RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:318627
ทั่วไป:28650413
ทั้งหมด:28969040
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 299, 300, 301  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 01/07/2009 10:28 pm    Post subject: Reply with quote

ูููู^^^^
ผลประโยชน์มันแบ่งไม่ลงตัวครับ เลยตต้องโดยเรื่องกลับไปกลับมา
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49407
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/07/2009 9:03 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯ สั่ง สนข.-คมนาคมรื้อแผนแม่บทโลจิสติกส์ทั้งระบบ

ทำเนียบฯ 1 ก.ค.52 - ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ให้ สนข. และ ก.คมนาคม ศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางทั่วประเทศ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีมติให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกระทรวงคมนาคม กลับไปศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางทั่วประเทศ และระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบ ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ ก่อนนำกลับมาเสนออีกครั้ง

“นายกรัฐมนตรีให้แนวทางว่า รัฐยังคงยืนยันมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้มีการจัดตั้งบริษัทเดินรถเป็นบริษัทลูก แยกการบริหารจัดการเรื่องการเดินรถออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อย่างชัดเจน พร้อมทั้งให้หาผู้เข้ามาเป็นเจ้าภาพ ทำความเข้าใจกับสหภาพแรงงานฯ รฟท. ที่ร้องคัดค้านการตั้งบริษัทลูกดังกล่าว เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลาย และให้สามารถเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ ภายในปลายปีนี้ เพราะถือเป็นโครงการที่จะสร้างความมั่นใจให้กับไทยในสายตาชาวต่างชาติได้” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาถึงความเหมาะสมด้านการลงทุนและผลประโยชน์ในการดำเนินการอย่างละเอียด โดยเฉพาะการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนประเทศจีน จึงได้ทราบข้อมูลว่า จีนเปลี่ยนแผนการก่อสร้างรถไฟจากเดิมที่จะสร้างผ่านพม่าเข้าเชียงของ มาสร้างผ่านเวียดนาม กัมพูชา ซึ่งอาจทำให้ไทยต้องพัฒนาระบบรางฝั่งอรัญประเทศ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น รวมถึงศึกษาการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลัก 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา พิษณุโลก ชลบุรี และเพชรบุรี. - สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-07-01 17:26:55
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2009 4:03 am    Post subject: Reply with quote

เขย่าแผนแม่บท รถไฟ-รถไฟฟ้า ดีเดย์ 1 เดือนโฟกัสโปรเจ็กต์เร่งด่วนสปีดลงทุน

ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 4120 วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
Click on the image for full size

1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ รัฐบาลมาร์ค 1 ได้พิจารณาแผนการลงทุนระบบรางของกระทรวงคมนาคม ทั้งรถไฟและรถไฟฟ้า สานแผนเดิมที่รัฐบาลสมัครเคยอนุมัติไว้ หลังรับทราบถึงความคืบหน้าแต่ละโครงการ ครม.เศรษฐกิจได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำ รายละเอียดเพิ่มเติมภายใน 1 เดือน เพื่อให้ได้ภาพชัดเจนเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น และนำเสนออีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้

ปูพรมทางคู่ทั่วประเทศเชื่อมเพื่อนบ้าน

โดยให้จัดทำแผนแม่บทรถไฟทางคู่ ทั่วประเทศ เชื่อมต่อเส้นทางเดิมที่มีอยู่กว่า 4,000 กิโลเมตร เร่งรัดพัฒนาเส้นทางคู่สายตะวันออก คือรถไฟทางคู่ช่วง

1. ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร วงเงิน 10,900 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างทบทวนผลการศึกษา
2. ทางคู่สายขอนแก่น-นครราชสีมา-แก่งคอย และ
3. นครสวรรค์-ลพบุรี

ขณะเดียวกันให้คมนาคมไปเปรียบเทียบความคุ้มค่ารางขนาด 1 เมตร กับ 1.435 เมตร เพราะในอนาคตจะเปิดให้เอกชน เข้ามาร่วมลงทุนเดินรถสินค้าและโดยสาร

ส่วนการพัฒนาทางรถไฟสายประธาน จะก่อสร้างทางจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไป อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะขอ แปรญัตติเพิ่มเติมงบประมาณปี 2553 เนื่องจากเส้นทางนี้จะเชื่อมต่อกับระบบ ทางรถไฟของจีนได้ พร้อมกับให้ไปศึกษาว่าจะสร้างผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือกัมพูชา - (จริงๆ น่าจะหมายถึงพม่ามากกว่าเต่คนข่าวมติชนท่าจะมึน)


"โสภณ ซารัมย์" รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปหารือรัฐบาลจีน เกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟ ที่จีนต้องการเชื่อมต่อเส้นทางมายังประเทศไทย เพื่อขอความชัดเจน โดยปลายกรกฎาคมนี้ตนจะเดินทางไปหารือเรื่องนี้กับจีน

