View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43980
Location: NECTEC
|
Posted: 14/06/2009 10:08 pm Post subject: |
|
|
รฟท.อ้างหัวรถจักรเก่าต้นเหตุเดินรถช้า ยันพร้อมเร่งแก้ปัญหา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2552 14:32 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000066970
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่ง ประเทศไทย (รฟท.) เร่งแก้ปัญหาความล่าช้าของการเดินรถที่ไม่เป็นไปตามตารางเวลา โดยระบุว่าสาเหตุสำคัญเกิดจากหัวรถจักรจำนวนมากอายุใช้งานมากกว่า 20 ปี แม้ซ่อมบำรุงก็ยังทำให้เดินรถล่าช้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในระยะสั้นจะใช้การบริหารจัดการเข้าแก้ไข โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมฝ่ายต่างๆ เช่น สารวัตร และรองสารวัตร ฝ่ายการเดินรถ ฝ่ายการโยธา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ขอให้ปรับวิธีการทำงาน โดยให้มีการประสานงานร่วมกับนายสถานีทั่วประเทศ ขอให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งไปประจำที่ชุมทางการเดินรถขนาดใหญ่ใน ทุกภูมิภาค [หน่วย 10] รวมทั้งการจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ไปประจำบนขบวนรถ หากหัวรถจักรมีขัดข้องในพื้นที่ใด ก็ขอให้มีการซ่อมบำรุงที่พื้นที่สถานีชุมทางได้เลย ก็จะทำให้การซ่อมบำรุงคล่องตัวมากขึ้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47279
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/06/2009 11:53 am Post subject: รถไฟเดินหน้าแก้ปัญหาเดินรถล่าช้า |
|
|
รถไฟเดินหน้าแก้ปัญหาเดินรถล่าช้า
ก.คมนาคม 14 มิ.ย.52 - นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งแก้ปัญหาความล่าช้าของการเดินรถที่ไม่เป็นไปตามตารางเวลา โดยระบุว่าสาเหตุสำคัญ เกิดจากหัวรถจักรจำนวนมากอายุใช้งานมากกว่า 20 ปี แม้ซ่อมบำรุงก็ยังทำให้เดินรถล่าช้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในระยะสั้นนี้ จะใช้การบริหารจัดการเข้าแก้ไข โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกประชุมฝ่ายต่างๆ เช่น สารวัตร และรองสารวัตร ฝ่ายการเดินรถ ฝ่ายการโยธา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ขอให้ปรับวิธีการทำงาน โดยให้มีการประสานงานร่วมกับนายสถานีทั่วประเทศ ขอให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งไปประจำที่ชุมทางการเดินรถขนาดใหญ่ในทุกภูมิภาค รวมทั้งการจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ไปประจำบนขบวนรถ หากหัวรถจักรมีขัดข้องในพื้นที่ใด ก็ขอให้มีการซ่อมบำรุง ที่พื้นที่สถานีชุมทางได้เลย ก็จะทำให้การซ่อมบำรุงคล่องตัวมากขึ้น
ส่วนในระยะยาวนั้น รฟท.เชื่อว่า เมื่อมีการจัดซื้อหัวรถจักรเพิ่มเติมจะทำให้บริการได้รวดเร็วขึ้น โดยขณะนี้ ครม.ได้อนุมัติการจัดซื้อไปแล้ว รวม 7 คัน วงเงิน 1,155 ล้านบาท และ รฟท.ได้ขอจัดซื้อเพิ่มเติมไปอีก โดยคาดว่าจะสามารถมีหัวรถจักนใหม่ใช้งานในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึงงานก่อสร้างรถไฟรางคู่ ที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ อีกหลายเส้นทาง ก็จะทำให้ความล่าช้าของตารางการเดินรถทั่วประเทศ ลดลงอย่างน้อย 10% ส่งผลดีทั้งต่อความพอใจของผู้ใช้บริการรถไฟเดินทาง และการขนส่งสินค้า ที่จะมีหัวรถจักรใช้งานมากขึ้นด้วย
สำหรับการปรับปรุงบริการนั้น โดยเฉพาะความสะอาดของสถานีทั่วประเทศ ขณะนี้มีสถานีรถไฟที่ได้รับการรับรองความสะอาด ตามมาตรฐานของกรมอนามัย หรือ (HAS) ตามโครงการสมาร์ท สเตชั่น แล้ว จำนวน 41 สถานี และคาดว่าจะได้ครบทั้ง 100 สถานี ในสิ้นปีนี้
