ทางแก้รถจักรขาดแคลน - ยุบขบวนรถ

Wisarut · Posted: 27/07/2009 11:43 am Post subject:

คุณบอย คุณโดนัท,

กรณีสัมภาระหนะ เคยเห็นกรณี ขนข้าวสารกระสอบละ 100 กิโลกรัมขึ้น บชส. เป็นสิบ เป็นร้อยกระสอบให้เห็นเป็นประจำและก็ไม่ยอมให้คิดค่าระวางเพิ่มเป็นอันขาดเทียวครับ - เจอเช่นนี้จะคิดเบี้ปรับอย่างไรดี Rolling Eyes

kantapon33 · 3rd Class Pass Joined: 30/09/2007 Posts: 21 Location: -

งานนี้หากจะแก้โดยการยุบเลิกขบวนรถก็จะเป็นปัญหาในทางสังคม รฟท. โดยผู้บริหาร และ สหภาพแรงงานฯ ควรจับมือกันเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางแก้ไข จัดหางบประมาณมาจัดหารถจักร รถดีเซลราง และ รถโดยสาร รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพราง จะโดยวิธีจัดหางบประมาณ หรือ วิธีอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพของการเดินรถให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ลดต้นทุนเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพง เพราะรถไฟเป็นการเดินทางและขนส่งที่ถูกที่สุด ช่วยกันผลักดันดีกว่ามานั่งทะเลาะกัน เพื่อให้รฟท.จะได้เป็นที่นิยมเหมือนในอดีต

จะทำได้หรือไม่ผมยังไม่ทราบ แต่น่าจะช่วยกันดีกว่าแก้ที่ปลายเหตุเช่นทุกวันนี้

donatt76

donatt76 · Posted: 27/07/2009 12:22 pm Post subject:

เฮียวิศครับ...
ผมเจอกะตัวเอง บน 145 เลยล่ะครับ 2 คนสามีภรรยา หอบ ทีวี 1 เครื่อง กระเป๋าเสื้อผ้า 4 ใบ กระสอบ 2 ใบ รถเข็นเด็กเล่น 1 คัน พัดลม 2 เครื่อง และลังอีก 2 ลังซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร...ขึ้นขบวนรถ...แล้วของทุกอย่างก็กองอยู่ตรงเก้าอี้นั่ง...เสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้โดยสารอีก 2 ท่าน....อันนี้มันน่าเก็บค่าโดยสารอีก 2 ที่จริงๆ
ไอ้เห็นใจก็เห็นใจนะครับ เพราะถ้าเค้ามีทางเลือกอื่น มีสตางค์ คงไม่ต้องมาเบียดเป็นลิงอยู่บนรถไฟฟรีเพื่อประชาชนอย่างงี้...แต่อีกใจนึงคือ ทำไมเค้าไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นบ้าง...วางของเต็มเก้าอี้ ขณะที่คนอื่นต้องยืน แม้กระทั่งที่ประตู และขอพ่วง...เท่านั้นไม่พอ คุณภรรยาหนาวมั้ง...ปิดทั้งกระจก ปิดทั้งพัดลม....คนอื่นจะเป็นลมตาย

ส่วน พรร กับ พหล. พี่ๆเค้าก็แทรกตัวมาเก็บค่าระวางได้อย่างยากเย็น (แถมเก็บเงินอย่างยากเย็นอีกต่างหาก)

ออกทะเลแล้วครับเฮีย...กระทู้นี้มันว่าด้วยเรื่องตัด ยุบขบวนนี่นา...ไม่เกี่ยวกะค่าระวางเน้อ
_________________
Click on the image for full size

BanPong1 · Posted: 27/07/2009 1:33 pm Post subject:

^^^
น่าเห็นใจด้วยกันทั้งนั้นครับคุณ Donatt
ผมเคยนั่งรถไฟกลับบ้านที่ปทุมฯหลังจากทำงานเลิกตอนค่ำๆ
คิดว่าอยากประหยัดค่าน้ำมัน โดยการขึ้นรถเมล์ฟรี ต่อรถใต้ดินมาที่บางซื่อ ขึ้นรถไฟขบวนอะไรก็ได้มาลงรังสิต แล้วก็ต่อแท๊กซี่เข้าบ้าน รวม 4 ต่อ
ด้วยการที่ไม่เคยนั่งรถไฟชานเมืองมานาน ใช้บริการรถสายเหนือหรืออีสานจำเลขขบวนไม่ได้
ภาพที่เห็นไม่ค่างจากที่คุณ Donatt เล่ามา นี่คือวันธรรมดานะครับ
สงสารเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของแม่สลับกับพ่อที่ต้องป้อนนมลูก ในสภาพที่แออัดไปด้วยคนและสิ่งของ แถมอากาศก็ร้อนอีกต่างหาก
ถ้าไม่ใช้การเดินทางด้วยรถนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเขาต้องขนทั้งเมียและลูกและของด้วยวิธีการอย่างไร เพราะเงินทองก็มีไม่มาก Sad

