View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 02/03/2009 12:22 am Post subject: |
|
|
เรือเฟอร์รี่ที่นี่เที่ยวเช้าออกประมาณ 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายประมาณ 01.00 น. และเรือเฟอร์รี่ที่นี่มี 2 แบบ คือ สามารถบรรทุกผู้โดยสารและรถยนต์ได้ กับบรรทุกแต่รถยนต์อย่างเดียว ถ้าเป็นไฟเขียวแบบนี้แสดงว่าเรือจอดเทียบท่าแล้ว สามารถขึ้นได้ครับ
ภายในเรือเฟอร์รี่ครับ กว้างขวาง มีซุ้มขายน้ำและขนม และมีห้องน้ำบนเรือให้ผู้โดยสารได้ใช้บริการด้วย
|
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 02/03/2009 1:07 am Post subject: |
|
|
มองจากบนเรือออกไปเราจะเห็นสะพานปีนัง* (Penang Bridge) เปิดใช้เมื่อ 14 กันยายน 1985 เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวง E36 มีระยะทางยาวกว่า 13.5 กิโลเมตร ใช้เวลาสร้างกว่า 3 ปี เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่รถที่จะใช้สะพานนี้จะต้องเสียค่าผ่านทางในราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียวครับ
ระยะทางจากฝั่งบัตเตอร์เวอร์ธไปยังเกาะปันังประมาณ 3 กิโลเมตรครับ ใช้เวลาล่องลอยอยู่บนทะเลราวๆ 15 นาที ที่เราเห็นตึกสูงไกลๆ นั่นคือตึกคอมตาร์ (Komtar) เป็นตึกที่สูงที่สุดบนเกาะปีนัง โดยรัฐปีนังมีเมืองจอร์จทาวน์ (Georgetown) เป็นเมืองหลวงครับ
ตอนนี้ขอลอยคออยู่บนทะเลก่อนนะครับ พรุ่งนี้เราจะยกพลขึ้นบกกัน
---------------------
* ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Penang_Bridge |
|
Back to top |
|
|
hermit
2nd Class Pass
Joined: 14/01/2007 Posts: 562
Location: Udon Thani Downtown
|
Posted: 02/03/2009 1:27 am Post subject: |
|
|
เห็นภาพแล้ว เกิดกิเลสอยากไปเที่ยวมากมายครับ |
|
Back to top |
|
|
HITA_4508
3rd Class Pass
Joined: 29/08/2006 Posts: 228
Location: สรพ.ชพ.
|
Posted: 02/03/2009 8:47 pm Post subject: |
|
|
เห็นแล้วก็นึกอยากไปขึ้นมาอีกจัง คิดถึงจริงๆ คิดถึงจริงๆ เก็นติ้ง กัวลาลัมเปอร์ Suria KLCC ปีนัง Comtar จอร์จทาวน์ เรือเฟอร์รี่ ต้องหาโอกาสไปอีกให้ได้ _________________ คุณคือจุดอ่อน เชิญค่ะ!!! You are The Weakest Link Good bye.. ^_^ |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 02/03/2009 11:34 pm Post subject: |
|
|
^
^
กลับไปอีกรอบสิ
บนทะเลแบบนี้ลมแรงดีครับ เหมาะแก่การยืนชมวิวเป็นที่สุด พลันก็มองไปเห็นเรือบรรทุกสินค้าจอดเทียบท่าอยู่ และมีเรือสำราญลอยลำอยู่ไกลๆ มองดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีจัง
ว่าแล้วแซมมี่ก็ขอชักภาพเป็นที่ระลึกสักเล็กน้อย ส่วนพนักพิงนั้นสามารถขยับไปมาให้เหมาะกับการนั่งแต่ละฝั่งได้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 02/03/2009 11:49 pm Post subject: |
|
|
^
^
กางเกงขาด |
|
Back to top |
|
|
box_car
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 2169
Location: บ่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิต ชนิดกินไก่ ผิวเกล็ด
|
Posted: 03/03/2009 12:05 am Post subject: |
|
|
^
^
กางเกงยีนส์ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 12:30 am Post subject: |
|
|
^
^
กางเกงขายาว
ให้ดูชัดๆ กับเรือเฟอร์รี่ครับ ชั้น 1 และ 2 บรรทุกรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์
