารอบเกาะรัตนโกสินทร์ว่า กทม.เคยศึกษาโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วยบริเวณสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง ซึ่งใช้แนวคลองหลอดเป็นตัวแบ่ง และเกาะรัตนโกสินทร์ที่ต่อยาวไปถึงปากคลองตลาดใช้แนวคลองบางลำพูเป็นตัวแบ่ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นพื้นที่อนุรักษ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมีกฎหมายกำหนดห้ามก่อสร้างอาคารสูงเพราะตัวโครงสร้างจะกระทบต่อโบราณสถาน แต่เนื่องจากปัจจุบันมีรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก การแก้ปัญหาจึงต้องดำเนินการในภาพรวมแก้ไขปัญหาเบ็ดเสร็จ โดยต้องมีที่จอดรถขนาดใหญ่บริเวณใต้สนามหลวง

จากนั้นทำระบบต่อเชื่อม โดย กทม. มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสนามกีฬา-สามแยกไฟฉายเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน มีสถานีบริเวณหน้ากองสลาก ซึ่งทำทางเดินลอดเชื่อมที่จอดรถบริเวณสนามหลวง รวมทั้งต่อเชื่อมรถไฟฟ้ากับรถรางไฟฟ้าวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ประชาชนที่จะเข้าพื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้รถไฟฟ้าเข้าพื้นที่และนั่งรถรางไฟฟ้าชมเมือง หรือหากใช้รถส่วนตัวก็มาจอดรถที่สนามหลวงและใช้รถรางไฟฟ้าต่อได้ จะช่วยลดการใช้รถส่วนบุคคลลง และลดปัญหามลพิษในบริเวณดังกล่าวได้ หรือหากให้ได้ผลก็สามารถประสานตำรวจในการออกกฎบังคับห้ามรถส่วนตัวเข้าในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์

นายจุมพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากผู้ว่าฯคนใหม่จะฟื้นโครงการดังกล่าว สจส. ก็สามารถนำการศึกษาที่ผ่านมานำเสนอได้ทันที หรืออาจจะมีการทบทวนผลการศึกษาเพิ่มเติมให้เข้ากับสภาพปัจจุบัน ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยอย่างยิ่งกับโครงการดังกล่าวเพราะคิดกันมานานแล้ว แต่ก็ชะลอไปเนื่องจากขณะนั้นถูกต่อต้านจากนักวิชาการ ที่หวั่นผลกระทบจากการขุดสนามหลวงก่อสร้าง ซึ่งที่จริงในทางปฏิบัติสามารถใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่กระทบ ต่อโบราณสถาน อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาในการดำเนินการซึ่งหากผู้ว่าฯคนใหม่ต้องการฟื้นโครงการก็สามารถผลักดันให้เป็นรูปเป็นร่างได้ภายใน 4 ปี.

//-----------------------------------------------------------------------


Last edited by Wisarut on 22/01/2009 4:50 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 22/01/2009 2:30 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟม.ล้มแผน"สมัคร"สร้างรถไฟวงแหวน โยกเงินจ้างบ.ที่ปรึกษาใช้โครงการรถไฟสีส้ม

มติชนรายวัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 11275 วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ รฟม.ได้อนุมัติให้ชะลอการว่าจ้างที่ปรึกษาในการศึกษารายละเอียดและความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษก ระยะทาง 29 กิโลเมตร วงเงิน 400 ล้านบาท เนื่องจากไม่ใช่โครงการจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้ รฟม.จะนำวงเงินดังกล่าวมาใช้ศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางกะปิ-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 12 กิโลเมตรแทน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าวงเงินค่าก่อสร้างจะอยู่ประมาณ 80,000 ล้นบาท

"ที่ผ่านมา รฟม.ได้เปิดประกวดราคาคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาในโครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในฯแล้ว และมีบริษัทยื่นข้อเสนอ 4 ราย แต่กระบวนการคัดเลือกยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ได้คัดเลือกบริษัทผู้ชนะ จึงสามารถยกเลิกการประกวดราคาได้ โดยไม่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเสียหาย"

แหล่งข่าวจาก รฟม. กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในเป็นแนวคิดที่นายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเพิ่มความสมบูรณ์ของโครงข่ายรถไฟฟ้า โดยโครงการจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือวงแหวนช่วงล่าง เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้าคลองเตยผ่านถนนเลียบแม่น้ำ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 3 เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบริเวณสี่แยกท่าพระ และวงแหวนช่วงบน เริ่มจากสถานีลาดพร้าว ตามแนวถนนรัชดาภิเษก ผ่านแยกรัชวิภา แยกวงศ์สว่าง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 7 เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บริเวณบางอ้อ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45535
Location: NECTEC

PostPosted: 30/01/2009 12:39 pm    Post subject: Reply with quote

ดึงทุนอิสลามทำรถไฟฟ้าKTBคลอดหุ้นกู้ช่วยคนออม
Thai post 30 มกราคม 2552 กองบรรณาธิการ

นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) กล่าวว่า ธอท.มีความพร้อมที่จะออกพันธบัตรอิสลาม หรือ อิสลามมิกซ์บอนด์ (SUKUK) เพื่อระดมทุนใช้สำหรับการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า หรือรถไฟรางคู่ ได้ภายในปี 2552 นี้

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่สภาพคล่องในตลาดการเงินของไทยด้วยว่าจะเหลือมากหรือน้อยเพียงใดในระยะต่อไป หากเห็นว่าสภาพคล่องเหลือน้อยก็สามารถออกระดมเงินทุนในตลาดตะวันออกกลาง เช่น มาเลเซีย, กาตาร์ และอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีสภาพคล่องสูง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้เรียกผู้บริหารธนาคารอิสลาม เพื่อหารือถึงเรื่องการออกอิสลามมิกซ์บอนด์ เบื้องต้นคาดว่าจะออกพันธบัตรล็อตแรกประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.75 หมื่นบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยประมาณ 1.5-2% และบวกอีกเล็กน้อย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 8, 9, 10 ... 298, 299, 300  Next
Page 9 of 300

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©