รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล

[Wisarut]

สร้างรถไฟฟ้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
Dailynews วันที่ 17 เมษายน 2552 เวลา 08:15 น.
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=196569&NewsType=1&Template=1

ปี53-55กว่า2.2แสนล.จ้างงานกว่า6หมื่นคน พร้อมเร่งอีก2โครงการต่อด่วนศรีรัชและเอส2

นายจุฬา สุขมานพ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้เตรียมจัดทำแผนงานโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม ในช่วงปี 2553-2555 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งแต่ละโครงการจะต้องมีข้อมูลการจ้างงานนำเสนอในแผนดังกล่าวด้วย โดยมีทั้งการทำโครงการในส่วนการขนส่งทางน้ำ ทางอากาศและทางบก ของกรมต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ ในปี 2553 มีโครงการสำคัญ ๆ ในกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในแผนดังกล่าว ได้แก่ โครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า ประกอบด้วย

1. สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน งบประมาณ 3,107 ล้านบาท
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต งบประมาณ 9,074 ล้านบาท
3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ งบประมาณ 8,856 ล้านบาท
4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค งบประมาณ 5,292 ล้านบาท
5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ งบประมาณ 11,267 ล้านบาท
6. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสะพานใหม่-ลำลูกกาคลอง 4 งบประมาณ 2,369 ล้านบาท
7. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสมุทรปราการ-บางปู งบประมาณ 1,263 ล้านบาท และ
8. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี งบประมาณ 3,711 ล้านบาท

ซึ่งรายละเอียดงบประมาณจะใช้เฉพาะในปี 2553 และมีการตั้งงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าในปี 2554 จำนวน 84,926 ล้านบาท และงบประมาณในปี 2555 อีกจำนวน 98,652 ล้านบาท รวม 228,493 ล้านบาท

[Wisarut]

เวนคืนเฉียด 100 ไร่ 'สายเหลืองอ่อน' รัชดา/ลาดพร้าว-พัฒนาการ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2419 19 เม.ย. - 22 เม.ย. 2552

หลังจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณี โครงการก่อสร้าง ระบบขนส่งมวลชนสาย"สีเหลืองอ่อน" ช่วง รัชดา/ลาดพร้าว-พัฒนาการ ในพื้นที่เขตลาดพร้าว วังทองหลาง บางกะปิ ครบทั้ง 5 ครั้งเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา

โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมฟังแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 400 คน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย กับระบบมุดลงใต้ดิน เนื่องจาก จะกระทบจากการเวนคืนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ ถนนลาดพร้าว ปริมาณจราจรแออัด มีบ้านเรือนประชาชน อาคารพาณิชย์หนาแน่น ที่สำคัญ ระบบมุดลงใต้ดิน ต้องใช้งบประมาณสูงถึง 100,000 ล้านบาท (!)

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเลือก ให้ "สายสีเหลืองอ่อน" ก่อสร้างในระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบยกระดับ (Monorail) เนื่องจาก ระบบมีขนาดเล็ก เวนคืนน้อย ค่าลงทุนต่ำ

อย่างไรก็ดี แม้ว่า ประชาชนจะเห็นด้วย แต่ยังมีปัญหาว่า การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ จากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้ส่งรายงานอีไอเอ กลับให้สนข. ทบทวนใหม่อีกครั้ง ว่า ขณะก่อสร้าง จะแก้ปัญหาอย่างไรกับ ท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ของการประปานครหลวง (กปน.) ซึ่งอยู่ บริเวณเกาะกลางถนนลาดพร้าว ล่าสุด สนข. ได้ศึกษา ว่า หากมีการก่อสร้างสายสีเหลืองอ่อน จะต้อง รื้อย้ายท่อส่งน้ำดังกล่าวออกจากพื้นที่ และ ต้องหาที่ดินเพื่อวางท่อใหม่ในย่านใกล้เคียง โดยเบื้องต้น สนข. ได้หารือกับ กปน. แล้ว และ ได้ข้อสรุปว่า พื้นที่ที่จัดให้มีการวางท่อส่งน้ำใหม่ จะเป็นบริเวณริมถนนลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นลักษณะฝังลงใต้ดินหรือ วางท่อบนดินจะต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง


สำหรับ "สายสีเหลืองอ่อน" ช่วง รัชดา/ลาดพร้าว -พัฒนาการ มูลค่าลงทุน 16,100 ล้านบาท ระยะทาง 12.6กิโลเมตร มี 10สถานี ได้แก่

1. สถานี รัชดา/ลาดพร้าว
2. สถานีภาวนา
3.สถานีโชคชัยสี่
4. สถานีฉลองรัช (ลาดพร้าวซอย 71)
5.สถานีวังทองหลาง (อิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว)
6. สถานีลาดพร้าว 101
7.สถานีบางกะปิ
8. สถานีแยกลำสาลี
9. สถานีศรีกรีฑา และ
10.สถานีพัฒนาการ (เชื่อมสถานีรถไฟ City Line ที่นี่)

มีจุดต้นทางเริ่มจากบริเวณแยกรัชดา/ลาดพร้าวโดยเชื่อมต่อกันกับระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งไปตามถนนลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ มีจุดปลายทางอยู่บริเวณแยกต่างระดับพระราม 9 โดยเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน 2 สาย คือ

1. "สายสีเหลืองเข้ม " (วงแหวนช่วงพัฒนาการ-สำโรง) และ
2. สายเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์

ตลอดแนว มีการเวนคืน 2 จุด สำคัญ ได้แก่ เขตบางกะปิ บริเวณบาทวิถีด้านหน้า ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางกะปิ เพื่อใช้พื้นที่ ปาดทำมุมโค้งเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ และ บริเวณ ปลายทางติดกับ มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ซึ่งบริเวณนี้ ต้องใช้พื้นที่เกือบ 100 ไร่เพื่อทำศูนย์ซ่อมบำรุง หรือ เดโป้ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินโล่งว่างของเอกชน โดยงบเวนคืนจะอยู่ที่ 1,410 ล้านบาท โดยเริ่ม ลงมือเวนคืน กลางปี 2553 ส่วนขั้นตอนการออกแบบรายละเอียด จะเริ่ม ต้นปี 2553 ประมูลหาผู้รับเหมา ต้นปี 2554 ก่อสร้าง กลางปี 2554 แล้วเสร็จปลายปี 2556 เปิดให้บริการต้นปี 2557 ประเมินว่า จะมีผู้ใช้บริการ มากกว่า 100,000 คนต่อวัน

เอาเป็นว่าในอนาคตอันใกล้ จะมีรถไฟฟ้า"สายสีเหลืองอ่อน" ให้บริการ ในอีก 5ปีข้างหน้า ... ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน และมีงบประมาณเพียงพอ !!!

[rodfaithai]

[BanPong1]

[Wisarut]

เวนคืน 172 ไร่ สายเหลืองเข้ม 'วงแหวนช่วงพัฒนาการ-สำโรง'

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2420 23 เม.ย. - 25 เม.ย. 2552
http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=R3524201&issue=2419

นับเป็นระบบขนส่งมวลชนอีกสายหนึ่ง สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเข้ม "วงแหวนช่วงพัฒนาการ-สำโรง" มูล ค่า 30,810 ล้านบาท ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีแผนเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว


อย่างไรก็ดี โครงการนี้มีผลกระทบจากการเวนคืนทั้งสิ้น 172 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โล่งว่าง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า บริเวณ"แยกศรีเอี่ยม" มูลค่า 3,300 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าโครงการขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) จากนั้นในปี 2553 จะออกแบบรายละเอียด ไปพร้อมๆ กับการเวนคืน คาดว่าจะก่อสร้างได้กลางปี 2554 แล้วเสร็จเปิดให้บริการกลางปี 2557

