บันทึก โครงการสร้างทางรถไฟแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๔๘๔

BanPong1 · Last edited by BanPong1 on 13/06/2009 10:47 pm; edited 1 time in total

บันทึก โครงการสร้างทางรถไฟแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๔๘๔
กรมรถไฟ กระทรวงคมนาคม
ที่มา : หอจดหมายเหคุแห่งชาติ

ผมไปพบบันทึกนี้ที่หอจดหมายเหคุแห่งชาติ เห็นว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก

จากที่ทางรถไฟหลวงสายแรกจากกรุงเทพฯ ถึง อยุธยา ระยะทาง 72 กิโลเมตร เมื่อ พ.ศ.2439

ขณะที่ทำบันทึกนั้นในปี พ.ศ.2484 ประเทศไทยมีทางรถไฟที่เปิดการเดินรถแล้ว 3,267 กิโลเมตร ช่วงเวลา 45 ปี ประเทศเรามีทางรถไฟเพิ่มถึง 3,195 กิโลเมตร (เฉลี่ยปีละ 71 กิโลเมตร)

จนถึงขณะนี้ พ.ศ.2552 เวลาผ่านไปเกือบ 70 ปี จากบันทึกโครงการนี้ ประเทศไทยเพิ่งมีทางรถไฟเพิ่มขึ้นเป็น 4,346กิโลเมตร เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1,079 กิโลเมตร (เฉลี่ยปีละแค่ 16 กิโลเมตร)

ขอนำแผนที่ท้ายบันทึกมาให้ชมก่อนครับ
Click on the image for full size

ที่มา : หอจดหมายเหคุแห่งชาติ
_________________
Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 13/06/2009 10:43 pm Post subject:

^^^^^
ภาพนี้พิมพ์ใน งานฉลอง 50 ปี รถไฟหลวง เมื่อปี 2490 ด้วย

BanPong1 · Posted: 13/06/2009 10:55 pm Post subject:

Concept ในการวางแนวสายทางน่าสนใจมากครับ
ในขณะนั้นได้คิดถึง East-West Corridor (หรือ West-East Corridor) ให้กับระบบคมนาคมของประเทศไทยแล้วด้วย
จะสังเกตุเห็นได้จากแนวทางสาย แม่สอด-ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-เลย-อุดรธานี-สกลนคร-นครพนม
ปัจจุบันยังไม่เห็นมีรัฐบาลชุดไหนพูดถึงแนวนี้เลย ยกเว้นช่วง แม่สอด-ตาก ที่ทางจังหวัดคิดจะทำเอง

BanPong1 · Posted: 13/06/2009 10:59 pm Post subject:

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีแนวคิดที่จะทำทางสายสุพรรณบุรี

Wisarut · Posted: 13/06/2009 11:12 pm Post subject:

OutRun · 1st Class Pass (Air) Joined: 26/05/2006 Posts: 1187

พี่ที่ทำงานผมแกเล่าให้ฟังว่า เมื่อปีก่อนหอการค้าจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้ามาหารือกับการรถไฟ เรื่องขอให้เดินรถคอนเทนเนอร์ขนส่งข้าวและน้ำตาล
จากสถานีสุพรรณบุรี ลงไปทางจังหวัดภาคใต้ เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกบนถนน แต่การรถไฟฯ จำเป็นต้องปฏิเสธ เพราะไม่มีทั้งหัวรถจักร
และ บทต. ไปทำขบวนให้ แถมยังไม่มั่นใจสภาพทางช่วง หนองปลาดุก - สุพรรณบุรี อีกด้วย ว่าจะรับน้ำหนักขบวนรถคอนเทนเนอร์ไหว ก็เลยปฏิเสธไป

แกเล่าอีกเรื่องนึงว่า การรถไฟฯ เคยมีความคิดที่จะยุบขบวน 355 - 356 ส่วนเรื่องการดูแลเส้นทางจะให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบำรุงทาง
ให้นำรถบำรุงทางออกวิ่งดูแลเส้นทาง แทนการวิ่งขบวน 355 - 356 แต่เนื่องจากทางช่วง หนองปลาดุก - สุพรรณบุรี มีแขวงบำรุงทางอยู่ 2 แขวง
(คงเป็นที่ยางประสาท กับ บ้านมะขามล้มมั้ง) ได้ยินว่าเขาเกี่ยงกัน ก็เลยยกเลิกความคิดนี้แล้วให้ขบวน 355 - 356 วิ่งรักษาเส้นทางเหมือนเดิม

แกเล่ามาอีกเรื่องนึงครับ แกบอกว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีกองถ่ายภาพยนตร์ (ของแขก) เหมาขบวนรถเข้าไปถ่ายทำกันที่สถานีสุพรรณบุรี
ทราบว่าเป็นหัวรถจักรลากริ้วขบวนรถเข้าไป แต่ไม่ทราบว่าในริ้วขบวนมีรถอะไรบ้าง และใช้เวลาถ่ายทำนานเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว

ที่เล่ามาทั้งหมดผมยังไม่ได้กรองข่าวนะครับ อย่าเพิ่งเชื่อหมดใจ ทั้งหมดเป็นเพียงการบอกเล่าของพี่ที่ทำงานผมที่ขึ้นขบวน 355 - 356 มาทำงานทุกวันก็เท่านั้น
_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

Mongwin · Posted: 14/06/2009 7:28 am Post subject:

เสียดายจังครับคุณตั้ม ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีกองถ่ายภาพยนตร์มาผ่านแถวนี้
จะได้ออกไปดูครับ Sad