ดันรถไฟความเร็วสูงไป 4 หัวเมืองหลัก

นอกจากนี้ให้จัดทำรายละเอียดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเท รน 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง เชื่อมหัวเมืองหลัก ห่างจากกรุงเทพฯรัศมี 200-300 กิโลเมตร เบื้องต้นมี 4 เส้นทาง คือ

1. กรุงเทพฯ-หัวหิน
2. กรุงเทพฯ-นครสวรรค์
3. กรุงเทพฯ-จันทบุรี และ
4. กรุงเทพฯ-โคราช งบฯ 37.5 ล้านบาท

แก้จุดตัดทางรถไฟ 2,400 จุดทั่วประเทศ

อีกเรื่องที่เร่งรัด คือการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศ 2,400 จุด ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้งบประมาณไม่เพียงพอ โดยเสนอขอติดตั้งเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัติ 988 จุด วงเงิน 4,372.2 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2553 แต่ได้รับอุดหนุนเพียง 70 จุด

นอกจากนี้ให้ ร.ฟ.ท.เร่งซ่อมบำรุงคันทาง โดยจะดำเนินการ 2 เส้นทางก่อน คือ

1. โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 ช่วงแก่งคอย-แก่งเสือเต้น-สุรนารายณ์-บัวใหญ่-ชุมทางถนนจิระ รวม 308 กิโลเมตร วงเงิน 8,498 ล้านบาท และ
2. โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ช่วงชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย 278 กิโลเมตร 6,769 ล้านบาท

รวมทั้งซื้อรถจักรและโบกี้บรรทุกตู้สินค้า ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.มีแผนจะจัดหารถจักร 20 คัน วงเงิน 1,920 ล้านบาท และรถแคร่อีก 308 คัน วงเงิน 1,061 ล้านบาท

จี้คลอดแผนแม่บทรถไฟฟ้า

ด้านระบบขนส่งมวลชน เดดไลน์ในสิงหาคมนี้ แผนแม่บทรถไฟฟ้าที่ปรับปรุงใหม่จากเดิม 7 สาย จะต้องแล้วเสร็จ เพื่อเร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยเฉพาะสายสีชมพู จากแคราย-มีนบุรี เพื่อรองรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

อย่างไรก็ตาม แผนที่ สนข.ศึกษาไว้ ยังไม่สรุปว่าจะมีกี่สาย แต่มีทั้งหมด 384.1 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 8 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะ 5 ปีแรก มีบางสายเริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่น

1. สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่เปิดประกวดราคาเสร็จแล้ว
2. สายสีน้ำเงินและสีเขียว 2 สาย กำลังรอเงินกู้ (ดูตาราง)

ส่วนระยะที่ 2 (ปี 2558-2562) มี
1. สายสีแดง ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ 10 กิโลเมตร
2. สีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี 34.5 กิโลเมตร
3. สายสีส้ม ช่วงบางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี 32 กิโลเมตร จะเร่งสร้าง สายบางบำหรุ-ศูนย์วัฒนธรรมก่อน
4. สายสีแดง ช่วงหัวลำโพง-ตากสิน-(มหาชัย) 36 กิโลเมตร
5. ช่วงมักกะสัน-ยมราช-ราชดำเนิน-บางกอกน้อย-ตลิ่งชัน 10.5 กิโลเมตร

ซึ่งสายนี้ สนข.บูรณาการมาจากส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬา-พรานนกเดิม สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ 19.8 กิโลเมตร [ฟื้นแผนของผู้ว่าสมหมาย ตามไทย หละสินะ]

ระยะที่ 3 (2563-2572) มี
1. สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-พัฒนาการ และช่วงพัฒนาการ-สำโรง 30.4 กิโลเมตร
2. สายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสายสี่ 8 กิโลเมตร
3. สายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกาคลองห้า 7.6 กิโลเมตร
4. สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู 9.5 กิโลเมตร และ
5. สายสีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม 4-สะพานพระรามเก้า 26 กิโลเมตร

"สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์" ผู้อำนวยการ สนข.กล่าวว่า แผนแม่บทรถไฟฟ้าฉบับใหม่ จะต่อขยายเส้นทางบางสายไปชานเมืองมากขึ้น และเร่งบางสายให้เร็วขึ้น เช่น สายสีเขียว จากสะพานใหม่-ลำลูกกาคลอง 5 จะสร้างช่วงสะพานใหม่-คูคตก่อน ส่วนที่เหลือไปลำลูกกาจะเป็นระยะต่อไป

สำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2 ช่วง คือหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ "โสภณ" ว่าที่ประชุมยืนยันตามมติ ครม.เดิม คือคมนาคมก่อสร้าง ส่วนการเดินรถ ที่ประชุมให้หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.)