สำหรับ "สายเหลืองเข้ม" ระยะทาง 17.8 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี ถูกกำหนดให้มีรูปแบบเป็นระบบรถไฟฟ้าหนักแบบยกระดับ (MRT) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสายสีเหลืองวงแหวนมีจุดเริ่มต้นบริเวณทางแยกต่างระดับพระราม 9 กับทางแยกพัฒนาการโดยเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน 2 สาย คือ สายสีเหลืองอ่อน (รัชดาฯ/ลาดพร้าว-พัฒนาการ) และสายเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) วิ่งไปตามถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาสู่ถนนเทพารักษ์ มีจุดปลายทางที่สำโรง อันเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางกับสายสีเขียวอ่อนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

ทั้งนี้สถานีแรกจะเป็นสถานีพัฒนาการ ซึ่งอยู่บริเวณแยกพัฒนาการ เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อน


จากนั้นวิ่งไปตามถนนศรีนครินทร์ ตัดผ่านถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของสถานีศรีนุช ผ่านซีคอนสแควร์ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นสถานีสวนหลวง ตรงไป จะเป็นสถานีศรีอุดม ตัดผ่านแยกศรีเอี่ยม บริเวณนี้จะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า และสถานีศรีเอี่ยม ผ่านแม็คโครจะเป็นสถานีลาซาล จากนั้นจะเป็นสถานี ศรีแบริ่ง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของ คาร์ฟูร์ แนวสายทางยังคงวิ่งไปตามถนนศรีนครินทร์ ตรงไปยัง สถานีศรีด่านผ่านถนนเทพารักษ์ จะมีสถานีศรีเทพา เลี้ยวโค้งเข้าสถานีทิพวัล วิ่งตรงไปยังสถานีปลายทาง คือสถานีสำโรงที่ แยกสำโรงถนนปู่เจ้าสมิงพราย

[Wisarut]

สนข.เร่งตัดเค้กรถไฟฟ้า"3สาย3สี" ฟื้นความเชื่อมั่นเขย่าแผนลงทุนเข้าครม.สิ้นเดือนนี้
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 4099
วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02rea01230452&day=2009-04-23&sectionid=0217

คมนาคมฟื้นความเชื่อมั่น มองข้ามปัญหาการเมือง บอกเอกชนทั้งในและต่างประเทศให้มั่นใจนโยบายรัฐบาลอภิสิทธิ์เดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์ สนข.ชงแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสายเข้า ครม. เผยจับตาบิ๊กนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลออกแรงผลักดันเต็มที่ เร่งยิกประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย 3 สี เขียว แดง น้ำเงิน เตรียมตัดเค้กแบ่งงานให้รับเหมาค่ายใหญ่


นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโนบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายในเดือนเมษายนนี้ สนข.จะเสนอ ผลดำเนินการและสถานะปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบและพิจารณาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพื่อให้ทุกโครงการเดินหน้าต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับสถานะล่าสุด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังเปิดประมูลสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งในส่วนของสัญญาที่ 1 ที่เปิดซองราคาไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยกลุ่ม CKTC (ช.การช่าง-โตคิว) เสนอราคาต่ำสุด ล่าสุด รฟม.ต่อรองราคาเสร็จแล้ว จาก 16,724 ล้านบาท เหลือกว่า 14,900 ล้านบาท รอเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.วันที่ 22 เมษายนพิจารณา และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างเตรียมเปิดประกวดราคา สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งเปิดประมูลสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ขณะนี้ รฟม.กำลังจ้างที่ปรึกษาร่าง ทีโออาร์เปิดประกวดราคา คาดว่าอีก 1-2 เดือนนี้จะประกาศเชิญชวนได้ ส่วนสายน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค กำลังรอความชัดเจนเรื่องเงินกู้จากกระทรวงการคลัง ที่ รฟม.ขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขจาก "กู้แบบมีเงื่อนไข" เป็น "กู้แบบทั่วไป"