ส่วนปัญหาการแต่งตั้งผู้บริหารที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการแต่งตั้งบุคคลใกล้เกษียณเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญนั้น ผู้ว่าการ รฟท. ยืนยันว่า ที่ผ่านมาการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการรถไฟ จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่จะใกล้เกษียณอายุหรือไม่ หากมีความตั้งใจในการทำงาน ก็ถือว่าควรได้รับโอกาส โดยหลักการจะแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และฝ่ายบริหารก็สามารถทำงานรวมกันเป็นทีม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด.- สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-14 14:02:52
---------------------------
ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ หลายๆ เส้นทางจริงหรือ |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 15/06/2009 12:36 pm Post subject: |
|
|
สายใต้ทำทางคู่ช่วงหัวหิน-ชุมพร ช่วยแก้ปัญหาได้เยอะนำครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43980
Location: NECTEC
|
Posted: 15/06/2009 1:00 pm Post subject: Re: รถไฟเดินหน้าแก้ปัญหาเดินรถล่าช้า |
|
|
Mongwin wrote: | รถไฟเดินหน้าแก้ปัญหาเดินรถล่าช้า ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ หลายๆ เส้นทางจริงหรือ |
แม้โครงการทางคู่ แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา จะยังแค่ตั้งไข่ ก็ถือว่าเริ่มดำเนินการก่อสร้างเช่นกันนะครับ
โครงการทางคู่ แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา ใช้สเป็กเดียวกันกับ ทางคู่ฉะเชิงเทรา (กม. 60 + 993) - ศรีราชา (กม. 130+605) - แหลมฉบัง (กม. 140+420) แต่ต้องเพิ่มอุโมงค์คู่ขนานที่พระพุทธฉาย และ ทาง Chord Line 1 กม. ที่ฉะเชิงเทรา, 3.4 กม. ที่แก่งคอย และ 1 กม. ที่ บ้านภาชี
http://www.railway.co.th/resultproject/project_doubletrack.asp?result=2
http://www.railway.co.th/resultproject/project_doubletrack.asp?result=4
ส่วนสายเหนือ - ใต้ นั้น น่าเสียดาย ที่ปล่อยให้ทางช่วง หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 89 กม. เป็นทางเดี่ยวอยู่ มันน่า จะ เอาช่วง สุราษฎร์ธานี - บ้านนา (29 กม.) เขาชุมทอง - ชะอวด (27 กม.) และ แหลมโตนด - บ้านต้นโดน (33 กม.) ไปใส่ทางช่วง หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 89 กม. แทน ยังจะเป็นคุณมากกว่า
นอกจากนี้ ทางคู่ ต่อจากนครปฐม ดันมากุดที่ หนองปลาดุก (16 กม. จากนครปฐม) แล้วไปเจอทางคู่อีกที่ ก็ที่เพชรบุรี (กม. 151 จากธนบุรี) ไม่สู้จะเป็นคุณเสียเท่าไหร่ น่าจะชักเอาจาก บ้านไผ่ - เมืองพล (31 กม.) มาใช้ แต่ ครั้นจะชักเอาจาก บ้านด่าน - ห้วยไร่ (25 กม.) บวกกับ แก่งหลวง - ปางป๋วย (45 กม.) มาใช้ก็ค่อนข้างยุ่ง ส่วนกรณีคิดทำทางคู่ เชียงใหม่ - ลำพูน (22 กม.) เพื่อเดินรถชานเมือง - ถ้ามีรถให้เดิน รถชานเมืองหละก็ดีอยู่ แต่ ถ้าไมมีก็ไม่สู้เป็นคุณเท่าไหร่ อย่างดีก็เป็นโอกาสงามๆ ที่จะ รุสต็อก ราง 50 ปอนด์ ย่านสถานีเชียงใหม่ และ ราง 70 ปอนด์ ช่วง เชียงใหม่ - ลำพูน ออกไปแล้วเอาราง 100 ปอนด์ หมอนคอนกรีต ไปเปลี่ยนแทน
ใครมีความเห็นคัดค้าน โปรดช่วยชี้แจงด้วยครับ
http://www.railway.co.th/resultproject/project_doubletrack.asp?result=3 |
|
Back to top |
|
|
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 15/06/2009 2:41 pm Post subject: |
|
|
รฟท.ระดมพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดรถไฟ ป้องกันหวัดฯ 2009
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มิถุนายน 2552 14:23 น.