ยุบ 355/356 เมื่อไหร่ สภาพทางคงคล้ายหาดใหญ่-สงขลาครับ ขอให้การยกเลิกการเดินรถสายสงขลา เมื่อปี 2521 เป็นบทเรียนบทสุดท้ายแล้วกันครับ
บ้านที่มีเจ้าของบ้านอาศัยอยู่ทุกวัน
กับบ้านที่ไม่มีคนอยู่ จ้างคนมาดูแลทำความสะอาดเป็นระยะ
อย่างไหนจะแข็งแรง คงทนกว่ากันครับ

แผนที่โครงการสร้างทางรถไฟ 10 ปี 25 ปีนี้ มีการนำไปวาดใหม่ ตีพิมพ์อยู่ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่ม 4 ซึ่งออกวางตลาดในราวปี 2520 กว่าๆ ด้วยครับ
เป็นแผนที่ที่สร้างความฝันให้เด็กประถมอย่างผมในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ว่าสักวันโตขึ้นจะได้นั่งรถไฟไปภูเก็ต

ก็เพิ่มได้ทราบจากอ.วิรัตน์นี่แหละครับ ว่าเอกสารชั้นต้นของแผนที่ฉบับนี้ มีมาตั้งแต่ปี 2484 แล้ว

บ้านเรามีการพัฒนาด้านการขนส่งระบบรางแบบก้าวกระโดด ในสมัย ร.5-ร.6
ช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ก็มีการสร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกนับร้อยกิโล
แต่หลังจากเริ่มมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2503-2504 เป็นต้นมา
การสร้างทางรถไฟเพิ่ม เป็นไปอย่างช้ามากจริงๆ ครับ

ผมสอนนิสิตอยู่บ่อยๆ ครับว่า ประเทศไทยเคยพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งระบบรางเป็นอย่างมากในสมัย ร.5-ร.6
แต่มาเริ่มยุคเสื่อมในสมัย 250X-ปัจจุบัน นี่แหละครับ
แม้จะมีเพลงบอกว่า
"พ.ศ.2504 ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม ชาวบ้านต่างมาชุมนุม มาประชุมที่บ้านผู้ใหญ่ลี"

สำหรับทางรถไฟสายสุพรรณบุรีนี้ มีพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนอยู่ 2 ฉบับครับ
ปี 2496 กำหนดแนวเวนคืนช่วงชุมทางหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2496/A/046/794.PDF
ปี 2498 กำหนดแนวเวนคืนช่วงสุพรรณบุรี-ลพบุรี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2498/A/045/903.PDF

เหตุผลที่ระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกาคือ เนื่องจากการคมนาคมขนส่งระหว่างพระนครกับสุพรรณบุรียังไม่สะดวกพอ ควรสร้างทางรถไฟเพือส่งเสริมให้การคมนาคมสะดวกยิ่งขึ้น และเพื่อให้ทางรถไฟสายเหนือกับสายใต้ติดต่อกันได้อีกทางหนึ่งครับ Very Happy

Rakpong · Posted: 14/06/2009 9:06 am Post subject:

เห็นความคึกคักของย่าน ICD ที่ท่าม่วง น่าดีใจ ที่ีทางสายแยกเล็ก ๆ มีส่วนในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ

เวลาผ่านไปสุพรรณ ที่ถนนสวยงามมากมาย พร้อมกับสิบล้อวิ่งกันขวักไขว่ บนถนนมาลัยแมน

ยังสงสัยว่าทำไม ไม่พัฒนาระบบขนส่งทางรางในย่านนี้ ที่มีทางรถไฟรองรับอยู่ แม้ว่ารถจักรและล้อเลื่อนจะขาดแคลน แต่เส้นทางก็ไม่ยาวนัก ถ้าจะปรับปรุง เพื่อหวังผลระยะยาว เพราะสายน้ำตก ที่สร้างในยุคสงครามโลกยังพอจะทำได้

เรื่องอย่างนี้ ขึ้นกับวิสัยทัศน์จริง ๆ ครับ

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705

ตอนแรกผมก็คิดว่าในจังหวัดสุพรรณบุรีไม่น่าจะพัฒนาด้านสินค้าได้ แต่จากกระทู้นี้มีหลายๆประเด็นที่สนับสนุนว่าสุพรรณบุรีสามารถยกเอาเรื่องการขนส่งสินค้ามาพิจารณาได้ เพราะผมก้เคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่าถ้าเอารถบำรุงทางมาวิ่งรักษาเส้นทาง แล้วก็ยุบ355/356 เป็นความคิดที่ผิดซะแล้ว ทางที่ดีควรจะเร่งปรับปรุงรางนำรถบทต. รถจักร ไปรับส่งสินค้า และให้ 355/356 เป็นรถรับส่งพนักงาน จะช่วยทั้งรักษา้เส้นทางและสร้างกำไรให้แก่รฟท.อย่างมากเลยครับ หวังว่าคงไม่ได้แต่เป็นเพียงความคิดฝันกลางวันนะครับ

headtrack · Posted: 14/06/2009 1:18 pm Post subject:

ขอยืมภาพมาทะลึ่งหน่อยนะครับ... Twisted Evil

เฮ้อ...น่าเห็นใจ

ถ้าเป็นไปตามแผนการณ์ (สะกดตามดั้งเดิม)
ป่านนี้พิษณุโลกบ้านผมคงเป็นสี่แยกอินโดจีนอย่างสมบูรณ์
ไม่ต้องตะแบงเอาสีข้างเข้าถูเอาป้ายมาปักแล้วยัดเยียดชื่อสี่แยกใหม่ให้...แสบจริงๆ Evil or Very Mad