หน้า 7
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 49407
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/07/2009 12:37 pm    Post subject: นายกรัฐมนตรียืนยันเดินหน้าพัฒนาขนส่งระบบราง Reply with quote

นายกรัฐมนตรียืนยันเดินหน้าพัฒนาขนส่งระบบราง

ทำเนียบฯ 5 ก.ค.52- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” วันนี้ (5 ก.ค.) ถึงการลงทุนในการขนส่งระบบราง โดยในช่วงของปฏิบัติการไทยเข้มแข็งนั้น จะดำเนินการในหลายเรื่อง ประกอบด้วย การปรับปรุงสภาพของระบบรางรถไฟทั่วประเทศ เดินหน้าต่อโครงการรถไฟรางคู่ในเส้นทางหลักๆ พิจารณาความเหมาะสมในการทำรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางรอบๆ กรุงเทพฯ และการเชื่อมโยงกับเครือข่ายของอาเซียน

“สัปดาห์หน้า ผมจะเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม เพื่อพูดคุยในการเปิดพื้นที่ให้สามารถขนส่งสินค้าผ่านเวียดนามไปออกทะเลได้ สำหรับกรุงเทพฯ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการปรับปรุงแผนแม่บทเรื่องระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะเส้นทางต่อขยายของรถไฟฟ้า ไม่ว่าจากสะพานใหม่ขึ้นไปจนถึง จ.ปทุมธานี หรือทางทิศตะวันออกที่ออกไปสู่ จ.สมุทรปราการ เป็นต้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว. -สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-07-05 11:16:29
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2009 7:28 pm    Post subject: Reply with quote

“มาร์ค” เร่งแผนต่อรถไฟฟ้า เหนือถึงปทุม-ตอ.ถึงปากน้ำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กรกฎาคม 2552 10:06 น.

“อภิสิทธิ์” เดินหน้าปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ ทั้งการปรับปรุงการขนส่งระบบราง ทำรถไฟราง คู่ แผนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าใน กทม.ทั้งทางด้านทิศเหนือ จากสะพานใหม่ถึงปทุมธานี และด้านตะวันออกไปถึงสมุทรปราการ ส่วนเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน มีข้อเสนอตั้งบริษัทลูกขึ้นมาจัดการ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์ ถึงงานของรัฐบาลในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า การเข้ามาทำงานของรัฐบาลนั้น เป็นการทำงานที่มองไปในระยะยาวด้วย ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สำคัญในแง่ของเศรษฐกิจและสังคมไทย

ทั้งนี้ ภาพรวมของความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ องค์กรที่เขาจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศปีนี้ได้ขยับให้ ประเทศไทยดีขึ้นมา 1 อันดับ จากอันดับที่ 27 เป็นอันดับที่ 26 แต่ว่าตนได้พูดคุยกับทาง ครม.แล้ว เห็นว่า ยังเป็นตัวเลขที่เราไม่ควรจะพึงพอใจ เพราะเชื่อว่าเราน่าจะมีศักยภาพสูงกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงได้มีการจัดการประชุมสัมมนา ระดมภาคเอกชน ภาควิชาการ ที่สำคัญคือ ได้ผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ในเรื่องของการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการจัดอันดับเข้ามาประชุมเป็นเวลา 2 วัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้คำแนะนำ เอาประสบการณ์จากประเทศต่างๆ มาเพื่อเป็นแนวทางในการนำทาง เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และสร้างโอกาสทางด้านการค้า การลงทุน รวมไปถึงการท่องเที่ยวสำหรับประเทศต่อไป

นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสไปเปิดงาน และได้ติดตามจากทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้าไปร่วมในการสัมมนา ก็ได้ข้อคิดเห็น ได้แนวทางที่เป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 นี้ ก็ได้เน้นย้ำไปว่าในแผนฉบับใหม่นี้ เราจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ หนึ่งเรื่องของภาคการเกษตรในการที่จะต้องเป็นผู้ผลิตอาหาร และพลังงานทดแทนที่สำคัญ โดยจะทำต่อเนื่องจากปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งกำลังมีการลงทุนในเรื่องของแหล่งน้ำ ที่จะทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์ สามารถผลิตผลผลิตทางการเกษตรได้เพิ่มขึ้นต่อไร่ และสัปดาห์หน้า จะลงพื้นที่ภาคอีสาน ไปดูในเรื่องของแหล่งน้ำด้วย เพื่อที่จะให้การผลักดันไทยเข้มแข็งนั้นเป็นไปตามเป้าหมาย

**คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงเรื่องของภาคบริการการท่องเที่ยว ว่า เรายังมีความสามารถในการที่จะเติบโตอีกมาก เพียงแต่ว่าเราต้องปรับปรุง พูดง่ายๆ คือ สินค้าของเรา ยี่ห้อของเรา และเพิ่มความหลากหลายในเรื่องของการท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมๆ กันไปก็มีในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเน้นในเรื่องของความคิดที่สร้างสรรค์ เราจะปรับปรุงในเรื่องของการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เสริมในเรื่องของการวิจัยพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และขณะนี้คณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา ก็จะปรับบทบาทเข้ามาเสริมในเรื่องของเศรษฐกิจ ที่อิงกับความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ตรงนี้ต่อไปด้วย อันนี้ก็เป็นจุดหนึ่งซึ่งได้มีการดำเนินการในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