เรื่องนี้มันต้องแก้ไขที่ระดับประเทศ
นโยบายสังคมและเศรษฐกิจ เรายังไม่สามารถกระจายความเจริญไปภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงจริง
migration และ การหาที่ทำกินนอกถิ่น ยังปรากฏอยู่ทั่วไป
นี่ยังไม่นับรวมแรงงานจากประเทศข้างเคียงมาใช้บริการด้วยหรือเปล่า
หวังว่าระดับรัฐมนตรี หรือ ผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องน่าจะมาลองนั่งรถไฟแบบนี้ดูบ้าง
แบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่เพื่อการประชาสัมพันธ์ สร้างภาพให้ตนเองหรือพรรคการเมือง
เราอาจจะได้หัวรถจักรใหม่ๆ รถโดยสารใหม่ๆ รถเพื่อมวลชนที่ดีกว่านี้ เพื่อแก้ไขสภาพที่เป็นอยู่ ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาพื้นฐานเลย
จริงๆน่าจะมีกระทรวงรถไฟได้แล้ว
_________________
Click on the image for full size

donatt76 · Posted: 27/07/2009 2:23 pm Post subject:

ระดับรัฐมนตรี นายกฯ หรือแม้จะจะแค่ระดับผู้ว่าฯ มานั่งเอง ก็ไม่ได้ผลหรอกครับ ถ้ามาอย่างเป็นทางการ เพราะผู้น้อยจะต้องเตรียมการอำนวยความสะดวกไว้ให้อยู่แล้ว...ฉะนั้นสิ่งที่เค้าเห็นจะไม่ใช่ภาพจริงที่เกิดขึ้น แต่เป็นภาพสร้างจากสิ่งที่เค้าอยากเห็น....

ถ้าจะรู้จะมีใครมั้ยครับ...ที่ปลอมตัว มานั่งแบบประชาชนทั่วไป...ไม่ให้รู้ว่า ตานี่คือนายก ตานี้คือรัฐมนตรี...ถ้าอย่างงั้นล่ะก็เห็นภาพแน่ๆ...
_________________
Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 27/07/2009 4:28 pm Post subject:

Air_Reservoir · Posted: 27/07/2009 4:47 pm Post subject:

ที่พี่บอมบ์ว่ามาก็ใกล้เคียงจะเป็น KTM แล้วล่ะครับนั่น Laughing

ขอพูดถึงสายเหนือต่ออีกหน่อย ข.109/102 ดูจะมีปัญหาค่อนข้างมากในปัจจุบันโดยเฉพาะในเรื่องที่รถถึงปลายทางช้ากว่าเวลาจริงค่อนข้างมาก วิธีแก้ของผมนะ จะให้ ข.102 ไปออกเวลา ข.52 ในปัจจุบัน แน่นอนว่าเอารถนอน บนท. กลับไปด้วย แล้วย้าย ข.52 ไปออกในเวลา ข.110 เดิม ถามว่าทำไมย้าย ข.102 และ ข.52 เพราะว่า 102 จะได้มีเวลาพักรถและตรวจเช็คสภาพรถจักรนานขึ้น แก้ปัญหาที่ ข.109 มาถึงปลายทางช้าแล้ว 102 ออกช้ากว่าเวลาจริงได้ ส่วนทำไม ข.52 ต้องมาออกค่ำๆเพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเที่ยวจนถึงเย็น โดยที่ไม่ต้องมารีบร้อนขึ้น ข.14 หรือข.2 ตั้งแต่ 4 - 5 โมงเย็น

ส่วน ข.105/106 ข.107/112 ข.111/108 ข.115/202 และ ข.201/116 ดูแล้วจะมีปัญหาค่อนข้างเยอะเท่าที่เราใช้ความคิดกันมา ในความคิดผมนะ ให้ยุบ ข.115/116 ทิ้ง แต่ให้คง 201/202 ไว้โดยรถจักรที่ไปถึงที่ พล. ให้หมุนทำขบวนกับรถจักรที่ทำรถน้ำมันบึงพระมา ซึ่งคิดว่าถ้าจัดการดีๆ คงไม่น่าจะมีปัญหา ส่วน ข.107 ให้ออกเวลาของ ข.105 ก็คือ 19.50 น.และเอา ข.105 ไปออกเวลา ข.115 ซึ่งก็คือเวลา 20.55 น.เพื่อทดแทนกัน แก้ปัญหาที่ว่า ข.105 แย่งผู้โดยสาร ข.107 ก็ให้ ข.107 ออกก่อนไปเลย แล้ว ข.105 เก็บตกในส่วนของ ข.115 แทน ส่วนจะให้ ข.107/112 ข.111/108 ขยายไปถึงบ้านปินไหมคงไม่จำเป็น เพราะการหมุนรถจะทำได้ยากขึ้นถ้ารถช้ามา