"เราเสนอ ครม.เพื่อให้รับทราบว่าแต่ละสายมีความคืบหน้าถึงไหน ครม.จะได้มี นโยบายออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น หากสามารถเร่งรัดดำเนินการจนกระทั่งมีการก่อสร้างโดยเร็วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง ดูตัวอย่างจากสายสีม่วงแม้จะเปิดซองราคาไปแล้ว แต่กว่าจะสรุปเรื่องราคาต้องใช้เวลาหลายเดือน" ผอ.สนข.กล่าว และว่า

แม้ว่า รฟม.ขณะนี้จะยังไม่มีผู้ว่าการ ตัวจริงมาบริหารจัดการแผนงานทั้งหมด แต่การดำเนินการต่างๆ ดำเนินไปได้ด้วยดีตามแผนงานโครงการ แม้ว่าจะเกิดความล่าช้าไปบ้างในเรื่องกระบวนการเปิดซองราคาในเรื่องของการต่อรองราคา แต่ไม่ทำให้โครงการรถไฟฟ้าสะดุดแต่อย่างใด

"ตอนนี้กำลังเร่งสรรหาผู้ที่จะมานั่ง ผู้ว่าการ รฟม.ตัวจริง ซึ่งคณะกรรมการสรรหาเตรียมจะประชุมเพื่อสัมภาษณ์ผู้ที่ ลงสมัครคัดเลือกการสรรหาในครั้งนี้ ซึ่งมีอยู่ 5 คน คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆ นี้"

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ค่าก่อสร้างกว่า 65,000 ล้านบาท ขณะนี้กำลังดูรายละเอียดการเปิดประมูลว่าจะแบ่งเป็นกี่สัญญา จากเดิมที่ปรึกษาเสนอไว้ 3 สัญญา เบื้องต้นคาดว่าจะซอยออกเป็น 6 สัญญา เป็นงานโยธา 4 สัญญาค่าก่อสร้างสัญญาละ 5,000-8,000 ล้านบาท งานสถานีกลางบางซื่อ 1 สัญญา วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1 สัญญา เป็นงานติดตั้งระบบ

การปรับเปลี่ยนสัญญาเป็น 6 สัญญานั้น เป็นนโยบายของคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ ที่ต้องการให้งานก่อสร้าง สามารถทำได้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากเดิม 3.6 ปี จะเหลือ 2 ปี อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ผู้ให้กู้ต่อไปว่าจะเห็นด้วยกับหลักการนี้หรือไม่ คาดว่าอีก 1 เดือนจะได้ข้อสรุป ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง ตามขั้นตอนคาดว่าจะประกาศเชิญชวนได้ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้

แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวว่า ขณะนี้มีนักการเมืองจากพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มเข้ามามีบทบาทในงานประมูลโครงการรถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ข้าราชการประจำในหน่วยงานที่รับผิดชอบต่างเกิดอาการเกร็งไปตามๆ กัน เพราะจากสถานการณ์การเมืองที่วุ่นวายในขณะนี้ทำให้สามารถคาดเดาได้ลำบากว่าใครสายใคร แล้วใครจะแพ้หรือชนะ ดังนั้นสิ่งที่หน่วยงานรับผิดชอบจะทำได้คือเร่งงานที่ คั่งค้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ และเป็นรัฐมนตรีที่มาจากโควตาของพรรคภูมิใจไทยนั้นก็มีนโยบายเร่งรัดให้งานโครงการต่างๆ เดินหน้า เพราะที่ผ่านมางานเมกะโปรเจ็กต์ของคมนาคมล่าช้ามากๆ

แหล่งข่าวประเมินว่า กระทรวงคมนาคมยุคนี้มีระดับบิ๊กนักการเมืองชื่อดังกำลังใช้ความพยายามและสายสัมพันธ์เพื่อเข้ามา บริหารจัดการ แบ่งเค้กงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่กำลังเปิดประมูลให้ลงตัวกับความต้องการของกลุ่มบริษัทรับเหมาเอกชนที่ต่างรองานอยู่ อาทิ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บมจ.ช.การช่าง เป็นต้น

"ตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 ต่อรองราคากับ ช.การช่างจบแล้ว รับเหมากำลังรอดูว่าสัญญาที่ 2 ที่จะเปิดซองราคาต่อไป ระหว่างอิตาเลียนไทยกับซิโน-ไทยฯ ใครจะได้งานไป เพราะมีกระแสข่าวออกมาว่ามีบิ๊กการเมืองผู้อยู่เบื้องหลังเรียกประชุมแบ่งงาน" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

[BanPong1]

ข่าวจาก Daily News Online วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 08:37 น.
ปรับแผนรถไฟฟ้าเพิ่มสีขาว-สีเทาเป็น12สาย สร้างเสร็จปี72 งบลงทุน1ล้านล้านบาท

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า ตามที่ สนข.มีโครงการศึกษาปรับแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้การก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนเป็นไปตามแผน จากเดิมที่ล่าช้ามาก ลดการทับซ้อนของเส้นทาง และปรับเส้นทางใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งได้มีการจัดสัมมนาครั้งแรกไปแล้ว โดยที่ปรึกษาเสนอเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งหมด 10 สาย นั้น ขณะนี้ความคืบหน้าล่าสุดมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเห็นควรเพิ่มจาก 10 สาย เป็น 12 สาย โดยเพิ่ม

-สายสีขาว ช่วงมักกะสัน-ดินแดง บางบำหรุ-ดินแดง ระยะทาง 11 กม.
-และสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว ลาดพร้าว-พระราม 4 พระราม 4 –สะพานพระราม 9 ระยะทาง 26 กม.

รวมระยะทางทั้งหมด 467 กม. งบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นแผนต่อเนื่องถึง 2572 เป็นระยะเวลา 20 ปี ส่วนเส้นทาง 10 สายเดิม ส่วนใหญ่ยังคงเส้นทางตามแนวเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนปลายทาง เพิ่มส่วนต่อขยาย และเปลี่ยนแปลงจุดเชื่อมต่อเล็กน้อย อาทิ สายสีส้ม เริ่มจากบางกะปิเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนปลายทางจากบางบำหรุ เป็นบางกอกน้อย สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค โดยต่อขยายจากบางแคไปถึงพุทธมณฑลสาย 4

รายงานข่าวแจ้งว่า การก่อสร้างจะแบ่งสร้างเป็นเฟส ตามลำดับความสำคัญโครงการ โดยกำหนดความก้าวหน้าของงาน

-จะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2557 รวม 83.5 กม. ประกอบด้วย
สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์
สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-รังสิต
สีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ

-ก่อสร้างเสร็จปี 2562 ระยะทาง 151.3 กม. ประกอบด้วย
-สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง หัวลำโพง-ตากสิน
-สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา
-สีเขียวอ่อน ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส
-สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง-บางแค
-สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ
-สายสีส้ม ช่วงบางกอกน้อย-ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ
-สายสีชมพู ช่วงแคราย-วงเวียนหลักสี่ วงเวียนหลักสี่-วงแหวนรอบนอก
-สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ

-และระยะสุดท้ายก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2572 รวม 132 กม. ประกอบด้วย
-สายสีแดงเข้ม ช่วงตากสิน-มหาชัย
-สีแดงอ่อน ช่วงมักกะสัน-หัวหมาก
-สีเขียวเข้ม ช่วงสะพานใหม่-ลำลูกกา
-สีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4
-สายสีส้ม ช่วงบางกะปิ-มีนบุรี
-สีชมพู วงแหวนรอบนอก-มีนบุรี
-สีเหลือง ช่วงพัฒนาการ-สำโรง
-สีน้ำตาล มักกะสัน-บางบำหรุ
-สายสีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว ลาดพร้าว-พระราม 4 พระราม 4 –สะพานพระราม 9.