ยืนชมวิวได้สักพักเรือเฟอร์รี่ก็พาผมมาถึงยังเกาะปีนังจนได้ครับ เกาะปีนัง*นี้มีพื้นที่ 285 ตารางกิโลเมตร มีคนอาศัยอยู่ราวๆ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชุมชนชาวจีน และมีคนเชื้อสายมาเลย์และอินเดียอาศัยอยู่ อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ที่นี่ก็จะให้ความรู้สึกในแบบยุคอาณานิคม ทางใต้ของเกาะจะมีสนามบินนานาชาติปีนัง [Penang (Bayan Lepas) International Airport**] ที่นี่เองก็มีรถเมล์ให้บริการเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะวิ่งอยู่ในเมืองจอร์จทาว์น มีบางสายที่จะวิ่งไปรอบๆ เกาะ และท่ารถเมล์หลักก็จะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับทางขึ้นท่าเรือเฟอร์รี่นั่นเอง (ท่าเรือที่นี่จะเรียกว่า Jetty นะครับ ถ้าจะขึ้นรถเมล์มาท่าเรือแล้วเห็นคำนี้ก็ขึ้นมาได้เลย หากไม่แน่ใจสอบถามจากพนักงานบนรถได้ครับ) ส่วนถ้าหากมาจากสนามบินสามารถขึ้นสาย U401 U401E และ U309 เข้ามายังตึก Komtar ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการโดยสารรถเมล์ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ครับ
*ที่มา : หนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวมาเลเซีย
**ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Penang_International_Airport |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 12:57 am Post subject: |
|
|
ในขณะนั้นเวลาประมาณ 14.10 น. แล้วครับ อยู่ในสถาพที่อยากอาบน้ำใจจะขาด เลยจำต้องพึ่งบริการแท๊กซี่ (ที่นี่จะเขียนว่า Teksi) ควรจะต่อรองราคาให้ดีนะครับ อย่างที่เคยบอกว่าที่นี่ค่าแท๊กซี่ถือว่าแพงกว่าเมืองไทยมาก หากไม่จำเป็นก็อย่าใช้บริการครับ
ต่อรองราคาเสร็จสรรพแล้วเราก็เดินทางมายังที่นี่ครับ อาจจะงงว่าบ้านสไตล์โคโลเนียลแห่งนี้คือที่พักได้อย่างไร แต่ข้อดีอย่างนึงล่ะครับคือติดกับมินิมาร์ท เปิดตลอด 24 ชม. ยังไงพวกผมก็ไม่อดอยากปากแห้งแน่นอน
|
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 03/03/2009 1:18 am Post subject: |
|
|
ที่นี่เรียกว่า SegaraNinda ครับ ตั้งอยู่บนถนนปีนัง (Jalan Penang) อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมมาเลเซีย ที่นี่ถือว่าไม่ไกลจากท่าเรือเฟอร์รี่เท่าไหร่นัก เดินทางค่อนข้างสะดวกครับ
ทำไมผมถึงเลือกที่นี่เหรอครับ เพราะในอดีตเคยเป็นบ้านพักของอดีตเจ้าเมืองสตูล นามว่า "พระยาภูมินารถภักดี"* ชื่อเดิมคือ "ตนกู บาฮารุดดิน บินกูแมะ" เป็นชาวมลายู เป็นบุตรคนที่ ๖ ของนายกูแมะ และนางเจ๊ะจิ เกิดที่ตำบลอลอร์สตาร์ อำเภอออลร์สตาร์ รัฐเคดะ (ไทรบุรี) เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๑ มีพี่น้องร่วมบิดา ๗ คน ท่านได้สมรสกับ นางเจ๊ะโสม นางเจ๊ะเต๊ะ และนางหวันเต๊ะ ฮะอุรา พระยาภูมินารถภักดี คือ ต้นตระกูลบินตำมะหงง
ตนกูบาฮารุดดิน เริ่มชีวิตการรับราชการด้วยการเป็นเสมียน ต่อมาดำรงตำแหน่ง พัสดีเรือนจำที่เมืองอลอร์สตาร์ หลังจากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการฝ่ายปกครองชั้นสูงทางฝ่ายไทรบุรี
ในปี พ.ศ.๒๔๓๘ เมืองไทรบุรีได้ส่งตนกูบาฮารุดดิน มาช่วยราชการเมืองสตูล เนื่องจากพระยาอภัยนุราช เจ้าเมืองสตูล ป่วยไม่สามารถบริหารบ้านเมืองให้เกิดผลดีได้ กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๔๐ สตูลว่างเจ้าเมือง พระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองไทรบุรี เปอร์ลิส และสตูล เป็นเขตการปกครองเดียวกัน ขึ้นตรงต่อมณฑลภูเก็ต และทรงแต่งตั้งตนกูบาฮารุดดิน ให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าเมืองสตูล สืบต่อมาตังแต่ปี พ.ศ.๒๔๔๓ โดยให้ลงนามลงในหนังสือราชการว่า "ตนกูบาฮารุดดินบินกูแมะ" ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นหลวงอินทรวิชัย และพระยาอินทรวิชัย ตามลำดับ ตำแหน่งสุดท้าย คือ มหาอำมาตย์ตรี พระยาภูมินารถภักดี จางวางกำกับเมืองสตูล ท่านดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองสตูลอยู่ ๑๔ ปี ออกจากราชการเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ และถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๕ อายุรวม ๘๓ ปี
เรียกว่าบ้านหลังนี้ สักครั้งหนึ่งในชีวิต เราควรจะมาพักที่นี่ ใช่ไหมครับ
*ที่มา : http://kanchanapisek.or.th/kp8/culture/stl/stl220.html |
|
Back to top |
|
|
|