ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

นายกฯเปิดห้องสมุดรถไฟ ยาหอมทุ่มงบเนรมิตบุรีรัมย์

เดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 11 กรกฎาคม 2552 เวลา 11:13 น

ล่า สุด เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางถึงหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เพื่อเปิดห้องสมุดประชาชนที่สถานีรถไฟ มีประชาชนกว่า 50,000 คน มารอให้การต้อนรับ โดยนายกฯ ได้ทักทายชาวจ.บุรีรัมย์ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและเป็นกันเอง ก่อนขึ้นกล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา และเป็นรัฐบาลที่ไม่เลือกข้าง อีกทั้งยังได้นำงบประมาณมาพัฒนาจ.บุรีรัมย์ 6,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ ถนนหนทาง รวมถึงสถานีอนามัย ซึ่งประชาชนต่างส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือด้วยความดีใจ

สำหรับกำหนด การในลำดับถัดไป นายกฯ และคณะจะเดินทางไปเปิดงานมหกรรมสุขภาพ และมหกรรมของดีบุรีรัมย์ ที่โรงเรียนธารทองพิทยาคม อ.ลำปลายมาศ โครงการถนนไร้ฝุ่น สายบ้านแสลงพัน-บ้านหรองน้ำขุ่น บริเวณโรงเรียนบ้านหองบัว ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ ก่อนจะแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม

ส่วนบรรยากาศล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดตามเส้นทางต่าง ๆ ทั่วทั้งเมือง และมีการรักษาความปลอดภัยขบวนนายกฯ อย่างเข้มงวด มีการตรวจตรารถต้องสงสัยทุกคัน รวมทั้งมีการนำเฮลิคอปเตอร์บินคุ้มกันตลอดเส้นทาง และเพื่อสังเกตการณ์ทางอากาศ.

นายกฯและคณะเดินทางถึงบุรีรัมย์ ใช้ฮ.บินคุ้มกัน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น. วันนี้ ( 11 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ต "ฉันรักประเทศไทย" นำคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานจ.บุรีรัมย์แล้ว โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาให้การต้อนรับภายในสนามบิน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาเข้ม โดยตลอดเส้นทางของการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ จะมีเฮลิคอปเตอร์บินตามขบวนเพื่อรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเช้ายังไม่เห็นกลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุม.

'บุญจง'มั่นใจ'อภิสิทธิ์'เยือนบุรีรัมย์ไร้ปัญหา

เมื่อ เวลา 07.30 น. วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีการเดินทางลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และครม. ว่า ตนมั่นใจว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีการประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับนายกฯ ไว้ทั้งหมดแล้ว อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ต่างก็มีความเต็มใจที่จะให้การต้อนรับนายกฯ เป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากกลุ่มม็อบเสื้อแดงจากจังหวัดอื่น ๆ ที่มีรายงานว่าได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่กระทำการผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที

สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะในสถานที่ซึ่งนายกฯ จะเดินทางไปตรวจงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจสกัดตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งยังมีการนำอาสาสมัคร และ อ.ป.พ.ร. ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการรักษาความปลอดภัย การจราจร และมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจลรองรับอีกกว่า 3 พันนาย ขณะที่ประชาชนที่พื้นที่ได้นำป้ายต้อนรับติดทั่วเมือง ประดับตกแต่งทัศนียภาพเมืองอย่างสวยงาม

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานทหาร (กองบิน6-บน. 6) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมว.ประจำสำนักนายกฯ นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ และนายอิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมฯ ขึ้นเครื่องบินเดินทางยังจ.บุรีรัมย์ เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชน โดยนายกฯ จะเป็นประธานเปิดโครงการห้องสมุดรถไฟ เปิดงานมหกรรมสุขภาพ และมหกรรมของดีบุรีรัมย์ เปิดงานบริการคมนาคมเคลื่อนที่ เปิดโครงการถนนไร้ฝุ่น สายบ้านแสลงพัน - บ้านหนองน้ำขุ่น และตรวจเยี่ยมโครงการปลูกยางพาราและปลูกอ้อย โรงงานในพื้นที่นาดอน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและลดภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน ที่ 9 ต.เมืองแฝก รวมทั้งเปิดป้ายโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำตะโคง

ด้านนายชวรัตน์ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ของนายกฯ ในวันนี้เป็นเรื่องที่ดี และคาดว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ โดยเป็นการส่งสัญญาณที่ดีที่พรรคร่วมรัฐบาลได้มีการทำงานร่วมกัน.