_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/
_________________

[Mongwin]

พอผมเกษียณอายุ ก็ได้ใช้รถไฟฟ้าครบสมบูรณ์ตามโครงการครับอาจารย์วิรัตน์

[BanPong1]

[Wisarut]

ชาวลาดพร้าวรุมต้าน รถไฟฟ้า'เหลืองอ่อน'

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2422 30 เม.ย. - 02 พ.ค. 2552
http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=R2724233&issue=2422

ชาวบ้านย่านลาดพร้าว กว่า 1,000 หลังคาเรือน ยืนกรานไม่เอา รถไฟฟ้าสายสีเหลือง แบบยกระดับลอยฟ้า เหตุบดบังทัศนียภาพ -ทำลายย่านธุรกิจการค้า หลัง ต่อต้าน ทางยกระดับคร่อมถนนลาดพร้าวสมัย "สมัคร สุนทรเวช" เป็นผู้ว่าฯกทม.มาแล้ว เผยต้องการรถไฟฟ้าผ่าน แต่ขอแบบมุดดิน ด้านสนข. ระบุแบบลอยฟ้าเวนคืนน้อย -ต้นทุนต่ำ


นาย พรชัย จงภักดี ผู้แทนชาวบ้านย่านลาดพร้าว และในฐานะประธานคณะทำงานคัดค้านทางยกระดับกรุงเทพมหานคร เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ชาวบ้านบริเวณถนนลาดพร้าวและถนนรัชดาภิเษก จำนวนกว่า 1,000 หลังคาเรือนได้รวมตัวกันคัดค้าน สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อน ช่วง รัชดาฯ/ลาดพร้าว-พัฒนาการ ที่สนข. กำหนดให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบยกระดับ ( Monorail)


ทั้งนี้เนื่องจาก หากมีการก่อสร้างรูปแบบนี้ จะเกิดการบดบังทัศนียภาพของตัวอาคาร และกระทบต่ออาคารพาณิชย์ที่ปลูกสร้างติดริมถนน จะค้าขายลำบาก รวมถึงปัญหาการรื้อย้ายท่อส่งน้ำประปาขนาดใหญ่ที่อยู่เกาะกลางถนนลาดพร้าว ของการประปานครหลวง(กปน.) จะมีผลกระทบมากเพราะต้องใช้เวลา 1-2 ปี ปัญหาที่ตามมาคือการจ่ายน้ำประปาในย่านถนนลาดพร้าวจะมีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านแถบนี้ได้เคยรวมตัวคัดค้าน โครงการก่อสร้างทางยกระดับ คร่อมถนนลาดพร้าว ในสมัยที่ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม. มาแล้วครั้งหนึ่งและในที่สุด ก็ถูกยกเลิกไป


"ไม่ต้องการให้ถนนลาดพร้าวถูกบดบังทัศนียภาพ จาก รถไฟฟ้า ทางยกระดับ เหมือน ถนนพระราม 9 ถนน สุขุมวิท เพราะจะส่งผลให้มูลค่าที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และการดำเนินธุรกิจการค้า แย่ลง "


อย่างไรก็ดี ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน แต่ ต้องการให้สนข. พิจารณารูปแบบก่อสร้างเป็นแบบมุดลงใต้ดินเท่านั้นนายพรชัยกล่าวและว่า ที่ผ่านมา ช่วงที่ สนข. มีการเปิดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งผลสรุปที่ออกมาว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการแบบมุดลงใต้ดิน และสนข.ต่างทราบถึงปัญหาอยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงกลับตัดสินใจออกแบบเป็นรถไฟฟ้ายกระดับลอยฟ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ สนข.ก็ไม่ควร จัดสัมมนารับฟังเสียงประชาชนอีกต่อไป


ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากสนข. กล่าวว่ายืนยันที่จะดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อน ในระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว แบบยกระดับ (Monorail ) โดยมีเหตุผลที่ว่า

1. ต้นทุนต่ำ
2. มีผลกระทบจากการเวนคืนน้อยหรือแทบไม่มีเลย
3. ก่อสร้างรวดเร็ว

//----------------------------------------------------------------------------

ดื้อรั้นดันทุรังจะเอาแบบมักง่ายถึงแก่ปั้นมวลชนเทียมที่เชื่อเรื่องที่ตนปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อให้ออกเสียงตามที่ตนต้องการโดยไม่เห็นหัวชาวบ้านในท้องที่ตัวจริงเช่นนี้ ก็ต้องโดนแบบบนี้แหละ