**เดินหน้าโครงการรถไฟรางคู่
นายกฯ กล่าวอีกว่า พร้อมๆ กันไปการลดต้นทุนของอุตสาหกรรม ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ในเรื่องของโลจิสติกส์ ก็มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่สำคัญที่สุดประการแรก คือ การลงทุนในการขนส่งระบบราง โดยจะปรับปรุงสภาพของระบบรางรถไฟทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ทรุดโทรมไปมาก ก็จะใช้เงินจากโครงการไทยเข้มแข็งนี้ ทำหน้าที่ในการฟื้นฟูและปรับปรุงรางตรงนี้ให้สามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประการที่ 2 ในเส้นทางหลักๆ จะเดินหน้าต่อในโครงการของรถไฟรางคู่ ซึ่งจะทำให้การเดินรถไฟ สามารถที่จะเพิ่มความรวดเร็ว เพิ่มเที่ยวที่จะบริการประชาชนทั้งในเรื่องของการเดินทาง ทั้งในเรื่องของการขนส่งสินค้า ได้พร้อมๆ กันไป

ประการที่ 3 จะมีการพิจารณาในเรื่องของเส้นทางบางเส้นทาง ในส่วนของบริเวณรอบๆ กรุงเทพฯว่ามีความเหมาะสมที่จะทำเป็นรถไฟความเร็วสูงหรือไม่

ประการที่ 4 คือ เรื่องของการเชื่อมโยงกับเครือข่ายของอาเซียน ซึ่งเชื่อมต่อไปจนถึงทางตอนใต้ของจีน และลงไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ กำลังจะมีการดูแลว่า เส้นทางไหนจะเป็นเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม เพื่อที่จะเชื่อมโยงกับทางเวียดนามด้วย แล้วจะได้วางแผนในเรื่องของการกำหนดเครือข่ายที่จะทำให้ไม่เพียงแต่พี่น้อง ประชาชนคนไทยสามารถใช้รถไฟ หรือเดินทางด้วยระบบรางได้อย่างรวดเร็ว สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ว่าสามารถที่จะเปิดพื้นที่ อย่างเช่น ภาคอีสาน ก็สามารถที่จะออกทะเลผ่านทางท่าเรือ อาจจะเป็นทางเวียดนามหรือทางอื่นๆ ได้ และ ตามแนวตะวันตก ตะวันออก ที่จะมีการพัฒนา อันนี้ก็เป็นงานสำคัญที่ได้มีการดำเนินการไป

**ขยายระบบขนส่งมวลชนใน กทม.
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงงานในส่วนของ กทม.ว่า ภายในเดือน ส.ค.นี้ จะมีการปรับปรุงแผนแม่บทในเรื่องระบบขนส่งมวลชน คือ เส้นทางต่อขยายของรถไฟฟ้าที่มีอยู่ โดยเฉพาะที่ กทม.ดูแลอยู่ และกำลังจะมีการต่อไปทางทิศเหนือ จากสะพานใหม่ ขึ้นไปจนถึงปทุมธานี หรือ ทางทิศตะวันออก ที่ออกไปสู่ทางสมุทรปราการ ก็จะดูแลว่า ทำอย่างไร กทม.กระทรวงที่เกี่ยวข้อง และรวมถึงองค์กรท้องถิ่นในจังหวัด ในปริมณฑล สามารถมาทำงานร่วมกัน และระบบที่ต่อขยายไปไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้โดยสาร ในแง่ของระบบตั๋ว หรือระบบการเชื่อมโยง และมี 2 เส้นทาง ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะต้องมีการมาศึกษาดูเพิ่มเติมจากที่เคยกำหนดไว้ในอดีต เส้นทางหนึ่ง คือ การต่อออกจากบางกะปิ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงเข้ามาตรงใจกลางเมืองอยู่แล้วไปถึงมีนบุรี และอีกเส้นทางหนึ่งคือ เชื่อมจากมีนบุรีไปตามแนวของรามอินทรา มาจนถึงศูนย์ราชการ ก็จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม ในการที่จะเพิ่มเติมเส้นทางนี้เข้าไปในแผนแม่บทของระบบรางของขนส่งมวลชนใน กรุงเทพมหานคร ด้วย
//-----------------------------------------------------------------

คลังขอกู้นอก7หมื่นล้านเดือนหน้า
Post Today วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คลังเร่งทำสัญญากู้ต่างประเทศ 7 หมื่นล้าน ชงสภา ไฟเขียวเซ็นสัญญาส.ค.นี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะนำเงื่อนไขในสัญญากู้เงินจากต่างประเทศ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 7 หมื่นล้านบาท เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทันทีที่เปิดสมัยการประชุมในเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้ครบองค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 190