----------------------------------------------------------------

อีกกรณีนึงที่ดูเหมือนหลายๆ คนจะให้ความสนใจคือการตัดระยะของ ข.51/52 ซึ่งบางเสียงบอกแค่เด่นชัย บางเสียงบอกลำปาง หรือบางคนอาจจะให้วิ่งยาวถึงเชียงใหม่ไปเลย ซึ่งตรงนี้ถ้ามองในความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ผมยังมองว่าต้องไปให้ถึงสุดจนถึงเชียงใหม่ เพราะ ข.51/52 ยังมีเรื่องของการโดยสารข้ามจังหวัดระหว่าง ลำปาง - ลำพูน - เชียงใหม่โดยที่คิดอัตราพิเศษอยู่เป็นทางเลือกนอกเหนือไปจาก ข.407/408 (สายเหนือตอนบนมีแต่ ข.407/408 วิ่งเท่านั้น อย่างน้อยก็เอา ข.51/52 ระบายคนบ้าง ยิ่งตอนนี้ ข.407/408 เป็นรถฟรี บางวันก็แน่นจนไม่รู้จะว่าอย่างไร) และเราต้องไม่ลืมผู้ดดยสารชาวต่างชาติด้วยนะครับ คนเหล่านี้จะมองการเดินทางด้วยรถไฟมาเป็นอันดับแรกๆ (อย่าหาว่าผมเอาใจคนต่างชาติเลยนะครับ อย่างน้อยพวกเขาก็มีกำลังซื้อในระดับที่พร้อมจะจ่ายให้เราได้ ไม่งั้นเค้าคงไม่เลือกมาเที่ยวเมืองไทยแน่ๆ) ซึ่งเหตผลก็เหมือนกับ ข.52 ที่ผมอยากให้มาออกตอนค่ำๆ ล่ะครับ

ทั้งหมดเป็นแค่แนวคิดที่ลองเสนอในมุมมองของผมเท่านั้นนะครับ Wink

_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
Click on the image for full size

donatt76 · Posted: 27/07/2009 5:34 pm Post subject:

ลืมไปเลย...ขอบคุณเฮียวิศ ที่ช่วยให้ผมได้ขุดเอาความรู้วิชา Transportation Management ที่ได้ไปร่ำเรียนมา ออกมาใช้ครับ...

แม้ว่าไอ้วิชาที่รำเรียนมา มันจะใช้กับ การรถไฟแห่งประเทศไทยแทบไม่ได้ เพราะ ติดอยู่ที่ว่า "บริการสาธารณะ" แต่ไอ้วิชานี้ มันสอนให้ "หากำไร เป็นตัวตั้ง"...แต่ยังมีคนทะลึ่งเอาแนวคิดเดียวกับงานวิจัยของกลุ่มผมซึ่งเป็น Term Paper แบบเพ้อฝัน เพื่อเอาคะแนน ไปเสนอกับ สนข.

ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง...ผมว่า การถก กันแบบนี้น่าสนุกดีออกนะครับ...เอาเหตุและผลมาว่ากัน ต่างคนต่างมุมมอง ก็ว่ากันไป.....แต่ทุกคนก็มองไปแง่เดียวกัน คือ เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิด....

พี่บอมม์ครับ...ตอนเนี้ย ไม่ใช่มี 100 ใช้ 100 แล้วล่ะครับ....มันมี 60 แต่ต้องใช้ 100 เลยทีเดียว....ซึ่งทำให้โจทย์ มันยากกว่าเดิม ซะอีกนะครับ.....

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
คืนนี้....พบกับ ผ่าแผนสายใต้ กันนะครับ....(หรือ พอเราเปลี่ยนสาย...สายเดิมก็ยังถกได้นะครับ)

เอ....ถ้าผมทะลึ่งบ้อง บอกว่า ขอ ATR คืนจากมหาชับ...ช.โกวิท จะเคืองผมไม่เนี่ย???
_________________
Click on the image for full size

pattharachai · Posted: 27/07/2009 5:40 pm Post subject:

กระทู้นี้นับว่าเป็นกระทู้ให้พวกเราได้แสดงเหตุผลและความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ ส่วนจะทำได้จริงหรือไม่จริงอย่างไร ก็คงจะพ้นและนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของเรา

จากการถกเถียงในประเด็นเหล่านี้ ทำให้ได้พบว่า ในการพิจารณา เพิ่ม ลด ยุบ ย้าย ขบวนรถใดสักขบวน ต้องพิจารณาในหลายๆส่วน ทั้งใงแง่ของรถจักร รถพ่วง ปริมาณการโดยสาร เป็นต้น ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้ก็ควรจะถูกนำไปพิจารณาในการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยอาจต้องชั่งน้ำหนักว่า ปัจจัยไหนสำคัญกว่า และทำแบบไหนจึงจะเหมาะสมและคุ้มค่ากว่าในทางเลือกต่างๆที่มีอยู่และข้อจำกัดที่มี รวมไปถึงก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาว่า ประโยชน์สาธารณะ(บริหารรัฐกิจ) กับประโยชน์และผลกำไรสูงสุดขององค์กร(บริหารธุรกิจ) จะไปด้วยกันได้ไหม เราจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเปล่า หรือสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน

มาถกเถียง อภิปรายกันต่อดีกว่าครับทุกท่าน