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกมาตรวจสอบการฉีดพ่นฆ่าเชื้อทำความสะอาดขบวนรถไฟ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยได้เพิ่มความเข้มงวดในทุกขบวนทำความสะอาดเพิ่มขึ้นอีก 20% จากเดิมที่เคยทำความสะอาดสัปดาห์ละ 5 ครั้ง เป็น 7 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟ
โดยเฉพาะเส้นทางที่เดินทางระหว่างประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ-หนองคาย กรุงเทพฯ-บัตเตอเวิร์ธ จะดูแลเป็นพิเศษ โดยวิธีการจะมีการอบฆ่าเชื้ออุปกรณ์ภายใน ทั้งผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เป็นเวลา 40 นาที และเช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะตั้งสบู่ล้างมือในห้องน้ำในทุกขบวนรถ
http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000067381 _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43980
Location: NECTEC
|
Posted: 16/06/2009 10:26 pm Post subject: |
|
|
รถไฟปรับแผนลงทุน ใช้รางคู่สนองรัฐบาล
โดย บ้านเมืองออนไลน์
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2552 เมื่อเวลา 9:37:00
http://www.banmuang.co.th/economic.asp?id=175614
นาย ถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ได้รับนโยบายจากนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางรถไฟอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะการใช้รางขนาด 1.435 เมตร กับโครงการใหม่ เช่น โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมภูมิภาครัศมีจากกรุงเทพฯ 250-300 กม. โดยจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษารายละเอียดของโครงการ จากก่อนหน้านี้กำหนดความเร็วไว้ที่ 160 กม./ชม. ประกอบด้วย
1. เส้นทางกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ ระยะทาง 231 กม. (เวนคืนช่วงไหนหละหว่า),
2. เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 266 กม. (อุโมงค์ ช่วงดงพระยาเย็น)
3. เส้นทางกรุงเทพฯ-จันทบุรี ระยะทาง 227 กม.,
4. เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 200 กม.
ส่วนราง ปัจจุบันขนาด 1 เมตร จะต้องมีการปรับปรุงเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรางขนาด 100 ปอนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเดินรถและทำความเร็วได้ 100-120 กม./ชม. โดยจะต้องแก้ปัญหาอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น ปัญหาจุดตัดและทางลัดผ่านกว่า 2,000 จุด ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องกั้น 50% และโครงการรถไฟทางคู่ส่วนที่เหลือ
“ปัจจุบันรถไฟมีปัญหาล่าช้า ต้องรอหลีก เพราะเป็นทางเดี่ยว และรางมีประสิทธิภาพต่ำรับน้ำหนักหัวรถจักรได้น้อยแต่เมื่อเปลี่ยนเป็นราง ขนาด 100 ปอนด์ การรับน้ำหนักหัวรถจักรจะเพิ่มขึ้นเป็น 15 ตันเพลา (ที่ถูกน่าจะเป็น โหลดเพลา 20 ตัน) ซึ่งมีแรงม้าสูง สามารถลากตู้สินค้าและตู้โดยสารได้มากขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม แผนฟื้นฟู รฟท.นั้นจะมีการลงทุนในระยะ 10 ปีแรก จำนวน 198,197 ล้านบาท แบ่งเป็นระยะเร่งด่วนและระยะยาว ขณะที่จะใช้งบการลงทุนด้านรถจักรและล้อเลื่อนจำนวน 24,905 ล้านบาท” |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 16/06/2009 11:16 pm Post subject: ข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนฟื้นฟู รฟท. |
|
|
ข่าวนี้มาจากมติชนออนไลน์นะครับ
จาก Link นี้: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1245155989&grpid=01&catid=05
lสำหรับรายละเอียดนั้นมีดังนี้นะครับ
ชำแหละแผนฟื้นฟูรถไฟ จัดตั้ง 2บริษัทใหม่"เดินรถ-บริหารทรัพย์สิน"จะฝ่าแรงต้านสหภาพได้หรือไม่
วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เวลา 22:38:52 น
คาดว่า จะทำให้พนักงานบางส่วนต้องตกงาน รวมถึงผลประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะการบริหารทรัพย์สินเรื่องที่ดิน ที่มีอยู่ทั่วประเทศนับแสนไร่ และทำเลทองอีก 3แห่ง มักกะสัน 400กว่าไร่ พหลโยธินกว่า 1,100ไร่ และบางกะเจ้าอีก 260ไร่