[Wisarut]

รฟท.ประกาศสถานีละแมมีขบวนรถหยุดให้บริการเพิ่ม
สำนักข่าวไทยl อัพเดตเมื่อ 2009-07-15 15:57:35

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. - น.ส.มณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.ได้ประกาศให้ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง 39 และ 41 (กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี-ยะลา) ขบวนรถด่วนพิเศษ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ) และขบวนรถเร็ว 172 (สุไหงโกลก-กรุงเทพฯ) รวม 3 ขบวนหยุดรับส่งผู้โดยสารเพิ่มเติมที่สถานีละแม จังหวัดชุมพร ขบวนละ 1 นาที โดยผู้โดยสารที่จะเดินทางไปที่สถานีดังกล่าวสามารถเลือกใช้บริการรถท้อง ถิ่น รถเร็ว รถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ รฟท.หยุดบริการเพิ่มเติมได้ สอบถามเพิ่มเติมที่สถานีละแม หรือคอลเซ็นเตอร์ 1690 .

[Mongwin]

แดวูสปรินเตอร์จอดละแมด้วยหรือครับ
เยี่ยมจริงๆ

[suraphat]

ข่าวๆนี้เป็นผลงานภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้ไปเปิดห้องสมุดโบกี้รถไฟ ที่บุรีรัมย์นะครับ โดยในระยะแรกๆที่เปิดใช้บริการ ก็มีคนมาใช้บริการมากพอสมควรนะครับ

ข่าวนี้มาจากส่วนของ x-cite ของ หนังสือพิมพ์ thaipost นะครับ
(จาก Linkนี้ : http://www.thaipost.net/x-cite/160709/7801)

แห่เข้าห้องสมุดตู้รถไฟ คนบุรีรัมย์ใช้บริการอ่านหนังสือฆ่าเวลา
16 กรกฎาคม 2552 - 00:00
ห้องสมุดโบกี้รถไฟ "อภิสิทธิ์" ติดอาวุธทางปัญญาคนบุรีรัมย์ หลังทำพิธีเปิดได้ไม่กี่วัน เด็กนักเรียนและคนทั่วไปแห่กันมาใช้บริการอย่างคึกคัก เฉลี่ย 500-1,000 คนต่อวัน เผยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ระหว่างรอรถไฟ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่พบประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ และทำพิธีเปิดห้องสมุดตู้รถไฟ บริเวณสวนสาธารณะ หน้าสถานีรถไฟ เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กนักเรียน นักศึกษา และประชาชนแห่ใช้บริการห้องสมุดตู้รถไฟกันอย่างคึกคัก

สำหรับห้องสมุดตู้รถไฟ ที่จังหวัดบุรีรัมย์เป็นแห่งที่ 2 ของประเทศ มีจำนวน 5 ตู้ ประกอบด้วยตู้ที่ 1 ให้บริการวารสาร นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ตู้ที่ 2 ให้บริการหนังสือทั่วไปและคู่มือเตรียมสอบ ตู้ที่ 3 บริการหนังสือเด็กและเยาวชน โดยมีมุมของเล่น สร้างเสริมทักษะให้กับเด็กด้วย ตู้ที่ 4 ให้บริการหนังสือแนะแนวอาชีพ และหนังสือนวนิยาย และตู้ที่ 5 ให้บริการมุมวิชาการ โดยติดตั้งเป็นรูปตัวยู มีบันไดขึ้นลง 2 ด้าน

นอกจากนี้ ในแต่ละตู้ยังมีการติดพระบรมฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วย

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย ศูนย์การศึกนอกระบบตามอัธยาศัยบุรีรัมย์ (กศน.) และเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุดตู้รถไฟอยู่ประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.30 น.

ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้บริการห้องสมุดตู้รถไฟบุรีรัมย์ ปรากฏว่ามีประชาชนทั้งในและนอกเขตเทศบาล ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา ที่มารอขึ้นรถไฟ และพ่อแม่ผู้ปกครองที่มารอรับบุตรหลาน ได้สนใจมาใช้บริการอ่านหนังสือและศึกษาค้นคว้าหาความรู้ รวมทั้งเด็กได้มาเล่นของเสริมทักษะในห้องสมุดรถไฟเป็นจำนวนมาก และคาดว่าตลอดทั้งวันจะมีผู้คนหมุนเวียนมาใช้บริการไม่น้อยกว่า 1,000 คน

น.ส.พานทอง ดีสม นักเรียนโรงเรียนกระสังพิทยาคม อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่มารอรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผู้ใช้บริการนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดรถไฟบอกว่า แทนที่จะไปเที่ยวหรือไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อฆ่าเวลารอเวลารถไฟ หากใช้เวลาว่างดังกล่าวมาอ่านและศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในห้องสมุดจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้เพิ่มหนังสือประเภทที่มีสาระ ทั้งความรู้ทั่วไปที่สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัยให้มากขึ้น ก็จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้คนที่มาใช้บริการ

ด้านนางอนงค์สุดา ลิไธสง ผู้ใช้บริการห้องสมุดรถไฟ กล่าวว่า ปกติจะมารอรับบุตรหลานที่สถานีรถไฟเป็นประจำ ซึ่งโครงการห้องสมุดรถไฟดังกล่าวถือเป็นโครงการที่ดีมากเพราะผู้ปกครองที่รอรับเด็กจะได้ใช้เวลาว่างมาศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในห้องสมุดแห่งนี้ แต่ก็อยากให้มีการเพิ่มสื่อทางด้านวิชาการ และอยากให้ขยายสถานที่ให้มากกว่านี้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เพื่อจะได้รองรับจำนวนผู้คนที่มาใช้บริการ ซึ่งคาดว่าจะมีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก็อยากขอบคุณรัฐบาลที่ได้จัดทำห้องสมุดแห่งนี้ขึ้น เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก

ขณะที่นางราตรี ใสบุญธรรม บรรณารักษ์ห้องสมุดรถไฟ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการห้องสมุดพบว่า มีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก เฉลี่ยวันละ 500-1,000 คน ส่วนมากจะเป็นเด็ก นักเรียน และประชาชนที่มารอขึ้นรถไฟ ส่วนหนังสือที่ให้บริการภายในห้องสมุดกำลังเร่งจัดหาให้เพียงพอผู้ใช้บริการ ส่วนเนื้อหาสาระหนังสือจะเน้นไปทุกกลุ่มเป้าหมาย.

////////////////

[Wisarut]

เล็งตั้งสถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟที่ฝูงบิน 237 อ.น้ำพอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กรกฎาคม 2552 19:02 น.



คณะ กรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร นำทีมคณะกรรมาธิการคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและพิจารณาเรื่องการพัฒนาท่าอากาศยานฝูงบิน 237
และการจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางขนส่งเชิงพาณิชย์



สถานีโนนพยอม สถานีที่คึณะกรรมาธิการหมายใจให้เป็นจุดเริ่มทางแยกเข้า สถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟที่ฝูงบิน 237 อ.น้ำพอง


นายปัญญา ศรีปัญญา ปธ.กมธ.คมนาคม





ศูนย์ข่าวขอนแก่น-กมธ.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและพิจารณาเรื่องการพัฒนาท่าอากาศยานฝูงบิน 237 และการจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งเชิงพาณิชย์ พร้อมนัดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมการคิดเห็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายปัญญา ศรีปัญญา ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร นำทีมคณะกรรมาธิการคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและพิจารณาเรื่องการพัฒนาท่าอากาศยานฝูงบิน 237 และการจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางขนส่งเชิงพาณิชย์ การประชุมเพื่อพิจารณาโครงการดังกล่าวครั้งนี้คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมการคิดเห็น

ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเปิดเสรีการบินและส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นการที่จะพัฒนาท่าอากาศบานฝูงบิน 237 เป็นสนามบินสาธารณะเพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปนั้น สามารถดำเนินการได้ ดังเช่นที่กรมการขนส่งทางอากาศและบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน )

โดยล่าสุดศูนย์ควบคุมการบินรับทราบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สามารถสร้างเพิ่มอีกแห่ง จากที่ปัจจุบันสนามบินขอนแก่น รองรับความต้องการผู้โดยสารไม่เพียงพอ มองว่าอีก 4 – 5 ปี ตัวเมืองจังหวัดขอนแก่นจะขยายตัวมากกว่านี้ การลงทุนช่วงนี้น่าจะสามารถลดคอสต์ก่อสร้างได้

สำหรับการพัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานฝูงบิน 237 เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องลงทุนก่อสร้างและพัฒนาเพื่อให้เกิดความ พร้อมตามมาตรฐานสากล ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก และสนามบินอาจก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับชุมชนใกล้เคียงในเรื่อง เสียงและมลพิษทางอากาศ ขณะที่ในพื้นที่ดังกล่าวมีท่าอากาศยานที่อยู่ในระยะใกล้เคียงกันถึง 2 แห่งที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว และท่าอากาศยานเหล่านี้ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มขีดความสามารถ

ดังนั้นหากจะพัฒนาท่าอากาศยานฝูงบิน 237 ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากับท่าอากาศยานฝูงบิน 23 7 เอง และท่าอากาศยานที่มีอยู่เดิมบริเวณใกล้เคียงใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มขีดความ สามารถ และนำไปสู่ปัญหาการขาดทุนเหมือนที่เกิดขึ้นกับท่าอากาศยานภูมิภาคจำนวนกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาจไม่สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศและโลกที่ยังชะลอตัว จึงต้องมีการระดมความเห็น พิจารณาถึงความจำเป็นอย่างรอบด้านอีกหลายครั้ง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าต่อการลงทุน และประโยชน์ในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้เสีย และสังคม ประเทศโดยรวม

[suraphat]

ข่าวๆนี้ คงจะทำทำให้ภาพลักษณ์ด้านการให้บริการของทางการรถไฟกระเทือนกันบ้าง ในส่วนของพวกเรานั้นคิดกันอย่างไร ก็ลองไปปะเมินกันเองว่าเป็นอย่างไรกันบ้างนะครับ

จากคอลัมน์ "สารพันปัญหา" โดยอ๊อด เทอร์โบ หน้าที่ 6 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 27 กรกฎาคม 2552

สำหรับรายละเอียดของข่าวนี้มีดังนี้

“สารพันปัญหา”มีจดหมายร้องเรียนถึงบริการ รฟท. ซึ่งสมควรต้องได้รับการปรับปรุงและอยากให้ผู้ว่า “ยุทธนา ทัพเจริญ” พิจารณา.

กิจการรถไฟนั้นเริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ มาจนบัดนี้ปรากฏว่าไม่ได้มีการพัฒนาให้ทันสมัยหรือเจริญทัดเทียมกับประเทศอื่นๆที่เริ่มมาพร้อมๆกับเรา

ข่าวที่เราทราบกันอยู่ทุกวันนี้ก็คือการขาดทุนหรือการประท้วงหยุดงานไม่เห็นมีข่าวในเชิงสร้างสรรค์ ที่แสดงให้เห็นว่า รฟท. กำลังทำอะไรที่ดีขึ้น
อ๊อด เทอร์โบ

เรื่อง ขอร้องเรียนการบริการของพนักงานรถไฟขบวนหนองคาย-กรุงเทพฯ
เรียน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผ่านคุณอ๊อด เทอร์โบ)
สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาตั๋วรถไฟ อุดรธานี-กรุงเทพฯ

กระผมพันเอกAAA ขออนุญาตเรียนชี้แจงเกี่ยวกับการให้บริการหรือพฤติกรรมที่แย่มากๆ ของพนักงานตรวจตั๋วที่ชื่อนาย XXX ไม่ได้ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถด่วนพิเศษ(๗๐) จากหนองคายปลายทางกรุงเทพฯ ในวันที่ 21 ก.ค. 52 กล่าวคือลูกชายของกระผมพร้อมกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 ได้โดยสารรถไฟขบวนดังกล่าวในชั้น 2 ตู้นอนแอร์ ตู้คันที่ 4 เลขที่ 18 จากสถานีต้นทางคือ อุดรธานี เพื่อกลับมายังกรุงเทพฯ โดยขบวนรถดังกล่าวได้ออกจากอุดรธานีในเวลา 19.20 น.