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เมื่อสภาเห็นชอบให้เซ็นสัญญาได้ คาดว่าภายในปีนี้จะเริ่มกู้เงินทั้งหมด โดยเงินส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งที่มีมูลค่าสูงถึง 1.56 ล้านล้านบาท เป็นเงินเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงินในประเทศรวมกัน 8 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ เงินกู้จาก 3 สถาบันการเงินต่างประเทศ ประกอบด้วย

1. ธนาคารโลกจำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
2. ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และ
3. องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจกา) 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่ใช้สร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วง และสายสีแดงเป็นหลัก

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเจรจาเงื่อนไขเงินกู้กับธนาคารโลกได้สรุปเรียบร้อยแล้ว มีอัตราดอกเบี้ยตลาดลอนดอน (LIBOR) เฉลี่ย 6 เดือน บวกเพิ่มอีกเล็กน้อย ส่วนเงินกู้จากเอดีบีและไจกาคิดอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับธนาคารโลก ซึ่งมีระบบการกลั่นกรองการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดอยู่แล้ว

นายเกริกชัย ชัยธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภาครัฐมีความสามารถในการใช้เงินมากที่สุด จึงต้องเข้ามามีบทบาทหลักในการใช้จ่าย โดยเฉพาะงบประมาณตามพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ควรเร่งรัดให้เงินลงไปในระบบให้เร็วที่สุด เมื่อรัฐบาลขยับประชาชนก็จะเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยตามมา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2009 11:02 pm    Post subject: Reply with quote

สนข.เขย่าแผนแม่บทสนอง “มาร์ก” รื้อแผนสร้างรถไฟฟ้าทั้งระบบ
โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 9 กรกฎาคม 2552 15:39 น.
สนข.เขย่าแผนแม่บทอีกรอบหลัง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ท้วงสายสีชมพู-ส้มมาแต่หัว ยังไม่มีรายละเอียด สั่งสนข.ปรับแผนแม่บททั้งรถไฟฟ้า--รถไฟ ทางคู่ครั้งใหญ่ ก่อนเสนอเข้า ครม. คาดส.ค.นี้แล้วเสร็จ ด้าน รฟม.เล็งโยกงบศึกษาวงแหวนรัชดา 400 ล้านบาท มาศึกษาสายสีชมพู-ส้ม อ้างไม่คุ้มทุนหากก่อสร้างเป็น Loop ด้านสายสีน้ำเงินพร้อมสร้างทันทีหากได้เงินกู้ ส่วนสายสีเขียว กทม.ได้ทีประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจ้องขอคืน

การประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) สัปดาห์ที่ผ่านมา มีมติให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกระทรวงคมนาคม กลับไปศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางทั่วประเทศ และระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบ โดยเฉพาะการปรับปรุงแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าของสมัยอดีตรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความคุ้มทุนมากที่สุด

สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้สนข.จัดทำแผนแม่บทรถไฟฟ้าใหม่ เพราะรถไฟฟ้าอีก 3 เส้นทาง คือ สายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลืองไม่ได้อยู่ในแผนการพัฒนาระบบราง คือ มาแต่หัว แต่รายละเอียดต่าง ๆยังไม่มี โดยเฉพาะสายสีชมพูและสายสีส้ม ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต้องการให้โยกงบศึกษา 400 ล้านบาท ในส่วนของวงแหวนรัชดาที่อดีตรัฐบาลสมัครขีดเส้นไว้ มาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดในส่วนของสายสีชมพูกับสายสีส้มแทน เนื่องจาก รฟม.มองว่าไม่จำเป็นต้องสร้างให้เป็น Loop เพราะอาจจะไม่คุ้มทุน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาออกแบบรายละเอียด 6-7 เดือน และในปี 2553 น่าจะได้เงิน 3,700 ล้านบาทจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 มาก่อสร้างซึ่งจะเป็นการสร้างแบบโมโนเรล อย่างไรก็ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ ก่อนจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการต่อไป

สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชน อยู่ระหว่างการศึกษาจัดทำร่างแผนดังกล่าวโดยแบ่งเป็นแผนแม่บทระยะ 20 ปี (พ.ศ.2553-2575) แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี โดยอยู่ระหว่างการจัดสัมมนารับฟังความเห็นครั้งที่ 2 ในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อปรับปรุงการศึกษาให้มีความสมบูรณ์ โดยในการจัดทำแผนแม่บทครั้งนี้จะนำรถไฟฟ้าอีก 3 เส้นทาง คือ สายสีส้ม (บางบำรุง-ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี) สายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง) เข้ามาอยู่ในแผนด้วย ส่วนสายสีเทา (วัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม 4 -สะพานพระรามเก้า) อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ

ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-ท่าพระ ระยะทาง 27 กม. นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอเงินกู้ซึ่งกระทรวงการคลังที่กำลังพิจารณาแหล่ง เงินคาดว่าภายใน 1 เดือนจะสรุป

ชูเกียรติ โพธยานุวัตร ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีความพร้อมที่จะก่อสร้างแล้ว เนื่องจากมีการออกแบบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหาก ครม.อนุมัติ ก็สามารถดำเนินการได้ โดย รฟม.จะให้ที่ปรึกษาทำการทบทวนแบบ โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อปรับปรุงเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะแบ่งงานออกเป็น 5 สัญญา และหลังจากนั้นจะประกาศประกวดราคา ซึ่งจะใช้กรอบวงเงินตามที่สภาพัฒน์ฯ เห็นชอบ วงเงิน 50,000 ล้านบาท แบ่ง เป็นงานโยธา 48,821 ล้านบาท ค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา 2,174 ล้านบาท

สำหรับการเวนคืนในเส้นทางดังกล่าว รฟม.ได้ออกประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืนแล้ว โดยพื้นที่คาดว่าจะมีปัญหาเรื่องการเวนคืนมี 3 ส่วน คือ ทางด้านใต้ถนนอิสรภาพ, ย่านเยาวราช และพื้นที่สถานีที่อยู่ในเขตเกาะรัตนโกสินทร์ แม้ว่าจะผ่านความเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและคณะกรรมการเกาะรัตน โกสินทร์แล้วแต่ รฟม.ก็จะต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนและหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดย รฟม.จะไม่ก่อสร้างแบบเปิดหน้าดินในช่วงที่ผ่านพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ

“หากใช้เงินกู้ภายในประเทศ ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ จะรวดเร็วขึ้นประมาณ 6 เดือน แต่หากใช้เงินกู้ต่างประเทศจะต้องมีการรายงานผลการดำเนินโครงการในทุกขั้น ตอนให้เจ้าของเงินกู้ทราบ”

ส่วนสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กม. นั้น อยู่ระหว่างการหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้ข้อสรุป โดยเบื้องต้น รฟม.จะลงทุนในส่วนของงานโยธา ส่วน กทม.จะเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ

ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในส่วนของสายสีเขียว ผู้ว่าฯ มองว่าเส้นทางดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของกทม. น่าจะให้ กทม.เป็นผู้ก่อสร้างเอง เพราะอย่างน้อยก็จะเป็นการเชื่อมกับสายสีเขียวเส้นทางปัจจุบันอยู่แล้ว

เร่งสนข.ศึกษาเส้นทางเชื่อมจีน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้ สนข.ไปศึกษาถึงความเหมาะสมและคุ้มทุน หากจะก่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อจาก อ.เด่นชัยไป อ.เชียงของ เพื่อเชื่อมกับเส้นทางขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้การขนส่งสินค้ามีความสะดวกมากขึ้น เพราะจีนได้เปลี่ยนแผนการก่อสร้างรถไฟ จากเดิมที่จะสร้างผ่านพม่าเข้าเชียงของ มาสร้างผ่านเวียดนาม กัมพูชา ซึ่งอาจทำให้ไทยต้องพัฒนาระบบรางฝั่งอรัญประเทศ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น รวมถึงศึกษาการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลัก 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา พิษณุโลก ชลบุรี และเพชรบุรีนั้น ดังนั้นนายกรัฐมนตรีให้ สนข.ไปศึกษาว่าระหว่างเส้นทางผ่านลาว พม่าแล้วเข้ามายังไทยกับเส้นทางผ่านเขมร เส้นทางใดคุ้นทุนมากกว่า และสินค้าที่จะผ่านเขมรนั้นเป็นสินค้าอะไรบ้าง เป็นต้น ทั้งนี้ เหตุผลที่จีนไม่ต้องการผ่านลาว เนื่องจากว่าจีนต้องลงทุนเส้นทางให้กับลาวและอาจมีปัญหาเรื่องเงินลงทุนได้

นอกจากนี้ยังได้เร่งรัดให้ก่อสร้างรถไฟรางคู่พร้อมระบบอาณัติสัญญาณ ในเส้นทางขอนแก่น-นครราชสีมา-แก่งคอย และนครสวรรค์-ลพบุรี รวมถึงเส้นทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงย่านเก็บกองตู้สินค้าให้เกิดประสิทธิภาพในการเดินรถและคมนาคมขนส่งสูง สุด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 11/07/2009 10:49 pm    Post subject: Reply with quote

อภิสิทธิ์เร่งพัฒนารถไฟและรถไฟฟ้า

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 09 กรกฎาคม 2552 เวลา 7:45 น


รายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้พูดถึงการพัฒนาระบบรถไฟและรถไฟฟ้าไว้ชัด ๆ หลายเรื่อง ผมคัดลอกจากเว็บของสำนักเลขาธิการนายกฯ ตัดต่อนิดหน่อยให้เหมาะกับเนื้อที่