หมายเหตุ...คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน มีมติมีมติอนุมัติแผนปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งมีรายละเอียดบางส่วนน่าสนใจ
---------------------------------
แผนการปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.มีสาระใจความ คือ การจัดตั้งบริษัทใหม่ 2 บริษัท คือ บริษัท เดินรถ จำกัด ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท และบริษัท บริหารทรัพย์สิน จำกัด ทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท โดย ร.ฟ.ท.ถือหุ้น 100% การจดทะเบียนของทั้ง 2 บริษัท จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน หลัง ครม.อนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน หลังจากนั้นจะต้องมีการพิจารณาแบ่งแยกภารกิจ สินทรัพย์ และหนี้สินระหว่าง ร.ฟ.ท.และบริษัทลูกทั้งสอง รวมทั้งกำหนดกิจกรรมระหว่างกัน ก่อนนำเสนอกลับไปคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) และ ครม.เห็นชอบอีกครั้งภายใน 150 วัน นับตั้งแต่วันที่ ครม.อนุมัติในหลักการ และให้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจ สินทรัพย์และหนี้สิน ให้บริษัทลูก 2 บริษัท เริ่มดำเนินการได้ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่ ครม.อนุมัติในหลักการ
ภารกิจของบริษัทบริหารจัดการทรัพย์สินนั้น มีหน้าที่ดำเนินการให้เอกชนพัฒนาและบริหารที่ดินทั้งหมด ขณะที่บริษัทเดินรถทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเดินรถใน 4 หน่วยธุรกิจคือ 1.หน่วยธุรกิจเดินรถโดยสาร 2.หน่วยธุรกิจเดินรถสินค้า 3.หน่วยธุรกิจเดินรถโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) และ 4.หน่วยธุรกิจเดินรถไฟฟ้าอื่นๆ เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนสายสีแดง เป็นต้น
หน่วยธุรกิจแรกที่บริษัทเดินรถ จะต้องดำเนินการก่อตั้งทันทีคือ หน่วยเดินรถแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อให้ทันการเปิดใช้บริการในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ส่วนหน่วยธุรกิจเดินรถโดยสารและสินค้า คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2554 ส่วนหน่วยธุรกิจการเดินรถไฟฟ้าอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2558
ส่วนด้านการบำรุงรักษาและการพัฒนาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ระบบรางและระบบอาณัติสัญญาณ) ของ ร.ฟ.ท.ทั้งในอดีตและในอนาคต ภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด โดยในระยะ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2561 ภาครัฐจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นเงิน 191,314 ล้านบาท ทั้งงานด้านโยธา ทั้งการก่อสร้างทางคู่ การปรับปรุงทาง และโครงการสายสีแดง ซึ่งภายหลังจากโครงการต่างๆ แล้วเสร็จจะทำให้ความจุของทางเพิ่มขึ้น จนภาคเอกชนสามารถจัดหารถจักรและรถพ่วงมาร่วมใช้ทางของ ร.ฟ.ท.ได้ แต่จะต้องจ่ายค่าใช้ทางให้กับ ร.ฟ.ท.
แผนการปรับโครงสร้างของ ร.ฟ.ท.นั้นมีการประมาณการรายได้ไว้ว่า บริษัทบริหารสินทรัพย์ จะมีรายได้จากค่าจ้างบริหารโครงการและเป็นที่ปรึกษาจัดทำโครงการตามที่ ร.ฟ.ท.มอบหมาย และมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการค่าเช่าที่ที่เก็บค่าเช่าให้กับ ร.ฟ.ท. ประมาณ 5-7% โดยระยะเวลา 15 ปี (ปี 2553-2567) จะมีรายได้ในปีแรกที่ 1,744 ล้านบาท และจะมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 5% โดยปีสุดท้าย (2567) รายได้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์จะอยู่ที่ 3,013 ล้านบาท รวม 15 ปี คาดว่าจะมีรายได้ 37,033 ล้านบาท
ประมาณการรายได้ของบริษัท เดินรถ เบื้องต้นจะเป็นผู้บริหารการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ จะมีรายได้รวม ตั้งแต่ปี 2553-2561 ประมาณ 12,325 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวมาจาก 2 แหล่งใหญ่คือ 1.การขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งมาจากรถด่วนที่เก็บอัตราเดียว 150 บาทต่อเที่ยว คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 4,000 คนต่อวัน ในปีแรกและจะเพิ่มปีละ 10% และรายได้จากค่าโดยสารรถ ซิตี้ ไลน์ ที่คิดค่าโดยสาร 15-40 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 32 บาทต่อเที่ยว ตั้งเป้ามีผู้โดยสารปีแรก 40,000 คนต่อวัน และประมาณการเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% 2.รายได้อื่นๆ ได้แก่ รายได้จากการให้เช่าพื้นที่แก่ร้านค้า ค่าโฆษณา และที่จอดรถ