แต่พอพนักงานตรวจตั๋วที่ชื่อนายXXXได้ตรวจตั๋วมาถึงตู้คันที่ 4 ปรากฏว่าตั๋วโดยสารของลูกชายกระผมหาย(หล่นไปอยู่ในซอกเบาะมาค้นพบในตอนเช้าขณะเก็บเตียง) ซึ่งลูกชายก็ได้พยายามหา แต่ไม่พบในขณะนั้น ทำให้นายXXXเกิดความไม่พอใจ และได้ต่อว่าลูกชายของกระผมว่าสะเพร่า ไม่เก็บตั๋วให้ดี โดยใช้น้ำเสียงและกริยาที่ไม่สุภาพ

เมื่อรถไฟมาถึงสถานีกุมภวาปี นายXXXได้ให้ลูกชายของกระผมซื้อตั๋วโดยสารใหม่ ซึ่งลูกชายของกระผมก็ได้ปฏิบัติตามทุกอย่าง เพราะเข้าใจดีว่าเป็นระเบียบระเบียบการปฏิบัติของ รฟท. จนกระทั่งเช้าวันที่ 22 ก.ค. 52 พนักงานได้มาเก็บเตียงจึงได้พบตั๋วที่หายไปหล่นอยู่ในซอกเบาะ ลูกชายของกระผมจึงได้เดินไปถามนายXXXว่าได้เจอตั๋วที่หายแล้ว จะทำเรื่องขอคืนค่าโดยสารได้หรือไม่ อย่างไร แต่ปรากฏว่านายXXX นอกจากจะไม่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนแล้ว ยังได้แสดงกริยาและน้ำเสียงที่ไม่สุภาพเหมือนเดิม ทั้งๆที่ลูกชายของกระผมและเพื่อนๆ ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารได้พูดจาที่สุภาพและลงท้ายด้วยคำว่า”ครับ” กับนายXXXด้วยทุกครั้ง

กระผมได้เดินทางไปรอรับลูกชายที่สถานีหัวลำโพงพอลูกชายได้เดินทางมาถึงในตอนเช้าของวันที่ 22 ก.ค. 52 จึงได้เล่าเหคุการณ์ให้ฟัง กระผมจึงได้ไปทำเรื่องขอคืนค่าโดยสารที่ชองขายตั๋วหมายเลข 1 ซึงเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า ต้องเขียนคำร้องให้ รฟท.พิจารณาโดยใช้เวลานานประมาณ 45 วัน และแนะนำว่าหากจะแจ้งเรื่องพฤติกรรมของพนักงานก็ให้เดินไปแจ้งกับฝ่ายประชาสัมพันธ์เอาเอง กระผมไม่อยากเสียเวลา จึงไม่ได้ยื่นคำร้อง คิดซะว่าทำบุญไป แต่สิ่งที่กระผมเสียความรู้สึกมากๆก็คือ การบริการและพฤติกรรมที่แย่มากๆ

กระผมเองก็ไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไรดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคนที่โดยสารรถไฟเป็นประจำก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าใครจะเอาเรื่องเอาราวหรือไม่เท่านั้นเอง และกระผมไม่แปลกใจเลย ว่าทำไม รฟท. ถึงไม่ได้พัฒนาเหมือนประเทศอื่นๆ คิดแล้วก็ได้แต่เศร้าใจจริงๆ สงสารประเทศไทยเหลือเกิน จึงฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการให้ด้วยโดยเฉพาะการให้บริการของนายXXX อย่าให้ไปแสดงอย่างนี้กับใครอีกเลย

ขอแสดงความนับถือ
พันเอกAAA

ทั้งนี้กระผมขอปกปิดชื่อของคู่กรณีกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อที่จะได้เก็บกรณีที่ว่านี้ไว้ศึกษาได้ต่อไป นะครับ

--------------
สำหรับความเห็นของกระผมที่มีต่อกรณีนี้นั้น กระผมเห็นว่าพนักงานรถไฟนั้นได้กระทำการอย่างถูกต้องตามระเบียบแล้ว

ซึ่งนี่ยังดีนะที่ พนักงานผู้นี้ได้บอกให้ผู้โดยสารได้ไปซื้อตั๋วฉบับใหม่กันที่สถานีที่ขบวนรถนี้หยุดถัดไป(คือที่สถานีกุมภวาปีนะครับ)

ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่กรณีที่ให้ผู้โดยสารรายนี้ต้องมาซื้อตั๋วกันบนขบวนรถโดยเสียค่าปรับเป็นการเพิ่มเติมนะครับ

และกรณีนี้กรณีศึกษาได้กรณีหนึ่งว่าเมื่อขึ้นโดยสารโดยไม่มีตั๋วโดยสารมาให้ตรวจแล้ว จะมีผลกันเป็นอย่างไรบ้างนะครับ

[pattharachai]

พี่น้อยครับ
ประเด็นตามข่าวน่าจะแยกออกเป็นสองประเด็น

1.การปฏิบัติตามระเบียบเรื่องตั๋วโดยสาร

2.กิริยาวาจาของพนักงาน

[suraphat]

[BanPong1]

เพลิงเผาหัวจักรรถไฟโชคดียังดับทัน
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
วันจันทร์ ที่ 03 สิงหาคม 2552 เวลา 6:56 น

เนื้อหาข่าว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ส.ค. พ.ต.ท.ศศิพงศ์ รุ่งสัมพันธ์ สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้หัวรถจักรที่สถานีรถไฟเล็ก เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จึงแจ้งรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองราชบุรี และหน่วยกู้ภัย รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบขบวนรถไฟ ธรรมดา ชั้น 3 สายธนบุรี-หลังสวน ขบวนที่ 255 จอดอยู่ที่สถานีรถไฟเล็ก สภาพหัวรถจักรเลขที่ 4143 มีควันไฟโขมงอยู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันฉีดน้ำสกัด เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังโบกี้ผู้โดยสารจำนวน 8 โบกี้ ซึ่งมีผู้โดยสารมาเต็ม หลังจากฉีดน้ำอยู่นานประมาณ 50 นาทีไฟจึงสงบ ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

สอบสวนนายสุรัส ครุธคำรพ อายุ 47 ปี พขร.ประจำขบวนรถไฟให้การว่า รถไฟขบวนนี้วิ่งออกจากสถานีรถไฟธนบุรีเมื่อเวลา 08.30 น. โดยมีนายวรเดช สุคนธพฤกษ์ เป็นช่างเครื่องมีจุดหมายปลายทางที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ระหว่างทางขณะรถไฟกำลังจะแล่นเข้าสถานีรถไฟเล็ก จู่ ๆ ก็เกิดไฟไหม้และควันโขมงออกมาจากห้องเครื่องบริเวณหัวรถจักร ตนจึงพยายามประคองรถไฟมาจนถึงสถานีรถไฟเล็ก เพราะอยู่ใกล้สถานีดับเพลิงของเทศบาลเมืองราชบุรี ก่อนจะแจ้งนายสถานีรถไฟทราบเหตุ และแจ้งรถดับเพลิงมาทำการดับไฟดังกล่าว ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าไฟที่ลุกไหม้เกิดจากหม้อกรองอากาศที่ร้อนจัด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจะได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

ต่อมานายสัมฤทธิ์ อินทร์รุ่ง ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟเล็ก ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือทราบ หลังจากนั้นได้ดำเนินการใช้หัวรถ จักรขบวนที่ 261 กรุงเทพฯ-หัวหิน มาดันขบวนที่ 255 เข้าจอดยังราง 2 รอเปลี่ยนหัวรถจักรเพื่อเดินทางต่อไปยัง อ.หลังสวน ต่อไป.

_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/

comment:
สงสัยมากครับว่า "สถานีรถไฟเล็ก" ที่ราชบุรี อยู่ตรงไหนหรือครับ
_________________

[pattharachai]

คงเป็นป้ายหยุดรถสะพานจุฬาลงกรณ์ ซึ่งคงจะเรียกติดปากกันว่า สถานีเล็ก

เมื่อวาน ที่เกิดเหตุ ช่วงเช้า ขบวน 178 (ชุดรถเดียวกับ 255) ก็มีปัญหาที่รถจักรดีเซล จนต้องเอาพ่วงรวมกับ ขบวน 352 ตั้งแต่นครชัยศรี-ธนบุรี สำหรับรถจักรที่ทำ 255 เป็นรถจักร 4143 ที่ทำขบวน 352 เข้าไปธนบุรีตอนเช้านั่นเองครับ อย่างนี้เข้าข่ายซวยซ้ำซวยซ้อนไหมเนี่ย