เรื่องของโลจิสติกส์ก็หยิบยกขึ้นมา พิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนในระบบราง ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วผมได้มาพูดคุยหลังจากที่ไปเยือนประเทศจีน และได้ชักชวนให้จีนเข้ามามีส่วนร่วม มีการพิจารณาอย่างกว้างขวางใน ครม.เศรษฐกิจ มีแนวทางชัดเจนว่า ในช่วงของปฏิบัติการไทยเข้มแข็งนั้นจะดำเนินการหลายเรื่อง เรื่องแรกคือปรับปรุงรางรถไฟทั่วประเทศ ซึ่งทรุดโทรมเสื่อมโทรมมาก ก็จะใช้เงินจากโครงการไทยเข้มแข็งนี้ฟื้นฟูและปรับปรุงรางตรงนี้ให้ใช้งาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประการที่ 2 ในเส้นทางหลัก ๆ จะเดินหน้าต่อในโครงการของรถไฟรางคู่ ซึ่งจะทำให้การเดินรถไฟสามารถที่จะเพิ่มความรวดเร็ว เพิ่มเที่ยวที่จะบริการประชาชนทั้งการเดินทาง ทั้งการขนส่งสินค้า ได้พร้อม ๆ กัน

ประการที่ 3 จะพิจารณาบางเส้นทางรอบ ๆ กรุงเทพฯ ว่าเหมาะสมที่จะทำเป็นรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ และประการที่ 4 การเชื่อมโยงกับเครือข่ายของอาเซียน จนถึงตอนใต้ของจีน ลงไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ กำลังดูว่า เส้นทางไหนเหมาะสมที่สุด สัปดาห์หน้าผมจะเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม เพื่อที่จะเชื่อมโยงกับเวียดนามด้วย จะได้วางแผนในการกำหนดเครือข่ายที่จะทำให้ไม่เพียงแต่คนไทยใช้รถไฟ หรือเดินทางด้วยระบบรางได้รวดเร็วสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ว่าสามารถที่จะเปิดพื้นที่ อย่างภาคอีสาน ก็สามารถที่จะออกทะเลผ่านทางท่าเรือ อาจจะเป็นทางเวียดนามหรือทางอื่น ๆ ได้ ตามแนวตะวันตก ตะวันออกที่จะพัฒนา

ส่วนในกรุงเทพฯ ภายในเดือนสิงหาคมนี้จะปรับปรุงแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน ก็มีประเด็นสำคัญที่อยากจะเรียนคือ เส้นทางต่อขยายรถไฟฟ้าที่มีอยู่ และกำลังจะต่อไปทางทิศเหนือ จากสะพานใหม่ขึ้นไปจนถึงปทุมธานี หรือทางทิศตะวันออกที่ออกไปทางสมุทรปราการ จะดูว่าทำอย่างไรกรุงเทพมหานคร กระทรวงที่เกี่ยวข้องรวมถึงองค์กรท้องถิ่นในจังหวัด ในปริมณฑลสามารถมาทำงานร่วมกัน และระบบที่ต่อขยายไปไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้โดยสาร ในแง่ของระบบตั๋วหรือระบบการเชื่อมโยง

มี 2 เส้นทางซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องมาศึกษาเพิ่มเติม คือการต่อออกจากบางกะปิ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงเข้ามาใจกลางเมืองอยู่แล้วไปถึงมีนบุรี อีกเส้นทางคือเชื่อมจากมีนบุรีไปตามแนวรามอินทราจนถึงศูนย์ราชการ

ก็จะศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม ในการที่จะเพิ่มเติมเส้นทางนี้เข้าไปในแผนแม่บทของระบบรางของขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2009 7:51 am    Post subject: BMA vs. OTP Reply with quote

กทม.ฉุน สนข.ศึกษาบีอาร์ทีหมอชิต-ศูนย์ราชการ
แถมเขี่ยรถไฟฟ้าพรานนก-ระบุไม่สมควรอย่างยิ่ง
เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 17 กรกฎาคม 2552 เวลา 7:44 น


เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เร่งศึกษาทำแผนแม่บทโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษชิดเกาะกลางหรือบีอาร์ทีเพื่อเสนอ ครม. 8 สาย และมีเส้นทางซ้ำซ้อนกับ กทม. เช่น สายศูนย์แจ้งวัฒนะ-หมอชิตว่า ผู้บริหารกทม.มีแผนจะเร่งรัดโครงการบีอาร์ทีในสายแรกจากช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ที่วางเป้าหมายจะเปิดให้บริการในวันที่ 15 พ.ค. 2553 และ
สายที่ 2 จากหมอชิต-ศูนย์ราชการ ที่ศึกษาเสร็จแล้วเหลือแค่ปรับแนวขยายไปยังเมืองทอง ธานีเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดไม่สมควรอย่างยิ่งที่ สนข.จะมาศึกษาเส้นทางให้ซ้ำซ้อนกัน เพราะรู้อยู่แล้วว่า กทม.ดำเนินโครงการอยู่ รวมทั้งได้รับอนุมัติงบก่อสร้างจากสภา กทม.แล้ว และ กทม.จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ได้นำเสนอกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอครม.ขออนุมัติใบอนุญาตประกอบการเดินรถและขออนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางขอใบอนุญาตเส้นทางไปแล้ว ตนจึงไม่เข้าใจเจตนาของ สนข.ในเรื่องนี้ และหากไม่ได้รับการอนุมัติหรือมีการโอนโครงการให้หน่วยงานอื่น กทม.ก็คงต้องฟ้องประชาชน ให้เป็นผู้ตัดสิน

นายธีระชน กล่าวต่อว่า นอกจากโครงการบีอาร์ทีแล้ว ล่าสุดทราบว่า สนข.ก็จะยกเลิกโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายพรานนก-สนามกีฬาที่ กทม.ศึกษารายละเอียดและจัดทำประชาพิจารณ์เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างเสนอผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและหารือกับคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อเร่งรัดการก่อสร้าง แต่ สนข.ก็ไปปรับเส้นทางขีดแนวใหม่เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีชมพูจากบางกะปิไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าแอร์ พอร์ตลิงก์ที่สถานีพญาไทและวางเส้นทางใหม่ทับเส้นทางรถไฟฟ้าเดิมของ กทม.ไปที่พรานนก นอกจากเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในการศึกษาแล้ว ยังไม่มีเหตุผลที่จะมาซ้อนทับและไม่เคยหารือ กทม.เลย ตนไม่เข้าใจว่า สนข. ว่ากำลังทำอะไรกันแน่

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ทั้งรถไฟฟ้าและรถบีอาร์ทีที่จะก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ของ กทม. หากกระทรวงคมนาคมจะสร้างเองโดยให้ รฟม.สร้างรถไฟฟ้าหรือให้ ขสมก.สร้างรถบีอาร์ทีแทน กทม. ตนยืนยันว่าเวลาจะก่อสร้างต้องมาขออนุญาตใช้พื้นที่จากกทม.ก่อน และไม่เข้าใจว่าทำไม สนข.ถึงต้องศึกษาให้ซ้ำซ้อนกัน.
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 17/07/2009 8:37 am    Post subject: Reply with quote

กทม.เพิ่งทราบหรือครับว่า สนข.หางานทำซ้ำซ้อนไว้เลี้ยงตัวเองหนะ ?
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45538
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2009 10:26 pm    Post subject: Reply with quote

^^^^
เปิดศึกกับเขาไปทั่วคนถึงได้เกลียด สนข. นั่นประไร
//--------------------------------------------------------


ฟังความคิดเห็นครั้งที่2 แม่บทรถไฟฟ้า12สาย

เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 17 กรกฎาคม 2552 เวลา 7:54 น

รายงาน ข่าวจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า ในวันที่ 20 ก.ค. นี้ สนข. เตรียมเปิดเวทีสาธารณะ รับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ห้องอมารี วอเตอร์เกท บีซี ชั้น 6 โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท พร้อมเปิดให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาร่วมทำ เอ็กซิทโพล โดยในการสัมมนาจะนำเสนอรายละเอียดและข้อมูลของผลการศึกษาขั้นสุดท้าย การสรุปผลแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนสายหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล การดำเนินงานในขั้นต่อไป สำหรับผลการสัมมนาในครั้งแรกได้สรุปเพิ่มเส้นทางรถไฟฟ้าจาก 10 สาย เป็น 12 สาย โดยเพิ่มสายสีขาว ช่วงมักกะสัน-ดินแดง บางบำหรุ-ดินแดง ระยะทาง 11 กิโลเมตร และสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว ลาดพร้าว-พระราม 4 พระราม 4-สะพานพระราม 9 ระยะทาง 26 กิโลเมตร

นอกจากนี้ในการสัมมนาจะมีการสรุปข้อเสนอเกี่ยวกับการปรับแนวสายทางส่วนต่อ ขยายสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬา-พรานนก ที่อาจมีการปรับแนวเส้นทางใหม่ เริ่มจากมักกะสันเชื่อมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ผ่านราชปรารภ เชื่อมบีทีเอสที่สถานีราชเทวี แล้วเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านยมราช ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยงานราชการจำนวนมาก เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานข้าราชการพลเรือนหรือ ก.พ. เข้าถนนราชดำเนิน ผ่านโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งจะเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านการแพทย์ของเอเชีย ไปสิ้นสุด ที่สถานีปลายทางพรานนก เป็นโครงสร้างใต้ดินระยะทาง 12 กิโลเมตร.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 299, 300, 301  Next
Page 14 of 301

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©