ร.ฟ.ท.คาดว่าหากมีการดำเนินการตามแผน จะทำให้ ร.ฟ.ท.มีความสามารถในการสร้างรายได้จากการเดินรถในระยะเวลา 10 ปี (2552-2561) รวม 109,521 ล้านบาท แต่หากไม่ดำเนินการตามแผน ความสามารถในการสร้างรายได้จะทำได้เพียง 79,683 ล้านบาท ส่วนการขอเงินอุดหนุนของภาครัฐตาม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ที่กำหนดว่ารัฐจะต้องนำรายได้มาสนับสนุนค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงทางและการจัดการเดินรถหรือไอเอ็มโอ (Infrastructure Maintenance and Operation) ร้อยละ 70 หากดำเนินการตามแผนรัฐจะจ่ายเงินดังกล่าวเพียง 48,426 ล้านบาท แต่หากไม่ได้ดำเนินการตามแผนรัฐจะต้องจ่ายให้ถึง 116,945 ล้านบาท
ส่วนเงินสนับสนุนพีเอสโอ หรือการบริการทางสังคมสำหรับผู้มีรายได้น้อยจะอยู่ที่ 25,376 ล้านบาท แต่หากไม่ได้ดำเนินการตามแผนรัฐจะต้องจ่ายเงินดังกล่าวถึง 40,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวเริ่มถูกคัดค้านจากสหภาพสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะคาดว่าจะทำให้พนักงานบานส่วนต้องตกงาน รวมถึงผลประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะการบริหารทรัพย์สินในเรื่องที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศนับแสนไร่ และที่ทำเลทองอีก 3 แห่งคือ มักกะสัน 400 กว่าไร่ พหลโยธินกว่า 1,100 ไร่ และบางกะเจ้าอีก 260 กว่าไร่
ดังนั้น การปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.จะฝ่าฟันแรงต้านจากสหภาพฯได้หรือไม่ ต้องติดตาม...
จบ ว.8 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43980
Location: NECTEC
|
Posted: 17/06/2009 12:21 am Post subject: |
|
|
ููู^^^^
ข่าวชิ้นนี้ไม่แน่ใจว่าจะลงหน้าบ้านแล้วเหมาะสม หน่า คุณ สุรผัด |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 17/06/2009 7:32 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | ููู^^^^
ข่าวชิ้นนี้ไม่แน่ใจว่าจะลงหน้าบ้านแล้วเหมาะสม หน่า คุณ สุรผัด |
ก็นั่นแหละครับ อย่างไรก็ตามก็อยากจะให้คอยติดตามดูด้วยว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรด้วย
เนื่องจากข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันหลายส่วน ซึ่งข่าวก็เป็นข่าว
แต่อย่างไรก็ตามกระผมก็ไม่อยากจะให้มีสมาชิกคนใดออกมาวิจารณ์ข่าวที่ว่านี้ออกทางหน้าบ้านนะครับ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าติดตามดูได้ แต่ห้ามวิจารณ์ข่าวนี้กันทางหน้าบ้านนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47279
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/06/2009 9:59 am Post subject: อนุมัติ 3,000 ล้านบาท ยก รพ.ศิริราช เป็นสถาบันแพทย์ชั้นเลิศ |
|
|
อนุมัติ 3,000 ล้านบาท ยก รพ.ศิริราช เป็นสถาบันแพทย์ชั้นเลิศในภูมิภาค
กระทรวงศึกษาธิการ 16 มิ.ย.52 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เดินหน้าสู่การเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ โดยอนุมัติแผนงานและงบประมาณดำเนินการในปี 2554-2556 วงเงินงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณโรงพยาบาลร้อยละ 60 และงบประมาณกลางร้อยละ 40 พร้อมอนุมัติอัตราจ้าง 1,202 อัตรา ในปี 2554 แบ่งการดำเนินโครงการสู่การเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นเลิศ 7 โครงการย่อย ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัย การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศการแพทย์ศิริราช การจัดตั้งศูนย์พัฒนาวิชาการผู้สูงอายุ การจัดตั้งสถาบันการแพทย์แผนไทยประยุกต์ การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช และโครงการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟธนบุรี โดยปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และสวนเฉลิมพระเกียรติ.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-16 18:02:59 |
|
Back to top |
|
|
|